[รีวิว] ซีรีส์เกาหลี สควิดเกม เล่นลุ้นตาย Squid Game

สวัสดีค่ะทุกคนพบกันอีกแล้วกับช่วงแนะนำและรีวิวซีรีส์เกาหลี วันนี้เราจะรีวิวซีรีส์เรื่อง “สควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game)” ถือว่าเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมมาก เข้าฉายเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ติด 1 ใน 10 ซีรีส์ยอดนิยมใน Netflix แล้วค่ะ ถือว่าโด่งดังไปทั่วโลกเลยทีเดียว โดยซีรีส์เรื่องนี้ใช้เงินในการลงทุนแค่ 21.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 716 ล้านบาท) แต่กลับได้กำไรมากถึง 40 เท่า คิดเป็นเงินไทยก็คือได้กำไรไปถึง 891.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท)

แน่นอนว่าความสำเร็จนี้ต้องยกให้ผู้กำกับและผู้เขียนบท “ฮวังดงฮยอก” เลยค่ะ แต่กว่าที่ผลงานเรื่องนี้จะประสบความสำเร็จมาจนวันนี้ก็ถือว่าหนักหนาพอสมควรเพราะผู้กำกับฮวังดงฮยอกได้เสนอซีรีส์เรื่องนี้ให้กับนักลงทุนจำนวนมากแต่โดนปฏิเสธมาตลอด จนสุดท้ายซีรีส์เรื่องนี้ก็ดังพลุแตกและได้รับกระแสที่ดีเยี่ยมมาก ๆ

Squid Game เป็นซีรีส์ Original ของ Netflix เรื่องราวของซีรีส์เกี่ยวกับเกมเอาชีวิตรอดลึกลับ ที่มาพร้อมของรางวัล 45.6 พันล้านวอน โดยมีผู้เข้าร่วมเล่นเกมนี้ทั้งหมด 456 คน ซึ่งแต่ละคนก็มีปัญหาเป็นของตัวเอง แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนก็คือ “ปัญหาเรื่องเงิน”

ซึ่งนับตั้งแต่เปิดตัวในวันที่ 17 กันยายน “Squid Game” ก็ได้กลายเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงบราซิล ฝรั่งเศส อินเดีย ตุรกี อังกฤษหรืออเมริกา รวมถึงซีรีส์เรื่องนี้ก็ได้ติดอันดับ “Top 10 อันดับแรกของวันนี้” ใน Netflix มาเป็นเดือน ๆ แล้วค่ะ สำหรับใครที่ยังไม่ได้ชมซีรีส์เรื่องนี้ถือว่าพลาดมากและเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจ วันนี้เราจะขอรีวิวซีรีส์เรื่องนี้ว่าทำไมคุณถึงต้องดู

เรื่องย่อ สควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game)

สควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game) เป็นซีรีส์แนวเอาตัวรอดที่บอกเล่าเรื่องราวของซองกีฮุน (อีจองแจ) ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยทั้ง ๆ ที่เป็นพ่อคนแล้ว เขาต้องเผชิญกับความล้มเหลวมากมายในชีวิต ทั้งการหย่าร้างกับภรรยา เป็นหนี้นอกระบบและติดการพนัน ด้วยเหตุนี้ชีวิตของเขาจึงต้องดิ้นรนทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองมีเงินเพื่อมาใช้หนี้แต่การดิ้นรนของเขาคือการนำเงินที่เขามีไปเล่นการพนัน ถึงแม้วันนั้นเขาจะดวงดีได้เงินเป็นจำนวนมากและเพียงต่อการพาลูกสาวของเขาไปจัดงานวันเกิดแต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เขาโดนเจ้าหนี้ตามไล่ล่า อีกทั้งยังชนกับหญิงสาวปริศนาที่ล้วงเอาเงินจากกระเป๋าเขาไป ทำให้เขาไม่มีเงินติดตัวเลยแม้แต่น้อย หลังจากหลบหนีจากเจ้าหนี้ซองกีฮุนก็ต้องพบกับทางตันและเพื่อรักษาชีวิตเขาเลยยอมเซ็นชื่อบริจาคอวัยวะให้กับเจ้าหนี้ของเขา

ในตอนนี้ซองกีฮุนสูญสิ้นทุกอย่างไม่มีงานทำและไม่มีแม้แต่เงินที่จะซื้อของขวัญวันเกิดที่ดีให้กับลูกสาวตัวน้อยของเขา หลังจากเขาได้ไปหาลูกสาวในวันเกิดเสร็จแล้ว ซองกีฮุนก็นั่งทบทวนตัวเองอยู่ที่สถานีรถไฟเพื่อรอรถไฟกลับบ้าน ในขณะที่เขากำลังนั่งอยู่ซองกีฮุนก็ได้พบกับชายลึกลับ (กงยู) ด้วยความบังเอิญ (แต่ตั้งใจ) ชายลึกลับได้ชวนเขาเล่นเกมโดยบอกว่าหากชนะเขาจะได้รับเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งในการเล่นคราวนั้นก็ทำให้ซองกีฮุนชนะ แต่ชายลึกลับก็ยื่นข้อเสนอหนึ่งให้เขา ชายลึกลับได้มอบการ์ดที่มีวงกลม สามเหลี่ยมและสี่เหลี่ยมให้เขา ชายคนนั้นบอกเขาว่าหากต้องการเล่นเกมเพื่อชิงเงินรางวัลอีกให้โทรไปที่หมายเลขด้านหลังบัตร ตอนแรกซองกีฮุนไม่ได้สนใจมากนักแต่เขารู้สึกสิ้นหวังและได้รู้ว่าลูกสาวตัวเองจะย้ายไปอยู่ที่อเมริกากับภรรยาเก่าและสามีคนใหม่ เขาเลยกลัวที่จะสูญเสียลูกสาวไปเขาจึงยอมโทรไปที่เบอร์นั้นเพื่อเล่นเกม หลังจากนั้นไม่นานก็มีรถตู้ปริศนาขับมารับเขา เมื่อเขาขึ้นรถเขาก็หมดสติไปในทันทีเพราะโดนพ่นยาสลบ

เมื่อซองกีฮุนตื่นขึ้นมาเขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายหลายร้อยคน ทุกคนล้วนสวมใส่ชุดวอร์มสีเขียวที่หน้าอกด้านซ้ายของแต่ละคนก็มีหมายเลข ซองกีฮุนคือผู้เล่นเกมหมายเลข 456 ซึ่งเป็นคนสุดท้ายของผู้เข้าร่วมการแข่งขัน ในการเล่นเกมแต่ละเกมก็เป็นเกมการละเล่นพื้นบ้านที่พวกเขาเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าหากคุณพลาดจุดจบของคุณก็คือ “ความตาย” เท่านั้น คนที่ชนะเกมนี้จะมีแค่คนเดียวส่วนเงินรางวัลที่ได้ก็คือ 45.6 พันล้านวอน (1.27 พันล้านบาท) ตามจำนวนของผู้เล่น 456 คน ในการเล่นแต่ละเกมทุกคนต้องพบเจอกับมิตรภาพ ความเจ็บปวดและการสูญเสีย แต่การเดิมพันในครั้งนี้จะคุ้มค่าหรือไม่ต้องไปติดตามกันในสควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game)

ข้อมูลทั่วไปของซีรีส์ Squid Game : สควิดเกม เล่นลุ้นตาย

เหตุผลที่ต้องดู สควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game) ?

คำเตือน : มีสปอยล์

คำเตือน : ซีรีส์เรื่องนี้มีภาพความรุนแรง ควรทำใจก่อนการรับชม ไม่ควรให้เด็กดู

1. แนะนำและทำความรู้จักกับตัวละคร

ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ Original ของ Netflix ดังนั้นตัวละครหลักจึงมีไม่เยอะมากแต่ตัวละครแต่ละตัวก็มีความสำคัญที่แตกต่างกันออกไปค่ะ ดังนั้นวันนี้เราก็เลยอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับตัวละครแต่ละตัวค่ะ ซึ่งเราจะนำเสนอคาแร็กเตอร์ของตัวละครที่สำคัญทั้งหมด 8 ตัวละครเพื่อให้คุณได้รู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของตัวละคร

ซองกีฮุน (อีจองแจ)

ซองกีฮุนเป็นผู้เล่นเกมหมายเลข 456 และเป็นตัวเอกของซีรีส์เรื่องนี้ แต่เขาเป็นตัวละครที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนตัวเอกทั่วไป ซองกีฮุนเคยทำงานเป็นคนขับรถแต่เขาก็ติดการพนันทำให้มีหนี้สินมากมาย การมีหนี้สินของเขาทำให้เขาสูญสิ้นทุกอย่างทั้งหย่ากับภรรยา ไม่ได้ดูแลลูกสาวรวมไปถึงเขาไม่สามารถที่จะดูแลแม่ของเขาให้มีชีวิตที่ดีได้ สิ่งต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามาทำให้เขาได้เข้าร่วมเล่นเกม

โจซังอู (พัคแฮซู)

โจซังอูเป็นผู้เล่นหมายเลข 218 เขาเป็นคนที่หัวดีและฉลาดมาตั้งแต่เกิด อีกทั้งยังเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัวเพราะได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยโซลซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่คนฉลาดเท่านั้นถึงจะเข้าเรียนได้ โจซังอูเป็นคนที่มีหน้ามีตาในสังคมเพราะเขาทำงานเป็นหัวหน้าทีมการลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง แต่ตอนนี้ชีวิตของเขากำลังจะตกต่ำเพราะเขามีหนี้สินเป็นพันล้านวาน อีกทั้งยังมีหมายจับในคดีฉ้อโกงอีกด้วย โจซังอูสนิทกับซองกีฮุนมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ดูเหมือนว่าซองกีฮุนจะรู้จักโจซังอูแค่เพียงเปลือกนอกเท่านั้น ตัวละครนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมค่ะ

คังแซบยอก (จองโฮยอน)

คังแซบยอกเป็นผู้เล่นหมายเลข 067 คังแซบยอกเป็นชาวเกาหลีเหนือที่แปรพักตร์มาเป็นชาวเกาหลีใต้ เธอเป็นหนึ่งในตัวละครที่น่าสงสารมากเพราะต้องดูแลแม่และน้องชายที่แปรพักตร์มาจากเกาหลีเหนือเช่นกัน แน่นอนว่าการเป็นคนเกาหลีเหนือมาอยู่เกาหลีใต้ไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่ายเลยเธอต้องดิ้นรนและทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวสบาย อีกทั้งตัวเธอยังต้องหาเงินจำนวนมากเพื่อช่วยให้คนในครอบครัวที่เหลือของเธอให้ย้ายมาอยู่ที่เกาหลีใต้ให้ได้ ขอบอกเลยว่าบทสนทนาของเธอกับจองกีฮุนถือเป็นฉากสะเทือนใจที่แฟน ๆ จะไม่มีวันลืมเลยค่ะ

อับดุล อาลี (อนุพัม ตรีพาติ)

อาลีเป็นผู้เล่นหมายเลข 199 ตัวละครอาลีเป็นตัวละครที่ผู้ชมชอบมากที่สุดเลยค่ะ อาลีเป็นแรงงานต่างด้าวของเกาหลีเขามาจากปากีสถานแต่โดนนายจ้างโกงเงินค่าแรงทำให้เขาต้องเข้าไปเล่นเกมเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว อาลีเป็นคนที่ใสซื่อมากเกินไปเขายินดีจะช่วยเหลือทุกคนเพราะเขาไม่ต้องการให้ใครต้องประสบกับความทุกข์ยากเหมือนเช่นเขา ผู้เขียนมองว่าตัวละครนี้ไร้เดียงสาเกินไปแต่ก็สะท้อนชีวิตของคนในสังคมได้ดีมาก

โออิลนัม (โอยองซู)

โออิลนัมเป็นผู้เล่นหมายเลข 001 โออิลนัมเป็นผู้เล่นคนแรกของ Squid Game ภายนอกแล้วเขาเป็นชายชราที่อ่อนแอและมีปัญหาสุขภาพเพราะเป็นเนื้องอกในสมอง โออิลนัมสนิทกับซองกีฮุนมาก ซองกีฮุนทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อปกป้องเขาให้มีชีวิตรอด แต่แท้จริงแล้วโออิลนัมเป็นตัวละครที่มีความลับมากกว่าที่เราคิดและที่มาของหมายเลข 001 ก็ยังคงปริศนาที่รอให้ผู้ชมแก้ไขค่ะ

จางด็อกซู (ฮอซองแท)

จางด็อกซูเป็นผู้เล่นหมายเลข 101 และเป็นนักเลงตัวพ่อ เขาชอบรังแกคนอื่นเพื่อให้ตัวเองเหนือกว่า เขาชอบก่อจลาจลเพื่อกำจัดผู้เล่นแต่ละคนเพื่อให้ตัวเองได้อยู่รอดเป็นคนสุดท้าย ถึงแม้ว่าตัวละครนี้จะเป็นตัวละครที่น่าหมั่นไส้ที่สุด แต่เขาก็เป็นหนึ่งในตัวละครที่ถูกผลักเข้าไปในมุมมืดเหมือนกับผู้เล่นคนอื่น ๆ เช่นกัน

ฮันมีนยอ (คิมจูรยอง)

ฮันมีนยอเป็นผู้เล่นหมายเลข 212 ตัวละครนี้เป็นตัวละครที่ลึกลับเช่นกันค่ะ เธออ้างว่าตัวเองยากจนและเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มาเล่นเกมเพื่อเอาเงินไปเลี้ยงลูก ฮันมีนยอเป็นตัวละครที่คล้าย ๆ กับจางด็อกซูเพราะผู้เล่นเกมไม่มีใครชอบเธอ เธอใช้กลวิธีเดียวกับจางด็อกซูเพื่อกำจัดผู้เล่นทีละคนและทำให้ตัวเองได้สมปรารถนาแม้ต้องใช้วิธีที่สกปรกเธอก็ยอมทำ

ฮวังจุนโฮ (วีฮาจุน)

ฮวังจุนโฮเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่แอบปลอมตัวเข้าไปเป็นผู้คุมเกม จุดประสงค์หลักของฮวังจุนโฮคือต้องการที่จะตามหาพี่ชายของตัวเองที่หายไป ซึ่งพี่ชายของเขาก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มีนามบัตรรูปวงกลม สามเหลี่ยมและสี่เหลี่ยม ฮวังจุนโฮเป็นตัวละครที่ฉลาด มีฝีมือ มีความกล้าและมีไหวพริบเพื่อแทรกซึมเข้าไปในองค์กรที่มีการป้องกันอย่างดีและต้องเรียนรู้ระบบของเกมโดยไม่ให้ถูกจับได้ ฉากการปรากตัวของฮวังจุนโฮทำให้คนดูต้องใจหายวาบทุกครั้งเพราะกลัวว่าเขาจะถูกจับได้

2. นำเสนอโครงเรื่องที่น่าสนใจและใช้เกมพื้นบ้านเป็นตัวดำเนินเรื่อง

จุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือโครงเรื่องและการนำเสนอ ถึงแม้ว่าจะมีกระแสมากมายที่บอกว่าซีรีส์เรื่องนี้คล้าย ๆ กับซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่อง Alice in Borderland ที่ฉายทาง Netflix เมื่อปี 2020 แต่ผู้เขียนมองว่ามันยังมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก ซีรีส์เรื่อง Alice in Borderland จะนำเสนอความเป็นแฟนตาซีมากกว่า ถึงแม้กว่าพล็อตหลักของตัวเรื่องจะเป็นการเอาตัวรอดเหมือนกันแต่การดำเนินเรื่องก็แตกต่างกันอยู่ดี ซีรีส์เรื่องสควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game) บอกเล่าเรื่องราวของคน 456 คนที่มาเข้าร่วมเล่นเกม แต่ในการดำเนินเรื่องจะเน้นแค่ตัวละครเพียง 10 ตัวละครเท่านั้น ผู้ที่เข้าร่วมเล่นเกมนี้ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีปัญหาทางการเงิน มีปัญหาหนี้สินและต้องการเงินเป็นจำนวนมหาศาล เพื่อล้างหนี้ ในตอนเริ่มเรื่องผู้เล่นเกมแต่ละคนจะได้รับการ์ดลึกลับที่ทำหน้าที่เป็นการ์ดเชิญให้พวกเขาเล่นเกมและรับเงิน แน่นอนว่าคนที่ไม่ได้การ์ดนี้ก็จะไม่มีโอกาสได้เล่นเกม ในซีรีส์ทุกคนจะต้องเล่นเกมทั้งหมด 6 เกม คนที่อยู่รอดเป็นคนสุดท้ายจะได้เป็นผู้ครอบครองจำนวนเงินทั้งหมด ซึ่งมูลค่าเงินสูงสุดคือ 45.6 พันล้านวอนคิดเป็นเงินตามจำนวนผู้เล่น 456 คน นั่นหมายความว่าหากมีคนตายมากเท่าไหร่จำนวนเงินก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

เกมทั้งหมด 6 เกมที่ทุกคนต้องเล่นเป็นเกมการละเล่นพื้นบ้านของเกาหลีซึ่งเกมแรกก็คือเกม aeiou หยุด ซึ่งมีความคล้ายกับเกมจับแข็งบ้านเราค่ะ ขอบอกเลยว่าเกมนี้ผู้เกมหลอนหูมากเพราะเสียงร้องว่า “มูกุงฮวา โกชี พีอ๊อดซึมมีดา” ค่อนข้างติดหูมากเลยทีเดียว ส่วนเกมที่ 2 คือเกมแกะน้ำตาล เกมแกะน้ำตาลเป็นเกมที่คนไทยอยากเล่นกันมากถึงกับไปซื้อชุดทำขนมน้ำตาลดีไอวาย (DIY) มาทำแล้วลองแกะเป็นรูปกันเลยทีเดียวค่ะ ส่วนเกมที่ 3 คือรวมกลุ่มกันชักเย่อ เกมที่ 4 คือเกมจับคู่เล่นลูกแก้ว เกมที่ 5 คือเกมเลือกตัวเลข เพื่อเล่นเกมสะพานกระจก ส่วนเกมสุดท้ายคือเกมปลาหมึกซึ่งเป็นไฮไลท์ของเรื่องนี้นั่นเองค่ะ ในแต่ละเกมหากมีคนทำพลาดก็จะต้องตายและจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถครอบครองเงินจำนวนมหาศาลได้

ความลับของเกมเหล่านี้ผู้สร้าง Squid Game หรือผู้กำกับฮวังดฮยอกบอกว่าเขาได้วางแผน Squid Game มากว่า 10 ปี ความทุ่มเทของเขาแสดงให้เราได้เห็นเลยว่ารายละเอียดที่เรียบง่ายก็สามารถดูยิ่งใหญ่ได้ ถึงแม้ว่าโครงเรื่องของ Squid Game อาจดูเรียบง่ายแต่สัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ทางเรื่องต้องการนำเสนอก็ชัดเจนมาก ซึ่ง Squid Game ก็มีขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของการแข่งขันที่รุนแรงของระบบทุนนิยมนั่นเอง ซีรีส์ Squid Game ได้ประชดประชันว่าถึงแม้ระบบทุนนิยมจะมีขึ้นเพื่อช่วยให้คนประเภทต่าง ๆ มีชีวิตที่ดีและความเจริญรุ่งเรือง แต่ความจริงแล้วระบบนี้ก็สามารถทำร้ายมนุษย์ ส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่ดุเดือดและโหดร้ายได้

3. ความจนน่ากลัวกว่า…ความตาย

ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่สะท้อนให้เราได้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าความจนมันน่ากลัวกว่าความตายมาก ทุกคนที่เข้าไปเลยเกมกลัวความตายแต่เมื่อตระหนักแล้วตายก็ดีกว่าจนเหมือนกันค่ะ ตัวละครแต่ละตัวล้วนมีความลำบากเป็นของตัวเองทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องหนี้สิน ซึ่งแรงผลักดันเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ก็สามารถทำให้คนดี ๆ กลายเป็นคนที่เห็นแก่ตัวได้และเพื่อให้ตัวเองรอดบางคนยอมทำทุกอย่างแม้กระทั่งฆ่าคน หักหลังคนที่รักเพื่อให้ตัวเองรอดชีวิต ถ้าถามผู้เขียนว่าเรื่องนี้ผิดไหม ถ้าจะมองในด้านศีลธรรมแน่นอนว่าผิดแน่ แต่ถ้าให้มองถึงความเป็นจริงคนที่อ่อนแอไม่สามารถอยู่ได้ในสังคมอันโหดร้ายค่ะ

ผู้เล่นเกมทุกคนกลัวความจน ความกลัวนี้ผลักดันให้คนแต่ละคนต้องแสดงด้านมืดของตัวเองออกมา หากมองในด้านจิตวิทยาพฤติกรรมทุกอย่างที่ตัวละครแสดงออกมาก็คือธรรมชาติของมนุษย์และสัญชาตญาณการเอาตัวรอด ตัวละครแต่ละตัวจะตอบสนองและจัดการกับสถานการณ์ที่ไม่สามารถไว้ใจได้ตามสัญชาตญาณของตัวเอง ในการเล่นเกมเหล่านี้คนที่อยู่รอดเท่านั้นถึงจะเป็นผู้ชนะ แต่เราจะต้องยอมรับให้ได้ว่าการที่เราชนะ ได้เงินมหาศาลจะต้องแลกไปด้วยชีวิตของผู้คนมากมายและสุดท้ายเราจะมีความสุขได้จริง ๆ หรือ? เกมใน Squid Game ทุกเกมตื่นเต้น เร้าใจและน่าติดตาม สิ่งสำคัญคือใจคุณจะเต้นแรงขณะรับชมและจะให้ความรู้สึกเหมือนคุณกำลังเล่นเกมอยู่ด้วย ถึงแม้จะเป็นเกมง่าย ๆ สำหรับเด็กแต่กติกานั้นโหดมาก คุณจะไม่สามารถเล่นเกมธรรมดาเหล่านี้ได้อีกต่อไปหากได้ดูซีรีส์เรื่อง Squid Game

4. นำเสนอความเหลื่อมล้ำของสังคม

ความเหลื่อมล้ำในสังคมมีอยู่ในทุก ๆ ประเทศ แม้ในประเทศที่พัฒนาแล้วหรือประเทศที่ยังไม่พัฒนาก็มักจะเกิดปัญหานี้ แต่แน่นอนว่าปัญหาความเหลื่อมล้ำเป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนมองข้าม ถึงแม้ว่ามนุษย์จะมีความเท่าเทียมกัน เกิดมามีแขนมีขาเหมือนกัน แต่หากพูดถึงในเรื่องฐานะและความเป็นมนุษย์แต่ละคนย่อมไม่เท่ากันอยู่แล้วค่ะ คนที่รวยก็รวยเอาส่วนคนที่จนก็จะจนลงเรื่อย ๆ วนเวียนกันไปเป็นตามวัฏจักรปลาใหญ่กินปลาเล็กไปเรื่อย ๆ ไม่มีวันสิ้นสุด ถึงแม้ความจนและความลำบากของตัวละครในเรื่อง Squid Game จะเกิดมาจากตัวของผู้เล่นเอง แต่ถ้าสังคมจัดการกับปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ก็คงไม่มีใครต้องสังเวยชีวิตเพื่อแลกเงิน

ผู้เขียนอยากลงกรณีของอับดุล อาลีหนึ่งในตัวละครในเกมที่ผู้เขียนมองว่าเป็นตัวละครที่น่าสงสารมากที่สุด อาลีเป็นชาวปากีสถานเขาเข้ามาทำงานเป็นแรงงานต่างด้าวในเกาหลี เขาออกมาจากปากีสถานเพื่อหวังให้ครอบครัวตัวเองสบายขึ้นแต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เขาโดนเอาเปรียบจากนายจ้างสารพัด ทำงานแต่ไม่ได้เงิน ทำให้ตัวเขาต้องโดนผลักเข้ามาให้เล่นเกม จุดเด่นของอาลีคือเขาเป็นคนดีมาก เขาช่วยเหลือทุกคนที่สามารถช่วยได้แต่ทุกคนที่เขาเชื่อใจกลับหักหลังเขาเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง หลายคนบอกว่าต้องเป็นคนดีถึงจะมีคนเคารพและดีตอบ แต่จากกรณีของอาลีทำให้เรารู้ว่าถึงแม้ว่าจะเป็นคนดีแค่ไหนแต่เมื่อถึงจุดสุดท้ายเราก็อาจจะไม่มีที่ยืน หากคนใกล้ตัวเราเป็นคนเห็นแก่ตัวกันหมดความดีของเราก็อาจจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเราเอง

5. ตามหาความลับของ Squid Game

จุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้คือการตามหาเบื้องลึกเบื้องหลังของ Squid Game ว่าใครกันแน่เป็นคนสร้างเกมนี้ขึ้นมา แต่เราขอบอกเลยว่าเนื้อเรื่องทั้งหมดจะถูกเฉลยแน่นอนในตอนท้าย ไม่เหมือนกับซีรีส์เรื่อง Alice in Borderland แน่นอนเพราะซีรีส์เรื่อง Alice in Borderland ไม่ได้เฉลยอะไรเลยเกี่ยวกับตัวเรื่องเลยแม้แต่น้อยจนบัดนี้ยังคงเป็นปริศนาอยู่ แต่สำหรับผู้เขียนแล้วผู้เขียนเดาเนื้อเรื่องได้ตั้งแต่ EP. แรก ๆ เลยเพราะว่ามันมีจุดบอดอยู่หลายอย่างรวมไปถึงปริศนาของตัวเลขที่ติดอยู่บนเสื้อของผู้เล่นแต่ละคนด้วย แต่แน่นอนว่าเมื่อเฉลยออกมาผู้คนต่างคิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนคนนี้

อีกทั้งปริศนาพี่ชายของฮวังจุนโฮก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่ง เพราะตัวเรื่องได้บอกให้เราเห็นว่าพี่ชายของฮวังจุนโฮก็เป็นคนหนึ่งได้การ์ดคำเชิญแต่เราไม่เห็นตัวเขาในการเล่นเกม ในจุดนี้จะทำให้คนดูสงสัยว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นใครกันแน่ รวมไปถึงความลับของผู้คุมเกมทุกคนที่สวมใส่หน้ากากว่าแท้จริงแล้วผู้คนเหล่านี้มาจากที่ไหนและมาทำงานนี้ทำไม แต่กฎเหล็กของผู้คุมเกมคือใครถอดหน้ากากออกให้ผู้เล่นเกมเห็นหน้าคนนั้นต้องตาย ความลับเหล่านี้ทำให้เนื้อเรื่องน่าสนใจมากและทำให้ผู้ชมได้ลุ้นไปกับตัวเรื่องว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเกมสุดแสนจะทรหดนี้