รีวิว ซีรีย์วาย (Series Y) ในไทย เรื่องไหนสนุก ปี 2022

ซีรีส์วายยังคงเป็นคอนเทนต์ที่ขายได้อย่างต่อเนื่อง เพราะในทุกวันนี้ฐานแฟนคลับสาววายขยายจำนวนไปเยอะมาก มีกลุ่มจิ้นหรือกลุ่มแฟนด้อมมากมายที่คอยสนับสนุนและซัพพอร์ตศิลปินอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจะเห็นได้เลยว่าแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งหนังและภาพยนต์ชื่อดังอย่าง Netflix, WeTV, Viu, iQIYI หรือ AIS PLAY มีการดึงเอาซีรีส์วายเข้าไปใส่ในเว็บไซต์ให้กลุ่มคนดูรับชมกันอย่างต่อเนื่อง

โดย ซีรีส์วาย ปี 2021 ที่ผ่านมาเราจะเห็นว่ามีหลายเรื่องที่ดัง ๆ ออกมาให้แฟนคลับได้ฟินกันเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น นับสิบจะจูบ, นิทานพันดาว, แปลรักฉันด้วยใจเธอ, Not Me เขา…ไม่ใช่ผม หรือแค่เพื่อนครับเพื่อน ซึ่งความโด่งดังแบบฉุดไม่อยู่ของวงการวายจึงทำให้ปี 2022 มีผู้จัดมากมายผลิตคอนเทนต์วายออกมาเยอะมาก และมีหลายเรื่องที่น่าสนใจ สนุกแบบฟินจิกหมอนให้เลือกรับชมกัน ดังนั้นวันนี้ผมจึงรวบรวมเอาลิสต์ ‘ซีรีย์วาย (Series Y) ในไทย เรื่องไหนสนุก ปี 2022’ มาฝากกันครับ

1. คาธ The Eclipse

หนึ่งในซีรีส์วายที่อยากให้ทุกคนได้รับชมกันคือ ‘คาธ The Eclipse’ เพราะเนื้อเรื่องทำออกมาได้ค่อนข้างแตกต่าง มีความ Mystery หรือความลึกลับอยู่ในตัว ส่วนนักแสดงนำที่รับบทบาทในเรื่องก็มีความน่าสนใจอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น เฟิร์ส (คณพันธ์ ปุ้ยตระกูล) ซึ่งเป็นนักแสดงนำซีรีส์วายเรื่องแรก ส่วนข้าวตัง (ธนวัฒน์ รัตนกิจไพศาล) ถึงแม้ว่าจะเคยผ่านการเป็นนักแสดงนำซีรีส์วายในเรื่อง ‘ต้นหนชลธี’ มาแล้ว แต่นี่ก็ถือเป็นการโคจรมาเจอกันครั้งแรกกับกรเป็นคู่จิ้นร่วมกับเพื่อนสนิทอย่าง ‘เฟิร์ส’ ดังนั้นจึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างท้าทายอยู่ไม่น้อย

เรื่องย่อ : จุดเริ่มต้นของเนื้อเรื่องเกิดขึ้นภายในโรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่งซึ่งมีความเคร่งครัดและออกกฏต่าง ๆ ให้นักเรียนอยู่ภายในกรอบตามที่โรงเรียนต้องการ แต่ความน่ากลัวคือความอาถรรพ์ซึ่งเกิดกับนักเรียนหลายต่อหลายคนที่ผิดกฎจนขนลุกขนพองไปตาม ๆ กัน ยิ่งโดยเฉพาะในช่วงสุริยคราสยิ่งเพิ่มความรุนแรงเกือบเท่าตัว จนมีเคสนักเรียนฆ่าตัวตายเลยทีเดียว

อย่างไรก็ดีความห้าวหาญของนักเรียนเจนใหม่อย่าง ‘อายัน (ข้าวตัง)’ ก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาหรือกลัวกับความน่ากลัวและกฎเกณฑ์ของทางโรงเรียนที่สร้างขึ้นมา อายันพร้อมเสมอสำหรับการแหกกฎตรงนี้ ซึ่งความก้าวร้าวตรงนี้ทำให้ ‘อักก์ (เฟิร์ส)’ ต้องมาจัดการนักเรียนใหม่คนนี้เข้าร่องเข้ารอยเหมือนกับนักเรียนคนอื่น ๆ แต่แทนที่ทุกอย่างจะง่ายกลับกลายเป็นว่าความวุ่นวายนั้นยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เพราะเมื่ออายันรู้ว่าอักก์เริ่มสะกดรอยตาม เขาก็ถือโอกาสแกล้งซะให้เข็ด

เมื่อแกล้งไปแกล้งมายัยอักก์ก็ตกหลุมมนต์เสน่ห์ของอายันซะงั้น เจอแต่ละครั้งก็มีอาการใจเต้นหน้าแดงเหมือนตากแดดมาแล้ว 5 ชั่วโมง โดยถึงแม้ว่าความหอมวานตรงนี้จะทำให้หัวใจของอักก์เต็มฟูไปด้วยความรัก แต่อักก์ก็คงตั้งคำถามถึงความน่าสงสัยเกี่ยวกับสมุดโน้ตของอายัน ที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถจะเปิดเข้าไปอ่านได้ ทั้งนี้ด้วยมิชชั่นของอักก์คือการรายงานพฤติกรรมอันน่าสงสัย จึงทำให้เขาต้องหาคำตอบภายในสมุดนั้นให้กับคุณครูที่มอบหมายงานมาให้ แต่เรื่องนี้จะจบอย่างไรและจะแฮปปี้หรือไม่ ต้องไปตามดูกันเองใน Viu นะจ๊ะ

2. คินน์พอร์ช เดอะ ซีรีส์ ลา ฟอร์เต้ KinnPorsche The Series

ถ้าอยากให้จัดอันดับซีรีส์วาย Top 3 ของปี 2022 เชื่อว่าลิสต์ในใจของใครหลายคนคงจะต้องมี ‘คินน์พอร์ช เดอะ ซีรีส์ ลา ฟอร์เต้ KinnPorsche The Series’ อยู่ในนั้นอย่างแน่นอน เพราะกระแสและเนื้อเรื่องที่ดุเดือดเผ็ดมันส์ ฉีกแนวออกไปจากความเป็นซีรีส์วายวัยใสหรือความรักตามสไตล์มวัยมัธยมและมหาวิทยาลัย เพราะเรื่องนี้คือการนำเอาความเป็นมาเฟีย ยิงสนั่นเมือง เลือดสาดเข้ามา ดังนั้นถ้าหากไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้

ส่วนทางด้านนักแสดงนำทั้งสองคนอย่าง ‘มาย ภาคภูมิ ร่มไทรทอง’ และ ‘อาโป ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์’ ก็ถือว่าเป็นการชิมลางซีรีส์วายครั้งแรกของทั้งคู่ ยิ่งโดยเฉพาะอาโปซึ่งเคยเป็นนักแสดงช่องใหญ่มาก่อน การมารับบท LGBTQA+ ครั้งแรกก็สร้างความท้าทายอยู่ไม่น้อย แต่หลังจากปล่อยออกมาให้แฟนคลับได้รับชมกันแล้ว ก็ต้องบอกว่ามันคุ้มค่าและการทุ่มเทในบทบาทที่ตัวเองรับ เป็นการปลดล็อคและหายเหนื่อยทั้งตัวนักแสดงรวมไปถึงทีมงานเบื้องหลังทุกคนกับการประสบความสำเร็จในครั้งนี้

เรื่องย่อ : ‘พอร์ช (อาโป)’ หนุ่มนักศึกษาที่ต้องเรียนและทำงานตัวเป็นเกลียว เพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเองและน้องชายสุดที่รัก แต่แล้วชะตาชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อเจอเข้ากับ ‘คินน์ (มาย)’ ในสถานการณ์ที่กำลังเอาตัวรอดจากลูกน้องของศัตรู จนทำให้อาโปต้องเข้าไปช่วยด้วยด้วยการแลกกับเงินและของมีค่า ในระหว่างการต่อสู้อาโปก็งัดเอาสกิลแชมป์ยูโดระดับประเทศ จนทำให้เข้าตามาเฟียอย่างคินน์เข้าและพยายามดึงพอร์ชเข้าไปในคฤหาสน์เพื่อเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวให้กับตัวเอง

ถึงแม้ว่าตัวพอร์ชจะไม่ได้ยินยอม แต่ความจนและความปลอดภัยกับครอบครัวเป็นอะไรที่ต้องทำให้เขาจำยอมแต่โดยดี ซึ่งแน่นอนว่าการเข้าไปอยู่ในวงจรมาเฟียก็หมายถึงความเป็นความตายในทุกนาที ทั้งนี้ความวุ่นวายยังไม่จบแค่เพียงเท่านั้น เนื่องจากหัวหน้าแก๊งค์และลูกน้องดันตกหลุมรักกันเองซะงั้น ความวุ่นวายจึงยิ่งทวีคูณเพิ่มขึ้นกว่าเดิม จนความรักเกิดความสั่นคลอน มีปัญหาอุปสรรคมากมายที่ต้องฟันฝ่าร่วมกัน เป็นบทพิสูจน์ความรักที่ปลายทางไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลยแม้แต่น้อย

3. คุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle of Teddy Bear

คุณหมีปาฏิหาริย์เป็นความท้าทายของทีวีช่องยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ เนื่องจากละครออนแอร์ในช่วง Prime Time และยังเป็นซีรีส์วายเรื่องแรกของทางช่องอีกด้วย โดยแม้ว่าเรตติ้งของละครจะเปิดตัวมาไม่ค่อยสวยอย่างที่คาดเอาไว้ แต่ในทางกลับกันยอดในแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Netflix กลับพุ่งทะยานจนแตะ Top 10 ได้เลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้อาจเป็นเพราะพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายอย่างวัยรุ่นนิยมชมกันในแพลตฟอร์มออนไลน์มากกว่า ในขณะเดียวกันเนื้อเรื่องของคุณหมีน้อยก็แตกต่างและน่าสนใจจนต้องหยิบมารีวิวกันในบทความนี้

เรื่องย่อ : ใครจะไปรู้ว่าในวันหนึ่งตุ๊กตาหมีสีขาวตัวโปรดคู่กาย ‘เต้าหู้ (อิน สาริน)’ จะกลับกลายมาเป็นมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิต ซึ่งสร้างวุ่นวายและความสับสนให้กับทางเจ้าของอย่าง ‘พีรณัฐ (จ็อบ ธัชพล)’ อยู่ไม่น้อย เพราะหลังจากตื่นด้วยความสร่างเมาก็พบเข้ากับชายหนุ่มปริศนาภายในห้องของตัวเอง แน่นอนว่าใคร ๆ ก็ต้องกลัวที่อยู่ดี ๆ มีใครก็ไม่รู้เข้ามาอยู่ภายในห้องของตัวเอง มิหนำซ้ำหน้าตายังคล้ายรุ่นพี่คนหนึ่งในสมัยเรียนมัธยม จนทำให้พีรณัฐเคืองเข้าไปใหญ่ ถึงขั้นจะลากเต้าหู้ไปหาตำรวจให้รู้แล้วรู้รอด

ในขณะเดียวกันเองเต้าหู้เองก็ไม่กล้าพูดความจริงว่าตัวเองคือเจ้าหมีที่อยู่กับพีรณัฐมานานนับสิบปี เพราะพีรณัฐคงคิดว่าตัวเองนั้นเพี้ยนขึ้นกว่าเดิม แต่ความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เมื่อคุณแม่ของพีรณัฐตื่นขึ้นมาช่วยเต้าหู้ได้ทันเวลา โดยเหตุผลที่คุณแม่วิ่งเข้ามาช่วยเพราะคุณแม่เป็นคนแรกที่เห็นเต้าหู้ตกลงจากที่สูงในสภาพล่อนจ้อน เนื่องจากในระหว่างที่เขาเปลี่ยนร่าง สุนัขในบ้านดันเข้ามาซะงั้น ทำให้เขาต้องกระโดดจากห้องของพีรณัฐ แต่แทนที่คุณแม่จะมองว่าเขาเป็นมิจฉาชีพ ดันกลายเป็นว่าคุณแม่คิดว่าเขาคือเทวดาที่ตกลงมาจากฟ้า

เมื่อเหตุการณ์เป็นอย่างนั้น คุณแม่เลยให้เหตุผลต่อพีรณัฐว่าเต้าหู้คือคนที่คุณพ่อให้มาอยู่เป็นเพื่อนกับคุณแม่ตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเหตุผลตรงนี้เลยทำให้พีรณัฐเบาใจลงไปไม่มากก็น้อย จนในที่สุดเต้าหู้ก็กลายเป็นสมาชิกคนหนึ่งของบ้านไปแบบงง ๆ อย่างไรก็ดีเต้าหู้เองก็พยายามกลับไปเป็นตุ๊กตาหมีน่ารักเหมือนเดิม เพราะวันใดวันหนึ่งพีรณัฐอาจจะไล่เขาออกจากบ้านก็ได้ แต่เรื่องมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างเต้าหู้และพีรณัฐเริ่มพัฒนาจากคนไม่รู้จักกลายเป็นคนรู้ใจเข้า ดังนั้นเรื่องทุกอย่างจึงซับซ้อนเข้ากันไปใหญ่ หากใครอยากรู้ว่าจุดจบของความสัมพันธ์นี้เป็นอย่างไร ต้องเปิดใจเข้าไปรับชมกันเองครับ

4. แล้วแต่ดาว (Star In My Mind)

ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในสังกัดที่ผลิตซีรีส์วายคุณภาพของประเทศไทยออกมาจำนวนมาก คงหนีไม่พ้น ‘GMMTV’ เพราะมีซีรีส์วายระดับตำนานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เพราะเราคู่กัน, พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง, แค่เพื่อนครับเพื่อน, นิทานพันดาว และอื่น ๆ อีกมากมาย

โดยในปี 2022 เองก็มีเรื่องที่มีกระแสและค่อนข้างทำออกมาได้ดีอย่าง ‘แล้วแต่ดาว (Star In My Mind)’ ซึ่งได้นำเอานักแสดงหน้าใหม่ของสังกัดอย่าง ‘ดัง (ณัฎฐ์ฐชัย บุญประเสริฐ)’ และ ‘จุง (อาเชน ไอย์ดึน)’ ทั้งนี้ทางด้านของจุงอาจเคยมีประสบการณ์หรือผ่านการแสดงซีรีส์ใหญ่มาแล้ว ดังนั้นการรับบทบาทในคราวนี้จึงเป็นอะไรที่น่าจะเอาอยู่ แต่ทางด้านของดังถือว่าเป็นการรับบทนำครั้งแรก ซึ่งต้องบอกว่าทำออกมาได้อย่างไม่ผิดหวัง และเชื่อว่าต่อไปเด็กทั้งสองคนสามารถต่อยอดออกไปได้ไกลกว่านี้แน่นอน

เรื่องย่อ : ‘คาบคลื่น (จุง)’ หนุ่มเล่นบาสเกตบอลสุดฮอตของโรงเรียนที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็ต้องตกหลุมมนต์เสน่ห์ของเขา แต่ด้วยความเงียบขรึมของคาบคลื่น ทำให้มองดูว่าเขาเป็นคนเข้าถึงได้ยาก ดังนั้น ‘ดาวเหนือ (ดัง)’ จึงได้แค่เพียงแอบชอบเท่านั้น แต่ท้ายที่สุดแล้ววันหนึ่งชะตาชีวิตของ ‘ดาวเหนือ’ ก็เปลี่ยน เมื่อครอบครัวจำเป็นต้องย้ายไปต่างประเทศ ด้วยความที่ดาวเหนือไม่มีอะไรจะเสีย เลยทำให้เขามุ่งตรงไปหาคาบคลื่นเพื่อบอกความในใจทั้งหมด แต่สิ่งได้กลับมาคือความเฉยชา พร้อมกับคำพูดเพียงแค่ว่า “เดินทางให้ปลอดภัย”

เวลาผ่านไปประมาณ 2 ปี ดาวเหนือตัดสินใจกลับมาเรียนมหาวิทยาลัยในประเทศไทย แต่ไป ๆ มา ๆ มหาวิทยาลัยที่ทั้งคู่เลือกกลับเป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียวกัน ไม่เพียงเท่านั้นยังกลายมาเป็นรูมเมทกันอีก แต่ด้วยความผิดหวังในความรักที่ผ่านมาจึงทำให้ ‘ดาวเหนือ’ พยายามถอยห่าง ในขณะเดียวกันเอง ‘คาบคลื่น’ ก็เริ่มรู้ใจและเกิดความหึงห่วงเมื่อมีคนพยายามเข้าใกล้ ‘ดาวเหนือ’ ดังนั้นภารกิจของเขาคือการพยายามทำให้ ‘ดาวเหนือ’ กลับมารักเขาดังเดิม

5. กลรักรุ่นพี่ 2 LOVE MECHANICS

คู่จิ้นในวงการวายระดับ Top 10 คงจะต้องมี ‘หยิ่น-วอร์’ อยู่ในนั้นอย่างแน่นอน เนื่องจากทั้งคู่ประสบความสำเร็จมากในปี 2020 กับเรื่องกลรักรุ่นพี่ แต่ ณ ขณะนั้นโปรเจกต์ของซีรีส์ยังคงเป็นแบบมินิซีรีส์ ดังนั้นในปี 2022 ทางผู้จัดจึงได้มีการผลิตซีรีส์ตัวเต็ม (Full Version) ออกมาเติมเต็มความฟินให้กับแฟนคลับได้อย่างเต็มอิ่ม

เรื่องย่อ : ‘วี (หยิ่น)’ หนุ่มฮอตของคณะวิศวะ ที่ไม่ว่าเดินไปทางไหนก็เจอแต่สาว ๆ กรี๊ดใส่ โดยถึงแม้ว่าวีจะเป็นคนที่ค่อนข้างดูเย็นชา แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ต้องมาเจอความว้าวุ่นจากการตกหลุมรัก ‘มาร์ค (วอร์)’ ซึ่งเป็นรุ่นน้องวิศวะปี 1 เเพื่อกีดกันไม่ให้ ‘มาร์ค’ เข้าไปเป็นมือที่สามของเพื่อนสนิทตัวเอง แต่กีดกันไปกีดกันมากลับกลายเป็นว่าดันไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนที่เป็นคู่อริแทนซะงั้น

ไม่เพียงเท่านั้น ‘วี’ เองก็มีแฟนสาวด้วยอยู่แล้ว ดังนั้นความอลเวงปั่นป่วนในความสัมพันธ์ครั้งนี้เป็นเหมือนกับด้ายที่พันกันจนแทบจะแกะไม่ออก โดยความสัมพันธ์ที่คลุมเครือทำให้ ‘มาร์ค’ เจ็บจากความรักครั้งเก่าไม่พอ ยังต้องมาเจ็บปวดกับรักครั้งใหม่นี้อีก แต่ท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างจะจบอย่างไร ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะลงตัวและคลี่คลายหรือไม่ ? อันนี้ต้องไปรับชมกันเองนะครับ

6. มังกรกินใหญ่ (Big Dragon The Series)

‘มอส-แบงค์’ กำลังเป็นคู่จิ้นหน้าใหม่ไฟแรง ณ ขณะนี้ เพราะด้วยความเผ็ดร้อนของฉาก NC และบทของซีรีส์ซึ่งมีความเข้มข้น มีทั้งความโรแมนติก, คอมเมดี้ และดราม่าผสมกันได้อย่างกลมกล่อม ถ้าหากใครกำลังหาซีรีส์คุณภาพในช่วงนี้ลองเปิดใจ ‘มังกรกินใหญ่’ แล้วจะติดหนึบกลายเป็นแฟนคลับโดยไม่รู้ตัว

เรื่องย่อ : เมื่อชายหนุ่มสุดหล่อสองคนอย่าง ‘มังกร (มอส)’ และ ‘ใหญ่ (แบงค์) ดันกลายมาเป็นศัตรูเพราะชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ปัญหาทุกอย่างจึงเริ่มต้นขึ้น ทั้งสองเหมือนจะเป็นคู่อริที่ไม่ว่าเห็นหน้าทีไรก็ต้องเหม็นขี้หน้ากันอยู่ตลอด

แต่แล้วความซับซ้อนในความสัมพันธ์ก็เริ่มต้นขึ้น เพราะพิษสุราดันทำให้ทั้งสองคนขาดสติจนโฉ๊ะประเด๊ะ ลืมความเป็นคู่อริกันไปซะอย่างนั้น เมื่อเรื่องราวคืนนั้นผ่านไป ‘ใหญ่’ รู้สึกว่ามันกลายเป็นตราบาปของตัวเอง เนื่องจาก ‘มังกร’ พูดบลัฟเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา ซึ่ง ‘ใหญ่’ เองก็ไม่ชอบทั้งยังหาทางแก้แค้นให้ได้ด้วยการวางแผนจะทำลายผับ Sunrise หรือจุดเกิดเหตุแห่งการโฉ๊ะประเด๊ะ

อย่างไรก็ดีแผนดังกล่าวกลับล้มไม่เป็นท่าเนื่องจากเจ้าพ่อของใหญ่ได้สั่งการให้เขาเข้าไปดูแลและควบคุมการรีโนเวทผับแห่งนั้นแทน และเรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อสถาปนิกคนที่รับงานในครั้งนี้กลับกลายเป็น ‘มังกร’ ดังนั้นเรื่องทุกอย่างจึงไม่จบง่าย ๆ อย่างที่คิด

7. ร้ายนักนะรักของมาเฟีย (Unforgotten Night)

‘ร้ายนักนะรักของมาเฟีย’ นำแสดงโดยนักแสดงมากความสามารถอย่าง ‘ยุ่น (ภูษณุ วงศาวณิชชากร)’ ซึ่งเคยผ่านผลงานซีรีส์วายสุดดังมาแล้วอย่าง ‘YYY มันส์เว่อร์นะ The Series Sit-Com Season 1’ ในขณะเดียวกันหนุ่มน้อยอย่าง ‘ต้น (ศรัณญ์ อนันตะเศรษฐกูล)’ เองก็เคยฝากผลงานเช่นกันในเรื่อง ‘Y–Destiny’ เอาไว้เช่นกัน ถึงแม้ว่าในเรื่องนี้จะเป็นการร่วมงานกันครั้งแรก แต่เคมีของทั้งสองคนกลับเข้ากั๊นนนเข้ากันได้แบบลงตัว หากใครได้เปิดใจดูรับรองว่าฟินไม่รู้ลืมแน่นอน

เรื่องย่อ : ‘กมล (ยุ่น)’ มาเฟีย LGBTQ+ สุดหล่อที่มีรสนิยมเรื่องบนเตียงค่อนข้างรุนแรง ซึ่งความป่าเถื่อนเกี่ยวกับเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ของเขาทำให้เขาต้องหาคู่นอน หรือซื้อบริการชายหนุ่มเป็นจำนวนมาก แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่พึงพอใจกับคู่นอนของตัวเองแม้แต่คนเดียว จนมาถึงวันหนึ่งที่ ‘กมล’ ตัดสินใจเข้าผับบาร์ในโรงแรมหรูเพื่อผ่อนคลายหลังจากการทำงานมาตลอดวัน

แต่เมื่อเดินเข้าไปก็ดันไปพบเข้ากับทาง ‘คิม (ต้น)’ ซึ่งกำลังดื่มอย่างหนักหลังจากอกหักกับความรักที่ไม่สมหวัง ซึ่งแน่นอนว่าทาง ‘กมล’ เองก็สนใจอยู่ไม่น้อย ไม่สามารถละสายตาออกจาก ‘คิม’ ได้แม้แต่วินาทีเดียว ในขณะเดียวกันความมึนเมาและความอยากลืมของคิมก็ทำให้เขาอยากหาคู่นอนสักคนในคืนนี้ โดยเมื่อ ‘กมล’ เข้าหาและชวนสร้างความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง แน่นอนว่า ‘คิม’ ก็ไม่ปฎิเสธดีลในครั้งนี้

อย่างไรก็ดีเมื่อทั้งสองคนกำลังจะเริ่มสร้างกิจกรรมอันเร่าร้อน ‘กมล’ ก็ได้เอ่ยปากเตือนถึงรสนิยมอันอล่างฉ่างบนเตียง แต่ทาง ‘คิม’ ก็หาได้แคร์ถึงเรื่องนี้แต่อย่างไร จนสุดท้ายทั้งสองคนก็เริ่มความรักอันพิสวาทและจบด้วยต่างฝ่ายต่างพึงพอใจในกิจกรรมครั้งนี้ ทั้งนี้ด้วยความที่ ‘กมล’ หาคู่นอนที่แมตช์กับตัวเองได้แล้ว ก็เลยดึง ‘คิม’ เข้ามาเป็นเมียมาเฟียแบบไม่ค่อยจำยอมสักเท่าไหร่นัก โดยแม้ว่าเรื่องราวเหมือนจะจบไปได้อย่างราบรื่น แต่มาเฟียย่อมมาพร้อมกับปัญหาในชีวิตอยู่แล้ว ดังนั้นความสัมพันธ์ครั้งนี้จึงเหมือนกับการซื้อหวย ที่รู้อยู่ว่ามีความเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง

8. คุณชาย

ด้วยซีรีส์วายสามารถตีตลาดในกลุ่มคอนเทนต์ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของออนไลน์และโทรทัศน์ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมช่องยักษ์ใหญ่ส่วนใหญ่เริ่มนำเอาความเป็น LGBTQ+ เข้ามาใส่ในละครหลังข่าวมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่กำลังอยู่ในกระแสและพูดกันอย่างหนาหูนั่นคือ ‘คุณชาย’ ซึ่งนำเอาความเป็นพีเรียดดราม่าเข้ามาผสานกับบทชายรักชาย ไม่เพียงเท่านั้นทางช่องยังส่งบทอันท้าทายให้กับพระเอกชื่อดังอย่าง ‘ฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ’ และนักแสดงมือใหม่อย่าง ‘แจม รชตะ หัมพานนท์’ ซึ่งถือเป็นการรับบทแนวนี้ครั้งแรก และต้องบอกได้เลยว่าทำออกมาได้ดีมาก จนละครประสบความสำเร็จและเป็นที่พูดถึงในทุก EP.

เรื่องย่อ : ‘เจ้าสัวเซ้ง’ ซึ่งเป็นนักธุรกิจและประสบความมากในหน้าที่การงาน แต่ในขณะเดียวกันเรื่องครอบครัวกลับกลายเป็นมีปัญหาอยู่ตลอด เนื่องจากมีภรรยาถึง 3 คน ซึ่งแต่ละคนก็แก่งแย่งชิงดีกันเพื่อขึ้นเป็นใหญ่ของบ้านให้ได้ หากวันใดวันหนึ่งเจ้าสัวเซ้งได้สละธุรกิจที่ตัวเองทำงานอยู่จะได้ขึ้นมามีบทบาทของธุรกิจและมีสิทธิ์มีเสียงภายในบ้าน

ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าลูกชายคนโตย่อมมีโอกาสมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว และคนนั้นก็คือ ‘‘เทียน (ฟิล์ม)’ นั่นเอง อย่างไรก็ดีปัญหาใหญ่ของเทียนคือการที่เขาเป็น LGBTQ+ ซึ่งสังคมของจีนในสมัยนั้นไม่สามารถรับเรื่องนี้ได้เลยแม้แต่น้อย ยิ่งการที่ ‘เทียน’ ได้พบรักกับทาง ‘จิว (แจม)’ ยิ่งเป็นเรื่องต้องห้ามเข้าไปใหญ่ เพราะภาพลักษณ์ของครอบครัวต้องมาก่อนเสมอ ในขณะเดียวกันเองแม่ของเทียนก็พยายามหาทางให้ ‘เทียน’ ได้แต่งภรรยาโดยเร็วที่สุด เพื่อจบปัญหาและดันให้ลูกชายตัวเองเข้าไปเป็นใหญ่ในบ้านให้เร็วที่สุด ดังนั้นความรักระหว่าง ‘เทียน’ และ ‘จิว’ จึงมีอุปสรรคและต้องปกปิดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจุดจบของความรักจะเป็นอย่างไรก็ต้องไปติดตามกันเองทางช่อง ONE31 เวลา 20.30 น.