อีกไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาลฮาโลวีนใกล้ถึงแล้วนะคะ ตอนนี้หลายคนคงจะเริ่มแพลนกันแล้วว่าปีนี้จะทำกิจกรรมอะไรกันบ้าง บางคนอาจจะ แต่งชุดผีออกไปเที่ยวคาเฟ่หรือเข้าร่วมกิจกรรมฮาโลวีนตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งช่วงหลัง ๆ มานี้ขอยอมรับเลยว่าเดี๋ยวนี้เนี่ยกิจกรรมและเทศกาลจากฝั่งตะวันตกกำลังได้รับความนิยม บวกกับหลาย ๆ คนเริ่มสนุกกับการแต่งหน้าแต่งตัวมากขึ้นก็ยิ่งทำให้เทศกาลนี้สนุกขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยค่ะ
แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าฮาโลวีนปีนี้จะทำอะไรดี เราคิดว่าการจัดกิจกรรมฉลองเล็ก ๆ ภายในบ้านก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเลยนะคะ นอกจากนี้การช่วยกันตกแต่งบ้านก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมครอบครัวที่น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากการตกแต่งบ้านแล้วการได้นั่งดูหนังด้วยกันก็เป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด
และแน่นอนว่าหนังผีและหนังสยองขวัญต่าง ๆ นี่มันเข้ากับเทศกาลนี้สุด ๆ ในบทความนี้เราจึงรวบรวมเอาหนังและซีรีส์สยองขวัญมาแบ่งปันเพื่อน ๆ ถึง 12 เรื่องจุก ๆ เลยค่ะ ขอสปอยล์ไว้ก่อนเลยว่าแต่ละเรื่องนี่ทั้งโหด, สยอง และน่ากลัวสุด ๆ!!
หนังสยองขวัญ
1. Smile (ยิ้มสยอง)
ประเภท | Psychological Horror |
---|---|
ผู้กำกับ | Parker Finn |
นักแสดงนำ | Sosie Bacon, Jessie T. Usher, Kyle Gallner และ Caitlin Stasey |
ความยาวหนัง | 115 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2022 |
เรื่องราวชวนประสาทหลอนเริ่มต้นขึ้นหลัง ดร.โรส คอตเตอร์ จิตแพทย์สาวได้พบกับคนไข้คนหนึ่ง คนไข้รายนี้อธิบายว่าเธอกำลังถูกอะไรบางอย่างตามล่า มันน่ากลัวและมักจะส่งรอยยิ้มให้เธอเสมอ เธอดูหวาดระแวงอย่างเห็นได้ชัดและร่างของเธอก็เริ่มชักกระตุกอย่างรุนแรง หลังคลาดสายตาไม่นาน ดร.โรส ก็หันกลับมาเจอคนไข้รายนี้มองเธอด้วยรอยยิ้มที่ดูน่ากลัวก่อนจัดการฆ่าตัวตายโดยที่เธอเองไม่ทันได้ตั้งตัว หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวก็เริ่มมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น เธอมักจะเห็นผู้คนส่งยิ้มแบบเดียวกับคนไข้รายดังกล่าวและบอกว่าเธอจะต้องตาย เรื่องราวเริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอต้องหยุดงานออกมาตามหาความจริงขณะเดียวกันความลับที่มืดมนในอดีตก็ย้อนกลับมาหาเธออีกครั้งพร้อมกับความกลัวที่กลืนกินร่างกายของเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ

คำว่า ‘รอยยิ้มสวยงามเสมอ’ คงจะใช้ไม่ได้กับหนังเรื่องนี้ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนส่งยิ้มให้คุณ นั่นหมายความว่าหายนะใกล้เข้ามาแล้ว Smile เป็นหนังสยองขวัญแนวจิตวิทยาจากค่าย Paramount Pictures เนื้อหาของหนังจะเล่นกับจินตนาการและความกลัว ส่งผ่านตัวละครต่าง ๆ มายังผู้ชม ซึ่งเรามองว่าหนังแนวนี้ทำให้เรารู้สึกกลัวได้มากกว่าหนังผีแนว jump scare อีกค่ะ การไม่กำหนดรูปร่างหรือลักษณะทำให้ปีศาจของแต่ละคนมีหน้าตาแตกต่างกันออกไป รวมไปถึงการส่งต่อความกลัวผ่านนักจิตวิทยาก็ทำให้เราเริ่มมีคำถามว่าสิ่งที่เธอเจอเป็นของจริงหรือแค่ประสาทหลอนไปเอง และครั้งต่อไปที่มีคนส่งยิ้มให้คุณมันก็อาจจะไม่ได้แฝงความเป็นมิตรเสมอไป
2. Scream (หวีดสุดขีด ภาค 5)
ประเภท | Slasher / Horror / Thriller |
---|---|
ผู้กำกับ | Matt Bettinelli-Olpin และ Tyler Gillett |
นักแสดงนำ | Melissa Barrera, Mason Gooding, Jenna Ortega และ Jack Quaid |
ความยาวหนัง | 114 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2022 |
เมือง Woodsboro เต็มไปด้วยความวุ่นวายอีกครั้งหลัง ทาร่า กลายมาเป็นเหยื่อของ ฆาตกรหน้ากากผี ที่เงียบหายไปหลายสิบปี มันหลอกล่อและบุกเข้าทำร้ายเธอถึงในบ้านอย่างโหดเหี้ยมและไร้ความปราณี แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รอดชีวิตมาได้ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส เรื่องราวของเธอกลายเป็นข่าวใหญ่ที่คนทั้งเมืองให้ความสนใจ ทำให้ แซม คาร์เพนเทอร์ ต้องกลับมาเยือน Woodsboro อีกครั้งและร่วมมือกับ ดิวอี ไรลีย์, เกล เวเธอร์ส และ ซิดนีย์ เพรสก็อต สามเพื่อนซี้รุ่นใหญ่ที่กลับมาร่วมมือกันกระชากหน้ากากผีอีกครั้งหลังที่เคยทำไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน

Ghostface หรือหน้ากากผีในตำนานกลับมาออกล่าอีกครั้งในปี 2022 ครั้งนี้มันกลับมาพร้อมกับแพทเทิร์นการล่าแบบเดิม ๆ แต่มีความโหดและทันสมัยมากขึ้น เพราะตัวหน้ากากผีสามารถโผล่ขึ้นมาตอนไหนก็ได้ จะเป็นกลางวัน, กลางคืน, กลางถนน หรือในโรงพยาบาลมันก็สามารถตามฆ่าได้หมด ดังนั้นเนื้อเรื่องจึงค่อนข้างที่จะมีความโหดเหี้ยมพอประมาณ สามารถเดาทางได้ค่อนข้างยาก ภาคนี้มีกลิ่นอายของหนังภาคแรกและภาคก่อน ๆ หน้าอย่างเต็มเปี่ยม แต่ก็มีการเสริมลูกเล่นใหม่ ๆ เข้าไปทำให้ไม่น่าเบื่อและเดาเนื้อเรื่องได้ยาก ใครเป็นแฟนหนัง Scream ภาคก่อน ๆ หน้าจะต้องประทับใจกับภาคนี้แน่นอนเพราะเราจะได้เห็นดาวเด่นจากภาคก่อนเข้ามาร่วมไขคดี ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้เติบโตไปพร้อม ๆ กับตัวละครเลยค่ะ กลับมาเจอเพื่อนสนิทอีกครั้ง
3. The Medium (ร่างทรง)
ประเภท | Horror / Mockumentary / Supernatural |
---|---|
ผู้กำกับ | บรรจง ปิสัญธนะกูล |
นักแสดงนำ | นริลญา กุลมงคลเพชร, สวนีย์ อุทุมมา, ศิราณี ญาณกิตติกานต์ และ ยะสะกะ ไชยสร |
ความยาวหนัง | 130 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2021 |
ทีมถ่ายทำสารคดีเลือกที่จะถ่ายทอดวิถีชีวิตของหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในภาคอีสานที่นับถือ ย่าบาหยัน กันมาอย่างยาวนาน โดยมี ป้านิ่ม ทำหน้าที่เป็นร่างทรงก้วยศรัทธาอันแรงกล้า และมีความเชื่อกันว่าในแต่ละรุ่นจะต้องมีลูกหลานผู้หญิงหนึ่งคนรับขันธ์เป็นร่างทรง และ มิ้ง หลานสาวเพียงคนเดียวในตระกูลก็ดูเป็นไปได้มากที่สุดที่จะต้องเป็นทายาทคนต่อไป แต่เรื่องราวกลับเริ่มวุ่นวายมากขึ้นเมื่อตัวมิ้งเองต่อต้านและไม่ยอมรับเป็นร่างทรงจนเริ่มสติแตก บวกกับป้านิ่มที่ล่วงรู้ความลับบางอย่างและชิงจากไปก่อนที่จะได้เปิดเผยความจริง ขณะเดียวกัน ป้าน้อย แม่ของมิ้งเริ่มมีอาการประหลาดขึ้นทุกทีหลังต้องจำใจรับขันธ์เป็นร่างทรง และเหตุการณ์ก็เลวร้ายถึงขีดสุดเมื่อมิ้งและแม่โดนผีเข้าพร้อม ๆ กันโดยที่ไม่รู้เลยว่าจริง ๆ แล้วย่าบาหยันสิงสู่อยู่ในตัวของใครกันแน่

หนังเรื่องนี้ตั้งใจถ่ายทอดออกมาในแนวหนัง found footage ที่เล่นกับความเชื่อและศาสนาผีที่มีการนับถือกันมาอย่างยาวนาน ในช่วงแรกหนังเลือกที่จะถ่ายทอดเรื่องราวของป้านิ่มที่เป็นร่างทรงด้วยความศรัทธาที่เต็มเปี่ยมและปฏิบัติตัวตามหลักและกฏเกณ์ของของการเป็นร่างทรงอย่างเคร่งครัด และครึ่งหลังถ่ายทอดเรื่องราวของมิ้งที่ไม่เคยเชื่อและนับถือย่าบาหยันเลยสักครั้ง โดยที่ความขัดแย้งของทั้งคู่และปมหลังของตระกูลทำให้เราตั้งคำถามว่าสิ่งที่ป้านิ่มทำมาตลอดคือความศรัทธาหรืองมงายไปเอง ตกลงแล้วมิ้งโดนอะไรเข้าสิง? หรือจริง ๆ แล้วย่าบาหยันเป็นผีฝ่ายดีหรือฝ่ายร้าย? และอีกหลาย ๆ คำถามที่ไม่มีคำตอบและตอนจบแบบปลายเปิดสุด ๆ ทำให้เราต้องกลับมาดูซ้ำอีกหลายรอบเลยค่ะ
4. A Quiet Place (ดินแดนไร้เสียง)
ประเภท | Horror / Drama |
---|---|
ผู้กำกับ | John Krasinski |
นักแสดงนำ | Emily Blunt, John Krasinski, Noah Jupe และ Millicent Simmonds |
ความยาวหนัง | 90 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2018 |
หลังโลกมนุษย์โดนบุกโจมตีจากปีศาจร้าย ครอบครัวแอ็บบอตต์ ที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกต้องใช้ชีวิตให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเอาชีวิตรอด พวกเขาต้องใช้ภาษามือในการสื่อสารและเดินบนแพทเทิร์นเดิม ๆ ที่สร้างไว้ เพราะเสียงฝีเท้าหรือเสียงกระซิบเพียงเล็กน้อยก็ดังพอที่จะทำให้ปีศาจร้ายบุกจู่โจมพวกเข้าได้แล้ว แต่แล้ววันหนึ่งพวกเขาก็สูญเสียลูกชายคนเล็กไปจากความไร้เดียงสาของเด็กน้อย เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ทั้งครอบครัวตกอยู่ในความเศร้าเสียใจ ต่างฝ่ายต่างโทษความสะเพร่าของตัวเอง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ลี ก็ต้องพยายามประคับประคองครอบครัวที่เหลือให้มีชีวิตรอดเพราะ เอฟเวอลีน กำลังตั้งท้องและใกล้จะคลอดเต็มที และวันตัดสินชะตากรรมของครอบครัวแอ็บบอตต์ก็มาถึงเมื่อวันที่พวกเขาโดนปีศาจไล่ล่าดันเป็นวันเดียวกันกับกำหนดการคลอดของเอฟเวอลีน

เราขอยกให้ A Quiet Place เป็นหนังสยองขวัญที่เราชอบมากที่สุดเลยค่ะ ตัวหนังไม่ได้มีฉากใช้ความรุนแรงหรือการฆาตกรรมที่ดูน่ากลัว ทั้งเรื่องมีแค่มนุษย์ 4 คน, ปีศาจ และความเงียบ ไม่มีแม้แต่บทพูดหรือเสียงของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น แต่ทุกฉากทุกตอนกลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและกดดันจนเราเผลอกลั้นหายใจไปหลายรอบ ปมปัญหาของตัวละครแต่ละตัวยิ่งช่วยให้หนังดูสนุกและน่าติดตามทุกวินาที จุดพีคของหนังอยู่ที่ตัวของลูกสาวและซีนทำคลอดที่ทั้งลุ้นและอึดอัดจนแทบจะขาดใจ
5. Terrifier (อิหนูกูจะฆ่ามึง)
ประเภท | Slasher / Horror / Thriller |
---|---|
ผู้กำกับ | Damien Leone |
นักแสดงนำ | Jenna Kanell, Samantha Scaffidi, David Howard Thornton และ Catherine Corcoran |
ความยาวหนัง | 86 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2016 |
หลังสนุกสุดเหวี่ยงกับปาร์ตี้ในคืนฮาโลวีน ทาร่า และ ดอว์น แวะทานมื้อค่ำในร้านริมทางและโดนตัวตลกคนหนึ่งตามเข้าไปในร้านพิซซ่าจากความคึกคะนองและความเมาของดอว์น ทาร่ารู้สึกไม่ดีสู้ดีนักเลยขอให้พนักงานไล่เขาออกไป หลังจากทั้งคู่ออกมาจากร้านก็พบว่ารถของเธอไม่สามารถขับต่อไปได้ ทาร่าจึงโทรเรียกน้องสาวมารับและปลีกออกไปทำธุระส่วนตัว ทิ้งให้ดอว์นรออยู่ที่รถคนเดียวพร้อมกับข่าวฆาตกรรมภายในร้านพิซซ่าที่พวกเธอพวกเธอพึ่งออกมา โดยที่ไม่รู้เลยว่าพวกเธอกำลังเป็นเหยื่อรายต่อไป

หนังที่โหดและและชวนสะอิดสะเอียนมากที่สุด ขอเตือนก่อนเลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่เหมาะกับคนที่กลัวเลือด, ของมีคม และความรุนแรง เพราะตลอดทั้งเรื่องจะมีฉากแทง, สับ, หั่น และเลื่อยแบบเน้น ๆ ไม่มีเซนเซอร์เลยแม้แต่น้อย แต่ละฉากจะเผยให้เห็นถึงวิธีจัดการกับเหยื่อของฆาตกรแบบละเอียดถึงชิ้นเนื้อ ในส่วนของเนื้อหาของหนังไม่ได้สลับซับซ้อนเลยค่ะ เดาเนื้อเรื่องง่ายและมีการล้อเลียนหนัง slasher เรื่องอื่น ๆ พอสมควร ขอสปอยล์อีกนิดนึงว่าหนังภาคต่อที่เพิ่งเข้าฉายฝั่งอเมริกานี่ทำเอาหลายคนถึงกับอ้วกพุ่งเลยทีเดียว ดังนั้นใครคิดจะลองของเรื่องนี้นี่ต้องจิตแข็งพอสมควร
6. The Taking of Deborah Logan (หลอนจิตปริศนา)
ประเภท | Horror / Thriller / Mystery |
---|---|
ผู้กำกับ | Adam Robitel |
นักแสดงนำ | Jill Larson, Anne Ramsay, Michelle Ang และ Ryan Cutrona |
ความยาวหนัง | 90 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2014 |
เรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาที่จะต้องเข้าไปถ่ายทำชีวิตของ คุณยายเดโบร่า โลแกน ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์โดยมี ซาร่าห์ โลแกน ลูกสาวเพียงคนเดียวเป็นคนประสานงานและอำนวยความสะดวกต่าง ๆ คุณยายมีสภาพเหมือนผู้ป่วยชราทั่ว ๆ ไป ผิวหนังเหี่ยวย่นและเรี่ยวแรงหดหายไปตามกาลเวลา แต่ มีอา หนึ่งในกลุ่มนักศึกษาพบว่าคุณยายเริ่มมีพฤติกรรมแปลกขึ้นเรื่อย ๆ กลุ่มของพวกเธอและซาร่าจึงพยายามสืบหาความจริงและความลับที่คุณยายปกปิดไว้ โดยที่ไม่รู้เลยว่าความอยากรู้อยากเห็นจะนำพาพวกเขาไปพบเจอกับความสยดสยองที่สุดในชีวิต

ใครชอบดูหนังสยองขวัญแนว found footage จะต้องชอบหนังเรื่องนี้แน่นอนค่ะ เพราะแทบจะทั้งเรื่องจะเป็นฉากที่มาจากกล้องวงจรปิดและวิดีโอที่มาจากกล้องถ่ายรูป บวกกับการถ่ายในสภาวะแสงน้อย ๆ ดูมืด ๆ มัว ๆ ก็ยิ่งทำให้จินตนาการของเราเตลิดไปอีกหลายขั้น รวมไปถึงพฤติกรรมของคุณยายเดโบร่านี่บอกเลยว่าจิตหลุดและโคตรจะหลอนสุด ๆ แต่ซีนที่หลอนและติดตามสุด ๆ เราต้องขอยกให้ฉากเขมือบหัวเด็กที่เป็นไวรัลมาจนถึงปัจจุบันค่ะ
ซีรีส์สยองขวัญ
1. The Midnight Club (ชมรมสยองขวัญเที่ยงคืน)
ประเภท | Horror / Mystery / Thriller |
---|---|
ผู้กำกับ | Mike Flanagan และ Leah Fong |
นักแสดงนำ | Iman Benson, Igby Rigney, Ruth Codd และ Annarah Cymone |
ความยาวหนัง | 1 ซีซั่น (10 ตอน) |
ปีที่ออกอากาศ | 2022 |
อีลองก้า เด็กสาวมัธยมปลายต้องเข้ารักษาตัวที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วย ‘ไบรท์คลิฟฟ์’ เพื่อรักษาโรคมะเร็งไทรอยด์ระยะสุดท้ายที่กำลังกัดกินอนาคตอันแสนยาวไกลของเธอ ที่นั่นเธอได้พบกับ เควิน, แซนดร้า, อันยา, เชอรี, สเปนเซอร์, อาเมซ และ นัทซึกิ กลุ่มวัยรุ่นที่พักอาศัยอยู่ก่อนหน้าแล้ว และจากการที่อีลองก้าเป็นรูมเมทของอันยาก็ทำให้เธอกลายเป็นน้องใหม่ไม่ได้รับเขิญของ ชมรมเที่ยงคืน ที่พวกเขาจะมารวมตัวกันเล่าเรื่องราวน่ากลัว และกฏข้อเดียวของชมรมนี้ก็คือใครก็ตามที่ชิงจากไปก่อนจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อกลับมาเล่าชีวิตหลังความตายให้เพื่อน ๆ ที่เหลือฟัง ขณะเดียวกันพวกเขาก็เริ่มขุดคุ้ยประวัติของไบรท์คลิฟฟ์และเจอเข้ากับความลับและพิธีกรรมประหลาดที่อาจจะทำให้พวกเขาเดินทางไปโลกหลังความตายพร้อม ๆ กันโดยไม่รู้ตัว

ซีรีส์สยองขวัญเรื่องใหม่จาก NETFLIX ที่ได้รับการบันทึกจาก Guiness World Records ให้เป็นซีรีส์ที่มีฉาก Jump Scare มากที่สุดในหนึ่งตอน (21 ซีน) แต่ถึงอย่างนั้นก็มีเพียงแค่ตอนเดียวเท่านั้นค่ะ อีก 9 ตอนที่เหลือค่อยข้างที่จะปกติธรรมดาไม่ได้น่ากลัวมากนัก ส่วนเนื้อเรื่องไม่ค่อยจะมีความสยองขวัญเพราะจุดที่น่าสนใจจะอยู่ที่การสืบหาความจริงและความลับของไบรท์คลิฟฟ์ซะมากกว่า และด้วยความที่ซีรีส์แต่ละตอนจะถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของเรื่องเล่าจากตัวละครหลักทำให้บทพูดค่อนข้างเยอะ (มาก) คนที่ไม่ถูกกับหนังแนวนี้อาจจะรู้สึกเบื่อพอประมาณ แต่ถึงอย่างนั้น The Midnight Club ก็ยังเป็นซีรีส์ที่เราเชียร์ให้ทุกคนลองดู เพราะนอกจากความขนลุกแล้วเนื้อเรื่องยังสอดแทรกปรัชญาเกี่ยวกับชีวิตและความตายเอาไว้ด้วย
2. Dahmer – Monster: The Jeffrey Dahmer Story (ปีศาจ: เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์)
ประเภท | Biographical Drama / Thriller / Crime |
---|---|
ผู้กำกับ | Ryan Murphy และ Ian Brennan |
นักแสดงนำ | Evan Peters, Richard Jenkins, Molly Ringwald, Niecy Nash และ Michael Learned |
ความยาวหนัง | 1 ซีซั่น (10 ตอน) |
ปีที่ออกอากาศ | 2022 |
เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ ชายหนุ่มผิวขาวหน้าตาดีถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองมิลวอกี, สหรัฐอเมริกา จากการตรวจสอบอพาร์ทเม้นต์อย่างละเอียดก็ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตกอยู่ในความเงียบยาวนานหลายนาทีกับชิ้นส่วนมนุษย์และหลักฐานการฆาตกรรมที่กระจัดกระจายเต็มห้องพักของเขา ดาห์เมอร์ถูกตั้งข้อหาทารุณกรรม, ฆาตรกรรม และล่วงละเมิดทางเพศทันที การสืบสวนและเปิดโปงชีวิตฆาตกรโรคจิตเริ่มต้นขึ้นโดยมีเหยื่อถึง 17 คนที่ต้องใช้เวลาย้อนกลับไปนานกว่า 13 ปีที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมทารุณ

ซีรีส์กึ่งชีวประวัติที่สร้างมาจากคดีที่โก่งดังไปทั่วโลก ตัวซีรีส์ไม่ได้เน้นหนักไปทางคดีฆาตกรรมแต่กลับชักชวนให้เราทำความรู้จักกับตัวตนของดาห์เมอร์ทีละเล็กทีละน้อย ทำให้เราตระหนักได้ว่าจริง ๆ แล้วสิ่งที่ทำให้เขากลายมาเป็นฆาตกรโรคจิตคือความรุนแรงภายในครอบครัวที่เขาเห็นจนชินตาตั้งแต่เด็กจนโต ส่งผลให้เขาขาดความอบอุ่นและต้องการความรักอย่างรุนแรง รวมไปถึงช่องว่างทางกฏหมายและการเหยียดสีผิวที่ทำให้คนผิวดำและชาวเอเชียกลายมาเป็นผู้เคราะห์ร้ายและเป็นที่ระบายอารมณ์
3. ลองของ The Series
ประเภท | Horror / Thriller |
---|---|
ผู้กำกับ | พุฒิพงศ์ สายศรีแก้ว |
นักแสดงนำ | ธิชา วงศ์ทิพย์กานนท์, พรนับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์, พงศภัทร์ กันคำ และ เพียวรินทร์ กอศิริวลานนท์ |
ความยาวหนัง | 1 ซีซั่น (8 ตอน) |
ปีที่ออกอากาศ | 2020 |
เรื่องราวความหลอนเริ่มต้นขึ้นหลังมีคลิปหลุดของหนึ่งในกลุ่มเชียร์ลีดเดอร์ตัวท็อปของมหาลัย และคนที่ตกเป็นเป้าหมายและน่าสงสัยมากที่สุดตือ แพรวา สตาฟฟ์ของทีมเชียร์ลีดเดอร์ เธอต้องทนกับการบูลลี่และกลั่นแกล้งสารพัดจากการเข้าใจผิดของคนอื่น ๆ รวมไปถึงเธอโดนทำของใส่โดยที่ยังหาสาเหตุและต้นตอไม่ได้ แพรวาจึงต้องหลบไปรักษาตัวและเรียนรู้อวิชาบางอย่างเพื่อกลับมาแก้แค้นทุกคนที่เคยทำให้เธอเจ็บช้ำไปทั้งกายและใจ และการกลับมาของเธอในครั้งนี้ก็ทำให้ความลับบางอย่างถูกเปิดเผยมากขึ้นเรื่อย ๆ

หากใครเป็นแฟนหนังสยองขวัญสุดโหดอย่างลองของเราแนะนำให้ดูซีรีส์เรื่องนี้เลยค่ะ เป็นลองของเวอร์ชั่นใหม่ที่มีความเป็นวัยรุ่นกว่ามาก เนื้อเรื่องดำเนินค่อนข้างเร็วไม่น่าเบื่อสักเท่าไหร่นัก ถึงแม้ว่าตัวของแพรวาจะไม่โหดและน่ากลัวเท่าครูพะนอแต่ก็ทำออกมาได้ดี รวมไปถึงปมปัญหาของตัวละครก็ได้ไม่ซับซ้อนสักเท่าไหร่ เน้นขายซีนทำของและอวิชาต่าง ๆ ที่ดูน่ากลัวและทำให้เรารู้สึกหวาดระแวงได้ไม่น้อยเลย
4. Kingdom (ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เลือด)
ประเภท | Horror / Thriller / Historical period |
---|---|
ผู้กำกับ | Kim Seong-hun |
นักแสดงนำ | Ju Ji-hoon, Ryu Seung-ryong, Bae Doo-na และ Kim Sang-ho |
ความยาวหนัง | 2 ซีซั่น (ซีซั่นละ 6 ตอน + 1 ตอนพิเศษ) |
ปีที่ออกอากาศ | 2019 |
เรื่องราวเกิดขึ้นในสมัยโชซอน เสนาบดีโจฮักจู และ พระราชินีโจ สองพ่อลูกร่วมมือกันปกปิดการสิ้นพระชนม์ของพระราชาเพื่อหวังให้บุตรที่อยู่ในครรภ์ของพระราชินีคลอดออกมาและมีสิทธิ์สูงสุดในการครอบครองบัลลังก์ องค์รัชทายาทลีชาง รู้สึกได้ถึงความผิดปกติจึงลักลอบเข้าไปสืบจนรู้ความจริง และเจอเข้ากับเงาของสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ภายในราชวัง พระองค์และ มูยอง ทหารคนสนิทจึงเดินทางออกตามหาหมอหลวงคนสุดท้ายที่ได้เข้าเฝ้าพระราชาเพื่อสืบหาความจริง แต่เมื่อไปถึงบ้านของหมอหลวงกลับพบกับศพจำนวนมากที่ถูกซ่อนอยู่ภายในในใต้ถุนบ้าน และพวกเขาก็ได้รู้ความจริงจาก ซอบี ผู้ช่วยหมอหลวงบอกว่าร่างเหล่านี้จะกลับมามีชีวิตอีกครั้งหลังพระอาทิตย์ตกดิน พวกเขาทั้ง 3 คนจึงตกลงเดินเข้าหาความจริงที่สยดสยองและน่ากลัวเพื่อหวังหายามารักษาประชาชน ขณะเดียวกันเสนาบดีโจฮักจูเองก็พยายามขัดขวางพวกเขาอย่างไร้ความปราณีราวกับไม่ใช่มนุษย์

ถ้าจะพูดถึงซอมซี้บี้เอเชีย ความสมจริงโปรดักชั่นพันล้านคงต้องยกให้กับประเทศเกาหลี สำหรับ Kingdom จะเป็นการเล่าเรื่องย้อนกลับไปในช่วงเวลาหนึ่งในสมัยโชซอน หนังเรื่องนี้มีอารมณ์ที่ค่อนข้างจะหลากหลายไม่ว่าจะเป็นดราม่า, สยองขวัญ และการเมือง รวมไปถึงมีการรวมรวบนักแสดงฝีมือดีเอาไว้อย่างคับคั่ง เรียกว่าเป็นซีรีส์สยองขวัญอีกหนึ่งเรื่องที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ รับรองว่าคุณจะไม่รู้สึกเสียดายเวลาเลยแม้แต่น้อยตลอดการรับชมค่ะ
5. Salem (ล่าแม่มด)
ประเภท | Supernatural / Horror / Thriller / Drama |
---|---|
ผู้กำกับ | Brannon Braga และ Adam Simon |
นักแสดงนำ | Janet Montgomery, Shane West, Seth Gabel, Tamzin Merchant และ Ashley Madekwe |
ความยาวหนัง | 3 ซีซั่น (13 ตอน, 13 ตอน และ 10 ตอนตามลำดับ) |
ปีที่ออกอากาศ | 2014 |
ย้อนกลับไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน ในเมืองซาเล็ม, รัฐแมสสาชูเซตส์ได้เกิดเรื่องราวประหลาดขึ้น เมื่อจู่ ๆ ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกรีดร้องและพูดศัพท์แปลก ๆ ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนพร้อมกับร่างที่ชักกระตุกอย่างรุนแรง เธออธิบายว่าเหมือนมีเข็มนับสิบ ๆ เล่มปักไปทั่วทั้งร่างและทำให้เธอรู้สึกทรมาณเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นไม่นานก็มีเด็กผู้หญิงอีกหลายคนที่มีอาการคล้ายคลึงกันและสร้างความหวาดกลัวให้ผู้คนในเมืองเป็นอย่างมาก เหล่าบรรดาผู้นำจึงสรุปว่าพวกเธอนั้นโดนคำสาปของแม่มด ปฏิบัติการล่าแม่มดเริ่มต้นขึ้นจากคำให้การของเด็กสาวทำให้มีผู้ต้องหาว่าร้อยคน บ้างโดนกลั่นแกล้ง, บ้างโดนซัดทอด, บ้างโดนหักหลัง ทั้งหมดต้องเดินทางไปสู่จุดจบเดียวกันโดยที่ไม่รู้เลยว่าแม่มดตัวจริงกำลังยิ้มเยาะและชักใยอยู่เบื้องหลัง

เอาเหตุการณ์ล่าแม่มดที่เคยเกิดขึ้นจริงในศตวรรษที่ 17 ถูกนำกลับมาถ่ายทอดอีกครั้งผ่านซีรีส์ฟอร์มยักษ์จากค่าย WGN America ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบเรื่องราวไสยศาสตร์และประวัติศาสตร์มากเป็นพิเศษค่ะ เพราะดีเทลของทั้งบท, โลเคชั่น, ฉาก และคอสตูมค่อนข้างที่จะละเอียด เนื้อเรื่องเดินช้า ๆ เน้นให้ดราทำความเข้าใจเรื่องราวไปทีละนิด แต่บอกเลยว่าฉากไล่ล่า, ฉากทรมาณ, บทลงโทษแม่มด และฉาก jump scare จะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นปนสยดสยองจนลืมความเบื่อแน่นอน
6. American Horror Story (เรื่องสยองขวัญอเมริกัน)
ประเภท | Horror / Thriller / Drama |
---|---|
ผู้กำกับ | Ryan Murphy และ Brad Falchuk |
นักแสดงนำ | Evan Peters, Sarah Paulson, Lily Rabe, Frances Conroy และ Finn Wittrock |
ความยาวหนัง | 11 ซีซั่น (รวมทั้งหมด 115 ตอน) |
ปีที่ออกอากาศ | 2011 |

- Murder House : ความน่ากลัวเริ่มต้นขึ้นหลังจากครอบครัวหนึ่งตั้งใจจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ L.A. โดยที่ไม่รู้เลยว่าบ้านหลังใหม่ของพวกเต็มไปด้วยวิญญาณร้ายกว่าร้อยชีวิตที่กำลังรอต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่น
- Asylum : เรื่องราวความหลอนระหว่างผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ภายในสถาบันบำบัดผู้ป่วยจิตเภท เปรียบเสมือนการเอาปีศาจและสัตว์ประหลาดมารวมไว้ในที่เดียวกัน
- Coven : เรื่องราวของกลุ่มแม่มดที่ต้องออกมาเผชิญหน้าและเอาตัวรอดจากกลุ่มนักล่าแม่มดที่อยากกำจัดแม่มดให้สูญสิ้นไปจากโลกใบนี้
- Freak Show : คณะละครสัตว์สุดประหลาดที่จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอด และฆาตกรต่อเนื่องที่แฝงเข้ามาโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว
- Hotel : โรงแรมขนาดใหญ่ที่พร้อมต้อนรับแขกทุกคนที่กำลังมองหาที่พักโดยไม่เกี่ยงว่าพวกเขาจะเป็นมนุษย์, ผี, สัตว์ประหลาด หรือปีศาจ
- Roanoke : ครอบครัวที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองหลวงไปเก็บเกี่ยวความสงบสุขที่บ้านหลังหนึ่งในชนบท แต่ดูเหมือนจะคิดผิดมหันต์เพราะบ้านหลังนั้นกลับทำให้พวกเขาต้องเจอกับเรื่องราวน่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิต
- Cult : ลัทธิประหลาดที่สร้างขึ้นมาเพื่อต่อต้านประธานาธิบดีคนใหม่และใครก็ตามที่คิดต่าง รวมไปถึงผู้คนในเมืองเล็กก็เริ่มทำตัวประหลาดขึ้นทุกวัน
- Apocalypse : เหล่าแม่มดจากซีซั่น Coven ต้องร่วมมือกันต่อสู้กับกลุ่มต่อต้านพระเจ้าจากซีซั่น Murder House เพื่อป้องกันวันโลกาวินาศและปกป้องพลังที่แกร่งกล้าของ มัลลอรี่ แม่มดคนใหม่ในโคเวน
- 1984 : กลุ่มวัยรุ่นเดินทางไปเข้าค่ายฤดูร้อนที่น่าตื่นเต้นในลอสแองเจลิสโดยไม่รู้เลยว่าสถานที่ดังกล่าวเคยเกิดเหตุการณ์สังหารหมูขึ้นเมื่อ 14 ปีที่แล้ว และฆาตกรคนเดิมกำลังกลับไปหาจุดเริ่มต้นของความโหดร้ายทารุณอีกครั้ง
- Double Feature : เรื่องราวจะแบ่งออกเป็น 2 ตอน Red Tide จะเกี่ยวกับครอบครัวหนึ่งที่เดินทางมาพักร้อนที่เมืองเล็ก ๆ ชายทะเลในแมสซาชูเซตส์ แต่ยิ่งนานวันขึ้นชาวเมืองก็เริ่มดูแปลกไปและประสบการณ์หลอนที่ไม่มีวันลืมก็ได้เริ่มต้นขึ้น ส่วนตอน Death Valley จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนีกศึกษา 4 คนที่ออกเดินทางไปค่ายเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวที่เต็มไปด้วยความลับของประธานาธิบดี
- NYC : เรื่องราวเกี่ยวกับรักร่วมเพศและไวรัสลึกลับที่แพร่กระจายออกไปอย่างไร้การควบคุม รวมไปถึงเหตการณ์ลักพาตัวที่ยังไม่สามารถสืบหาต้นตอและแก้ไขได้
และทั้งหมดนี้ก็คือหนังและซีรีส์ทั้ง 12 เรื่องที่เราหยิบมาแนะนำสำหรับเทศกาลฮาโลวีนในปีนี้ค่ะ มีเรื่องโปรดของเพื่อน ๆ บ้างไหมคะ เอาจริง ๆ แล้วยุคนี้ก็ถือว่าเป็นยุคของหนัง Horror และ Slasher เลยก็ว่าได้นะคะ เพราะเท่าที่สังเกตุมาเนี่ยทั้งวงการหนังไทยและต่างประเทศผลิตหนังแนวนี้ออกมาเยอะมาก ๆ ยิ่งจากค่าย NETFLIX นี่ไม่ต้องพูดถึงเพราะมีหนังและซีรีส์แนวนี้ให้เลือกดูเต็มไปหมด ยิ่งเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีและ CG พัฒนาไปอีกหลายขั้นก็ยิ่งช่วยให้ฉากต่าง ๆ ดูสมจริงและโหดขึ้นอีกหลายระดับ เรียกว่าถูกใจคอหนัง Horror เลยค่ะ ก่อนจบบทความเราแนะนำให้ชวนเพื่อนหรือคนรักมาดูพร้อมกันจะช่วยให้บรรยากาศสนุกขึ้นเยอะเลยค่ะ อย่าลืมเตรียมป๊อปคอร์น, น้ำอัดลม, มันฝรั่งทอดกรอบ และผ้านวมอุ่น ๆ ให้พร้อมด้วยนะคะ เพราะหลังจากดูหนังแล้วเพื่อน ๆ อาจจะไม่กล้าลุกไปไหนเลยล่ะค่ะ