[รีวิว] ซีรีส์จีน จันทราอัสดง (Till The End of The Moon)

สวัสดีเพื่อน ๆ คอซีรีส์จีนทุกคนค่ะ ห่างหายกันไปสักพักกับช่วงรีวิวซีรีส์ ที่หายไปผู้เขียนไม่ได้หายไปไหนนะคะแต่เป็นเพราะว่าผู้เขียนไม่มีเวลาดูซีรีส์เลย ช่วงนี้เสพติดนิยายจีนอยากหนักค่ะ แต่สำหรับวันนี้ผู้เขียนทนกระแสไม่ไหวจริง ๆ เพราะทั้งในเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์และ Tiktok ต่างสปอยล์ซีรีส์เรื่องนี้กันสุดฤทธิ์ ผู้เขียนเลยต้องหาเวลาดูและมารีวิวให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ ทายถูกกันไหมคะว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องอะไร? ใช่แล้วค่ะซีรีส์เรื่องนี้คือซีรีส์จีนเรื่อง “จันทราอัสดง (Till The End of The Moon)” นั่นเอง จันทราอัสดงเป็นซีรีส์จีนระดับ S+ ที่หลายคนต่างรอคอยค่ะและเป็นซีรีส์ระดับ S+ เรื่องแรกในปี 2023 นี้ด้วย

ตัวซีรีส์ดัดแปลงมาจากนวนิยายในชื่อเรื่องเดียวกันค่ะ เป็นผลงานการเขียนของ “เถิงหลัวเหวยจือ” นิยายมีทั้งหมด 4 เล่มจบ สำนักพิมพ์แจ่มใสได้แปลและวางขายแล้วนะคะสามารถไปหาซื้อกันได้ ขอบอกเลยว่ายอดขายของนวนิยายปังพอ ๆ กับยอดวิวของซีรีส์เลยค่ะ โดยตอนนี้ซีรีส์ก็ได้ดำเนินเรื่องไปครึ่งทางแล้วนะคะแต่กระแสยังมีดีไม่ตก ออนแอร์วันไหนเป็นอันติดเทรนด์ทั้งทวิตเตอร์และเว่ยปั๋วเลยค่ะ หากอยากรู้ว่าซีรีส์เรื่องนี้มีอะไรดีบ้างก็อย่าลืมเลื่อนอ่านให้หมดทั้งบทความด้วยนะคะ

	จันทราอัสดง : เถิงหลัวเหวยจือ
	จันทราอัสดง เล่ม 2
	จันทราอัสดง เล่ม 4
	จันทราอัสดง เล่ม 3

แผนผังตัวละครในซีรีส์เรื่อง จันทราอัสดง (Till The End of The Moon)

เรื่องย่อ จันทราอัสดง (Till The End of The Moon)

จันทราอัสดง (Till The End of The Moon) บอกเล่าเรื่องราวในตอนที่มารครองโลก จอมมารถานไถจิ้น (หลัวอวิ๋นซี) เป็นจอมมารที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความโหดร้าย ตลอดเวลาที่เขาได้ดำรงตำแหน่งเป็นจอมมาร ถานไถจิ้นได้ทำลายสำนักเซียนจนย่อยยับ เทพและเซียนต่างล้มตายเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่ายิ่งเขาเข่นฆ่าผู้คนมากเท่าไหร่พลังมารของเขายิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้เขายิ่งแข็งแกร่งไม่มีอะไรมาทำลายเขาได้ สำนักเซียวเหยาและสำนักเหิงหยางเป็น 2 สำนักเซียนสุดท้ายที่ยังคงเหลืออยู่ พวกเขาต้องการต่อสู้เพื่อปกป้องคนในใต้หล้า

วันหนึ่งถานไถจิ้นได้เดินทางมาที่สำนักเซียวเหยาเพราะเขาต้องการ “กระจกส่องอดีต” แต่สุดท้ายเขากลับไม่ได้มันมาเพราะหลีซูซู (ไป๋ลู่) ธิดาคนเดียวของเจ้าสำนักเหิงหยางมานำมันไปเสียก่อน แต่ถานไถจิ้นก็ตามนางไปเพื่อที่จะแย่งกระจกส่องอดีตแต่ตอนนั้นเลือดของหลีซูซูได้ไปกระตุ้นกระจกส่องวิญญาณ ทำให้หลีซูซูได้เห็นอดีตของจอมมารถานไถจิ้น หลีซูซูเลยต้องรีบหนีกลับสำนักเพื่อหาทางแก้ไขในเรื่องนี้ สุดท้ายแล้วทั้งเจ้าสำนักเซียวเหยาและเจ้าสำนักเหิงหยางได้สร้างค่ายกลเพื่อให้หลีซูซูย้อนกลับไปเมื่อ 500 ปีก่อนที่จะกำเนิดจอมมารถานไถจิ้น

หลังจากที่หลีซูซูย้อนเวลากลับมานางได้เข้ามาอยู่ในร่างของ “เย่ซีอู้” บุตรสาวของตระกูลเย่ที่ขึ้นชื่อว่าโหดร้ายเอาแต่ใจและเจ้าของร่างนี้ก็ยังเป็นภรรยาของถานไถจิ้นด้วย เย่ซีอู้เป็นที่รักของคนในตระกูลเย่แต่ด้วยความเอาแต่ใจทำให้นางไม่สนใจใครเลยและกลายเป็นคนที่มีจิตใจคับแคบ ในร่างเดิมเย่ซูอี้รังเกียจถานไถจิ้นและมักจะทำร้ายเขาเสมอเพราะเขาเป็นองค์ชายตัวประกันของแคว้นที่คนอื่นต่างไม่ชอบขี้หน้า ส่วนคนที่เย่ซีอู้อยากแต่งงานด้วยคือองค์ชายหกเซียวหลิ่น​ (เติ้งเหวย) แต่เขากลับชอบเย่ปิงฉาง (เฉินตูหลิง) พี่หญิงใหญ่ของนางที่เป็นแค่ลูกอนุภรรยา ความอิจฉาทำให้เย่ซีอู้กลั่นแกล้งเย่ปิงฉางอยู่บ่อยครั้งจนถึงขั้นผลักเย่ปิงฉางตกน้ำ ด้วยเหตุนี้เซียวหลิ่นจึงพาลไม่ชอบเย่ซีอู้ไปด้วย แต่เมื่อหลีซูซูมาอยู่ในร่างของเย่ซีอู้พฤติกรรมของนางก็เปลี่ยนไป นางไม่ได้สนใจองค์ชายหกอีกแต่มาตามติดถานไถจิ้นแทนเพราะต้องการรู้ว่าเขากลายเป็นจอมมารได้อย่างไร

ตลอดเวลาที่ได้อยู่ในร่างของเย่ซีอู้ ตัวของหลีซูซูได้เห็นพฤติกรรมและความโหดร้ายที่ถานไถจิ้นเคยได้รับ ทำให้นางนึกสงสารเขาและอยากปกป้องเขาไม่ให้กลายเป็นมาร แต่เรื่องนี้เป็นไปได้ยากเพราะในจิตใจของถานไถจิ้นมืดบอดไปแล้ว หนทางที่จะแก้ไขเรื่องนี้ได้คือต้องใช้หยาดน้ำตาดับวิญญาณที่ได้มาจากเต่าเทวะ แต่หยาดน้ำตาดับวิญญาณจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อถานไถจิ้นมีความรู้สึก “รัก” เพราะเมื่อถานไถจิ้นรู้สึกรักตัวหยาดน้ำตาดับวิญญาณก็จะเปลี่ยนเป็นตะปูศักดิ์สิทธิ์ 9 ดอกใช้เพื่อถอนกระดูกมารได้ แต่การทำในถานไถจิ้นรักเย่ซีอู้เป็นเรื่องที่น่าลำบากใจเพราะตอนนี้นางเองก็เริ่มหลงรักจอมมารตนนี้เสียแล้ว เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องไปดูเท่านั้นค่ะ

ข้อมูลทั่วไปของซีรีส์ จันทราอัสดง : Till The End of The Moon

ทำไมต้องดูซีรีส์เรื่องจันทราอัสดง (Till The End of The Moon)?

คำเตือน : มีสปอยล์

1. เป็นการประชันบทบาทกันอีกครั้งระหว่าง “หลัวอวิ๋นซี” และ “ไป๋ลู่” พร้อมทัพนักแสดงมากความสามารถอีกคับคั่ง

สำหรับซีรีส์เรื่องจันทราอัสดง (Till The End of The Moon) เป็นซีรีส์ที่ทำให้แฟนคลับของ “หลัวอวิ๋นซี” และ “ไป๋ลู่” ใจฟูค่ะ เพราะหลังจากที่ทั้งคู่ได้แสดงซีรีส์เรื่องครึ่งทางรักด้วยกันมาแล้ว แฟนคลับเห็นเคมีที่ดีงามของทั้งคู่เลยเรียกร้องและอยากให้พวกเขาได้กลับมาเล่นซีรีส์คู่กันอีก เมื่อได้มาเจอกันในซีรีส์เรื่องนี้กระแสเลยปังมาก ๆ ค่ะ หลังจากจบซีรีส์เรื่องนี้ผู้เขียนเองไม่แน่ใจว่าทั้งคู่จะได้โคจรมาเจอกันอีกไหมนะคะเพราะปกติแล้วจะมีโอกาสน้อยมากที่เหล่าคู่พระนางจะได้กลับมาเล่นซีรีส์คู่กันอีกครั้ง (ยกเว้นซีรีส์ภาคต่อ) ดังนั้นใครที่เป็นแฟนคลับทั้งคู่อย่าลืมติดตามซีรีส์เรื่องนี้กันให้ดี ๆ นะคะ แต่นอกจากหลัวอวิ๋นซีและไป๋ลู่ก็ยังมีนักแสดงชั้นนำอีกมากมายมาร่วมแสดงด้วย แต่วันนี้ผู้เขียนจะพาไปเจาะลึกตัวละครหลัก 4 ตัวละครกันค่ะเพราะตัวละครทั้ง 4 นี้เป็นตัวละครหลักที่ดำเนินเรื่องค่ะ

หลัวอวิ๋นซี รับบทเป็น ถานไถจิ้น/หมิงเย่/ซางจิ่วหมิน

“ถานไถจิ้น” เป็นองค์ชายสามของแคว้นจิ้งแต่ไม่มีใครนับถือเขาเป็นองค์ชายเลย ตั้งแต่เกิดมาชีวิตของเขาก็อาภัพมากเพราะตอนคลอดเขาออกมาแม่ของเขาก็ตาย พ่อก็ไม่สนใจเพราะรักแม่แต่ไม่รักลูก ถานไถจิ้นจึงใช้ชีวิตตามมีตามเกิดและมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินของเหลือจากคนอื่น ต่อมาพ่อของเขาได้ส่งเขาไปเป็นตัวประกันที่แคว้นเซิ่ง แน่นอนว่าเมื่อมาอยู่ในแคว้นเซิ่งชีวิตของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปนักเพราะเขายังคงโดนเหยียดหยามและถูกกลั่นแกล้งเหมือนเดิม ถานไถจิ้นใช้ชีวิตแบบไร้ความรู้สึกเพราะคนที่เขาไว้ใจต่างหักหลังเขาจนหมด ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้เขากลายเป็นจอมมารในอนาคต ส่วน “หมิงเย่” เป็นเทพสงครามที่เก่งกาจแต่น่าเสียดายที่เขาเกิดมาพร้อมกับกระดูกมาร สุดท้าย “ซางจิ่วหมิน” เป็นศิษย์ของสำนักเซียวเหยา บทบาททั้ง 3 บทบาทผ่านการแสดงโดยหลัวอวิ๋นซีค่ะ

แน่นอนว่าพี่ซีของเราก็ไม่ทำให้ผิดหวังค่ะและเป็นคนที่ผู้เขียนว่าเหมาะที่สุดกับบทบาทนี้ เพราะในเรื่องถานไถจิ้นต้องเป็นคนที่ผอมมากเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกและจะต้องเย็นชาแบบขั้นสุด บทบาทเหล่านี้พี่ซีทำได้ดีมาก ๆ และที่สำคัญคือเขาพากย์เสียงเองอีกแล้วค่ะทุกคน ใครที่เป็นแฟนคลับต้องห้ามพลาดนะคะ

ไป๋ลู่ รับบทเป็น หลีซูซู/เย่ซีอู้/ซางจิ่ว

“หลีซูซู” เป็นเซียนสาวบุตรสาวคนเดียวของเจ้าสำนักเซียวหยาง แต่ด้วยเหตุการณ์มารครองโลกทำให้หลีซูซูต้องย้อนกลับไปเมื่อ 500 ปีก่อน โดยนางได้ย้อนไปอยู่ในร่างของ “เย่ซีอู้” บุตรสาวสุดหวงของแม่ทัพเย่ เย่ซีอู้เป็นบุตรสาวของฮูหยินใหญ่เลยเติบโตมาด้วยความเอาแต่ใจ ถึงแม้นางจะเป็นที่รักของคนในบ้านแต่ด้วยใจคอที่โหดเหี้ยมทำให้คนอื่น ๆ ขยาดกับนิสัยของนาง ต่อมาเย่ซีอู้ได้แต่งงานกับองค์ชายตัวประกันอย่างถานไถจิ้น นางตบตีเขาเป็นประจำเพราะรังเกียจแต่เมื่อหลีซูซูมาอยู่ในร่างนี้นางต้องทำดีกับเขาเพื่อป้องกันไม่ให้เขากลายเป็นจอมมาร ส่วน “ซางจิ่ว” เป็นองค์หญิงเผ่าหอยที่หลงรักหมิงเย่ตั้งแต่แรกพบ บทบาทเหล่านี้ผ่านการแสดงโดย “ไป๋ลู่” ค่ะ แน่นอนว่าไป๋ลู่เป็นนักแสดงหญิงมากความสามารถที่แสดงเรื่องไหนก็ปังทุกเรื่อง เรื่องนี้เธอก็ไม่ทำให้เราต้องผิดหวังเพราะทั้งสายตาและแววตาที่มองออกมาทำให้เรารู้สึกคล้อยตามไปกับความโศกเศร้าของตัวละครจริง ๆ

เติ้งเหวย รับบทเป็น เซียวหลิ่น/ซางโย่ว/กงเหยี่ยจี้อู๋

“เซียวหลิ่น” เป็นองค์ชายลำดับที่หกของแคว้นเซิ่งและเป็นโอรสที่ฮ่องเต้รักมากที่สุด เซียวหลิ่นเป็นคนฉลาดและมากความสามารถ ถึงแม้ว่าเขายังไม่ได้รับตำแหน่งรัชทายาทแต่เขาก็เป็นคนที่ชาวเมืองต้องการให้รับตำแหน่งฮ่องเต้คนต่อไป เซียวหลิ่นรักเย่ปิงฉางมากและต้องการที่จะแต่งงานกับนาง “ซางโย่ว” พี่ชายของซางจิ่วรักน้องสาวมาก “กงเหยี่ยจี้อู๋” ศิษย์พี่ร่วมสำนักของหลีซูซูยอมทำทุกอย่างเพื่อให้หลีซูซูรอดชีวิต บทบาทนี้ผ่านการแสดงโดย “เติ้งเหวย” ค่ะ หลายคนอาจจะคุ้นหน้ากันดีเพราะเขาเคยแสดงซีรีส์เรื่องรักนิรันดร์ราชันย์มังกรมาแล้ว แน่นอนว่าเรื่องนี้ก็ไม่ทำให้เราต้องผิดหวังเพราะยังหล่อเหมือนเดิม ตอนเป็นองค์ชายเผ่าหอยคือหล่อมากหล่อจนผู้เขียนลืมพระเอกไปเลย

เฉินตูหลิง รับบทเป็น เย่ปิงฉาง/เทียนฮวน/โม่หนี่ว์

“เย่ปิงฉาง” เป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลเย่แต่เป็นบุตรที่เกิดจากอนุภรรยา แน่นอนว่าแม่ทัพเย่ไม่ชอบบุตรสาวคนนี้มากนัก ส่วนเย่ซีอู้ก็ไม่ได้ชอบและมักจะกลั่นแกล้งนางเป็นประจำ เย่ปิงฉางได้ถูกขนานนามว่าเป็นหญิงงามแห่งเมืองหลวงเพราะภายนอกนางมีหน้าตาที่สวยงามและดูอ่อนโยน แต่ภายในใจของเย่ปิงฉางเต็มไปด้วยความสกปรกเพราะน้อยเนื้อต่ำใจที่เป็นลูกอนุภรรยา นางเลยต้องการที่จะแต่งงานกับองค์ชายหกเซียวหลิ่นเพื่อยกระดับฐานะของตัวเอง แต่สุดท้ายได้แต่งเป็นแค่ชายารองไม่ได้เป็นชายาเอกเลยไม่พอใจ เมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นกับเซียวหลิ่นนางก็ตัดใจทิ้งเขาและหนีไปซบอกถานไถจิ้นแทน “เทียนฮวน” เป็นองค์หญิงแห่งเผ่างูเหินที่ยึดมั่นในคุณธรรมจอมปลอม นางชอบเทพสงครามหมิงเย่จึงอยากจะจัดการซางจิ่วไปให้สิ้นซาก “โม่หนี่ว์” ศิษย์พี่ของหลีซูซู (ตัวละครนี้ยังไม่ออกมาในเรื่อง อิงจากนวนิยายแต่ในนวนิยายชื่อเหยากวง) บทบาททั้งหมดผ่านการแสดงโดย “เฉินตูหลิง” ขอบอกเลยว่าเธอแสดงดีมากค่ะ แสดงดีจนผู้เขียนเกลียดและคิดว่าเธอจะต้องไปพบจิตแพทย์บ้างเพราะร้ายเกินไปเธอจะร้ายทุกภาคไม่ได้ ไม่แน่ใจค่ะว่าในภาคแดนเซียนจะร้ายไหมแต่ในนวนิยายไม่ร้ายนะคะ

2. ซีรีส์ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อดังของ “เถิงหลัวเหวยจือ”

จันทราอัสดง (Till The End of The Moon) เป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายในชื่อเดียวกันโดยเป็นผลงานการเขียนของ “เถิงหลัวเหวยจือ” ค่ะ นวนิยายมี 4 เล่มจบสามารถหาซื้ออ่านกันได้เลยค่ะเพราะสำนักพิมพ์แจ่มใสได้นำไปแปลและตีพิมพ์จำหน่ายแล้วค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผู้เขียนได้อ่านนวนิยายเรื่องนี้ก่อนมาดูซีรีส์ค่ะ ดังนั้นผู้เขียนอาจจะสลับไปสลับมาในระหว่างซีรีส์และนวนิยายบ้างเพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นความแตกต่างมากยิ่งขึ้น

หากถามว่านวนิยายอ่านยากไหมผู้เขียนตอบเลยว่ากลาง ๆ ค่ะ แต่ไม่เหมาะที่จะเป็นนวนิยายจีนเล่มแรกที่ควรอ่านเพราะอ่านแล้วจะมึนงงนิดหน่อย แต่หากใครที่อ่านนวนิยายเทพเซียนมาบ้างแล้วก็สามารถอ่านได้เลยค่ะเพราะคนที่มีประสบการณ์มาแล้วจะเข้าใจเรื่องได้ง่ายขึ้นมาก ส่วนตัวของผู้เขียนที่อ่านนวนิยายมาก่อนแล้วค่อยดูซีรีส์ก็เห็นว่าพล็อตเรื่องของซีรีส์ก็ตรงกับนวนิยายนะคะ แต่ก็มีบางจุดที่แตกต่างออกไปซึ่งตัวผู้เขียนไม่ได้ติดใจในเรื่องนี้ค่ะเพราะโครงเรื่องในซีรีส์มันทำให้เราเข้าใจเรื่องได้มากขึ้น

	จันทราอัสดง : เถิงหลัวเหวยจือ
	จันทราอัสดง เล่ม 2
	จันทราอัสดง เล่ม 4
	จันทราอัสดง เล่ม 3

ผู้เขียนขอบอกตรง ๆ เลยค่ะว่าในนวนิยายดราม่ามาก ๆ พระเอกของเราร้ายเกือบทุกตอนเลยค่ะ แต่ความร้ายของพระเอกก็มีสาเหตุและที่มาที่ไป ใครชอบนิยายขมต้นหวานปลายนิด ๆ หน่อย ๆ ก็สามารถไปอ่านกันได้ค่ะ แต่ผู้เขียนอยากแนะนำเลยว่าให้อ่าน 2 รอบค่ะและต้องอ่านอย่างละเอียดเท่านั้น เพราะหากอ่านแบบผ่านตาอาจจะพลาดฉากสำคัญของเรื่องไป สำหรับคะแนนของนวนิยายผู้เขียนขอให้คะแนน 10/10 เลยค่ะ หากใครคิดว่าดูซีรีส์แล้วไม่ต้องอ่านนวนิยายก็ได้บอกเลยว่าคิดผิดมากเพราะในนวนิยายคือปังค่ะ

3. ชวนจับตามองความสัมพันธ์ของตัวละคร

ตอนนี้ความสัมพันธ์ในโลกมนุษย์และห้วงฝันก็ได้เปิดเผยธาตุแท้ของแต่ละคนแล้วนะคะว่าใครเป็นแบบไหน ผู้เขียนเองสะใจฉากดึงใยรักออกจากเย่ปิงฉางมาก ๆ ขอชมว่าทางเรื่องทำดีกว่าในนวนิยายค่ะ เพราะในซีรีส์ตอนที่เอาใยรักออกจากร่างทุกคนได้เห็นธาตุแท้ของเย่ปิงฉางจนหมดแต่ในนวนิยายไม่ได้เห็นฉากนี้นะคะถือว่าเอาคืนแบบสะใจเลยทีเดียว แต่ความร้ายของเย่ปิงฉางยังไม่หมดเพราะใกล้จบแดนมนุษย์แล้วเรื่องราวก็เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนความสัมพันธ์ของพระนางก็เป็นความสัมพันธ์ที่อินุงตุงนังมากเพราะต่างคนต่างไม่เชื่อใจกันและกัน เข้าใจผิดกันไปมาทำให้ความเข้าใจผิดเหล่านี้เนี่ยแหละค่ะที่ไปกระตุ้นมารในใจของจอมมารอย่างถานไถจิ้น อีกทั้งยังมีภารกิจตอกตะปูศักดิ์สิทธิ์ที่หลีซูซูในร่างเย่ซีอู้ต้องทำด้วยยิ่งทำให้เรื่องราวบานปลายเข้าไปใหญ่ค่ะ

นอกจากคู่พระนางแล้วตัวละครที่น่าสงสารมากที่สุดในตอนนี้คือ “เซียวหลิ่น” ค่ะเพราะเซียวหลิ่นรักเย่ปิงฉางจริง ๆ ไม่ได้รักจากใยรักที่มีอยู่ แต่เย่ปิงฉางนางรักแต่ตัวเองและต้องการให้ตัวเองอยู่รอดเลยยืมมือถานไถจิ้นเพื่อทำร้ายเซียวหลิ่นแน่นอนว่าต้องตายค่ะ ส่วนอีกหนึ่งคู่ที่น่าจับตามองคือคู่ของจิ้งจอกเจ็ดหางเพียนหรานและเย่ชิงอวี่ค่ะ แน่นอนค่ะว่าคู่นี้หวานมาก ๆ แต่เป็นความรักต้องห้ามเพราะมารกับมนุษย์อยู่ด้วยกันไม่ได้ ผู้เขียนเองไม่รู้ว่าทางเรื่องจะทำให้จบลงในแนวไหนเหมือนกัน

4. ซีรีส์นำเสนอความดราม่าและแฟนตาซีแบบจัดเต็ม

จันทราอัสดงเป็นซีรีส์ที่ทำให้เราได้กลิ่นอายของแฟนตาซีแบบจัดเต็มค่ะ มีรูปแบบเรื่องคล้าย ๆ กับซีรีส์สามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่ สามชาติสามภพลิขิตเหนือเขนยและมธุรสหวานล้ำ ฯ เลยค่ะ ส่วนตัวแล้วผู้เขียนชอบซีรีส์แนวนี้ของจีนมาก ๆ เพราะเขาทำมาสวยและน่าดูค่ะ ส่วนความแตกต่างของซีรีส์จันทราอัสดง (Till The End of The Moon) กับซีรีส์เรื่องอื่น ๆ คือทางเรื่องได้ฉีกกฎเดิม ๆ ของซีรีส์เทพเซียนค่ะ จุดเด่นคือตัวละครในเรื่องไม่ได้ทะลุมิติมาแต่เป็นการย้อนกลับมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น การแบ่งออกเป็น 3 พาร์ทไม่ได้จำเจเพราะเป็นเรื่องที่มีที่มาที่ไปล้วน ๆ ทำให้เราดูแล้วสนุกมากขึ้น

ส่วนกลิ่นของความดราม่ามีตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนปัจจุบันเลยค่ะ เพราะตัวพระเอกเป็นร่างมารเมื่อใกล้ตายก็จะได้ไปเจอมารในห้วงความคิด จากที่กำลังจะดี ๆ แต่เมื่อโดนมารเป่าหูก็กลับไปร้ายอีกและจะสลับไปสลับมาอยู่อย่างนี้เพราะพระเอกเกิดมาก็ถูกเลือกให้เป็นมารแล้วนั่นเองค่ะ หากทุกคนถามว่าตอนไหนของซีรีส์ที่ผู้เขียนชอบมากที่ ผู้เขียนตอบเลยว่าชอบตอนห้วงฝันของหมิงเย่เพราะในห้วงฝันแฟนตาซีจัดเต็มที่สุด โรแมนติกที่สุดและดราม่าที่สุดเลยค่ะ ผู้เขียนสงสารทุกตัวละครเลยค่ะแต่สำหรับตัวละครของเทียนฮวน ผู้เขียนขอไม่พูดถึงเพราะรำคาญค่ะร้ายจนน่าหมั่นไส้มาก ๆ ในส่วนห้วงฝันนี้ทางเรื่องทำมาเหมือนนวนิยายเลยแต่ตัวละครซางโย่วพี่ชายซางจิ่วในนวนิยายต้องเป็นคนอื่น เพราะตัวละครองค์ชายหกที่เติ้งเหวยแสดงจะต้องเป็นคนที่ชอบนางเอกไม่ใช่พี่ชายค่ะ

5. ภาพ ฉาก การแต่งกายและ CG ปังมากสมน้ำสมเนื้อกับซีรีส์ระดับ S+

สิ่งที่ไม่พูดไม่ได้เกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้คือภาพ ฉาก การแต่งกายและ CG ค่ะเพราะแค่ตัวอย่างที่ออกมาก็น่าดูแล้ว เมื่อได้ดูทางซีรีส์ก็ไม่ได้ทำให้เราผิดหวังค่ะ เพราะปังคุ้มค่ากับระยะเวลา 2 ปีที่เรารอคอยค่ะ อย่างที่ผู้เขียนบอกไว้ที่ด้านบนค่ะซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ระดับ S+ เรื่องแรกของปีนี้แต่ทำไว้ดีเกินค่ะ ไม่รู้ว่าซีรีส์ระดับ S+ เรื่องต่อไปจะโค่นล้มกระแสนิยมของซีรีส์เรื่องนี้ได้ไหม จุดที่ผู้เขียนชอบมากในเรื่องคือเครื่องแต่งกายค่ะเพราะสวยมาก ๆ มีหลายชุดให้เราได้ดูเลย ในเรื่องตัวละครหลักทั้ง 4 ตัวละครจะมีบทบาททั้งในภาคโลกมนุษย์ ห้วงฝันและแดนเซียนค่ะ ดังนั้นเสื้อผ้าจะไม่ค่อยซ้ำกันเลยและมีสีสันที่สวยงามด้วย ตอนเห็นรายชื่อหัวหน้าฝ่ายคอสตูมอย่าง “หวงเวย” ผู้เขียนไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมชุดถึงปังขนาดนี้เพราะเขาเป็นฝ่ายคอสตูมมืออาชีพที่เคยทำเสื้อผ้าสุดปังในซีรีส์เรื่องสามบุปผาลิขิตฝันมาแล้วค่ะ

ส่วนอีกภาพ ฉากและ CG ก็ทำได้ดีมากค่ะ ภาพคือชัดมาก ๆ ชัดจนเราสามารถเห็นรอยสิวเสี้ยนของนักแสดงได้เลย ซึ่งในส่วนนี้ทำให้เราได้รู้ว่าทางจีนเขาไปไกลมากแล้วในเรื่องของการผลิตภาพยนตร์และซีรีส์ ส่วน CG ก็อลังการล้านเจ็ดตั้งแต่ตอนแรกเลยค่ะ ผู้เขียนเองอ้าปากค้างตั้งแต่เปิดตัวถานไถจิ้นเลยเพราะเป็น CG ที่เกินระดับ S+ ไปแล้ว หากเปรียบเทียบได้ผู้เขียนมองว่า CG ของซีรีส์เรื่องเป็นน้อง ๆ ของมาร์เวลได้เลยค่ะ แน่นอนว่าความอลังการของ CG ถือเป็นจุดขายของซีรีส์เรื่องนี้เลยเพราะเป็น CG ที่ลื่นไหล ภาพสวยและลงตัวมาก ๆ ใครที่ไม่ได้ดูถือว่าพลาดค่ะ ดังนั้นผู้เขียนเลยขอยกให้ซีรีส์เรื่องจันทราอัสดงเป็นซีรีส์จีนที่ CG ปังที่สุดในช่วงเวลานี้ค่ะ