สวัสดีเพื่อน ๆ คออนิเมะทุกคนค่ะ หลังจากที่ผู้เขียนได้รีวิวซีรีส์จีน ซีรีส์เกาหลีและอนิเมะจีนไป ในวันนี้ผู้เขียนก็ได้กลับเข้าสู่วงการอนิเมะญี่ปุ่นอีกครั้ง เพราะในวันที่ 13 เมษายน 2566 นี้ในโรงภาพยนตร์จะมีภาพยนตร์อนิเมะเรื่องใหม่เข้าฉาย นั่นคือเรื่อง “การผนึกประตูของซุซุเมะ (Suzume)” นั่นเองค่ะ ซึ่งอนิเมะเรื่องนี้เป็นผลงานของแอนิเมเตอร์ชื่อดังจากญี่ปุ่นอย่างอาจารย์ “มาโคโตะ ชินไค (Makoto Shinkai)” ค่ะ หากใครที่ชอบอนิเมะญี่ปุ่นจะต้องรู้จักอาจารย์มาโคโตะอย่างแน่นอนเพราะเขาเคยโด่งดังจากภาพยนตร์อนิเมะเรื่องหลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ (Your Name) ที่ได้กวาดรางวัลดัง ๆ ไปเพียบเลยค่ะ
วันนี้ผู้เขียนเลยจะมาย้อนรอยผลงานของอาจารย์มาโคโตะกันอีกครั้งเพื่อให้ทุกคนได้ติดตามกันค่ะ ส่วนตัวแล้วผู้เขียนเป็นแฟนคลับของอาจารย์มาโคโตะเลยค่ะ ถึงแม้จะไม่ได้ดูหมดทุกเรื่องแต่ดูไปแล้วเกินครึ่งหนึ่งของผลงานอย่างแน่นอน โดยผู้เขียนชอบดูสลับไปมากับภาพยนตร์อนิเมะของสตูดิโอจิบลิ ( (Studio Ghibli) ค่ะ ตอนนี้ก็ไปดูกันค่ะว่ามีเรื่องไหนที่น่าสนใจกันบ้าง
มาโคโตะ ชินไค (Makoto Shinkai) คือใคร ?
มาโคโตะ ชินไค (Makoto Shinkai) เป็นแอนิเมเตอร์และผู้กำกับอนิเมะชื่อดังที่คออนิเมะญี่ปุ่นจะต้องรู้จักกันดีค่ะ เขาได้เริ่มต้นอาชีพของตัวเองในโลกอนิเมะมายาวนานมากแล้วค่ะ แต่เริ่มโด่งดังขึ้นมาในปี 2002 โดยผลงานสร้างชื่อของเขามีชื่อเรื่องว่าเสียงเพรียกจากดวงดาว (Voices of Distant Star) เป็นภาพยนตร์อนิเมะสั้นที่มีความยาวเพียง 25 นาทีค่ะ ซึ่งความตั้งใจสร้างภาพยนตร์อนิเมะของมาโคโตะ ชินไคก็สัมฤทธิผลจนเขาได้รับรางวัลจากงาน Tokyo International Anime Fair ครั้งที่ 21

ถัดมาในปี 2004 มาโคโตะ ชินไคได้สร้างภาพยนตร์อนิเมะขึ้นมาอีกครั้งโดยมีชื่อเรื่องว่าเหนือเมฆา…ที่แห่งสัญญาของเรา (The Place Promised in Our Early Days) แน่นอนว่าภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้ก็ได้รางวัลอันทรงเกียรติในฐานะภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมจากงาน Mainichi Film Concours ครั้งที่ 59 เช่นเดียวกันค่ะ ความสำเร็จของมาโคโตะ ชินไคไม่เคยหยุดนิ่งเพราะในปี 2012 เขาได้รับรางวัลจากสำนักเลขาธิการแห่งรัฐของญี่ปุ่นในฐานะ “Global Envoy from Japan” โดยรางวัลนี้ได้รับหลังจากอนิเมะเรื่องเด็กสาวกับเสียงเพรียกแห่งพิภพเทพา (Children Who Chase Lost Voices)
ถัดมาในปี 2013 อนิเมะเรื่องยามสายฝนโปรยปราย (The Garden of Words) ได้รับรางวัลภาพยนตร์อนิเมะยอดเยี่ยมในประเทศเยอรมนี อีกทั้งอนิเมะเรื่องนี้ยังได้รับรางวัล Shinmai Select Prize ในปีเดียวกันด้วย ถึงแม้ว่ามาโคโตะ ชินไคจะประสบความสำเร็จจนกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังแต่เขาก็ไม่เคยหยุดพัฒนาและสร้างผลงานของตัวเอง จนในปี 2016 มาโคโตะ ชินไคก็สร้างผลงานภาพยนตร์อนิเมะอีกครั้งโดยมีชื่อเรื่องว่าหลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ (Your Name) ซึ่งอนิเมะเรื่องนี้กลายเป็นอนิเมะที่โด่งดังไปทั่วโลกจนได้รับรางวัล “อนิเมชันยอดเยี่ยมแห่งปี” และได้รับรางวัล “บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี” ภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง Your Name คือต้องให้เขาจริง ๆ ค่ะ ผู้เขียนดูซ้ำหลายรอบมากดูทุกรอบร้องไห้ทุกรอบเลยทำออกมาได้ดีจริง ๆ
สำหรับใครที่อยากติดตามผลงานของมาโคโตะ ชินไคหรือเป็นแฟนคลับของเขาก็อย่าลืมไปรับชมภาพยนตร์เรื่องล่าสุดอย่างการผนึกประตูของซุซุเมะ (Suzume no Tojimari) กันนะคะ อันที่จริงแล้วภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้เข้าฉายในญี่ปุ่นเมื่อปี 2022 แต่เริ่มมาเจาะตลาดเอเชียในช่วงปี 2023 โดยทุกคนสามารถไปดูได้ที่โรงภาพยนตร์ในวันที่ 13 เมษายน 2566 นี้ค่ะ ผู้เขียนเองก็จะไปดูภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้เหมือนกัน หากได้ดูแล้วจะมารีวิวให้ได้อ่านกันค่ะ
อนิเมะของ มาโคโตะ ชินไค (Makoto Shinkai) เรื่องไหนดี ?
1. เลือกชมภาพยนตร์อนิเมะที่ได้รับรางวัล
หากคุณเป็นคนที่ยังใหม่กับวงการอนิเมะและไม่รู้จะเลือกดูผลงานไหนดี คุณสามารถเลือกดูผลงานอนิเมะของมาโคโตะ ชินไคที่เคยได้รับรางวัลได้ค่ะ โดยทางเราได้อธิบายไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ขอบอกเลยว่านับตั้งแต่สร้างอนิเมะมาโคโตะ ชินไคมักจะได้รับรางวัลจากผลงานของเขาเสมอ แน่นอนว่าเขาไม่เพียงได้รับรางวัลแค่ในประเทศเท่านั้นแต่ยังได้รับรางวัลระดับนานาชาติอีกด้วย
- ภาพยนตร์อนิเมะเรื่องฤดูฝัน ฉันมีเธอ (Weathering with You) ที่ออกฉายในปี 2019 ได้รับรางวัล Tokyo Anime Award Festival ประจำปี 2020
- เด็กสาวกับเสียงเพรียกแห่งพิภพเทพา (Children Who Chase Lost Voice) ได้รับรางวัลในแคนาดา
- เหนือเมฆา…ที่แห่งสัญญาของเรา (The Place Promised in Our Early Days) ได้รับรางวัลในเกาหลีใต้
- ยามซากุระร่วงโรย (5 Centimeters per Second) ได้รับรางวัลในเอเชียแปซิฟิกและอิตาลี
- หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ (Your Name) ก็ได้รับรางวัลในสเปน เกาหลีใต้ และประเทศอื่น ๆ อีกมากมายค่ะ
2. เลือกชมอนิเมะตามระยะเวลาของภาพยนตร์
ตลอดเวลาที่ผ่านมามาโกโตะ ชินไคได้สร้างภาพยนตร์อนิเมะมามากมายทั้งภาพยนตร์สั้นและภาพยนตร์สารคดี ภาพยนตร์อนิเมะสั้นที่เขาทำมีหลายเรื่องค่ะแต่ละเรื่องจะมีความยาวไม่เกิน 1 ชั่วโมง ตัวอย่างภาพยนตร์สั้นที่มาโคโตะ ชินไคเคยสร้างคือภาพยนตร์เรื่อง A Gathering of Cats โดยมีความยาวเพียง 1 นาทีถือว่าเป็นภาพยนตร์อนิเมะที่สั้นที่สุดค่ะ
ในขณะเดียวกันผลงานของมาโคโตะ ชินไคก็มีภาพยนตร์สารคดีที่มีความยาวมากกว่า 1 ชั่วโมงเช่นเดียวกันค่ะ โดยเรื่องหลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ (Your Name) มีความยาว 1 ชั่วโมง 52 นาที ส่วนเรื่องเหนือเมฆา…ที่แห่งสัญญาของเรา (The Place Promised in Our Early Days) มีความยาว 1 ชั่วโมง 30 นาที
ส่วนภาพยนตร์อนิเมะในรูปแบบเฉพาะก็มีเหมือนกันคือเรื่องยามซากุระร่วงโรย (5 Centimeters per Second) ซึ่งในเรื่องจะแบ่งออกเป็น 3 องก์แต่ละองก์ในภาพยนตร์มีความยาว 22 นาทีค่ะ
ผลงานภาพยนตร์อนิเมะ ของ มาโคโตะ ชินไค
1. การผนึกประตูของซุซุเมะ (Suzume)

แนวของภาพยนตร์อนิเมะ | จินตนิมิต |
ความยาว | 122 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2022 และ 2023 (ในไทย) |
การผนึกประตูของซุซุเมะ (Suzume) เป็นภาพยนตร์อนิเมะที่กำลังจะเข้าไทยในวันที่ 13 เมษายนที่จะถึงนี้แล้วค่ะและแน่นอนว่าผู้เขียนจะต้องไปดูให้ได้ สำหรับเรื่องย่อที่จะนำมาอ่านกันเป็นข้อมูลจากเว็บไซต์ในต่างประเทศนะคะ โดยทางเรื่อง Suzume หรือชื่อเต็ม Suzume no Tojimari จะบอกเล่าเรื่องราวขอหญิงสาววัย 17 ปีที่ชื่อว่า “อิวาโตะ ซุซุเมะ” เธอสูญเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก ปัจจุบันเธอเลยอาศัยอยู่กับป้าในเมืองชนบทเล็ก ๆ ในเกาะคีวซูของประเทศญี่ปุ่น เช้าวันหนึ่งขณะที่เธอได้ปั่นจักรยานไปโรงเรียนซุซุเมะได้เจอกับชายแปลกหน้า เขาได้สอบถามเส้นทางไปบ้านร้างกลางหุบเขาและตัวเขาก็ได้อธิบายว่าเขากำลังค้นหา “ประตู” อยู่ ซุซุเมะเกิดความสงสัยแต่เพราะกำลังรีบจึงได้บอกทางกับเขาไปและรีบปั่นจักรยานต่อเพื่อไปโรงเรียน
เมื่อถึงเวลาพักกลางวันซุซุเมะก็ยังไม่สามารถสลัดความรู้สึกสงสัยที่เกิดขึ้นเมื่อเจอชายแปลกหน้าคนนั้นได้ เธอจึงตัดสินใจโดดเรียนและปั่นจักรยานขึ้นภูเขาด้วยความหวังที่ว่าจะตามหาชายหนุ่มคนนั้นให้เจอ สุดท้ายซุซุเมะก็ปั่นจักรยานมาถึงบ้านร้างและเธอก็ได้ค้นพบประตูลึกลับหนึ่งบาน ทันทีที่ซุซุเมะได้ยื่นมือไปเปิดประตู “ภัยพิบัติจากประตู” ก็ได้ปรากฏขึ้นทั่วญี่ปุ่นและเธอก็ได้เจอกับชายหนุ่มปริศนาอีกครั้ง เขาบอกกับเธอว่าเขาชื่อ “มุนาคาตะ โซตะ” ทั้งสองคนจะหาวิธีปิดประตูและหยุดภัยพิบัติที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ต้องไปติดตามกันค่ะ
สำหรับภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง Suzume no Tojimari เป็นอนิเมะที่ผู้เขียนอ่านรีวิวจากต่างประเทศมาเยอะมาก ๆ ค่ะ เพราะเป็นคนชอบอ่านสปอยล์ก่อนไปดูหนังอยู่แล้ว บอกตรง ๆ ว่าค่อนข้างคาดหวังเกี่ยวกับภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้เพราะผลงานแต่ละเรื่องของมาคาโตะ ชินไคไม่เคยทำให้ผู้เขียนต้องผิดหวัง จากรีวิวมากมายพบว่าภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้แตกต่างจากภาพยนตร์อนิเมะเรื่องก่อน ๆ ของมาคาโตะ ชินไค เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เน้นไปที่ความสัมพันธ์ที่โรแมนติกของตัวละครแต่จะทำให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตค่ะ หากผู้เขียนได้ดูแล้วจะมารีวิวฉบับเต็มกันอีกครั้งค่ะ
2. ฤดูฝัน ฉันมีเธอ (Weathering With You)

แนวของภาพยนตร์อนิเมะ | จินตนิมิต |
ความยาว | 111 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2019 |
ฤดูฝัน ฉันมีเธอ (Weathering With You) บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2020 ในตอนนั้นเป็นช่วงที่ฝนตกหนักมาก ๆ “อามาโนะ ฮินะ” หญิงสาวได้เห็นแอ่งแสงบางอย่างกลางสายฝนที่กำลังส่องไปที่ศาลบนตึกโยโยกิ ฮินะเลยตัดสินใจไปในที่นั่นจนทำให้เธอได้รับพลังวิเศษสามารถอธิษฐานให้ท้องฟ้าแจ่มใสได้ แต่นอกจากฮินะแล้วในวันนั้นชายหนุ่มที่ชื่อ “โมริชิมะ โฮดากะ” ก็ได้เห็นแสงนั้นเช่นเดียวกันแต่เขาไล่ตามแสงไม่สำเร็จ วันหนึ่งในปี 2021 โฮดากะรู้สึกเบื่อชีวิตเขาเลยหนีออกจากบ้านเพื่อไปทำตามใจตัวเองและต้องการหาแสงที่เขาเคยเห็นเมื่อปีที่แล้ว
แต่ระหว่างการเดินทางไปโตเกียวทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นไปเสียหมด โฮดากะได้เจอกับอุปสรรคมากมาย แต่โชคดีที่ชายวัยกลางคนอย่าง “สุกะ เคสึเกะ” มาช่วยเขาไว้ เคสึเกะได้ให้นามบัตรกับโฮดากะและบอกกับเขาไปว่าหากลำบากให้ติดต่อไปหาเขา โฮดากะรับน้ำใจไว้แต่ไม่ได้ติดต่อไป แต่ด้วยความลำบากอย่างหนักสุดท้ายเขาก็ต้องติดต่อเคสึเกะอยู่ดี ต่อมาโฮดากะได้งานใหม่เป็นงานผู้ช่วยเขียนวารสารเรื่องลึกลับและเขาก็ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับ “สาวเรียกฝนและสาวไล่ฝน” ว่ากันว่าสาวคนนี้มีความสามารถเรียกฟ้าเรียกฝนได้ แต่โฮดากะไม่เชื่อเท่าไหร่จนเขาได้เจอกับฮินะจริง ๆ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องไปติดตามค่ะ
ฤดูฝัน ฉันมีเธอ (Weathering With You) เป็นภาพยนตร์ที่ผู้เขียนดูแล้วแต่ขออนุญาตไม่สปอยล์ค่ะ ขอแอบกระซิบนิดหนึ่งว่าภาพในอนิเมะสวยมาก ถึงแม้ว่าจะสวยไม่เท่าหลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ (Your Name) แต่ก็ทำได้ดีค่ะ เรื่องราวเกือบทั้งหมดของภาพยนตร์อนิเมะได้บอกเล่าผ่านสภาพแวดล้อม ผู้เขียนชอบหลาย ๆ ฉากที่ทางเรื่องนำความเป็นเสมือนจริงมาใส่ไว้ในอนิเมะ โดยจะมีฉากหนึ่งที่คล้าย ๆ กับฉากไฟป่าในออสเตรเลียที่เกิดขึ้นจริงและฉากแผ่นดินไหวที่คล้ายคลึงกับแผ่นดินไหวแถวทะเลแคริบเบียนด้วย เรื่องนี้ไม่ได้เน้นความโรแมนติกมากค่ะจะเน้นสภาพแวดล้อมเป็นหลัก
3. หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ (Your Name)

แนวของภาพยนตร์อนิเมะ | โรแมนติก – แฟนตาซี |
ความยาว | 107 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2016 |
หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ (Your Name) เป็นภาพยนตร์อนิเมะที่บอกเล่าเรื่องราวของหนึ่งหญิงและหนึ่งชายที่ได้เจอกันเพราะโชคชะตา คนแรกคือเด็กสาวมัธยมปลายที่มีชื่อว่า “มิสึฮะ มิยะมิซุ” เธออาศัยอยู่ที่เมืองอิโตโมริซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในชนบท ส่วนอีกคนคือเด็กหนุ่มที่ชื่อว่า “ทะกิ ทะชิบะนะ” เขาอาศัยอยู่ที่โตเกียว ทั้งสองคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่เช้าวันหนึ่งทะกิได้ตื่นขึ้นมาในร่างของ มิสึฮะ (และมิสึฮะก็อยู่ในร่างของทะกิ) ทั้งสองคนต้องปรับตัวและต้องเดินทางไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยพร้อมกับ “เพื่อนใหม่” ที่พวกเขาไม่รู้จักกันมาก่อน
ในตอนกลางคืนพวกเขาได้กลับไปอยู่ในร่างเดิมของกันและกัน แต่ก็ได้สลับร่างกันอีกครั้งในอีกไม่กี่วันต่อมา หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น 2-3 ครั้ง พวกเขาทั้งสองคนก็หาวิธีสื่อสารกัน โดยทะกิได้ทิ้งโน้ตไว้ในสมุดโน้ตของมิตสึฮะ ส่วนมิสึฮะได้โน้ตเอาไว้ในโทรศัพท์ของทะกิ ในระหว่างที่มิสึฮะอยู่ในร่างของทะกิมิซึฮะได้วางแผนที่จะนัดเดตให้กับทากิและ “มิกิ โอคุเดระ” คนที่เขาแอบชอบมานาน ส่วนทะกิก็ยกระดับความฮอตในโรงเรียนให้กับมิซึฮะ แต่ในระหว่างนั้นทั้งคู่ก็รู้สึกได้ว่าการผลักไสอีกคนให้คนอื่นทำให้พวกเขาเจ็บปวดหัวใจ ซึ่งความรู้สึกนี้คือความรู้สึกที่เรียกว่า “รัก” ทั้งคู่เลยตัดสินใจที่จะสารภาพรักให้แก่กัน แต่เรื่องราวก็ไม่ได้ราบรื่นเพราะสุดท้ายแล้วทั้งคู่ไม่ได้สลับร่างกันอีก ในตอนนั้นมิสึฮะได้เดินทางไปโตเกียวเพื่อไปเจอทะกิ ส่วนทะกิก็เดินทางไปที่เมืองอิโตโมริเพื่อเจอกับมิสึฮะ ทั้งคู่จะได้เจอกันไหมต้องไปติดตามกันค่ะ
หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ (Your Name) เป็นภาพยนตร์อนิเมะที่ผู้เขียนดูมหลายรอบมาก ๆ ดูทุกครั้งก็ประทับใจทุกครั้ง แต่ขอบอกความรู้สึกตอนแรกที่ได้ดูก่อนว่าผู้เขียนอึ้งมาก ๆ และไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นไปในทางนั้น โดยทางเรื่องได้อ้างอิงเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในปี 2011 ของประเทศญี่ปุ่นค่ะ ภาพในอนิเมะทำออกมาสวยมาก ๆ เป็นภาพที่หลายคนจะต้องเคยเอามาตั้งเป็นหน้าจอมือถือหรือแล็ปท็อปอย่างแน่นอน ส่วนอีกเรื่องที่ทัชใจผู้เขียนมาก ๆ คือเพลงประกอบอนิเมะที่ซึ้งกินใจเป็นพิเศษ องค์ประกอบที่ลงตัวแบบนี้ผู้เขียนไม่แปลกใจเลยที่ภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้ได้รับรางวัลมากมาย
4. ยามสายฝนโปรยปราย (The Garden of Words)

แนวของภาพยนตร์อนิเมะ | โรแมนติก – ดราม่า |
ความยาว | 46 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2014 |
ยามสายฝนโปรยปราย (The Garden of Words) เป็นภาพยนตร์อนิเมะสั้นที่มีความยาวเพียง 46 นาทีค่ะ โดยทางเรื่องจะพูดถึงเด็กชายที่กำลังเรียนอยู่ขั้นมัธยมเขามีชื่อว่า “ทาคาโอะ อากิซุกิ” ทาคาโอะมีความใฝ่ฝันอย่างหนึ่งนั่นก็คือเขาอยากเป็นช่างทำรองเท้า ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจในการเรียนมากนัก วันเปิดภาคเรียนวันแรกของม.ปลายเป็นวันที่ฝนตก ทาคาโอะได้โดดเรียนไปนั่งที่ศาลาในสวนสาธารณะที่ชินจุกุ ในระหว่างที่ฝนตกเขาได้นั่งสเกตภาพรองเท้าที่ต้องการทำไปเรื่อย ๆ แต่เขาก็พบว่าไม่ใช่เขาคนเดียวที่นั่งอยู่ในศาลาแห่งนี้
เขาได้เห็นหญิงสาววัยทำงาน เธอกำลังดื่มเบียร์พร้อมกับทานช็อกโกแลต ทั้งสองไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลยในระหว่างนั้น จนสุดท้ายฝนก็ได้หยุดตกหญิงสาวได้เหลือบไปเห็นชื่อโรงเรียนในสมุดสเกตรองเท้าของเขา เธอเลยได้บอกลาเขาด้วยกลอนปริศนาแล้วเดินจากไป แต่ทั้งคู่ก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในทุก ๆ เช้าที่ฝนตก เรื่องราวปริศนาจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องไปติดตามกันค่ะ
ยามสายฝนโปรยปราย (The Garden of Words) เป็นภาพยนตร์ที่ผู้เขียนได้แต่อุทานว่า “อิหยังวะ” ตลอดทั้งเรื่องเลยค่ะ ขอบอกก่อนเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องดูแบบไม่คิดและไม่คาดหวังอะไรค่ะ แต่เป็นภาพยนตร์อนิเมะที่เหมาะกับคนที่ชอบเสพภาพสวย ๆ ของอนิเมะเพราะภาพสวยมากจริง ๆ ผู้เขียนชอบภาพบรรยากาศฝนตกมากทำออกมาสวยและโดดเด่นเลย ใครที่ได้ดูฉากวัดรองเท้าในเรื่องจะต้องจำภาพนั้นตลอดไปค่ะ โดยสวนสาธารณะที่เป็นเบื้องหลังของฉากในเรื่องคืออุทยานที่ชินจุกุจริง ๆ ค่ะ แนะนำให้ไปดูนะคะภาพยนตร์ไม่ได้นานมากดูเสร็จแล้วทุกคนจะรู้สึกเหมือนผู้เขียนอย่างแน่นอน
5. เด็กสาวกับเสียงเพรียกแห่งพิภพเทพา (Children Who Chase Lost Voices)

แนวของภาพยนตร์อนิเมะ | แฟนตาซี |
ความยาว | 116 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2011 |
เด็กสาวกับเสียงเพรียกแห่งพิภพเทพา (Children Who Chase Lost Voices) เป็นภาพยนตร์อนิเมะที่มีกลิ่นอายคล้าย ๆ กับอนิเมะของสตูดิโอจิบลิอยู่หน่อย ๆ ค่ะ โดยทางเรื่องจะบอกเล่าเรื่องราวของเด็กสาวม.ปลายอย่าง “อาสึนะ วาตาเสะ” เธออาศัยอยู่กับแม่สองคนเพราะพ่อของเธอตายจากไปนานแล้ว เวลาว่างอาสึนะชอบไปที่เขาหลังบ้าน เธอจะฟังเสียงจากวิทยุซึ่งเป็นของต่างหน้าของพ่อ ในวิทยุเธอได้ยินเสียงประหลาดแต่เธอกลับมองว่าเสียงนั้นเพราะมาก วันหนึ่งระหว่างกลับจากโรงเรียนอาสึนะได้เจอกับสัตว์ประหลาด แต่โชคดีที่ “ชุน” เด็กหนุ่มมาช่วยเธอไว้ หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกันชุนก็พาอาสึนะมาส่งที่ขาหลังบ้านและอาสึนะก็ได้เปิดเสียงประหลาดจากวิทยุให้เขาฟัง
สุดท้ายชุนก็ได้บอกอาสึนะว่าเขาไม่ใช่คนในโลกนี้แต่เขามาจากดินแดน “อการ์ธา” และเขาเดินทางมาที่นี่เพราะต้องการเจอใครบางคน ก่อนจากลากันชุนได้จุมพิตมอบ “โชค” ที่หน้าผากให้กับอาสึนะ ส่วนอาสึนะก็บอกกับเขาว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาเจอใหม่ แต่สุดท้ายในวันใหม่เธอก็ไม่ได้เจอชุนเพราะเขาตายในคืนนั้นเอง แต่อาสึนะไม่อยากเชื่อว่าเขาตาย วันหนึ่งในคาบเรียนอาจารย์ที่มาใหม่อย่าง “อ.โมริซะกิ” ได้พูดถึงดินแดนอกาธาร์ อาสึนะสนใจมากเพราะเธออยากตามหาชุนเธอเลยไปที่บ้านของอาจารย์เพื่อหาขอมูลเกี่ยวกับดินแดนลับ หลังจากหาข้อมูลมาแล้วอาสึนะก็มาที่หินหลังบ้านอีกครั้งเพื่อมาหาชุน แต่ก็ได้เจอกับ “ชิน” เด็กหนุ่มที่มีหน้าตาเหมือนซุนแทน อาสึนะได้ฟังเรื่องราวของชินเธอเลยอยากไปอการ์ธาสักครั้งเพื่อตามหาชุน ในการเดินทางครั้งนี้นอกจากเธอและชินแล้วก็ยังมีอ.โมริซะกิด้วย เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องไปติดตามค่ะ
เด็กสาวกับเสียงเพรียกแห่งพิภพเทพา (Children Who Chase Lost Voices) เป็นภาพยนตร์อนิเมะแฟนตาซีที่ผู้เขียนค่อนข้างชอบเหมือนกันค่ะ นอกจากการผจญภัยเข้าสู่ดินแดนลับของตัวละครแล้ว ผู้เขียนว่าตัวละครถ่ายทอดบทบาทมาได้เป็นอย่างดีเลย หากถามว่าภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้เหมาะกับใครก็ต้องตอบเลยว่าเหมาะกับทุกคนค่ะ ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องจะเบาไปหน่อยแต่ก็เป็นผลงานตามคุณภาพของอาจารย์มาโคโตะค่ะ
6. ยามซากุระร่วงโรย (5 Centimeters per Second)

แนวของภาพยนตร์อนิเมะ | โรแมนติก – ดราม่า |
ความยาว | 65 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2007 |
ยามซากุระร่วงโรย (5 Centimeters per Second) เป็นภาพยนตร์อนิเมะแบบ 3 องก์ของอาจารย์มาโคโตะค่ะโดยจะเล่าถึงเรื่องราวของ “ทะกะกิ โทะโนะ” และ “อะกะริ ชิโนะฮะระ” ทั้งสองเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ประถมศึกษา ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีมาก ๆ เพราะทั้งคู่มีนิสัยเหมือนกัน ทั้งทะกะกิและอะกะริได้ให้สัญญากันไว้ว่าทั้งคู่จะอยู่ชมดูซากุระด้วยกันตลอดไป แต่เมื่อจบมัธยมศึกษาตอนต้น อะกะริจำเป็นต้องไปที่อำเภออิวะฟุเนะ เพราะพ่อของเธอต้องไปทำงานที่นั่นแต่อะกะริและทะกะกิยังติดต่อกันเสมอด้วยจดหมาย
ต่อมาทะกะกิก็ต้องย้ายไปอยู่ที่เกาะทาเนงะชิมะ การเจอและส่งจดหมายของเขาทั้งคู่จึงยากขึ้นเรื่อย ๆ ทะกะกิเลยตัดสินใจว่าจะไปหาอะกะริสักครั้งเพื่อบอกกล่าวเรื่องราวนี้ให้เธอได้รับรู้ ในระหว่างนั้นทะกะกิได้เขียนจดหมายเหล่าความในใจของตัวเองเพื่อจะนำไปมอบให้อะกะริ แต่จดหมายดันปลิวไประหว่างทาง อีกทั้งหิมะยังตกหนักทำให้การเดินทางล่าช้าไปหลายชั่วโมง แต่เมื่อมาถึงสถานีทะกะกิก็พบว่าอะกะริยังรอเขาอยู่ ด้วยความคิดถึงพวกเขาได้กอดและจูบกันครั้งแรกใต้ต้นซากุระที่เหลือแค่กิ่ง ในคืนนั้นทั้งคู่คุยกันทั้งคืนและจากลากันในตอนเช้า ตอนนั้นอะกะริก็เขียนจดหมายให้ทะกะกิเหมือนกันแต่ไม่ได้ให้ หลังจากนั้นความรักทางไกลของทั้งคู่ก็เปิดฉากขึ้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องไปดูนะคะ
ยามซากุระร่วงโรย (5 Centimeters per Second) เป็นภาพยนตร์ที่ผู้เขียนจำบทพูดที่ว่า “ซากุระกลีบหนึ่งร่วงหล่นด้วยความเร็วห้าเซนติเมตรต่อวินาที” ได้อย่างขึ้นใจเลยค่ะ เมื่อมาเห็นความหมายที่อาจารย์มาโคโตะต้องการจะสื่อก็ยิ่งประทับใจไปอีก โดยอาจารย์ได้ให้สัมภาษณ์ว่าซากุระก็เหมือนกับชีวิตคนเราค่ะ เราจะมัวเอื่อยเฉื่อยไปกับทุกอย่างไม่ได้เพราะแต่ละคนมีหนทางที่ต่างกันไป ถึงแม้ว่าเราจะผูกพันกันมากแต่เมื่อเวลาผ่านไปความสัมพันธ์เหล่านั้นก็จะจางหายไปในที่สุด ถึงแม้ว่าภาพยนตร์จะใช้เวลาน้อยไปหน่อยแต่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรค่าแก่การดูซ้ำค่ะ
7. เหนือเมฆา…ที่แห่งสัญญาของเรา (The Place Promised in Our Early Days)

แนวของภาพยนตร์อนิเมะ | วิทยาศาสตร์ – โรแมนติก – ดราม่า |
ความยาว | 90 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2004 |
เหนือเมฆา…ที่แห่งสัญญาของเรา (The Place Promised in Our Early Days) เป็นภาพยนตร์อนิเมะแนววิทยาศาสตร์ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของประเทศญี่ปุ่นหลังปี 1945 ในตอนนั้นเกาะเอโซะได้ถูกสหภาพยึดครองไป ซึ่งสหภาพได้สร้างหอคอยประหลาดเอาไว้ ตัวเรื่องจะเดินเรื่องด้วยตัวละครชายสองคนและหญิงสองคน ซึ่งตัวละครฝั่งชายคือ “ฮิโรกิ ฟูจิซาวะ” และ “ทาคุยะ ชิราคาว่า” ส่วนตัวละครฝั่งหญิงมีชื่อว่า “ซายูริ ซาวาตาริ” ทั้งสามคนเป็นเพื่อนกันและชื่นชอบหอคอยที่สหภาพสร้างไว้เป็นพิเศษ
วันหนึ่งเด็กหนุ่มทั้งสองคนได้พบกับเครื่องบินโดรนของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเล ทั้งคู่อยากสร้างเครื่องบินโดรนขึ้นมาใหม่และเรื่องนี้ซายูริก็เห็ยด้วย สุดท้ายทั้งสามก็ได้สัญญาว่าวันหนึ่งจะบินเพื่อไปเยี่ยมชมหอคอย แต่วันหนึ่งในช่วงฤดูร้อนซายูริก็หายตัวไป เวลาผ่านไป 3 ปีทั้งทาคูยะและฮิโรกิก็ไม่ได้ทำงานบนเครื่องบินอีกต่อไป และการหายตัวไปของซายูริก็สร้างความทุกข์ให้กับทั้งสองคนเป็นอย่างมาก จนทำให้ทาคูยะและฮิโรกิต้องเลือกเส้นทางใหม่ แต่วันหนึ่งพวกเขาได้เจอกับซายูริอีกครั้งโดยไม่คาดคิด ซายูริหายไปไหนและเกิดอะไรขึ้นกับเธอต้องไปติดตามค่ะ
ผู้เขียนยังไม่ได้ดูเหนือเมฆา…ที่แห่งสัญญาของเรา (The Place Promised in Our Early Days) เลยค่ะ เพราะว่าไม่ค่อยชอบพล็อตเรื่องที่เป็นวิทยาศาสตร์เท่าไหร่นัก อีกทั้งในเรื่องยังมีมิติคู่ขนานเพิ่มเข้ามาด้วย แต่ภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ชอบอนิเมะแนววิทยาศาสตร์ค่ะ นอกจากวิทยาศาสตร์แล้วก็ยังมีกลิ่นอายของความโรแมนติกและดราม่าด้วยห้ามพลาดเลยค่ะ
8. เสียงเพรียกจากดวงดาว (Voices of a Distant Star)

แนวของภาพยนตร์อนิเมะ | วิทยาศาสตร์ |
ความยาว | 25 นาที |
ปีที่ออกอากาศ | 2002 |
เสียงเพรียกจากดวงดาว (Voices of a Distant Star) บอกเล่าเรื่องราวของ “นากามินะ มิคาโกะ” และ “เทราโอะ โนโบรุ” ทั้งสองคนเป็นนักเรียนมัธยมต้นปี 3 ที่ได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายที่เดียวกันแต่ ในวันนั้นมิคาโกะได้รับคัดเลือกเข้าสู่กองทัพอวกาศแห่งสหประชาชาติเพื่อต่อสู้ในสงครามกับกลุ่มของมนุษย์ต่างดาว ทำให้ตัวเธอต้องไปยังอวกาศแบบกะทันหัน เธอเลยต้องบอกลาโนโบรุก่อน โดยจุดหมายปลายทางในครั้งนี้ของมิคาโกะคือขอบเขตของวัตถุพ้นดาวเนปจูน
ในระหว่างนั้นทั้งมิคาโกะและโนโบรุยังสามารถติดต่อกันได้ แต่ทั้งคู่ไม่รู้ว่าระยะเวลาของทั้งสองคู่อยู่คนละมิติเวลา เวลาในโลกมนุษย์เดินเร็วกว่าในอวกาศ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นอย่างไรอย่าลืมไปติดตามกันนะคะ
ผู้เขียนยังไม่ได้ดูเรื่องเสียงเพรียกจากดวงดาว (Voices of a Distant Star) เหมือนกันค่ะ แต่หลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้คุ้มค่ากับระยะเวลา 25 นาทีมาก ๆ หากมีโอกาสผู้เขียนจะไปดูและมารีวิวให้ได้อ่านกันค่ะ
บทสรุป
นอกเหนือจากภาพยนตร์อนิเมะที่เราแนะนำไปแล้วยังมีภาพยนตร์สั้นอย่าง A Gathering of Cats ที่มีความยาว 1 นาที และ Someone’s Gaze ที่มีความยาว 7 นาทีด้วยเหมือนกันค่ะ ใครอยากดูก็สามารถไปดูกันได้นะคะ ผู้เขียนเองก็ยังไม่ได้ดูเหมือนกันค่ะ ก่อนจากลากันวันนี้ผู้เขียนก็มีข่าวดีสำหรับแฟนพันธุ์แท้ของอาจารย์มาโคโตะ ชินไค (Makoto Shinkai) มาบอกกันด้วย เพราะนอกจากอาจารย์มาโคโตะจะสร้างอนิเมะแล้ว อาจารย์ก็ยังมีนวนิยายด้วยค่ะ โดยนวนิยายเรื่องแรกของอาจารย์คือ 5 Centimeters per Second นวนิยายเรื่องนี้ยังได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์อนิเมะที่มีชื่อเรื่องเดียวกันอีกด้วย
ต่อมาในปี 2014 อาจารย์มาโคโตะได้เขียนนวนิยายเรื่องที่สองชื่อว่า The Garden of Words ถัดมาในปี 2016 อาจารย์มาโคโตะได้ออกนวนิยายเรื่อง Your Name ซึ่งได้รับการดัดแปลงให้แสดงบนจอเงินด้วย แน่นอนว่าการเปิดตัวนวนิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการเปิดตัวภาพยนตร์อนิเมะ ต่อจากนั้นในปี 2019 และ 2022 อาจารย์มาโคโตะได้เปิดตัวนิยาย Weathering with You และ Suzume ด้วย สำหรับคนที่ต้องการอ่านเรื่องราวที่มีความละเอียดมากกว่าในอนิเมะแนะนำให้อ่านผลงานของอาจารย์มาโคโตะในเวอร์ชันนิยายค่ะ