แนะนำ ซีรีส์ฝรั่ง ปี 2022 เรื่องไหนน่าดู

สวัสดีค่ะ วันนี้เราก็เลยได้รวบรวมและคัดสรรเอาซีรีส์ฝรั่งน่าดูในปี 2022 นี้มาฝากเพื่อน ๆ ทุกคน อยากจะบอกไว้ก่อนเลยว่าใครที่รู้สึกเบื่อ อยากหาอะไรสนุกๆ ผ่อนคลาย  หรืออยากจะพักสมองจากเรื่องงานอยู่แล้วละก็ความรู้สึกหรืออาการเหล่านี้จะหายเป็นปลิดทิ้ง เพราะว่าซีรีส์ที่เราหยิบมาในวันนี้ต่างก็ครบรสทั้งน่าตื่นเต้นเร้าใจ ลุ้นกันแบบวินาทีต่อวินาที โหด มัน ฮา ไล่ล่ากันอย่างเมามัน รวมถึงยังมีซีรีส์แนวคอมเมดี้ที่ทำเอาคุณขำกลิ้งจนปวดท้องไปเลยทีเดียว แต่ถ้าหากไม่เชื่อก็ลองไปดูซีรีส์กันแบบเต็มเรื่องดูได้ซึ่งก็รับรองได้ว่าคุณจะไม่มีทางกด pause เพื่อหยุดเข้าห้องน้ำเลยทีเดียว

1. Man vs. Bee

Man vs. Bee
Man vs. Bee
แนว คอมเมดี้
ผู้สร้าง   Rowan Atkinson, William Davies
นักแสดงนำ Rowan Atkinson
ความยาว  1 ซีซั่น 9 ตอน
ปีที่ออกอากาศ 2022

หากพูดถึงชื่อของนักแสดงนำของเรื่องอย่าง Rowan Atkinson หลาย ๆ คนก็อาจจะไม่รู้จักกันอย่างแน่นอนแต่ถ้าหากพูดว่า Mr.Bean รับรองว่าทุกคนก็จะร้องอ๋อ! ทันที ใช่แล้วค่ะเรื่องนี้ก็เป็นผลงานการแสดงของเค้าอีกเช่นเคย โดยในซีรีส์ Man vs. Bee นั้นจะเป็นเรื่องราวของ Trevor ชายผู้รับหน้าที่เป็นคนดูแลบ้านหลังใหญ่สุดหรูที่เต็มไปด้วยของมีค่าและเทคโนโลยีสุดไฮเทค แต่แล้วเรื่องวุ่น ๆ ก็เกิดขึ้นเมื่อเขาได้พบกับเจ้าผึ้งตัวแสบเจ้าปัญหานี่แหละและท้ายที่สุดแล้วเรื่องวุ่น ๆ ที่เกิดขึ้นก็ได้เลยเถิดไปจนถึงขั้นทำสงครามกันระหว่างคนกับผึ้งเลยทีเดียวซึ่งใครจะอยู่ใครจะไปก็ต้องไปติดตามกันได้ในเรื่องเลยค่ะ สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ก็ค่อนข้างมีเนื้อหาที่เบาสบาย เข้าใจง่าย และเนื้อหาเองไม่ยาวเพราะแต่ละตอนก็แค่ 10 นาทีนิด ๆ เท่านั้น ถือว่าดูเพื่อคลายเครียดได้ค่ะ


2. Sweet Tooth : สวีททูธ

Sweet Tooth : สวีททูธ
Sweet Tooth : สวีททูธ
แนว แฟนตาซี / ดราม่า
ผู้สร้าง   Jim Mickle, Beth Schwartz
นักแสดงนำ Nonso Anozie, Christian Convery, Aliza Vellani
ความยาว  1 ซีซั่น 8 ตอน
ปีที่ออกอากาศ 2021 – 2022

ขอเล่าย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่ได้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า The Great Crumble ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วมันคือการล่มสลายอย่างสมบูรณ์แบบของอารยธรรมมนุษย์นั่นเองค่ะ ซึ่งปรากฏการณ์ในครั้งนั้นถือเป็นหายนะครั้งยิ่งใหญ่ของโลก และในขณะเดียวกันมันก็ยังส่งผลให้เด็กแรกเกิดต้องกลายเป็นทารกลูกผสมระหว่างมนุษย์และสัตว์ซึ่ง Gus คือหนึ่งให้เด็กกลุ่มนั้นนั่นเอง Gus เป็นเด็กลูกครึ่งกวางที่มาพร้อมกับเขาบนหัวทั้งสองข้าง เขาอาศัยอยู่กับพ่อตามลำพังแต่แล้วเมื่อพ่อได้เสียชีวิตลงผนวกกับ Gus เองก็เริ่มเติบโตขึ้น เด็กน้อยคนนี้ก็ได้ตัดสินใจออกจากบ้านแล้วเริ่มต้นการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่เพื่อตามหาแม่และต้องการค้นหาคำตอบเกี่ยวกับโลกใบใหม่ใบนี้ รวมถึงความลึกลับที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้เบื้องหลังของต้นกำเนิดเด็กลูกผสมอย่างตัวเขาเองด้วยเช่นกัน เอาเป็นว่าใครที่จะลุ้นตามเจ้าหนูน้อยคนนี้ก็สามารถตามไปดูได้ใน Sweet Tooth เลยจ้า

สำหรับซีรีส์ Sweet Tooth ถ้าหากคุณคิดว่ามันเป็นซีรีส์สำหรับเด็กนั้นบอกได้เลยว่าคิดผิดอย่างมหันต์ค่ะเพราะถึงแม้ว่าตัวละครหลักจะเป็นเด็กน้อยที่รับบทโดย Christian Convery ก็จริง แต่เนื้อหานั้นกลับไม่ใช่อย่างนั้นน่ะสิ เพราะว่า Sweet Tooth จริง ๆ แล้วถูกดัดแปลงมาจากคอมมิก DC ที่มีเนื้อหาเข้มข้นกลมกล่อมกำลังดี ไม่หนักไปจนชวนปวดหัวและก็ไม่เบาจนเหมือนซีรีส์เด็ก ภาพสวยดูเพลินมาก ๆ แถมเจ้าหนู Christian เล่นได้ดีมาก ตีบทแตกกระจุยกระจายแล้วก็ยังน่ารักเอามาก ๆ อีกด้วย ใครที่ดูซีซั่น 1 จบไปแล้วแล้วเกิดติดใจอยากดูต่อก็มีเฮค่ะ เพราะว่าซีซั่น 2 ประกาศแล้วว่ามีต่อแน่นอนและก็ยังมีวี่แววว่าน่าจะปล่อยออกมาให้ได้ติดตามกันภายในสิ้นปีนี้หรืออาจจะภายในต้นปีหน้า ยังไงก็รอประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งนะคะ


3. Emily in Paris : เอมิลี่ในปารีส

Emily in Paris : เอมิลี่ในปารีส
Emily in Paris : เอมิลี่ในปารีส
แนว คอมเมดี้ / ดราม่า / โรแมนติก
ผู้สร้าง   Darren Star
นักแสดงนำ Lily Collins, Philippine Leroy-Beaulieu, Ashley Park
ความยาว  2 ซีซั่น 20 ตอน
ปีที่ออกอากาศ 2020 – 2022

Emily เป็นสาวน้อยอเมริกันผู้มีความทะเยอทะยานได้ถูกส่งตัวไปยังปารีสเพื่อไปช่วยทำการตลาดออนไลน์ให้กับบริษัทในฝรั่งเศสนั่นเองค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าแม่สาวน้อยคนนี้ก็แฮปปี้ดี๊ด๊ากันยกใหญ่เพราะหนึ่งเลยก็คือปารีสเป็นเมืองที่เธอใฝ่ฝันแต่แน่นอนว่าการมาจากต่างบ้านต่างเมืองและต่างวัฒนธรรมเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกับการปอกกล้วยเข้าปากแน่นอน เพราะว่า Emily นั้นจะต้องมีการปรับตัวใหม่ทั้งหมด เพื่อนเอย สังคมเอย รวมถึงสังคมที่ทำงานด้วยเช่นกันค่ะ แต่ในเรื่องก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นค่ะเพราะว่าอย่างน้อยเธอก็เจอกับเพื่อนที่น่ารักและจริงใจอย่าง Mindy และเชฟหนุ่มที่เป็นทั้งเพื่อนบ้านและเพื่อนรู้ใจสุดหล่ออย่างหนุ่ม Gabriel แต่แล้วพอนาน ๆ เข้าเรื่องราวต่าง ๆ ก็ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งเรื่องงาน เรื่องรัก และเรื่องชีวิต แล้วอย่างนี้ Emily ของเราจะก้าวผ่านอุปสรรคเหล่านี้ไปอย่างไรก็ต้องไปติดตามได้ในซีรีส์นะคะ

สำหรับใครที่หลงใหลในเสน่ห์ความสวยงามของปารีสก็ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งค่ะเพราะว่าซีรีส์เรื่องนี้ไปถ่ายทำกันถึงปารีสและยังถ่ายทำตามสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดในปารีสอีกด้วย มุมสวย ภาพดี ประกอบกับตัวละครเอกอย่าง Emily ที่มาพร้อมกับแฟชั่นสุดปังแล้วด้วยนี่จึงยิ่งเติมเต็มความเป็นแห่งแฟชั่นและศิลปะได้สมบูรณ์แบบมากเลยทีเดียว Emily in Paris ถือเป็นซีรีส์ที่มีเนื้อเรื่องที่ไม่ซับซ้อน ตัวเนื้อเรื่องเองก็ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ดราม่าไม่เยอะ ดูแล้วไม่ได้รู้สึกเครียดตาม แถมยังเป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายมีการแทรกมุกตลกหรือฉากที่สร้างรอยยิ้มตลอดเรื่อง


4. The Queen’s Gambit : เกมกระดานแห่งชีวิต

The Queen's Gambit : เกมกระดานแห่งชีวิต
The Queen’s Gambit : เกมกระดานแห่งชีวิต
แนว coming of age
ผู้สร้าง   Scott Frank, Allan Scott
นักแสดงนำ Anya Taylor-Joy, Bill Camp, Marielle Heller
ความยาว  1 ซีซั่น 7 ตอน
ปีที่ออกอากาศ 2020

The Queen’s Gambit คือซีรีส์ที่เริ่มต้นด้วยการพูดถึงเด็กผู้หญิงที่ต้องอยู่ในบ้านเด็กกำพร้าตามลำพังซึ่งเดิมทีนั้น Beth Harmon เป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัวเงียบๆ หน้าตาบูดบึ้งตลดเวลา และดูเหมือนเด็กธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้มีอะไรที่พิเศษแตกต่างไปจากเด็กคนอื่น ๆ แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้มีโอกาสเล่นหมากรุกเกมแรกกับภารโรงที่ชั้นใต้ดินของสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วจากนั้นเป็นต้นมาชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปตลอดกาล Beth ค่อย ๆ โตขึ้นและในขณะเดียวกันฝีมือการเล่นของเธอก็ค่อย ๆ แกร่งขึ้นเช่นกัน เรียกได้ว่าเธอแก้เกมได้อย่างชาญฉลาดและสามารถโค่นแชมป์เก่าได้นักต่อนัก แต่นอกจากเรื่องของการเดินเกมหมากรุกแล้วนั้น Beth ยังต้องเดินเกมชีวิตด้วยเช่นกัน ทั้งปมเรื่องของครอบครัว ความรัก และเรื่องหม่น ๆ อีกมากมายที่ถั่งโถมเข้ามาราวกับคลื่นลูกใหญ่

สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ถือเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่เสิร์ฟความรู้สึกลุ้นและความตื่นเต้นไดีดี แม้ว่าจะไม่ได้มีฉากแอ็กชันเลยก็ตาม แถมยังทำให้ผู้ชมรู้สึกเครียดและรู้สึกกังวลร่วมไปกับ Beth ในทุก ๆ การแข่งขันอีกด้วย และถึงแม้ว่าคุณอาจจะไม่ได้อินกับหมากรุกมาก่อนแต่ด้วยฉาก เพลง และอารมณ์ของนักแสดงก็สามารถทำให้เราคล้อยตามได้อย่างง่ายดาย และที่เราชอบมากอีกอย่างนั่นก็คือตัวของ Anya Taylor-Joy ที่เรื่องนี้ถือแสดงได้ดีเยี่ยม เพราะไม่ใช่แค่สีหน้าหรือคำพูดเท่านั้นแต่สายตาของเธอสามารถถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้แบบถึงพริกถึงขิง แม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไรสักคำแต่สายตาของเธอนั้นสามารถบอกเล่าความรู้สึกนึกคิดของ Beth ได้อย่างสมบูรณ์แบบ


5. Bridgerton : วังวนรัก เกมไฮโซ

Bridgerton : วังวนรัก เกมไฮโซ
Bridgerton : วังวนรัก เกมไฮโซ
แนว โรแมนติก / ดราม่า
ผู้สร้าง   Chris Van Dusen
นักแสดงนำ Adjoa Andoh, Julie Andrews, Lorraine Ashbourne, Regé-Jean Page, Phoebe Dynevor
ความยาว  2 ซีซั่น
ปีที่ออกอากาศ 2020 – 2022

Bridgerton นั้นเป็นซีรีส์ที่ถูกสร้างจากนิยายโรแมนติกของ Julia Quinn ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพี่น้องตระกูล Bridgerton ที่มีด้วยกันทั้งหมด 8 คน โดยจะถูกตั้งชื่อตามตัวอักษร A ไปจนถึง H ซึ่งในซีซั่นแรกก็จะเริ่มต้นด้วยเรื่องราวของ Daphne Bridgerton พี่สาวคนโตผู้ทรงอิทธิพลที่จะต้องตามหาคู่ครองที่เหมาะสมเพื่อให้เป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงตระกูล ส่วนซีซั่น 2 นี้ก็จะเป็นการเล่าถึงเรื่องราวการตามหาคู่ครองของพี่ใหญ่ตระกูล Bridgerton อย่าง Anthony ผู้ชายที่เพรียบพร้อม รูปหล่อ ทำงานเก่ง แต่เขาดันตั้งสเปคไว้สูงเสียดฟ้า นี่จึงทำให้การตามหาคู่ครองของ Anthony นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว

และแน่นอนค่ะว่าภายใต้เรื่องราวของความหรูหราฟูฟ่าโก้เก๋ของเหล่าไฮโซนั้นมันก็มักจะมีเรื่องราวอื้อฉาวเหม็นหึ่งให้ได้ซุบซิบกันโดยตลอดซึ่งผู้ที่ตีแผ่เรื่องพวกนี้ก็คือนักเขียนที่ใช้นามปากกา Lady Whistledown ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอนั้นคือใครกันแน่ แต่ที่รู้แน่ ๆ คือเธอนั้นรู้ลึกและรู้จริงราวว่ากับแฝงตัวอยู่ในหนึ่งสังคมไฮโซด้วยเลยทีเดียว เอาเป็นว่านอกจากจะต้องมาคอยลุ้นไปกับเรื่องการตามหารักแท้แล้วนั้นของตัวละครเอกแล้วนั้น ก็อย่าลืมที่จะตามหาตัวตนของ Lady Whistledown ด้วยนะคะทุกคน

สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างปูเรื่องมาได้ดีเลยค่ะ ไม่งง เพราะว่าในซีซั่นแรกนั้นเราจะได้คุ้นหน้าคุ้นตาไปกับนักแสดงหลัก ๆ เกือบทั้งหมด ฉากและคอสตูมคืออลังกาลล้านแปด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของคอสตูมคือแน่นสุด จัดเต็มสุด ดูแล้วคือต้องว้าว แต่ที่สำคัญอีกอย่างคือเรื่องนี้เป็นการพูดโดยการใช้สำเนียงอังกฤษแบบ British สไตล์เมืองผู้ดีอังกฤษนั่นเอง บอกได้เลยว่าฟังแล้วลื่นหูสุด ๆ บวกกับฉากเอย เพลงเอย ตัวละครเอย นี่ก็ยิ่งทำให้เราฟินสุด ๆ เลยละค่ะ


6. The Witcher : เดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร

The Witcher : เดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร
The Witcher : เดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร
แนว แอ็กชัน / ผจญภัย / ดราม่า / แฟนตาซี
ผู้สร้าง   Lauren Schmidt Hissrich
นักแสดงนำ Henry Cavill, Anya Chalotra, Freya Allan
ความยาว  2 ซีซั่น 16 ตอน
ปีที่ออกอากาศ 2019 – 2022

The Witcher คือหนึ่งใน Netflix Originals อีกหนึ่งเรื่องค่ะที่เอาใจผู้ชมหลาย ๆ คนไปเต็ม ๆ เช่นเดียวกันซึ่งซีรีส์เรื่องนี้นั้นได้อิงมาจากหนังสือจากนักเขียนฝีมือดีชาวโปแลนด์ Andrzej Sapkowski โดย The Witcher นั้นจริง ๆ แล้วก็คือมนุษย์กลายพันธ์ุที่มีทั้งพลังและความสามารถที่เหนือชั้นกว่ามนุษย์ทั่วไปนั่นเองและแน่นอนว่าพระเอกรูปหล่อกล้ามโตอย่าง Geralt นั้นก็เป็นหนึ่งใน Witcher ฝีมือดีและมีชื่อเสียงเช่นกันซึ่งโดยปกติทั่วไปแล้ว Witcher นั้นทำหน้าที่เป็นนักล่าอสูรเพื่อแลกเงินแต่แล้ววันนึงก็กลับต้องเจอเรื่องพลิกผันและนำไปสู่เรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่คุณอาจคาดไม่ถึง

เหตุผลที่ซีรีส์เรื่องนี้ติดเข้ามาอยู่หนึ่งในซีรีส์ที่น่าดูปี 2022 นี้ก็เพราะว่าซีรีส์เรื่องนี้จะนำคุณไปสู่การผจญภัยในโลกที่เกิดจินตนาการ มีฉากการต่อสู้ที่ดุเดือด และก็มีมุมน่าสงสารบ้างเล็กน้อย ซึ่งสำหรับใครที่ดูแรก ๆ และไม่ใช่คนที่อ่านหนังสือหรือติดตามเรื่องราวของ The Witcher มาก่อนก็มีเหวอเล็กน้อยคล้าย ๆ กับ Game of Thrones อย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว แต่พอดูไปสักพักก็จะเริ่มถึงบางอ้อมากขึ้นค่ะ อาจต้องใช้เวลาสักเล็กน้อยแต่รับรองได้ว่าเรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สร้างสีสันในวันที่แสนน่าเบื่อได้ดีเลยทีเดียว

สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้

7. Sex Education : เพศศึกษา (หลักสูตรเร่งรัก)

Sex Education : เพศศึกษา (หลักสูตรเร่งรัก)
Sex Education : เพศศึกษา (หลักสูตรเร่งรัก)
แนว คอมเมดี้ / ดราม่า / ละครวัยรุ่น
ผู้สร้าง   Laurie Nunn
นักแสดงนำ Asa Butterfield, Gillian Anderson, Ncuti Gatwa
ความยาว  3 ซีซั่น 24 ตอน
ปีที่ออกอากาศ 2019 – 2022

สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ก็หวังว่าทุกคนอย่าเพิ่งตัดสินกันเพียงเพราะชื่อเรื่องหรือฉากสุดสยิวจากตัวอย่างซีรีส์กันก่อนนะคะ เพราะว่าจริง ๆ แล้ว Sex Education นั้นเป็นซีรีส์ที่สะท้อนถึงเรื่องของวัยรุ่นในปัจจุบันได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเซ็กส์ที่หลาย ๆ เรื่องเองอาจยังไม่กล้าจับเรื่องนี้ออกมาตีแผ่กันมากเท่าที่ควร แต่สำหรับซีรีส์เรื่องนี้กลับนำเสนอออกมาได้อย่างน่าสนใจ เปิดเผย และทำให้เราได้เห็นว่าเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เราต้องรับรู้และต้องทำความเข้าใจที่ถูกต้อง รู้ว่าจะต้องรับมือและแก้ปัญหาอย่างไร นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องราวของความรัก ความหลากหลายทางเพศ และก็ยังสอดแทรกไปด้วยเรื่องของเพื่อน มิตรภาพ และครอบครัวด้วยเช่นเดียวกันค่ะ

ในซีซั่นแรก Otis Milburn ได้ถูกทาบทามให้เป็นผู้ให้คำปรึกษาเรื่องปัญหาทางเพศแบบลับ ๆ ในคลินิกบำบัดทางเพศที่ก่อตั้งขึ้นเองในโรงเรียน ซึ่งการที่ Otis สามารถให้คำปรึกษาเรื่องพวกนี้ได้คล่องปรื๋อราวกับมีประสบการณ์เสียเองนั้นก็เป็นเพราะว่าคุณแม่ของเขาเป็นนักบำบัดทางเพศ แต่จริง ๆ แล้วเจ้าตัวเองก็มีปัญหาเรื่องเพศเสียเองเหมือนกัน นอกจากปัญหาของ Otis แล้วก็ยังมีการกล่าวถึงปัญหาเรื่องเพศและปัญหาต่าง ๆ ของวัยรุ่นจากตัวละครตัวอื่น ๆ ด้วยเช่นกันซึ่งเนื้อเรื่องนั้นล้วนแล้วแต่มีความเกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ในปัจจุบันและยังเข้าอกเข้าใจวัยรุ่นสมัยใหม่ได้ดีเลยทีเดียว ดังนั้นแล้วก็อย่าลืมเปิดโอกาสและเปิดใจดูซีรีส์เรื่องนี้กันด้วยนะคะ


8. You : เธอ

You : เธอ
You : เธอ
แนว อาชญากรรม / ดราม่า / โรแมนติก / ระทึกขวัญ
ผู้สร้าง   Greg Berlanti, Sera Gamble
นักแสดงนำ Penn Badgley, Victoria Pedretti, Elizabeth Lail
ความยาว  3 ซีซั่น 30 ตอน
ปีที่ออกอากาศ 2018

You จะเป็นซีรีส์แนวจิตวิทยาระทึกขวัญ มีเลือด มีฉากการฆาตกรรม ฉะนั้นแล้วใครที่ไม่ชอบซีรีส์ในแนวนี้ก็ขอให้ข้ามไปเลยค่ะ ในซีซั่นแรกนั้นจะเป็นการเล่าถึง Joe Goldberg ผู้เป็นพระเอกของเรื่องและในเรื่องเขาก็เป็นผู้จัดการร้านหนังที่คลั่งรัก ที่ไม่ใช่คลั่งรักหรือแอบชอบแบบธรรมดาแต่คลั่งจนถึงขึ้นกับว่าต้องตามหาตัวตนของเธอในโซเชียล คอยติดตามเธอไปทุกที่ พยายามทำตัวให้มีตัวตนราวกับสตอล์กเกอร์อย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว แล้วยิ่งนับวันเข้าพฤติกรรมเหล่านี้ก็ยิ่งรุนแรงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนน่าขนลุก

เรื่องราวต่อจากซีซั่นแรกก็จะยังคงต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ เพราะดูเหมือนว่านาน ๆ เข้าพระเอกของเราก็ไม่เคยแผ่วลงเลยแม้แต่น้อยเพราะดูเหมือนอาการทางจิตของหนุ่ม Joe ก็น่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งนี่ก็ทำให้ดูจบแล้วรู้สึกหลอนอยู่เหมือนกันนะคะเนี่ย พระเอกเรื่องนี้อยากจะบอกเลยว่าแตกต่างจากนิยามของพระเอกขี่ม้าหาวราวฟ้ากับเหว เพราะเรื่องนี้หล่ออ่ะให้ แต่เรื่องพฤติกรรมนี้คนละขั้ว เอาเป็นว่าใครที่ชอบหนังรักสายดาร์กจิต ๆ หลอน ๆ ก็แนะนำเรื่องนี้เลยค่ะ


9. Stranger Things : สเตรนเจอร์ ธิงส์

Stranger Things : สเตรนเจอร์ ธิงส์
Stranger Things : สเตรนเจอร์ ธิงส์
แนว แนวนิยายวิทยาศาสตร์ / สยองขวัญ / ดราม่า / ไซไฟ
ผู้สร้าง   Matt Duffer, Ross Duffer
นักแสดงนำ Millie Bobby Brown, Noah Schnapp, Sadie Sink, Gaten Matarazzo, Finn Wolfhard และอื่น ๆ
ความยาว  4 ซีซั่น 34 ตอน
ปีที่ออกอากาศ 2016 – 2022

สำหรับเรื่องนี้ถ้าหากไม่พูดถึงก็คงไม่ได้แน่นอนค่ะเพราะว่าหลังจากที่ปล่อยซีซั่น 4 ออกมาครบทุกตอนก็ทำให้กระแสความแรงของ Stranger Things นั้นพุ่งสูงแบบฉุดไม่อยู่เลยทีเดียวค่ะ โดยเราก็ขอย้อนกลับไปเล่าถึงที่ไปที่มาของเรื่องนี้กันก่อนเลยแล้วกันนะคะ โดยในซีซั่น 1 นั้นอยู่ดี ๆ วิลก็หายตัวไปอย่างลึกลับ และในเวลาเดียวกันพวกเพื่อน ๆ ของวิลก็ได้พบกับสาวปริศนา พวกเขาเลยได้เรียกเธอว่าอีเลเว่นหรือแอลซึ่งก็มาพร้อมกับพลังที่เหนือธรรมชาติ และหลังจากนี้ทั้งหมดก็ได้พบกับปริศนาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบลับ ๆ ที่ชวนสงสัย สัตว์ประหลาด และ Upside Down หรือโลกคู่ขนานที่มีทุกอย่างเหมือนกับโลกมนุษย์ทั่วไป แต่บรรยากาศนั้นกลับชวนให้รู้สึกขนลุกแบบบอกไม่ถูกเลยทีเดียวค่ะ

ว่ากันว่าเมืองฮอว์กินส์ที่เป็นสถานที่เกิดเรื่องทั้งหมดนั้นเป็นเหมือนเมืองที่ต้องคำสาป เพราะสุขได้ไม่นานเดี๋ยวก็จะต้องมีเหตุการณ์แปลก ๆ เกิดขึ้นมาไม่จบไม่สิ้น โดยในตอนนี้ Stranger Things ก็ได้ปล่อย 2 ตอนสุดท้ายออกมาเรียบร้อยแล้ว ยังไงก็สามารถตามไปดูกันได้เลยค่ะ แต่ถ้าหากดูจบแล้วก็ขอประกาศข่าวร้ายต่อเลยว่า Stranger Things ซีซั่น 5 ซึ่งจะเป็นบทสรุปของทุกซีซั่นมีกำหนดฉายในอีก 2-3 ปี ดังนั้นแล้ว…ก็รอไปเลยสิคะ!


10. Game of Thrones : มหาศึกชิงบัลลังก์

Game of Thrones : มหาศึกชิงบัลลังก์
Game of Thrones : มหาศึกชิงบัลลังก์
แนว แฟนตาซี / ดราม่า / การผจญภัย / แอ็กชัน
ผู้สร้าง   David Benioff และ D. B. Weiss
นักแสดงนำ  Peter Dinklage, Lena Headey, Nikolaj Coster-Waldau, Emilia Clarke, Kit Harington, Sophie Turner, Maisie Williams, Iain Glen, Alfie Allen และอื่น ๆ
ความยาว  8 ซีซั่น 73 ตอน
ปีที่ออกอากาศ 2011 – 2019

Game of Thrones คือมหากาพย์ซีรีส์ที่พูดถึงเรื่องราวของศึกการยิ่งชิงบัลลังก์เหล็กของทั้ง 7 อาณาจักรที่เข้มข้น แต่นอกจากจะพูดถึงเรื่องราวของการต่อสู้ที่แสนดุเดือดแล้วนั้น ในเรื่องคุณก็จะได้เห็นถึงเล่ห์กล การแย่งชิงอำนาจ การเมือง การปกครอง การหักหลังเพื่อผลประโยชน์ และกิเลสที่อยู่ในใจของมนุษย์ทุกคนนั่นเองค่ะ สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนแนะนำว่าต้องดูให้ได้ เนื่องจากมีเรื่องราวที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ซับซ้อนซ่อนเงื่อน แต่ก็ไม่ยากเกินกว่าที่จะเข้าใจได้ ฉากและคอสตูมจัดเต็มอลังการงานสร้างสุด ๆ

แต่ขอเตือนไว้ก่อนค่ะว่าในช่วงแรกนั้นคุณอาจจะมีงง ๆ สับสนบ้างเล็กน้อยเพราะมาตัวละครนั้นค่อนข้างเยอะและแต่ตัวละครก็ล้วนแล้วแต่มีบทบาทในซีรีส์ด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีตัวไหนเด่นและก็ไม่มีตัวไหนด้วย ฉะนั้นแล้วอาจต้องมีการทำความรู้จักตัวละครกันสักเล็กน้อย แต่จากใจผู้ชมส่วนใหญ่แล้วแค่ 3 – 4 ตอนแรกเท่านั้นค่ะที่อาจจะเกิดอาการเบลอหรืองงสักเล็กน้อย เพราะหลังจากนั้นมันจะกลายเป็นความสนุก ความมัน และกลายเป็นว่าคุณจะติดซีรีส์เรื่องนี้แบบงอมแงมเลยทีเดียว


11. The Walking Dead : เดอะวอล์กกิงเดด

The Walking Dead : เดอะวอล์กกิงเดด
The Walking Dead : เดอะวอล์กกิงเดด
แนว ซอมบี้ / ดราม่า / สยองขวัญ
ผู้สร้าง   Frank Darabont
นักแสดงนำ Andrew Lincoln, Norman Reedus, Melissa McBride, Lauren Cohan และอื่น ๆ
ความยาว  11 ซีซัน 177 ตอน
ปีที่ออกอากาศ 2010 – 2022

สำหรับ The Walking Dead นี้ก็จะเป็นซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องค่ะที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก และในปีนี้ก็ได้เดินทางมาถึงซีซั่นสุดท้ายซึ่งก็ถือเป็นการผิดตำนาน 12 ปีอย่างเป็นทางการแล้วค่ะ โดยเรื่องราวของซีรีส์เรื่องนี้ก็จะเริ่มต้นด้วยไวรัสซอมบี้ที่แพร่ระบาดและติดเชื้ออย่างลึกลับ ซึ่งในซีซันที่หนึ่งนั้นไวรัสซอมบี้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วและทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวาย โดยผู้ที่ติดเชื้อไม่ใช่แค่จะเป็นเพียงผู้ติดเชื้อเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่พวกคนเหล่านี้ก็ยังเป็นตัวกลางในการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสปริศนาพวกนี้ออกไปด้วยเช่นกัน และแน่นอนค่ะสำหรับคนที่ยังมีลมหายใจอยู่ก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้อยู่รอดตลอดรอดฝั่งนั่นเอง

ส่วนเหตุผลหลัก ๆ ที่อยากให้ได้ดูเรื่องนี้ก็คือการที่ตัวละครจะต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดนั่นเองค่ะ นี่ก็ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะมันเป็นอะไรที่จะต้องลุ้นตลอดเวลา ลุ้นแบบไม่ต้องหายใจเลยทีเดียว ไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายอันมหาศาล การสูญเสียคนรัก การหาที่พักพิงและอาหาร และไม่เพียงเท่านั้นค่ะเพราะแต่ละตอนแต่ละซีซันก็ต้องมานั่งลุ้นกันว่าใครจะอยู่ ใครจะรอด แล้วก็ยังต้องมาช่วยตัวละครไขคำตอบของปริศนาที่เกิดขึ้นในเรื่องด้วยเช่นกัน นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ถ้าหากคุณชอบความตื่นเต้นท้าทาย ลุ้นระทึกจนหยุดไม่ได้ก็ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งค่ะ





สำหรับซีรีส์ถึงแม้ว่าในแต่ละเรื่องอาจจะต้องใช้เวลาในการติดตามรับชมที่ค่อนข้างนานกว่าพวกหนังทั่ว ๆ ไปหรือในบางเรื่องอาจจะต้องอดทนรอตอนจบหรือบทสรุปในซีซั่นต่อไปเองก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ค่ะว่าซีรีส์ก็เป็นอีกหนึ่งประเภทที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเพราะว่าซีรีส์นั้นสามารถดำเนินเนื้อเรื่องและปะติดปะต่อกันได้แบบสมจริงสมจัง ทำให้ตัวละครเติบโตมากขึ้น อีกทั้งยังสร้างความรู้สึกคุ้นเคยและความผูกพันธ์ุระหว่างตัวละครกับผู้ชมอย่างเรา ๆ ได้เป็นอย่างดี เนื้อหาก็มีความเข้มข้นทำให้เราได้ลุ้นแบบหายใจไม่ทั่วท้องซึ่งนี่ก็ไม่ต่างอะไรกับหนังเลยเช่นกันค่ะ ยิ่งถ้าหากว่าใครที่เป็นคอซีรีส์หรือชอบการดูหนังแบบยาว ๆ ก็ไม่ควรพลาดที่จะรับชมซีรีส์เป็นอย่างยิ่ง

ถ้าหากพูดถึงซีรีส์ที่มีเนื้อหาเข้มข้นและน่าสนใจแล้วนั้น นอกจากทางฝั่งของซีรีส์ฝรั่งที่เราหยิบมารีวิวในวันนี้แล้วก็มีซีรีส์แนวซอมบี้จากทั้งฝั่งเกาหลีและฝรั่งเองก็เป็นที่นิยมมาก ๆ เช่นกันค่ะ แล้วก็ยังมีซีรีส์อีกหลาย ๆ ประเภทที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์วาย, ซีรีส์จีนแนวดราม่า, ซีรีส์จีนโบราณและกำลังภายใน, ซีรีส์จีน WeTV ประจำปี 2021-2022, ซีรีส์เกาหลีที่พระเอกเป็นท่านประธาน CEO, ซีรีส์เกาหลี ปี 2021-2022, ซีรีส์เกาหลี Netflix ที่น่าดู ปี 2022, ซีรีส์เกาหลีพากย์ไทย ใน Netflix, ซีรีส์เกาหลีแนวกีฬา และอีกหลากหลายซีรีส์ให้คุณได้ติดตามกันค่ะ เอาเป็นว่าใครที่เป็นคอซีรีส์อยู่แล้วก็อย่าลืมติดตามเว็บไซต์ของเราด้วยนะคะ รับรองได้เลยว่าคุณจะไม่พลาดทุกข่าวคราวความสนุกของซีรีส์ใหม่ ๆ อย่างแน่นอนเลยทีเดียว สำหรับวันนี้เราก็ขอตัวลากันไปก่อนแล้วกับมาเจอกันใหม่ในบทความต่อไปนะคะ บ๊าย

Sunflower Lalita

Sunflower Lalita

Hi everyone! Just call me ‘Lalita’. I graduated from RUTS in the Faculty of Liberal Arts. Wish you enjoy my writing as much as I do. Be bright & shine like a sunflower!

Next Post