[รีวิว] ซีรีส์จีน เธอคือฝันหวานละมุน (You Are Desire)

สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวซีรีส์จีนทุกคนค่ะ หลังจากที่ได้รีวิวจีนกันไปเยอะมากในเดือนที่แล้วทั้งอันเล่อจ้วน หอดอกบัวลายมงคลรวมไปถึงห้วงคำนึงใจนิรันดร์ ผู้เขียนก็ไม่ได้ดูซีรีส์แนวปัจจุบันอีกเลยค่ะ เพราะมัวแต่ไปดูผู้ชายฝึกกระบี่และท่องยุทธภพอยู่ แต่เดือนนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้นค่ะเพราะผู้เขียนก็มีโอกาสได้ดูแล้วและก็ถือโอกาสมาป้ายยากันด้วย ย้ำนะคะว่ามาป้ายยาโดยเฉพาะเพราะซีรีส์เรื่องนี้น่ารักมาก ซีรีส์มีชื่อเรื่องว่า “เธอคือฝันหวานละมุน (You Are Desire)” ค่ะ แรกเริ่มซีรีส์เรื่องนี้ออกอากาศทาง Mango TV ค่ะ ผู้เขียนคิดว่าจะไม่ได้ดูซับไทยแบบดี ๆ ซะแล้วแต่โชคดีที่ True ID ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วทำให้คนไทยสามารถรับชมได้อย่างสบาย ๆ เลยค่ะและที่สำคัญคือมีพากย์ไทยด้วย

สำหรับซีรีส์เรื่องเธอคือฝันหวานละมุน (You Are Desire) เป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากนิยายจีนออนไลน์เรื่อง “Bai Ri Meng Wo (白日梦我)” ผ่านการเขียนโดย ชีเจี้ยน (栖见) ค่ะ นิยายเรื่องนี้ยังไม่ได้แปลเป็นไทยนะคะเสียดายมาก ๆ ส่วนนักแสดงนำที่มาแสดงซีรีส์คือน้องโจวอี้หรานและน้องจวงต๋าเฟยค่ะ บอกเลยว่ายังเด็กกันทั้งคู่แต่ผลงานการแสดงไม่ธรรมดาเลย ใครชอบซีรีส์แนววัยเรียนวัยเยาว์แนะนำเลยค่ะ

เรื่องย่อเธอคือฝันหวานละมุน (You Are Desire)

เธอคือฝันหวานละมุน (You Are Desire) บอกเล่าเรื่องราวของหลินอวี่จิง (จวงต๋าเฟย) เธอเกิดมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบเพราะแม่กับพ่อของเธอหย่ากัน สุดท้ายหลินอวี่จิงเลยได้อาศัยอยู่กับแม่ส่วนพ่อของเธอก็ไปมีครอบครัวใหม่ เวลาผ่านไปหลายปีหลินอวี่จิงเติบโตเป็นสาวน้อยม.ปลาย วันนั้นแม่ของเธอบอกให้เธอไปเยี่ยมพ่อที่บ้านในเมืองผู่เฉิงสัก 2 – 3 วัน หลินอวี่จิงเลยตัดสินใจไปเยี่ยมพ่อที่ต่างเมือง ในการเดินทางครั้งนั้นพ่อของเธอได้มารับพร้อมกำชับนักหนาให้เธอเรียบร้อยเข้าไว้เพราะเขาเกรงใจภรรยาใหม่ของตัวเอง พ่อของหลินอวี่จิงชื่อว่าเมิ่งเว่ยกั๋ว (อวี๋จิ่นเหวย) เขาทำงานเป็นนักเขียน ตอนที่เขาหย่ากับหลินจื่อ (เจิ้งหลี่) แม่ของหลินอวี่จิง เขาก็ได้แต่งงานใหม่กับกวนเซี่ยงเหมย (จางเหยียนเยว่) ทั้งคู่ไม่ได้มีลูกด้วยกันแต่กวนเซี่ยงเหมยมีลูกติดมาหนึ่งคนชื่อฟู่หมิงซิว (เฉินเฮ่ออี)

พ่อของหลินอวี่จิงกำชับและบ่นกับเธอไปตลอดทางแต่หลินอวี่จิงก็เบื่อที่จะฟัง เธอได้หันมองออกไปนอกหน้าต่างรถยนต์แล้วก็ได้เจอกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังขี่รถจักรยานกลางฝนพร้อมข้าวของพะรุงพะรัง เธอรู้สึกว่าเขาน่าสนใจแต่ด้วยสภาวะรถติดทำให้พ่อของหลินอวี่จิงอารมณ์เสียเลยรีบขับรถจนไปปาดหน้าชายหนุ่มที่ขี่จักรยานแน่นอนว่าชายหนุ่มคนนั้นก็ไม่ยอมเลยขี่รถปาดหน้าเขาเหมือนกัน หลินอวี่จิงมองตามและรู้สึกมีความสุขกับเหตุการณ์นี้เพราะเธอก็เบื่อที่จะฟังพ่อของตัวเองบ่นแล้ว เมื่อไปถึงที่บ้านของพ่อหลินอวี่จิงสามารถปรับตัวได้ดีแต่เธอก็ยังรู้สึกอึดอัดอยู่ดี สุดท้ายเธอได้มารู้ความจริงว่าที่แม่ของเธอให้เธอเดินทางมาหาพ่อเพราะต้องการจะให้เธออยู่ที่นี่และได้ทำการย้ายโรงเรียนให้แล้ว ซึ่งทุกอย่างเป็นการตัดสินใจของแม่เธอคนเดียวไม่เคยถามความคิดเห็นของหลินอวี่จิงเลย หลินอวี่จิงไม่มีความสุขเพราะยังไงที่นี่ก็ไม่ใช่บ้านและพ่อของเธอก็ไม่เคยทำหน้าที่พ่อที่ดีกับเธอเลยสักครั้ง

ในตอนนั้นหลินอวี่จิงพยายามเก็บของเพื่อจะกลับบ้านแต่สร้อยข้อมือของเธอขาดเธอเลยอยากจะหาร้านซ่อมใกล้บ้านเพราะสร้อยข้อมือชิ้นนี้มีความหมายกับเธอ จนเธอได้เจอกับ “ร้านชิงเหอเครื่องเงิน” เธอเลยเดินเข้าไป จนได้เจอกับหวังอี้หยาง (เปียนเทียนหยาง) เหอซงหนาน (หวังฉวน) และเสิ่นเจวี้ยน (โจวอี้หราน) ที่คอยดูแลร้านเครื่องเงิน หลินอวี่จิงจำหน้าเสิ่นเจวี้ยนได้ทันทีเพราะเขาเป็นชายหนุ่มที่ขี่จักรยานปาดหน้ารถพ่อของเธอ ระหว่างที่คุยกันเรื่องซ่อมสร้อยข้อมือก็มีอริเก่าของเสิ่นเจวี้ยนมาหาทำให้เสิ่นเจวี้ยนไม่มีเวลาจะพูดคุยกับหลินอวี่จิงอีกต่อไปเพราะเขาต้องการจัดการกับอริก่อน เมื่อจัดการกับอริเสร็จแล้วเขาก็กลับเข้าร้านมาปรากฏว่าปากกาสุดหวงของเขาหายไปพร้อมมีโน้ตที่หลินอวี่จิงทิ้งไว้ว่าขอเอาปากกาไปเป็นตัวประกัน หากซ่อมสร้อยข้อมือของเธอไม่เสร็จเขาจะไม่ได้ปากกาด้ามนี้คืน

เมื่อหลินอวี่จิงกลับไปถึงบ้านเธอก็ได้เจอกับฟู่หมิงซิวลูกติดของภรรยาใหม่พ่อ เธอรู้สึกได้ว่าเขาไม่ชอบตัวเอง เธอเลยไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวและเธอก็ทำใจได้แล้วว่าเธอต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนาน แต่เธอก็ไม่ได้คิดจะพึ่งพาพ่อเพราะเธอรู้ว่าสำหรับเขาแล้วเธอไม่ได้มีความหมายอะไร ดังนั้นเธอเลยพึ่งพาตัวเองทุกทางไม่พยายามหยิบฉวยหรือทานของในบ้าน หากต้องการอยากทานอะไรเธอจะไปหาซื้อเองและได้ฝากท้องกับร้านสะดวกซื้ออยู่บ่อยครั้ง เมื่อวันเปิดเรียนมาถึงหลินอวี่จิงได้เดินทางไปโรงเรียนมัธยมลี่อิงที่นั่นเธอได้เจอกับเสิ่นเจวี้ยนอีกครั้งและที่สำคัญเขายังเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของเธอด้วย เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปอย่าลืมไปติดตามนะคะ

ข้อมูลทั่วไปของซีรีส์ เธอคือฝันหวานละมุน : You Are Desire

ทำไมต้องดูซีรีส์เรื่อง เธอคือฝันหวานละมุน (You Are Desire) ?

คำเตือน : มีสปอยล์

1. เป็นการโคจรมาเจอกันครั้งแรกระหว่าง “โจวอี้หราน x จวงต๋าเฟย”

โจวอี้หราน รับบทเป็น เสิ่นเจวี้ยน

เสิ่นเจวี้ยนชายหนุ่มเลือดร้อนเจ้าของร้านเครื่องเงินชิงเหอ ภายนอกเสิ่นเจวี้ยนดูเป็นคนเย็นชาและเก็บตัว แต่จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนที่อบอุ่นมาก เสิ่นเจวี้ยนเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเด็กเลยต้องย้ายมาอยู่กับลุง แต่ลุงของเขาประสบอุบัติเหตุทำให้ต้องนอนโคม่าอยู่ที่โรงพยาบาล เสิ่นเจวี้ยนเลยต้องรับหน้าที่หลายอย่างทั้งดูแลลุงที่ป่วย ดูแลร้านเครื่องเงินและต้องเรียนหนังสือด้วย แต่เมื่อเขาได้มาเจอกับหลินอวี่จิงทุกอย่างก็เปลี่ยนไป บทบาทของเสิ่นเจวี้ยนผ่านการแสดงโดย “โจวอี้หราน” ค่ะ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับน้องโจวอี้หรานกันมาบ้างเพราะเดี๋ยวนี้ซีรีส์ของน้องเยอะมากและผลงานที่ทำให้หลายคนรู้จักน้องคือซีรีส์เรื่องรักยิ้มของเธอค่ะ ฝีมือการแสดงของน้องโจวอี้หรานบอกเลยว่าไม่ธรรมดาและเป็นนักแสดงที่เกิดปี 2000 ที่น่าจับตามองมากด้วย

จวงต๋าเฟย รับบทเป็น หลินอวี่จิง

หลินอวี่จิงเป็นเด็กสาวชั้นมัธยมปลายที่ต้องย้ายมาอยู่ในเมืองผู่เฉิงกะทันหัน พ่อและแม่ของเธอหย่ากันตั้งแต่เธอยังเด็ก เธอเลยไม่ผูกพันกับพ่อตัวเองเท่าไหร่นัก แต่วันหนึ่งชีวิตของเธอเปลี่ยนไปเพราะแม่ของเธอหลอกให้เธอมาอยู่กับพ่อสักพักทั้ง ๆ ที่ต้องการให้เธอย้ายมาอยู่ที่นี่แบบถาวร ทำให้หลินอวี่จิงต้องมาอาศัยอยู่กับครอบครัวใหม่ของพ่อและต้องเจอกับพี่ชายต่างสายเลือดด้วย ภายนอกหลินอวี่จิงดูเป็นคนดื้อรั้นแต่จริง ๆ แล้วเธอเป็นคนที่เข้มแข็งมากคนหนึ่ง เมื่อย้ายมาเรียนที่โรงเรียนใหม่ทำให้หลินอวี่จิงได้เจอกับเสิ่นเจวี้ยนชายหนุ่มที่จะเปลี่ยนชีวิตของเธออีกครั้ง บทบาทของหลินอวี่จิงผ่านการแสดงโดย “จวงต๋าเฟย” นะคะ โดยน้องจวงต๋าเฟยเกิดปี 2001 อายุน้อยกว่าน้องโจวอี้หรานหนึ่งปีแต่เคมีคือได้มากและถือว่าเลือกนักแสดงมาดีมากเลย ส่วนตัวแล้วผู้เขียนไม่เคยติดตามผลงานของน้องจวงต๋าเฟยมาก่อนแต่ซีรีส์เรื่องนี้คือดีค่ะ

2. นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความรักในวัยเรียน

เธอคือฝันหวานละมุน (You Are Desire) เป็นซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่นำเสนอเรื่องราวความรักในวัยเรียนค่ะ บอกเลยว่าวัยเรียนเป็นวัยแห่งความงอกงามจริง ๆ ค่ะ ผู้เขียนเชื่อว่าทุกคนคงผ่านเหตุการณ์นั้นมาแล้วผู้เขียนเองก็เหมือนกันค่ะแต่มันก็นานมากแล้วจริง ๆ เรื่องราวของหลินอวี่จิงและเสิ่นเจวี้ยนในเรื่องเป็นความสัมพันธ์แบบค่อยเป็นค่อยไปค่ะ จุดเล็ก ๆ มันเริ่มต้นขึ้นจากครั้งแรกที่ได้เจอกันหลินอวี่จิงประทับใจในตัวของเสิ่นเจวี้ยนเพราะคิดว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่น่าสนใจดี ส่วนเสิ่นเจวี้ยนก็สนใจหลินอวี่จิงอยู่เหมือนกันค่ะ สุดท้ายเมื่อได้มานั่งเรียนด้วยกันความสัมพันธ์จากเพื่อนมันก็เริ่มเลื่อนระดับขึ้นไปเป็นมากกว่าเพื่อนค่ะ สำหรับเสิ่นเจวี้ยนเขามองว่าหลินอวี่จิงเป็นแรงบันดาลใจของเขาเพราะตั้งแต่มีเธอเขามาชีวิตของเข้าก็ดีขึ้นในทุกด้าน

ส่วนสำหรับหลินอวี่จิงตัวเสิ่นเจวี้ยนถือเป็นเซฟโซนสำหรับเธอเพราะเขาเข้าใจเธอในทุกเรื่องและเป็นความสบายใจของเธอ ความรักของคนทั้งคู่เลยมาในรูปแบบพึ่งพาอาศัยกัน ซึ่งผู้เขียนมองว่าการมีความสัมพันธ์แบบนี้ในวันเรียนไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดเลยค่ะเพราะไม่ได้เป็นความรักที่นอกลู่นอกทาง นอกจากทางเรื่องจะนำเสนอเรื่องราวความรักในวัยมัธยมแล้วก็ยังมีช่วงเรียนมหาวิทยาลัยและช่วงทำงานให้เราได้ดูด้วย ซึ่งทางเรื่องก็นำเสนอออกมาดีมากทำให้เราฟินตามคู่พระนางเลยค่ะ ถ้าผู้เขียนมีเสิ่นเจวี้ยนด้วยสักคนจะดีมากพ่อไมโครเวฟของเราน่ารักที่สุดนาทีนี้ดิฉันคือหลินอวี่จิงนะคะทุกคนจำเอาไว้ด้วย

3. ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนในวัยเรียนเป็นความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นที่สุด

นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างหลินอวี่จิงและเสิ่นเจวี้ยนแล้วความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนก็ดีมากเหมือนกันค่ะ ผู้เขียนชอบกลุ่มเพื่อนของเสิ่นเจวี้ยนมาก ๆ เพราะดูเป็นหัวโจกเหมือนกันดีค่ะ โดยกลุ่มเพื่อนของเสิ่นเจวี้ยนคือหวังอี้หยางและเหอซงหนานค่ะ อันที่จริงแล้วเสิ่นเจวี้ยนและเหอซงหนานเรียนคนละชั้นนะคะ เสิ่นเจวี้ยนเรียนม. 5 ส่วนเหอซงหนานเรียนม. 6 เพราะเสิ่นเจวี้ยนเรียนซ้ำชั้นนั่นเองค่ะเลยยังติดต่อกันอยู่ ทั้งสามคนนี้ช่วยกันทุกอย่างเลยไม่ว่าจะช่วยกันเรียน ช่วยกันทำมาหากินและช่วยกันต่อยตี แต่พวกเขาไม่ได้ต่อยตีแบบไร้เหตุผลนะคะแต่มีคนมาหาเรื่องก่อนเลยต้องจัดการ

หลายคนอาจจะสงสัยว่าเสิ่นเจวี้ยนเรียนไม่เก่งเหรอทำไมต้องซ้ำชั้น อันที่จริงแล้วเสิ่นเจวี้ยนเรียนเก่งมากนะคะที่่เรียนซ้ำชั้นเพราะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น ส่วนกลุ่มเพื่อนของหลินอวี่จิงก็ดีมากเหมือนกันเพราะหลินอวี่จิงย้ายมาอยู่ใหม่เลยไม่มีเพื่อนมากนัก แต่ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสวีหรูอี้ค่ะแล้วต่อมาก็มีความสันมพันธ์ที่ดีกับกู้เซี่ยเพื่อนร่วมห้องด้วย โดยความสัมพันธ์นี้เป็นความสัมพันธ์ที่จะพัฒนาไปจนถึงตอนเรียนมหาวิทยาลัยเหมือนกันค่ะ ผู้เขียนชอบตอนที่เพื่อน ๆ ทุกคนช่วยเหลือเสิ่นเจวี้ยนหาเงินเพื่อป้องกันไม่ให้ร้านเครื่องเงินโดนยึดบอกเลยว่าเป็นความสัมพันธ์ที่น่าประทับใจมาก ๆ

แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีดราม่านะคะเพราะในเรื่องมีตัวละครอย่าง “เนี่ยชิงเหอ” ที่ยังไม่ได้เฉลยออกมาทั้งหมดว่าจริง ๆ แล้วเขาเป็นใครยังไง แต่ตัวละครนี้ไม่ดีกับเสิ่นเจวี้ยนพระเอกของเราอย่างแน่นอนค่ะ มาร้ายล้วน ๆ เรื่องราวความวายป่วงทั้งหมดในชีวิตของเสิ่นเจวี้ยนก็เป็นเพราะเนี่ยชิงเหอเนี่ยและค่ะ

4. จะทำอย่างไรเมื่อครอบครัว ไม่ใช่ “เซฟโซน”

เรื่องครอบครัวก็เป็นเรื่องที่น่าจับตามองค่ะ ซึ่งทุกประเทศก็มีเรื่องราวแบบนี้ทั้งนั้นเพราะบางครั้งครอบครัวก็ไม่ใช่เซฟโซนสำหรับเราจริง ๆ ค่ะ โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นกับ “หลินอวี่จิง” ครอบครัวของหลินอวี่จิงเรียกว่าไม่สมบูรณ์แบบขั้นสุดเลยเพราะพ่อแม่หย่ากัน ซึ่งหลังจากหย่าไปพ่อของเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรเธออีกเลยไปแต่งงานใหม่ ส่วนแม่ของเธอก็เอาแต่ใจตัวเองชอบตัดสินทุกอย่างโดยที่ไม่ถามลูกก่อน พูดเพียงแค่ว่า “ทุกอย่างเพื่อให้ลูกได้ดี” มีอยู่ตอนหนึ่งที่หลินอวี่จิงพูดกับพ่อตัวเองว่าพ่อของเธอเกาะแม่ของเธอกิน พอเกาะแม่ของเธอไม่ได้แล้วก็มองหาคนใหม่แทน ซึ่งทางเรื่องก็ไม่ได้เฉลยมากนะคะว่าความสัมพันธ์ของครอบครัวนี้เป็นแบบไหนเป็นมาอย่างไร แต่หลินอวี่จิงไม่มีความสุขที่ได้อยู่ในครอบครัวนี้เลยจริง ๆ

ในตอนที่หลินอวี่จิงได้ย้ายไปอยู่กับครอบครัวใหม่ของพ่อที่เมืองผู่เฉิง ส่วนตัวแล้วถ้าเป็นผู้เขียนเองผู้เขียนก็อึดอัดค่ะเพราะมันไม่ใช่บ้านของเราอีกทั้งภรรยาใหม่ของพ่อตัวเองยังมีลูกติดด้วยซึ่งมันทำให้หลินอวี่จิงอยากย้ายไปอยู่ที่หอด้วยตัวเองค่ะ แต่โชคดีที่พักหลัง ๆ มีฟู่หมิงซิวที่เข้าใจหลินอวี่จิง ถึงแม้ฟู่หมิงซิวจะเป็นลูกติดของภรรยาใหม่พ่อของเธอ แต่ก็เข้าใจเธอมากกว่าครอบครัวของเธอเองเสียอีก ผู้เขียนมองว่าความสัมพันธ์ของฟู่หมิงซิวและหลินอวี่จิงดีมากเลยค่ะเพราะเป็นความสัมพันธ์เดียวที่ทำให้หลินอวี่จิงรู้จักคำว่าครอบครัวจริง ๆ แต่ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปจะมีเฉลยเรื่องความสัมพันธ์ภายหลังไหม

5. เคมีของนักแสดงดีมากเป็นซีรีส์ที่ควรค่าแก่การดู

เธอคือฝันหวานละมุน (You Are Desire) เป็นซีรีส์ที่ไม่ได้อยู่กระแสนักค่ะ ที่ผู้เขียนมารีวิวกันในวันนี้เป็นการป้ายยาล้วน ๆ เพราะเนื้อเรื่องมันดีมากจริง ๆ ที่ไม่พูดไม่ได้เลยคือเคมีระหว่างพระนาง บอกเลยว่าฉากหวาน ๆ เยอะมากแต่ก็ไม่ได้หวานแบบผู้ใหญ่นะคะแต่หวานแบบวัยใสสไตล์นักเรียนมัธยมค่ะ แต่หลัง ๆ น่าจะมีหวานแบบเด็กมหาลัยและวัยทำงานอยู่ค่ะต้องไปตามดูกันว่าจะมีไหม ผู้เขียนเองชอบทุกฉากที่พระนางอยู่ด้วยกันเพราะมันดูหวานดีค่ะและฟินมากด้วยเหมาะสำหรับใช้เป็นซีรีส์ดูฮีลใจยามว่าง

ฉากที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดน่าจะอยู่ที่ตอนที่ 9 ตอนที่คู่พระนางไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกันเพราะน่ารักมากเลย มีการสวมที่คาดผม เล่นเครื่องเล่นและยิงตุ๊กตากันด้วย หวานกว่านี้ไม่มีอีกแล้วคือนักแสดงก็แสดงออกมาดีมากมันให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังดูคนรักกันจริง ๆ แบบไม่ได้ดูซีรีส์อะไรประมาณนั้นเลยค่ะ ใครที่ชอบความรักแบบใส ๆ หัวใจสี่ดวงแนะนำเลยค่ะ รับรองว่าฟินมากจริง ๆ ดูแล้วจะวางตาไม่ลงกันเลยทีเดียวอิอิ