“รถมอเตอร์ไซค์” คือยานพาหนะที่ถือว่ามีความจำเป็นมาก เนื่องจากมันสามารถพาคุณไปได้ทุกที่ มีราคาไม่สูงมากจนเกินไป ประหยัดน้ำมัน ค่าบำรุงรักษาก็น้อย ทนทาน มีความคล่องตัวสูงไม่ต้องกลัวรถติดเลย เข้าออกซอกซอยก็ง่าย เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นตัวเลือกที่สามารถตอบโจทย์ทุก ๆ ไลฟ์สไตล์ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการมีรถไว้ใช้งาน มันย่อมดีกว่าการเดิน หรือการโดยสารรถประจำทางอยู่แล้ว บางคนต่อให้มีรถยนต์แล้วก็ยังต้องการรถมอไซค์ไว้ใช้งานอยู่เนื่องจากมันใช้งานสะดวกเวลาที่เราต้องการที่จะออกไปไหนมาไหนใกล้ ๆ บ้าน อาทิเช่น ไปตลาดสด, ไปร้านสะดวกซื้อ หรือไปปากซอย ซึ่งถ้าหากมีแต่รถยนต์กว่าจะนำรถออกจากบ้านได้ กว่าจะฝ่ารถติด กว่าจะไปถึง กว่าจะหาที่จอดได้ ต่อให้เป็นรถอีโค่คาร์คันเล็ก ๆ ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรจนบางคนอาจพูดได้ว่า “เดินไปยังเร็วกว่า”
ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้ ทำให้ในปัจจุบันความนิยมรถมอเตอร์ไซค์ในบ้านเรานั้นสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ออโต้ ที่มีให้เราเลือกมากมายหลายรุ่นหลายราคา ทั้งขับง่าย ประหยัด พื้นที่เก็บของเยอะกว่ารถมอไซค์ประเภทอื่น ๆ โดยในบทความนี้เราได้รวบรวม “รถจักรยานยนต์ออโตเมติก” รุ่นต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้ ซึ่งทุกรุ่นจะมีราคาไม่เกิน 60,000 บาท มันจะมีรายละเอียดอย่างไร? แต่ละรุ่นมีจุดเด่นอะไรบ้าง? เรามาดูกันเลยครับ
1. Suzuki Address

Suzuki Address มีรุ่นเดียว เท่านั้น
รุ่น | ราคา |
Suzuki Address | 46,500 บาท |
สำหรับเจ้า Suzuki Address ได้รับการออกแบบดีไซน์มาอย่างสวยงาม พร้อมกับมีลวดลายที่ลงตัวตามคอนเซ็ปต์ “Add ความสบาย…ในตัวคุณ” ให้คุณสนุกไปกับการขับขี่ในทุก ๆ เส้นทาง ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไปโดยเฉพาะคนเมือง ซึ่งถึงแม้จะเป็นรถเล็ก แต่กลับมีช่องเก็บของใต้เบาะที่ใหญ่มาก จุได้ประมาณ 20.6 ลิตร นอกจากนั้นจุดเด่นอีกอย่างนึงคือ บริเวณที่จับของคนซ้อนสามารถนำกล่องเก็บของมาติดตั้งเพิ่มเติมได้ทันที โดยไม่ต้องทำขาจับขึ้นมาใหม่ ทำให้คุณเพิ่มพื้นที่เก็บของได้มากขึ้นไปอีก คุณพ่อบ้านแม่บ้านน่าจะถูกใจกับรุ่นนี้
![]() |
![]() |
Suzuki Address จะมาพร้อมกับสุดยอดเทคโนโลยี LEap Technology เครื่องยนต์ ที่ได้รับการออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด และน้ำหนักเบา เป็นเครื่องยนต์ 4 จังหวะ Single OverHead Camshaft มีปริมาตรกระบอกสูบ 113cc ระบายความร้อนด้วยอากาศ มีระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด (Fuel Injection) ที่อยู่ใกล้กับห้องเผาไหม้ ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ แบบสายพานตัววี (V-Belt) ซึ่งตอบสนองได้เป็นอย่างดี รุ่นนี้มีความจุถังน้ำมันนั้นอยู่ที่ 5.2 ลิตร และมีน้ำหนักตัวรถโดยรวมอยู่ที่ 98 กก. เท่านั้น ถือว่าอีกรุ่นนึงที่น่าสนใจ เหมาะมากที่จะเป็นรถครอบครัวด้วยพื้นที่เก็บของ จะใช้จ่ายตลาด ซื้อของ ซื้อกับข้าว หรือรับลูก ก็ไม่มีปัญหา
2. Yamaha Fino 125

Yamaha Fino 125 มี 2 รุ่นให้เลือก ดังนี้
รุ่น | ราคา |
Fino 125 COC Standard | 46,700 บาท |
Fino 125 COC Premium | 52,200 บาท |
Yamaha Fino ต้นฉบับของรถออโตเมติกแฟชั่นในเมืองไทย รุ่นนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะมันมีการวางจำหน่ายมาอย่างยาวนาน โดยรุ่นนี้เป็นโฉมใหม่ มาพร้อมสีสันแบบคลาสสิก บวกกับมีฟีเจอร์ที่โดดเด่นมากมาย ทั้ง DUO METER เรือนไมล์แบบแยกส่วน, ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ FULL LED, ไฟหรี่ Diamond Cut Lens, กุญแจรีโมทที่เปิดช่องเองโดยอัตโนมัติ พร้อมทั้งไฟเรืองแสงที่ส่งสัญญาณบอกตำแหน่ง ช่วยเพิ่มปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งช่องเก็บของขนาดใหญ่มีความจุประมาณ 8.2 ลิตร
![]() |
![]() |
รุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีแห่งความแรงและความประหยัด โดยใช้เครื่องยนต์ BLUE CORE มีปริมาตรกระบอกสูบ 125cc 4 จังหวะ สูบเดี่ยว ทำงานคู่กับระบบหัวฉีดอัจฉริยะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ และประหยัดมากยิ่งขึ้น ระบายความร้อนด้วยอากาศทำได้ดียิ่งขึ้น มีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 4.2 ลิตร และมีความสูงจากพื้นถึงเบาะอยู่ที่ 74.5 มม. เท่านั้น ในรุ่น Premium จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีอัจฉริยะ Stop & Start System ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น ด้วยเครื่องยนต์ตัวนี้ จะทำให้คุณขับขี่ได้อย่างสนุก ตอบสนองได้ทันใจ ประหยัด คุ้มค่า สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
3. Yamaha GT125 47,600 บาท

Yamaha GT125 มี 2 รุ่นให้เลือก ดังนี้
รุ่น | ราคา |
GT125 [2020] STANDARD VERSION | 46,600 บาท |
GT125 [2020] SSS | 47,600 บาท |
Yamaha GT125 เป็นรถจักรยานยนต์ออโต้ ดีไซน์สปอร์ต ถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Yamaha GT125 New Generation of Torque เฟี้ยวฟาสต์ บาดใจ” พร้อมสีสันใหม่ที่ดูโฉบเฉี่ยว เพิ่มความเร้าใจด้วยเครื่องยนต์บลูคอร์ ที่สามารถ บิดเร่งเร้าใจ…สไตล์วัยมันส์ ออกตัวแรง ขับขี่สนุก ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน โดยความพิเศษของรุ่นนี้ก็คือ การรับประกันตัวรถนานถึง 5 ปี หรือ 50,000 กม. (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด/ ลงทะเบียนรับประกันตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในโลกที่กล้ารับประกันขนาดนี้ ด้านรูปลักษณ์ของตัวรถก็มีความสปอร์ตในทุกส่วนทั้ง ไฟหน้าแบบ Full LED บวกไฟหรี่, ไฟเลี้ยวแยกส่วนบิวท์อินกับตัวรถ, ECO Lamp บนหน้าปัดดีไซน์สปอร์ต มองเห็นได้ง่าย และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งเราจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Yamaha คือ ผู้นำรถจักรยานยนต์ออโตเมติกอันดับ 1 ของบ้านเรา
![]() |
![]() |
ด้านของขุมพลังรุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีแห่งความแรงและความประหยัดโดยใช้ เครื่องยนต์บลูคอร์ 4 จังหวะ SOHC 2 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยอากาศ มีปริมาตรกระบอกสูบ 125cc ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด ทำงานคู่กับระบบส่งกำลังขับ ด้วยเกียร์อัตโนมัติ แบบสายพานตัววี (V-Belt) ที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ ตอบสนองได้ดั่งใจ มีล้อแม็กซ์ขนาด 14 นิ้ว ที่มีความแข็งแรง ทนทาน พร้อมยางขนาดใหญ่แน่นหนึบ โดยจะมีความสูงจากพื้นถึงเบาะประมาณ 760 มม. ตัวรถเน้นขับขี่ง่าย ขับสนุก เครื่องแรงตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว แถมประหยัดอีกด้วย นอกจากนั้นในรุ่น SSS มาพร้อมกับระบบดับเครื่องยนต์อัจฉริยะ ที่จะเข้ามาช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น ถือเป็นอีกรุ่นที่มีการออกแบบมาได้อย่างยอดเยี่ยม ดีไซน์สวยงาม ดูสปอร์ต น่าจะถูกใจวัยรุ่น วันมันส์
4. Honda Scoopy i

Honda New Scoopy i มี 5 รุ่น ดังนี้
รุ่น | ราคา |
New Scoopy i Urban Team | 48,100 บาท |
New Scoopy i Prestige | 48,600 บาท |
New Scoopy i Club 12 | 51,700 บาท |
New Scoopy i Chupa Chups | 53,700 บาท |
New Scoopy i Kumamon Special Edition | 54,200 บาท |
สำหรับ Honda Scoopy-i ในปัจจุบันมีหลายรุ่นหลายแบบและหลายสไตล์ให้เลือก โดยใช้พื้นฐานเดียวกัน ซึ่งแต่ละสไตล์ก็มีความโดดเด่นแตกต่างกัน อย่างเช่น Prestige ก็จะเน้นไปที่ความเรียบหรูดูแพง, Urban Team ก็จะมีสีสันสดใส ดูทันสมัย, Club 12 ตกแต่งด้วยกราฟิกที่ทันสมัยใช้สีแบบพิเศษให้อารมณ์ 2 สี ในมุมที่ต่างกัน, Chupa Chups ที่มาพร้อมกับลายพิเศษ และอีกรุ่น Kumamon Special Edition ที่ทำออกมาเพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี ของ Honda Scoopy-i ซึ่งทุก ๆ รุ่น จะมีความต่างกันที่ลวดลาย บางรุ่นใช้ล้อ 12 นิ้ว บางรุ่น 14 นิ้ว เป็นล้อซี่ลวด ล้อแม็ก แต่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน มาในดีไซน์ที่มีความโค้งมน ใช้ไฟ LED Projector Headlight ที่มีความเท่ ล้อมด้วย Ring Ligh พร้อม LED Position Lamp ที่บิ้วท์อินไฟเลี้ยวเข้าไปได้อย่างลงตัว เช่นเดียวกับไฟท้าย ตามสไตล์มินิมัล กล่องเก็บของด้านหน้าพร้อมที่ชาร์จไฟ พื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ใต้เบาะ มีความจุถึง 15.4 ลิตร และอื่น ๆ อีกมากมาย
![]() |
![]() |
ในด้านของขุมพลัง New Scoopy i ให้สมรรถนะที่รวดเร็วทันใจ ด้วยเครื่องยนต์ eSP 4 จังหวะแบบซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ ปริมาตรกระบอกสูบ 108.20 ซีซี. จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด PGM-Fi ระบายความร้อนด้วยอากาศ ส่งกำลังด้วย V-MATIC โดยจุดเด่นของรุ่นนี้คือมันสามารถประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 62.5 กม./ลิตร เลยทีเดียว รองรับน้ำมัน E20 ได้อีกด้วย ถึงแม้มันจะเป็นเครื่อง 110 แต่ก็สามารถตอบสนองได้ดีไม่แพ้รุ่นอื่น ๆ รองรับการใช้งานทั่วไปได้แบบสบาย ๆ พร้อมกับมีไฟ Eco Mode ติดตั้งมาให้ด้วยเพื่อคอยบอกทันทีเมื่อเข้าสู่โหมดการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีการใส่ฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยีมาให้ทั้ง ระบบหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติ และระบบกระจายแรงเบรกให้คุณสามารถหยุดรถได้อย่างมั่นใจด้วยดิสก์เบรกหน้าพร้อมระบบ Combi Brake เพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น สำหรับเจ้า Honda Scoopy i ถือเป็นรถอเนกประสงค์ ดีไซน์เรียบง่าย เหมาะจะใช้งานทั่วไป ใช้งานภายในครอบครัว ราคาก็ไม่สูง แถมยังประหยัดน้ำมันอีกด้วย
5. Honda Click 125i

Honda Click 125i มี 3 รุ่นให้เลือก ดังนี้
รุ่น | ราคา |
Honda Click 125i (Spoke (ล้อซี่ลวด)) | 51,000 บาท |
Honda Click 125i (Cast (ล้อแม็ก)) | 54,700 บาท |
Honda Click ชื่อนี้ทุกคนก็น่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี สำหรับ CLICK 125i เป็นรถสปอร์ต เอ.ที. รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับสมรรถนะที่โดดเด่นภายใต้คอนเซปต์ “HERO OF THE STREET ตัวจริง…ของฮีโร่” ดูเท่ลงตัวทุกมุมมอง โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว ใช้ชุดไฟ Full LED Lighting System, ไฟหน้าสองชั้น Dual LED Headlight, แผงหน้าปัดดิจิทัลใหม่เต็มรูปแบบ, พื้นที่เก็บสัมภาระใต้เบาะขนาดใหญ่ และฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างดีเยี่ยมโดยเฉพาะคนเมือง
![]() |
![]() |
Honda Click 125i ใช้ขุมพลังจาก เครื่องยนต์ eSP 4 จังหวะ ปริมาตรกระบอกสูบ 124.88cc จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด PGM-FI ที่มีความแม่นยำ ช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น ระบบวาล์วแบบ Single OverHead Camshaft มีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ นอกจากนี้ยังมีการใส่ฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยีมาให้อีกด้วยทั้ง ระบบหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติ และระบบกระจายแรงเบรกให้คุณสามารถหยุดรถได้อย่างมั่นใจ สำหรับ Click 125i รุ่นนี้ถือว่ามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย ตัวรถมีความคล่องตัวสูง มีอัตราเร่งที่ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจ เครื่องแรง ขับง่าย ขับสนุก โดยมีความสูงจากพื้นถึงเบาะ 769 มม. ขับได้ทั้งชายและหญิง อีกทั้งยังมีถังน้ำมันความจุ 5.5 ลิตร ซึ่งใหญ่กว่ารุ่นอื่น ๆ มาก บวกกับความประหยัดน้ำมันด้วย ทำให้ไม่ว่าจะใช้งานในเมือง หรือจะขับออกต่างจังหวัดก็ไม่มีปัญหา ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง
6. Yamaha Qbix

Yamaha Qbix มี 3 รุ่นให้เลือก ดังนี้
รุ่น | ราคา |
QBIX Standard | 54,400 บาท |
QBIX S | 56,900 บาท |
QBIX ABS | 60,800 บาท |
สำหรับเจ้า Yamaha Qbix ถือเป็นรถออโตเมติกแฟชั่นยุคใหม่ ที่มีความโดดเด่นด้วยดีไซน์ของตัวรถที่ดูเหมือนกล่องเหลี่ยม ๆ มีความโค้งมน ดูล้ำยุคล้ำสมัยไม่เหมือนใคร ใช้เรือนไมล์ดิจิตอลแบบ Full LCD ไฟหน้า LED โคมไฟเป็นสี่เหลื่ยม ดูแปลกตา ส่วนด้านข้างก็มีไฟ DRL ทำให้มันดูพรีเมี่ยมมากขึ้น เพิ่มความล้ำสมัยด้วยระบบสมาร์ทคีย์ที่สตาร์ทรถได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ รวมไปถึงการเปิดใต้เบาะ เปิดฝาถังน้ำมัน และล็อกรถ ก็รวมอยู่ในจุดเดียวกัน เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้บริเวณช่องใส่ของด้านหน้า มาพร้อมช่องจ่ายไฟ ซึ่งสามารถใช้ชาร์จอุปกรณ์ได้ นอกจากนั้นจุดเด่นอีกอย่างคือ ช่องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ ที่สามารถจุได้มากถึง 22.5 ลิตร ให้คุณใช้เก็บของได้อย่างจุใจ ช่วยตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองได้เป็นอย่างดี
![]() |
![]() |
ในส่วนของเครื่องยนต์รุ่นนี้ก็มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเช่นกัน โดยใช้เครื่องยนต์ Blue Core ที่มีปริมาตรกระบอกสูบ 125 ซีซี. 4 จังหวะ SOHC 2 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยอากาศ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด และส่งกำลังขับด้วยเกียร์ออโตเมติก แบบสายพานตัววี (V-Belt) ทั้งแรง ทั้งประหยัด ทำให้มันสามารถขับขี่ได้อย่างสนุก ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว มีความคล่องตัว ด้วยมิติของตัวรถที่ไม่ใหญ่เกินไป โดยมีความสูงจากพื้นถึงเบาะ 775 มม. นอกจากนี้แล้วยังมีระบบ Stop & Start System ที่คอยดับเครื่องอัตโนมัติและติดเครื่องเองทันทีที่เปิดคันเร่ง ช่วยประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น ถือเป็นรุ่นที่มีทั้งประสิทธิภาพ และดีไซน์ที่โดดเด่นสดุดตาจริง ๆ
7. Yamaha NEW Grand Filano Hybrid

Yamaha NEW Grand Filano Hybrid มี 2 รุ่นให้เลือก ดังนี้
รุ่น | ราคา |
NEW Grand Filano Hybrid | 58,200 บาท |
NEW Grand Filano Hybrid ABS | 62,700 บาท |
อย่างที่บอกไปครับว่า Yamaha นั้นประสบความสำเร็จในรถออโตเมติก ถือเป็นผู้นำตลาดเลยก็ว่าได้ โดย Grand Filano Hybrid ก็เป็นอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ เนื่องด้วยมันเป็นรถออโตเมติกแฟชั่นพรีเมี่ยมหรือสกู๊ตเตอร์ไฮบริดสุดหรู ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่โดดเด่น ดูพรีเมี่ยม ใช้หน้าปัดเรือนไมล์ TFT แบบสี ผสานกับเกจวัดความเร็วแบบอนาล็อก ดูลงตัว สวยงาม มองง่าย ตัวรถถูกออกแบบมาให้เหมาะกับคนเมืองโดยเฉพาะ อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ที่ทันสมัย อาทิ ไฟ Full LED Headlight มาพร้อมไฟหรี่ LED และ LED Taillight มาในดีไซน์โค้งมนลงตัวกับบอดี้, ระบบกุญแจอัจฉริยะที่เข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย โดยปุ่มเดียวใช้ควบคุมรถได้ทั้งคันทั้งเปิดเบาะ เปิดฝาน้ำมัน และปลดล็อครถ, ช่องใส่ของด้านหน้ามาพร้องพอร์ตสำหรับชาร์จไฟอุปกรณ์อื่น ๆ และพื้นที่เก็บสัมภาระใต้เบาะสามารถจุของได้เยอะมาก โดยมันจุได้ถึง 27 ลิตร พร้อมไฟ LED ช่วยให้หาของได้เบาะได้อย่างง่ายดาย โดยความพิเศษของรุ่นนี้ก็คือ การรับประกันตัวรถนานถึง 5 ปี หรือ 50,000 กม. เช่นเดียวกับ Yamaha GT125
![]() |
![]() |
ในส่วนของขุมพลังเจ้า Grand Filano Hybrid คันนี้ มาพร้อมกับเทคโนโลยีสุดล้ำอย่างระบบ Hybrid ที่เรารู้กันดีว่า มันสามารถช่วยประหยัดได้มากขนาดไหน โดยในรุ่นนี้จะใช้มอเตอร์ Smart Motor Generator ช่วยส่งกำลังในตอนออกตัว ทำงานรวมกับเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 1 ลูกสูบ ปริมาตรกระบอกสูบ 125 ซีซี. SOHC 2 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยอากาศ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด ออกตัวด้วยระบบไฮบริด Hybrid System (Power Assist) และส่งกำลังขับด้วยเกียร์ออโตเมติก แบบสายพานตัววี (V-Belt) นอกจากนั้นยังมีระบบ Stop & Start System ช่วยให้มันสามารถประหยัดน้ำมันได้มากยิ่งขึ้น ในรุ่นท๊อปจะมาพร้อมกับระบบเบรค ABS เพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ Grand Filano Hybrid มีทั้งสมรรถนะที่สุดยอด ความประหยัด ความสะดวกสบายในการใช้งาน ซึ่งมันสามารถตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนเมืองได้อย่างยอดเยี่ยม ใครที่กำลังมองหารถที่คุ้มค่า เหมาะกับยุคสมัยนี้ต้องรุ่นนี้เลย
8. Honda CLICK 150i
Honda Click 150i มีรุ่นเดียวเท่านั้น
รุ่น | ราคา |
Honda Click 150i | 60,700 บาท |
ปิดท้ายด้วย Honda CLICK 150i ที่เลยงบมานิดหน่อย แต่คุ้มค่ากับเงินที่เพิ่มไปแน่นอน สำหรับ CLICK 150i เป็นจักรยานยนต์สปอร์ต เอ.ที. เช่นเดียวกับกับ Click 125i ก่อนหน้านี้ เป็นสายเลือดเดียวกัน มีดีไซน์เหมือนกัน ถูกออกแบบมาภายใต้คอนเซปต์ “HERO OF THE STREET ตัวจริง…ของฮีโร่” เช่นเดียวกัน แต่รุ่นนี้จะมาพร้อมกับสมรรถนะที่เหนือชั้นกว่า ด้วยเครื่องยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในลิสทั้งหมดที่รวบรวมมาในวันนี้
![]() |
![]() |
โดย Click 150i ใช้ขุมพลังจาก เครื่องยนต์ eSP ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI 4 จังหวะแบบซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีปริมาตรกระบอกสูบ 149.32cc ทำงานคู่กับระบบส่งกำลัง V-Matic ที่ช่วยให้การตอบสนองทำได้อย่างยอดเยี่ยม รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีการใส่ฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยีมาให้อีกด้วยทั้ง กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Honda Smart Key ที่ช่วยระบุตำแหน่งของตัวรถ สามารถช่วยป้องกันการถูกโจรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติ และระบบกระจายแรงเบรกเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยรุ่นนี้จะมีความสูงจากพื้นถึงเบาะ 769 มม. เท่านั้น ช่วยให้ขับได้ง่ายทั้งผู้ชายและผู้หญิง เครื่องแรง มีอัตราเร่งดี ตอบสนองได้ทันใจ ขับง่าย ขับสนุก พร้องที่จะพุ่งไปตามแรงบิด หากใครที่กำลังมองหารถที่เครื่องยนต์แรงขึ้นมาหน่อย แต่ยังอยู่ในราคาที่เข้าถึงง่าย ต้องรุ่นนี้เลยครับ
บทส่งท้าย
ทั้งหมดนี้ก็คือ รถจักรยานยนต์ออโตเมติก จากค่ายรถยักษ์ใหญ่ ซึ่งทุก ๆ รุ่นที่เราได้หยิบยกมานั้น เป็นรุ่นที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน หากใครที่กำลังมองหารถมอไซค์สักคันนึง มาไว้ใช้งานทั่วไป ก็สามารถนำข้อมูลของรถรุ่นต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นตัวเลือกได้ เมื่อมีรถรุ่นที่ถูกใจแล้วก็อย่ารอช้าครับ ไปติดต่อที่ศูนย์บริการใกล้บ้านได้เลย เพื่อขอดูรถคันจริง ดูรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติม ซึ่งคุณจะได้รับข้อมูลที่มากกว่า นอกจากนั้นคุณอาจจะได้รับส่วนลด ประกันภัย หรืออาจจะได้รับของแถมเป็นหมวกกันน็อค, ถุงมือขับรถ หรือเสื้อแจ็คเก็ต ก็ได้
สุดท้ายนี้การซื้อ “รถ” ไม่ว่าจะเป็น มอไซค์ทั่วไป, Bigbike หรือ Superbike ต่างก็ต้องใช้ความรอบคอบ ในการเลือกและการตัดสินใจ เนื่องจากมันมีราคาที่ค่อนข้างสูง หากเราศึกษาไม่มากพอ อาจจะผิดหวังเอาได้ง่าย ๆ นะครับ ดังนั้นก่อนจะซื้อคุณต้องเลือกให้ชัวร์ ลองให้ชอบก่อน จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายทีหลัง และเมื่อได้เป็นเจ้าของแล้วก็อย่าลืมดูแลรักษาให้ดีๆ นะครับ หาอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ มาใช้ อาทิเช่น ผ้าไมโครไฟเบอร์, น้ำยาล้าง และแว็กเคลือบสี หมั่นล้างรถและเคลือบอยู่บ่อย ๆ เพื่อที่รถของคุณจะได้เงางามไปนาน ๆ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก :