แบดมินตันเป็นกีฬาที่เล่นสนุก โดยเราจะตีลูกขนไก่โต้ตอบไปมาระหว่าง 2 ฝ่าย เป็นเกมส์กีฬาที่ใช้ทั้งความเร็วในการเคลื่อนไหวไปรับตีลูก ใช้กำลังในการโต้ตบ รวมไปถึงความสามารถในการอ่านเกม และวางแผนเพื่อให้ชนะคู่ต่อสู้ บ้านเรามีนักกีฬาชาวไทยที่มีฝีมือระดับโลกหลายคนได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ชายเดี่ยว “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ที่เพิ่งได้รับเหรียญทองชิงแชมป์โลก ปี 2023 ประเภทชายเดี่ยว, “เมย์” รัชนก อินทนนท์ เหรียญทองชิงแชมป์โลก ปี 2013 ประเภทหญิงเดี่ยว รวมไปถึงคู่ผสมที่เคยมีโอกาสไต่เป็นอันดับ 1 ของโลก “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย และนักกีฬาอีกหลาย ๆ คน

อย่างที่ทุกคนรู้ว่า แบดมินตันเป็นกีฬาที่ใช้อุปกรณ์การเล่นน้อยชิ้นมาก ๆ เพียงแค่มี ‘ไม้แบดมินตัน‘, ลูกขนไก่ และ รองเท้าแบดมินตัน รวมถึงผู้เล่นเพียง 2 คน(เล่นเดี่ยว) หรือ 4 คน(เล่นคู่) ก็สามารถเล่นกีฬาแบดมินตันได้แล้ว และหนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดในการเล่นแบดมินตันก็คือ ไม้แบดมินตัน ที่คุณต้องเลือกซื้อให้เหมาะสมตามสไลต์การเล่นของแต่ละคน

วันนี้เราขออาสาเลือกไม้แบดมินตันที่ดี และเหมาะสำหรับสไตล์การเล่นของแต่ละคน มาดูกันว่าในปี 2023 นี้ จะมีรุ่นไหน/ยี่ห้อไหน น่าสนใจบ้าง และมาดูกันว่านักกีฬามืออาชีพแต่ละคนใช้รุ่นไหนกันบ้าง
ซื้อไม้แบดมินตัน ตามสไตล์การเล่น

ไม้แบดมินตันมีรายละเอียดที่ซับซ้อนและเยอะกว่าที่ใครหลายคนทราบครับ เพราะรายละเอียดบนไม้ไม่ว่าจะเป็นหัวไม้, การขึ้นเอ็นไม้, ความแข็งอ่อนของก้านไม้ หรือแม้แต่น้ำหนักของไม้ มีผลต่อการเล่นของเราทั้งหมด ดังนั้นก่อนจะเลือกไม้แบดมินตันอะไรก็แล้วแต่ผมแนะนำว่าควรทำการบ้านให้ดีก่อนทุกครั้ง อย่างแรกที่คุณควรรู้ก่อนคือ คุณเล่นแบดมินตันสไตล์ไหน เช่น

- เล่นสไตล์ All Around หรือเล่นผสมผสานทุกแบบ (สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองเล่นสไตล์ไหน แนะนำให้ซื้อไม้แบบ All Around มาลองเล่นดูก่อน)
- เล่นสไตล์คอนโทรล คือ เน้นตั้งรับ และวางลูกแบดไปตามมุมต่าง ๆ ทำให้คู่แข่งวิ่งและเปิดคอร์ตเพื่อจบแต้ม
- เล่นสไตล์เกมบุก ตบหนัก ๆ (ปิดแต้มได้เร็ว)
- เล่นสไตล์แรลลี่เร็ว ๆ จะเห็นได้บ่อยในการเล่นเป็นคู่
แน่นอนว่าหลายคนอาจชอบเล่นแบบตบหนัก ๆ หรือเล่นเร็ว แต่อย่าลืมครับว่าการจะจบแต้มไม่ได้มีเพียงแค่ความหนักเท่านั้น ดังนั้นเพื่อให้เราเล่นแบดมินตันได้ดีที่สุดเราควรจะต้องเสริมจุดแข็งให้กับตัวเอง ควรเลือกไม้ให้เหมาะกับสไตล์การเล่นมากที่สุด

ไม้แบดมินตัน ยี่ห้อไหนดี (มือใหม่ – มือโปร สายบุก – สายรับแล้วตีโต้ )
- ไม้แบดมินตันราคาประหยัด เหมาะสำหรับซื้อให้เด็กเอาไปเรียนวิชาพละที่โรงเรียน: FBT ไม้แบดมินตันคู่ พร้อมกระเป๋าใส่ รุ่น DBL
- ไม้สำหรับผู้เล่นระดับเริ่มต้น-ระดับกลาง เน้นเล่นลูกตบ สายบุก : ไม้แบดมินตัน YONEX ASTROX 88 D PLAY
- ไม้แบดมินตัน All Around ตีง่าย ผู้เล่นระดับเริ่มต้น-ระดับกลาง ที่เพิ่งเข้าก๊วนแบด: ไม้แบดมินตัน VICTOR รุ่น DX-1L 5U 6U
- ไม้ที่ให้เกมบุกดี เกมรับนุ่มนวลไม่สะท้านข้อมือ รุ่นนี้อันเซยอน (An Se Young) หญิงเดี่ยวมือวางอันดับ 1 ของโลก (ปี 2023) ใช้: YONEX ASTROX 77 PRO
- สำหรับผู้เล่นสไตล์คอนโทรล เน้นวางลูกไปยังตำแหน่งต่าง ๆ (รุ่นนี้ ปอป้อ ทรัพย์สิรี ใช้): ไม้แบดมินตัน YONEX ARCSABER 11 PRO
- ไม้น้ำหนักเบา ตีง่าย เหมาะสำหรับผู้หญิง (รุ่นนี้ เมย์ รัชนก ใช้): ไม้แบดมินตัน YONEX NANOFLARE 700
- ไม้สายบุก เป็นตระกูล ASTROX มีหัวหนัก ตบได้แรง (รุ่นนี้ Viktor Axelsen และ Akane Yamaguchi ใช้): ไม้แบดมินตัน YONEX ASTROX 100 ZZ
- ไม้สายบุก ตบหนัก จากแบรนด์ Victor (รุ่นนี้ Tai Tzu Ying ใช้): ไม้แบดมินตัน VICTOR รุ่น TK-F C LTD
ซื้อ ไม้แบดมินตัน ต้องพิจารณาอะไรบ้าง?
บาลานซ์ของไม้แบดมินตัน (จุดศูนย์ถ่วงหัวไม้)
บาลานซ์หรือจุดศูนย์ถ่วงมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบนั่นคือ ไม้หัวหนัก, ไม้หัวบาลานซ์ (น้ำหนักปานกลาง) และ ไม้หัวเบา

- หัวไม้หนัก ช่วยให้คนที่เล่นเกมบุกตบลูกได้แรง เหมาะสำหรับผู้เล่นที่เน้นตีลูกหลังคอร์ต ช่วยให้ตีลูกได้หนักและพุ่งเร็ว ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ในการเล่นประเภทเดี่ยวและประเภทคู่ผสม
- หัวไม้บาลานซ์ (น้ำหนักปานกลาง) เหมาะสำหรับผู้เล่นสไตล์ All Around และจริง ๆ แล้วใช้ได้กับผู้เล่นทุกสไตล์ครับ โดยไม้จะช่วยให้ลูกแบดมีน้ำหนักเมื่อตีท้ายคอร์ต อีกทั้งเมื่อขึ้นหน้าเน็ตมันก็ช่วยให้ลูกแบดพุ่งเร็วขึ้นด้วยครับ
- หัวไม้เบา ส่วนใหญ่นิยมใช้ในการเล่นประเภทคู่ ที่ต้องหยอดหน้าเน็ต เน้นการเล่นในเกมการแข่งขันที่มีการแรลลี่เร็ว ๆ
น้ำหนักของไม้
น้ำหนักของไม้แบดมินตันส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 3U (85 – 89 กรัม) หรือ 4U (80 – 84 กรัม)

น้ำหนักของไม้แบดมินตันมีผลต่อความแรงและความเร็วของลูกที่ออกไป ถ้าหากน้ำหนักเบาจนเกินไปผลที่ตามมาคือ ลูกแบดจะไม่ค่อยมีน้ำหนัก ในขณะเดียวกันถ้าหากไม้หนักจนเกินไปการคอนโทรลไม้ก็จะยากขึ้นตามไปด้วย
เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ผมเลยทำเป็นตารางให้ทุกคนได้เข้าใจกันง่ายขึ้น
เกรดน้ำหนัก | น้ำหนักอื่น ๆ (ชื่อเรียกของแต่ละแบรนด์) | ช่วงน้ำหนัก |
1U | – | 94 กรัม หรือหนักมากกว่านั้น |
2U | – | 90 – 94 กรัม |
3U | W3 (แบรนด์ Li Ning) | 85 – 89 กรัม |
4U | W2 (แบรนด์ Li Ning) | 80 – 84 กรัม |
5U | W1 (แบรนด์ Li Ning) | 75 – 79 กรัม |
6U | F (แบรนด์ Yonex) W1 (แบรนด์ Li Ning) |
70 – 75 กรัม |
ปกติแล้วน้ำหนักของไม้ตามท้องตลาดอยู่ที่ประมาณ 3U (85 – 89 กรัม) หรือ 4U (80 – 84 กรัม) เป็นน้ำหนักที่เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ตีลูกหนัก ๆ โดยไม่ต้องใช้แรงมากจนเกินไป ทั้งนี้ผู้เล่นที่เน้นการเล่นผู้ชายประเภทซิงเกิลหรือเล่นเดี่ยวจะเลือกน้ำหนักในช่วง 3U กันเป็นส่วนใหญ่ เพราะไม้ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับลูกแบดได้
ส่วนคนที่เล่นประเภทคู่ หรือผู้เล่นผู้หญิงจะนิยมเลือกไม้น้ำหนักเบาหรือน้ำหนักในช่วง 4U เพราะการเล่นประเภทคู่จำเป็นต้องใช้ความเร็วเข้าสู้และตั้งรับ จำเป็นต้องตีบอลหน้าเน็ตบ่อย ๆ ซึ่งการเล่นหน้าเน็ตจำเป็นต้องออกหน้าไม้เร็วเป็นปกติ
แต่ถ้าหากใครยังเป็นมือใหม่หัดตี ผมอยากแนะนำให้เลือกไม้หนักสักหน่อย เพราะมันจะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อของเราให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เมื่อเราเริ่มมีเทคนิคในการเล่นและกล้ามเนื้อแข็งแรง แล้วปรับน้ำหนักของไม้ลดลงให้เหมาะกับสไตล์การเล่น มันก็จะทำให้เราจับได้สบายไม่รู้สึกหนัก เนื่องจากเราชินกับการใช้ไม้น้ำหนักก่อนหน้านี้มาแล้ว
การขึ้นเอ็นไม้
- ผู้เล่นมือใหม่ : 17 – 20lbs
- ผู้เล่นทักษะระดับปานกลาง-สูง : 20 – 27lbs
- ผู้เล่นมืออาชีพ: 27 – 30lbs

เส้นเอ็นที่มาพร้อมกับไม้แบดมินตันนั้นมีจะความหย่อนพอสมควร แต่ก็เพียงพอแล้วต่อการใช้งานสำหรับผู้เล่นระดับมือใหม่
ขนาดด้ามจับ
ควรเลือกกริปที่จับได้พอดีกับมือ สามารถจับได้รอบมือและมีช่องว่างระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลาง
ทั้งนี้ขนาดกริปจะมีให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ นั่นคือ
ขนาดกริป | ชื่อเรียกขนาด | ขนาด (มิลลิเมตร) |
กริปขนาดเล็กพิเศษ | G5 | 83 มิลลิเมตร |
กริปขนาดเล็ก | G4 | 86 มิลลิเมตร |
กริปขนาดกลาง | G3 | 89 มิลลิเมตร |
กริปขนาดใหญ่ | G2 | 92 มิลลิเมตร |
กริปขนาดใหญ่พิเศษ | G1 | 95 มิลลิเมตร |
ความแข็งและความยืดหยุ่นของด้ามไม้

- ไม้ด้ามแข็ง (Stiff) ทำให้การตีมีความแม่นยำ เนื่องจากไม้คอนโทรลได้ง่าย แต่ข้อเสียของไม้ด้ามแข็งคือน้ำหนักของลูกแบดที่ออกไปจะไม่ค่อยแรง ยิ่งถ้าหากผู้ใช้ไม่มีเทคนิคหรือความชำนาญในการตีลูกไม่ดีก็จะยิ่งทำให้ลูกแบดมีน้ำหนักเบาเข้าไปใหญ่
- ไม้ด้ามแข็งปานกลาง ความแม่นยำในการตีจะอยู่ในระดับปานกลาง เหมาะสำหรับผู้เล่น All Around ถึงแม้ว่าความแม่นยำจะไม่ดีเท่ากับด้ามแข็ง แต่มันสามารถช่วยให้ลูกแบดที่ออกไปมีน้ำหนัก ไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคอะไรเยอะแยะมากมาย
- ไม้ด้ามยืดหยุ่น (Flexible) ถ้าเปรียบเทียบกับความแข็งชนิดอื่น ๆ ความแม่นยำของมันอาจจะน้อยที่สุด แต่ข้อดีของมันคือช่วยให้ลูกแบดที่ออกไปมีความแรงและเร็วมากขึ้น
FBT ไม้แบดมินตันคู่ พร้อมกระเป๋าใส่ รุ่น DBL

ราคา 259 บาท*
จุดเด่น
- ราคาไม่แพง
- มีความแข็งแรงและมีมาตรฐาน
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับใช้เล่นจริงจัง เพราะไม้ค่อนข้างมีน้ำหนักมากอาจทำให้ปวดแขน ปวดข้อมือได้ หากใช้เล่นนาน ๆ ไม่สามารถขึ้นเอ็นได้ตามต้องการ
สี | ส้ม / ทอง / เงิน |
---|---|
ขนาด | ไม่ระบุ |
น้ำหนัก | ไม่ระบุ |
วัสดุ | ไม่ระบุ |
ไม้แบดมินตัน YONEX ASTROX 88 D PLAY

ราคา 1,760 บาท*
ไม้แบดมินตัน ตระกูล Astrox ของแบรนด์ Yonex ถือว่าเป็นรุ่นนี้มีหัวหนัก ตบลูกได้แรง โดยจริง ๆ แล้ว YONEX ASTROX 88 D จะมีรุ่นย่อยอยู่ 3 รุ่น นั่นคือ Pro (มีราคาแพงที่สุด เหมาะสำหรับผู้เล่นมืออาชีพ), Tour และ Play (มีราคาถูกที่สุด) โดยรุ่นที่เราเอามาแนะนำเป็น รุ่น Play ที่มีราคาไม่เกิน 2,000 บาท

YONEX ASTROX 88 D รุ่น PLAY มีการผลิตมาจากจีน จึงทำให้ถูกกว่ารุ่น Pro (ที่ผลิตจากญี่ปุ่น) แต่ด้วยราคาแล้วถือว่าเป็นไม้ที่ใช้งานได้ดีทีแล้ว เหมาะทำสำหรับผู้เล่นระดับเริ่มต้น - ระดับกลาง ซื้อเล่นกับก๊วนแบด และเมื่อไหร่ที่ฝีมือเราพัฒนาขี้นไปแล้วก็สามารถขยับไปซื้อ YONEX ASTROX 88 D Pro ซึ่งเป็นรุ่นที่ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ใช้เล่น และได้รับเหรียญทองชิงแชมป์โลก ปี 2023 มาสด ๆ ร้อน ๆ
น้ำหนัก | 4U |
---|---|
ขนาดกริป | G5 |
ความตึงของเอ็นที่รองรับ | 20 - 28 lbs |
ความแข็งของด้ามไม้ | Medium (ก้านกลาง) |
เหมาะสำหรับ | คนที่เล่นสายบุก มือใหม่-ปานกลาง |
YONEX ASTROX 77 PRO

ราคา 5,770 บาท*
Yonex Astrox 77 PRO เป็นไม้แบดมินตันที่หนูน้อยอันเซยอน (An Se Young) มือวางอันดับ 1 ของโลกในขณะนี้ (ปี 2023) ใช้ และด้วยฟอร์มการเล่นที่โด่ดเด่นสุด ๆ ในปีนี้จึงทำให้ไม้แบดมินตันรุ่นนี้เป็นที่จับจองสำหรับใครหลาย ๆ คน สำหรับแบรนด์ Yonex แล้ว ไม้แบดมินตันซีรีย์ Astrox จะมีจุดเด่นอยู่ที่มีหัวหนัก ตบแรงและเน้นเล่นเกมบุก เหมาะสำหรับคนที่ชอบเล่นเกมรุก ชอบตบหนัก ๆ เมื่อลองเล่นดูแล้วจะรู้ว่าตบมันจริงจะได้ลูกวิถึที่พุ่งแรงเร็ว

แม้ว่า Yonex Astrox 77 PRO จะมีหัวหนัก แต่ก็มีน้ำหนักเบาพอที่จะข้อมือเล่นเพื่อให้วิถีของลูกจิกลงทำให้ผู้ต่อสู้รับยากขึ้น สามารถช่วยให้เราเล่นลูก Drop Shot ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม้มีความแข็งของก้านเป็น Medium (ก้านกลาง) นอกจากนี้ยังเด่นในเรื่องของเกมรับโดยบริเวณข้อต่อส่วนล่างของหัวไม้มีเทคโนโลยี Flex Fuse ที่ช่วยดูดซับแรงกระแทก ทำให้รู้สึกนุ่มนวลเมื่อลูกกระทบไม้หรือต้องรับลูกตบหนัก ๆ จากผู้ต่อสู้ ถือว่าเป็นไม้ที่ช่วยได้ทั้งเกมบุกและเกมรับเลย
นักกีฬาระดับโลกที่ใช้ Yonex Astrox 77 PRO
- แชมป์เวิลด์แชมเปียนชิพส์ 2023 An Se Young (KOR)
- แชมป์โตเกียวโอลิมปิค Chen Yu Fei (CHN)
- แชมป์เวิลด์แชมเปียนชิพส์ 2022 ประเภทคู่ผสม Huang Ya Qiong (CHN)
แต่เนื่องจาก Yonex Astrox 77 PRO ที่เป็นรุ่นโปรนี้อาจมีราคาค่อนข้างสูง หากเพื่อนๆ คนไหนอยากลองสามารถซื้อ Yonex Astrox 77 Play ที่มีราคาถูกกว่า (ช่วงลดราคาไม่เกิน 2000 บาท) มาลองเล่นดูก่อนก็ได้ แนะนำให้ขึ้นเอ็นให้เหมาะสมกับสไตล์การเล่นของแต่ละคนด้วย
น้ำหนัก | 4U (Avg:83g), 3U (Avg:88g) |
---|---|
ขนาดกริป | G5 |
ความตึงของเอ็นที่รองรับ | 20 - 28 lbs |
ความแข็งของด้ามไม้ | Medium (ก้านกลาง) |
เหมาะสำหรับ | คนที่เล่นสายบุก มือปานกลาง - มือโปร |
ไม้แบดมินตัน YONEX NANOFLARE 700

ราคา 5,320 บาท*
Yonex รุ่น Nanoflare 700 เป็นรุ่นเดียวกับที่ทางน้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ อดีตนักแบดมินตันมือ 1 ของโลก จุดเด่นของตัวไม้คือน้ำหนักเบาและการดีไซน์ทำออกมาช่วยลดแรงต้านลม ช่วยให้ออกหน้าไม้ได้เร็วขึ้นซึ่งตรงนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตีหน้าเน็ต นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่ผมชอบมากคือการใส่ระบบ Sonic Flare ลงไปเพื่อส่งน้ำหนักให้ลูกแบดมินตันพุ่งได้ไกลขึ้น รวมไปถึงยังช่วยลดแรงสั่นสะเทือนในระหว่างการตีอีกด้วยครับ แต่ถ้าหากเปรียบเทียบกับไม้หัวหนักตัวอื่น ๆ ความแรงก็อาจจะสู้ไม่ได้ จำเป็นต้องออกแรงและใช้ข้อมือค่อนข้างเยอะ แต่ข้อดีของไม้คือตีง่าย คอนโทรลบอลไปตามมุมต่าง ๆ ของคอร์ตไม่ยาก
จุดเด่น
- ตีง่าย เพราะไม้น้ำหนักเบาและลดการต้านลม
- ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับลูก ทำให้ลูกแบดพุ่งได้ไกลขึ้น
- ลดการแรงสั่นสะเทือนระหว่างตี
ข้อควรพิจารณา
- อาจไม่เหมาะสำหรับสายบุกที่เน้นตบหนัก ๆ
น้ำหนัก | 3U (88 กรัม) |
---|---|
ขนาดกริป | G5 |
ความตึงของเอ็นที่รองรับ | 21 - 29lbs |
ความแข็งของด้ามไม้ | ด้ามแข็ง (Extra Stiff) |
เหมาะสำหรับ | คนที่เล่นเกมคอนโทรล |
ไม้แบดมินตัน YONEX ASTROX 100 ZZ

ราคา 5,435 บาท*
Yonex Astrox 100 ZZ ไม้แบดมินตันมือโปร ที่ถูกออกแบบไม้เพื่อตอบโจทย์สำหรับนักแบดมินตันสายบุกโดยเฉพาะ เมื่อตีไปแล้วจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนเลยว่าลูกแบดจะพุ่งจิกลงพื้นเร็วมาก โดยเหตุที่ตัวไม้ช่วยให้ลูกแบดพุ่งทะยานได้ดีก็เพราะบริเวณด้ามไม้จะมีความผอม Slim ทำให้สามารถฟาดลูกแบดมินตันได้เต็มที่ จนไม้รุ่นนี้ได้รับฉายาว่าเป็นไม้ ‘Steep Attack’ เลยทีเดียว นอกจากนี้ไม้รุ่นนี้ยังเป็นอาวุธรลับของทาง Viktor Axelsen และ Akane Yamaguchi ในการคว้าแชมป์มาแล้วหลายรายการ หากใครรู้ว่าตัวเองเล่นแบดมินตันในสายเกมบุก ห้ามพลาดไม้ตัวนี้โดยเด็ดขาด
จุดเด่น
- ด้ามไม้มีความ Slim ช่วยให้ลูกแบดจิกลงพื้นและพุ่งได้ไกล
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องของเกมบุก
ข้อควรพิจารณา
- ราคาไม้ค่อนข้างสูง อาจไม่เหมาะสำหรับมือใหม่หรือคนที่มีงบจำกัด
น้ำหนัก | 3U |
---|---|
ขนาดกริป | G5 |
ความตึงของเอ็นที่รองรับ | 21 - 29lbs |
ความแข็งของด้ามไม้ | ด้ามแข็ง (Extra Stiff) |
เหมาะสำหรับ | คนที่เล่นสายบุก - มือโปร |
ไม้แบดมินตัน VICTOR รุ่น TK-F C LTD

ราคา 6,474 บาท*
VICTOR รุ่น TK-F C LTD A 4U เป็นไม้ที่ให้ฟิลลิ่งในการตีดี ตีแล้วรู้สึกนุ่มมาก! เป็นจุดเด่นของไม้ตัวนี้เลยก็ว่าได้ อีกทั้งการคอนโทรลลูกก็ง่าย ทั้งจังหวะงัดลูกหรือจำเป็นต้องเก็บลูกท้ายคอร์ต ไม้ตัวนี้ก็ช่วยโต้ลูกกลับไปอีกฝั่งง่ายขึ้น พร้อมให้เราเตรียมพร้อมในการรับจังหวะต่อไป และยังช่วยให้การตบในแต่ละครั้งก็มีพาวเวอร์ หากหาจังหวะในการตีดี ๆ รับรองว่าคู่ต่อสู้ตั้งรับแทบไม่ทันเลยละครับ ทั้งนี้ผมไม่แนะนำสำหรับการเล่นคู่สักเท่าไหร่ เพราะจังหวะออกหน้าไม้อาจจะช้าเกินไป แต่สำหรับการเล่นเดี่ยวบอกได้เลยว่าตีมันส์มือ ส่วนนักแบดมินตันที่เลือกใช้ไม้นี้จะเป็น Tai Tzu-ying อดีตมือ 1 ของโลกและปัจจุบันก็เป็นอันดับ 3 ณ ตอนนี้ เคยคว้าแชมป์ใหญ่ ๆ มากหลายรายการ
จุดเด่น
- ช่วยให้คอนโทรลลูกง่ายขึ้น
- ทำให้การล้วงลูกและการเก็บลูกท้ายคอร์ตมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ไม้ช่วยในเรื่องของพาวเวอร์ ทำให้การตีแต่ละครั้งมีความแรง
ข้อควรพิจารณา
- ด้วยไม้มีน้ำหนักมาก ทำให้การออกหน้าไม้อาจจะช้าเล็กน้อย
- ราคาของไม้ค่อนข้างสูง
น้ำหนัก | 4U |
---|---|
ขนาดกริป | G5 |
ความตึงของเอ็นที่รองรับ | 27 - 30lbs |
ความแข็งของด้ามไม้ | ด้ามแข็ง (Extra Stiff) |
เหมาะสำหรับ | คนที่เล่นสายบุก - มือโปร |
ไม้แบดมินตัน VICTOR รุ่น TK-HMR L

ราคา 2,105 บาท*
VICTOR รุ่น TK-HMR L เป็นไม้แบดที่เหมาะสำหรับสายบุก มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ลูกที่ออกไปจิกลงพื้นได้เร็วยิ่งขึ้น เพราะเมื่อหน้าไม้กระทบเข้ากับลูกแบดหน้าไม้จะเกิดการพับลง ทำให้ลูกแบดที่ฟาดไปมีทิศทางของลูกที่จิกลงพื้น ทั้งนี้หัวไม้ที่มีน้ำหนักค่อนข้างมากก็ทำให้ลูกมีพาวเวอร์สูงมาก หากใครชอบยืนท้ายคอร์ตและมีกำลังเยอะ ๆ ชอบตีลูกหนัก ไม้รุ่นนี้ตอบโจทย์เลยทีเดียว แต่ข้อเสียคือน้ำหนักหัวไม้ที่เยอะอาจทำให้การออกหน้าไม่ช้าลง ใครที่ไม่ค่อยมีแรงหรือกำลังไม่มากพอ อาจทำให้การเล่นลำบากขึ้นเล็กน้อยและอาจเกิดอาการบาดเจ็บได้หากกล้ามเนื้อไม่แข็งแรงพอ
จุดเด่น
- มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ลูกแบดจิกลงพื้นเร็ว
- เพิ่มพาวเวอร์ให้กับลูกแบดที่ออกจากหน้าไม้
- ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนเมื่อลูกแบดกระทบกับหน้าไม้
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มเล่นหรือกล้ามเนื้อยังไม่แข็งแรง เพราะตียากและอาจทำให้บาดเจ็บได้
น้ำหนัก | 5U |
---|---|
ขนาดกริป | G5 |
ความตึงของเอ็นที่รองรับ | 20 - 28lbs |
ความแข็งของด้ามไม้ | ด้ามยืดหยุ่น (เบา) |
เหมาะสำหรับ | คนที่เล่นสายบุก |
ไม้แบดมินตัน YONEX ARCSABER 11 PRO

ราคา 5,840 บาท*
YONEX ARCSABER 11 PRO ขึ้นชื่อในเรื่องของการคอนโทรลลูกแบด เมื่อตีไปแล้วจะรู้สึกได้เลยว่าการควบคุมลูกง่ายขึ้น ทั้งนี้ตัวก้านไม้มีจุดเด่นในเรื่องของความสลิมถือว่าเล็กมากในระดับ Super Slim เลยครับ ซึ่งตรงนี้แหละเป็นเหตุผลว่าทำไมไม้ถึงตีง่ายและความยืดหยุ่นสูง สำหรับการตีลูกเซฟหรือตีเบสิกทั่วไป เพียงแค่คุณสะบัดเบา ๆ ลูกก็พุ่งเร็วแล้วครับ อีกอย่างหนึ่งที่นักแบดมินตันหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันคือลูกตัดที่เมื่อตีแล้วให้ฟิลลิ่งสมูธมาก ไม่รู้สึกหน่วงหรือฝืดระหว่างตี แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม้ตัวนี้ก็อาจมีข้อเสียสำหรับนักกีฬาสายบุก เพราะถ้าจะไปกับทาง ‘YONEX ASTROX 100 ZZ’ หรือ ‘VICTOR รุ่น TK-F’ ไม้ตัวนี้อาจให้พาวเวอร์ได้ไม่ดีเท่า แต่สำหรับใครที่เล่นสายคอนโทรลรับรองว่าไม้จะซัพพอร์ตการเล่นให้กับคุณดีมาก ๆ ใช้ได้ทั้งเล่นเดี่ยวและเล่นคู่ ส่วนนักกีฬาที่ใช้ไม้รุ่นนี้จะเป็น ปอป้อ ทรัพย์สิรี นักแบดมินตันคู่ผสมที่เคยขึ้นมือ 1 และเป็นแชมป์โลกร่วมกับบาส เดชาพล มาแล้ว
สำหรับมือสมัครเล่นที่ใช้ตีเล่นกับเพื่อนหรือคนที่อยากลอง YONEX ARCSABER แต่มีงบไม่ถึงรุ่น PRO แนะนำให้ซื้อรุ่น PLAY มาใช้ก่อนก็ได้ครับ โดยรุ่น PLAY จะถูกออกแบบมาใกล้เคียงกับ PRO เพียงแต่ใช้วัสดุประกอบที่แตกต่างกันเพื่อให้ราคาถูกกว่าเดิม (รุ่น PLAY มีราคาไม่เกิน 2,000 บาท )YONEX ARCSABER 11 PLAY
น้ำหนัก | 4U |
---|---|
ขนาดกริป | G5 |
ความตึงของเอ็นที่รองรับ | 20 - 28lbs |
ความแข็งของด้ามไม้ | ด้ามแข็ง (Extra Stiff) |
เหมาะสำหรับ | สายคอนโทรล |
ไม้แบดมินตัน VICTOR รุ่น DX-1L 5U 6U

ราคา 1,860 บาท*
Victor รุ่น DX-1L เหมาะสำหรับผู้เล่นระดับเริ่มต้น-ระดับกลาง เนื่องจากไม้มาในน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา ทำให้ฟาดตีลูกขนไก่ได้ง่ายขึ้น เป็นไม้สไตล์ All Around เมื่อตีไปแล้วจะรู้สึกนิ่มเพราะก้านไม้ที่อ่อนจะช่วยในการซับความแรงของไม้เอาไว้ นอกจากนี้เทคโนโลยีที่ใส่ลงไปอย่าง Aero-Hex ก็ช่วยส่งแรงและทำให้การตีมีความเสถียรมากขึ้น
แต่ตัวไม้ก็แอบมีข้อเสียอยู่เล็กน้อยเพราะลูกขนไก่ที่ออกไปอาจจะเหินสูงเล็กน้อย ดังนั้นอาจต้องใช้ข้อมือช่วยครับ แต่ถ้าหากเปรียบเทียบกับราคาของไม้กับคุณภาพที่ได้และได้ใช้แบรนด์ดังอย่าง Victor ก็คุ้มอยู่ หากใครอยากเริ่มต้นเล่นแบดมินตันอย่างมีคุณภาพ ควรเริ่มต้นด้วยไม้รุ่นนี้ครับ
จุดเด่น
- ก้านไม้มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยซับแรงกระแทก
- Aero-Hex ทำให้ตีลูกแบดได้เสถียรมากขึ้น
- ไม้น้ำหนักเบา ตีง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่
ข้อควรพิจารณา
- ถ้าตีไม่ดี ลูกแบดอาจจะเหิน จำเป็นต้องใช้ข้อมือหรือเทคนิคกระโดดเพื่อช่วยกดลูก
น้ำหนัก | 5U |
---|---|
ขนาดกริป | G5 |
ความตึงของเอ็นที่รองรับ | 20 - 24lbs |
ความแข็งของด้ามไม้ | ด้ามแข็ง (Extra Stiff) |
เหมาะสำหรับ | สาย All Around และมือใหม่ |
ไม้แบดมินตัน LI-NING รุ่น 3D CALIBAR 600 (AYPP016-4)

ราคา 10,990 บาท*
แน่นอนว่าถ้าหากพูดถึงไม้แบดมินตัน LI-NING ต้องเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่อยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน เพราะนักเทนนิสชื่อดังหลายคนใช้ อย่างเช่น P. V. Sindhu ที่เคยไปแตะอันดับ 2 ของโลกมาแล้วในช่วงปี 2017 และเฉิน หลง เจ้าของแชมป์โลกและแชมป์โอลิมปิก เป็นนักแบดมินตันระดับตำนานของวงการแบดมินตันเลยก็ว่าได้
โดยรุ่นที่ผมอยากแนะนำจะเป็นรุ่น 3D CALIBAR 600 ซึ่งจะมีจุดเด่นในเรื่องของพาวเวอร์ เพราะหัวไม้เป็น 3D CALIBAR ช่วยสร้างความสมดุลและถ่วงน้ำหนักของไม้ เมื่อฟาดลงไปลูกแบดจะช่วยเพิ่มความเร็วได้ดีมาก หากใครมาในแนวสายบุกหรือ Agressive รับรองว่าติดใจแน่นอน ในขณะเดียวกันตัวไม้ยังคงการคอนโทรที่ดี มี Wing Stabilizer ทำให้ซับแรงกระแทก ช่วยให้ผู้เล่นวางลูกแบดง่ายขึ้น
จุดเด่น
- เป็นไม้ที่สมดุลทั้งการคอนโทรลและการบุก
- ช่วยเพิ่มความเร็วให้กับลูกแบดมินตัน
- วางลูกแบดไปตามมุมต่าง ๆ ง่าย
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
น้ำหนัก | 84 กรัม |
---|---|
ขนาดกริป | S2 |
ความตึงของเอ็นที่รองรับ | 30lbs |
ความแข็งของด้ามไม้ | ด้ามแข็งปานกลาง |
เหมาะสำหรับ | สาย All Around |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
วิธีการเก็บรักษาไม้แบดมินตัน
หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีแสงแดดจัด
ควรหลีกเลี่ยงการเก็บไม้แบดมินตันไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดจัด เพราะจะทำให้เฟรมผิดรูปและเส้นเอ็นจะเสื่อมสภาพ ทำให้อายุการใช้งานของไม้แบดมินตันลดน้อยลง
หลีกเลี่ยงการนำสิ่งของที่มีน้ำหนักมาวางทับบนไม้แบดมินตัน
ไม่ควรนำสิ่งของที่มีน้ำหนักมากมาวางทับบริเวณไม้แบดมินตันเพราะจะส่งผลให้ไม้แบดมินตันผิดรูป
การปฏิบัติเมื่อเส้นเอ็นชำรุด

เมื่อเส้นเอ็นขาดหรือชำรุด ให้ทำการตัดเอ็นทิ้งโดยทันที เพราะถ้าหากไม่ตัดเอ็นจะทำให้เฟรมของไม้อาจการเกิดการบิดเบี้ยวได้
การทำความสะอาด
หลังจากใช้งานไม้แบดมินตันเสร็จแล้ว ควรทำสะอาดให้ทั่วไม้แบดมินตัน เพราะในระหว่างที่เราใช้งานจะมีเหงื่อที่มีทั่วด้ามจับหรือเฟรม ทำให้ไม้แบดมินตันสึกกร่อนได้ง่ายและไม่เงางาม
เป็นอย่างไรกันบ้างครับความรู้ในเรื่องกีฬาแบดมินตันและเทคนิคการเลือกไม้แบดมินตันให้ตรงกับความต้องการและสไตล์ในการเล่นกีฬาแบดมินตันของตัวเราเอง ทางเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะสามารถเพลิดเพลินไปกับกีฬาแบดมินตัน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขัน ฝึกซ้อม หรือออกกำลังกายปกติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขมากที่สุดนะครับ และนอกจากการเล่นกีฬาแล้วก็อย่าลืมรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และอาหารเสริมเพิ่มเติมที่ร่างกายต้องการด้วยนะครับ ด้วยความปรารถนาดีจากเราครับ