เทนนิสถือเป็นกีฬาระดับสากลที่เล่นกันทั่วโลก ไม่ต่างไปจาก ปิงปอง, แบตมินตัน, วิ่ง หรือ ฟุตบอล ทั้งนี้นักกีฬาเทนนิสที่เก่ง ๆ เองก็ได้รับการถูกยกย่องให้มีชื่อเสียงและเงินทองจำนวนมหาศาล จากทั้งรางวัลในการแข่งขันและเงินจากสปอนเซอร์ ซึ่งถ้าหากพูดถึงชื่อนักกีฬาเทนนิสที่มีชื่อเสียงระดับโลก ผมเชื่อว่าหลายคนอาจเคยได้ยินผ่านหูกันมานักต่อนัก ไม่ว่าจะเป็น โรเจอร์ เฟเดอเรอร์, ราฟาเอล นาดาล, โนวัค ยอโควิช หรือเซเรน่า วิลเลี่ยม ในไทยเองก็มีนักเทนนิสชื่อดังอย่าง ภราดร ศรีชาพันธุ์ หรือ แทมมารีน ธนสุกาญจน์ ซึ่งเหตุนี้จึงไม่แปลกใจว่าทำไมคนไทยและคนทั่วโลกจำนวนมากจึงนิยมเล่นและพยายามที่ไต่ระดับความสามารถของตัวเองเพื่อไปเป็นนักกีฬาเทนนิสมืออาชีพให้ได้
แต่อย่างไรก็ดีการที่จะพัฒนาขีดความสามารถของตนเองในกีฬาประเภทนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับร่างกายของผู้เล่นเพียงอย่างเดียว เพราะอุปกรณ์ก็สำคัญเหมือนกันอย่าง ปิงปองก็จะมี ไม้ปิงปอง หรือ ลูกปิงปอง ส่วนเทนนิสเองก็จะมี ‘ไม้เทนนิส’ ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะทำให้ฟอร์มการเล่นของเรานั้นดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังช่วยแก้จุดด้อยและพัฒนาจุดแข็งของเราอีกด้วย ฉะนั้นเราควรพิจารณาและศึกษาข้อมูลพื้นฐานของไม้เทนนิสให้ดีก่อนซื้อครับ ดังนั้นวันนี้ผมจึงได้รวบรวมไม้ข้อมูลไม้เทนนิสไว้สำหรับใครที่กำลังลังเลหรือสงสัยว่าไม้เทนนิสยี่ห้อไหนหรือไม้ในลักษณะใดที่มีคุณภาพและเข้ากับการเล่นของตัวเองมากที่สุดครับ
ประเภทของไม้เทนนิส
1. ไม้พาวเวอร์เกม
ไม้พาวเวอร์เกมนั้นจะเหมาะสำหรับมือใหม่หรือคนที่ชอบเล่นในลักษณะการตีบอลแรง ๆ เพื่อจบเกมหรือปิดแต้มโดยเร็ว ซึ่งขนาดของหัวไม้ของไม้เทนนิสประเภทนี้จะอยู่ที่ขนาดใหญ่กว่าปกติ (Oversize) หรือ ขนาดใหญ่พิเศษ (Super Oversize) ซึ่งความกว้างของหัวไม้จะอยู่ที่ระดับ 104 – 135 ตารางนิ้ว และความยาวของไม้จะอยู่ที่ 27 – 29 นิ้วครับ
2. ไม้ทวีนเนอร์ (ไม้พาวเวอร์กึ่งคอนโทรล)
ไม้ชนิดนี้จะเหมาะสำหรับการฝึกซ้อมหรือสำหรับนักเทนนิสมืออาชีพบางคน ที่ต้องการคุมทิศทางควบคู่ไปกับการน้ำหนักของการตี ซึ่งไม้ประเภทนี้จะมีความกว้างของหัวไม้อยู่ที่ประมาณ 95 – 102 ตารางนิ้ว ความยาวของไม้จะอยู่ที่ประมาณ 27.5 – 28 นิ้ว
3. ไม้คอนโทรล
ไม้ชนิดนี้จะนิยมในหมู่นักกีฬามืออาชีพที่ลงแข่งขันตามทัวร์นาเมนต์หรือคนที่ต้องการไม้ที่สามารถควบคุมทิศทางได้อย่างดีเยี่ยม โดยหัวไม้ประเภทนี้จะมีขนาดความกว้างที่ค่อนข้างเล็ก ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 85 – 98 ตารางนิ้ว และจะมีน้ำหนักของไม้อยู่ที่ประมาณ 11.5 – 13 ออนซ์
ไม้เทนนิส ยี่ห้อไหนดี?
- เพิ่มจุดกระทบบอลที่มากขึ้น ช่วยพัฒนาการเสิร์ฟของเราให้ดีขึ้นได้ไม่มากก็น้อย เพราะมุมการเสิร์ฟของเราจะกว้างขึ้นกว่าเดิม ในขณะเดียวกันไม้ก็มีความยืดหยุ่นและบางกว่ารุ่นก่อน ช่วยให้บอลที่ออกไปจากหน้าไม้มีสปินมากเป็นพิเศษ: ไม้เทนนิส Babolat Pure Drive 2021
- เทคโนโลยีที่ใส่ลงไปอย่าง FSI Spin ก็ทำให้บอลมีพุ่งได้อย่างรวดเร็วและยังเสริมสปินไปด้วยในตัว ถ้าใครอยากเล่นเทนนิสสไตล์ Nadal ห้ามพลาดรุ่นนี้อย่างเด็ดขาด: ไม้เทนนิส Babolat Pure aero
- ตัวไม้จะช่วยในเรื่องของการยิงบอลที่แรงกว่าเดิม แต่ในขณะเดียวกันการคอนโทรลบอลหรือวางบอลก็ไม่ได้ยากอะไร ทำให้การตีแต่ละจังหวะมีความมั่นใจกว่าเดิม ถือเป็นไม้ที่ผสมผสานทั้งในเรื่องของการคอนโทรลและพาวเวอร์ได้ดี: ไม้เทนนิส Head Gravity Pro 2021
- ให้ฟีลลิ่งที่ดี เมื่อตีไปแล้วจะรู้สึกถึงแรงกระแทกและความคลีนในการตีที่หนักแน่น นอกจากนี้มันยังช่วยเพิ่มให้บอลมีสปินมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ได้ดีมากสำหรับคนที่เล่นผสมผสานระหว่างเกมบุกและเกมรับ : ไม้เทนนิส Head Extreme Nite Tour 2021
- น้ำหนักที่ค่อนข้างเบา ทำให้คนที่มีทักษะไปจนถึงมืออาชีพปรับหน้าไม้และตีได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันยังช่วยปรับให้การตีของเรามีความเสถียรและตีได้ตรงมุมที่ต้องการ เหมาะสำหรับคนที่อยากเล่นเกมสไตล์ Roger Federer: ไม้เทนนิส Wilson Pro Staff 97 V.13 G2
วิธีเลือกไม้เทนนิส
1. ขนาดหัวไม้เทนนิส
ความกว้างของหน้าไม้เทนนิสมีทั้งหมด 4 ขนาด ได้แก่
- Midsize (ขนาดเล็ก) : ความกว้างระดับ 85 – 95 ตารางนิ้ว
- Mid Plus (ขนาดกลาง) : ความกว้างระดับ 96 – 105 ตารางนิ้ว
- Oversize (ขนาดใหญ่กว่าปกติ) : ความกว้างระดับ 106 – 118 ตารางนิ้ว
- Super oversize (ขนาดใหญ่พิเศษ) : ความกว้างตั้งแต่ระดับ 119 ตารางนิ้วขึ้นไป
ความกว้างของหัวไม้จะมีผลต่อความแรงในการตี ยิ่งหัวไม้ใหญ่มากแค่ไหน ความแรงในการตีบอลของไม้เทนนิสก็จะแรงขึ้นตามไปด้วย ในขณะเดียวกันถ้าหัวไม้มีขนาดเล็ก ถึงแม้ว่าจะตีบอลไม่ได้แรงเท่ากับหัวไม้ขนาดใหญ่ แต่การควบคุมบอลนั้นจะง่ายกว่าครับ
แต่โดยส่วนใหญ่แล้วต้องบอกว่านักเทนนิสระดับโลกไม่ว่าจะเป็น Roger Federer, Rafael Nadal, Novak Djokovic, Serena Williams หรือ Caroline Wozniacki ล้วนแล้วแต่จะใช้หัวไม้ในระดับ Mid Plus หรือหัวไม้ในระดับ 96 – 105 ตารางนิ้ว กันซะส่วนใหญ่ เนื่องจากนักเทนนิสมืออาชีพจะเน้นในเรื่องของการคอนโทรลบอลมากกว่าที่จะเน้นเพียงแค่ความแรงเพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้ในส่วนของมือใหม่หรือมือสมัครเล่นนั้นจะเหมาะสำหรับหัวไม้ขนาด Oversize ครับ เพราะผู้เล่นมือใหม่จะต้องการไม้ที่สามารถตีได้แรงและมีหน้าไม้ขนาดใหญ่เพื่อที่จะสามารถกะการตีบอลได้ง่ายขึ้น
2. ความยาวของไม้เทนนิส
ความยาวของไม้เทนนิสที่ขายในท้องตลาดจะมีให้เราเลือกตั้งแต่ 26.5 – 29 นิ้ว แต่โดยมาตรฐานแล้วความยาวไม้เทนนิสที่ใช้กันอยู่ที่ 27 นิ้วครับ อย่างไรก็ดีถ้าคุณใครที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วในการเสิร์ฟหรือพลังในการตีมากกราวสโตรกมากขึ้น คุณสามารถเลือกใช้ความยาวในระดับ 29 นิ้วได้ เพราะความยาวระดับนี้ถือว่าเป็นยาวที่ถูกต้องตามกฎของการแข่งขันระดับสากล
3. น้ำหนักและการบาลานซ์ของไม้เทนนิส
น้ำหนักของไม้เทนนิสมีผลต่อความแรงในการตีไม่ต่างจากขนาดหัวและความยาวของไม้เทนนิสครับ เพราะยิ่งน้ำหนักของไม้เทนนิสนั้นมากเท่าไหร่ ความแรงในการที่จะตีบอลก็จะยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ไม้ที่มีน้ำหนักมากจะสามารถควบคุมด้ามจับและควบคุมทิศทางของหัวไม้ได้ดีกว่าไม้ที่มีน้ำหนักเบาครับ
- ไม้น้ำหนักเบา : 255 – 270 กรัม (9 – 9.4 ออนซ์) เหมาะสำหรับมือใหม่
- ไม้น้ำหนักปานกลาง : 280 – 310 กรัม (9.8 – 10.9 ออนซ์) เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นฐานจนถึงนักกีฬา
- ไม้น้ำหนักมาก : 330 กรัม (11 ออนซ์) เหมาะสำหรับนักกีฬามืออาชีพ
4. ความยืดหยุ่น
ความยืดหยุ่นของไม้นั้นจะมีความแข็งของไม้เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งความแข็งนั้นก็มีสเกลหรือระดับความแข็งครับ โดยระดับความแข็งของไม้เทนนิสจะมีตั้งแต่ 0 – 100 แต่ทั่วไปแล้วไม้เทนนิสที่ใช้กันในการแข่งขันหรือใช้เล่นทั่วไปจะอยู่ในระดับ 45 – 75 โดยจะแบ่งประเภทความแข็งของไม้เทนนิสได้ตามนี้
- ไม้ยืดหยุ่นสูง : ความแข็งระดับ 63
- ไม้ยืดหยุ่นปานกลาง : ความแข็งระดับ 64 – 67
- ไม้แข็ง (ไม่ค่อยยืดหยุ่น) : ความแข็งระดับ 68 ขึ้นไป
ไม้ที่มีความยืดหยุ่นสูงจะสามารถตีบอลได้ง่ายขึ้นและจะรู้สึกสบายในการตี ในขณะเดียวกันหากไม้มีระดับความแข็งที่ค่อนข้างสูงจะมีข้อดีตรงที่จะทำให้ผู้ตีสามารถตีบอลแรงขึ้น ซึ่งจะเหมาะสำหรับผู้เล่นมือใหม่ครับ
5. สวิงเวท
สวิงเวท (Swingweight) เป็นน้ำหนักหรือความรู้สึกในระหว่างการสวิงแขน ถ้าหากน้ำหนักของสวิงเวทสูง มันอาจจะทำให้รู้สึกหนักระหว่างการสวิงแขนในการตี ซึ่งมันอาจไม่เหมาะสำหรับมือใหม่สักเท่าไหร่นัก แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีข้อดีอยู่ตรงที่หากไม้มีสวิงเวทเยอะ ก็จะทำให้เราสามารถตีบอลได้หนักและเสถียรขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนักกีฬามืออาชีพที่ต้องเจอคู่แข่งขันที่ตีบอลแรง ๆ การใช้ไม้ที่มีสวิงเวทสูง ๆ ก็จะสามารถปรับความแรงในการตีและรองรับบอลที่มาเร็วของคู่แข่งได้ดีครับ โดยน้ำหนักสวิงเวทจะแบ่งออกได้ 3 ประเภท
- สวิงเวทต่ำ : 305 (หรือน้อยกว่านั้น) เหมาะสำหรับมือใหม่
- สวิงเวทปานกลาง : 310 – 325 เหมาะสำหรับคนที่มีทักษะเทนนิสในเบื้องต้น
- สวิงเวทสูง : ตั้งแต่ 325 ขึ้นไป เหมาะสำหรับนักกีฬามืออาชีพ
6. แพทเทิร์นของเอ็นไม้เทนนิส
รูปแบบของการจัดเรียงเอ็นไม้เทนนิสเป็นสิ่งที่นักกีฬามืออาชีพหรือแม้กระทั่งมือใหม่จะต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากประสิทธิภาพในการเล่นและความรู้สึกในระหว่างการตีนั้นมีผลเกี่ยวเนื่องกับแพทเทิร์นของเอ็นไม้เทนนิส ทั้งนี้โดยทั่วไปแพทเทิร์นของไม้เทนนิสจะแบ่งออกเป็น 4 แพทเทิร์น ดังนี้
เพทเทิร์น 18 x 20
แพทเทิร์นเอ็นไม้ในระดับนี้เป็นหนึ่งในแพทเทิร์นที่ใช้กันมากในปัจจุบัน เนื่องจากมันทำให้การตีของเราเสถียรหรือคอนโทรลได้ง่ายในการตี แต่มันก็มีข้อเสียเล็กน้อยตรงที่การหมุนของบอล (Spin) จะไม่ดีเท่ากับแพทเทิร์นอื่น ๆ (Spin คือการหมุนของบอล)
แพทเทิร์น 16 x 19
เป็นอีกหนึ่งแพทเทิร์นที่นิยมกันมากและมีผู้เล่นมืออาชีพหลายคนใช้กันค่อนข้างเยอะ เนื่องจากแพทเทิร์นของเอ็นแบบนี้จะช่วยให้การตีบอลในแต่ละครั้งมีสปิน (Spin) และความแรงที่มากขึ้น ซึ่งทำให้เราสามารถตีบอลไปท้ายคอร์ทของฝั่งคู่แข่งได้ง่ายโดยไม่ต้องออกแรงเยอะ ซึ่งจุดนี้จะช่วยทำลายจังหวะของคู่แข่ง ทำให้เราสามารถตีเพื่อปิดแต้มได้ แต่อย่างไรก็ดีแพทเทิร์นนี้ก็มีข้อเสียอยู่ตรงที่เราอาจจะต้องเปลี่ยนเอ็นอยู่เรื่อย ๆ เนื่องจากในการตีอาจเกิดกันฉีกขาดของเอ็นได้ครับ
แพทเทิร์น 16 x 18
แพทเทิร์นนี้จะคล้ายกับแพทเทิร์น 16 x 19 มากครับ จะต่างกันเพียงแค่การคอนโทรลบอลที่ง่ายกว่า เพราะเมื่อบอลกระทบกับเอ็นมันจะทำให้ลูกพักอยู่ตรงหน้าไม้ของเราได้นานกว่าแพทเทิร์นอื่น ๆ ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมแพทเทิร์นนี้จึงคอนโทรลบอลได้ง่าย
แพทเทิร์น 16 x 20
แพทเทิร์นนี้มีความใกล้เคียงกับ 2 แพทเทิร์นด้านบน แต่มันจะดีกว่าตรงที่ความเสถียรในการตี อย่างไรก็ดีแพทเทิร์นนี้จะให้สปินกับบอลค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับแพทเทิร์นอื่นครับ
7. ขนาดของด้ามจับ
ขนาดด้ามจับของไม้เทนนิสจะมีผลต่อการจับไม้ของเรา ซึ่งก่อนการตัดสินใจซื้อเราควรที่จะต้องวัดความยาวของมือก่อน เพื่อให้เราสามารถเลือกขนาดของด้ามจับที่พอดีกับขนาดของมือเราได้ครับ
ซึ่งวิธีการวัดขนาดมือมีดังนี้
- แบมือและให้นิ้วชิดกันทุกนิ้ว
- นำไม้บรรทัดมาวัด โดยเริ่มจากส่วนปลายของนิ้วนางไปจนถึงฝ่ามือ
- ดูความยาวและจดบันทึกไว้
ทั้งนี้ขนาดของด้ามจับไม้เทนนิสก็แบ่งออกได้ดังนี้
- 4 นิ้ว (US) = 0 (EU)
- 4 – ⅛ นิ้ว (US) = 1 (EU)
- 4 – ¼ นิ้ว (US) = 2 (EU)
- 4 – ⅜ นิ้ว (US) = 3 (EU)
- 4 – ½ นิ้ว (US) = 4 (EU)
- 4 – ⅝ นิ้ว (US) = 5 (EU)
- 4 – ¾ นิ้ว (US) = 6 (EU)
ไม้เทนนิส ARTENGO รุ่น F110

ราคา 790 บาท*
ขนาดหัวไม้ | 106 ตารางนิ้ว |
---|---|
น้ำหนักไม้ | 270 กรัม |
ความยาวไม้ | 27 นิ้ว |
ความยืดหยุ่น | 58 |
สวิงเวท | ไม่ระบุ |
แพทเทิร์นเอ็นไม้ | ไม่ระบุ |
ขนาดด้ามจับ | 2 (EU Size) |
ไม้ประเภท | พาวเวอร์เกม |
เหมาะสำหรับ | มือใหม่หัดเล่น |
ไม้เทนนิส Babolat Pure aero

ราคา 5,600 บาท*
ขนาดหัวไม้ | 100 ตารางนิ้ว |
---|---|
น้ำหนักไม้ | 318 กรัม |
ความยาวไม้ | 27 นิ้ว |
ความยืดหยุ่น | 67 |
สวิงเวท | 324 |
แพทเทิร์นเอ็นไม้ | 16 x 19 |
ขนาดด้ามจับ | 2 (EU Size) |
ไม้ประเภท | ไม้คอนโทรล |
เหมาะสำหรับ | ผู้ที่มีทักษะไปจนถึงนักกีฬามืออาชีพ |
ไม้เทนนิส Babolat Pure Drive 2021

ราคา 5,750 บาท*
ขนาดหัวไม้ | 100 ตารางนิ้ว |
---|---|
น้ำหนักไม้ | 300 กรัม |
ความยาวไม้ | 27 นิ้ว |
ความยืดหยุ่น | 71 |
สวิงเวท | 320 |
แพทเทิร์นเอ็นไม้ | 16 x 19 |
ขนาดด้ามจับ | 2 (EU Size) |
ไม้ประเภท | ไม้พาวเวอร์และคอนโทรล |
เหมาะสำหรับ | ผู้ที่มีทักษะไปจนถึงนักกีฬามืออาชีพ |
ไม้เทนนิส WILSON BLADE 100 V8 2021

ราคา 6,175 บาท*
ขนาดหัวไม้ | 100 ตารางนิ้ว |
---|---|
น้ำหนักไม้ | 301 กรัม |
ความยาวไม้ | 27 นิ้ว |
ความยืดหยุ่น | 69 |
สวิงเวท | 314 |
แพทเทิร์นเอ็นไม้ | 16 x 19 |
ขนาดด้ามจับ | 2 (EU Size) |
ไม้ประเภท | ไม้พาวเวอร์และคอนโทรล |
เหมาะสำหรับ | ผู้ที่มีทักษะไปจนถึงนักกีฬามืออาชีพ |
ไม้เทนนิส YONEX รุ่น VCORE SV 100

ราคา 6,290 บาท*
ขนาดหัวไม้ | 100 ตารางนิ้ว |
---|---|
น้ำหนักไม้ | 318 กรัม |
ความยาวไม้ | 27.5 นิ้ว |
ความยืดหยุ่น | 70 |
สวิงเวท | 341 |
แพทเทิร์นเอ็นไม้ | 16 x 19 |
ขนาดด้ามจับ | 2 (EU Size) |
ไม้ประเภท | พาวเวอร์เกม |
เหมาะสำหรับ | ผู้ที่มีทักษะไปจนถึงนักกีฬามืออาชีพ |
ไม้เทนนิส Head Gravity Pro 2021

ราคา 6,390 บาท*
ขนาดหัวไม้ | 100 ตารางนิ้ว |
---|---|
น้ำหนักไม้ | 332 กรัม |
ความยาวไม้ | 27 นิ้ว |
ความยืดหยุ่น | 62 |
สวิงเวท | 332 |
แพทเทิร์นเอ็นไม้ | 18 x 20 |
ขนาดด้ามจับ | 2 (EU Size) |
ไม้ประเภท | ไม้พาวเวอร์และคอนโทรล |
เหมาะสำหรับ | ผู้ที่มีทักษะไปจนถึงนักกีฬามืออาชีพ |
ไม้เทนนิส Head Extreme Nite Tour 2021

ราคา 6,450 บาท*
ขนาดหัวไม้ | 98 ตารางนิ้ว |
---|---|
น้ำหนักไม้ | 323 กรัม |
ความยาวไม้ | 27 นิ้ว |
ความยืดหยุ่น | 65 |
สวิงเวท | 318 |
แพทเทิร์นเอ็นไม้ | 16 x 19 |
ขนาดด้ามจับ | 2 (EU Size) |
ไม้ประเภท | ไม้พาวเวอร์ |
เหมาะสำหรั | ผู้ที่มีทักษะไปจนถึงนักกีฬามืออาชีพ |
ไม้เทนนิส Wilson Pro Staff 97 V.13 G2

ราคา 6,500 บาท*
ขนาดหัวไม้ | 97 ตารางนิ้ว |
---|---|
น้ำหนักไม้ | 332 กรัม |
ความยาวไม้ | นิ้ว |
ความยืดหยุ่น | 66 |
สวิงเวท | 321 |
แพทเทิร์นเอ็นไม้ | 16 x 19 |
ขนาดด้ามจับ | 2 (EU Size) |
ไม้ประเภท | ไม้พาวเวอร์ |
เหมาะสำหรับ | ผู้ที่มีทักษะไปจนถึงนักกีฬามืออาชีพ |
ไม้เทนนิส Babolat Pure aero RAFA 2020 (Limited edition)

ราคา 6,900 บาท*
ขนาดหัวไม้ | 100 ตารางนิ้ว |
---|---|
น้ำหนักไม้ | 318 กรัม |
ความยาวไม้ | 27 นิ้ว |
ความยืดหยุ่น | 67 |
สวิงเวท | 324 |
แพทเทิร์นเอ็นไม้ | 16 x 19 |
ขนาดด้ามจับ | 2 (EU Size) |
ไม้ประเภท | ไม้คอนโทรล |
เหมาะสำหรับ | ผู้ที่มีทักษะไปจนถึงนักกีฬามืออาชีพ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ 9 ไม้เทนนิส ยี่ห้อไหนดี Wilson, Babolat, Head, YONEX | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
วิธีการพัฒนาสกิลการเล่นเทนนิส
1. ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจะทำให้คุณรู้ว่าจุดแข็งและจุดอ่อนของคุณอยู่ตรงไหน ซึ่งถ้าให้แนะนำวิธีการจัดตารางการฝึกซ้อม ผมอยากแนะนำว่าให้ฝึก 3 – 5 ครั้งต่ออาทิตย์ โดยเวลาการซ้อมในแต่ละครั้งนั้นควรจะอยู่ที่ 2 – 3 ชั่วโมงครับ
2. เล่นกับคนที่เก่งกว่า
เราจะไม่มีทางรู้เลยครับว่าฝีมือของเราอยู่ในระดับไหน ถ้าเรายังคงเล่นกับคนที่ฝีมือไม่ดีเท่ากับเรา ดังนั้นถ้าหากมีโอกาสได้เล่นกับมืออาชีพหรือคนที่มีประสบการณ์มากกว่า ก็ควรที่จะหยิบโอกาสในการเล่นครับ เพราะเราจะได้รู้ว่าเราควรเพิ่มหรือพัฒนาสกิลตรงไหนเพื่อยกระดับการเล่นของตัวเอง
3. ให้คู่เล่นของคุณวิจารณ์ฟอร์มการเล่นของคุณ
อีกวิธีการหนึ่งที่จะทำให้เราทราบถึงวิธีการเล่นหรือฟอร์มการเล่นในมุมอื่น ๆ คือการที่ให้คู่เล่นหรือคู่แข่งวิจารณ์ฟอร์มของเรา เพราะในบางครั้งคู่แข่งนั้นจะทราบถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของเรา ในมุมมองหรือจุดที่เราอาจไม่เห็นหรือไม่ได้นึกถึงครับ
4. ลงแข่งในรายการต่าง ๆ
หากคุณต้องการที่จะเป็นนักเทนนิสมืออาชีพ คุณจำเป็นที่จะต้องลงแข่งขันตามทัวร์นาเมนต์ เพื่อประเมินฝีมือของตนเองกับนักกีฬามืออาชีพ โดยอาจจะเริ่มจากในอำเภอหรือจังหวัดของตัวเองก็ได้ครับ แล้วจึงค่อย ๆ ไต่ไประดับจังหวัดและระดับประเทศ
5. เพิ่มกล้าเนื้อด้วยการเข้าฟิตเนส
การสร้างกล้ามเนื้อและการออกกำลังกายด้วย อุปกรณ์ฟิตเนส ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ลูกกลิ้งบริหารหน้าท้อง, โฮมฟิตเนส, ดัมเบล, ลู่วิ่งไฟฟ้า, และครอสเทรนเนอร์ สามารถทำให้ฟอร์มการเล่นเทนนิสของเราดีขึ้นได้ เนื่องจากเทนนิสเป็นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวเยอะ หากกล้ามเนื้อของเราแข็งแรง แน่นอนว่าเราสามารถเล่นกีฬาชนิดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ