Best Review Asia
  •  
  • ซื้อยี่ห้อไหนดี ?
    • เทคโนโลยี
    • สุขภาพและความงาม
    • บ้านและห้องครัว
    • แม่และเด็ก
    • แฟชั่น
    • กีฬา
    • อาหารและเครื่องดื่ม
    • สัตว์เลี้ยง
    • อุปกรณ์สำนักงาน
    • เครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำสวน
    • เครื่องดนตรี
    • ยานยนต์
    • เทศกาลต่าง ๆ
    • แอปพลิเคชั่น
  • รีวิว สินค้า
  • สาระน่ารู้
    • แม่และเด็ก
    • สุขภาพ
    • ลดน้ำหนัก
    • การศึกษา
    • Life Style
    • แคปชั่นภาษาอังกฤษ
  • สูตรอาหาร
  • ท่องเที่ยว
    • ภาคเหนือ
    • ภาคใต้
    • ภาคกลาง
    • ภาคตะวันตก
    • ภาคตะวันออก
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ซีรีส์/หนัง
    • ซีรีส์เกาหลี
    • ซีรีส์จีน
    • ซีรีส์ฝรั่ง
    • ละครไทย
    • ภาพยนตร์ฝรั่ง
    • การ์ตูน
    • เพลง-ศิลปิน
  • ดีลดี
No Result
View All Result
Best Review Asia
No Result
View All Result

Home » สุขภาพและความงาม » ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนใช้ดี เป่าแล้วผมไม่แห้งเสีย ปี 2023

ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนใช้ดี เป่าแล้วผมไม่แห้งเสีย ปี 2023

Mine Melody โดย Mine Melody , Yok Arisa
อัปเดตเมื่อ: June 1, 2023
ใน ของใช้ส่วนตัว
ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนใช้ดี เป่าแล้วผมไม่แห้งเสีย
Share on FacebookShare on Twitter

ผมเปียกตอนเช้า…และจะแห้งอีกทีในตอนบ่ายแบบนี้ก็คงจะไม่ไหวกันใช่มั้ยคะ? ในยุคที่ทุกอย่างต้องเร่งรีบ เวลาเปรียบเสมือนทองคำ ทุกคนต่างก็มีชั่วโมงเร่งด่วนด้วยกันทั้งนั้น ในตอนเช้าของวันทำงานคุณอาจต้องการตัวช่วยในการทำผมให้แห้งเร็วขึ้น เพื่อที่คุณจะได้ประหยัดเวลาไปทำอะไรได้อีกมากมาย ดังนั้น “ไดร์เป่าผม” จึงเป็นทางออกสำหรับปัญหาเวลาที่เร่งรีบเช่นนี้ เพราะมันจะช่วยให้คุณสวยได้เสร็จทันเวลา เนื่องจากมันมีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผมแห้งเร็วและยังเป็นไอเทมจัดแต่งทรงผมยอดนิยมที่สามารถทำทรงผมหลากหลายรูปแบบ

แม้ปัจจุบันนี้จะมีอุปกรณ์จัดแต่งผมมากมายอย่าง เครื่องหนีบผมตรง, เครื่องม้วนลอนผม หรือหวีไฟฟ้า แต่ไดร์เป่าผมยังเป็นอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมคู่ใจของสาว ๆ ในทุกยุคทุกสมัย เพราะไดร์เป่าผมจะมาช่วยเปลี่ยนลุคทรงผมสุดธรรมดา ๆ ของคุณให้เป็นสาวผมตรงสวยมีวอลลุ่มทั้งยังเสริมสร้างเสน่ห์ตามสไตล์คุณได้ง่าย ๆ แต่ไดร์เป่าผมแต่ละรุ่นก็ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของสาว ๆ ที่ต่างกัน ดังนั้นก่อนที่จะไปเลือกซื้อไดร์เป่าผม เราต้องรู้วิธีเลือกไดร์เป่าผมที่เหมาะกับตัวเองก่อนค่ะ

ทำไมไดร์เป่าผมบางตัวถึงมีราคาแพง ?

แม้เราจะรู้อยู่เต็มอกว่าความร้อนกับเส้นผมเป็นสิ่งที่ไม่ควรใช้คู่กันแต่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อยู่ดี เนื่องจากผลลัพธ์ของมันจะช่วยทำให้ผมของเราเป็นทรงที่สวยงาม ซึ่งการเลือกไดร์เป่าผมก็ไม่ควรดูแต่เพียงเปลือกนอกเท่านั้นเพราะคุณจะต้องดูด้วยว่ามันช่วยป้องกันหรือดูแลเส้นผมจากความร้อนควบคู่ไปด้วยกันหรือไม่ ?

ผมแห้งเสียชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก เพราะโดนความร้อนจากไดร์เป่าบ่อย ๆ
ผมแห้งเสียชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก เพราะโดนความร้อนจากไดร์เป่าบ่อย ๆ

หลายคนอาจะสังสัยว่าทำไมเราจะต้องซื้อไดร์เป่าผมราคาที่แพงด้วยในเมื่อมันให้ความร้อน ช่วยทำให้ผมแห้ง และจัดแต่งทรงผมได้เหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วไดร์เป่าผมที่บางยี่ห้อตั้งราคาสูง ๆ นั้น เพราะมันมีคุณสมบัติพิเศษในการดูแลรักษาเส้นผมของคุณให้คงสภาพนุ่มลื่น เงางาม และไม่แห้งเสียไปกว่าเดิมจากการโดนความร้อนบ่อย ๆ ซึ่งมันก็เป็นคุณสมบัติที่ไดร์ราคาประหยัดไม่สามารถมอบให้แก่คุณได้ หากคุณเป็นคนที่ไม่ได้ใช้ไดร์เป่าผมบ่อย ๆ คุณอาจจะไม่สนใจในเรื่องพวกนี้ หากคุณเป็นคนต้องใช้ไดร์เป่าผมทุกวัน คุณจำเป็นต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่เส้นผมของตัวเองก่อนที่จะสายเกินไป

ผมนุ่มลื่น ผมสุขภาพดี ผมสวย บำรุงผม
ผมยังคงนุ่มลื่นสุขภาพดีแม้ว่าจะโดนความร้อนทุกวัน เพราะใช้ไดร์เป่าที่มีเทคโนโลยีดูแลรักษาเส้นผม

ดังนั้นการลงทุนกับไดร์เป่าผมไม่ใช่เรื่องที่คุณจะต้องเสียดายเงินเลยค่ะ เพราะไดร์เป่าผมที่ดีจะให้ผลลัพธ์เกี่ยวกับสุขภาพของเส้นผมที่ดีขึ้นเช่นกัน ถึงแม้ว่าคุณจะใช้ความร้อนกับเส้นผมเป็นประจำทุกวันแต่มันก็ไม่ทำให้ผมแห้งเสียอย่างแน่นอน
ซึ่งในวันนี้เราก็ไม่ได้มารีวิวไดร์เป่าผมธรรมดา ๆ ทั่วไปที่เน้นเพียงแค่ลมแรงแห้งไว แต่เราจะมารีวิว “ไดร์เป่าผมที่ไม่ทำให้เส้นผมแห้งเสีย” ที่จะช่วยถนอมดูแลและบำรุงเส้นผมของคุณไปในตัว ซึ่งจะมีไดร์เป่าผมยี่ห้อไหนน่าสนใจบ้างมาดูกันค่ะ

ซื้อไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี ?

รายการต่อไปนี้ก็คือไดร์เป่าผมที่ดีที่สุดในเรื่องของการถนอมดูแลเส้นผม แต่จะมีคุณสมบัติพิเศษในด้านต่าง ๆ ที่โดดเด่นเฉพาะตัวให้คุณได้พิจราณาง่ายขึ้นดังนี้

  • ดีที่สุด ออกแบบให้เหมาะกับทุกสภาพเส้นผม ให้การใช้งานครอบคลุม: Dyson รุ่น HD08 ไดร์เป่าผม 1600W
  • บอกลาหนังศีรษะและผิวแห้ง ๆ แค่เป่าก็เท่ากับบำรุง: Panasonic รุ่น EH-NA98-KL ไดร์เป่าผม 1800W
  • มอเตอร์แบบใหม่ ประหยัดไฟกว่า ลมเย็นกว่า ทนทานกว่า: [ใหม่] Lesasha รุ่น LS1628 ไดร์เป่าผม 1600W LS Airmax BLDC Jet
  • ผมแห้งไว นุ่มลื่น โดยไม่สูญเสียความชุ่มชื้น ขนาดกะทัดรัด: Lesasha รุ่น LS1371 ไดร์เป่าผม 1200W Luxe Ion Plus Bio-Ceramic
  • ราคาประหยัด ลมแรง แห้งไว: Philips รุ่น BHD350/10 ไดร์เป่าผม 2100W
  • ราคาประหยัด พับเก็บได้ ขนาดกะทัดรัด: Panasonic รุ่น EH-NE20 ไดร์เป่าผม 1800W
  • ราคาประหยัด ดีไซน์สวย ขนาดกะทัดรัด: Xiaomi Mijia Mi Water Ion Electric Hair Dryer ไดร์เป่าผม 1800W

โปรดจำไว้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องลงทุนมหาศาลเพื่อให้ได้ไดร์เป่าผมที่ดีที่สุด แต่คุณควรลงทุนไปกับไดร์เป่าผมที่เหมาะสมสำหรับคุณมากกว่า 🙂

Dyson รุ่น HD08 ไดร์เป่าผม 1600W
Dyson รุ่น HD08 ไดร์เป่าผม 1600W
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
ดูได้ที่ central
Panasonic รุ่น EH-NA98-KL ไดร์เป่าผม 1800W
Panasonic รุ่น EH-NA98-KL ไดร์เป่าผม 1800W
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
ดูได้ที่ central
[ใหม่] Lesasha รุ่น LS1628 ไดร์เป่าผม 1600W LS Airmax BLDC Jet
[ใหม่] Lesasha รุ่น LS1628 ไดร์เป่าผม 1600W LS Airmax BLDC Jet
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
ดูได้ที่ central
Lesasha รุ่น LS1371 ไดร์เป่าผม 1200W  Luxe Ion Plus Bio-Ceramic
Lesasha รุ่น LS1371 ไดร์เป่าผม 1200W Luxe Ion Plus Bio-Ceramic
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
Philips รุ่น BHD350/10 ไดร์เป่าผม 2100W
Philips รุ่น BHD350/10 ไดร์เป่าผม 2100W
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
ดูได้ที่ central
Panasonic รุ่น EH-NE20 ไดร์เป่าผม 1800W
Panasonic รุ่น EH-NE20 ไดร์เป่าผม 1800W
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
ดูได้ที่ central
Xiaomi Mijia Mi Water Ion Electric Hair Dryer ไดร์เป่าผม 1800W
Xiaomi Mijia Mi Water Ion Electric Hair Dryer ไดร์เป่าผม 1800W
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

การใช้ไดร์เป่าผมจะช่วยลดการเกิดเชื้อราบนหนังศีรษะ
การใช้ไดร์เป่าผมจะช่วยลดการเกิดเชื้อราบนหนังศีรษะ

หากไม่ใช้ไดร์เป่าผมจะส่งผลกระทบต่อหนังศีรษะอย่างไร

ในเวลาที่คุณสระผมเส้นผมของคุณจะอ่อนแอมาก เพราะน้ำจะซึมเข้าสู่รูขุมขนแต่ละเส้นของผมคุณ รากผมที่อ่อนแอก็จะเปิดโอกาสให้เชื้อโรคเข้าสู่รากผมได้ง่ายยิ่งขึ้น นั้นเป็นเห็นผลให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะส่งผลทำให้ผมของคุณร่วง

ดังนั้นเมื่อคุณอาบน้ำเสร็จคุณควรใช้ไดร์เป่าผมให้แห้งทันทีเพื่อให้หนังศีรษะของคุณแห้งเร็วที่สุด


ข้อควรพิจารณาเมื่อจะซื้อไดร์เป่าผม

1. กำลังไฟที่เหมาะสม

อย่างที่บอกไปแล้วว่ากำลังไฟไม่ใช่ทุกอย่างที่จะบอกว่าไดร๋เป่าผมตัวนี้ดีที่สุด แต่เพื่อให้คุณได้สามารถนำข้อมูลในส่วนนี้ไปเป็นไกด์ไลน์ตัดสินใจได้ เราแนะนำให้เลือกตามนี้ค่ะ

  • ไดร์เป่าผมกำลังไฟ 1,200 วัตต์ เพียงพอแล้วสำหรับผมเส้นเล็ก-เส้นบาง
  • ไดร์เป่าผมกำลังไฟ 1,300 – 1,800 วัตต์ เพียงพอแล้วสำหรับสภาพเส้นผมของคนส่วนใหญ่
  • ไดร์เป่าผมกำลังไฟสูงกว่า 1,800 วัตต์ จะสำหรับผมหนาหรือหยิกมากเท่านั้น

2. ประเภทเทคโนโลยีที่ใช้

เพราะประเภทเทคโนโลยีของไดร์ผมจะถูกออกแบบมาให้ใช้งานกับเส้นที่มีลักษณะต่างกัน อาทิเช่น

  • ไดร์เป่าผมไอออนิก เหมาะกับคนที่ผมหนา หยิก และชี้ฟู โดยไม่ทำให้ผมแห้งเสีย
  • ไดร์เป่าผมเซรามิก เหมาะกับคนที่ผมลีบแบน ผมบาง ผมค่อนข้างตรงอยู่แล้ว โดยไม่ทำให้ผมแห้งเสีย
  • ไดร์เป่าผมทัวร์มาลีน เพิ่มประสิทธิภาพผมแห้งเร็วขึ้นและเส้นผมมีสุขภาพดีขึ้น
  • ไดร์เป่าผมไทเทเนียม เป็นไดร์เป่าผมที่เร็วและแรงที่สุด ซึ่งจะมีน้ำหนักที่เบามาก แต่ด้วยความร้อนที่สูงนั้นทำให้มันเป็นประเภทไดร์ที่ต้องใช้เทคโนโลยีอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วยในการบำรุงดูแลเส้นผม

ทั้งนี้คุณสามารถอ่านในห้อข้อถัดไปได้เกี่ยวกับรายละเอียดของ “ประเภทของไดร์เป่าผม” และ “การเลือกไดร์เป่าผมที่เหมาะสภาพเส้นผมของคุณ” แต่โดยส่วนใหญ่แล้วไดร์เป่าผมไอออนิก vs ไดร์เป่าผมเซรามิกจะเป็นพื้นฐานในการผลิตไดร์เป่าผมทั่วไปดังนั้นคุณจะพบไดร์สองประเภทนี้ได้บ่อยที่สุด และสำหรับทัวร์มาลีน-ไทเทเนียมนั้นมักมาในรูปแบบคุณสมบัติเสริมมากกว่า

3. ต้องเป็นไดร์ที่สามารถปรับอุณหภูมิได้

คุณจะต้องเลือกไดร์เป่าผมที่สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิได้ เพราะไม่ใช่ทุกวันที่คุณจะต้องเป่าผมด้วยลมร้อนเสมอไป ในบางครั้งคุณอาจจะเพียงแค่ต้องการลมเย็น ๆ ที่จะเป่าให้ผมแห้งได้อย่างตรงจุด เพราะหากคุณจะใช้เพียงแต่ลมร้อนในการทำผมทุก ๆ วันคุณเตรียมตัวบอกลาเส้นผมสุขภาพดีไปได้เลย การสลับการใช้ลมร้อนและลมเย็นในแต่ละวันจะทำให้ผมของคุณไม่แห้งเสียมากกว่าเดิม ดังนั้นในไดร์เป่าที่ดีควรมีทั้งลมร้อน, ลมปานกลาง และลมเย็นที่ปรับระดับได้ให้เหมาะสมกับการใช้งานโอกาสต่าง ๆ

4. มีปุ่ม Cool Shot สำหรับให้ลมเย็น

ปุ่ม Cool Shot จะช่วยปิดหนังกำพร้าด้านนอกของเส้นผมให้มันเก็บความชุ่มชื้นมีน้ำหนักไม่แห้งเสีย, เพิ่มความเงางาม, ทำให้ผมของคุณนุ่มสลวย และล็อกลอนผมให้อยู่ทรงนานโดยป้องกันการชี้ฟูเมื่อคุณเป่าแห้งเสร็จ ยิ่งหากคุณมีเส้นผมที่แห้งและหยาบกร้านปุ่ม Cool Shot จะเหมาะอย่างยิ่งในการช่วยขจัดความหยาบกระด้างเหล่านั้นออกไปจากเส้นผมของคุณ

5. อุปกรณ์เสริม

อีกสิ่งที่ควรพิจารณาคืออุปกรณ์เสริม อาทิเช่น หัวเป่าที่แตกต่างกัน บางรุ่นมาพร้อมกับหัวเป่าที่ออกแบบมาเพื่อให้ง่ายต่อการไหลเวียนของอากาศ หรืออาจจะเป็นหัวเป่าสำหรับจัดแต่งทรง, หัวเป่าแบบกระจายลม และหัวเป่าแบบลมอ่อน เป็นต้น นี่ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผลลัพธ์ในการจัดทรงผมที่ดีที่สุดของสาว ๆ ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อไดร์ที่มีอุปกรณ์เสริมสามารถเปลี่ยนหัวได้เพื่อทรงผมที่หลากหลายของคุณ

6. ต้องเป็นไดร์ที่ค่อนข้างเก็บเสียง

ขึ้นชื่อว่าไดร์เป่าผมก็ต้องมาพร้อมเสียงอันทรงพลัง คุณคงไม่อยากให้รูมเมทของคุณหรือคนข้างบ้านตื่นมาด้วยสีหน้าอันบูดเบี้ยวหรอกจริงมั้ยคะ? แน่นอนว่าปัจจุบันนี้มีไดร์หลายยี่ห้อที่ออกแบบมาให้มีเสียงที่เบาลงได้เล็กน้อย ดังนั้นจงอย่าลังเลที่จะเลือกไดร์ที่มี Option เหล่านี้เลยค่ะ

7. ขนาด-น้ำหนัก ของไดร์เป่าผม

หากสถานที่ที่คุณจะไปเที่ยวและทางที่พักไม่มีไดร์เป่าผมมาให้คุณต้องจะเสียเวลารอให้ผมแห้งกี่ชั่วโมง? หากเราสามารถพกพาไดร์เป่าผมไปได้ทุกที่ก็คงจะเป็นเรื่องดีกว่า ดังนั้นสำหรับใครที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวบ่อย ๆ ไดร์เป่าผมที่มีขนาดเล็กสามารถพับจัดเก็บได้ก็จะเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้ามไป อีกทั้งตรวจสอบด้วยว่าไดร์ของคุณสามารถรองรับการใช้งานร่วมกับปลั๊กไฟในต่างประเทศได้หรือไม่? นอกจากนี้คนที่ต้องใช้ไดร์เป่าผมทุกวันหรือคนที่มีผมหนา-ผมเยอะมาก ๆ ต้องระวังเรื่องน้ำหนักของไดร์เป่าผมด้วยนะคะ เพราะเมื่อคุณถือไดร์เป่าผมไปสักพักมันจะทำให้คุณเข็ดข้อมือได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ ทางที่ดีคือไม่ควรเลือกไดร์เป่าผมที่เกิน 1 กิโลกรัม

ไดร์เป่าผมไร้สายจะใช้งานได้สะดวกมากกว่า
ไดร์เป่าผมไร้สายจะใช้งานได้สะดวกมากกว่า

8. ความยาวของสายไฟ

มันเป็นหนึ่งในข้อควรพิจารณาที่ง่ายที่สุดที่หลาย ๆ คนมักมองข้ามไป เพราะความยาวของสายไฟนั้นมีความจำเป็นต่อการใช้ไดร์ในชีวิตประจำวันมาก ๆ เนื่องจากมันต้องมีการเปลี่ยนทิศทางของเครื่องไปมาทั้งซ้ายขวา-บนล่าง หากคุณได้ไดร์เป่าผมรุ่นที่สายไฟสั้นมันจะลำบากตอนเป่าผมเพราะคุณแทบจะกระดิกตัวไปไหนไม่ได้ แต่หากคุณยอมจ่ายเงินในราคาที่สูงขึ้นมาหน่อยเพื่อให้ได้สายไฟที่ยาวกว่าเดิมหรือเลือกเป็นไดร์เป่าผมแบบไร้สายไปเลยมันจะทำให้คุณใช้ไดร์ได้อย่างอิสระและสะดวกมากยิ่งขึ้น


ความสำคัญของกำลังไฟ (วัตต์)ในไดร์เป่าผม

สิ่งหนึ่งที่คุณเห็นเป็นประจำในการมองหาคุณสมบัติของไดร์เป่าผม นั้นคือตัวเลขของวัตต์ที่แต่ละยี่ห้อระบุมาให้ ซึ่งตัวเลขที่สูงกว่าบ่งชี้ว่าไดร์เป่าผมมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้นจริงไม่? วันนี้เรามีคำตอบมาให้คุณได้หายสงสัยกันค่ะ โดยปกติเครื่องเป่าผมที่มีคุณภาพจะให้กำลังไฟระหว่าง 1200 วัตต์ขึ้นไป ซึ่งไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟหรือวัตต์สูง ๆ จะสามารถให้ระดับแรงลมที่แรงมากตามตัวเลขที่มากขึ้น “ยิ่งมีกำลังไฟที่สูงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ผมของคุณแห้งเร็วมากขึ้นเท่านั้น”

ดังนั้นคนที่มีเส้นผมหนามากจึงต้องใช้ไดร์เป่าผมวัตต์สูง ๆ เพื่อความรวดเร็วในการทำให้ผมแห้ง แต่ปัญหาคือมันมักมาพร้อมกับความร้อนที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน รวมถึงขนาดที่ใหญ่กว่าและเสียงดังที่รบกวนมากกว่า ซึ่งปัจจุบันนี้ไดร์เป่าผมที่ราคาถูก ๆ ก็สามารถผลิตไดร์ออกมาให้มีกำลังวัตต์สูง ๆ ได้เช่นกัน แต่น้อยนักที่จะมุ้งเน้นในเรื่องคุณภาพของเส้นผมควบคู่ไปด้วย

วัตต์สูง ๆ ช่วยให้ผมแห้งเร็ว แต่ผมจะโดนความร้อนมากเกินไป
วัตต์สูง ๆ ช่วยให้ผมแห้งเร็ว แต่ผมจะโดนความร้อนมากเกินไป

ดังนั้นวิธีเดียวที่จะแน่ใจได้ว่าคุณจะมีไดร์เป่าผมที่ดีที่สุดคือการพยายามหาจุดดีจุดเด่นและเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมอื่น ๆ ที่ใส่มาในไดร์เป่าผมด้วยนะคะ ไม่ใช่แค่เลือกจากกำลังไฟสูง ๆ ไว้ก่อน เพราะมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะยิ่งกำลังไฟสูงมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งเสียมากขึ้น-เสียงดังมากขึ้น-เปลืองไฟมากขึ้น แต่หากคุณมีเส้นผมที่หนาเป็นพิเศษก็จะต้องใช้กำลังวัตต์ในการตัดสินควบคู่ไปด้วยนะคะ 🙂


Xiaomi Mijia Mi Water Ion Electric Hair Dryer ไดร์เป่าผม 1800W

Xiaomi Mijia Mi Water Ion Electric Hair Dryer ไดร์เป่าผม 1800W
รูปภาพจาก mi.com

ราคา 935 บาท*

ไดร์เป่าผมจาก Mijia (ของ Xiaomi) รุ่น 1800W ตัวนี้ เป็นรุ่นที่ขายดีและได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะด้วยราคาและฟังก์ชันการใช้งานที่เหมาะสม อย่างแรกที่เราชอบมากคือดีไซน์ของไดร์เป่าผมที่ดูสวยแบบเรียบ ๆ มาพร้อมกับหัวไดร์แม่เหล็กที่ถอดเปลี่ยนได้ง่ายมาก ทั้งยังหมุ่นช่องลมได้อย่างอิสระถึง 360° ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องพลิกข้อมือให้ลำบากอีกต่อไป ตัวเครื่องจะมีเซ็นเซอร์ที่คอยปรับลมอัตโนมัติให้ถึง 3 รูปแบบ คือลมร้อน, ลมเย็น และลมร้อนสลับเย็นกัน ทั้งยังมีการปล่อย Water Ion ระหว่างใช้งานเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม ช่วยป้องกันผมแห้งเสีย ชี้ฟู และยังรุ่นนี้ยังได้มีการออกแบบใบพัดที่พิเศษขึ้นกว่าเดิม เพราะนอกจากจะให้ลมที่แรงแล้วก็ยังลดเสียงลงได้

ไดร์เป่าผม

ข้อดี

  • ราคาไม่แพง
  • มีขนาดมอเตอร์กำลังดี 1800 วัตต์ เหมาะสำหรับเส้นผมทั่วไป
  • มีเทคโนโลยี Water Ion ที่ช่วยดูแลเส้นผม นุ่มลื่น เงางาม และไม่แห้งกร้าน
  • มีโหมดควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ ป้องกันผมเสียหาย
  • น้ำหนักเบามาก ใช้เป่าผมนาน ๆ ก็ไม่เมื่อยแขน

ข้อควรพิจารณา

  • แม้ว่าทางแบรนด์จะบอกว่ามีโหมดลมเย็นมาด้วย แต่ลมที่ออกมาก็ยังคงเป็นลมเย็นที่อุ่นนิด ๆ อยู่ดี ต่างจากลมเย็นของไดร์เป่าผมตัวอื่น ๆ ดังนั้นใครที่ต้องการฟังก์ชันลมเย็นแบบจริงจังควรมองหารุ่นอื่นดีกว่าค่ะ
  • ไม่สามารถพับเก็บได้
เทคโนโยลีที่ใช้ Water Ion, เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ
กำลังไฟ 1800 วัตต์
ปรับแรงลมได้ 2 ระดับ
สายไฟยาว 1.7 เมตร
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

Panasonic รุ่น EH-NE20 ไดร์เป่าผม 1800W

Panasonic รุ่น EH-NE20 ไดร์เป่าผม 1800W
รูปภาพจาก panasonic.com

ราคา 978 บาท*

สำหรับไดร์เป่าผมของ Panasonic รุ่นนี้ถือว่ามีราคาที่ไม่แพงเลยค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ไดร์ฟังก์ชันพื้นฐานทั่วไป แต่มีคุณสมบัติดูแลเส้นผมได้ด้วย เพราะทางแบรนด์ได้ใช้ไอออนปรับสภาพเส้นผมระหว่างที่โดนลมร้อน ทำให้เส้นผมของคุณไม่แห้งเสียหรือชี้ฟูหลังเป่าเสร็จ ทั้งยังมีคุณสมบัติเด่น ๆ อีกอย่างที่น่าสนใจมากนั่นก็คือเรื่องของขนาด เพราะเป็นมอเตอร์ขนาด 1800 วัตต์ ที่ถือว่าให้ความแรงได้ดีเลยแต่มาในขนาดเล็กที่จับถือถนัดมือ เหมาะสำหรับพกพาในการเดินทางอย่างยิ่ง

ไดร์เป่าผม Panasonic EH-NE20

หากให้เปรียบเทียบไดร์เป่าผมในราคาที่ใกล้เคียงกันระหว่างของ Xiaomi Mijia Mi 1800W กับรุ่นนี้ ถือว่ามีข้อดีกันคนละแบบ อย่างของเสียวหมี่เขาจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อนอัจฉริยะมาให้ จึงสามารถปรับอุณหภูมิของลมได้อัตโนมัติ แต่จะไม่สามารถพับเก็บได้ ส่วนของ Panasonic จะมีเพียงฟังก์ชันลมอุ่น ๆ สำหรับป้องกันผมแห้งเสียที่เราต้องกดปุ่มเอง แม้ว่าจะไม่สะดวกด้านการใช้งาน แต่ทว่าก็ยังมีอีกหนึ่งข้อดีคือช่องปล่อยไอออนของ Panasonic จะอยู่สูงกว่าช่องปล่อยลมร้อน ดังนั้นไอออนที่ออกมาจะไม่สัมผัสกับความร้อนตรง ๆ ทำให้แห้งสลายไปได้ยากกว่าค่ะ

ข้อดี

  • ราคาไม่แพง
  • มีขนาดมอเตอร์กำลังดี 1800 วัตต์ เหมาะสำหรับเส้นผมทั่วไป
  • มีเทคโนโลยี Ionity ที่ช่วยดูแลเส้นผม นุ่มลื่น เงางาม และไม่แห้งกร้าน
  • มีโหมดป้องกันความร้อน ด้วยการปล่อยลมที่มีอุณหภูมิในระดับพอเหมาะเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับเส้นผมและหนังศีรษะได้
  • น้ำหนักเบา สามารถพับเก็บได้

ข้อควรพิจารณา

  • ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีเส้นผมหนานะคะ เพราะด้วยขนาดมอเตอร์บวกกับมีระดับอุณหภูมิและความแรงลมที่มีให้เลือกนั้นไม่ได้เยอะมากนัก จึงใช้จัดแต่งทรงผมให้คนกลุ่มนี้ค่อนข้างลำบากทีเดียวค่ะ
  • ไม่มีโหมดควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ
เทคโนโยลีที่ใช้ Ionity
กำลังไฟ 1800 วัตต์
ปรับแรงลมได้ 2 ระดับ
สายไฟยาว 1.2 เมตร
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

Panasonic รุ่น EH-NA98-KL ไดร์เป่าผม 1800W

Panasonic รุ่น EH-NA98-KL ไดร์เป่าผม 1800W
รูปภาพจาก panasonic.com

ราคา 5,090 บาท*

แน่นอนว่าไดร์เป่าผมรุ่นนี้ค่อนน่าสนใจมากเพราะว่าเป็นตัวท็อปสุดของแบรนด์ Panasonic แม้ว่าราคาอาจจะสูงกว่าไดร์เป่าผมทั่วไปสักหน่อย แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ใส่เข้ามาจะช่วยทำให้เส้นผม, หนังศีรษะ และผิวของคุณ มีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ เนื่องจากเทคโนโลยี nanoe™ และ Double Mineral จะเข้าไปทำให้ผิวและเส้นผมชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น โดยการเปลี่ยนอนุภาคของน้ำที่ลอยอยู่ในอากาศให้กลายเป็นละอองขนาดเล็ก สามารถแทรกซึมเข้าสู่แกนเส้นผมภายในทำให้เส้นผมนุ่มลื่นจัดทรงง่าย ในส่วนของหนังศีรษะนั้นก็จะช่วยลดความมันส่วนเกินได้ ทั้งยังช่วยกักเก็บน้ำไว้หล่อเลี้ยงบนหนังศีรษะทำให้หนังศีรษะไม่แห้งเกินไป ส่วนสุดท้ายคือละอองน้ำเหล่านี้จะทำหน้าที่เคลือบผิวหนังชั้นบนสุดทำให้ผิวหน้าของคุณเนียนนุ่มชุ่มชื้นตลอดเวลา

ไดร์เป่าผม Panasonic EH-NA98-KL

ข้อดี

  • เป็นไดร์เป่าผมอเนกประสงค์ สามารถดูแลได้ทั้งเส้นผม หนังศีรษะ และผิว
  • เทคโนโลยี nanoe™ มีประสิทธิภาพมากกว่า ไดร์เป่าผมที่ใช้เทคโนโลยีไอออนลบทั่วไป
  • มีโหมดควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ ที่คอยปรับลมร้อนและลมเย็นสลับกันไป ช่วยป้องกันไม่ให้เส้นผมเสียหาย
  • สามารถปกป้องเส้นผมจากรังสี UV ได้ด้วย ส่งผลให้ผมไม่แห้งเสียหรือหยาบกร้านกว่าเดิม
  • แรงลมดีมาก ช่วยประหยัดเวลาในการเป่าผม สามารถเป่าผมที่ยาวถึงหลังให้แห้งเสร็จภายใน 5 นาที โดยที่ไม่ทำให้เส้นผมชี้ฟู คุณจะรู้สึกได้เลยว่าผมนุ่มตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
  • พับเก็บได้ สะดวกต่อการพกพา

ข้อควรพิจารณา

  • ราคาสูง
เทคโนโยลีที่ใช้ nanoe™, Double Mineral, เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ
กำลังไฟ 1800 วัตต์
ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ
สายไฟยาว 1.7 เมตร
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

Panasonic รุ่น EH-NA65-KL ไดร์เป่าผม 2000W

Panasonic รุ่น EH-NA65-KL ไดร์เป่าผม 2000W
รูปภาพจาก panasonic.com

ราคา 3,290 บาท*

สำหรับรุ่นนี้จะมีเทคโนโลยี nanoe™ เหมือนกับรุ่นตัวบน EH-NA98-KL ที่เราที่รีวิวไว้เลยค่ะ ดังนั้นมันจึงเป็นไดร์เป่าผมที่สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผมนุ่มลื่น เงางาม และเป็นประกายได้ด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้ก็มีความแตกต่างกันอยู่บ้างตรงที่รุ่นนี้ไม่มีการปล่อยไอออน Double Mineral ซึ่งเป็นตัวเกาะติดกับเกล็ดผม ที่จะช่วยลดการแห้งเสียเมื่อต้องเจอกับความร้อน และไม่สามารถพับเก็บได้อีกด้วย

ไดร์เป่าผม Panasonic EH-NA65-KL อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าคุณสมบัติในการปกป้องจะลดลงไปบ้าง แต่ก็มีราคาที่ถูกกว่ามากค่ะ ทั้งยังมีหัวไดร์ให้เปลี่ยนหลายแบบ ทั้งหัวเป่าปากแคบ, หัวเป่า Quick Dry และหัวเป่ากระจายลม (หัวไดร์ Diffuser) นอกจากนี้คุณยังสามารถปรับอุณหภูมิของลมได้ถึง 4 โหมด คือลมร้อน, ลมอุ่น, ลมแบบ Healthy ที่อุณหภูมิ 50° และสุดท้ายคือลมเย็น มาพร้อมกับกำลังวัตต์ 2000 ที่เหมาะสำหรับผมคนหนาหรือหยิกมาก ๆ

ข้อดี

  • เหมาะกับคนที่อยากได้เทคโนโลยี nanoe™ ดูแลผมให้นุ่มลื่นไม่ชี้ฟู ในราคาที่ถูกกว่ารุ่น EH-NA98-KL
  • ขนาดวัตต์กำลังดี เป่าแปบเดียวก็แห้งแล้วค่ะ ทำให้ประหยัดเวลามากขึ้น
  • มีหัวเป่ากระจายลม (Diffuser) สำหรับเป่าผมหยิกหรือผมลอนให้แห้งโดยไม่ทำให้ผมเสียวอลลุ่ม
  • ปรับอุณหภูมิได้ 4 โหมด โดยในนั้นจะมีฟังก์ชันป้องกันผมแห้งเสียด้วยการใช้ลมที่อุณหภูมิ 50° ในการเป่าผม
  • มีปุ่ม Cool Shot สำหรับล็อกทรงผม
  • น้ำหนักเบา เมื่อเทียบกับไดร์ขนาด 2000 วัตต์ ที่เคยใช้
  • สายไฟยาวมากถึง 2.7 เมตร

ข้อควรพิจารณา

  • ไม่สามารถพับเก็บได้
  • ไม่มีโหมดควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ
  • ด้วยมอเตอร์ขนาดใหญ่ทำให้มีเสียงดังพอสมควร
  • ใช้เทคโนโลยี nanoe™ แต่ไม่มีโหมดดูแลหนังศีรษะและผิว
ประเภท nanoe™
กำลังไฟ 2000 วัตต์
ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ
สายไฟยาว 2.7 เมตร
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

Lesasha รุ่น LS1187 ไดร์เป่าผม Airmax Hurricane 2700W

Lesasha รุ่น LS1187 ไดร์เป่าผม Airmax Hurricane 2700W
รูปภาพจาก lesasha.com

ราคา 2,190 บาท*

สำหรับ Lesasha รุ่น LS1187 อาจเป็นรุ่นที่ผลิตออกมานานแล้วก็จริงค่ะ ด้วยด้วยคุณภาพบวกกับฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ที่คล่องมือ จึงทำให้รุ่นนี้ยังคงขายได้เรื่อย ๆ โดยจุดเด่นของเขาคือตัวเครื่องที่มีขนาดแรงถึง 2700 วัตต์ และยังเสริมด้วยเทคโนโลยี Nano Tourmaline ที่สามารถเร่งให้การเป่าผมเร็วขึ้นกว่าเดิม เหมาะสำหรับคนหนาพิเศษ หรือมีผมหยิกแบบหยาบมาก ๆ ทำให้ช่วยเป่าผมได้แห้งไว ทั้งยังใช้เซ็ตวอลลุ่มหรือจัดแต่งทรงผมก็สวย โดยเจ้า Nano Tourmaline ที่ใส่มานี้จะช่วยปกป้องและถนอมเส้นผมของคุณ ด้วยการปล่อยทั้งไอออนประจุลบไปพร้อม ๆ กับความร้อน เพื่อไม่ให้เส้นผมได้รับความเสียหายจากอุณหภูมิที่สูงเกินไป ไดร์เป่าผม Lesasha LS1187

จุดเด่น

  • ใช้เทคโนโลยี Tourmaline & Ionic ไม่ทำให้ผมเสีย และช่วยให้ผมเรียบไม่ชี้ฟู
  • มีปุ่ม Cool Shot สำหรับล็อกทรงผมและดูแลหนังศีรษะ
  • เป็นมอเตอร์แบบ AC จึงสามารถใช้งานได้ยาวนานติดต่อกันนานหลายชั่วโมง
  • สายไฟยาว 2.5 เมตร
  • แรงลมดีมาก ช่วยประหยัดเวลาในการเป่าผม

ข้อควรพิจารณา

  • ไม่สามารถพับเก็บได้
  • ไม่มีโหมดควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ
  • ไม่มีฟังก์ชันปล่อยลมในอุณหภูมิที่พอเหมาะเพื่อป้องกันเส้นผมเสียหาย
  • ด้วยมอเตอร์ขนาดใหญ่ทำให้มีเสียงดังพอสมควร
เทคโนโยลีที่ใช้ Nano Tourmaline
กำลังไฟ 2700 วัตต์
ปรับแรงลมได้ 2 ระดับ
สายไฟยาว 2.5 เมตร
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

Lesasha รุ่น LS1265 ไดร์เป่าผม 1200W Bio-Ceramic

Lesasha รุ่น LS1265 ไดร์เป่าผม 1200W Bio-Ceramic
รูปภาพจาก lesasha.com

ราคา 1,650 บาท*

ไดร์เป่าผมของ Lesasha รุ่นนี้มีการใช้เทคโนโลยี Bio-Ceramic ที่จะเปลี่ยนความร้อนทั่วไป ให้เป็นความร้อนแบบคลื่นอินฟราเรด เพราะโดยปกติแล้วหากเราต้องการเป่าผมให้แห้งเร็ว ๆ เราจะต้องใช้ลมแรงและความร้องสูง ๆ ในการเป่าใช่มั้ยคะ ? แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นคลื่นอินฟราเรดแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องใช้อุณหภูมิสูง ๆ ที่ทำร้ายเส้นผมอีกต่อไป เพราะคลื่นอินฟราเรดไม่ได้ร้อนมากขนาดนั้น แถมยังสามารถแทรกซึมเข้าไปจับโมเลกุลน้ำได้ดีกว่า ทำให้ผมของคุณแห้งเร็วขึ้นก่อนที่จะสูญเสียความชุ่มชื้น มาพร้อมกับการปล่อยไอออนประจุลบระหว่างไดร์ ทำให้เส้นผมเรียบลื่นไม่ชี้ฟู ตัวเครื่องมีขนาด 1200 วัตต์ แต่กลับทำงานเหมือนเครื่อง 1800 สามารถกระจายความร้อนอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญคือมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สามารถใช้เป่าผมยาว ๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะปวดข้อมือเลยค่ะ ไดร์เป่าผม Lesasha LS1265

จุดเด่น

  • เหมาะสำหรับสร้างวอลลุ่ม
  • เทคโนโลยี Bio-Ceramic เปลี่ยนความร้อนเป็นคลื่นอินฟราเรด ไม่ร้อนเกินไป ผมแห้งไวไม่เสีย
  • เทคโนโลยี Ionic ช่วยให้ผมเรียบสวย ไม่ชี้ฟู
  • ช่วยประหยัดค่าไฟ ด้วยเครื่องขนาด 1200 วัตต์ แต่ทำงานได้ดีเท่าขนาด 1800 วัตต์
  • ดีไซน์สวยหรู ขนาดเล็ก น้ำหนักเบามาก สามารถพับเก็บได้

ข้อควรพิจารณา

  • ไม่มีโหมดควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ
  • ไม่มีฟังก์ชันปล่อยลมในอุณหภูมิที่พอเหมาะเพื่อป้องกันเส้นผมเสียหาย
เทคโนโยลีที่ใช้ Bio-Ceramic, Ionic
กำลังไฟ 1200 วัตต์
ปรับแรงลมได้ 2 ระดับ
สายไฟยาว 1.8 เมตร
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

Lesasha รุ่น LS1371 ไดร์เป่าผม 1200W Luxe Ion Plus Bio-Ceramic

Lesasha รุ่น LS1371 ไดร์เป่าผม 1200W  Luxe Ion Plus Bio-Ceramic
รูปภาพจาก lesasha.com

ราคา 2,790 บาท*

อัปเกรดจากรุ่น LS1265 มาเป็นรุ่น LS1371 ที่แม้ว่าจะใช้เทคโนโลยี Bio-Ceramic สำหรับปลี่ยนความร้อนเป็นคลื่นอินฟราเรดเหมือนกัน ทั้งยังมีขนาดมอเตอร์ 1200 วัตต์เท่ากันเป๊ะ ๆ แต่รุ่นนี้เพิ่มประสิทธิภาพให้ในการถนอมเส้นผมและช่วยทำให้ผมออกมานุ่มสลวยเงางามยิ่งขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีไอออนิค "แบบคู่" ที่ช่วยลดไฟฟ้าสถิตและลดการชี้ฟูของเส้นผมได้ดีกว่าเดิม 2 เท่า เสริมด้วยฟังก์ชันพิเศษอย่างโหมด "ลมอุ่น" ที่มีอุณหภูมิพอเหมาะไม่ทำร้ายเส้นผมของคุณ มาพร้อมกับหัวเป่ากระจายลม (หัวไดร์ Diffuser) ที่ให้คุณสามารถใช้งานกับผมลอนได้ไม่มีปัญหา และอย่างสุดท้ายคือการใช้งานแบบปุ่ม One Touch จบครบในปุ่มเดียว

ไดร์เป่าผม Lesasha LS1371

จุดเด่น

  • มีเทคโนโลยี Bio-Ceramic ทำให้ผมแห้งเร็วขึ้นโดยไม่ต้องใช้ความร้อนสูง
  • ใช้เทคโนโลยี Ionic แบบ Double ในการปล่อยประจุไฟฟ้า ทำให้ผมนุ่มสลวย มีน้ำหนักไม่ชี้ฟู
  • ตัวนี้มีฟังก์ชัน Heat Protection หรือลมอุ่น ๆ สำหรับป้องกันผมแห้งเสีย
  • เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั้งผมตรงและผมดัดลอน เพราะมีหัวไดร์มาให้ 2 แบบ
  • ช่วยประหยัดไฟ ด้วยขนาด 1200 วัตต์ แต่ให้ประสิทธิภาพเทียบเท่า 1800 วัตต์
  • ตัวเครื่องมีการออกแบบใหม่ให้ปรับอุณหภูมิได้ทุกระดับในปุ่มเดียว ทำให้ใช้งานง่ายขึ้น

ข้อควรพิจารณา

  • ไม่มีโหมดควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ
  • ไม่สามารถพับเก็บได้
เทคโนโยลีที่ใช้ Bio-Ceramic, Ionic+
กำลังไฟ 1200 วัตต์
ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ
สายไฟยาว 1.8 เมตร
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

[ใหม่] Lesasha รุ่น LS1628 ไดร์เป่าผม 1600W LS Airmax BLDC Jet

[ใหม่] Lesasha รุ่น LS1628 ไดร์เป่าผม 1600W LS Airmax BLDC Jet
รูปภาพจาก lesasha.com

ราคา 5,590 บาท*

เรียกว่าเป็นไดร์เป่าผมที่ราคาสูงที่สุดของ Lesasha แต่ก็มาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่น่าใจมากค่ะ โดยรุ่นนี้เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2022 ด้วยการใช้เทคโนโลยี BLDC มอเตอร์ ที่แม้ว่าจะเป็นมอเตอร์ขนาด 1600 วัตต์ แต่กลับมีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงถึง 2000 วัตต์เลยทีเดียว ดังนั้นเรื่องความแรงของลมนี่ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ อีกทั้งยังสามารถให้ลมเย็นที่เย็นจริง ๆ ต่างจากมอเตอร์ DC หรือ AC ทั่วไป ในส่วนของการปกป้องและถนอมเส้นผมนั้น ก็มีการใช้ทั้ง Ionic ที่ช่วยทำให้ผมไม่ชี้ฟู นุ่มสวยมีน้ำหนัก คงความชุ่มชื้น และ Tourmaline Coating ที่ช่วยทำให้ผมแห้งไวโดยที่ไม่ทำร้ายผม เพราะตัว Tourmaline Coating จะคอยกรองความร้อนที่ออกมาไม่ให้สัมผัสโดนเส้นผมตรง ๆ ส่วนสุดท้ายคือหัวไดร์แทบแม่เหล็กที่เปลี่ยนง่าย ทำให้ไม่ต้องออกแรงกดหรือดึงออกเลยค่ะ

Lesasha รุ่น LS1628 ไดร์เป่าผม

จุดเด่น

  • ใช้เทคโนโลยี Tourmaline & Ionic ไม่ทำให้ผมเสีย และช่วยให้ผมเรียบไม่ชี้ฟู
  • เป็นมอเตอร์แบบใหม่ ที่มีขนาดเล็ก ในรูปอาจดูใหญ่แต่จริง ๆ ขนาดเล็กกำลังดีเลยค่ะ (24 x 20 x 6 ซม.) ทั้งยังมีน้ำหนักเบามากใช้นาน ๆ ก็ไม่เมื่อยแขน
  • มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าไดร์แบบ DC หรือ AC
  • ให้กำลังลมได้แรงมากกว่าไดร์เป่าผมทั่วไป เมื่อเทียบเท่าตัวเครื่องขนาด 2000 วัตต์
  • เมื่อใช้แล้วรู้สึกได้ทันทีว่าเส้นผมนุ่ม มีวอลลุ่ม ดูสุขภาพดี ไม่แห้งกร้าน
  • ปุ่ม Cool-shot คือเดอะเบสจริง ๆ ค่ะ เพราะให้ลมเย็นมากกว่าไดร์ปกติปรมาณ 5-10°

ข้อควรพิจารณา

  • ราคาสูง
  • ไม่มีโหมดควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ
  • ไม่สามารถพับเก็บได้
เทคโนโยลีที่ใช้ BLDC motor, Ionic, Tourmaline
กำลังไฟ 1600 วัตต์
ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ
สายไฟยาว 1.8 เมตร
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

Philips Personal Hair Dryer ไดร์เป่าผม รุ่น BHD510/00

Philips Personal Hair Dryer ไดร์เป่าผม รุ่น BHD510/00
รูปภาพจาก philips.co.th

ราคา 1,890 บาท*

ไดร์เป่าตัวต่อมาเป็นไดร์เป่าผมอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจจากแบรนด์ Philips มีชื่อรุ่นว่า Personal Hair Dryer BHD510/00 ที่โดยส่วนตัวคิดว่าไดร์รุ่นนี้เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่มีผมยาวหรือคนที่ต้องการเป่าผมให้แห้งเร็ว ๆ เพราะเป็นไดร์ที่มีพลังลมแรงถึง 2300 วัตต์ ซึ่งจะมีกำลังไฟที่มากกว่าไดร์เป่าในไลน์เดียวกันอย่าง Philips รุ่น BHD350/10 ไดร์เป่าผม 2100W อยู่พอสมควร มาพร้อมหัวเป่ากระจายลม 2 แบบ ช่วยบังคับทิศทางของลมทำให้เป่าผมให้แห้งได้เร็วและยังช่วยถนอมเส้นผมให้ไม่ต้องสัมผัสกับความร้อนโดยตรง

อีกทั้งช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนและรังสียูวีด้วยเทคโนโลยี 4X Mineral Ion ที่จะช่วยปล่อยไอออนประจุลบออกมาลดความชี้ฟูของเส้นผมและช่วยให้เส้นผมดูนุ่มสลวย นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี ThermoShield เซ็นเซอร์จับอุณหภูมิที่จะช่วยปรับระดับความร้อนที่เหมาะสมขณะเป่าผม ช่วยให้เส้นผมไม่ต้องสัมผัสกับความร้อนที่สูงเกินไป เป็นไดร์เป่าผมที่ตอบโจทย์มาก ๆ สำหรับคนที่กำลังมองหาไดร์ที่สามารถเป่าผมให้แห้งได้อย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ร้ายเส้นผมค่ะ

ข้อดี

  • กำลังไฟ 2300 วัตต์ ลมแรงเป่าผมให้แห้งได้เร็วขึ้น
  • มีเทคโนโลยี 4X Mineral Ion ช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนและยูวี
  • มีเทคโนโลยี ThermoShield เซนเซอร์ปรับอุณหภูมิความร้อน ช่วยถนอมเส้นผม
  • ปรับความร้อนได้ 3 ระดับ และปรับแรงลมได้ 2 ระดับ
  • มาพร้อมหัวเป่ากระจายลม 2 แบบ เป่าผมให้แห้งได้รวดเร็ว

ข้อควรพิจารณา

  • ไดร์เป่าผมมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ไม่ค่อยเหมาะสำหรับการพกพา
เทคโนโลยีที่ใช้ เทคโนโลยี ThermoShield และ 4X Mineral Ion
ปรับแรงลมได้ 6 ระดับ
กำลังไฟ 2300 วัตต์
สายไฟยาว 1.8 เมตร
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

Philips Essential Care ไดร์เป่าผม รุ่น HP8120

Philips Essential Care ไดร์เป่าผม รุ่น HP8120
รูปภาพจาก philips.co.th

ราคา 540 บาท*

ไดร์เป่าผมจาก Philips รุ่น Essential Care ถือเป็นไดร์เป่าผมอีกหนึ่งรุ่นยอดนิยมของทางแบรนด์เลยค่ะ ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูเล็กกะทัดรัดจับถนัดมือ ทำให้เราสามารถถือไดร์เป่าผมได้แบบสบาย ๆ ไม่เมื่อย แถมยังจัดเก็บได้ง่ายไม่กินพื้นที่ อีกทั้งยังสามารถพกพาได้สะดวกเพราะสามารถพับด้ามจับเข้าไปได้ มาพร้อมหัวปรับบังคับทิศทางลม ช่วยให้เราสามารถเป่าผมในเฉพาะจุดได้โดยที่ไม่ทำให้ผมส่วนอื่นโดนลมพัดจนยุ่งเหยิงและยังช่วยให้ผมดูเงางามสุขภาพดีเพราะเส้นผมไม่โดนความร้อนจากไดร์โดยตรง

นอกจากนี้ไดร์ตัวนี้ยังเป็นไดร์เป่าผมที่จิ๋วแต่แจ๋ว เพราะยังมีเทคโนโลยีดี ๆ ที่ช่วยดูแลเส้นผมอย่าง ThermoProtect ที่จะช่วยปรับอุณหภูมิความร้อนให้เหมาะสมกับความแรงลม เพื่อให้เส้นผมของเราไม่ต้องสัมผัสกับความร้อนที่สูงเกินไป ช่วยรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของเส้นผม อีกทั้งยังมีระบบที่ช่วยให้ลมจากไดร์เป่าผมมีความอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น จึงถือว่าไดร์เป่าผมจาก Philips ตัวนี้เป็นอีกหนึ่งไดร์เป่าผมที่ไม่ทำร้ายเส้นผมและยังช่วยให้เส้นผมดูสุขภาพดีค่ะ

ข้อดี

  • ไดร์เป๋าผมขนาดกะทัดรัด ด้ามจับสามารถพับได้ พกพาสะดวก
  • มีเทคโนโลยี ThermoProtect ช่วยควบคุมให้อุณหภูมิของลมให้ไม่ร้อนจนเกินไป
  • มีระบบการทำงานที่ช่วยให้ลมจากไดร์เป่าผมมีความอ่อนโยน
  • มาพร้อมหัวปรับบังคับทิศทางลม สำหรับเป่าผมเฉพาะจุด
  • มีการรับประกันสินค้า 2 ปี

ข้อควรพิจารณา

  • เนื่องจากเป็นไดร์เป่าผมขนาดกะทัดรัด จึงไม่ค่อยเหมาะกับคนที่มีผมยาวและหนามาก ๆ เพราะไดร์เป่าผมอาจจะทำงานหนักจนเกินไปค่ะ
เทคโนโลยีที่ใช้ เทคโนโลยี ThermoProtect
ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ
กำลังไฟ 1,200 วัตต์
สายไฟยาว 1.5 เมตร
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

Philips รุ่น BHD350/10 ไดร์เป่าผม 2100W

Philips รุ่น BHD350/10 ไดร์เป่าผม 2100W
รูปภาพจาก philips.co.th

ราคา 1,190 บาท*

สำหรับรุ่นนี้เป็นไดร์เป่าผมจากแบรนด์ Philips ที่มาในราคาไม่ถึงพันเองค่ะ แต่กลับมีฟังก์ชันการใช้งานที่ครอบคลุม อย่างแรกเลยก็คือสามารถตั้งระดับความร้อนและแรงลมได้ถึง 5 รูปแบบ (ร้อนน้อย ร้อนมาก / แรงลมน้อย แรงลมมาก / เป่าลมเย็น) ด้วยความแรงของมอเตอร์ที่สูงถึง 2100 วัตต์ มาพร้อมกับหัวไดร์ 2 อันคือ หัวไดร์ปากแคบสำหรับจัดแต่งทรง และหัวไดร์ Thermo Protect ที่ช่วยป้องกันไม่ให้เส้นผมโดนความร้อนมากเกิน เป็นหัวไดร์ที่ช่วยลดอุณหภูมิลง 15° เสริมด้วยการใช้เทคโนโลยีปล่อยไอออนขณะที่เป่าผม เพื่อทำให้ผมเงางาม ไม่ชี้ฟูหลังไดร์เสร็จ จบด้วยใช้ลมเย็น เพื่อปิดเกล็ดผม ล็อกทรงผมให้สวยงามและอยู่ทรงนานขึ้น ไดร์เป่าผม Philips BHD350-10

จุดเด่น

  • ราคาไม่แพง
  • ด้วยขนาด 2100 วัตต์ ทำให้แรงลมรุ่นนี้ดีมาก ๆ หากคุณมีผมยาวและหนา มันจะใช้เวลาเพียง 10 นาทีในการเป่าแห้ง ทำให้ย่นระยะเวลาในการแต่งหน้าทำผม ช่วงเช้าก่อนไปทำงานได้ดีเลยค่ะ
  • การสลับโหมดลมร้อนลมเย็น สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิได้ทันที ไม่ต้องรอนาน
  • มีการปล่อย Ionic ทำให้เมื่อไดร์เสร็จแล้วผมไม่ชี้ฟู แถมยังเงางาม นุ่มลื่น มากกว่าปกติ
  • มีตัวช่วยที่คอยควบคุมอุณหภูมิขณะที่เราเป่าผม ไม่ให้ผมของเราสัมผัสกับความร้อนมากเกินไป
  • มีปุ่ม Cool Shot สำหรับล็อกทรงผมและดูแลหนังศีรษะ

ข้อควรพิจารณา

  • ไม่มีโหมดควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ
  • ไม่สามารถพับเก็บได้
  • เสียงของไดร์ค่อนข้างดังพอสมควร
ประเภท Ionic, หัวไดร์ ThermoProtect
กำลังไฟ 2100 วัตต์
ปรับแรงลมได้ 2 ระดับ
สายไฟยาว 1.8 เมตร
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

Coolastyler ไดร์เป่าผม รุ่น CA-1202 1200W

Coolastyler ไดร์เป่าผม รุ่น CA-1202 1200W
รูปภาพจาก lazada.co.th

ราคา 440 บาท*

ไดร์ตัวนี้ไดร์เป่าผมสุดฮิตอีกหนึ่งตัวจากแบรนด์ Coolastyler ที่เราอยากจะแนะกัน โดยไดร์รุ่นนี้เป็นไดร์เป่าผมอัจฉริยะที่จะช่วยให้คุณสามารถเป่าผมได้แบบมืออาชีพ มาในขนาดกะทัดรัดถือเป่าแล้วไม่เมื่อย ด้ามจับมีขนาดกำลังดีกระชับถนัดมือ ควบคุมการทำงานด้วยปุ่มกดที่ใช้งานง่าย สามารถปรับระดับความแรงลมได้ 2 ระดับและมีระบบลมเย็น มาพร้อมหัวเป่าบังคับทิศทางแบบแม่เหล็ก สามารถติดตั้งกับไดร์เป่าผมได้สะดวกไม่หลุดง่าย

ในส่วนของเทคโนโลยีการดูแลผมของไดร์เป่าผมตัวนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ด้วยเทคโนโลยีปล่อยประจุไอออนลบขณะเป่าผม ช่วยป้องกันไฟฟ้าสถิตลดความชี้ฟูของเส้นผม ช่วยให้เส้นผมมีความนุ่มลื่นจัดทรงง่าย อีกทั้งยังมีระบบกระจายลมเย็นคู่ลมร้อน ช่วยให้เส้นผมไม่ต้องสัมผัสความร้อนมากเกินไป การทำงานของไดร์เป่าผมมาจากมอเตอร์คุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ตัวแผ่นกรงยังสามารถทำความสะอาดได้ง่าย มีตะแกรงกรองถึง 2 ชั้น ช่วยป้องกันเส้นผมหลุดเข้าไปในตัวเครื่อง ใครที่กำลังมองหาไดรเป่าผมขนาดกำลังดีเอาไว้ใช้งานในบ้านบอกเลยว่าห้ามพลาดค่ะ

ข้อดี

  • มีเทคโนโลยีประจุไอออนลบ ป้องกันไฟฟ้าสถิต ผมนุ่มลื่นเรียบสวย ไม่ชี้ฟู
  • มีระบบกระจายลมเย็นคู่ลมร้อน ช่วยให้เส้นผมไม่สัมผัสความร้อนมากเกินไป
  • มีแผ่นกรองตะแกรง 2 ชั้น ป้องกันเส้นผมหลุดเข้าไปด้านใน
  • มีระบบปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อตัวเครื่องมีอุณหภูมิสูงเกินไป
  • ปุ่มกดลมเย็นสามารถล็อคให้เปิดทำงานค้างได้
  • หัวเป่าบังคับทิศทางแบบแม่เหล็ก ติดตั้งสะดวกไม่หลุดง่าย

ข้อควรพิจารณา

  • เป็นไดร์ขนาดกะทัดรัด อาจไม่เหมาะสำหรับคนที่มีผมหนาหรือยาวมาก ๆ
เทคโนโลยีที่ใช้ Ionic
ปรับแรงลมได้ 2 ระดับ
กำลังไฟ 1200 วัตต์
สายไฟยาว 1.8 เมตร
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

Philips รุ่น BHD628 ไดร์เป่าผม 1800W Prestige SenselQ

Philips รุ่น BHD628 ไดร์เป่าผม 1800W Prestige SenselQ
รูปภาพจาก philips.co.th

ราคา 5,490 บาท*

ไดร์เป่าผมจากแบรนด์ Philips รุ่นนี้แม้ว่าราคาจะสูงไปสักหน่อย แต่มาพร้อมกับฟังก์ชันการทำงานที่เรียกว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนมากค่ะ เพราะทาง Philips ไม่เพียงแต่มุ้งเน้นที่ผลิตไดร์เป่าผมสำหรับถนอมเส้นผมเท่านั้น แต่ยังเน้นการใช้งานที่ง่าย ทั้งขนาดที่เล็กจับถนัดมือ ดีไซน์สวย น้ำหนักเบา มีการใช้เทคโนโลยี SenseIQ สำหรับตรวจจับความร้อนของเส้นผม และคอยปรับลมร้อนที่สูงเกินไปอยู่ในระดับที่พอเหมาะกับเส้นผมของคุณให้แบบอัตโนมัติ พร้อมกับปล่อยไอออนมากกว่าเดิม ช่วยให้เส้นผมของคุณนุ่มลื่นเป็นพิเศษ

ไดร์เป่าผม Philips BHD628

ข้อดี

  • อัปเกรดพัดลมและมอเตอร์ให้ทรงพลังมากขึ้น ทำให้คุณสามารถเป่าผมให้แห้งได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียง 5 นาทีในการเป่าผมให้แห้ง
  • มีเทคโนโลยี SenseIQ ตรวจจับอุณหภูมิของเส้นผม ทำให้ผมแห้งเร็วขึ้นโดยไม่ต้องกลัวความร้อนสูงเกินไป
  • ใช้คลื่นอินฟราเรดในการทำให้ผมแห้งไวขึ้น โดยที่ยังสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของเส้นผมได้ถึง 90%
  • มีหัวไดร์มาให้ถึง 3 แบบ หัวเป่าแห้ง, หัวเป่าปากแคบแต่งทรงผม และ หัวเป่ากระจายลมเพิ่มวอลลุ่มผมสำหรับผมลอน
  • มีอัปเกรดการปล่อยไอออนมากกว่ารุ่นอื่น ๆ ถึง 2 เท่า เพื่อให้เส้นผมเงางาม ไม่ชี้ฟู
  • มีโหมด 'อ่อนโยน' สำหรับการดูแลเป็นพิเศษ ที่เป็นลมอุ่น ๆ เหมาะสำหรับใช้เป่าผมให้แห้งโดยที่ไม่ทำร้ายเส้นผม
  • มีปุ่ม Cool Shot สำหรับล็อกทรงผมและดูแลหนังศีรษะ

ข้อควรพิจารณา

  • ราคาสูง
  • ไม่สามารถพับเก็บได้
ประเภท SenseIQ (เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ), Ionic
กำลังไฟ 1800 วัตต์
ปรับแรงลมได้ 2 ระดับ
สายไฟยาว 2 เมตร
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

Dyson รุ่น HD08 ไดร์เป่าผม 1600W

Dyson รุ่น HD08 ไดร์เป่าผม 1600W
รูปภาพจาก dyson.co.th

ราคา 16,900 บาท*

ความฝันอันสูงสุดของคนรักเส้นผมคือการได้ครอบครองไดร์เป่าผมจากแบรนด์ Dyson แม้ว่าราคาจะสูงกว่าชาวบ้านไปเยอะมาก แต่ก็แลกมาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย อย่างเช่น ระบบควบคุมความร้อนอัจฉริยะของ Dyson จะวัดอุณหภูมิทุก ๆ 40 ครั้งต่อวินาที จากนั้นก็ส่งกลับไปให้ชิปประมวลผล หากพบว่ามีอุณหภูมิสูงเกินไป เครื่องก็จะปรับอุณหภูมิให้เย็นลง ดังนั้นไม่ว่าคุณจะใช้ความร้อนระดับไหนก็ไม่มีทางที่อุณหภูมิสูง ๆ เหล่านั้น จะหลุดมาทำร้ายเส้นผมของคุณได้เลยสักวินาทีค่ะ ไดร์เป่าผม Dyson HD08 นอกจากไดร์ของ Dyson ยังสามารถเป่าแห้งได้เร็วกว่าชาวบ้านแบบครึ่งต่อครึ่ง เพราะใช้มีการมอเตอร์ดิจิตอล V9 ที่หมุนด้วยความเร็วถึง 110,000 รอบต่อนาที ถือว่าเป็นความที่ถี่ที่เร็วมาก ๆ แต่กลับไม่สร้างเสียงดังหนวกหูเลยค่ะ สำหรับโหมดการใช้งานนั้นจะมีแรง 3 ระดับ และ 4 ระดับอุณหภูมิให้เลือก คือ 100° สำหรับแต่งทรงผมอย่างเร็ว, 80° สำหรับเป่าแห้ง, 60° สำหรับการดูแลพิเศษเป่าแห้งแบบนุ่มนวล และ 28° คือลมเย็น มาพร้อมกับฟังก์ชันไอออนิก ที่ช่วยลดการชี้ฟู เพิ่มความเงางาม และขจัดไฟฟ้าสถิตหลังจากไดร์ผมเสร็จ

ข้อดี

  • มีการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ช่วยให้ผมแห้งเร็ว กว่าแบรนด์อื่น ๆ
  • มีโหมดควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ
  • ใช้ Ionic ในการปรับสภาพเส้นผมให้นุ่มลื่น ไม่ชี้ฟู
  • มีหัวไดร์ให้เปลี่ยนเยอะมาก ทั้ง หัวจัดแต่งทรง, หัวกระจายลม, หัวเป่าลมอ่อนโยน, หัวสำหรับเป่าเรียบ, หัวเป่าลดผมชี้ฟุ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นแบบแทบแม่เหล็กที่ใช้งานสะดวกสุด ๆ
  • เสียงรบกวนต่ำ 75dB
  • ปรับระดับความร้อนในการเป่าได้ 4 ระดับ

ข้อควรพิจารณา

  • ราคาสูง
ประเภท Ionic
กำลังไฟ 1600 วัตต์
ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ
สายไฟยาว 2.8 เมตร
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

Dyson Airwrap ™ Hair Multi-Styler Complete Long

Dyson Airwrap ™ Hair Multi-Styler Complete Long
รูปภาพจาก dyson.co.th

ราคา 21,900 บาท*

ไดร์เป่าผมรุ่นใหม่จาก Dyson ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีเพื่อเส้นผมเช่นเคย โดยไดร์เป่าผมรุ่นนี้จะมาในชื่อรุ่นว่า Dyson Airwrap ™ Hair Multi-Styler Complete Long ที่ยังคงความโดดเด่นเรื่องการใช้เทคโนโลยี Ionic ช่วยลดการเกิดไฟฟ้าสถิตในเส้นผม อีกทั้งยังมีระบบควบคุมความร้อนอัจฉริยะ วัดอุณหภูมิ 40 ครั้งต่อวนาที ช่วยให้เส้นผมไม่ต้องสัมผัสกับความร้อนที่เกินพอดี ช่วยให้เส้นผมดูตรงเรียบสวยไม่แห้งเสีย และยังคงประสิทธิภาพที่ช่วยเป่าผมให้แห้งได้อย่างรวดเร็วเช่นเคย สามารถปรับระดับความร้อนได้ 3 ระดับ คือ ความร้อนสูง, ความร้อนต่ำ และเป่าลมเย็น

มาพร้อมหัวอุปกรณ์ในการจัดแต่งทรงผมสำหรับเปลี่ยนถึง 6 หัว ซึ่งเพิ่มมาจาก Dyson รุ่น HD08 ไดร์เป่าผม 1600W 1 หัว และชิ้นที่เป็นดาวเด่นของไดร์รุ่นนี้ก็คือ ‘หัวเป่าผมเรียบลื่น Coanda’ ดีไซน์ใหม่ที่มีการใช้เทคโนโลยีกระแสลม Enhanced Coanda ช่วยซ่อนเส้นผมสั้น ๆ ที่ชี้ฟูลงไปด้านล่าง ทำให้ทรงผมของเราดูเรียบลื่นเหมือนเพิ่งออกมาจากซาลอนแพง ๆ อีกทั้งไดร์เป่าผมรุ่นนี้ยังมีการเปลี่ยนรูปแบบของหัวอุปกรณ์ให้เป็นแบบแปรง และแกนม้วนเสียส่วนใหญ่ ทำให้เราสามารถเป่าผมให้แห้งไปพร้อม ๆ กับการจัดแต่งทรงผมได้ ช่วยประหยัดระยะเวลาในการแต่งตัวได้เป็นอย่างดี ใครที่กำลังมองหาไดร์เป่าผมที่ครบจบในตัวเดียว และมีงบค่อนข้างเยอะ ไดร์เป่าผมจากแบรนด์ Dyson รุ่นนี้ก็เป็นอะไรที่น่าลงทุนค่ะ

ข้อดี

  • มีระบบควบคุมความร้อนอัจฉริยะ
  • ใช้เทคโนโลยี Ionic ปล่อยไออนประจุลบ ลดไฟฟ้าสถิตในเส้นผม
  • มีเทคโนโลยีกระแส Enhanced Coanda ช่วยจัดแต่งทรงให้ผมเรียบลื่น ผมไม่ชี้ฟู
  • มาพร้อมหัวอุปกรณ์จัดแต่งทรงผม 6 หัว
  • สามารถปรับระดับความแรงลมได้ 3 ระดับ
  • สามารถเป่าผมไปพร้อม ๆ การจัดแต่งทรงผม ช่วยประหยัดเวลา

ข้อควรพิจารณา

  • ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเปรียบเทียบกับไดร์เป่าผมแบรนด์อื่น ๆ
เทคโนโลยีที่ใช้ กระแสลม Enhanced Coanda, Ionic
ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ
กำลังไฟ 1300 วัตต์
สายไฟยาว 2.68 เมตร
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

ประเภทของไดร์เป่าผมตัวไหนบ้าง ที่ไม่ทำให้ผมแห้งเสีย

หลายคนอาจไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วไดร์เป่าก็สามารถแบ่งออกตามเทคโนโลยีได้เช่นกัน ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะเป็นจุดขายของไดร์เป่าผมของแต่ละแบรนด์ที่มีความแตกต่างในเรื่องของผลลัพธ์ ที่ไม่ใช่แค่ใช้เป่าผมให้แห้งหรือจัดแต่งทรงผมเท่านั้น ซึ่งจะมีประเภทไหนที่จะเหมาะกับเส้นผมของคุณบ้าง? มาดูกันเลยค่ะ

1. ไดร์เป่าผมที่ใช้เทคโนโลยี ไอออนิก (Ionic)

ไดร์เป่าผม Ionic Hair Dryer

สำหรับเทคโนโลยีไอออนิกนั้นจะปล่อยไอออนที่มีประจุไฟฟ้าเป็นประจุลบออกมา และไอออนประจุลบเหล่านี้จะทำให้ผมแห้งโดยการเข้าไปสลายโมเลกุลของน้ำในเส้นผมที่มีประจุบวก ส่งผลให้ความชื้นในหนังกำพร้าของเส้นผมจะถูกล็อค จึงให้ผลลัพธ์ที่ชุ่มชื้นและเงางามดุจดั่งเส้นไหม ซึ่งในไดร์เป่าผมไอออนิกบางยี่ห้อก็มีการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีเซรามิก, ไททาเนียม หรือทัวร์มาลีน ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจหากคุณจะพบว่ามีชื่อเทคโนโลยีอื่น ๆ ในไดร์แบบไอออนิกเข้ามาเข้ามาด้วยนะคะ

ข้อดีของไดร์เป่าผมไอออนิกคือเป่าผมให้แห้งได้อย่างรวดเร็วช่วยให้ประหยัดเวลาไปได้เยอะ อีกทั้งยังปล่อยประจุลบออกมาช่วยล็อคความชื้นในเส้นผมของคุณ ซึ่งเทคโนโลยีไอออนิกจะทำงานได้ดีที่สุดสำหรับผมชี้ฟูเพราะมันจะให้ผลลัพธ์ในการจัดแต่งทรงผมให้ออกมาลีบแบนตรงสลวยได้เป็นอย่างดี แต่จะไม่ได้ให้วอลลุ่มหรือความเด้งใด ๆ กับเส้นผมของคุณนะคะ

2. ไดร์เป่าผมที่ใช้เทคโนโลยี เซรามิก (Ceramic)

ไดร์เป่าผม Ceramic Hair Dryer

หมายเหตุ : บางยี่ห้อก็อาจจะมีการผลิตไอออนลบด้วย แต่ไม่ได้ผลิตมากเท่าไดร์เป่าผมแบบไอออนิก

ไดร์เป่าผมแบบเซรามิกแตกต่างจากไดร์เป่าผมไอออนิก เพราะวัสดุทำความร้อนนั้นเป็นพอร์ซเลนที่ไม่ทำลายเส้นผมของคุณ อีกทั้งไดร์เป่าผมเซรามิกยังปล่อยความร้อนแบบอินฟราเรดที่จะช่วยแทรกซึมเข้าไปในแกนผมของคุณโดยจะล็อคความชุ่มชื้นภายในเส้นผม อีกทั้งยังกระจายความร้อนได้อย่างสม่ำเสมอซึ่งไม่ทำให้ผมหยาบกร้านและเสียหายอีกด้วย

ข้อดีของไดร์เป่าผมเซรามิกคือร้อนเร็วมากและเหมาะแก่การจัดแต่งทรงผมมากที่สุดเพราะให้ผลลัพธ์ที่ทำให้ผมดูเงางามนุ่มนวลสลวยอย่างมีวอลลุ่ม เหมาะที่สุดสำหรับผู้ใช้ทั่วไปหรือคนที่ชอบไดร์ผมบ่อย ๆ เป็นประจำ

3. ไดร์เป่าผมที่ใช้เทคโนโลยี ทัวร์มาลีน (Tourmaline)

ไดร์เป่าผม Tourmaline Hair Dryer

เทคโนโลยีทัวร์มาลีนเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่นิยมใช้ในไดร์เป่าผม เนื่องจากมันสามารถปล่อยทั้งไอออนที่มีประจุลบและความร้อนอินฟราเรดในตัวเดียว ทั้งยังสร้างความเสียหายให้แก่ผมน้อยกว่าประเภทอื่น ๆ และให้ความร้อนที่รวดเร็วกว่าไดร์เป่าผมไอออนิกหรือเซรามิกถึง 50 เปอร์เซ็นต์

ข้อดีของไดร์เป่าผมทัวร์มาลีนคือไดร์เป่าผมเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพสูงมาก ดังนั้นในแง่ของความเร็วในการเป่านั้นมันจึงเหมาะสำหรับคนที่ผมหนาและชี้ฟูมากที่สุด

4. ไดร์เป่าผมที่ใช้เทคโนโลยี ไทเทเนียม (Titanium)

ไดร์เป่าผม Titanium Hair Dryer

ไดร์เป่าผมไทเทเนียมเป็นเครื่องเป่าผมอีกประเภทหนึ่งที่ขดลวดความร้อนนั้นทำจากโลหะไททาเนียม ซึ่งไดร์เป่าผมประเภทนี้จะเร็วกว่าไดร์เป่าผมไอออนิก, เซรามิก หรือทัวร์มาลีนมาก ๆ แต่ด้วยอุณหภูมิความร้อนที่สูงมากเกินไป มันจึงไม่ปลอดภัยสำหรับผมเส้นเล็กเพราะอาจจะให้เส้นผมของคุณได้รับความเสียหายได้นั่นเองค่ะ

ข้อดีของไดร์เป่าผมไทเทเนียมคือมีน้ำหนักเบามาก มันจึงเหมาะสำหรับการใช้งานนาน ๆ อีกทั้งยังสามารถผสมผสานการใช้เทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ ได้อีกด้วย ดังนั้นหากคุณพบว่าไดร์เป่าผมของคุณคือแบบไทเทเนียมก็อย่างเพิ่งตกใจกลัวว่าผมจะแห้งเสียมาก เนื่องจากมันอาจจะมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ในการดูแลเส้นผมควบคู่ไปด้วยค่ะ


ทำไมไดร์เป่าผมเซรามิกถึงดีกว่าไดร์เป่าผมไอออนิก

เนื่องจากไดร์เป่าผมส่วนใหญ่มักจะผลิตด้วยเทคโนโลยีเซรามิกและไอออนิกออกมา ดังนั้นเรามาเจาะลึกถึงความแตกต่างของทั้งสองเทคโนโลยีนี้แบบที่เห็นกันชัด ๆ ด้วยตารางกันค่ะ

คุณสมบัติ ไอออนิก เซรามิก
ปล่อยไอออน ✔ ✘
ปล่อยรังสีอินฟราเรด ✘ ✔
ให้ความร้อนได้ดี ขึ้นอยู่กับวัสดุคอยล์ร้อน ✔
สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ✔ ✘
ปลอดภัยสำหรับการใช้งานเป็นประจำ ✘ ✔
ปลอดภัยสำหรับเด็ก ✘ ✔
ราคา เเพง ราคาไม่แพง
เหมาะสำหรับจัดแต่งทรงผม ✘ ✔

ไดร์เป่าผมเซรามิกดีกว่าไดร์เป่าผมไอออนิก เนื่องจากไดร์เป่าผมไอออนิกนั้นสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าในขณะที่ปล่อยไอออนที่มีประจุลบออกมา ซึ่งสนามแม่เหล็กไฟฟ้านี้แหละค่ะที่เป็นอันตรายสำหรับการใช้งานในเวลานาน ๆ ในทางกลับกันไดร์เป่าผมเซรามิกนั้นมีความปลอดภัยกว่าเพราะเป็นปล่อยรังสีอินฟราเรดที่ไม่ทำลายเส้นผม และราคาไม่แพงด้วย

สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้

วิธีเลือกไดร์เป่าผมที่ดีที่สุดสำหรับสภาพเส้นผมของคุณ

1. ผมหนา ผมชี้ฟู หยิก : ไดร์เป่าผมไอออนิก

หากคุณมีผมหนาคุณคงรู้ดีว่าต้องรอเป็นชั่วโมงกว่าให้ผมเองแห้งตามธรรมชาติ หรือหากคุณใช้ไดร์เป่าผมมันก็คงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาที ดังนั้นเพื่อเป็นการประประหยัดเวลาคุณควรเลือกใช้ ไดร์เป่าผมไอออนิกสำหรับการทำให้ผมแห้งอย่างรวดเร็ว และมันยังทำให้ผมที่ชี้ฟูของคุณลีบแบบเป็นทรงสวยโดยคืนสภาพในเวลาอันสั้นอีกด้วย แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นหากคุณไม่ได้คำนึงถึงผลลัพธ์ว่าผมจะเป็นทรงหรือไม่ แต่ต้องการไดร์ที่ทำให้ผมแห้งเร็วเท่านั้น แนะนำเป็นไดร์แบบทัวร์มาลีนที่เร็วกว่าไอออนิก 50% หรือจะเป็นแบบไทเทเนียมที่เร็วมากที่สุดในบรรดาไดร์ทุกประเภทค่ะ ที่สำคัญแนะนำให้มองหาไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟ 1,800 วัตต์ขึ้นไป แต่หากคุณมีพื้นผิวผมหยิกหรือหยาบมาก ๆ คุณสามารถใช้กำลังไฟที่สูงขึ้นมาได้อีกค่ะ

หมายเหตุ : สำหรับคนผมหยิก แนะนำให้ไดร์เป่าผมที่มีหัวดิฟฟิวเซอร์ (Diffuser) เพื่อใช้กระจายลมได้อย่างทั่วถึง

2. ผมหมองคล้ำ : เครื่องเป่าผมไอออนิก

ผมหมองคล้ำคือเป็นเส้นผมที่มีลักษณะขาดความเงางาม ดูหยาบกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ซึ่งคนที่มีผลลักษณะนี้จะต้องใช้าไดร์เป่าผมไอออนิกเท่านั้นค่ะ (หรือไดร์เป่าผมเพิ่มความเงางาม) เพราะเป็นไดร์ที่โดดเด่นในเรื่องการทำให้ผมให้เงางามเป็นประกายมาก ๆ ทั้งยังขจัดความชี้ฟูทำให้ผมดูเรียบเนียนและมีสุขภาพดีอีกด้วย

3. ผมบาง ผมตรง ผมลีบแบน : ไดร์เป่าผมเซรามิก

หากผมของคุณลีบแบนและบาง คุณอาจต้องการเพิ่มวอลลุ่มและความหนาลงในจัดแต่งทรงผม ซึ่งหลาย ๆ คนมักเข้าใจผิดว่าไดร์ที่มีความร้อนสูงมักเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการจัดแต่งทรงผม แต่ในความเป็นจริงแล้วการเพิ่มวอลลุ่มให้ผมนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของไดร์ ซึ่งในกรณีนี้คุณควรใช้ไดร์เป่าผมเซรามิกมากที่สุด เพราะมันสามารถควบคุมระดับความร้อนเพื่อป้องกันความเสียหายของเส้นผมที่เปราะบางได้ ในขณะเดียวกันมันก็สามารถสร้างความมีน้ำหนักเด้ง ๆ ให้แก่ผมได้ดี

4. ผมเส้นเล็ก : ไดร์ที่ตั้งค่าความร้อนได้

ตามหลักแล้วยิ่งพื้นผิวเส้นผมของคุณหนาและหยาบมากเท่าไหร่ คุณก็จะต้องใช้ไดร์เป่าผมที่มีวัตต์สูงมากขึ้นเท่านั้น และในทางกกลับกันหากคุณมีผมเส้นเล็กมาก คุณควรมองหาไดร์เป่าที่มีกำลังไฟต่ำโดยอาจจะเริ่มต้นจาก 1,200 วัตต์ก็ได้ค่ะ แต่ในความเป็นจริงแล้วไดร์เป่าผมที่มีการตั้งค่าความร้อนที่ปรับได้นั้นจะมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผมเส้นเล็ก เนื่องจากเส้นผมเหล่านี้จะดูดซับความร้อนได้เร็วกว่าเส้นผมที่หนา ดังนั้นหาสมดุลที่ดีของแต่ละคนระหว่างการใช้งานจริงจะเป็นทางออกที่ตอบโจทย์ที่สุด


ข้อควรระวัง & เคล็ดลับสำหรับการใช้ไดร์เป่าผม

แม้ว่าไดร์เป่าผมจะช่วยทำให้คุณมีทรงผมที่สวยมากขึ้นและยังช่วยประหยัดเวลาในการทำให้ผมแห้งอย่างรวดเร็ว แต่ไดร์เป่าก็คือหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ผมของคุณแห้งเสียได้เช่นกัน ยิ่งคุณใช้ความร้อนกับเส้นมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้ผมของคุณเปราะบางมากเท่านั้นโดยเฉพาะกับผมที่โดนความร้อนทุกวัน ดังนั้นหากคุณไม่มีงบประมาณมากพอในการลงทุนซื้อไดร์เป่าผมที่มีเทคโนโลยีปกป้องเส้นผมของคุณจากความร้อน โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ทำสีผม ไม่ว่าจะเป็นการกักฟอกสีผม ใช้โฟมเปลี่ยนสี หรือครีมเปลี่ยนสีผม เพราะผมของพวกคุณจัดอยู่ในสภาพผมที่อ่อนแอ แห้งเสียมาก ๆ ไม่เหมาะจะโดนความร้อน ดังนั้นคุณจะต้องหาไอเทมดูแลบำรุงเส้นผมและฟื้นฟูผมเสียอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วยไม่ว่าจะเป็น แชมพูเคราติน,​ ครีมนวดผม, ทรีตเมนต์และมาสก์สำหรับผมแห้งเสีย, เซรั่มและน้ำมันบำรุงผม ,น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น รวมถึงเครื่องอบไอน้ำ-หมวกอบไอน้ำ สิ่งเหล่านี้มีราคาไม่แพง แต่สามารถทำให้ผมของคุณไม่แห้งเสียมากกว่าเดิมค่ะ

  1. ไม่แนะนำให้ใช้ไดร์เป่าผมทุกวัน เพราะจะทำให้เส้นผมของคุณจากความชุ่มชื้นหรือที่เรียกว่าผมแห้งเสียนั้นเอง ในบางรายอาจจะทำให้เส้นผมมีแนวโน้มที่จะขาดเลยทีเดียว
  2. ควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับการบำรุงเส้นผมร่วมกับการใช้ไดร์ไปด้วยเพื่อรักษาสุขภาพของเส้นผมของคุณ
  3. สำหรับใครที่ไม่อยากต้องไดร์ผมในทุกเช้า เพื่อต้องสระผมนั้น เรามีทางเลือกสำหรับคุณนั้นคือ ดรายแชมพูหรือแชมพูแบบแห้งหรือสเปรย์ฉีดผมหอม (Hair Mist) ที่จะทำให้ผมของคุรยังคงความหอมและรู้สึกสดชื้นเหมือนได้สระผมจริง ๆ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องไดร์ผมทุก ๆ วัน หรือจะใช้เป็นผ้าเช็ดผมแห้งเร็วก็ได้ค่ะ
  4. เพื่อให้ผมของคุณอยู่ทรงคุณควรใช้สเปรย์จัดแต่งทรงผมร่วมด้วยหลังจัดแต่งทรงผลเสร็จ เพื่อที่ผมของคุณจะได้อยู่ทรงตลอดทั้งวัน
  5. หากคุณมีปัญหาผมร่วงด้วย คุณควรใช้แชมพูลดปัญหาผมร่วง, ยาปลูกผม และทานอาหารเสริมบำรุงเส้นผมร่วมด้วยนะคะ
Previous Post

รีวิว ลำโพงคอมพิวเตอร์ รุ่นไหนดีที่สุด ปี 2023

Next Post

รีวิว 10 อันดับ กระทะ สำหรับทอด ผัด ยี่ห้อไหนดีที่สุด ของปี 2023

Mine Melody

Mine Melody

สวัสดีค่ะทุกคนนน ผู้เขียนขออนุญาตใช้นามแฝงว่า Mine Melody นะคะ แม้ว่าชื่อนี้จะไม่ใช่ชื่อจริง ๆ แต่ก็ยินดีที่ได้รู้จักคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน 😘

ส่วนตัวแล้วผู้เขียนสนใจด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ และจะพยายามอธิบายให้เป็นภาษาที่เข้าใจง่าย 😎 อีกทั้งยังสนใจเรื่องต่าง ๆ ที่อยู่ในเทรนด์อย่าง สกินแคร์, เครื่องสำอาง, แฟชั่น ตลอดจนข่าวบันเทิง แน่นอนว่าเนื้อหาในทุก ๆ บทความที่เขียนไป ขอให้เพื่อน ๆ มั่นใจได้เลยว่ามีแหล่งอ้างอิงจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้จ้า!!

หากเพื่อน ๆ มีข้อสงสัย หรืออยากแชร์ไอเดียใด ๆ ร่วมกับผู้เขียน สามารถติดต่อผ่าน E-mail เว็บไซต์ของเราได้เลยค่ะ 😇

Next Post
รีวิว 10 อันดับ กระทะ สำหรับทอด ผัด ยี่ห้อไหนดีที่สุด ของปี 2021

รีวิว 10 อันดับ กระทะ สำหรับทอด ผัด ยี่ห้อไหนดีที่สุด ของปี 2023

สินค้า ที่คุณอาจสนใจ

รีวิว น้ำหอม Tom Ford (ทอม ฟอร์ด) กลิ่นไหนดี
น้ำหอม

รีวิว น้ำหอม Tom Ford (ทอม ฟอร์ด) กลิ่นไหนดี ปี 2023

February 8, 2023
รีวิว กรรไกรตัดเล็บ ยี่ห้อไหนดีที่สุด
ของใช้ส่วนตัว

รีวิว กรรไกรตัดเล็บ ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2023

May 18, 2023
แนะนำ น้ำหอมซาร่า (ZARA) สำหรับผู้หญิง แบบไหนดีที่สุด
ของใช้ส่วนตัว

แนะนำ น้ำหอมซาร่า (ZARA) สำหรับผู้หญิง แบบไหนดีที่สุด ปี 2024

November 30, 2023
รีวิว น้ำหอม Armani สำหรับผู้หญิง กลิ่นไหนหอมติดทน และครองใจสาวๆได้ดีที่สุด
ของใช้ส่วนตัว

รีวิว น้ำหอม Armani สำหรับผู้หญิง กลิ่นไหนหอมติดทน ถูกใจสาวๆ ปี 2023

February 18, 2023
น้ำหอมกลิ่นกาแฟ ยี่ห้อไหนดี กลิ่นหอม ติดทนนาน
น้ำหอม

7 น้ำหอมกลิ่นกาแฟ ยี่ห้อไหนดี หอมกรุ่น ติดทนนาน ปี 2023

March 13, 2023
รีวิว แป้งระงับกลิ่นเท้า ยี่ห้อไหนกำจัดกลิ่นได้ดีที่สุด
ของใช้ส่วนตัว

รีวิว แป้งระงับกลิ่นเท้า ยี่ห้อไหนกำจัดกลิ่นได้ดี ปี 2023

May 12, 2023
รวมไอเดีย ของขวัญจับฉลากตามพยัญชนะ ก-ฮ ของขวัญวันปีใหม่ ของขวัญวันคริส์มาส มากกว่า 100 รายการ
ของขวัญจับฉลากตามพยัญชนะ ขึ้นต้นด้วย ก-ฮ

รวม ไอเดียของขวัญจับฉลากตามพยัญชนะ ก-ฮ (กว่า 100 รายการ)

by Yok Arisa
November 17, 2023
ไอเดียของขวัญจับฉลากปีใหม่ งบ 1000 บาท ซื้ออะไรดี
ของขวัญ

20 ของขวัญจับฉลากปีใหม่ งบ 1000 บาท ซื้ออะไรดี

by Sunflower Lalita
November 14, 2023
ไอเดียของขวัญจับฉลากปีใหม่ งบ 200-500 บาท ซื้ออะไรดี
ของขวัญ

ไอเดียของขวัญจับฉลากปีใหม่ งบ 200-500 บาท ซื้ออะไรดี

by Mine Melody
November 14, 2023

Recent Posts

  • 10 อายแชโดว์สีเดียว ยี่ห้อไหนดี เนื้อสัมผัสแน่น สีชัด ติดทน ปี 2023
  • 8 ลำโพงมอนิเตอร์ ยี่ห้อไหนคุณภาพดี เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทำเพลงได้หลากหลาย ปี 2023
  • แป้งฝุ่นลอร่า Laura Mercier แป้งฝุ่นคุมมันแบรนด์ดัง สูตรไหนดี ปี 2023
  • รีวิว 6 กล้องถ่ายรูป Nikon รุ่นไหนดี ปี 2023
  • 10 ไอเทมเพิ่มความหอมภายในบ้าน ให้หอมฟุ้ง ลดกลิ่นเหม็นอับ

Site Navigation

  • Affiliate Policy
  • Legal
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ
  • สมัครงาน
  • ติดต่อเรา
  • ต้องการให้เรารีวิวสินค้า?

Best Review Asia

เว็บไซต์ให้ข้อมูลและแนะนำสินค้าที่ดีที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมสินค้าเกือบทุกประเภท

รีวิวสมาร์ทดีไวซ์รุ่นใหม่ๆ, สินค้าเพื่อสุขภาพ, เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และครัวเรือน, อุปกรณ์สำนักงาน, อาหารเครื่องดื่ม, โรงแรม, แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว, แนะนำร้านอาหาร รวมไปถึงคำแนะนำ (How to) และเรื่องราวข่าวสารในชีวิตประจำวัน

Follow us: |



© 2023 Best Review Asia

No Result
View All Result
  •  
  • ซื้อยี่ห้อไหนดี ?
    • เทคโนโลยี
    • สุขภาพและความงาม
    • บ้านและห้องครัว
    • แม่และเด็ก
    • แฟชั่น
    • กีฬา
    • อาหารและเครื่องดื่ม
    • สัตว์เลี้ยง
    • อุปกรณ์สำนักงาน
    • เครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำสวน
    • เครื่องดนตรี
    • ยานยนต์
    • เทศกาลต่าง ๆ
    • แอปพลิเคชั่น
  • รีวิว สินค้า
  • สาระน่ารู้
    • แม่และเด็ก
    • สุขภาพ
    • ลดน้ำหนัก
    • การศึกษา
    • Life Style
    • แคปชั่นภาษาอังกฤษ
  • สูตรอาหาร
  • ท่องเที่ยว
    • ภาคเหนือ
    • ภาคใต้
    • ภาคกลาง
    • ภาคตะวันตก
    • ภาคตะวันออก
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ซีรีส์/หนัง
    • ซีรีส์เกาหลี
    • ซีรีส์จีน
    • ซีรีส์ฝรั่ง
    • ละครไทย
    • ภาพยนตร์ฝรั่ง
    • การ์ตูน
    • เพลง-ศิลปิน
  • ดีลดี

© 2022 Best Review Asia