ถ้าหากจะพูดถึงมันเทศที่อร่อย มีรสหวานฉ่ำอันเป็นเอกลักษณ์ หลาย ๆ คนก็คงจะทราบกันดีว่ามันเทศที่ว่านี้ก็คือมันหวานจากญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ มันหวานญี่ปุ่นนอกจากจะเป็นที่พูดถึงกันในเรื่องของรสชาติที่เป็นเลิศและแตกต่างจากมันเทศทั่ว ๆ ไปแล้วนั้น มันหวานญี่ปุ่นเองก็ยังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่กำลังอยู่ในช่วงที่ต้องควบคุมน้ำหนักค่ะ
เพราะมันหวานญี่ปุ่นนั้นมีค่า GI หรือดัชนีน้ำตาลที่ต่ำและยังเป็นที่ทราบกันดีว่าไม่มีไขมันด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นอาหารที่มีปริมาณเส้นใยสูง ช่วยในการปรับปรุงการเผาผลาญของร่างกายได้ดีทำให้คุณรู้สึกอิ่มนานโดยที่ไม่จำเป็นต้องกินในแคลอรีที่มากเกินความจำเป็น ทำให้มันหวานญี่ปุ่นถึงกลายเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับสายสุขภาพเลยล่ะค่ะ (1-5)
ความพิเศษของมันหวานญี่ปุ่นที่ทำให้มันแตกต่างจากมันเทศทั่ว ๆ ไปนั่นก็คือรสชาติที่หวานฉ่ำ เนื้อเนียนละเอียดให้สัมผัสที่นุ่ม ทานง่าย โดยที่ไม่จำเป็นต้องทานคู่กับอะไรเลยก็อร่อยมาก ๆ แถมมันหวานญี่ปุ่นยังถือเป็นอาหารทานเล่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวด้วยนะคะ หากใครได้มีโอกาสเดินทางไปญี่ปุ่นในช่วง 2 ฤดูนี้ก็หาโอกาสไปลองกันให้ได้นะคะ
แต่สำหรับใครที่ไม่สะดวกที่จะเดินทางไปทานถึงญี่ปุ่นก็ไม่เป็นไรจ้า เพราะตอนนี้คุณเองก็สามารถหาซื้อมันหวานญี่ปุ่นของแท้ นำเข้ามาจากญี่ปุ่นโดยตรงได้แล้วแค่คลิกเดียวก็รอรับมันหวานญี่ปุ่นอร่อย ๆ ไปทานได้ทันที ส่วนในเรื่องของคุณภาพและรสชาติความอร่อยไม่ต่างจากที่ญี่ปุ่นเลยด้วยค่ะ แถมวันนี้ที่เราเลือกมานำเสนอก็ไม่ได้มีแค่มันหวานญี่ปุ่นแบบดิบอย่างเดียวเท่านั้น แต่มีทั้งมันหวานเผาพร้อมรับประทานและมันหนึบ แสน็คเพื่อสุขภาพแสนอร่อยนำมาฝากกันด้วยนะคะ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า…
ทำความรู้จักกับ มันหวานญี่ปุ่น (6-7)
ก่อนที่จะไปเริ่มกันนั้นเราแวะมาทำความรู้จักกับมันหวานญี่ปุ่นกันก่อนนะคะ มันหวานญี่ปุ่น (Japanese Sweet Potato) คือมันเทศชนิดหนึ่ง โดยในภาษาญี่ปุ่นนั้นจะเรียกว่า ‘Satsuma-imo’ (さつまいも, サツマイモ) เป็นมันที่มีผิวสีม่วงอมชมพูหรือแดงเข้ม มีหลากหลายขนาดตั้งแต่เล็ก กลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่
โดยทั่วไปแล้วมันหวานญี่ปุ่นจะมีลักษณะกลมมนและมีปลายเรียว ผิวกึ่งหยาบและจะพบเห็นลักษณะคล้าย ๆ กับดวงตาเล็ก ๆ ตื้นๆ จำนวนมากกระจายอยู่ทั่วเปลือก เมื่อดิบเนื้อจะแน่นและแข็ง มีสีตั้งแต่สีขาวไปจนถึงสีเหลืองซีด แต่ถ้าหากปรุงสุกแล้วก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนหรือสีเหลืองทองทำให้มันประเภทนี้จึงดูน่ารับประทานมากเป็นพิเศษ ในเรื่องของเนื้อสัมผัสตอนสุกก็จะมีความครีมมี่ เนียนนุ่มละมุนลิ้น มีรสชาติหวานนำ เรียกได้ว่ามีรสชาติหวานที่มากกว่าพันธุ์มันเทศทั่วไปอยู่มากเลยทีเดียวค่ะ แถมยังมีการบอกอีกว่ามันหวานญี่ปุ่นยังมีรสชาติที่เหมือนกับเกาลัดคั่วและมีกลิ่นที่หอมน่าทานด้วยค่ะ

โดยมันเทศมีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ในศตวรรษที่ 16 ก็ได้มีการนำเข้ามายังประเทศจีน และจากจีนก็ได้มีการนำไปยังญี่ปุ่นในราว ๆ ต้นศตวรรษที่ 17 โดยแรกเริ่มเดิมทีนั้นมันหวานญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Kansho ในประเทศจีน ต่อมาเมื่อมาถึงโอกินาว่าก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Kara-imo และ เมื่อมาถึงญี่ปุ่นแผ่นดินใหญ่ก็เปลี่ยนมาเรียกเป็น Satsuma-imoในที่สุด และจากนั้นเป็นต้นมาก็ได้มีการปลูกมันหวานชนิดนี้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นค่ะ ปัจจุบันก็มีหลายประเทศเช่นกันค่ะที่หันมาปลูกมันหวานส่งออก แต่ประเทศญี่ปุ่นก็ยังเป็นที่หนึ่งในเรื่องนี้อยู่ดี เพราะว่ากันว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นอุดมสมบูรณ์ทั้งแร่ธาตุในดินและยังมีสภาพอากาศที่เอื้อต่อการปลูกมันเทศชนิดนี้มาก ๆ ทำให้มันหวานที่มาจากญี่ปุ่นจึงมีรสหวานฉ่ำที่สุดค่ะ
มันหวานญี่ปุ่นเหมาะสำหรับการนำไปปรุงสุกได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการคั่ว การอบ การต้ม การผัด และการนึ่ง คนญี่ปุ่นเองมักจะนิยมทานกันมันหวานเผากันในช่วงหน้าหนาวค่ะ เพราะการที่ทานตอนมันหวานร้อน ๆ นั้น เนื้อของมันหวานจะอุ่นและนิ่มละมุน พร้อมกับส่งกลิ่นหอม ๆ สามารถช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายได้เป็นอย่างดีและก็ยังฟินเอามาก ๆ เลยด้วยนะคะ ไหน ๆ ช่วงสิ้นปีนี้ไทยเราก็กำลังเข้าสู่ช่วงหน้าหนาวเช่นกัน ถ้าอย่างนั้นเอาเป็นว่าวันนี้เรามาเลือกซื้อมันหวานญี่ปุ่นเอาไปทานให้ร่างกายอุ่น ๆ ต้อนรับลมหนาวในช่วงสิ้นปีนี้กันดีกว่านะคะ
มันหวานญี่ปุ่นหนึบหนับ

ราคา 35 บาท*
มาต่อกันที่มันหวานอีกหนึ่งแบบที่คิดว่าน่าจะถูกใจใครหลาย ๆ คนนั่นก็คือมันหนึบนั้นเองค่ะ โดยมันหนึบของทางแบรนด์จะเป็นมันของแท้ที่ผลิตมาจากมันเทศล้วน ๆ นำไปแปรรูปเพื่อให้เนื้อมีความหนึบหนับเคี้ยวเพลินมากขึ้น แถมยังเก็บได้นานอีกด้วยค่ะ ส่วนในเรื่องรสชาติความอร่อยก็บอกเลยว่าไม่แพ้กันกับมันเผาเลยค่ะ โดยเนื้อของมันหนึบจะเหนียวกว่า หนึบกว่า มีกลิ่นที่หอม รสชาติจะออกหวานมันกำลังดี ไม่ได้หวานมากเหมือนพวกผลไม้เชื่อมแน่นอนค่ะ
เนื้อมันหนึบค่อนข้างที่จะเนียนละเอียด ไม่มีพวกเสี้ยนมากวนใจระหว่างทาน มันหนึบของทางร้านก็จะมี 2 แบบให้เลือกนั่นคือมันม่วงและมันเหลือง ใครถูกใจแบบไหนก็สามารถเลือกได้เลยค่ะ ซึ่งในหนึ่งถุงคุณก็จะได้มันหนึบในปริมาณ 200 กรัม หรือประมาณ 13 - 14 ชิ้น โดยประมาณ แนะนำมากค่ะสำหรับใครที่ต้องการพกติดตัวไปรับประทานนอกนอกบ้านเพราะมันทั้งสะดวก ทานง่าย และที่สำคัญคือไม่เลอะมืออีกด้วยนะคะ
ประเภท | มันหนึบ |
---|---|
ไซส์ | เป็นชิ้นขนาดกลาง |
สายพันธ์ุ | ไม่ระบุ |
ปริมาณ/จำนวน | 200 กรัม (13 - 14 ชิ้น) |
มันหวานญี่ปุ่นเผาพร้อมทาน Beni haruka

ราคา 59 บาท*
สำหรับมันหวานญี่ปุ่นแบบแรกนี่ค่อนข้างที่จะสะดวกมาก ๆ สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาหรือต้องการจะพกพาไปทานตามที่ต่าง ๆ เพราะมันหวานจาก Beni Haruk นั้นเป็นมันที่ปรุงสุกด้วยวิธีการเผามาแล้วแล้วเรียบร้อย พร้อมให้คุณฉีกซองทานทันที มันหวานมีด้วยกัน 2 ขนาดนะคะคือขนาด 150 กรัม และ 300 กรัม ถือเป็นขนาดที่พอเหมาะกำลังดีสำหรับการทานให้หมดในครั้งเดียว มันหวานถึงแม้จะผ่านการเผามาแล้วแต่ก็ยังมีกลิ่นที่หอม รสชาติก็ยังอร่อย ความหวานฉ่ำก็ไม่เปลี่ยนแปลงเพราะว่าได้มีการซีลแบบสุญญากาศ ช่วยคงความอร่อยให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้น มันหวาน สด สะอาด และปลอดภัยมั่นใจได้ค่ะว่าฉีกซองออกมารับประทานแล้วคุณจะไม่รู้สึกผิดหวังอย่างแน่นอน
ประเภท | มันเผาพร้อมทาน |
---|---|
ไซส์ | ไม่ระบุ |
สายพันธ์ุ | Beni Haruka |
ปริมาณ/จำนวน | 150 กรัม / 300 กรัม |
มันหวานญี่ปุ่นอบแห้ง มันหนึบญี่ปุ่น ตรา Shu Lai Xiang

ราคา 95 บาท*
มันหวานญี่ปุ่นอบแห้ง เนื้อหนึบหนับ ไม่แห้งแข็ง กัดง่าย ผลิตมาจากมันหวานญี่ปุ่นของแท้ ไม่ผสมแป้ง และที่สำคัญเลยคือไม่มีส่วนผสมจากน้ำตาล ความหวานที่คุณสัมผัสได้นั้นจะเป็นความหวานที่มาจากธรรมชาติล้วน ๆ เลยค่ะ ระดับความหวานจะไม่มากเกินไป กำลังอยู่ในระดับกลาง ๆ กำลังดี เหมาะมาก ๆ สำหรับใครก็ตามที่กำลังอยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักค่ะ โดยคุณสามารถเลือกทานมันหนึบเป็นของว่างระหว่างมื้อได้ จะทำให้คุณอิ่มนานและดับความหิวได้ดีเลยทีเดียว หนึ่งกล่องมีขนาด 300 กรัม ได้หลายชิ้นมาก ๆ แถมแต่ละชิ้นก็มีขนาดที่ใหญ่สุดคุ้ม สามารถเก็บไว้ทานได้นานถึง 1 ปี นับตั้งแต่วันผลิตที่มีการระบุอยู่ข้างกล่องนะคะ
ประเภท | มันหนึบ |
---|---|
ไซส์ | เป็นชิ้นใหญ่ |
สายพันธ์ุ | ไม่ระบุ |
ปริมาณ/จำนวน | 300 กรัม |
ชิโทริ (Shi-Tori) มันหวานญี่ปุ่น ไซส์ M

ราคา 300 บาท*
มาถึงอีกหนึ่งแบรนด์ที่หลาย ๆ คนคงจะคุ้นหน้ากันเป็นอย่างดีนั่นก็คือชิโทริ (SHI-TORI) ชิโทริเป็นแบรนด์ที่นำเข้ามันหวานญี่ปุ่นมาจากเมืองอิราบากิ ประเทศญี่ปุ่นโดยตรง ซึ่งเมืองอิราบากิถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตมันเทศรายใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่นเลยทีเดียวค่ะ มันหวานสายพันธุ์ที่ Beni Haruka ที่ปลูกที่เมืองนี้จะมีความหอม เนื้อจะหวานมันอร่อยกว่าที่ปลูกในประเทศอื่น ทางแบรนด์ได้คัดสรรมาแต่เกรดพรีเมี่ยมคุณภาพสูง ขนาดของมันหวานจะเป็นไซส์ M ถือเป็นขนาดที่กำลังดีมากค่ะ ไม่เล็กไม่ใหญ่ ทานได้กำลังอิ่มพอดี รับรองได้ว่าซื้อไปไม่มีผิดหวังแน่นอนค่ะ
ประเภท | มันดิบ |
---|---|
ไซส์ | M |
สายพันธ์ุ | Beni Haruka |
ปริมาณ/จำนวน | 1 กก. |
มันหวานญี่ปุ่นเนื้อเหลืองเบนฮารุกะ

ราคา 354 บาท*
ก่อนอื่นก็ต้องบอกเลยว่ามันหวานญี่ปุ่นกล่องนี้นั้นมาจากประเทศเวียดนามนะคะ แต่เดี๋ยวก่อนค่ะเพราะมันหวานที่มาจากเวียดนามนั้นก็อร่อยไม่แพ้กันค่ะ เนื้อจะเนียน รสสัมผัสจะเหนียวนุ่มแต่จะไม่นิ่มเท่ากับของญี่ปุ่น ส่วนความหวานนั้นถือว่าหวานในเนื้อค่ะ มีความฉ่ำเล็กน้อยอื่นอร่อยไปอีกแบบ ขนาดของมันจะค่อนข้างใหญ่ หัวโต ขนาดกำลังสำหรับการทานสำหรับ 1 คนเลยค่ะ สำหรับใครที่ต้องเข้ายิมออกกำลังกายควบคุมน้ำหนัก จำเป็นต้องทานมันหวานบ่อยในปริมาณที่มากก็ขอแนะนำเป็นมันหวานกล่องนี้เลยค่ะ รับรองว่าคุ้มแน่นอนทั้งปริมาณทั้งราคา
ประเภท | มันดิบ |
---|---|
ไซส์ | M / L |
สายพันธ์ุ | Beni Haruka |
ปริมาณ/จำนวน | 5 กก. |
มันหวานญี่ปุ่นแท้ ตรา Sweet Potato

ราคา 439 บาท*
มันหวานญี่ปุ่น ตรา Sweet Potato ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครก็ตามที่ต้องการจะลองชิมรสชาติความหอมอร่อยของมันหวานญี่ปุ่นในราคาประหยัด ซึ่งตัวนี้ก็สามารถตอบโจทย์ได้ดี มันหวานจะเป็นของสายพันธ์ุ Beni Haruka ขนาดกลาง ๆ เนื้อจะมีความหอมหวาน เนื้อเนียนใช้ได้เลยค่ะ หลังต้มสุกเนื้อจะมีสีเหลืองสุกน่ารับประทาน ไม่ต่างจากแบบที่มีราคาแพงเท่าไหร่เลยค่ะ แต่ส่วนที่ต้องพิจารณานั่นก็คือขนาดอาจจะมีปะปนเล็กใหญ่คละกันไปบ้าง หรืออาจจะมีเสียหายบ้าง ในส่วนนี้ทางร้านก็จะเคลมให้ในครั้งถัดไปค่ะ
ประเภท | มันดิบ |
---|---|
ไซส์ | M และ L |
สายพันธ์ุ | Beni Haruka |
ปริมาณ/จำนวน | 5 กก. |
มันหวานญี่ปุ่น ตรามงกุฎ (Sweet Potato King)

ราคา 439 บาท*
สำหรับมันหวานญี่ปุ่น ตรามงกุฎนี้ก็จะเป็นมันหวานสายพันธ์ุ Beni Haruka อีกหนึ่งสายพันธ์ุที่ขายดีและได้รับความนิยมทั้งในไทยและญี่ปุ่น ความโดดเด่นของสายพันธ์ุนี้คือจะมีรสชาติหวาน และจะหวานทั่วทุกส่วน ลูกจะมีขนาดใหญ่ลูกโตสวย โดยทางร้านก็มี 2 ขนาดให้เลือกคือ ขนาด M และ L ค่ะ เนื้อสัมผัสจะมีความนุ่มและหอมหวาน สามารถนำไปปรุงสุกได้หลากหลายวิธีค่ะ ทั้งนำไปเผา, อบ, ต้ม หรือนึ่งก็อร่อยเหมือนกันหมด มันหวาน ตรามงกุฎกล่องนี้จะมาในขนาด 5 กก.ค่ะ สำหรับใครที่ต้องการซื้อทานในปริมาณที่เยอะหรือเป็นครอบครัวใหญ่ การที่เหมายกลังแบบนี้ถือว่าคุ้มสุด ๆ เลยล่ะค่ะ
ประเภท | มันดิบ |
---|---|
ไซส์ | M / L |
สายพันธ์ุ | Beni Haruka |
ปริมาณ/จำนวน | 5 กก. |
มันหวานญี่ปุ่น สายพันธ์ุเบนิ ฮารุกะ นำเข้าจากอิบารากิ

ราคา 888 บาท*
มันหวานญี่ปุ่น สายพันธ์ุเบนิฮารุกะของแท้ นำเข้ามาจากจังหวัดอิบารากิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถ้าหากใครที่เป็นคอมันหวานอยู่แล้วคงจะทราบดีจังหวัดนี้มีทำเล ดิน น้ำ อากาศ ถือว่าสมบูรณ์แบบทำให้รสชาติของมันหวานจะมีความหวานมากเป็นพิเศษ เนื้อสีเหลืองทอง ฉ่ำเยิ้ม มีรสหวานละมุนราวกับน้ำผึ้งจากธรรมชาติ เปลือกเองก็บางปอกง่าย รับประทานได้เพลินมาก ๆ เพราะนอกจากเนื้อจะหวานชื่นใจแล้วก็ยังเป็นเนื้อที่มีความเนียนละเอียด ไม่มีเสี้ยน จะต้ม จะนึ่ง หรือจะเอาเข้าเตาอบก็ได้ค่ะ แต่แนะนำว่าถ้าอยากได้ความหอมอร่อยขั้นสุดนั้นจะต้องใช้การเผาค่ะ เพราะวิธีการเช่นนี้จะดึงเอารสชาติความอร่อยออกมาได้มากกว่าวิธีอื่น ๆ ทำให้เราทานได้ฟินมากขึ้นค่ะ
ประเภท | มันดิบ |
---|---|
ไซส์ | คละไซส์ |
สายพันธ์ุ | Beni Haruka |
ปริมาณ/จำนวน | 3 กก. |
ชิโทริ (Shi-Tori) มันหวานญี่ปุ่นเบนิฮารุกะ ขนาด 5 กก.

ราคา 1,299 บาท*
สำหรับใครที่ติดอกติดใจมันหวานญี่ปุ่นจากชิโทริ (SHI-TORI) แต่ขนาด 1 กก. ยังน้อยไปก็ขอแนะนำให้ซื้อแบบเหมายกลังแบบนี้เลยค่ะ โดยหนึ่งลังจะมีน้ำหนัก 5 กก.อันแน่นไปด้วยมันหวานญี่ปุ่นสายพันธ์ุ Beni Haruka เกรดพรีเมี่ยมได้มาตรฐาน นำเข้าจากอิบารากิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเมืองที่เหมาะสมต่อการปลุกมันหวานที่สุดค่ะ ทั้งสภาพภูมิประเทศและสภาพอากาศก็เอื้ออำนวย ทั้งยังเป็นดินภูเขาไฟที่มีแร่ธาตุอยู่เพียบก็ยิ่งทำให้มันหวานของที่นี่นั้นหวานอร่อยมากกว่าที่ไหน ๆ ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสเช่นเดียวกับที่ทานที่ญี่ปุ่นโดยที่ไม่จำเป็นต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปก็ได้ค่ะ ใครที่ต้องการเปิดประสบการณ์การทานมันหวานสุดฟินก็ขอแนะนำมันหวานญี่ปุ่นจากชิโทริเจ้านี้เลยค่ะ
ประเภท | มันดิบ |
---|---|
ไซส์ | M |
สายพันธ์ุ | Beni Haruka |
ปริมาณ/จำนวน | 5 กก. |
มันหวานญี่ปุ่นพรีเมี่ยม สายพันธ์ุ Silk Sweet

ราคา 1,550 บาท*
และปิดท้ายกันด้วยมันหวานเกรดพรีเมียม ของแท้ส่งจากเมืองชิบะและเมืองอิบารากิ ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากพื้นที่บริเวณนั้นมีดินที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีแร่ธาตุสูง ถึงแม้ว่าราคาอาจจะแพงไปหน่อยแต่ในเรื่องของคุณภาพและความอร่อยนั้นต้องยกให้ว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์จริง ๆ ค่ะ โดยมันหวานญี่ปุ่นตัวนี้จะเป็นสายพันธ์ุ Silk Sweet สายพันธ์ุผสมที่คัดสรรเอาแต่ความอร่อยของทั้ง 2 สายพันธ์ุมารวมไว้ในหนึ่งเดียว ขนาดของมันหวานจะค่อนข้างใหญ่ รูปทรงกลมมนสวย ปลายเรียว เนื้อจะมีความหวานโดดมาก ๆ ใครที่ชอบมันที่มีรสหวานฉ่ำจะต้องเลิฟ เนื้อของเค้าค่อนข้างที่จะเนียนละเอียด ไม่มีเสี้ยนปะปน ทานได้เพลินมาก ๆ และที่ดูจะแตกต่างจากมันหวานแบบอื่น ๆ เลยคือ Silk Sweet จะมีเนื้อที่มีสีเหลืองทองดุจรังไหม จะมาพร้อมกับสีที่เข้มกว่าสายพันธ์ุ Beni Haruka คือถ้าใครที่อยากได้รสชาติมันหวานที่อร่อยในแบบฉบับญี่ปุ่นจริง ๆ ก็แนะนำเลยค่ะ
ประเภท | มันดิบ |
---|---|
ไซส์ | M |
สายพันธ์ุ | Silk Sweet |
ปริมาณ/จำนวน | 5 กก. |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
การเลือกซื้อมันหวานญี่ปุ่น ที่อร่อย เนื้อหวานฉ่ำ
1. สายพันธ์ุ
จริง ๆ แล้วมันหวานญี่ปุ่นนั้นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายสายพันธ์ุนะคะ แต่วันนี้เราจะขอหยิบมาอธิบายแค่ไม่กี่สายพันธ์ุเท่านั้น โดยทั้ง 2 สายพันธ์ุที่เรียกมานี้ก็จะเป็นสายพันธ์ุที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมและเป็นสายพันธ์ุที่มีขายกันอยู่ทั่วไปค่ะ จะมีสายพันธ์ุไหนบ้างนั้นมาดูกันเลยค่ะ
1.1 Beni Haruka
สายพันธ์ุแรกถือว่าเป็นสานพันธ์ที่มีจำหน่ายกันอย่างแพร่หลายเป็นอย่างมากค่ะ ราคาก็จะมีตั้งแต่ถูกไปจนถึงราคาแพง ขึ้นอยู่กับคุณภาพและแหล่งที่เพาะปลูกนั่นเอง หากมาจากญี่ปุ่นก็แน่นอนว่าราคาอาจจะต้องสูงกว่าอยู่แล้วค่ะ สายพันธุ์ Beni Haruka จะเป็นมันหวานที่มีความหวานฉ่ำมาก ๆ ยิ่งมาจากญี่ปุ่นแล้วด้วยก็จะมีความหวานมากเป็นพิเศษ เนื้อจะนุ่มหนึบ และมีความฉ่ำชุ่มชื่นในตัว ผิวด้านนอกจะมีสีแดง แต่เนื้อด้านในตอนสุกจะเป็นสีเหลือง กลิ่นหอม เป็นที่นิยมกันทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นค่ะ
1.2 Silk Sweet
ต่อมาก็จะเป็นสายพันธ์ุ Silk Sweet สายพันธ์ุใหม่ที่เกิดมาจากการผสมระหว่าง ‘ฮารุโคกะเนะ’ กับ ‘เบนิ อาสึมะ’ เป็นสายพันธ์ุใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานแต่กลับได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จุดเด่นของสายพันธ์ุ Silk Sweet คือรสชาติจะมีความหวานฉ่ำ เนื้อในจะมีสีเหลืองทองอร่ามทำให้ดูสวยงามน่ารับประทาน เนื้อจะมีความชุ่มฉ่ำ ไม่มีเสี้ยน ค่อนข้างเนียนที่จะเนียนละเอียดมาก ๆ ค่ะสำหรับพันธ์ุนี้
2. ตรวจสอบผิวของมันหวานญี่ปุ่น
วิธีการต่อมาก็แนะนำให้ตรวจสอบผิวรอบ ๆ โดยที่คุณควรมองหามันหวานที่มีผิวที่เรียบเนียน ตึง และปราศจากจุดอ่อน รอยช้ำ รอยแตก หรือร่องรอยของการแตกหน่อ
3. ตรวจสอบคุณภาพ
มันหวานญี่ปุ่นที่ได้คุณภาพ คือมันที่มีเนื้อที่แข็ง สีสด หากว่ามันหวานของคุณเริ่มอ่อน นั่นอาจจะหมายความว่ามันอาจเน่าเสียแล้วก็เป็นได้ โดยปกติปลายของมันจะเริ่มนิ่มก่อนก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลหรือสีดำ และทันทีที่ชิ้นส่วนเหล่านี้เริ่มเกิดการเน่าเสียมันก็จะส่งผลทำให้รสชาติเปลี่ยนแปลงไปด้วย ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบคุณภาพในส่วนนี้ด้วยนะคะ
4. ร้านค้า ยอดขายที่น่าเชื่อถือ และการรับประกันคุณภาพ
ถึงแม้ว่าจะเป็นการซื้อผ่านทางออนไลน์คุณก็สามารถนำวิธีนี้ไปใช้ได้ค่ะ โดยการเลือกซื้อจากร้านที่มีความน่าเชื่อถือและมียอดการสั่งซื้อที่มาก อาจจะสังเกตจากการรีวิวของลูกค้าท่านอื่นด้วยก็จะช่วยทำให้การตัดสินใจในการเลือกซื้อของคุณนั้นง่ายดายมากขึ้น นอกจากนี้แล้วคุณยังสามารถนำวิธีการเลือกซื้อในข้อด้านบนไปใช้ได้ โดยการพิจารณาจากภาพและความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้าของลูกค้าท่านอื่นที่มารีวิวนั่นเองล่ะค่ะ
และอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการสั่งอาหารหรือของกินผ่านทางออนไลน์นั่นก็คือการรับประกันคุณภาพนั้นเองค่ะ โดยหลาย ๆ ร้านก็จะมีการชดเชยให้ในกรณีที่สินค้าที่คุณสั่งเกิดเน่าหรือเสียหาย ซึ่งถ้าหากเลือกได้ก็ลองเลือกร้านที่ตรงกับคุณสมบัติที่เราได้บอกไปก็จะดีมากเลยทีเดียวค่ะ
5. มันดิบ vs มันหนึบ vs มันเผาพร้อมทาน
สำหรับมันหวานญี่ปุ่นที่มีวางจำหน่ายและที่เราเลือกมาวันนี้ก็จะมีด้วยกัน 2 แบบนะคะ นั่นก็คือแบบสดและแบบมันหนึบ โดยแบบมันสด ๆ คุณจะต้องนำมาทำให้สุกเองค่ะ รสชาตินั้นจะมีความหวาน เนื้อจะค่อนข้างเนียนนุ่มละมุน และยังแอบฉ่ำ ๆ เยิ้ม ๆ ด้วยค่ะ การซื้อแบบสด ๆ จะเหมาะสำหรับการทำทานที่บ้านกับคนในครอบครัวและการซื้อแบบสดจะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการทานในปริมาณที่มาก ๆ
ซึ่งก็แตกต่างกับมันหนึบโดยสิ้นเชิง มันหนึบเกิดจากการนำมันหวานญี่ปุ่นไปแปรรูป บรรจุมาในหีบห่อขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเป็นของว่างระหว่างมื้อ เนื้อสัมผัสจะมีความหนุบหนับ เคี้ยวเพลินคล้าย ๆ กับพวกสแน็คทั่วไปแต่จะจัดอยู่ในสแน็คที่มีประโยชน์ต่อร่างกายค่ะ แต่ถ้าใครที่ต้องการความสะดวก ทานง่าย พกพาไปทานที่ไหนก็ได้บนโลกนี้ก็ขอแนะนำเป็นแบบเผาพร้อมทานเลยค่ะ บอกเลยว่าแบบนี้นั้นทานง่ายมาก ๆ แค่ฉีกซองก็สามารถทานได้ทันที
วิธีอบมันหวานญี่ปุ่นอย่างไรให้หวานฉ่ำ ๆ หนึบ ๆ ไม่แห้ง
หลังจากที่เราได้รีวิวมันหวานญี่ปุ่นกันไปแล้วก็จะเห็นได้ว่ามีมันหวานหลากหลายแบบให้คุณได้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นมันหวานเผาพร้อมทานหรือมันหวานหนึบหนับเองก็น่าสนใจไม่เบา แต่สำหรับใครที่ตัดสินใจซื้อมันหวานดิบเพื่อที่จะนำไปปรุงสุกเองหัวข้อนี้ถือว่าเหมาะกับคุณมาก ๆ ค่ะ เพราะวันนี้เราจะรวบรวมทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมถึงวิธีการอบมันหวานให้อร่อย โดยที่เนื้อในไม่แห้ง แต่จะมีความฉ่ำและเยิ้มได้เนื้อสีเหลืองทองสวยงามน่ารับประทาน ซึ่งจะมีวิธีการไหนบ้างนั้นก็ตามมาดูกันเลยค่ะ
1. วิธีอบมันหวานญี่ปุ่นด้วยเตาอบ
สำหรับวิธีการแรกนั่นก็คือการอบด้วยเตาอบนั่นเองค่ะ เริ่มต้นขั้นตอนแรกก็ให้คุณล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นก็นำมันหวานวางเรียงบนถาดให้เรียบร้อยจากนั้นก็ให้เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 250 องศาเซลเซียส โดยใช้ไฟบนล่างเท่ากันนะคะ และจะอบเป็นเวลาทั้งหมด 60 นาทีสำหรับมันหวานญี่ปุ่นขนาดกลาง แต่ถ้าหากมีขนาดที่เล็กหรือใหญ่กว่านี้อาจจะบวกลบเพิ่มเติมไปได้อีก 10 นาทีหรืออาจจะมากกว่านี้ก็ได้ค่ะ โดยทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวนของการอบในแต่ละครั้งด้วยเช่นกัน
2. วิธีอบมันหวานด้วยไมโครเวฟ
ใครไม่มีเตาอบก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องเสียใจไปนะคะเพราะไมโครเวฟก็สามารถอบได้เช่นเดียวกัน แต่ก็ต้องบอกก่อนเลยว่าการใช้ไมโครเวฟนั้นอาจจะไม่ได้เนื้อที่ฉ่ำเยิ้มเท่ากับวิธีอื่น ๆ สักเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าโอเคค่ะอร่อยใช้ได้เลย ถือว่าเป็นวิธีที่ค่อนข้างจะสะดวกและรวดเร็วที่สุดค่ะ
โดยก่อนอื่นก็ต้องล้างทำความสะอาดมันหวานให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นก็ให้ใช้ทิชชูอเนกประสงค์แบบหนาหรือแบบที่ใช้งานในครัวนำไปชุบน้ำให้ชุ่ม จากนั้นนำไปห่อมันหวานและตามด้วยพลาสติกกันความร้อนอีกชั้นเพราะหากเราไม่ทำเช่นนี้ก็อาจจะทำให้เนื้อของมันหวานนั้นแห้งเกินไปได้ค่ะ
จากนั้นก็ให้นำมันหวานเข้าไมโครเวฟโดยใช้ความร้อนสูง ตั้งเวลาประมาณ 4 – 8 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดของมันหวานด้วยนะคะ โดยหลังจากอบเสร็จแล้วก็ลองเช็คด้วยว่าสุกดีหรือไม่ โดยใช้ไม้จิ้มฟันหรือส้อมจิ้มลงไปในเนื้อมันหวานญี่ปุ่น หากว่าเนื้อยังแข็งอยู่ก็ให้เวฟเพิ่มอีกหน่อยนะคะ แต่ถ้าจิ้มแล้วเนื้อด้านในนิ่มจิ่มทะลุออกไปถึงอีกฝั่งหนึ่งได้ก็แสดงว่าสุกพร้อมรับประทานได้แล้วค่ะ
3. วิธีอบมันหวานด้วยหม้ออบลมร้อน
วิธีการต่อมาก็จะเป็นการอบด้วยหม้ออบลมร้อน ก็ให้นำมันหวานญี่ปุ่นไปล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นก็นำไปอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 20 – 30 นาที จากนั้นก็กลับด้านแล้วก็อบต่อที่อุณหภูมิและเวลาเท่าเดิม เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วจ้า
4. วิธีอบมันหวานด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน
สำหรับวิธีสุดท้ายนี้ก็คือการอบด้วยหม้อทอดไร้น้ำมันค่ะ เราเชื่อว่าหลาย ๆ บ้านน่าจะมีหม้อทอดน้ำมันกันอยู่แล้วนะคะ การอบด้วยหม้อทอดไร้นำมันแนะนำว่าให้นำมันหวานห่อด้วยฟอยล์อะลูมิเนียมที่ใช้ห่ออาหารโดยเฉพาะ
ฟอยล์จะเป็นตัวที่คอยกักเก็บความชื้นไม่ทำให้ความชื้นระเหยออกไป จึงทำให้เนื้อในนั้นฉ่ำเยิ้มและนิ่มอร่อย แต่การห่อด้วยฟอยล์เองก็ไม่ควรห่อหนาจนเกินไปด้วยนะคะ หลังจากที่ห่อมันหวานเรียบร้อยแล้วก็นำเข้าหม้อทอดเลยค่ะ โดยใช้ความร้อนที่ 200 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 25 – 30 นาที เพียงเท่านี้ก็ได้มันหวานญี่ปุ่นที่มีเนื้อที่หวานมัน หนึบ และชุ่มฉ่ำละมุนลิ้นแล้วล่ะค่ะ
ประโยชน์ของมันหวานญี่ปุ่น (1-5 , 8-9)
1. ช่วยลดอาการท้องผูก
มันหวานญี่ปุ่นเป็นอาหารที่มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดอาการท้องผูกทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ได้ค่ะ เนื่องจากในมันหวานนั้นมีปริมาณไฟเบอร์ที่สูงมากซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพลำไส้ โดยไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหารจะช่วยเพิ่มน้ำหนักและขนาดของอุจจาระและยังทำให้มันนิ่มลง จึงทำให้เราสามารถที่จะขับถ่ายได้ง่ายขึ้นซึ่งก็จะช่วยลดโอกาสท้องผูกได้ด้วยค่ะ และในทำนองเดียวกัน หากคุณมีอุจจาระเหลวและเป็นน้ำ ไฟเบอร์ก็จะช่วยให้อุจจาระแข็งเพราะดูดซับน้ำและทำให้อุจจาระมีขนาดใหญ่ขึ้น ขับถ่ายง่ายขึ้นถือเป็นการช่วยรักษาสุขภาพลำไส้นั่นเองค่ะ
2. ทำให้อิ่มนานขึ้น
อย่างที่เกริ่นกันไว้ในข้อแรก เนื่องจากมันหวานญี่ปุ่นนั้นมีใยอาหารจำนวนมากทำให้เมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้วมันจะเหมือนฟองน้ำที่จะขยายตัวในท้องของคุณ ส่งผลให้กระบวนการย่อยอาหารภายในร่างกายทำได้ชะลอช้าลงและกินเวลาในการย่อยนานขึ้น ทำให้คุณรู้สึกอิ่มนานด้วยแคลอรีที่น้อยลง และด้วยสาเหตุนี้เองค่ะที่ทำให้มันหวานญี่ปุ่นถึงเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายหรือกำลังลดน้ำหนัก แต่ก็ต้องขอละไว้ก่อนว่ามันจะต้องไม่อยู่ในรูปแบบของการทอดนะคะ
3. มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
มันหวานญี่ปุ่นถือเป็นแหล่งอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ในมันหวานจะประกอบไปด้วยไฟเบอร์ แร่ธาตุที่ดีต่อสุขภาพอย่างโพแทสเซียมที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาและบำรุงรักษาระบบประสาทและกล้ามเนื้อรวมถึงหัวใจของคุณด้วยค่ะ แคลเซียมในมันหวานญี่ปุ่นก็ถือเป็นแร่ธาตุอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยลดการเกิดโรคหัวใจโดยการลดการดูดซึมไขมันและลดระดับคอเลสเตอรอล และก็ยังมีแมงกานีสอีกด้วยค่ะ แมงกานีสจะช่วยควบคุมความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือดตลอดจนรักษาการทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท นอกจากแร่ธาตุที่สำคัญแล้วในมันหวานญี่ปุ่นก็ยังประกอบไปด้วยวิตามินต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินซีและวิตามินเอที่เป็นที่ทราบกันดีว่าดีต่อสุขภาพดวงตาและอาจลดความเสี่ยงของต้อกระจกได้ด้วยค่ะ
4. มีดัชนีน้ำตาลต่ำ
มันหวานญี่ปุ่นจัดว่าเป็นอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาล (GI) ต่ำ ข้อดีของการมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำก็คือหลังจากที่ร่างกายย่อยอาหารและดูดซับสารอาหารแล้ว น้ำตาลจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ช้ากว่าอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง ทำให้อาหารที่มีค่า GI จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานค่ะ
5. ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะว่ามันหวานญี่ปุ่นนั้นมีส่วนช่วยในเรื่องของการปรับเปลี่ยนทางด้านอารมณ์ทำให้เรารู้สึกสึกดีขึ้นได้ เนื่องจากในมันหวานญี่ปุ่นมีกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่เป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้นั่นก็คือ Tryptophan (ทริปโตเฟน) มีส่วนช่วยควบคุมอารมณ์ ความเครียด ความกังวล และยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการนอนหลับของคุณอีกด้วยนะคะ
วิธีการเก็บรักษามันหวานญี่ปุ่น
1. การเก็บรักษา
เนื่องจากเป็นการสั่งซื้อออนไลน์ อยากจะแนะนำว่าทันทีที่คุณได้รับสินค้าให้ตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนเป็นอย่างแรก อย่าลืมตรวจดูสี ร่องรอยรอบ ๆ ผิวของมันหวาน และลองกดดูด้วยค่ะว่ามันหวานของคุณนั้นนิ่มแล้วหรือเปล่า เพราะถ้าหากมันหวานมีลักษณะที่ผิดเพี้ยนจากที่เราบอกไว้ข้างต้นอาจแปลว่ามันเสียหรือเน่า ดังนั้นให้รีบติดต่อกลับไปยังร้านเพื่อที่จะหาวิธีการแก้ไขต่อไปค่ะ หลังจากที่ตรวจสอบเสร็จแล้วเรียบร้อยก็ให้เปิดฝาออกเพื่อเป็นการระบายอากาศค่ะ ส่วนการเก็บรักษาก็ควรที่จะเก็บในที่ร่ม โดยวางให้ห่างจากแสงแดดและความชื้น ที่สำคัญคือไม่ควรแช่ในตู้เย็นเด็ดขาด ที่ที่จะใช้เก็บมันหวานนอกจากควรจะหลีกเลี่ยงความร้อนและความชื้นแล้วก็ควรเลือกวางไว้ในจุดที่อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวกด้วยนะคะ
2. ระยะเวลาในการเก็บรักษา
มันหวานสามารถเก็บไว้ได้นานเป็นเวลา 1 ถึง 2 สัปดาห์ซึ่งคุณจะต้องเก็บอย่างถูกวิธีและจะต้องเก็บไว้ในห้องหรือสถานที่ที่มีอุณหภูมิที่พอเหมาะเท่านั้น แต่ถ้าต้องการให้มันหวานญี่ปุ่นของคุณเมื่อทำให้สุกแล้วมีสีสันสวยงามน่าทาน รสชาติดี อร่อย หวานหอม ขอแนะนำให้นำมารับประทานให้หมดภายใน 7 วันหรือถ้าจะให้ดีก็ควรทานให้หมดโดยเร็วที่สุด ไม่ควรที่จะเก็บไว้นานมากเกินไปนะคะเพราะจะทำให้เนื้อและรสชาติเหมือนไปโดยจะไม่อร่อยเท่าเดิมแล้วนะคะ
ถึงแม้ว่ามันหวานญี่ปุ่นจะมีประโยชน์มากมายแค่ไหนก็ตาม แต่คุณก็จำเป็นต้องเลือกรับประทานแค่ในปริมาณที่เหมาะสมและอย่าลืมที่จะออกกำลังกายควบคู่ไปกับการทานอาหารที่หลากหลายเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อสุขภาพด้วยนะคะ สำหรับวันนี้เราก็ขอตัวลากันไไปก่อนแล้วไว้เจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะทุกคน
References :
- Sweet potato: a review of its past, present, and future role in human nutrition
- The Nutrition Source : Food Features : Sweet Potatoes
- Sweet potato (Ipomoea batatas [L.] Lam)–a valuable medicinal food: a review
- Healthy aging diets other than the Mediterranean: A Focus on the Okinawan Diet
- Caloric restriction, the traditional Okinawan diet, and healthy aging: the diet of the world’s longest-lived people and its potential impact on morbidity and life span
- Sweet potato
- サツマイモ
- The effect of a sweet potato, footbath, and acupressure intervention in preventing constipation in hospitalized patients with acute coronary syndromes
- Sweet potato leaves for family nutrition: Overview of research