วัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นเป็นวัฒนธรรมการทำอาหารที่ค่อนข้างพิถีพิถันเป็นอย่างมาก ดังนั้นแต่ละเมนูจึงเลือกใช้แค่ของสดใหม่อยู่เสมอ อีกทั้งเครื่องปรุงรสของอาหารญี่ปุ่นยังมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองด้วยค่ะ จุดเด่นของเครื่องปรุงรสญี่ปุ่นคือมีกลิ่นหอมมาก อีกทั้งยังช่วยทำให้อาหารกลมกล่อมขึ้นด้วย เครื่องปรุงจากประเทศญี่ปุ่นจะมีให้เราได้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซอสเทอริยากิ, โชยุ, พอนสึ, ซอสยากินิกุ, มิโซะรวมไปถึงวาซาบิ
แต่หากจะให้พูดถึงเอกลักษณ์ของอาหารญี่ปุ่นส่วนผสมที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “มิริน (Mirin)” หรือที่เรียกกันว่าเหล้าญี่ปุ่นนั่นเอง มิรินเป็นส่วนผสมที่มีอยู่ในอาหารญี่ปุ่นแทบจะทุกชนิดตั้งแต่น้ำจิ้ม, เมนูข้าวญี่ปุ่น, น้ำสลัดญี่ปุ่น, อาหารหมักและซอสทั่วไปค่ะ กระบวนการทำมิรินที่เป็นกระบวนการดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่นนั่นก็คือการหมัก กรรมวิธีการหมักจะคล้าย ๆ กับน้ำส้มสายชูแต่จุดเด่นของมิรินคือมีความหวานและกลมกล่อมมากเป็นพิเศษ เมื่อนำไปปรุงในอาหารจะทำให้อาหารอร่อยมากขึ้น
หากคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ของอาหารญี่ปุ่นมิรินเป็นส่วนผสมที่คุณต้องมีค่ะ วันนี้เราเลยอยากเอาใจแฟน ๆ อาหารญี่ปุ่นด้วยการแนะนำมิรินที่ดีที่สุดกันค่ะ อีกทั้งเราจะขอให้ความรู้เกี่ยวกับมิรินกันด้วย
มิรินแบรนด์ไหน คุ้มค่า เหมาะสำหรับใช้ทำอาหารมากที่สุด?
- ฮอนมิรินสูตรเข้มข้น ไม่เติมเกลือและสารกันเสีย อุดมไปด้วยกรดอะมิโนหลากชนิด: Takara Hon Mirin Junryo ทาคาร่าฮอนมิริน
- มิรินสูตรคุณภาพ ช่วยทำให้จานอาหารมีความโดดเด่น รสหวานและกลมกล่อมเป็นพิเศ: Mizkan mirin cookingmirin มิรินปรุงอาหาร
- มิรินแกลลอนใหญ่พิเศษ เหมาะสำหรับใช้ในร้านอาหาร: มิรินโมโตะ ขนาด 4 ลิตร
- มิรินสูตรฮาลาล กลมกล่อม ปราศจากแอลกอฮอล์: ASAN มิรินฮาลาล 1 ลิตร
- มิรินสูตรใช้เกลือไม่เสริมไอโอดีน เค็มหวานลงตัว: Kikkoman Manjo Aji-Mirin คิคโคแมน มิรินสาเกปรุงอาหาร
มิริน (Mirin) คืออะไร ?
มิริน (Mirin / みりん) เป็นไวน์ที่ทำจากข้าวที่ผ่านการหมักจากข้าวเหนียว ข้าวโคจิ และแอลกอฮอล์ (เช่น โชจู) มิรินมีลักษณะคล้าย ๆ กับเหล้าสาเกและบางครั้งมิรินก็ถูกเรียกว่าเหล้าสาเกหวาน แต่ความแตกต่างของเหล้าสาเกและมิรินคือมิรินมีความหวานมากขึ้นแต่มีแอลกอฮอล์น้อยลงนั่นเอง

กรรมวิธีการทำมิรินทำโดยการผสมข้าวเหนียวนึ่งและข้าวโคจิเข้าด้วยกัน หลังจากนั้นจะผ่านการหมักในแอลกอฮอล์กลั่น ระยะเวลาในการหมักมักจะอยู่ที่ 6-12 เดือน เมื่อหมักได้ครบเวลาตามที่ต้องการแล้วจะต้องกรองข้าวออกให้เหลือแต่ของเหลวใสในระหว่างกระบวนการหมักมิริน แป้งในข้าวเหนียวจะแตกตัวเป็นน้ำตาล ซึ่งทำให้มิรินมีรสหวานกลมกล่อม ความหวานนี้แตกต่างจากความหวานของน้ำตาลทรายทั่วไป จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มิรินเป็นเครื่องปรุงรสที่มีเอกลักษณ์เฉพาะและเหมาะสำหรับใช้ปรุงอาหารญี่ปุ่นค่ะ นอกจากมิรินจะช่วยทำให้รสชาติของอาหารอร่อยแล้ว ภายในมิรินยังมีกรดซัคซินิก (Succinic Acid) และกรดอะมิโน (Amino Acid) ที่ดีต่อสุขภาพด้วย (1,2)
ทำความรู้จักกับประเภทของมิรินที่ใช้ทำอาหาร
มิรินเป็นส่วนผสมในอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น หากคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ของอาหารญี่ปุ่น คุณมักจะพบส่วนผสมของมิรินในอาหารญี่ปุ่นและซอสต่าง ๆ มากมาย เช่น อุด้งและน้ำซุปราเม็ง ตลอดจนซอสเทอริยากิและซอสเทมปุระ เครื่องปรุงอาหารรสหวานนี้ช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับอาหาร นอกจากนี้ปริมาณแอลกอฮอล์ยังช่วยปรับสมดุลความเค็มในเนื้อสัตว์และอาหารทะเล

หากคุณกำลังหาซื้อมิรินที่ร้านขายของชำหรือทางออนไลน์ คุณอาจพบว่ามีมิรินประเภทต่าง ๆ มากมายให้เราได้เลือก ซึ่งความแตกต่างของมิรินแต่ละประเภทเกิดจากกระบวนการผลิต ส่วนผสมที่ใช้และสารเติมแต่งในมิรินค่ะ ต่อไปนี้เป็นมิรินประเภทต่าง ๆ ที่คุณจะต้องทำความรู้จักค่ะ
Hon mirin (本味醂)
ฮอนมิริน (Hon mirin) มิรินประเภทนี้มีปริมาณแอลกอฮอล์ 14% และเกลือ 0% ดังนั้นจึงต้องปรุงรสชาติเพิ่มเติมเพื่อกำจัดแอลกอฮอล์ออกไป มิรินชนิดนี้ทำจากการหมักและบ่มส่วนผสม 3 อย่างเข้าด้วยกัน นั่นก็คือโมจิโกเมะนึ่ง (ข้าวหวาน) ข้าวมอลต์และไวน์ข้าวกลั่น กระบวนการหมักมิรินชนิดนี้อาจใช้เวลาระหว่าง 40 – 90 วัน แต่โปรดระวังให้ดีเพราะแบรนด์บางแบรนด์จะเพิ่มคำว่า “Hon” ลงไปในฉลากเพื่อบอกว่ามิรินมีคุณภาพสูง แต่ถ้าคุณเห็นส่วนผสมของน้ำตาลหรือเกลือในมิรินชนิดนั้นหมายความว่ามิรินนั้นไม่ใช่ฮอนมิริน (Hon mirin) ค่ะ
Aji Mirin (風調味料)
อาจิมิริน (Aji Mirin) มิรินประเภทนี้จะทำโดยการผสมน้ำตาลกับสารที่เป็นกรด มิรินชนิดนี้มีปริมาณแอลกอฮอล์น้อยกว่า 1% และมีปริมาณเกลือน้อยกว่า 1% ทั้งยังมีราคาถูกกว่าฮอนมิรินเพราะใช้เวลาในการผลิตไม่นานมากนัก ใช้สะดวกเพราะไม่ต้องปรุงเพิ่มเติมเพื่อขจัดแอลกอฮอล์แต่จะมีผลในด้านของรสชาติเล็กน้อย
Hakko chomiryo (発酵調味料)
ฮักโกโชมิเรียว (Hakko chomiryo) หรือมิรินปรุงรส มิรินประเภทนี้ใช้กระบวนการทำในลักษณะเดียวกับฮอนมิรินแต่มีปริมาณเกลือประมาณ 2% และมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 8 – 14% อย่างไรก็ตามแม้ว่ามิรินนี้จะมีปริมาณแอลกอฮอล์เท่ากับฮอนมิริน แต่ก็ถือว่าเป็นเครื่องปรุงรสที่กลมกล่อมมากเนื่องจากมีส่วนผสมของเกลืออยู่ เมื่อใช้มิรินฮักโกโชมิเรียวแนะนำให้ระมัดระวังการใส่เครื่องปรุงอื่น ๆ เช่น ซีอิ๊วขาว เนื่องจากอาจเค็มมากจนเกินไปค่ะ
Mizkan mirin cookingmirin มิรินปรุงอาหาร

ราคา 79 บาท*
มิรินปรุงรสจากแบรนด์ Mizkan เป็นมิรินที่ผ่านการปรุงด้วยความประณีตโดยใช้วัตถุดิบอย่างดีและมีกลิ่นหอม นอกจากมิรินนี้จะช่วยดับกลิ่นคาวของอาหารได้แล้ว ตัวมิรินยังสามารถช่วยเติมความหวาน ความสวยงามและความหรูหราให้กับจานอาหารของคุณได้ด้วย มิรินตัวนี้สามารถใช้ทำเมนูอาหารได้อย่างหลากหลายเพื่อให้อาหารนั้นมีรสชาติที่ดีที่สุด ถึงแม้มิรินจะออกแบบมาให้เหมาะสำหรับใช้ทำอาหารญี่ปุ่นโดยเฉพาะแต่ยังเหมาะสำหรับอาหารประเภทอื่น ๆ ด้วยเช่นกันรวมถึงอาหารตะวันตกและอาหารจีนด้วย ขอบอกก่อนเลยว่าแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมใช้งานมากที่สุดเพราะทำอาหารได้อย่างหลากหลาย อาหารที่ทำเสร็จจะแวววาวเป็นพิเศษชวนน่ารับประทานอีกด้วยค่ะ
ประเภทของมิริน | อาจิมิริน (Aji Mirin) |
---|---|
ปริมาณ | 1,000 มล. |
ส่วนผสมหลัก | ข้าวเหนียว น้ำเชื่อม น้ำส้มสายชูและสารเพิ่มความเป็นกรด |
ปริมาณแอลกอฮอล์ | น้อยกว่า 1% |
Kikkoman Manjo Aji-Mirin คิคโคแมน มิรินสาเกปรุงอาหาร

ราคา 179 บาท*
Kikkoman Manjo Aji-Mirin มิรินรสชาติเข้มที่ผลิตจากข้าวแบบ 100% มิรินนี้ผ่านการปรุงด้วยกรรมวิธีหมักบ่มแบบพิเศษเฉพาะของทานแบรนด์และมีลักษณะเฉพาะด้วยรสชาติที่เข้มข้นเหมาะสำหรับใช้ปรุงอาหารหลากชนิด เช่น ซอสเทอริยากิและซอส อาหารที่ปรุงด้วยมิรินยี่ห้อนี้จะมีรสชาติที่เข้มข้นและกลมกล่อมเป็นพิเศษ รสชาติหลักของมิรินนี้จะมีรสหวานนำสามารถใช้แทนน้ำตาลได้อย่างสบาย ๆ เลยทีเดียว มิรินนี้มีลักษณะคล้ายกับอาจิมิรินที่ผ่านการปรุงด้วยเกลือแต่ยังมีปริมาณของแอลกอฮอล์อยู่ที่ 8% มิรินนี้มีส่วนผสมของน้ำเชื่อม ข้าว เกลือและแอลกอฮอล์ในปริมาณที่เหมาะสม แต่รสชาติจะมีความเค็มผสมหวานช่วยให้อาหารอูมามิยิ่งขึ้น นอกจากนี้มิรินนี้ยังสามารถใช้เป็นส่วนผสมในการทำให้อาหารดูน่ารับประทานขึ้นด้วยค่ะ
ประเภทของมิริน | ฮักโกโชมิเรียว (Hakko chomiryo) |
---|---|
ปริมาณ | 300 มล. |
ส่วนผสมหลัก | น้ำเชื่อม ข้าว เกลือและแอลกอฮอล์ |
ปริมาณแอลกอฮอล์ | 8% |
ASAN มิรินฮาลาล 1 ลิตร

ราคา 189 บาท*
ASAN มิรินคุณภาพสูงตอบโจทย์คนที่ไม่ทานแอลกอฮอล์แต่อยากปรุงอาหารให้อร่อย ผลิตภัณฑ์คุณภาพนี้เป็นมิรินที่มีตรารับรองฮาลาลซึ่งหมายความว่าผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับคนที่เป็นมุสลิมด้วยนั่นเองค่ะ ผลิตภัณฑ์นี้สามารถใช้ปรุงอาหารได้อย่างหลากหลาย สามารถรังสรรค์อาหารได้หลากหลายเมนูโดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่น เช่น ไข่หวาน ซอสเทอริยากิรวมไปถึงซอสชนิดต่าง ๆ รสชาติของมิรินมีความเข้มข้น หอมและหวานเป็นพิเศษทำให้อาหารทุกเมนูที่คุณทำมีความอร่อยและมีสีสันที่สวยงาม ผลิตภัณฑ์นี้เป็นอาจิมิริน (Aji Mirin) เพราะไม่มีแอลกอฮอล์เลยแต่ยังมีส่วนผสมของเกลือและสารปรุงรสอื่น ๆ อยู่ค่ะ ใครที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นแต่ไม่อยากทานอาหารที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ต้องลองค่ะ รับรองว่าจะไม่ผิดหวังแน่นอน
ประเภทของมิริน | อาจิมิริน (Aji Mirin) |
---|---|
ปริมาณ | 1,000 มล. |
ส่วนผสมหลัก | น้ำเชื่อม ข้าวหมักและเกลือ |
ปริมาณแอลกอฮอล์ | ไม่ระบุ |
Lotte มิรินขาวเกาหลี

ราคา 199 บาท*
Lotte มิรินสำหรับทำอาหารจากเกาหลีเป็นมิรินที่ทำจากข้าวขาวเหมาะสำหรับการทำอาหารทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นอาหารเกาหล อาหารตะวันตกและอาหารญี่ปุ่น มิรินนี้เป็นมิรินที่มีแอลกอฮอล์ 14% ทางแบรนด์ใช้กระบวนการหมักข้าวตามธรรมชาติ ช่วยเพิ่มรสชาติและคุณภาพของอาหารและเพิ่มรสชาติให้อร่อยและกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น นอกจากสามารถใช้ปรุงอาหารได้แล้ว มิรินตัวนี้ยังช่วยหมักเนื้อให้นุ่มขึ้นและช่วยดับกลิ่นคาวของอาหารได้เป็นอย่างดี เมื่อใช้มิรินตัวนี้จะช่วยให้อาหารมีกลิ่นหอมยิ่งขึ้นและทำให้รสชาติของอาหารอร่อยเช่นกัน ใครที่ยังไม่เคยใช้มิรินจากเกาหลีต้องลองค่ะ
ประเภทของมิริน | ฮักโกโชมิเรียว (Hakko chomiryo) |
---|---|
ปริมาณ | 300 มล. |
ส่วนผสมหลัก | ข้าวเหนียว น้ำเชื่อม เมล็ดมอลต์และแอลกอฮอล์ |
ปริมาณแอลกอฮอล์ | 14 % |
Takara Hon Mirin Junryo ทาคาร่าฮอนมิริน

ราคา 325 บาท*
Takara Hon Mirin Junryo มิรินจากแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ยอดนิยมมากซึ่งถือว่าเป็นต้นตำรับของมิรินเลยก็ว่าได้ค่ะเพราะใช้ส่วนผสมของข้าวโคจิเป็นหลัก มิรินประเภทนี้คือ “ฮอนมิริน” ที่มีความเข้มข้นสูงมาก มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่เหมาะสมทำให้เหมาะสำหรับใช้ทำอาหารหลากหลายประเภท เช่น ซอส ซุปและหมักเนื้อสัตว์ จุดเด่นของมิรินตัวนี้ประกอบด้วยกรดอะมิโนมากกว่า 18 ชนิดและสารให้ความหวานมากกว่า 9 ชนิดแต่ถือเป็นส่วนผสมที่สมดุลทำให้มิรินนี้มีรสชาติกลมกล่อมและช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ได้ดีมาก ไม่ว่าจะปรุงอาหารประเภทไหนก็เอาอยู่อย่างแน่นอนค่ะ เราขอแนะนำให้ใช้มิรินตัวนี้หากคุณชอบทำอาหารญี่ปุ่นเป็นประจำค่ะเพราะนอกจากจะทำให้อาหารอร่อยแล้ว ยังสามารถทำให้อาหารดูน่ารับประทานอีกด้วยค่ะ
ประเภทของมิริน | ฮอนมิริน (Hon mirin) |
---|---|
ปริมาณ | 500 มล. |
ส่วนผสมหลัก | ข้าวเหนียว ข้าวโคจิและแอลกอฮอล์ |
ปริมาณแอลกอฮอล์ | 13.5-14.5% |
Aro เอโร่ มิริน

ราคา 498 บาท*
มิรินจากแบรนด์เอโร่เป็นมิรินที่เหล่าแม่บ้านและร้านอาหารชอบใช้กันเพราะเป็นมิรินที่หาซื้อได้ง่ายมาก มีปริมาณเยอะและสามารถใช้งานได้กับการปรุงอาหารทุกประเภท มิรินนี้เป็นมิรินที่ผ่านการปรุงรสแล้วแตกต่างจากมิรินแบบดั้งเดิมเพราะรสชาติจะบางเบากว่าและมีปริมาณแอลกอฮอล์น้อยกว่า มิรินตัวนี้มีปริมาณแอลกอฮอล์ 7% แต่ปริมาณแค่นี้ก็สามารถดับกลิ่นคาวของปลาและอาหารทะเลได้แล้วค่ะ มิรินขวดนี้มีปริมาณ 2,700 มล. สามารถใช้งานได้นานพอสมควรไม่ว่าจะเป็นการใช้งานที่บ้านหรือที่ร้านก็สามารถทำได้อย่างแน่นอนค่ะ ใครที่อยากให้อาหารมีกลิ่นหอมและอร่อยต้องแบรนด์นี้เท่านั้นค่ะ
ประเภทของมิริน | ฮักโกโชมิเรียว (Hakko chomiryo) |
---|---|
ปริมาณ | 2,700 มล. |
ส่วนผสมหลัก | กลูโคส ข้าวเหนียวและแอลกอฮอล์ |
ปริมาณแอลกอฮอล์ | 7% |
ฮาคุซุรุ ฮอนมิริน (Hon Mirin)

ราคา 599 บาท*
ฮอนมิรินจากแบรนด์ฮาคุซุรุสามารถช่วยเพิ่มความแวววาวให้กับอาหารได้เป็นอย่างดีและทำให้รสชาติดีขึ้น มิรินตัวนี้สามารถใช้ได้กับอาหารทุกประเภททั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารตะวันตกและอาหารอื่น ๆ ฮอนมิรินนี้มีรสชาติเข้มข้นมากกลมกล่อมเป็นพิเศษจึงเหมาะสำหรับการใข้ทำซอส ซุปและอาหารญี่ปุ่น ถึงแม้ปริมาณของแอลกอฮอล์จะไม่ได้บอกไว้อย่างชัดเจน แต่ปริมาณแอลกอฮอล์ก็น่าจะอยู่ที่ 10 - 14% อย่างแน่นอนค่ะ ฮอนมิรินนี้เป็นมิรินที่มีคุณภาพมากค่ะ ใช้กระบวนการหมักตามธรรมชาติทำให้รสชาติของมิรินมีความโดดเด่นเป็นอย่างดี มิรินขวดนี้มีปริมาณ 1,800 มล.ค่ะ แต่ราคาอาจจะแอบสูงนิดนึง แต่ด้วยกรรมวิธีการผลิตที่ดีถือว่าคุ้มค่าค่ะ
ประเภทของมิริน | ฮอนมิริน (Hon mirin) |
---|---|
ปริมาณ | 1,800 มล. |
ส่วนผสมหลัก | กลูโคส ข้าวเหนียวและแอลกอฮอล์ |
ปริมาณแอลกอฮอล์ | ไม่ระบุ |
มิรินโมโตะ ขนาด 4 ลิตร

ราคา 670 บาท*
มิรินโมโตะนี้เป็นมิรินที่มาพร้อมแกลลอนขนาดใหญ่พิเศษจำนวน 4 ลิตร เหมาะมากสำหรับใช้ปรุงอาหารในร้านอาหารค่ะ เพราะหนึ่งแกลลอนสามารถใช้งานได้นานมากอีกทั้งยังให้รสชาติที่ดีกับอาหารอีกด้วย ตัวมิรินมีส่วนผสมของกลูโคส ข้าวเหนียวและแอลกอฮอล์ โดยปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 10% เลยทีเดียวถือว่าเป็นปริมาณที่มากพอสามารถกลบกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ ปลาและอาหารทะเลได้ดีมาก ตัวมิรินจะช่วยเพิ่มความหวานและความกลมกล่อมให้กับอาหารได้เป็นอย่างดี ใครที่ชอบทำอาหารญี่ปุ่นแต่เบื่อที่จะซื้อมิรินหลาย ๆ รอบต้องซื้อมิรินยี่ห้อนี้ค่ะ รับรองว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอนเลยทีเดียว
ประเภทของมิริน | ฮอนมิริน (Hon mirin) |
---|---|
ปริมาณ | 4,000 มล. |
ส่วนผสมหลัก | กลูโคส ข้าวเหนียวและแอลกอฮอล์ |
ปริมาณแอลกอฮอล์ | 10% |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
มิริน VS น้ำส้มสายชูจากข้าวญี่ปุ่น เหมือนกันหรือไม่?

มิรินและน้ำส้มสายชูจากข้าวญี่ปุ่นเป็นเครื่องปรุงรสที่มีลักษณะคล้ายคลึง แต่มีความแตกต่างในด้านรสชาติและจุดประสงค์ที่ใช้ มิรินเป็นน้ำส้มสายชูที่มีรสหวานคล้ายกับสาเก ในขณะที่น้ำส้มสายชูจากข้าวญี่ปุ่นเป็นกระบวนการหมักน้ำส้มสายชูจากข้าวอีกแบบหนึ่ง เครื่องปรุงอาหารทั้งสองอย่างนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวช่วยเพิ่มความหวานและอูมามิให้กับอาหาร แม้ว่าส่วนผสมทั้งสองจะมีรสชาติคล้ายคลึงกันแต่ก็ไม่ควรใช้แทนกัน เพราะความแตกต่างที่สำคัญระหว่างส่วนผสมทั้งสองอย่างคือความเป็นกรดค่ะ มิรินมีรสชาติค่อนข้างหวานแต่น้ำส้มสายชูจากข้าวญี่ปุ่นมีรสเปรี้ยว ต่อไปเราจะสรุปความแตกต่างของมิรินและน้ำส้มสายชูจากข้าวญี่ปุ่นค่ะ
ตารางสรุป ความแตกต่างระหว่างมิรินและน้ำส้มสายชูจากข้าวญี่ปุ่น
มิริน (Mirin) | น้ำส้มสายชูจากข้าวญี่ปุ่น | |
ส่วนผสมที่ใช้ทำ | ข้าวเหนียว ข้าวโคจิและแอลกอฮอล์ | ข้าวหมัก น้ำและเกลือ |
ปริมาณแอลกอฮอล์ | มีแอลกอฮอล์ประมาณ 1 – 14% | มีแอลกอฮอล์ต่ำหรืออาจจะไม่มีเลย |
รสชาติ | หวานมาก | เปรี้ยวและขม |
ประเภท |
|
|
เหมาะสำหรับ |
|
|
5 เหตุผล ทำไมต้องใช้มิรินในการปรุงอาหาร ?
- เติมความหวานและกลมกล่อม มิรินสามารถดึงความหวานของอาหารออกมาได้ เพิ่มรสชาติที่อูมามิและความซับซ้อนให้กับอาหารได้ดียิ่งขึ้น ความหวานและรสชาติที่เข้มข้นนี้มาจากกระบวนการหมักของมิริน ซึ่งรสชาติของมันจะมีเอกลักษณ์มาก น้ำตาลไม่สามารถให้รสชาตินี้กับอาหารได้
- เพิ่มความสวยงามให้กับอาหาร มิรินช่วยเพิ่มความเงางามและความสวยงามให้กับอาหาร ซึ่งความสวยงามนี้เป็นผลมาจากน้ำตาลที่มีอยู่ในมิรินทำให้อาหารมีรูปลักษณ์ที่อร่อยและน่ารับประทานมากขึ้น ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของอาหารญี่ปุ่น
- ป้องกันไม่ให้อาหารยุบตัว เมื่อใช้มิรินในการปรุงเนื้อสัตว์และปลาจะช่วยป้องกันไม่ให้เส้นใยกล้ามเนื้อยุบตัวเนื่องจากแอลกอฮอล์และน้ำตาลที่มีอยู่ในนั้นจะช่วยประคับประคองอาหารไม่ให้เละนั่นเองค่ะ เมื่อนำมาใช้ในการปรุงผักจะช่วยป้องกันไม่ให้เส้นใยหลุดออกจากผักซึ่งช่วยให้คงรูปร่างของผักไว้ได้
- ช่วยดับกลิ่นคาว มิรินจะช่วยดับกลิ่นคาวของปลา อาหารทะเลและเนื้อสัตว์ได้ดีมาก เพราะเมื่อแอลกอฮอล์สัมผัสถูกความร้อนจะระเหยออกมาและช่วยดับกลิ่นได้ค่ะ
- แทรกซึมรสชาติเข้าไปในอาหาร แอลกอฮอล์ในมิรินช่วยให้เครื่องปรุงรสอื่น ๆ ซึมเข้าไปในส่วนผสมเพื่อเพิ่มรสชาติที่อร่อยให้กับอาหารได้นั่นเองค่ะ ใครที่ชอบทำอาหารญี่ปุ่นมิรินเป็นส่วนผสมที่คุณต้องมีค่ะ
บทสรุป
มิรินเป็นเครื่องปรุงรสที่ขาดไม่ได้หากคุณต้องการทำอาหารญี่ปุ่น แน่นอนว่าจุดเด่นของมิรินอยู่ที่ความหวานกลมกล่อมซึ่งแตกต่างจากน้ำตาลเป็นอย่างมาก เพราะมิรินให้รสชาติเข้มข้นและเพิ่มความอูมามิในอาหาร มิรินเป็นส่วนผสมหมักดองที่ทำหน้าที่เป็นสารให้ความหวานในอาหารญี่ปุ่นหลายชนิด แม้ว่ามิรินมักถูกเรียกและเข้าใจผิดว่าเป็นน้ำส้มสายชูจากข้าวอยู่บ่อย ๆ แต่แท้จริงแล้วมิรินนั้นแตกต่างจากสาเกและน้ำส้มสายชูข้าวอื่น ๆ เป็นอย่างมาก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ามิรินแบบดั้งเดิมนั้นทำมาจากข้าวเหนียว ข้าวโคจิและแอลกอฮอล์ ส่วนผสมเหล่านี้จะถูกหมักเป็นเวลา 6 – 12 เดือนกว่าจะกลายเป็นมิริน มิรินมีรสชาติหวานมากแต่ก็มีปริมาณแอลกอฮอล์ประมาณ 14% เช่นกัน แต่แอลกอฮอล์นี้ไม่เป็นอันตรายเราสามารถจัดการออกได้ระหว่างกระบวนการทำอาหาร
หากคุณไม่มีมิรินหรือไม่อยากใช้เพราะมีแอลกอฮอล์อยู่ คุณมีทางเลือก 2 – 3 ทางในการใช้สารทดแทนได้ ถ้าคุณมีเหล้าสาเกอยู่แล้วในบ้านคุณสามารถใช้สาเกแทนมิรินได้เช่นกัน แต่โปรดทราบไว้ว่าสาเกมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงกว่า ตัวเลือกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่น ๆ ที่ใช้ได้ได้แก่ เชอร์รี่หรือเวอร์มุต โดยการใช้วัตถุดิบทดแทนทั้งหมดนี้ คุณจะต้องเติมน้ำตาลประมาณ 1/2 ช้อนชาต่อแอลกอฮอล์ 1 ช้อนโต๊ะ เพื่อให้ได้รสชาติที่ดียิ่งขึ้นค่ะ
นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้สารทดแทนอีกอย่างหนึ่งคือน้ำตาลและน้ำได้ด้วย แต่แนะนำให้ใช้น้ำตาล 1 ช้อนชาต่อน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ หากต้องการปรุงรสเพิ่มให้เติมน้ำส้มสายชูข้าวลงในส่วนผสม แม้ว่าการผสมเหล่านี้ไม่ได้ทำให้อาหารมีรสชาติซับซ้อนและอูมามิเหมือนกับมิรินแต่ก็เป็นวิธีที่สะดวกมาก
References :