ปัจจุบันหลายๆ คนหันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพกันมากขึ้นนั่นเป็นเพราะว่าสุขภาพของเราไม่สามารถดีขึ้นได้ภายในวันเดียว เราจำเป็นต้องใส่ใจสุขภาพเป็นประจำทุกวันเพื่อให้ร่างกายและจิตใจดีขึ้นตามลำดับ แน่นอนว่าในแต่ละวันคนเราต้องการสารอาหารและวิตามินมากมายเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน แต่เราเชื่อเหลือเกินว่าในแต่ละวันทุกคนต้องได้รับสารอาหารไม่เพียงพออย่างแน่นอน ดังนั้นการทานอาหารเสริมจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนไม่รู้ก็คือนอกจากผู้ใหญ่จะต้องทานอาหารเสริมแล้ว เด็กๆ ก็ต้องทานเช่นเดียวกันค่ะ

ตามหลักการแล้วในแต่ละวันเด็กๆ จะต้องรับประทานอาหารที่สมดุล ในแต่ละมื้ออาหารจะต้องมีผักและผลไม้สดที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไปค่ะ เพราะเด็กๆ จะเลือกกิน (อ่านเพิ่มเติม เมนูอาหารสำหรับเด็กกินยาก) ดังนั้นการให้เด็กๆ ทาน “อาหารเสริมวิตามินรวม” ที่ออกแบบมาสำหรับเด็กอาจช่วยเติมเต็มช่องว่างทางโภชนาการเหล่านี้ได้ หากตอนนี้คุณพร้อมแล้วก็ไปเลือกซื้ออาหารเสริมสำหรับเด็กกันได้เลยค่ะ
ทำไมถึงควรซื้ออาหารวิตามินรวมสำหรับเด็ก?
|
อาหารที่อุดมด้วยสารอาหารจะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางร่างกายและจิตใจของเด็ก อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าอาหารทั้งหมดจะให้สารอาหารและแร่ธาตุทั้งหมดที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดีของเด็ก เพราะอาหารที่มีไขมัน น้ำตาลและโซเดียมในปริมาณมากอาจส่งผลให้เด็กขาดสารอาหารได้ แน่นอนว่าหากเด็กๆ ไม่ได้ทานอาหารที่สมดุลจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ เพราะการได้รับสารอาหารในปริมาณที่จำกัดอาจทำให้เด็กไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานและความเป็นอยู่ที่ดีของร่างกาย อีกทั้งยังมีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพในระยะยาวเช่นกัน ดังนั้นวิตามินรวมสำหรับเด็กจึงมีความจำเป็นกับเด็กเพื่อเติมเต็มช่องว่างทางโภชนาการเหล่านี้ และเด็กๆ จะต้องได้รับวิตามินรวมเป็นประจำเพื่อให้มีพัฒนาการและการเจริญเติบโตที่ดีอย่างสม่ำเสมอ |
อาหารเสริมวิตามินรวมเหมาะสำหรับเด็กประเภทไหน?(1-5)
- เด็กที่เลือกทานอาหารและไม่ทานอาหารให้สมดุลในแต่ละวัน
- เด็กที่ชอบกินจุกจิกและไม่ได้รับแคลอรีเพียงพอต่อวัน
- เด็กที่มีอาการป่วยในระยะยาว เช่น โรคหอบหืดหรือปัญหาทางเดินอาหารที่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเด็กๆ ใช้ยา (หากบุตรหลานของท่านกำลังรับประทานยา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานอาหารเสริม)
- เด็กที่มักจะชอบทานอาหารจานด่วน อาหารสะดวกซื้อและอาหารแปรรูป
- เด็กที่รับประทานอาหารมังสวิรัติและเด็กที่รับประทานนมไม่ได้
ดังนั้นหากคุณรู้สึกว่าลูกของคุณเข้าข่ายประเภทนี้ คุณควรให้เด็กๆ ทานวิตามินรวมค่ะ ซึ่งการทานวิตามินรวมสำหรับเด็กควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนบรรจุผลิตภัณฑ์หรือคำแนะนำของแพทย์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกของคุณได้ทานอาหารเสริมไม่เกินจำนวนที่แนะนำและอย่าลืมสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรหากคุณมีข้อกังวลใดๆ โปรดจำไว้ว่าการทานอาหารเสริมที่มากเกินไปจะไม่มีประโยชน์และอาจส่งผลต่อสุขภาพของเด็กด้วย
เราใช้เกณฑ์ในการเลือกสินค้าโดยพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ รวมไปถึงยอดขายและรีวิวของผู้ใช้บริการในเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ ก่อนซื้อแนะนำในอ่านฉลากส่วนประกอบต่าง ๆ รวมไปถึงปรีกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือเภสัชกร
* เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน *
วิตามินรวมสำหรับเด็ก ยี่ห้อไหนดี?
![]() Nature's Way Kids Vita Gummies Multivitamin + Vegies อาหารเสริมวิตามินรวมสำหรับเด็ก | ![]() Blackmores Superkids Multi Chewables อาหารเสริมวิตามินรวมสำหรับเด็ก | ![]() Centrum Kids อาหารเสริมวิตามินรวมสำหรับเด็ก | ![]() L'il Critters Gummy Vites Complete Multivitamin อาหารเสริมวิตามินรวมสำหรับเด็ก |
฿287.00* | ฿369.00* | ฿390.00* | ฿890.00* |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เคล็ดลับในการเลือกซื้ออาหารเสริมวิตามินรวมสำหรับเด็ก
1. รูปแบบของอาหารเสริม (1-5)
กัมมี่หรือเม็ดเคี้ยว
อาหารเสริมวิตามินรวมแบบเคี้ยวสำหรับเด็กส่วนใหญ่เป็นรสชาติผลไม้ โดยอาจจะมาจากรสชาติของมะนาว ราสเบอร์รี เชอร์รีและส้ม ยิ่งไปกว่านั้นกัมมี่หรือเม็ดเคี้ยวยังมีสีและรูปร่างที่แตกต่างกันไปคล้ายกับลูกอมเพื่อกระตุ้นให้เด็กๆ หยิบขึ้นมาทาน อีกทั้งกัมมี่หรือเม็ดเคี้ยวส่วนใหญ่ยังมีเนื้อสัมผัสที่อ่อนนุ่มแบบกัมมี่แบร์ที่ทำให้ทานได้ง่ายและสนุกยิ่งขึ้น

เม็ดหรือแคปซูล
แคปซูลหรือยาเม็ดเป็นอาหารเสริมที่ต้องกลืน ห้ามเคี้ยวหรือบดเพื่อให้อาหารเสริมสามารถทำงานได้ตามปกติ แน่นอนว่าอาหารเสริมแบบนี้อาจจะทำให้เด็กเล็ก ๆ อาจรู้สึกลำบากเมื่อทาน ดังนั้นอาหารเสริมแบบเม็ดและแคปซูลจึงเหมาะสำหรับเด็กโตมากกว่าค่ะ เพราะเด็กในวัยนี้สามารถกลืนยาเองได้แล้ว

น้ำเชื่อมหรือวิตามินรวมแบบน้ำ
ขอบอกเลยว่าร่างกายของคนเราจะดูดซึมวิตามินรวมชนิดน้ำได้เร็วและดีที่สุด อีกทั้งน้ำเชื่อมหรือวิตามินรวมแบบน้ำนังย่อยได้ง่ายกว่าของแข็งที่เคี้ยวได้ ยิ่งไปกว่านั้นอาหารเสริมในรูปแบบของเหลวยังประกอบด้วยสารอาหารบริสุทธิ์เพราะไม่มีสารเติมแต่งหรือปลอกหุ้มที่ด้านนอก อย่างไรก็ตามน้ำเชื่อมหรือวิตามินรวมแบบน้ำไม่เหมือนกับอาหารเสริมอื่นๆ ตรงที่ต้องเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา
2. ตรวจสอบสารอาหารและวิตามินที่มี
- วิตามิน A, C และ E วิตามินเอมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยปกป้องเซลล์ที่แข็งแรง เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันเพื่อปกป้องร่างกายจากการติดเชื้อและโรคต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยรักษาสายตาและช่วยให้บางส่วนของผิวหนังแข็งแรงด้วย ในทางกลับกันวิตามินซีหรือที่เรียกกันว่ากรดแอสคอร์บิกจะช่วยให้เซลล์ในร่างกายแข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยสมานแผลได้ดีและมีความสำคัญต่อสุขภาพผิวเพราะช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อในทุกส่วนของร่างกายด้วย ส่วนวิตามินอีสามารถช่วยให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังสามารถทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอกระบวนการทำลายเซลล์ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงเพื่อต่อสู้กับแบคทีเรียและไวรัสได้เช่นกัน

- วิตามินบีคอมเพล็กซ์ วิตามินบีคอมเพล็กซ์ ได้แก่ วิตามินบี 1, บี 2, บี 3, บี 5, บี 6, บี 7, บี 9 และบี 12 วิตามินบีแต่ละชนิดมีบทบาทสำคัญต่อร่างกาย วิตามินบีจะส่งผลต่อการสนับสนุนระดับพลังงาน การทำงานของสมองและละเมแทบอลิซึมของเซลล์ทำให้แน่ใจว่าส่วนต่างๆ ของร่างกายทำงานได้ดี
- วิตามินดีและวิตามินเค วิตามินดีช่วยในการดูดซึมแคลเซียมในร่างกายเพื่อสุขภาพกระดูกและกล้ามเนื้อที่แข็งแรง แน่นอนว่าแสงแดดยามเช้าเป็นแหล่งวิตามินดีสำหรับผิว แต่การทานวิตามินดีเสริมจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ไม่สามารถออกไปนอกบ้านได้บ่อยๆ ในทางกลับกันวิตามินเคก็มีความสำคัญเช่นกัน เนื่องจากวิตามินเคจะช่วยสร้างโปรตีนสำหรับกระดูกที่แข็งแรง ปกติแล้ววิตามินเคจะมีอยู่ในผักที่มีใบ แต่สำหรับเด็กที่ไม่ชอบกินผักเหล่านี้ วิตามินรวมที่มีวิตามินเคสามารถเป็นแหล่งสารอาหารเพิ่มเติมได้

- แร่ธาตุ วิตามินรวมสำหรับเด็กบางแบรนด์ยังมีแร่ธาตุต่างๆ หลากหลายชนิดที่ดีต่อร่างกาย ซึ่งแคลเซียมเป็นแร่ธาตุทั่วไปที่คุณสามารถพบได้ เมื่อเด็กโตขึ้นแคลเซียมมีส่วนช่วยในการพัฒนากระดูก นอกจากนี้ยังควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อ เมื่อเส้นประสาทไปกระตุ้นเส้นประสาทอีกเส้นหนึ่งร่างกายจะปล่อยแคลเซียมออกมา นอกจากนี้ยังช่วยรักษาฟันของลูกน้อยให้แข็งแรงและมีสุขภาพดีอีกด้วย ส่วนไอโอดีนก็เป็นแร่ธาตุที่คุณสามารถพบได้ในวิตามินรวมสำหรับเด็กเช่นกัน ไอโอดีนจะช่วยควบคุมเมแทบอลิซึมและการทำงานของร่างกายอื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถต่อสู้กับแบคทีเรียได้ดีซึ่งสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อในบาดแผลได้ นอกจากไอโอดีนแล้วธาตุเหล็กยังเป็นส่วนประกอบทั่วไปของวิตามินรวมอีกด้วย ปริมาณธาตุเหล็กที่เหมาะสมสามารถส่งเสริมเลือดให้แข็งแรงและป้องกันการขาดธาตุเหล็กในเด็ก
3. ซื้อจากแบรนด์ที่เชื่อถือได้
โปรดจำไว้ว่าการตรวจสอบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีความสำคัญพอๆ กับการตรวจสอบอาหารและเครื่องดื่ม ในการเลือกซื้ออาหารเสริมให้ซื้อจากแบรนด์ดังเพราะแบรนด์ดังจะมีกระบวนการผลิต มาตรการและการควบคุมที่เข้มงวด ซึ่งนำไปสู่การผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคุณภาพสูง ดังนั้นเมื่อซื้อจากแบรนด์ที่เชื่อถือได้คุณจึงมั่นใจได้ว่าวิตามินรวมนั้นปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แต่เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของบุตรหลานมากขึ้น ควรปรึกษากุมารแพทย์ก่อนซื้อ เพราะแพทย์จะสามารถระบุได้ว่าลูกของคุณขาดวิตามินชนิดใด อีกทั้งแพทย์ยังสามารถแนะนำเกี่ยวกับปริมาณที่เหมาะสมตามอายุของเด็กและความต้องการส่วนบุคคลด้วย
ทำไมวิตามินรวมจึงสำคัญสำหรับเด็ก? (1-5)
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กจะต้องใช้วิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด เนื่องจากวิตามินรวมมีส่วนช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและลดนิสัยการกินที่ไม่ถูกต้อง ขณะเดียวกันก็ลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง วิตามินรวมสำหรับเด็กเป็นอาหารเสริมที่มีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นทั้งหมดในปริมาณต่างๆ ที่เหมาะสม อาหารเสริมเหล่านี้จะมาในรูปแบบต่างๆ เช่น ยาเม็ด แคปซูล ของเหลว ผงหรือแม้แต่รูปแบบกัมมี่
ขอบอกเลยนะคะว่าวิตามินและแร่ธาตุที่มีอยู่มากมายในอาหาร เช่น นม, ผลิตภัณฑ์จากนม, ข้าวสาลี, ข้าวโอ๊ต, ปลา, อาหารทะเล, สัตว์ปีก, เนื้อสัตว์, ไข่,นม, โยเกิร์ต, ผักใบเขียวล้วนเป็นแหล่งวิตามินรวมและแร่ธาตุที่ดีที่ควรรวมไว้ในอาหารของเด็กแต่เด็กๆ มักจะไม่ชอบทาน อีกทั้งแหล่งอาหารเหล่านี้อาจเป็นสารก่อภูมิแพ้ให้กับเด็กจำนวนมากได้เช่นกัน เมื่อพวกเขาไม่สามารถรับวิตามินและแร่ธาตุจากแหล่งอาหารได้ การทานวิตามินรวมสำหรับเด็กอาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดรองลงมาเพื่อตอบสนองความต้องการทางโภชนาการของเด็กค่ะ
References :
- Assessing Vitamins, Minerals and Supplements Marketed to Children in Canada
- Appropriate and inappropriate vitamin supplementation in children
- Should I give multivitamins to my preschooler?
- Effect of pediatric multivitamin syrups and effervescent tablets on the surface microhardness and roughness of restorative materials: An in vitro study
- Vitamins, minerals improve symptoms for children with ADHD