ในอดีตการฟังเพลงอาจจะต้องมีอุปกรณ์ในการฟัง อย่างเช่น เครื่องเล่นแผ่นเสียง ที่จะต้องมีทั้งเครื่องเล่นและแผ่น เพื่อที่จะสามารถฟังเพลงได้ หรือในยุคถัดมาก็อาจจะเป็นในรูปแบบของ CD อัลบั้มที่มีขนาดเล็กลงมา แต่ถ้าพูดถึงเทรนด์ในปัจจุบันแล้ว เพลงในทุกวันนี้เหมือนลอยอยู่บนอากาศครับ เพราะคุณสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันลงใน มือถือ หรือ สมาร์ทโฟน เพื่อฟังเพลงได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็น Samsung, Huawei หรือ Iphone
โดย ‘แอปพลิเคชันฟังเพลง’ ในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายเจ้าให้เราได้เลือกใช้ครับ แต่หลัก ๆ ที่คนไทยนิยมและซื้อแพ็คเกจมาใช้ฟังเพลงกันก็จะมีอยู่ประมาณ 3 อย่าง นั่นคือ Spotify, Apple Music และ Youtube Music แต่หลายคนก็อาจจะตั้งคำถามว่าแล้วแอปพลิเคชันไหนดีกว่ากัน ทั้งนี้แต่ละแอปฯ มีข้อดีหรือข้อเสียอะไรบ้าง วันนี้ผมได้รวบรวมข้อมูลดี ๆ มาฝากกันครับ
แอปฟังเพลง Spotify

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Spotify ผ่าน Android และ iOs
ยักษ์ใหญ่ของวงการ Steaming เพลงในตอนนี้คงจะหนีไม่พ้น ‘Spotify’ อย่างแน่นอน เพราะแอปพลิเคชันนี้ได้ถูกดาวน์โหลดและใช้งานในมือถือของแฟนเพลงทั่วโลก เนื่องจากภายในแอปฯ มีเพลงให้เลือกกว่า 40 ล้านเพลง ซึ่งเรียกได้ว่าฟังกันไม่หวาดไม่ไหว นอกจากนี้มันยังปล่อยออกมาให้ใช้ได้ทั้งมือถือระบบ IOS และ Android ทั้งยังต่อกับ Smart TV ได้อีกด้วยครับ ดังนั้นการจ่ายเพียงครั้งเดียวแต่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลายชนิดก็ถือว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมาก
คุณภาพเสียงของ Spotify
- คุณภาพต่ำ (24 kbit/s)
- คุณภาพปกติ (96 kbit/s)
- คุณภาพสูง (160 kbit/s)
- คุณภาพสูงมาก (320 kbit/s) *คุณภาพเท่ากับไฟล์ MP3*
ค่าบริการ : 129 บาท / เดือน (แบบรายบุคคล) และ 199 บาท / เดือน (แบบครอบครัว)
ข้อดีของของ Spotify
- เป็นแพลตฟอร์มที่มีคลังเพลงมากถึง 40 ล้านเพลง
- แอปพลิเคชันใช้งานง่ายและไม่ยุ่งยาก
- ดาวน์โหลดเพลงเก็บไว้ในเพลย์ลิสต์ ทั้งนี้เมื่อดาวน์โหลดแล้วไม่จำเป็นที่จะต้องใช้อินเตอร์เน็ตในการฟังเพลง
- สร้างเพลย์ลิสต์ได้และแชร์ให้คนอื่นฟังได้
แอปฟังเพลง Apple Music

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Apple Music ผ่าน Android และ iOs
ระบบของ Apple Music ถือเป็นแอปสตรีมมิ่งฟังเพลงซึ่งเป็นระบบอัจฉริยะ เพราะ Apple Music จะมีระบบที่ตรวจสอบว่าเราชอบฟังเพลงแนวไหนหรือศิลปินคนไหน หลังจากนั้นระบบก็จะคัดสรรค์เพลงแนะนำขึ้นมาให้ตรงกับความชอบของเรา อีกทั้งด้วยความที่แอปฯ มีความมินิมอลดูคลีนและใช้งานได้ค่อนข้างง่าย นอกจากนี้เพลงภายในแอปก็มีเยอะไม่แพ้ไปกับทาง Spotify เลยครับ
คุณภาพเสียงของ Apple Music
- คุณภาพปกติ (96 kbit/s)
- คุณภาพสูง (160 kbit/s)
- คุณภาพสูงมาก (320 kbit/s) *คุณภาพเท่ากับไฟล์ MP3*
ค่าบริการ : 129 บาท / เดือน (แบบรายบุคคล) และ 199 บาท / เดือน (แบบครอบครัว)
ข้อดีของ Apple Music
- แอปพลิเคชันใช้ง่าย
- มีเพลงให้เลือกมากกว่า 40 ล้านเพลง
- ระบบปฎิบัติการของแอปพลิเคชันมีประสิทธิภาพ
- สร้างเพลย์ลิสต์และสามารถเล่นเพลงออฟไลน์ได้
- ใช้อินเตอร์เน็ตน้อย
แอปฟังเพลง Youtube Music

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Youtube Music ผ่าน Android และ iOs
Youtube อาจเป็นที่รู้จักเกี่ยวกับการรับชมวิดีโอใช่ไหมครับ แต่ตอนนี้ทางยูทูปได้สร้างแพลตฟอร์มฟังเพลงขึ้นมาใหม่ ซึ่งต้องบอกว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมาก เพราะระบบปฎิบัติการและฟังก์ชันของแอปฯ ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นในการของการค้นหาเพลงที่ง่ายหรือจะเป็นการสร้างเพลย์ลิสต์ รวมไปถึงสามารถฟังเพลงออฟไลน์ได้ด้วย ที่สำคัญที่สุดเลยคือการนำเอาจุดแข็งของตัวเองในเรื่องของวิดีโอมาใช้ เพราะหากใครที่ได้ใช้แอปฯ นี้จะสามารถเลือกฟังเพลงหรือ MV ของเพลงได้อีกด้วยครับ ซึ่งนี่คือจุดแข็งสำคัญของแพลตฟอร์มนี้เลยก็ว่าได้
คุณภาพเสียงของ Youtube Music
- คุณภาพต่ำ (48 Kbps AAC)
- คุณภาพปกติ (128 Kbps AAC)
- คุณภาพสูง (256 Kbps AAC)
ค่าบริการ : 129 บาท / เดือน
ข้อดีของ Youtube Music
- ค้นหาเพลงได้ง่าย
- สามารถเลือกชม MV ได้
- มี Live Recording ให้เลือกฟังเยอะ (เสียงสดของนักร้องโดยไม่ผ่านการ Auto Tune)
- ดาวน์โหลดและฟังเพลงออฟไลน์ได้
- สร้างเพลย์ลิสต์ได้
ข้อเสียของ Youtube Music
- หากเทียบกับแอปฯ ดังอื่น ๆ คุณภาพเสียงอาจจะไม่ดีเท่า
แอปฟังเพลง Joox Music

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Joox Music ผ่าน Android และ iOs
Joox เป็นแอปพลิเคชันฟังเพลงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย เพราะเพลงไทยไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ล้วนแล้วถูกบรรจุอยู่ในแอปฯ นี้เกือบทั้งหมด นอกจากนี้ภายในแพลตฟอร์มยังมีเพลงต่างชาติรวบรวมไว้ด้วย ดังนั้นในเรื่องของเพลงถือว่าครอบคลุมไว้เกือบทุกแนวเพลงและทุกสัญชาติ รวมไปถึงระบบอัจฉริยะของ AI ที่คอยประมวลข้อมูลเพลงที่คุณฟัง จากนั้นก็แนะนำเพลงน่าสนใจที่น่าจะเหมาะกับสไตล์ดนตรีที่คุณชอบได้ เปรียบเสมือนกับการรู้ใจคนฟัง
คุณภาพเสียงของ Joox
- คุณภาพต่ำ (0.5 – 1M / เพลง)
- คุณภาพพื้นฐาน (1 – 2M / เพลง)
- คุณภาพปานกลาง (3 – 4M / เพลง)
- คุณภาพสูง (6 – 10M / เพลง)
- คุณภาพแบบสูงมาก *ไม่บีบอัดไฟล์* (900 – 1411 Kbps)
ค่าบริการ : 129 บาท / เดือน
ข้อดีของ Joox
- คุณภาพเสียงดีที่สุดเมื่อเทียบกับแอปพลิเคชันอื่น
- เหมาะสำหรับคนฟังเพลงไทยมาก เพราะมีคลังเพลงไทยเยอะ
- แอปพลิเคชั่นใช้งานง่าย
- ฟีเจอร์ภายในแอปพลิเคชันดี
- สร้างและแชร์เพลย์ลิสต์ได้
ข้อเสียของ Joox
- เพลงต่างชาติอาจไม่ครอบคลุมหรือเยอะเท่าแอปพลิเคชั่นอื่น
สรุปตารางเปรียบเทียบแอปฟังเพลงยอดนิยม
