การแต่งหน้าเป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะมันสามารถปรับปรุงผิวหน้าของเราให้ดูสวยงามไร้ที่ติได้ แต่ในการแต่งหน้าแต่ละครั้งเราจำเป็นต้องมีอุปกรณ์มากมายค่ะ สำหรับผู้เขียนเองไอเทมแต่งหน้าที่จำเป็นที่สุดคือรองพื้น, คอนซีลเลอร์, แป้งฝุ่นและลิปสติกค่ะเพราะเป็นอุปกรณ์พื้นฐานค่ะ แต่หลังจากที่เราแต่งหน้าแล้วในระหว่างวันเราจำเป็นต้องทัชอัพเพิ่มด้วยเพราะอากาศบ้านเรามันร้อนเมคอัพอาจจะไหลเยิ้มมาก แต่ถ้าคุณไม่อยากทัชอัพก็มีวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยได้ค่ะ ซึ่งวิธีนั้นคือการใช้ “ไพรเมอร์” นั่นเอง
ไพรเมอร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าค่ะ โดยไพรเมอร์จะช่วยเบลอรูขุมขนและริ้วรอยทำให้ผิวนุ่มขึ้นและซ่อนความไม่สมบูรณ์ของผิวได้ดีมาก แน่นอนว่าการใช้ไพรเมอร์เป็นสิ่งสำคัญค่ะเพราะมันจะทำให้การแต่งหน้าติดทนนานขึ้นด้วย

ผู้เขียนเองก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบใช้ไพรเมอร์ก่อนแต่งหน้าค่ะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้แต่งหน้าเลยไพรเมอร์ที่มีอยู่ก็หมดอายุแล้ว หากได้ซื้อใหม่มาแล้วผู้เขียนจะมาอัปเดตกันอีกรอบนะคะ ตอนนี้ก็ไปดูกันดีกว่าค่ะว่าไพรเมอร์ตัวไหนจะเหมาะกับคุณมากที่สุด
แต่ถ้าใครที่มีผิวแห้งก็สามารถไปดูสินค้าได้ในบทความไพรเมอร์สำหรับผิวแห้ง ส่วนสำหรับผิวมันสามารถไปดูได้ในบทความไพรเมอร์สำหรับผิวมันเพราะเราได้แนะนำไว้แล้วค่ะ
ไพรเมอร์ ยี่ห้อไหนดี เนื้อบางเบา ทาได้ง่าย เบลอรูขุมขนได้ดี?
- ไพรเมอร์สุดฮิตเกลี่ยง่าย ควบคุมความมันได้นาน 16 ชม.: Maybelline Fit Me Matte + Poreless Primer ไพรเมอร์
- ไพรเมอร์ราคาประหยัดใช้งานได้ง่าย เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว : Cute Press Evory Retouch Pore Minimizing & Oil Control Primer ไพรเมอร์
- ไพรเมอร์ที่ออกแบบมาเพื่อผิวมัน ล็อกเมคอัพให้ติดทนนาน: Benefit The Pore Fessional Pro Balm to Minimize ไพรเมอร์
- ไพรเมอร์สูตรกันน้ำ สามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย : Urban Decay All Nighter Face Primer ไพรเมอร์
- ไพรเมอร์เกาหลีช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสและช่วยเบลอรูขุมขน : Etude Primer Face Blur ไพรเมอร์
![]() Maybelline Fit Me Matte + Poreless Primer ไพรเมอร์ | ![]() Cute Press Evory Retouch Pore Minimizing & Oil Control Primer ไพรเมอร์ | ![]() Urban Decay All Nighter Face Primer ไพรเมอร์ | ![]() Etude Primer Face Blur ไพรเมอร์ | ![]() Benefit The Pore Fessional Pro Balm to Minimize ไพรเมอร์ |
ไพรเมอร์คืออะไร จำเป็นหรือไม่ ?
ไพรเมอร์คือผลิตภัณฑ์ที่มีการผสมผสานของมอยส์เจอไรเซอร์และรองพื้นหรือบีบีครีมค่ะ โดยไพรเมอร์จะมีลักษณะเป็นเนื้อเจลใส มีหลากหลายสีให้เลือกตามโทนของสีผิว สำหรับการใช้งานไพรเมอร์มีไว้ใช้ก่อนลงรองพื้น ซีซีครีมหรือบีบีครีม หลังจากใช้ทำแล้วจะทำให้เราลงรองพื้นได้ง่ายมากขึ้น อีกหน้าที่นึงคือไพรเมอร์จะทำหน้าที่เตรียมผิวก่อนแต่งหน้าค่ะ โดยจะทำหน้าที่กระชับรูขุมขน ทำให้รูขุมขนดูเล็กลง (ชั่วคราว) ทำผิวดูกระชับขึ้นทำให้ผิวเรียบเนียนค่ะ อีกทั้งไพรเมอร์ยังช่วยทำให้เครื่องสำอางติดทนนานยิ่งขึ้นด้วยค่ะ

ไพรเมอร์ส่วนใหญ่มีเนื้อบางเบาและเกลี่ยง่าย ในการใช้งานเราจะเสียเวลาในการลงไพรเมอร์แค่ไม่กี่วินาที แต่การที่เราใช้ไพรเมอร์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแต่งหน้าได้ดีมาก หากใช้ให้ถูกสูตรไพรเมอร์จะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวมันเยิ้มได้ดีเลยค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องสำอางกระจุกตัวตามร่องผิวและรูขุมขน แถมยังช่วยยืดอายุของรองพื้นให้ผิวดูสวยเรียบเนียนนานขึ้นด้วย ดังนั้นไพรเมอร์จึงเป็นไอเทมที่เราต้องมีค่ะ
เคล็ดลับในการทาไพรเมอร์
การใช้ไพรเมอร์นั้นง่ายมากค่ะแต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ เราอยากแนะนำให้ทุกคนทำตามขั้นตอนที่เราแนะนำอย่างระมัดระวัง แต่ข้อควรจำคือเราจะต้องทำความสะอาดผิวให้ดีก่อนลงไพรเมอร์ เพราะหากผิวสะอาดจะทำให้ไพรเมอร์ยึดติดกับผิวได้ดีและทำให้เครื่องสำอางติดทนนาน
- เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดผิวหน้า หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าจนสะอาดแล้วก็สามารถใช้สกินแคร์อย่างเซรั่ม ครีมหรือโลชั่นเพื่อให้ความชุ่มชื้นก่อนทาไพรเมอร์ค่ะ
- เมื่อผิวชุ่มชื้นแล้วสามารถลงไพรเมอร์ได้เลยค่ะ ในการทาไพรเมอร์แนะนำให้ทาในปริมาณเล็กน้อยก็พอค่ะ เพราะการใช้ไพรเมอร์ในปริมาณที่มากเกินไปอาจจะทำให้เกิดความมันเยิ้มได้
- ในการเกลี่ยไพรเมอร์สามารถใช้มือหรือจะใช้ฟองน้ำแต่งหน้าก็ได้ค่ะ หากไม่มีฟองน้ำแนะนำให้ใช้แปรงเกลี่ยรองพื้นเพื่อให้เกลี่ยไพรเมอร์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

- ทาไพรเมอร์เป็นชั้น ๆ บาง ๆ ให้ทั่วใบหน้าและควรทาไพรเมอร์จากบนลงล่างเพื่อให้สอดคล้องกับรูขุมขนของผิว
- เกลี่ยไพรเมอร์ให้หมดอย่าให้มีคราบเหลืออยู่ หากจำเป็นสามารถทาไพรเมอร์เพิ่มในบริเวณที่จำเป็นได้ โดยอาจจะใช้เพื่อปกปิดสิวหรือใช้ตรงผิวที่แห้งเป็นพิเศษก็ได้เหมือนกันค่ะ
Maybelline Fit Me Matte + Poreless Primer ไพรเมอร์

ราคา 199 บาท*
Maybelline Fit Me Matte + Poreless Primer เป็นไพรเมอร์ที่ฮิตมาก ๆ และมีราคาไม่แพงค่ะ โดยราคาจะใกล้เคียงกับ Cute Press Evory Retouch Pore Minimizing & Oil Control Primer เลยค่ะ ส่วนผสมหลักของไพรเมอร์คือมิเนอรัลเคลย์เป็นส่วนผสมที่ทางแบรนด์เคลมมาว่าสามารถอำพรางรูขุมขนและให้ฟินิชลุคแบบแมตต์ค่ะ ถึงแม้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จะดูแมตต์แต่ผลิตภัณฑ์นี้จะไม่ทำให้ผิวดูแห้งอย่างแน่นอน
ยิ่งกว่านั้นไพรเมอร์ของเมย์เบลลีนยังมีเทคโนโลยีควบคุมความมันที่สามารถจัดการกับความมันได้นานถึง 16 ชั่วโมง ด้วยความสามารถเหล่านี้ทำให้ไพรเมอร์จากเมย์เบลลีนเหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการแต่งหน้าให้ติดทนนานตลอดวันค่ะ แต่เพื่อให้การแต่งหน้าดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้นสามารถใช้ร่วมกับ Fit Me 24hr Oil Control Powder Foundation ได้เลยค่ะเพราะประสิทธิภาพจะดีกว่าเดิมมากเลยทีเดียว
Maybelline Fit Me Matte + Poreless Primer เป็นไพรเมอร์อีกหนึ่งแบรนด์ที่มีราคาประหยัดและคุณภาพดีค่ะ เรื่องความแมตต์ของไพรเมอร์ยืนหนึ่งมากค่ะจึงเหมาะกับคนที่มีผิวมัน เนื้อไพรเมอร์เป็นสีขาวใสสามารถทาได้ง่ายและจะไม่เปลี่ยนสีรองพื้นอย่างแน่นอนค่ะ เนื้อของไพรเมอร์เกลี่ยได้ง่ายค่ะแต่ระหว่างวันอาจจะมีดรอปบ้างดังนั้นอย่าลืมทัชอัพนะคะเพื่อให้ผิวสวยอยู่ตลอดค่ะ ส่วนตัวแล้วผู้เขียนค่อนข้างชอบไพรเมอร์จากเมย์เบลลีนเลยค่ะเพราะคุณภาพดีและหาซื้อง่ายค่ะ
ข้อดี
- ประกอบด้วยแร่ธาตุและสารอาหารมากมายเพื่อช่วยควบคุมความมัน
- น้ำหนักเบา เกลี่ยได้ง่ายและซึมเข้าผิวอย่างรวดเร็ว
- ช่วยคุมมันและช่วยให้รองพื้นติดทนนาน 16 ชั่วโมง
ข้อควรพิจารณา
- เซตตัวค่อนข้างเร็ว หากทารองพื้นช้าจะเกลี่ยยาก
ประเภทของไพรเมอร์ | ไพรเมอร์ที่ช่วยทำให้ผิวแมตต์ |
---|---|
ปริมาณ | 30 มล. |
ส่วนผสมที่สำคัญ | เกาลินและกลีเซอรีน |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
Cute Press Evory Retouch Pore Minimizing & Oil Control Primer ไพรเมอร์

ราคา 244 บาท*
Cute Press Evory Retouch Pore Minimizing & Oil Control Primer เป็นไพรเมอร์ที่เราอยากแนะนำค่ะ จากข้อมูลพบว่าไพรเมอร์ตัวนี้จะช่วยเตรียมผิวให้เนียนเรียบก่อนแต่งหน้าได้เป็นอย่างดี ไพรเมอร์ของทางแบรนด์เป็นสูตรปราศจากน้ำมัน เมื่อใช้งานแล้วจะช่วยควบคุมความมัน ช่วยล็อกเมคอัพให้อยู่ทนทั้งวันเหมือนเพิ่งแต่งหน้าเลยค่ะ คุณสมบัติพิเศษอีกหนึ่งอย่างคือไพรเมอร์จะช่วยอำพรางรูขุมขนและเติมร่องริ้วรอยให้ผิวเรียบเนียน
โดยทางแบรนด์ได้เคลมมานะคะว่าไพรเมอร์สามารถทำให้ผิวหน้าเนียนสนิททันทีที่ทา แต่หลังทาควรรอให้ไพรเมอร์เซตตัวประมาณ 2 นาทีนะคะ จากนั้นค่อยลงรองพื้นและแต่งหน้าต่อ ขอบอกเลยว่าไพรเมอร์ตัวนี้ติดทนนานมากและกระจายแสงได้ดีเลยทีเดียวค่ะ แพ็กเกจของไพรเมอร์สวยงามน่าใช้งานมากเลยค่ะ เนื้อไพรเมอร์เป็นสีขาวครีมนะคะแต่ไม่ได้ปรับสีผิวโดยจะปรับแค่ความเรียบเนียนค่ะ ใครที่ชอบไพรเมอร์ราคาประหยัดห้ามพลาดนะคะ
Cute Press Evory Retouch Pore Minimizing & Oil Control Primer เป็นไพรเมอร์ที่สาวไทยชอบใช้ค่ะเพราะมันมีราคาประหยัดและหาซื้อได้ง่ายมากเพราะช็อปคิวท์เพรสมีทั่วประเทศเลยค่ะ ไพรเมอร์ช่วยเบลอผิวได้ดีค่ะหากทาก่อนลงรองพื้นจะทำให้รองพื้นเกลี่ยง่ายขึ้นมากเลยค่ะ ในเรื่องของการคุมมันไพรเมอร์คุมมันได้ดีในระดับหนึ่งเลยค่ะ แต่หลายคนแอบบ่นว่าผิวจะแห้งหลังจากผ่านไปสักพักแล้วค่อยกลับมามันใหม่ แต่ถ้าถามว่าไพรเมอร์เหมาะกับใครผู้เขียนตอบเลยว่าเหมาะสำหรับผิวทุกประเภทเลยค่ะแต่แนะนำให้ทาน้อย ๆ ก็พอค่ะ
ข้อดี
- มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เกลี่ยง่ายและสบายผิวมาก
- เมื่อใช้งานแล้วจะปรับสีผิวในทันทีและทำให้แต่งหน้าง่ายขึ้น
- สามารถล็อกเมคอัพให้ติดทนนานได้ทั้งวัน
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่เป็นสิวเพราะอาจจะอุดตันผิวได้
ประเภทของไพรเมอร์ | ไพรเมอร์ที่ช่วยเบลอรูขุมขน |
---|---|
ปริมาณ | 15 กรัม |
ส่วนผสมที่สำคัญ | วิตามินอี |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
Benefit The Pore Fessional Pro Balm to Minimize ไพรเมอร์

ราคา 854 บาท*
Benefit The Pore Fessional Pro Balm to Minimize ไพรเมอร์สูตรปราศจากน้ำมัน เนื้อสัมผัสมีความบางเบาและเกลี่ยได้ง่ายมาก ตัวเนื้อครีมจะมีสีเหลืองอ่อนและมีกลิ่นหอม โดยไพรเมอร์ตัวนี้จะมีส่วนผสมของซิลิโคนเป็นหลัก ดังนั้นคำแนะนำจากผู้เขียนคือควรใช้เท่าที่จำเป็นและทาลงบนบริเวณที่ต้องการกลบรูขุมขนเท่านั้นค่ะ ส่วนคนแพ้ง่ายไม่ควรใช้นะคะเพราะมีส่วนผสมจากซิลิโคนเยอะมาก ๆ แต่ซิลิโคนสามารถเบลอรูขุมขนได้ดีเหมาะสำหรับคนที่มีรูขุมขนกว้างค่ะ
นอกจากจะช่วยเบลอรูขุมขนแล้วไพรเมอร์ยังส่วนผสมของมีซิลิกาที่สามารถควบคุมความมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอบอกเลยว่าใช้เพียงแค่เม็ดทั่วเขียวก็สามารถครอบคลุมทั่วใบหน้าได้แล้วค่ะ ใครที่อยากให้ใบหน้าเรียบเนียนต้องลองนะคะ ในการใช้งานสามารถทาก่อน หลังหรือจะผสมกับรองพื้นตัวโปรดก็ได้ค่ะ เพราะไพรเมอร์ไม่มีน้ำมันจึงไม่อุดตันผิวและไม่เปลี่ยนสีของรองพื้นด้วย อีกทั้งยังมีอนุพันธ์ของวิตามินอีในส่วนผสมเพื่อปกป้องผิวด้วยค่ะ
Benefit The Pore Fessional Pro Balm to Minimize เป็นไพรเมอร์ที่ประสิทธิภาพมาก ๆ ค่ะ หลังจากใช้งานแล้วไพรเมอร์จะช่วยเบลอรูขุมขนลงอย่างเห็นได้ชัดและทำให้ผิวของฉันนุ่มขึ้น อีกทั้งยังทำให้การทารองพื้นง่ายขึ้นมาก สิ่งที่ทุกคนต้องทำคือต้องทาไพรเมอร์ในบริเวณที่ต้องความเรียบเนียน ไม่จำเป็นต้องทาทั่วใบหน้านะคะเพราะเปลืองมาก ผู้เขียนมองว่าไพรเมอร์คุณภาพดีเลยทีเดียวค่ะประสิทธิภาพในการล็อกเมคอัพดีพอ ๆ กับ Urban Decay All Nighter Face Primer เลยค่ะ
ข้อดี
- ไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยเบลอรูขุมขนและริ้วรอยได้จริง
- เนื้อของไพรเมอร์เนียนและช่วยให้เกลี่ยได้ง่าย
- ช่วยควบคุมความมันได้อย่างล้ำลึกและไม่ทำให้มันเยิ้มระหว่างวัน
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะกับคนที่มีผิวแห้งและคนแพ้ง่าย
ประเภทของไพรเมอร์ | ไพรเมอร์ที่ช่วยเบลอรูขุมขน |
---|---|
ปริมาณ | 22 กรัม |
ส่วนผสมที่สำคัญ | วิตามินอี ซิลิโคนและซิลิกา |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
Urban Decay All Nighter Face Primer ไพรเมอร์

ราคา 329 บาท*
Urban Decay All Nighter Face Primer เป็นไพรเมอร์ที่ได้รับความนิยมมากค่ะ โดยไพรเมอร์ตัวนี้เป็นไพรเมอร์ที่จะช่วยทำให้ผิวแมตต์เหมือนกับ Bobbi Brown Primer Plus Mattifier เลยค่ะ เนื้อของไพรเมอร์มีความบางเบามากค่ะ คุณสมบัติพิเศษของไพรเมอร์คือสามารถกันน้ำได้อย่างดี ลดการเกิดผิวมันด้วยการทำให้หน้าแมตต์ แต่ความแมตต์เป็นความแมตต์แบบกลาง ๆ ไม่ได้แมตต์มากเกินไปเมื่อทาแล้วยังคงให้ความชุ่มชื้นอยู่มากค่ะ
ทางแบรนด์เคลมมาว่าตัวไพรเมอร์สามารถเคลือบผิวเราได้นานถึง 8 ชั่วโมง ตัวไพรเมอร์จะเหมาะกับทุกสภาพผิวเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะแพ้หรือระคายเคืองนะคะเพราะไพรเมอร์ไม่มีแอลกอฮอล์และพาราเบน ผู้ชายก็สามารถใช้ตัวนี้ได้นะคะรับรองว่าจะติดใจค่ะเพราะทำให้การแต่งหน้าง่ายขึ้นมากค่ะ แต่ราคาของไพรเมอร์ค่อนข้างแพงเลยค่ะเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณ แต่โชคดีที่มีไซซ์ทดลองให้เราได้ซื้อ ใครที่ชอบเครื่องสำอางจาก Urban Decay ต้องห้ามพลาดนะคะ
Urban Decay All Nighter Face Primer เป็นไพรเมอร์ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติช่วยควบคุมความมันค่ะ หลายคนที่เคยใช้ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าหลังจากทาแล้วไม่ต้องซับหน้าเลยเวลาลงรองพื้นค่ะ นอกจากการควบคุมความมันแล้วเนื้อสัมผัสก็ดีมากค่ะ ตัวไพรเมอร์เป็นซิลิโคนค่ะเบาสบายผิวมาก ให้ความรู้สึกเหมือนทามอยส์เจอไรเซอร์เลย ไพรเมอร์ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติทำให้เมคอัพติดทนนานหลายชั่วโมง อันที่จริงแล้วไพรเมอร์เหมาะกับทุกสภาพผิวนะคะแต่ผู้เขียนคิดว่ามันกับคนที่มีผิวมันมากที่สุดเพราะเป็นไพรเมอร์แมตต์ค่ะ
ข้อดี
- ช่วยกระชับรูขุมขนเมื่อทาแล้วจะทำให้ผิวมีความเรียบเนียนมากขึ้น
- เนื้อบางเบาทาได้ง่ายมากและไม่จับตัวเป็นก้อน
- ไพรเมอร์ติดทนนานมากและช่วยล็อกเมคอัพได้นานเช่นกัน
ข้อควรพิจารณา
- ควรจะใช้ร่วมกับเซตติ้งสเปรย์ของทางแบรนด์เพราะจะทำให้เมคอัพติดทนนานขึ้นกว่าเดิมมาก
ประเภทของไพรเมอร์ | ไพรเมอร์ที่ช่วยทำให้ผิวแมตต์ |
---|---|
ปริมาณ | 5 มล. |
ส่วนผสมที่สำคัญ | ซิลิกาและสารสกัดจากลิ้นจี่ |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
Etude Primer Face Blur ไพรเมอร์

ราคา 650 บาท*
Etude House Primer Face Blur เป็นหนึ่งในไพรเมอร์เกาหลีที่ได้รับความนิยมมากเลยทีเดียวค่ะ ตัวไพรเมอร์มาพร้อมกับคุณสมบัติ Face Blur หลังจากทาแล้วเรามารถเห็นได้ทันทีว่าไพรเมอร์ช่วยเบลอรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไพรเมอร์ตัวนี้จะช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นหนึ่งเฉด นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของการเบลอรูขุมขนด้วยค่ะ แต่ไพรเมอร์ตัวนี้อาจไม่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวคล้ำเท่าไหร่นะคะเพราะเอฟเฟกต์การเปลี่ยนสีผิวของไพรเมอร์อาจจะทำให้หน้าเทาได้ค่ะ
ผู้เขียนชอบตรงที่ไพรเมอร์จะช่วยเบลอความไม่สมบูรณ์ของผิวได้ดี ทำให้ผิวดูสวยและเป็นธรรมชาติค่ะ ใครที่อยากแต่งหน้าลุคเกาหลีต้องห้ามพลาดเลยนะคะ ส่วนผสมหลักของไพรเมอร์คือกรดไฮยารูโลนิก 5 ชนิดและไนอะซินาไมด์สามารถให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีมากค่ะ ใครที่ผิวแห้งก็สามารถใช้งานได้ด้วยเพราะจะช่วยลดความแห้งกร้านได้ดีค่ะ สำหรับไพรเมอร์ของทางแบรนด์มีทั้งหมด 3 เฉดสีนะคะสามารถเลือกสีได้ตามต้องการเลยค่ะ
Etude House Face Blur เป็นไพรเมอร์ที่ดีมากค่ะ ผู้เขียนชอบแพ็กเกจเพราะเป็นหัวปั๊มใช้งานได้ง่าย เนื้อของไพรเมอร์ค่อนข้างเหลวค่ะเหลวพอ ๆ กับ Revlon Colorstay UV Primer เลย ทำให้ไพรเมอร์เกลี่ยง่ายมาก หลังจากทาไพรเมอร์แล้วผิวจะนุ่มและเนียนเป็นธรรมชาติ ไพรเมอร์สามารถควบคุมความมันตลอดวันโดยไม่ทำให้ผิวแห้งค่ะ มาพร้อมประสิทธิภาพในการปรับสีผิวเหมือนกับ 3CE Back To Baby Pore Velvet Primer ค่ะ แต่ปริมาณเยอะกว่าและให้ความชุ่มชื้นได้ดีกว่า แต่ถ้าใครที่ไม่ได้ผิวแห้งสามารถใช้ไพรเมอร์ของ 3CE ได้ค่ะ
ข้อดี
- มีคุณสมบัติในการเบลอและปกปิดรูขุมขนได้เป็นอย่างดี
- ใช้เพียงปั๊มเดียวก็สามารถทาได้ทั่วหน้าและเห็นผลได้อย่างชัดเจน
- เนื้อบางเบาไม่หนักผิวและไม่ทำให้เกิดการอุดตันอย่างแน่นอน
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับคนผิวคล้ำเพราะไพรเมอร์มีสีอาจทำให้หน้าเทาได้
ประเภทของไพรเมอร์ | ไพรเมอร์ที่ให้ความชุ่มชื่นและเบลอรูขุมขน |
---|---|
ปริมาณ | 35 มล. |
ส่วนผสมที่สำคัญ | กรดไฮยารูโลนิก 5 ชนิด |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
Revlon Colorstay UV Primer SPF40 PA+++ ไพรเมอร์

ราคา 467 บาท*
Revlon Colorstay UV Primer เป็นไพรเมอร์เนื้อบางเบาที่สามารถช่วยทำให้เมคอัพของเราติดทนนานตลอดวันค่ะ ทางแบรนด์เคลมมาว่าไพรเมอร์สามารถควบคุมความมันได้ดีเยี่ยม ช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสขึ้นเล็กน้อย หลังจากใช้งานแล้วผิวหน้าเรียบเนียนและทำให้รูขุมขนดูตื้นขึ้นชั่วคราวค่ะ ใครที่แพ้ง่ายก็สามารถใช้ตัวนี้ได้นะคะเพราะไพรเมอร์ไม่ได้ผสมน้ำหอมค่ะ แพ็กเกจมาในรูปแบบขวดก่อนใช้แนะนำให้เขย่าก่อนเพื่อให้เนื้อไพรเมอร์ด้านในผสมกันได้ดีมากยิ่งขึ้นค่ะ
หากถามว่าไพรเมอร์เหมาะกับใครมากที่สุด ผู้เขียนขอตอบเลยว่าเหมาะสำหรับคนที่ต้องปรับสภาพผิวค่ะ ตัวไพรเมอร์จะช่วยลดเลือนความไม่สมบูรณ์ของผิวและช่วยแก้ไขสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอได้ดีเลยทีเดียว นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังเคลมมาว่าไพรเมอร์ติดทนนาน 24 ชม. ดังนั้นไม่ว่าสภาพผิวแบบไหนก็เอาอยู่อย่างแน่นอนค่ะ อีกทั้งยังมาพร้อมกับ SPF40 PA+++ ด้วยใครที่ไม่ได้ออกแดดจัดก็สามารถใช้ทาครีมกันแดดได้ค่ะ แต่หากออกแดดแรง ๆ ต้องทากันแดดร่วมด้วยเท่านั้นนะคะ
Revlon Colorstay UV Primer เป็นไพรเมอร์สีขาวครีม ๆ อมชมพูเนื้อสัมผัสจะเหลว ๆ ใช้งานง่ายค่ะ ด้วยความที่มันเป็นเนื้อเหลวเนี่ยแหละค่ะทำให้เราประหยัดได้มาก เพราะใช้นิดเดียวก็เกลี่ยได้ทั่วหน้าเลยค่ะ หลังจากทาไพรเมอร์แล้วผิวจะเป็นมันเงาและเหนียวเล็กน้อยค่ะ ผู้เขียนชอบตรงที่มันสามารถปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้นได้เล็กน้อย ค่ะ แต่ต้องเกลี่ยให้ดีนะคะเพราะคราบสีขาวอาจจะติดตามไรผมได้ ราคาของไพรเมอร์ไม่ได้แพงมากนะคะสามารถหาซื้อได้เลยแต่ใครที่ไม่ชอบไพรเมอร์แบบปรับผิวโทนชมพูไม่แนะนำนะคะควรเลือกซื้อ Cute Press Evory Retouch Pore Minimizing & Oil Control Primer แทนค่ะ
ข้อดี
- ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสและลดความมันไปพร้อม ๆ กัน
- เนื้อเจลมีความบางมาก สามารถเกลี่ยง่ายไม่จำตัวเป็นก้อน
- มาพร้อมค่ากันแดด SPF40 PA+++ สามารถป้องกันแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อควรพิจารณา
- สีของไพรเมอร์เป็นสีขาวอมชมพูอาจไม่เหมาะกับคนที่มีผิวคล้ำ
ประเภทของไพรเมอร์ | ไพรเมอร์ที่ช่วยเบลอรูขุมขน |
---|---|
ปริมาณ | 30 กรัม |
ส่วนผสมที่สำคัญ | ซิงค์และสารสกัดจากผลไม้ |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
Bobbi Brown Primer Plus Mattifier ไพรเมอร์

ราคา 1,600 บาท*
Bobbi Brown Primer Plus Mattifier เป็นไพรเมอร์จากแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำค่ะ โดยทางแบรนด์ได้เคลมมาว่ามีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับกระดาษซับมันแบบลิควิดเลยล่ะค่ะ เพราะไพรเมอร์สามารถช่วยอำพรางรูขุมขนและลดน้ำมันส่วนเกิน โดยไม่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ไพรเมอร์จะช่วยป้องกันรองพื้นเป็นคราบและเลือนหายระหว่างวันและช่วยล็อกความชุ่มชื้นไว้กับผิว เนื้อสัมผัสของไพรเมอร์โปร่งและเบาสบายสามารถเกลี่ยได้ง่ายมากค่ะ
ฟินิชลุคของไพรเมอร์แบบ Soft Matte ค่ะใครที่หน้ามันมาก ๆ ระหว่างวันไพรเมอร์ตัวนี้จะช่วยได้ดีเลยค่ะ ส่วนผสมหลักของไพรเมอร์คือโซเดียมไฮยาลูโรเนตนะคะสามารถให้ความชุ่มชื้นได้ดีค่ะ ดังนั้นถึงแม้จะเป็นเนื้อแมตต์แต่ก็ไม่แห้งอย่างแน่นอนค่ะ แพ็กเกจของไพรเมอร์เป็นแบบหลอดนะคะใช้งานได้ง่ายมาก แต่ราคาของไพรเมอร์อาจจะแรงสักนิดนึงแต่สามารถใช้งานได้นานอย่างแน่นอนค่ะ
Bobbi Brown Primer Plus Mattifier เป็นไพรเมอร์ที่กลมกลืนกับผิวได้ดีค่ะ เมื่อใช้แล้วไพรเมอร์ไม่เพียงแต่ช่วยเบลอรูขุมขนเท่านั้นนะคะแต่ยังช่วยทำให้ผิวสวยขึ้นด้วยค่ะ ไพรเมอร์สามารถทำงานร่วมกับรองพื้นได้ดีมากค่ะ เพราะจะช่วยควบคุมความมัน ยืดความติดทนของรองพื้นและช่วยปรับสมดุลระดับความชุ่มชื้นของผิวด้วยค่ะ Bobbi Brown Primer สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว อีกทั้งยังมีสารเจลลิไฟเออร์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ซึ่งช่วยให้ไพรเมอร์มีเนื้อแมตต์ด้วยค่ะ ไพรเมอร์เป็นสูตรวีแก้นและไม่มีส่วนผสมของน้ำมันแร่ไม่แปลกใจเลยที่ราคาจะแพงค่ะ
ข้อดี
- ไพรเมอร์เนื้อเจลบางเบาช่วยให้ผิวมีความเรียบเนียน
- ด้วยเทคโนโลยีแป้งพิเศษสามารถช่วยดูดซับความมันบนใบหน้าให้ผิวดูแมตต์
- ปราศจากสารเคมีที่เป็นพิษ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
ข้อควรพิจารณา
- มีราคาสูงมากเมื่อเทียบกับปริมาณ
ประเภทของไพรเมอร์ | ไพรเมอร์ที่ช่วยทำให้ผิวแมตต์ |
---|---|
ปริมาณ | 40 กรัม |
ส่วนผสมที่สำคัญ | โซเดียมไฮยาลูโรเนต |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
3CE Back To Baby Pore Velvet Primer ไพรเมอร์

ราคา 415 บาท*
3CE Back To Baby Pore Velvet Primer เป็นไพรเมอร์แบรนด์ชื่อดังจากเกาหลีเช่นเดียวกับ Etude Primer Face Blur ค่ะ คุณสมบัติของไพรเมอร์จะคล้าย ๆ กันในการเลือกซื้อสามารถเลือกได้ตามความชอบ โดยไพรเมอร์จาก 3CE ตัวนี้เหมาะสำหรับคนที่มีผิวมันและรูขุมขนกว้าง เพราะทางแบรนด์เคลมมาว่าจะช่วยปกปิดรูขุมขนได้ดีเยี่ยม ช่วยคุมความมันได้ดี ลดการผลิตน้ำมันบนผิวได้และไม่อุดตันผิวค่ะ หากอยากรู้ว่าคำเคลมนี้จริงไหมต้องไปลองใช้เท่านั้นค่ะ
สำหรับเนื้อสัมผัสของไพรเมอร์เป็นสีชมพูแต่จะเรียบเนียนไปกับผิวได้อย่างรวดเร็ว ตัวไพรเมอร์มีกลิ่นหอมคล้ายกับแป้งเด็กค่ะ ดังนั้นเมื่อทาแล้วจะไม่ฉุนจมูกอย่างแน่นอน ขอบอกเลยว่าเป็นไพรเมอร์ตัวนี้เป็นไพรเมอร์ที่เหมาะมากสำหรับผิวบอบบางระคายเคืองง่ายค่ะเพราะไม่มีสารระคายเคือง ใครที่แพ้ง่ายและชอบไพรเมอร์จากเกาหลีต้องลองนะคะเพราะเมื่อใช้แล้วจะไม่ผิดหวังค่ะ
3CE Back To Baby Pore Velvet Primer เป็นไพรเมอร์เกาหลีที่เราอยากแนะนำค่ะ ใครที่มีรูขุมขนกว้างต้องห้ามพลาดนะคะเพราะเบลอรูขุมขนได้จริงและทำให้การแต่งหน้าง่ายขึ้นมาก แต่ใครที่มีผิวแห้งทางเราไม่อยากแนะนำนะคะเพราะมันให้ความชุ่มชื้นน้อยมาก แต่ถ้าอยากใช้จริง ๆ อาจจะต้องทามอยส์เจอไรเซอร์มาก่อนเพื่อบำรุงผิวค่ะ แพ็กเกจของไพรเมอร์มาแบบหลอดค่ะใช้งานง่ายและพกพาได้ง่ายด้วย แต่ปริมาณอาจจะน้อยไปหน่อยเมื่อเปรียบเทียบกับราคาค่ะ
ข้อดี
- ครีมเนื้อกำมะหยี่ ช่วยลดการปรากฏของรูขุมขนและจุดด่างดำ
- เมื่อทาแล้วจะทำให้ผิวที่นุ่มนวลและมีความเรียบเนียน
- เนื้อครีมเป็นสีชมพูแต่จะไม่เปลี่ยนสีผิวเมื่อทาลงไปบนผิว
ข้อควรพิจารณา
- ไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นเท่าไหร่นักต้องใช้มอยส์เจอไรเซอร์เพิ่ม
ประเภทของไพรเมอร์ | ไพรเมอร์ที่ช่วยเบลอรูขุมขน |
---|---|
ปริมาณ | 15 กรัม |
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันเมล็ดคาเมลเลีย |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
Hourglass Vanish Airbrush Primer ไพรเมอร์

ราคา 1,920 บาท*
Hourglass Vanish Airbrush Primer ไพรเมอร์แบรนด์ดังที่เราอยากแนะนำค่ะ ไพรเมอร์จากทางแบรนด์มีความอเนกประสงค์ค่ะ เนื้อสัมผัสมีความบางเบาและเนียนละเอียดทำให้เราสามารถเกลี่ยได้ง่าย ไม่ต้องกังวลว่ามันจะจับตัวเป็นก้อนเลยค่ะ อีกทั้งไพรเมอร์ยังมีค่ากันแดดที่ SPF 15 สามารถช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและทางแบรนด์ยังเคลมมาเพิ่มว่าไพรเมอร์สามารถป้องกันรังสี UVB ได้ 93% เลยค่ะ
นอกจากนี้ไพรเมอร์จาก Hourglass Vanish Airbrush Primer ยังกันน้ำได้ซึ่งคุณสมบัตินี้มีความคล้ายกับ Urban Decay All Nighter Face Primer ค่ะ แต่ราคาของ Hourglass จะแพงกว่าหน่อย ในการเลือกซื้อสามารถเลือกได้ตามความชอบเลย หลังจากใช้งานแล้วไพรเมอร์จะทำให้เครื่องสำอางติดทนตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังปราศจากน้ำมัน ไม่มีซัลเฟต พาราเบนและสีสังเคราะห์ คนที่มีผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้งานได้นะคะ
Hourglass Vanish Airbrush Primer เป็นไพรเมอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวค่ะ หลังจากทาแล้วจะทำให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น ไพรเมอร์มีประสิทธิภาพในการปรับผิว ควบคุมความมันและยืดความติดทนของเมคอัพค่ะ ผู้เขียนชอบที่ไพรเมอร์เนื้อบางเบาและมีสารกันแดดค่ะ ถึงแม้ว่าสารกันแดดจะน้อยเทียบกับ Revlon Colorstay UV Primer ที่มี SPF 40 ไม่ได้แต่ถ้าวันไหนไม่ได้ออกแดดเลยก็ยังสามารถใช้ได้อยู่ค่ะ
ข้อดี
- ช่วยควบคุมความมันและกระชับรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ใช้ผสมกับรองพื้นและเครื่องสำอางได้ทุกชนิด
- เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวมัน
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปริมาณ
ประเภทของไพรเมอร์ | ไพรเมอร์ที่ช่วยทำให้ผิวแมตต์ |
---|---|
ปริมาณ | 30 มล. |
ส่วนผสมที่สำคัญ | ไททาเนียมไดออกไซด์และซิงค์ |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
Shiseido Synchro Skin Soft Blurring Primer ไพรเมอร์

ราคา 1,150 บาท*
Shiseido Synchro Skin Soft Blurring Primer ไพรเมอร์ที่เหมาะมากหากคุณมีปัญหาผิวมันและต้องการไพรเมอร์เนื้อบางเบาที่ไม่อุดตันรูขุมขนค่ะ เพราะไพรเมอร์จากทางแบรนด์เป็นสูตรน้ำที่มีส่วนผสมของซิลิโคนจำนวนมาก แต่ไพรเมอร์จากทางแบรนด์ไม่เหมือนกับไพรเมอร์ซิลิโคนทั่วไปที่เป็นเจลค่ะ เพราะเนื้อสัมผัสของไพรเมอร์จะมีความบางเบาและเป็นน้ำคล้ายกับโลชั่น ทางแบรนด์เคลมมาว่าหลังจากใช้แล้วผิวจะคงความชุ่มชื้นได้นานถึง 8 ชั่วโมงค่ะ
ไพรเมอร์เนื้อบางเบาจากทางแบรนด์สามารถเบลอรูขุมขนและลดความมันได้ดีค่ะ ส่วนผสมหลักของไพรเมอร์คือเปปไทด์และ Sebum Catch Powderซึ่งจะช่วยลดความมันได้ค่ะ นอกจากนี้ไพรเมอร์ยังสามารถลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ ด้วยสูตร Snowflake Powder ด้วยค่ะ ใครที่เริ่มมีริ้วรอยและผิวมันต้องห้ามพลาดเลยนะคะเพราะประสิทธิภาพดีมาก
Shiseido Synchro Skin Soft Blurring Primer เป็นไพรเมอร์ที่เหมาะกับคนที่มีผิวมันมากจริง ๆ ค่ะเพราะสามารถช่วยควบคุมความมันได้ดี นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับคนที่มีริ้วรอยด้วย ส่วนตัวแล้วเรื่องของการเบลอริ้วรอยผู้เขียนการันตีไม่ได้นะคะเพราะยังไม่ค่อยมีริ้วรอย แต่เรื่องคุมมันคือคุมได้จริงค่ะ ราคาของไพรเมอร์แอบสูงอยู่นะคะแต่ก็คุ้มค่าอย่างแน่นอน
ข้อดี
- ให้ฟินิชลุคแบบแมตต์ ไม่ทำให้ผิวมันเยิ้มระหว่างวัน
- ช่วยกระชับรูขุมขนและลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- อ่อนโยน ปลอดภัยและสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
ประเภทของไพรเมอร์ | ไพรเมอร์ที่ช่วยเบลอรูขุมขน |
---|---|
ปริมาณ | 30 มล. |
ส่วนผสมที่สำคัญ | เปปไทด์ |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
คำแนะนำในการเลือกซื้อไพรเมอร์
1. ประเภทของไพรเมอร์
การใช้ไพรเมอร์เป็นองค์ประกอบสำคัญในการแต่งหน้าค่ะ ด้วยเหตุนี้แบรนด์เครื่องสำอางแบรนด์ดังเกือบทุกแบรนด์จึงได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ไพรเมอร์ใหม่ ๆ ออกมาวางขายมากมาย แน่นอนว่าในท้องตลาดคุณจะพบไพรเมอร์หลายประเภทไม่ว่าจะเป็นแบบเจล สเปรย์และฝุ่น แต่การที่ไพรเมอร์มีเยอะมากมันอาจเป็นเรื่องยากที่เราจะรู้ว่าไพรเมอร์ชนิดไหนจะเหมาะกับเรามากที่สุด แต่ในวันนี้ผู้เขียนได้ทำการแบ่งประเภทของไพรเมอร์หลัก ๆ ไว้แล้วค่ะเพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อไพรเมอร์ได้ง่ายมากขึ้นนั่นเองค่ะ
- Mattifying : ผลิตภัณฑ์ไพรเมอร์ชนิดนี้จะช่วยลดความมัน ทำให้ให้ผิวสดชื่นและเปล่งปลั่งจึงเหมาะสำหรับผิวมัน
- ติดทนนาน : ไพรเมอร์แบบติดทนนานจะเหมาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการให้เมคอัพติดทนนานขึ้นและป้องกันไม่ให้รองพื้นดูจางลง
- แก้ไขสีผิว : ไพรเมอร์ชนิดนี้จะช่วยแก้ไขโทนสีเหลือง ม่วงอมน้ำเงินหรือแดงที่ปรากฏบนผิวได้ด้วยการสร้างเฉดสีผิวที่สม่ำเสมอ หลังจากการใช้งานแล้วไพรเมอร์จะช่วยให้ผิวของคุณดูดีขึ้น
- Illuminators : เป็นไพรเมอร์ที่ดีที่สุดหากคุณมีผิวแห้งหรือหมองคล้ำ เพราะไพรเมอร์ชนิดนี้สามารถใช้ได้ง่ายและทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นด้วย
- Pore Minimizers : เป็นไพรเมอร์ที่ช่วยเติมเต็มรูขุมขนจึงเหมาะสำหรับคนที่มีรูขุมขนกว้าง
- ให้ความชุ่มชื้น : ไพรเมอร์ชนิดนี้จะทำให้ผิวเรียบเนียนและช่วยเตรียมผิว รวมถึงยังสามารถปรับปรุงความชุ่มชื้นของผิวได้ดีมากอีกด้วย
2. ประเภทของผิว

การรู้จักประเภทผิวของคุณเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นไพรเมอร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหนังโดยตรง ดังนั้นเราจึงต้องคำนึงถึงความบอบบางของผิวบนใบหน้าด้วย นี่คือเหตุผลที่คุณควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองอยู่เสมอ แน่นอนว่าการคำนึงถึงสภาพผิวไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อคุณเท่านั้นแต่ยังมีประโยชน์ในการลงเมคอัพด้วย ขอบอกเลยนะคะว่าการที่เราเลือกไพรเมอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของผิวจะช่วยให้สามารถมั่นใจได้เลยว่าผิวของเราจะสวยขึ้นหลังจากใช้งานไพรเมอร์ค่ะ
3. ความต้องการเฉพาะของผิว
ความต้องการของผิวเป็นประเด็นที่เราต้องพิจารณาค่ะ หากคุณไม่รู้ว่าผิวของคุณต้องการอะไรก็จะเป็นเรื่องยากมากที่จะได้ผลลัพธ์ของไพรเมอร์ตามที่ต้องการ ก่อนหน้านี้เราได้พูดถึงไพรเมอร์ประเภทต่าง ๆ ไว้มากมายค่ะ เราเลยอยากแนะนำให้เลือกไพรเมอร์ที่เหมาะกับความต้องการของผิวมากที่สุดเพื่อให้การใช้งานไพรเมอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องเช็กปัญหาของผิวก่อนค่ะ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีผิวมันวาวที่จมูก แต่มีผิวแห้งที่หน้าผากคุณอาจต้องใช้ไพรเมอร์ที่แตกต่างกันไปตามสภาพผิว แต่หากคุณต้องการป้องกันการเกิดริ้วรอย ปกปิดรอยแผลเป็นหรือเบลอรูขุมขน แนะนำให้ใช้ไพรเมอร์ที่ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้กับคุณโดยเฉพาะค่ะ บอกเลยว่าไพรเมอร์มีทุกสูตรค่ะต้องอ่านฉลากให้ดีจะได้รู้ว่าสูตรไหนเหมาะกับผิวตัวเองมากที่สุด
4. ส่วนผสมของไพรเมอร์
ไพรเมอร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่เราต้องทาลงบนผิวโดยตรงค่ะ ดังนั้นส่วนผสมที่มีอยู่ในไพรเมอร์จึงมีความสำคัญมากและเราจะต้องใส่ใจกับส่วนผสมของไพรเมอร์เสมอค่ะ ในการเลือกซื้อเราขอแนะนำให้เลือกซื้อไพรเมอร์ที่เป็นสีเดียวกับรองพื้นหรืออาจจะเลือกไพรเมอร์ที่มีส่วนผสมใกล้เคียงกับรองพื้นมากที่สุดเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ทั้งสองทำงานร่วมกันได้ดีมากยิ่งขึ้นค่ะ ปกติแล้วไพรเมอร์จะมี 3 สูตรคือสูตรน้ำ น้ำมันหรือซิลิโคน ไพรเมอร์สูตรน้ำมันและซิลิโคนได้รับความนิยมมากค่ะแต่อาจทำให้ระคายเคืองได้ง่าย ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ใช้กับผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย ส่วนไพรเมอร์สูตรน้ำจะเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว แต่อย่าลืมเช็กส่วนผสมอยู่เสมอนะคะเพื่อที่เราจะได้รู้ว่าส่วนผสมไหนที่เหมาะหรือไม่เหมาะกับเรา
5. สีผิว

เป้าหมายหลักของการใช้ไพรเมอร์คือการทำหน้าที่เหมือนผิวชั้นที่สองค่ะ ดังนั้นโทนสีที่ของไพรเมอร์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญค่ะ ทุกวันนี้มีไพรเมอร์วางขายอยู่มากมายจึงไม่ยากที่จะหาซื้อไพรเมอร์ที่เหมาะกับโทนสีผิวของตัวเอง หากคุณเลือกเฉดสีรองพื้นและไพรเมอร์ได้ถูกต้องฟินิชลุคของการแต่งหน้าโดยรวมจะเป็นธรรมชาติมากขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ แต่หากคุณซื้อไพรเมอร์ครั้งแรกเราอยากแนะนำให้เลือกเฉดสีไพรเมอร์ตามเฉดสีของรองพื้นที่ใช้ค่ะ สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดคืออย่าลืมใส่ใจคุณภาพของไพรเมอร์ด้วยนะคะ เพราะคุณภาพเป็นปัจจัยพื้นฐานในการเลือกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่เราจะใช้กับผิวหน้าโดยตรง จำไว้นะคะว่ายิ่งไพรเมอร์มีคุณภาพดีเท่าไรก็ยิ่งมีโอกาสน้อยที่จะก่อให้เกิดอาการแพ้ค่ะ
ไพรเมอร์สามารถทาทุกวันได้ไหม ?

หลายคนคิดว่าไม่ควรใช้ไพรเมอร์ทุกวันเพื่อป้องกันการอุดตันผิว อย่างไรก็ตามไพรเมอร์ถูกออกแบบมาให้ใช้ได้ทุกวันโดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาใด ๆ กับผิวค่ะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องใช้ไพรเมอร์ในปริมาณที่เหมาะสม นอกจากนี้ต้องเลือกไพรเมอร์ที่เหมาะกับความต้องการของผิวด้วย จุดที่สำคัญเลยก็คือต้องทำความสะอาดผิวหลังการใช้ไพรเมอร์ทุกครั้งค่ะ ห้ามลืมทำความสะอาดผิวเด็ดขาดเลยนะคะเพราะอาจจะเป็นสิวหรือระคายเคืองได้ค่ะ