สมาร์ทโฟนแบรนด์ Realme (เรียลมี) คือแบรนด์โทรศัพท์มือถือน้องใหม่ที่มีประสบการณ์มากพอตัวเลยทีเดียว เนื่องจากผู้ก่อตั้งของเรียลมีเคยอยู่ในทีมของ OPPO มาก่อนมันจึงทำให้แบรนด์น้องใหม่อย่าง Realme ประสบความสำเร็จตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2018 ที่ประเทศอินเดีย พร้อมกับยอดขายที่ถล่มทลายครับ

โดยจุดเด่นที่สำคัญของ Realme ก็คือ การพัฒนาสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มวัยรุ่นมากที่สุด การมีสเปกสุดล้ำ มาพร้อมกับดีไซน์สุดหรู ในราคาที่สมเหตุสมผล โดยเน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นเป้าหมายหลัก ทำให้ Realme ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราจะขอพาทุก ๆ คนมาสัมผัสกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ และรุ่นยอดนิยมของแบรนด์นี้กันครับ เพื่อดูว่ามีรุ่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง ? มีสเปกสุดล้ำแค่ไหน ? และจะมาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูหรูเกินราคาจริงรึเปล่า ? ตามไปดูกันเลยครับ
มือถือ Redmi รุ่นใหม่ ๆ เปิดตัวที่ไทยในปี 2023
ก่อนอื่น เราต้องแจ้งให้เพื่อน ๆ ทราบก่อนว่าความเป็นจริงแล้วทางแบรนด์ realme มีการปล่อยรุ่นใหม่ ๆ ออกมามากกว่าที่เพื่อน ๆ เห็นในบทความนี้นะคะ แต่เนื่องจากเป็นการเปิดตัวในต่างประเทศเสียส่วนใหญ่ (นำร่องที่ประเทศจีนก่อน) ทำให้เว็บไซต์ของเราไม่สามารถด่วนสรุปและทำการรีวิวมือถือรุ่นที่ยังไม่มีขายในประเทศไทยได้ เพราะเราอยากให้คุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริงมากที่สุด แม้ว่ามือถือรุ่นเหล่านั้นจะมีคุณสมบัติโดดเด่นมากเพียงใด แต่ก็ต้องรอการอัปเดตอย่างเป็นทางจากทาง realme Thailand ก่อนนะคะ

สำหรับในตอนนี้จะรุ่นใหม่ที่เปิดวางขายอยู่คือ realme C33 (2023), realme 10T 5G และ realme C55 ในส่วนของสองรุ่นแรกนั้นเรามองว่าเป็นการอัปเกรดหรือรีแบรนด์จากรุ่นเก่ามากกว่าที่จะเรียกว่าเป็นรุ่นใหม่ได้อย่างเต็มปาก เนื่องจากทั้งคู่ไม่ได้มีสเปกอะไรที่รู้สึกว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่สักเท่าไหร่
ในทางกลับกัน เรามองว่ารุ่น realme C55 เป็นรุ่นใหม่ในปี 2023 ที่น่าสนใจมาก เนื่องจากมีราคาไม่แพงเกินไป แต่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดอย่าง Mini Capsule ซึ่งมีรูปแบบการทำงานคล้ายกับฟีเจอร์ Dynamic Island ที่มีเฉพาะใน iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max เป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเพื่อน ๆ อยากรู้ว่า realme ที่ขายจริง ๆ ในตอนนี้มีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง ? เราบอกเลยว่า ณ เวลานี้ GT Neo 5 (240W) เป็นมือถือที่ชาร์จได้เร็วที่สุดในโลก น่าเสียดายที่ยังไม่มีการขายในไทยไม่อย่างงั้นคงจะขายดีเทน้ําเทท่าเป็นแน่ค่ะ โดยปัจจุบันนี้ในประเทศไทยมีขายแค่รุ่น GT Neo 2 (65W) และรุ่น GT Neo 3 (80W) เท่านั้น
มือถือ Realme รุ่นไหนดี เหมาะกับคุณที่สุด ?
- สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ดีไซน์สวยหรู ในราคาที่เอื้อมถึง: realme C55 (มีนาคม 2023)
- สมาร์ทโฟน realme รุ่นเรือธงที่ดีที่สุด: realme GT 2 Pro โทรศัพท์มือถือ เรียวมี
- สมาร์ทโฟน realme ชาร์จได้เร็วที่สุด: realme GT NEO 3T โทรศัพท์มือถือ เรียวมี
- สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น ราคาประหยัด ยอดขายดี: Realme Narzo 50i Prime โทรศัพท์มือถือ เรียวมี
- สมาร์ทโฟน Realme ที่มีสเปกมาคุ้มค่าที่สุดในซีรีส์ 9: Realme 9 Pro Plus โทรศัพท์มือถือ เรียวมี
- สมาร์ทโฟนกล้องสวย 108MP ราคากลาง ๆ: Realme 9 โทรศัพท์มือถือ เรียวมี
- สมาร์ทโฟน 5G ที่ใช้งานได้สำหรับคนทั่วไป: Realme Narzo 50 5G โทรศัพท์มือถือ เรียวมี
![]() realme C55 (มีนาคม 2023) | ![]() realme GT 2 Pro โทรศัพท์มือถือ เรียวมี | ![]() realme GT NEO 3T โทรศัพท์มือถือ เรียวมี | ![]() Realme Narzo 50i Prime โทรศัพท์มือถือ เรียวมี |
realme C55 (มีนาคม 2023)

ราคา 5,999 บาท*
เปิดตัวเมื่อมีนาคม 2023 ราคาเปิดตัว 5,999 บาท
Realme C55 เป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่ตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของผู้คนได้เป็นอย่างดี โดยรุ่นนี้เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานเองค่ะ เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางมีราคาย่อมเยา ดีไซน์จะเน้นสีพาสเทลดูนุ่มนวลมาก ๆ เมื่อเกิดการสะท้อนกันของแสง มันจะให้ฟีลเหมือนสีของรุ้งกินน้ำ เป็นดีไซน์ที่น่ารักและเราก็คิดว่าสาว ๆ จะต้องชอบอย่างแน่นอนค่ะ

โดยรุ่นนี้มาพร้อมกล้องระดับเรือธง 64MP กล้องเซลฟี่อีก 8MP ที่มี AI คอยช่วยปรับเบลอผิวให้อย่างสวยงาม และมีการใช้ชิป MediaTek Helio G88 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการถ่ายรูปขั้นแบบสูงขึ้น ชิปทำงานได้อย่างรวดเร็ว สามารถเปิดหลายแอปพร้อมกันได้ ส่วนของแบตเตอรี่ก็รองรับการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน หน้าจอมีความละเอียด FHD+ อัตราการรีเฟรช 90Hz ทำให้ภาพออกมาดูสมูท คมชัด และมีชีวิตชีวามากขึ้น ซึ่งยังเป็นครั้งแรกใน C-Series ที่มีอัตราการรีเฟรช 90Hz ด้วยนะคะ

อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือทาง Realme ได้เปิดตัวฟีเจอร์ Mini Capsule ที่มีความคล้ายฟีเจอร์ Dynamic Island ของ iPhone มาก ๆ หากคุณอยากรู้ว่า Mini Capsule ทำอะไรได้บ้าง ? ก็ต้องบอกตามตรงว่ายังห่างชั้นกับ Dynamic Island เยอะพอสมควรค่ะ แต่ก็ถือว่ามีลูกเล่นสนุก ๆ ให้คุณได้เพลิดเพลินในราคาที่ไม่แพงเกินไป ซึ่งในอนาคตอาจจะได้เห็นความสามารถของ Mini Capsule เพิ่มมากกว่านี้ก็เป็นไปได้ค่ะ
อ่านรีวิวเพิ่มเติม >> [รีวิว] สมาร์ทโฟน realme C55 ซื้อดีไหม ? ราคาถูก ดีไซน์สวย จอใหญ่ แบตอึด กล้อง AI 64MP
ข้อดี
- การออกแบบที่มีสไตล์ มีให้เลือก 2 สีคือ Sun Shower และ Rainy Night
- กล้อง 64MP แบบเดียวกับที่ใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง
- สนุกไปกับฟีเจอร์ตัวใหม่อย่าง Mini Capsule
- แบตอึดและอแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 33W
- ราคาไม่แพง

ข้อควรพิจารณา
- จอแสดงผลไม่ค่อยสู้แสงเท่าที่ควร
- เลนส์ Depth 2MP ที่ไร้ประโยชน์
- อาจไม่ใช่โทรศัพท์สำหรับนักเล่นเกม แต่สามารถเล่นเกมทั่วไปได้
- ระบบปฏิบัติการที่ยังไม่เสถียร อาจจะต้องมีรอการอัปเดป OS ใหม่อีกรอบ
คลิปรีวิว สมาร์ทโฟน Realme C55 (ลองใช้งานจริง)
หน้าจอ | 6.72 inches / 1080 x 2400 pixels |
---|---|
ชิปเซ็ต / OS | Helio G88 / Android 13, Realme UI 4.0 |
RAM / ROM | 6GB / 128GB |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh |
กล้องหลัง | 64 MP f/1.8 + 2 MP f/2.0 (depth) |
กล้องเซลฟี่ | 8 MP f/2.0 |
realme GT 2 Pro โทรศัพท์มือถือ เรียวมี

ราคา 20,999 บาท*
เปิดตัวเมื่อมีนาคม 2022 ราคาเปิดตัว 24,990 บาท
realme GT 2 Pro ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 ที่เร็วและแรง แถมยังประหยัดพลังงาน มาพร้อมกับเทคโนโลยีการชาร์จที่เร็วมาก ๆ รวมถึงหน้าจอขนาดใหญ่ AMOLED ที่มีความละเอียดคมชัด ให้ความสว่างสดใส และตอบสนองได้ดีเช่นกัน อีกหนึ่งสิ่งที่เรารู้สึกชอบมากก็คือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ซ่อนอยู่ใต้จอแสดงผล มีความกลมกลืนไปกับหน้าจอ แถมยังประมวลได้รวดเร็วอีกด้วย
ในส่วนสเปกกล้อง เราต้องบอกเลยว่ารู้สึกว้าวมากค่ะ !!! เพราะกล้องหลัก-Ultrawide (ในมุม 150°) ในขนาด 50MP ทั้งคู่ แถมกล้องหน้าก็สูงถึง 32MP ระบบกล้องโดยรวมทำงานได้ดี สามารถบันทึกวิดีโอ 8K ได้ ในขณะที่มีซอฟต์แวร์โหมดกล้องมากมายให้ได้ลองเล่น แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารุ่นนี้จะให้ผลลัพธ์ของกล้องโดยรวมที่ดี แต่ก็ยังไม่ใช่สเปกกล้องที่ดีที่สุดนะคะ สำหรับใครที่อยากได้สมาร์ทโฟนกล้องสวยจริง ๆ เราขอแนะนำให้คุณลองมองหารุ่นอื่นหรือยี่ห้ออื่น เพิ่มเงินอีกสักหน่อย อาจจะตอบโจทย์มากกว่าค่ะ

ข้อดี
- ประสิทธิภาพของ SoC และ GPU ที่รวดเร็ว
- กล้องหลักที่มีคุณภาพของภาพที่ดี + โหมดกล้องมากมาย
- การชาร์จ 65W โดยใช้เวลาชาร์จ 100% ภายใน 35 นาที
- หน้าจอที่ใหญ่ คมชัด มอบความสดใสและสัมผัสที่ราบรื่นเป็นพิเศษ
- มีการอัปเกรดเป็น Android 13 และ Realme UI 4.0 (เวอร์ชั่นล่าสุด)
- ระบบเครือข่ายที่เสถียร รองรับสัญญาณ 5G
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน
ข้อควรพิจารณา
- สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงที่ไม่มีการรับรอง IP จึงไม่รับประกันการป้องกันน้ำหรือฝุ่น + ไม่มีการชาร์จแบบไร้สาย
- แม้จะมีระบบป้องกันภาพสั่น EIS แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์รุ่นอื่น ๆ ได้ (คุณภาพยังต้องปรับปรุงอีก)
- ไม่สามารถใช้ microSD การ์ดสำหรับการขยายพื้นที่เก็บข้อมูลเสริมได้ ดังนั้นซื้อครั้งแรกควรเลือก ROM ที่เหมาะกับการใช้งานตามจริง
หน้าจอ | 6.7 inches / 1440 x 3216 pixels |
---|---|
ชิปเซ็ต / OS | Snapdragon 8 Gen 1 / Android 13, Realme UI 4.0 |
RAM / ROM | 12GB / 256GB |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh |
กล้องหลัง | 50 MP f/1.8 + 50 MP f/2.2 (ultrawide) + 3 MP f/3.3 (microscope) |
กล้องเซลฟี่ | 32 MP f/2.4 |
realme GT NEO 3T โทรศัพท์มือถือ เรียวมี

ราคา 11,999 บาท*
เปิดตัวเมื่อมิถุนายน 2022 ราคาเปิดตัว 12,999 บาท
realme GT NEO 3T เป็นรุ่นที่มีราคาถูกกว่ารุ่น GT NEO 3 อยู่เล็กน้อย มาพร้อมกับเฉดสีใหม่ที่โดดเด่นอย่าง Dash Yellow โดยรุ่นนี้จัดว่าเป็นโทรศัพท์ระดับกลาง ๆ ระบบกล้องหลังประกอบไปด้วยกล้องเลนส์ 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก กล้องมุมกว้าง และเลนส์มาโคร ดังนั้นสเปกรุ่นนี้จึงค่อนข้างคล้ายกับ GT Neo 3 แต่จะต่างกันตรงที่เซ็นเซอร์ของกล้องหลักในรุ่น GT Neo 3 ใช้เป็นของ Sony IMX766 ในขณะรุ่นนี้ใช้ OmniVision OV64B

แน่นอนว่ากล้องรุ่นนี้ยังคงให้เฉดสีของภาพถ่ายที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม จากการทดสอบเราพบว่ามันให้การซูมแบบไฮบริดในเลนส์มุมกว้างพิเศษและกล้องหลักไม่ได้ ทำให้ความยืดหยุ่นในการใช้งานของส่วนนี้ลดคะแนนความประทับใจไปเล็กน้อย สำหรับการบันทึกวิดีโออยู่ในระดับ 4K@60fps ที่มีการปรับโฟกัสและความสว่างอัตโนมัติ
ในส่วนของหน้าจอสัมผัสเป็น AMOLED ที่สว่างสุดถึง 1300 nits พร้อมความละเอียดในระดับ Full HD มีอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz โดยสามารถปรับอัตราเฟรมให้เข้ากับเนื้อหาได้อย่างเหมาะสม ทำให้ไม่เกิดการกระตุกในระหว่างใช้งานจริง อีกทั้งยังมีที่สแกนลายนิ้วมือซ้อนอยู่ในหน้าจอแสดงผล แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนรู้สึกว่าที่สแกนลายนิ้วมือรุ่นนี้ถูกวางในตำแหน่งที่ต่ำไปเล็กน้อย ทำให้เวลาปลดล็อกค่อนข้างลำบากสักหน่อยค่ะ
สำหรับชิปประมวลผลที่ใช้คือ Snapdragon 870 เป็น SoC ระดับไฮเอนด์สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วในระดับที่น่าประทับใจมาก โดยในระหว่างที่เราได้ทดสอบเล่นเกมก็ยังคงควบคุมผ่านหน้าจอได้อย่างแม่นยำ ไม่มีปัญหาอะไรให้หนักใจเลยค่ะ เอาเป็นว่าสายเกมสามารถซื้อรุ่นนี้ไปเล่นได้อย่างสบาย ๆ หายห่วงข้อดี
- ราคาถูกกว่ารุ่น GT NEO 3
- สามารถชาร์จเร็วด้วยอะแดปเตอร์ไฟขนาด 80W
- ระบบกล้องโดยรวมคล้ายกับรุ่น GT NEO 3 มาก แม้ว่าเซ็นหลักที่ใช้จะเป็นคนละตัว ทำให้คุณภาพของภาพต่างกันอยู่บ้าง แต่แลกมากับราคาที่ถูกกว่าเป็นเหตุผลที่ยอมรับได้
- ลำโพงสเตอริโอไฮบริดที่ให้เสียงดีเยี่ยม
- มีการอัปเกรดเป็น Android 13 และ Realme UI 4.0 เวอร์ชั่นล่าสุดเรียบร้อยแล้ว
- รองรับสัญญาณ 5G
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ทนทาน
ข้อควรพิจารณา
- ไม่สามารถใช้ microSD การ์ดสำหรับการขยายหน่วยความจำเพิ่มเติม
- กล้องมุมกว้างและกล้องหลักไม่มีการซูมแบบไฮบริด
- SoC ที่ค่อนข้างเก่ากว่ารุ่น GT NEO 3 (อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามันจเป็นชิปที่ช้ากว่า แค่ในแง่ของการใช้งานจริง ๆ บางแอปก็แทบแยกผลลัพธ์ไม่ออก)
หน้าจอ | 6.62 inches / 1080 x 2400 pixels |
---|---|
ชิปเซ็ต / OS | Snapdragon 870 5G / Android 13, Realme UI 4.0 |
RAM / ROM | 8GB / 128GB |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh |
กล้องหลัง | 64 MP f/1.8 + 8 MP f/2.3 (ultrawide) + 2 MP f/2.4 (macro) |
กล้องเซลฟี่ | 16 MP f/2.5 |
Realme Narzo 50i Prime โทรศัพท์มือถือ เรียวมี

ราคา 3,099 บาท*
เปิดตัวเมื่อกันยายน 2022 ราคาเปิดตัว 3,299 บาท
Realme Narzo 50i Prime เป็นหนึ่งรุ่นที่มียอดขายดีมาก ๆ เนื่องจากราคาที่ไม่แพงเกินไป จัดเป็นมือถือระดับเริ่มต้นที่มีสเปกคุ้มค่าคุ้มราคาครอบคลุมทุกการใช้งาน แม้ว่ารุ่นนี้จะมีกล้องหลักเพียงตัวเดียวแต่ก็ทำออกมาได้ดีจริง ๆ ค่ะ อันที่จริงแล้วผู้เขียนเคยแนะนำรุ่นนี้ไปแล้วในบทความรีวิวมือถือกล้องสวยราคาประหยัด หลาย ๆ คนอาจไม่เชื่อว่ากล้องขนาด 8MP จะให้ภาพที่สวยออกได้อย่างไรกัน ? แต่เชื่อเถอะค่ะเพราะ AI ที่ใช้ประมวลผลทำออกมาค่อนข้างดีค่ะ เหมาะสำหรับใช้ถ่ายรูปในช่วงกลางวันหรือในพื้นที่ที่มีแสงเพียงพอ รูปที่ออกมาจะให้เฉดสีที่สวยงามและไดนามิกเรนจ์ที่ดี มีการเพิ่มแสงให้ภาพออกมาบาลานซ์กันอย่างเป็นธรรมชาติ ในส่วนของกล้องหน้าอาจจะไม่ใช่มือถือที่เหมาะสำหรับถ่ายรูปเซลฟี่มากนัก
ในแง่ของโปรเซสเซอร์และความเร็วนั้นถือว่าทำออกมาได้ดี ลื่นไหลพอสมควร เมื่อเทียบกับราคา แม้ว่าการอัปเกรด UI จะยังไม่เสถียรก็ตาม แต่เราไม่พบปัญหาแอปค้างขณะเรียกใช้งานใด ๆ สำหรับหน้าจอนั้นต้องบอกมันไม่ใช่สมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอระดับดีเยี่ยม เนื่องจากมีความละเอียดและอัตราการรีเฟรชที่ไม่สูงมากนัก โดยส่วนใหญ่เหมาะสำหรับการดู YouTube หรือสตรีมมิ่งออนไลน์ได้ในระดับนึ่ง หากคุณต้องการภาพหน้าจอสวย ๆ คุณอาจจะต้องเพิ่มเงินเพื่อซื้อจอแบบ AMOLED แทนค่ะ
ข้อดี
- เหมาะสำหรับซื้อเป็นโทรศัพท์ใช้งานสำรอง
- สมาร์ทโฟนราคาไม่แพงมาก
- แบตเตอรี่อึด สามารถใช้งานได้นานเป็นวัน
- เซ็นเซอร์กล้องให้แสงสว่างที่ดีมาก แม้ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แสงน้อยก็ตาม
- น้ำหนักเบา ถือได้อย่างง่าย พาพกสะดวกสบาย
- ไม่ใช่โทรศัพท์ที่เร็วที่สุด แต่ก็ไม่ใช่โทรศัพท์ที่ช้าที่สุดเช่นกัน มีความเร็วเหมาะสมกับราคา
ข้อควรพิจารณา
- ลำโพงโมโนขนาดเล็กให้ระดับเสียงที่พอเหมาะ แต่ไม่เหมาะสำหรับซื้อมาฟังเพลง
- ไม่เหมาะสำหรับใช้เล่นเกมกราฟฟิกสูง ๆ
- หน้าจอ LCD ความละเอียดเพียง HD+ หรือ 720p
- มีความสว่างเฉลี่ย 400 nits (จอไม่สู้แสง)
- พลังการชาร์จสูงสุดคือ 10W
- ไม่มีที่สแกนลายนิ้วมือ
หน้าจอ | 6.5 inches / 720 x 1600 pixels |
---|---|
ชิปเซ็ต / OS | Tiger T612 / Android 11, Realme UI Go |
RAM / ROM | 3GB / 32GB |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh |
กล้องหลัง | 8 MP f/2.0 |
กล้องเซลฟี่ | 5 MP f/2.2 |
Realme 9 Pro Plus โทรศัพท์มือถือ เรียวมี

ราคา 8,399 บาท*
เปิดตัวเมื่อมีนาคม 2022 ราคาเปิดตัว 12,999 บาท
สำหรับ Realme 9 Pro+ หลาย ๆ คนอาจมองว่ารุ่นนี้ไม่ได้มีราคาย่อมเยาเลยสักนิด แต่หากเทียบกับสเปกแล้วเราคิดว่า Realme 9 Pro+ เป็นรุ่นที่ให้สเปกมาคุ้มค่าที่สุดในซีรีส์ 9 เลยค่ะ อันดับแรกคือมี RAM สูงถึง 8GB ซึ่งเป็นค่าที่สูงมากพอให้คุณเปิดใช้งานหลาย ๆ แอปพร้อมกันได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด ต่อมาคือกล้อง Ultrawide มันเป็นเรื่องที่ยากมากเลยค่ะที่คุณจะหากล้อง Ultrawide ในมือถือที่มีราคาถูกเช่นนี้ หลายคนอาจคิดว่ากล้อง Ultrawide ไม่สำคัญ แต่เวลาที่คุณต้องการเก็บภาพให้ครบในเฟรมเดียวกล้อง Ultrawide จะมีประโยชน์มาก ๆ ในส่วนของสเปกกล้องเลนส์อื่น ๆ ก็ไม่ได้แย่เลยค่ะ เรียกว่าเป็นกล้องระดับโปรก็ว่าได้
ส่วนอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้รุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะว่ามีการอัปเกรดซอฟต์แวร์อยู่ตลอด โดยปัจจุบันนี้ OS ที่ใช้คือ Android 13 และ Realme UI 4.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับสมาร์ทโฟนมากยิ่งขึ้น ในส่วนชิปนั้นเป็น Dimensity 920 ซึ่งเป็นชิปที่ทรงพลังและอัดแน่ไปด้วยศักยภาพมากมายเลยค่ะ ช่วยประหยัดพลังงาน ช่วยยกระดับความสามารถของกล้องให้สูงยิ่งขึ้น สามารถใช้งานได้ครอบคลุมตั้งแต่การท่องเว็บไซต์ทั่วไป ไปจนถึงการเล่นเกม แถมยังรองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ 5G อีกด้วยค่ะ
ข้อดี
- คุณภาพกล้องหลัก 50MP ที่น่าทึ่งมาก ๆ
- มีกล้อง Ultrawide มาให้ คุณภาพกล้องอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
- การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยที่เหมาะสม ทำออกได้ยอดเยี่ยม
- มี RAM สูงถึง 8GB ช่วยให้เครื่องทำงานได้ราบรื่น ไม่มีสะดุด
- ได้รับการอัปเกรด OS เป็น Android 13, Realme UI 4.0
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยอดเยี่ยม มาพร้อมการชาร์จเร็ว 60W
- เป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับระบบ 5G
- ระดับเสียงสูงสุดของลำโพงสเตอริโอน่าประทับใจ
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูงไปหน่อย
- หน้าจอไม่สู้แสง (เมื่อใช้งานที่พื้นที่แดดจ้า จะต้องพยายามเพ่งมองสักหน่อยค่ะ)
- มีการติดตั้ง Bloatware ไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งค่อนข้างเยอะไปทำให้รกเครื่อง
- อายุของแบตเตอรี่จะลดลงเร็วขึ้นหลังจากคุณอัปเดตเป็น Android 13
หน้าจอ | 6.4 inches / 1080 x 2400 pixels |
---|---|
ชิปเซ็ต / OS | Dimensity 920 / Android 12 อัพเกรดเป็น Android 13, Realme UI 4.0 |
RAM / ROM | 8GB / 128GB |
แบตเตอรี่ | 4500 mAh |
กล้องหลัง | 50 MP f/1.8 + 8 MP f/2.2 (ultrawide) + 2 MP f/2.4 (macro) |
กล้องเซลฟี่ | 16 MP f/2.4 |
Realme 9 โทรศัพท์มือถือ เรียวมี

ราคา 6,099 บาท*
เปิดตัวเมื่อพฤษภาคม 2022 ราคาเปิดตัว 7,999 บาท
Realme 9 เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง ๆ ที่มีกล้อง Ultrawide 8MP มาให้ด้วยนะคะ ในขณะที่กล้องหลักมีความละเอียดที่ 108MP ส่วนกล้องหน้าอีก 16MP เรียกว่าเป็นรุ่นที่มีสเปกกล้องดี มาพร้อมกับ RAM 6BG ที่รองรับทุกคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ FHD+ มีความละเอียดคมชัด มาพร้อมกับความจุแบตเตอรี่ที่ดีงามสามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ประหยัดพลังงานจริง ๆ ค่ะ
แม้ว่ารุ่นนี้จะมี Realme 9 แบบ 5G ให้เลือกซื้อ แต่ดูเหมือนว่ารุ่น 4G (รุ่นธรรมดา) จะเป็นที่นิยมมากกว่า เนื่องจากมีจอแสดงผลที่ดีกว่า, ชาร์จเร็วกว่า, กล้องหลักที่ดีกว่า และหน่วยความจำพื้นฐานมีพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่ารุ่น 5G ถึงสองเท่า จึงไม่แปลกใจเลยค่ะที่ Realme 9 จะมียอดขายสูงเช่นนี้ ข้อดีอีกอย่างของกล้องหลักคือความละเอียดสูงสุดของมันจะทำให้คุณสามารถถ่ายภาพซูมออปติคอล 3 เท่าได้สบาย ๆ เลยค่ะ
ข้อดี
- กล้อง 108MP ในสภาพแสงกลางวันค่อนข้างดี
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหมาะสม
- หน้าจอ Super AMOLED การแสดงสีที่แม่นยำ ความละเอียด 1080p
ข้อควรพิจารณา
- UI ไม่เสถียรในบางครั้ง ประสิทธิภาพอาจดีขึ้นหลังมีการอัปเกรด OS
- จะดีกว่านี้หาก Realme 9 ใช้ชิป Dimensity 810 SoC ของรุ่น 5G เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน
หน้าจอ | 6.4 inches / 1080 x 2400 pixels |
---|---|
ชิปเซ็ต / OS | Snapdragon 680 4G / Android 12, Realme UI 3.0 |
RAM / ROM | 6GB / 128GB |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh |
กล้องหลัง | 108 MP f/1.8 + 8 MP f/2.2 (ultrawide) + 2 MP f/2.4 (macro) |
กล้องเซลฟี่ | 16 MP f/2.5 |
Realme Narzo 50 5G โทรศัพท์มือถือ เรียวมี

ราคา 6,199 บาท*
เปิดตัวเมื่อพฤษภาคม 2022 ราคาเปิดตัว 7,999 บาท
ซีรีย์ Narzo ของ Realme มีตัวเลือกที่น่าสนใจมากมายอย่าง Realme Narzo 50 5G เองก็ถือว่าเป็นโทรศัพท์ที่เหมาะสำหรับการเล่นเกมเบา ๆ ด้วยอัตราการรีเฟรช 90Hz มันสามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ด้วย RAM 6GB อย่างไรก็ตาม คุณภาพของกล้องอยู่ในระดับกลาง ๆ ที่ไม่ได้โดดเด่นมากนัก โดยเฉพาะกับเมื่อคุณถ่ายในพื้นที่แสงน้อย
แต่หัวใจหลักของ Realme Narzo 50 5G อยู่ที่ชิปประมวลผลค่ะ เพราะใช้เป็นชิป MediaTek Dimensity 810 SoC ซึ่งเป็นชิปเซ็ตเดียวกับที่พบใน Realme 9 5G, Redmi Note 11T และสมาร์ทโฟนระดับกลางอื่น ๆ อีกมากมาย ชิปเซ็ตดังกล่าวทำงานได้ดีพอสมควรในแง่ของการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเล่นเกมเป็นครั้งคราว คุณจะไม่พบอาการแลคหรือความร้อนในขณะที่เปิดหลาย ๆ แอปพร้อมกันหรือตอนที่เล่นเกมทั่วไป แต่อาจมีอาการเฟรมตกที่เห็นได้ชัดในขณะที่เล่นเกมระดับไฮเอนด์ ในส่วนของความเร็วของการเล่นอินเทอร์เน็ตนั้น คุณสามารถสลับระหว่างเครือข่าย 4G และ 5G ได้ ซึ่งมันจะช่วยลดการใช้แบต ทำให้คุณสามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวันโดยการชาร์จเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ข้อดี
- Realme Narzo 50 5G ก็คือสมาร์ทโฟนที่ปลอมตัวเป็น Realme 9 5G ในราคาที่ถูกกว่า
- ประสิทธิภาพที่ราบรื่น
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน
- รองรับการชาร์จแบตที่เร็วขึ้น 33W
- รองรับสัญญาณ 5G
- หน้าจอสีสันสดใส
ข้อควรพิจารณา
- ลำโพงดังเพียงพอ แต่ขาดความคมชัด
- การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยจำเป็นต้องปรับปรุง
- ไม่เหมาะสำหรับการเล่นเกมหนัก ๆ
- เลนส์ Depth 2MP ที่ไร้ประโยชน
หน้าจอ | 6.6 inches / 1080 x 2412 pixels |
---|---|
ชิปเซ็ต / OS | Dimensity 810 / Android 12, Realme UI 3.0 |
RAM / ROM | 6GB / 128GB |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh |
กล้องหลัง | 48 MP f/1.8 + 2 MP f/2.4 (depth) |
กล้องเซลฟี่ | 8 MP f/2.0 |
realme C33 (มีนาคม 2023)

ราคา 3,853 บาท*
เปิดตัวเมื่อมีนาคม 2023 ราคาเปิดตัว 4,499 บาท
ฮั่นแน่!!! กำลังมีหลายคนนึกค้านอยู่ในใจว่า realme C33 จะเป็นรุ่นใหม่ได้อย่างไร ? ในเมื่อเปิดตัวไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 !!! จริง ๆ แล้วก็ไม่เชิงว่าเป็นรุ่นใหม่สักทีเดียวหรอกค่ะ แต่เนื่องจากทางแบรนด์วางจำหน่ายในช่วงเวลาที่ต่างกัน จึงทำให้ต้องการมีแยกรุ่น realme C33 เป็นปี 2023 ขึ้นมาด้วย

หากถามว่าทั้งสองมีความแตกต่างกันอย่างไร ? คำตอบคือโดยส่วนใหญ่แล้วสเปกแทบจะคล้ายกันมาก แต่รุ่นใหม่นี้จะมีหลายสีให้เลือกอย่างสี Sandy Gold, Aqua Blue และ Night Sea ในส่วนของฮาร์ดแวร์ก็ได้มีการอัปเกรด RAM จาก 3GB เป็น 4GB แทน ซึ่งจะช่วยให้รุ่นใหม่ทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้มีประสิทธิภาพไหลลื่นมากกว่ารุ่นเก่า
นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังได้เพิ่ม ROM หรือหน่วยความจำเครื่องจาก 64GB เป็น 128GB พร้อมรองรับพื้นที่เก็บข้อมูลที่ขยายได้สูงสุด 1TB ผ่านช่องเสียบการ์ด microSD ดังนั้นคุณจึงสามารถเก็บรูปภาพหรือดาวน์โหลดแอปและเกมต่าง ๆ ได้เยอะมากขึ้นโดยที่เครื่องไม่อืดหรือหน่วงเกินไป มาพร้อมกับ UI เวอร์ชันใหม่อย่าง Realme UI S Edition ที่ช่วยให้คุณใช้งานระบบได้สะดวกสบายและง่ายดายขึ้นข้อดี
- ราคาย่อมเยา
- คุณภาพกล้องที่ดี
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยอดเยี่ยม
- สิ่งที่เพิ่มมาจาก realme C33 (2022)
- มีตัวเลือกเฉดสีที่หลากหลาย
- มีการใช้ UI ใหม่อย่าง Realme UI S Edition
- มีการเพิ่ม RAM เป็น 4GB
- มีการเพิ่ม ROM เป็น 128GB
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับการเล่นเกมมากนัก แต่จะเหมาะสำหรับดู youtube, ฟัง spotify หรือ podcasts มากกว่า
- กล้องหน้าเพียง 5MP ในขณะที่เป็นรุ่นออกใหม่ในปี 2023 ถือว่าค่อนข้างน้อยเกินไปสำหรับคนที่ชอบถ่ายเซลฟี่
- ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ที่ควรเปลี่ยนใหม่ก็ยังคงใช้สเปกแบบเดิม อาทิเช่น
- ยังคงมีเลนส์ Depth 2MP ที่ไร้ประโยชน์
- ยังคงใช้พอร์ต micro-USB ที่ล้าสมัย
- ไม่อัปเดตกาชาร์จเร็ว ยังคงเป็นการชาร์จที่ 10W เหมือนเดิม
หน้าจอ | 6.5 inches / 720 x 1600 pixels |
---|---|
ชิปเซ็ต / OS | Unisoc Tiger T612 / Android 12, Realme UI S |
RAM / ROM | 4GB / 64GB |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh |
กล้องหลัง | 50 MP f/1.8 + 0.3 MP f/2.8 (depth) |
กล้องเซลฟี่ | 5 MP f/2.2 |
realme 10T 5G (มีนาคม 2023)

ราคา 8,999 บาท*
เปิดตัวเมื่อมีนาคม 2023 ราคาเปิดตัว 8,999 บาท
สำหรับรุ่นนี้จะมีให้คุณเลือก 2 แบบคือ RAM 4GB + ROM 128GB ในราคา 6,999 บาท ส่วนแบบที่เราแนะนำวันนี้จะเป็น RAM 8GB + ROM 256GB ที่มีราคาสูงขึ้นมาอีกหน่อย แน่นอนว่าในยุคที่ทุกคนต้องการความรวดเร็วในการดำเนินชีวิตประจำวัน หากคุณอยากซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ให้ทันยุคทันสมัยและสามารถใช้งานต่อไปได้อย่างน้อยอีก 3-4 ปี เราแนะนำให้คุณควรใช้ RAM เริ่มต้นที่ 8GB ไปเลยจะดีกว่าค่ะ แม้ว่าราคาจะสูงกว่าสักหน่อยแต่เป็นการลงทุนที่คุ้มมากกว่า อันดับแรกคุณจะสามารถเปิดเล่นหลาย ๆ แอปพร้อมกันได้อย่างต้องไม่กลัวว่าเครื่องจะร้อนหรือค้างแต่อย่างใด เหมาะสำหรับคนที่อย่างใช้สมาร์ทโฟนในการเล่นเกมด้วยนะคะ ต่อมาคือคุณจะได้ความจำเครื่องที่มากขึ้น ซึ่งช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างราบรื่นและสามารถเก็บข้อมูลต่าง ๆ ได้โดยที่คุณอาจจะไม่ต้องซื้อ microSD เสริมเลยค่ะ
ข้อดี
- ราคาเปิดตัวถูกกว่า realme 9i 5G
- แบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมรองรับการชาร์จแบบมีสาย 18W ที่เหมาะสม
- เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีกล้อง AI 3 เลนส์ (เลนส์หลัก 50MP, เทเลโฟโต้ 8MP และเลนส์มาโคร 2MP)
- ค่า RAM / ROM ที่น่าประทับใจ ลื่นไหลไม่มีสะดุด
- ชิปประมวลผล Dimensity 810 เป็น SoC ระดับกลางที่รวดเร็วมากพอจะรองรับการใช้งานที่หนักได้
ข้อควรพิจารณา
- สเปกเหมือน realme 9i 5G
- กราฟฟิกการ์ดระดับกลางสามารถเล่นเกม 3D ไฮเอนด์ได้บางเกมเท่านั้น
- หน้าจอสว่าง 360-400 nits ในราคา 8 พันกว่าบาท ถือว่ามีค่าน้อยเกินไป ควรสว่าง 600 nits ขึ้นไป เพื่อให้สามารถมองหน้าจอกลางแจ้งได้ง่ายขึ้น
หน้าจอ | 6.6 inches / 1080 x 2408 pixels |
---|---|
ชิปเซ็ต / OS | Dimensity 810 / Android 12, Realme UI 3.0 |
RAM / ROM | 8GB / 256GB |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh |
กล้องหลัง | 50 MP f/1.8 + 2 MP f/2.8 (telephoto) + 2 MP f/2.4 (macro) |
กล้องเซลฟี่ | 8 MP f/2.0 |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
คำแนะนำในการเลือก สมาร์ทโฟน Realme !
การเลือกซื้อมือถือใหม่สักเครื่องนั้นถือเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ตัดสินใจเลือกได้ยากมากครับ เพราะรุ่นนั้นก็สวย รุ่นนี้ก็แรง ยิ่งในยุคนี้มีสมาร์ทโฟนให้เลือกมากมายหลายรุ่น หลายราคา สำหรับวิธีเลือกสมาร์ทโฟนนั้น เราสามารถเลือกได้จากหลาย ๆ ปัจจัยครับและนี่ก็คือ วิธีการเลือกแบบง่าย ๆ ครับ

1. เลือกตามการใช้งานของคุณ
คนเรามีจุดประสงค์การใช้สมาร์ทโฟนอยู่ไม่กี่อย่างครับ ซึ่งในสมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้นมักใส่มีสเปกที่โดดเด่น ไม่อย่างใด ก็อย่างหนึ่งครับ เช่น ถ้าให้กล้องคุณภาพสูงมา สเปกโดยรวมของเครื่องก็จะถูกลดลง
หรือถ้าสเปกของเครื่องสูง สามารถจะเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล สเปกด้านการถ่ายภาพก็จะถูกลดลง เป็นต้น ดังนั้นเราแนะนำให้คุณถามตัวเองดูก่อนว่า อยากได้สมาร์ทโฟนมาใช้ทำอะไร ? ใช้สำหรับเรียนออนไลน์, ใช้ถ่ายภาพเป็นหลัก หรือใช้เล่นเกมเป็นหลัก

2. เลือกตามงบประมาณ
ซึ่งถ้าหากคุณมีงบประมาณจำกัด แต่ต้องการสเปกที่สูง ๆ เราขอแนะนำให้เลือกสมาร์ทโฟนรุ่นเก่า ๆ ครับ คุณจะพบว่า ในราคาประหยัดมันจะได้สเปกที่สูงมาก ๆ และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ใช้ก็แทบจะไม่ต่างกับรุ่นใหม่ ๆ เลย ซึ่งอาจจะต่างเพียงหน้าตาเท่านั้น
3. เลือกจากการเชื่อมต่อ

ในส่วนนี้ก็จะมีผลต่อการใช้งานของคุณโดยตรงครับ แน่นอนเราหมายถึง อินเทอร์เน็ต อย่างที่เราทราบกันดีครับว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ กำลังก้าวเข้าสู่ยุค 5G แล้ว ซึ่งรุ่นใหม่ ๆ ควรจะเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับสัญญาณ 5G ได้แล้วเพื่อความรวดเร็วในการใช้งานในเอินเทอร์เน็ต ซึ่งมักมาพร้อมกับราคาที่สูงขึ้น หากคุณต้องการไม่ต้องการใช้ระบบ 5G ก็จะช่วยประหยัดงบได้เยอะครับ แต่ต้องแลกมากับความช้าในการรับส่งข้อมูลทางออนไลน์สักหน่อย
4. แบตเตอรี่ การชาร์จ และพอร์ตชาร์จ
ต้องบอกว่าทั้ง 3 อย่างนี้มีความสำคัญเทียบเท่ากันหมด สำหรับความจุแบตเตอรี่ หากคุณต้องการใช้งานได้ตลอดทั้งวันควรเลือกสมาร์ทโฟนที่มีความจุเริ่มต้น 5000 mAh ซึ่งถือว่าเป็นความจุมาตรฐานในปัจจุบันนี้ครับ
ต่อมาก็คือการชาร์จใช้เวลามากน้อยแค่ไหน สมาร์ทโฟนบางรุ่นก็ออกแบบมาให้รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็สามารถชาร์จได้เต็ม 100% แต่โดยส่วนใหญ่มือถือในปัจจุบันนี้จะมีความสามารถในการชาร์จอยู่ที่ปรมะมาณ 18-33W ซึ่งถือว่าเป็นเกณฑ์มาตรฐานครับ หากคุณพบว่ามีกำลังในการชาร์จที่สูงกว่านี้ก็ได้ลังเลใจที่จะซื้อ เพราะมันคุ้มค่ากับเวลาในการชาร์จที่น้อยลง
ในส่วนของพอร์ตชาร์จปัจจุบันนี้หากเป็นสมาร์ทโฟนที่ออกมาใหม่ก็ควรเป็น USB Type-C ที่เป็นมาตรฐานใหม่ของวงการสมาร์ทโฟนครับ
บทสรุป
ปัจจุบัน “ตลาดสมาร์ทโฟนในบ้านเรา” ถือว่ามีการแข่งขันที่สูงมาก เพราะมีหลายแบรนด์ให้เลือกซื้อตั้งแต่ Apple, Samsung, Oppo, Vivo, Xiaomi, Nokia และแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งในแต่ละแบรนด์ก็มีฟังก์ชันและจุดเด่นที่ต่างกัน
อย่างในแบรนด์ Infinix, Oppo, Vivo และ Realme ส่วนใหญ่จะเน้นการผลิตสมาร์ทโฟนในราคาที่ย่อมเยา มีระบบกล้องระดับโปร มาพร้อมกับสเปกเครื่องที่คุณภาพสูงเกินราคา และมักจะออกรุ่นใหม่ ๆ มาให้ผู้ใช้อย่างเราได้ชมอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากแบรนด์ผู้ผลิตเหล่านี้ต้องการตีตลาดผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด
ซึ่งโดยปกติแล้วก็จะมีราคาหลายช่วงเลยครับ โดยเราสามารถแยกได้เป็นสมาร์ทโฟนไม่เกิน 3,000 บาท, สมาร์ทโฟนไม่เกิน 5,000 บาท และ สมาร์ทโฟนไม่เกิน 10,000 บาท ในช่วงราคาเหล่านี้คุณจะได้หน้าจอขนาดใหญ่ที่ภาพสวย คมชัด สามารถเล่นเกม ดูหนัง และฟังเพลงได้แบบสบาย ๆ ในส่วนกล้องก็มีคุณภาพพอใช้ได้ แต่อาจจะต้องเจาะลึกลงไปหน่อย เนื่องจาก สมาร์ทโฟนกล้องสวย 3,000-4,000 , 4,000-5,000 และ 7,000-10,000 ก็มีสเปกกล้องที่ต่างกันไป แต่ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นบอกเลยว่าที่ให้มาก็สามารถใช้งานทั้งวันแบบสบาย ๆ ซึ่งแน่นอนครับ
สำหรับสมาร์ทโฟนของ Realme (เรียลมี) ไม่ว่าจะรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ มักจะจัดสเปกมาให้อย่างเต็มที่ มีดีไซน์ที่ดูดี ดูพรีเมียม และมีสีสันที่สวยงาม ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า คุ้มค่ากับราคาทุกรุ่นจริง ๆ ถือเป็นแบรนด์ที่ทำสมาร์ทโฟนออกมาได้ดี และตอบโจทย์การใช้งานเป็นอย่างมาก ทั้งยังมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอีกมากมาย ดังนั้นจากคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมานี้ทำให้แบรนด์น้องใหม่อย่าง Realme (เรียลมี) ถือเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดแบรนด์นึงเลยครับ