หากเพื่อน ๆ กำลังมองหาไอเดียทำสีผมแบบใหม่ที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น สีเข้ม, สีอ่อน, สีแฟชั่น ไปจนถึงสีไฮไลท์ เพื่อน ๆ จะต้องติดตามเทรนด์สีผมจากเหล่าไอดอลเกาหลีเท่านั้นค่ะ เพราะพวกเขาคือผู้นำแฟชั่นที่ตรงไทป์คนไทยมากที่สุด รับรองทำออกมาแล้วสีผมสวย ไม่ตกเทรนด์ เดินออกจากบ้านได้อย่างมั่นใจ ว่าแล้วก็มาดูกันค่ะว่าจะมีสีผมไหนที่เหมาะกับเพื่อน ๆ กันบ้าง เตรียมตัวกดเซฟรูปรัว ๆ ให้นิ้วล็อคกันไปเลยจ้า!
1. ผมสี Apricot Blonde (สีแอปริคอทบลอนด์)

ผมสีส้มอมบลอนด์สว่าง แบบเจนนี่ แบล็คพิ้งค์
จริง ๆ แล้วผมโทนสีส้มที่นิยม ๆ กันมีหลายเฉดสีมากเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น สีส้มอมชมพู, สีส้มอมน้ำตาล, สีส้มอมแดง หรือจะเป็นสีส้มซูปเปอร์ส้มไปเลย ซึ่งแต่ละเฉดสีก็สวยกันคนละแบบ แต่ถ้าจะให้พูดถึงสีส้มที่มาแรงในขณะนี้ต้องยกให้เป็นสีส้ม Apricot Blonde เท่านั้นค่ะ เพราะเป็นเฉดสีที่สดใส ทำให้ Everyday Look ของคุณดูไม่น่าเบื่อ ช่วยขับผิวของคุณให้ขาวสว่างมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีผิวขาวเหลือง เพราะเวลาออกแดดผิวก็ยิ่งสว่างมีออร่าจับมากขึ้น รับรองถ่ายรูปออกมาแล้วขึ้นกล้องจริงอะไรจริง ไม่ต้องแต่งรูปให้เหนื่อยอีกต่อไปเลยค่ะ
2. ผมสี Platinum Blonde (สีแพลตตินั่มบลอนด์)

ผมสีบลอนด์อ่อนเกือบขาวอมสีเงิน แบบเจโฮป บีทีเอส
ปกติแล้วผมสีบลอนด์สว่างทั่วไปจะออกเหลือง ๆ ทอง ๆ หน่อยใช่มั้ยคะ แต่สำหรับผมสีบลอนด์แพลตตินัมนั้นจะต่างออกไป เพราะเป็นสีบลอนด์ที่สว่างมากกว่า การย้อมผมสีนี้จะเข้าไปดรอปเม็ดสีเหลือง ๆ เหล่านั้น ทำให้ได้ผลลัพธ์เป็นสีบลอนด์อ่อนในโทนที่เย็นขึ้น แต่จะไม่ใช่ผมขาวซะทีเดียวเหมือนสี Icy Blonde นะคะ สี Platinum Blonde จะออกเทานิด ๆ เป็นประกายคล้ายไข่มุก ทำให้ดูมีลูกเล่นมากกว่า มอบลุคที่ดูแปลกใหม่ หากย้อมทั้งหัวก็จะทำให้ดูออร่าจับมากขึ้น หรือหากจะย้อมแบบครึ่งหัวก็สวยเก๋ไปอีกแบบ เป็นโทนสีที่ทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เหมาะกับทุกสีผิว จะสายเกาหรือสายฝอ สี Platinum Blonde ก็คือยืนหนึ่ง!! ไม่มี Out แน่นอนจ้า
3. ผมสี Ash Blonde (สีแอชบลอนด์)

ผมสีบลอนด์สว่างหม่น ๆ อมเทา แบบเยจี อิทจี
Ash Blonde เป็นโทนสีผมที่เหมาะสำหรับทุกโอกาส ช่วยทำให้หน้าของคุณดูไบร์ทขึ้น ให้ลุคที่ดูสวยแพงแบบชนชั้นสูง เหมาะทั้งสายเกาสายฝอ มีความก้ำกึ่งระหว่างบลอนด์-ทอง-เทา สำหรับคนที่อยากย้อมผมสีบลอนด์ทองแต่ไม่มั่นใจ กลัวว่าตัวเองจะไม่เหมาะกับโทนสีสว่างแนะนำลองย้อม Ash Blonde ดูก่อนค่ะ เพราะจัดเป็นสีโทนเย็นกว่าเมื่อเทียบกับโทนสีอบอุ่นอย่างบลอนด์ทอง ข้อดีอีกอย่างของสี Ash Blonde คือมันเป็นสีเฉดบลอนด์แบบพาสเทลที่ค่อนข้างอ่อนมากจึงทำให้ง่ายต่อการเปลี่ยนสีผมครั้งต่อไปด้วยค่ะ
4. ผมสี Ash Gray (สีแอชเกรย์)

ผมสีเทาควันบุหรี่ สีเทาหม่น แบบแทยอน
สี Ash Gray หรือที่เราคุ้นกันดีในชื่อสีเทาควันบุหรี่ เป็นสีผมที่ฮิตมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ และดูเหมือนว่ายังคงความฮิตอย่างต่อเนื่องไปอีกหลายปี เพราะเป็นโทนสีผมที่เข้ากับทุกลุคทุกสไตล์ มอบลุคที่โฉบเฉี่ยวแต่ก็มีความซับซ้อนน่าค้นหาในตัว สี Ash Grey จัดเป็นสีผมโทนเย็น ถ้าสีผิวของคุณอยู่ในประเภท Warm Tone ผมสีนี้อาจไม่เหมาะกับคุณสักเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตามคุณสามารถเลือกสี Ash Grey ที่อุ่นกว่านี้ได้เพื่อให้เหมาะกับสีผิวของคุณ แน่นอนว่าการทำสีผม Ash Grey นั้นคุณจะต้องฟอกสีผมในระดับอ่อนสุดจนเกือบเป็นสีขาวเลยค่ะ เป็นสีผมที่ทำยากมาก ไม่แนะนำให้ย้อมด้วยตัวเอง และหลังย้อมเสร็จเม็ดสีเทาจะอยู่กับคุณได้ไม่นานเท่าไหร่ค่ะ เพราะสีเทาเป็นสีจางเร็วกว่าสีอื่นมาก ๆ
5. ผมสี Strawberry Milk (สีสตอเบอรี่มิลค์)

ผมสีชมพูนัว ๆ อมแดง มีความหม่น ๆ แบบลิซ่า แบล็คพิ้งค์
Strawberry Milk เป็นเทรนด์สีผมที่กำลังมาแรงในขณะนี้เหมาะสำหรับสายหวาน ที่มีลุคน่ารักสดใสแต่แอบซ่อนความเปรี้ยวซ่าไว้หน่อย ๆ โดยสีชมพูที่ว่านี้จะเป็นชมพูนัว ๆ อมแดงนิด ๆ ที่ไม่ใช่สีชมพูสดและก็ไม่เชิงว่าเป็นชมพูนมแบบพาสเทลด้วยค่ะ สำหรับสาว ๆ ที่อยากย้อมผมสีชมพูแต่ไม่แน่ใจว่าสีนี้จะเหมาะคุณหรือไม่? เคล็ดลับง่าย ๆ ในการเลือกผมสีชมพูที่เหมาะกับคุณมากที่สุดคือต้องเลือกโทนสีชมพูที่เหมาะกับผิวของคุณ เช่นสีชมพูบลอนด์เป็นสีโทนอบอุ่นจะเหมาะสำหรับคนที่มีผิว Warm Tone มากกว่า ในขณะที่สีชมพูอมฟ้า/อมม่วงจะเหมาะสำหรับคนที่มีสีผิว Cool Tone ค่ะ
6. ผมสี Ash Brown (สีแอชบราวน์)

ผมสีน้ำตาลหม่น อมเทาหน่อย ๆ แบบวี (แทฮยอง) บีทีเอส
สี Ash Brown เป็นเฉดที่ดูแพงแบบคุณหนู๊คุณหนู เป็นสีผมยอดฮิตของสาวไทย จัดอยู่ในโทนสีสุภาพ ที่ไม่ได้แฟชั่นจ๋าและก็ไม่ได้ดูธรรมชาติจนเกินไป เหมาะสำหรับทุกวัยตั้งแต่นักศึกษาไปจนถึงวัยทำงาน สี Ash Brown และ Ash Blonde เป็นโทนสีที่มองดูเผิน ๆ แล้วใกล้เคียงกันมากคือดูน้ำตาลหม่นทั้งคู่ แต่จะต่างกันตรงที่สี Ash Brown เน้นไปทางน้ำตาลเข้มมากว่า ส่วนสี Ash Blonde จะเป็นโทนน้ำตาลอ่อนประกายทองที่สว่าง การย้อมสี Ash Brown ให้ออกมาสวยได้นั้น สาว ๆ จะต้องปรับพื้นสีผมให้ได้สีบลอนด์ทองที่มีสีส้มติดมานิด ๆ จากนั้นจึงคอยลงสีหม่นทับลงไป ก็จะได้สีน้ำตาลหม่น ๆ ออกเทาหน่อย ๆ เป็นโทนสีในอุดมคติระหว่างโทนสีอบอุ่นและสีเย็น ช่วยเพิ่มความสว่างให้แก่ใบหน้า สามารถย้อมได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทั้งนี้ระดับความเข้มของ Ash Brown ก็จะมีหลายเฉด สำหรับสาว ๆ ที่ไม่มั่นใจอาจจะลองเป็น Dark Ash Brown ดูก่อนก็ได้ค่ะ
7. ผมสี Butter Blonde (สีบัตเตอร์บลอนด์)

ผมสีบลอนด์สว่าง นุ่มละมุ่น แบบ โรเซ่ แบล็คพิ้งค์
ผมสีบลอนด์ครีมเป็นสีที่มีเสน่ห์น่าดึงดูดและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน โดยสีบลอนด์ครีมจะมีหลายเฉดมาก ไล่ไปตั้งแต่บลอนด์โทนเย็นสีมุกไปจนถึงบลอนด์โทนอบอุ่นสีทอง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน หากคุณไม่แน่ใจว่าจะย้อมผมบลอนด์สีไหนดี เราแนะนำสี Butter Blond สุดคลาสสิก ที่จะเป็นสีบลอนด์โทนสว่างซีด ให้ความรู้นุ่มนวลละมุ่นราวกับเนย เป็นผมบลอนด์ที่ดูสุขภาพดีและดูเป็นธรรมชาติ เป็นสีที่เหล่าไอดอล K-pop นิยมย้อมกันเยอะมากเพราะจะให้ลุคที่โดดเด่นสดใส มีอันเดอร์โทนเป็นสีเบจที่จะคอยเปล่งประกายอย่างสวยงามเมื่อคุณออกแดดราวกับมีแสงสปอตไลท์ติดตัว บอกเลยว่าเป็นเฉดสีที่ฆ่าไม่ตาย และเป็นสีที่ง่ายต่อการเปลี่ยนสีผมเป็นสีอื่นอีกด้วยนะคะ แถมยังช่วยเสริมสีผิว Warm Tone ได้ดีกว่าสีบลอนด์แพลตตินั่มและสามารถดูแลรักษาได้ง่ายกว่าด้วย
8. ผมสี Very Peri (สีเวรี่ เพอริ)

ผมสีม่วงอมสีน้ำเงิน มีอันเดอร์เป็นม่วงอมแดง แบบคาริน่า เอสป้า
สี Very Peri เป็นสีได้รับการประกาศจาก Pantone (Pantone คือมาตรฐานของระบบสีระดับโลก) ว่าคือสีแห่งปี 2022 ที่มีอิทธิพลอย่างมากในด้านแฟชั่น เป็นเฉดสีที่ผสมผสานระหว่างสีน้ำเงินกับสีม่วง และมีอันเดอร์โทนเป็นสีม่วงแดงเข้ม เหมาะสำหรับคนอยากทำผมแนวสดใส เพื่อให้ได้ลุคที่ดูสวย เก๋ไก๋ และแปลกตา เป็นเฉดสีที่สามารถแมตช์ให้เข้ากับเสื้อผ้าได้หลากหลายสไตล์ และยังช่วยส่งให้ใบหน้าดูสว่างมากยิ่งขึ้น ซึ่งสีนี้จะเหมาะมาก ๆ กับคอนเทนต์เลนส์สีน้ำตาลอ่อนหรือสีเทา ทั้งยังเป็นสีที่ช่วยเพิ่มความโกลว์ให้กับผู้ที่มีผิวสีซีดเกินไป หากคุณไม่มั่นใจที่จะย้อมผมสีม่วง คุณสามารถลองทำไฮไลท์ด้วยเฉดสีนี้ดูก่อนก็ได้ค่ะ จากนั้นก็ดัดลอนผมให้เป็นเกลียวคลื่นขนาดใหญ่ วิธีนี้จะช่วยดึงดูดสายตาได้มากเลยทีเดียว
9. ผมสี Ruby Red (สีแดงรูบี้)

ผมสีแดงทับทิม ในเฉดสีแดงเข้มกับสีแดงสด แบบคังมินา
หากคุณสาว ๆ เบื่อสีพาสเทลหวาน ๆ หรือสีบลอนด์โทนสว่างกันแล้ว เราขอแนะนำให้คุณลองย้อมผมสีแดงดูค่ะ แม้ว่าสีแดงจะดูเหมือนเป็นสีที่ร้อนแรงเกินมนุษย์มนา จนอยากทำให้หลาย ๆ คนไม่กล้าย้อม แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าสีแดงเป็นสีที่ส๊วยสวย มีความแซ่บแบบพริกร้อยเม็ด ช่วยสร้างความโดดเด่นและช่วยขับผิวให้ขาวสว่างได้อย่างดี ซึ่งก็คงไม่มีสีแดงไหนที่จะสวยสง่าได้เท่ากับสีแดง Ruby อีกแล้วละคะ หากคุณกลัวว่าการย้อมสีผมแดงนั้นจะทำให้คุณดูเป็นคนแรง ๆ เกินไป แนะนำให้ย้อมแบบทูโทนระหว่างดำกับแดง ซึ่งจะให้ลุคดูเรียบง่ายไม่ฉูดฉาด แต่ก็ซ่อนความเก๋ความแซ่บเบา ๆ ช่วยทำให้ดูมีสไตล์ขึ้นเยอะเลยค่ะ
10. ผมสี Natural Brown (สีน้ำตาลธรรมชาติ)

ผมสีน้ำตาลดาร์กช็อกโกแลตดูเป็นธรรมชาติ แบบจีซู แบล็คพิ้งค์
สีน้ำตาลเป็นสีผมที่เซฟที่สุดในบรรดาเทรนด์สีผม 2022 ทั้งหมดที่เราแนะนำมา เป็นสีธรรมชาติที่เรียบง่าย มองดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบเปลี่ยนสีผมบ่อย ๆ โดยเฉพาะกับสีน้ำตาลเข้มนั้นจัดเป็นสีประจำตัวของเหล่าดาราไอดอลเกาหลีเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นโทนสีที่สุภาพ มีสไตล์ เหมาะกับทุกคน จริง ๆ แล้วโทนสีน้ำตาลนั้นมีตั้งแต่สว่างสุดไปเข้มสุด อย่างการย้อมสีน้ำตาลช็อกโกแลตก็เป็นการเพิ่มมิติให้แก่เส้นผมสีดำของคุณไม่ให้สีดูเรียบง่ายเกิน ใครที่เป็นคนหน้าดุหน่อย คุณอาจจะย้อมสีน้ำตาลเข้มเพื่อทำให้หน้าดูหวานขึ้นได้ แถมยังช่วยให้ดูเด็กลงด้วยนะคะ หรือคุณอาจจะทำไฮไลท์เป็นสีน้ำตาลอ่อนเพื่อเพิ่มความอ่อนหวานและนุ่มนวลให้กับตัวเองก็ได้เช่นกันค่ะ
บทสรุป
เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับเทรนด์สีผมที่เราแนะนำกันไปในวันนี้ สำหรับผู้เขียนแล้วขอยกให้สี Ash Brown เป็นหนึ่งเดียวในใจเพราะเป็นสีผมที่สวยสุภาพ ไม่ดูฉูดฉาดและไม่ดูเป็นธรรมชาติจนเกินงาม จัดเป็นสีในอุดมคติของใครหลาย ๆ คน เพราะทำแล้วรอดทุกราย แต่ก็เป็นโทนสีทำยากมากเช่นกัน หากเพื่อน ๆ ไม่มั่นใจในฝีมือการย้อมของตัวเอง แนะนำให้ย้อมกับช่างมืออาชีพที่มีประสบการณืดีกว่านะคะ สำหรับวันนี้ก่อนจากกันเรามีทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับรักษาสีผมให้คงเม็ดสีได้ยาวนานมากที่สุดมาฝากกันด้วยนะคะ
วิธีรักษาสีผม ให้ทนติดนานที่สุด
1. ใช้แชมพูสีม่วง
เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนในที่นี้ก็คงทราบกันดีว่าแชมพูสีม่วงจะช่วยรักษาสีผมได้โดยเฉพาะกับผมสีอ่อน แต่จะมีกี่คนที่ทราบว่าการสระผมด้วยแชมพูสีม่วงนั้นไม่เหมือนการสระผมทั่วไปที่สระเสร็จแล้วก็ล้างออกทันที เพราะคุณจะต้องหมักทิ้งไว้อย่าง น้อย ๆ 15-20 นาที หากคุณทำสีเทาอ่อนก็ควรหมักทิ้งไว้ 30 นาทีเลยค่ะ จากนั้นก็ให้ล้างออกด้วยน้ำเย็นเท่านั้นนะคะ ห้ามให้น้ำอุ่นเด้อสาว ๆ
![]() | TRESemmé คัลเลอร์ เรเดียนซ์ & รีแพร์ สำหรับผมกัดสีหรือทำสีอ่อน | |
![]() | แชมพูม่วง Schwarzkopf BC pH 4.5 Color Freeze Silver Shampoo | |
![]() | Joico Color Balance Purple Shampoo จอยโก้ แชมพูสีม่วงสำหรับผมทำสี |
2. หลีกเลี่ยงการโดนความร้อนและแสงแดด
ไม่ว่าเป็นไดร์เป่าผม, เครื่องหนีบผม, หรือเครื่องทำผมลอนก็ดี คุณควรหลีกเลี่ยงการโดนความร้อนกับเส้นผมโดยตรงหลังจากทำสีผมให้มากที่สุด เพราะความร้อนจะทำให้สีหลุดง่ายขึ้น หากจำเป็นต้องใช้ความร้อนในการจัดทรงผมจริง ๆ ควรใช้สเปรย์ป้องกันความร้อนก่อนหนีบหรือเป่าผมด้วยนะคะ
![]() | Dcash Intouch Spray Conditioner สเปรย์ป้องกันผมจากความร้อน | |
![]() | Lolane Pixxel Heat Protection Volume สเปรย์ป้องกันความร้อนสำหรับเส้นผม | |
![]() | LESASHA สเปรย์กันความร้อน Heat Protecting&Curling |
3. สระผมน้อยลง
จริงอยู่ที่ว่าเรามีแชมพูสีม่วงสำหรับรักษาสีผมแล้ว แต่ถ้าจะให้ดีคุณจะต้องลดความถี่ในการสระผมลงด้วยนะคะ เพราะยิ่งสระผมมากเท่าไหร่ สีที่ทำมาแพง ๆ ก็ยิ่งหลุดได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น สังเกตง่าย ๆ ทุกครั้งที่สระผมสีผมของเราจะซีดจางลงเรื่อย ๆ เพราะมันเป็นการชะล้างเม็ดสีออกในตัวนั่นเองค่ะ ที่สำคัญคือหลังทำสีเสร็จใหม่ ๆ ให้เว้นไว้สัก 2-3 วันก่อนจึงค่อยสระผมนะคะ เพื่อให้ตัวน้ำยาเซตตัวมากที่สุด
4. แว๊กซ์เคลือบเงาผม
แว๊กซ์เคลือบเงาผมนั้นต่างจากแว๊กซ์เปลี่ยนสีผมนะคะ (อย่าลงซื้อมาใช้ผิดเด้อสาว ๆ สีผมเพี้ยนไม่รู้ด้วยน๊า) สำหรับแว๊กซ์เคลือบเงาผมนั้นจะเป็นการช่วยล็อคสีผมให้ติดทนนานมากยิ่งขึ้น แถมยังทำให้เส้นผมดูเงางามเปล่งประกายมากขึ้นด้วย ทำให้สีผมยิ่งเด่นมากกว่าเดิม