วันนี้เรามีอีกหนึ่งจังหวัดทางภาคอีสานจะมาแนะนำ นั่นก็คือ จังหวัดหนองคาย เมืองแห่งตำนานพญานาคตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง หรือที่หลาย ๆ คนอาจจะรู้จักกันว่าเป็นเมืองแห่งบั้งไฟพญานาคที่จะเกิดในช่วงวันออกพรรษาเท่านั้น หนองคายเป็นจังหวัดทอดตัวยาวไปตามลำน้ำโขงซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกจังหวัดที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ตั้งอยู่ติดกับจังหวัดอุดรธานี ถึงแม้จะเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่มนต์เสน่ห์ที่ซ่อนอยู่กลับดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวต่างอยากมาสัมผัสความสงบและความสวยงามสักครั้ง

หนองคาย เดิมมีชื่อว่า หนองค่าย ซึ่งมีความหมายว่า “หนองน้ำบริเวณที่ตั้งของค่ายทหาร” แล้วเรียกเพี้ยนกันมาเป็นหนองคาย ในยุคสมัยรัชกาลที่ 5 บ้านหนองค่ายจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นหนองคายอย่างเป็นทางการตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ที่นี่เป็นจังหวัดที่มีแม่น้ำโขงกั้นระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว จังหวัดนี้ที่มีพื้นที่แคบแต่ทอดตัวยาวไปกับแม่น้ำโขง หนองคายเป็นจังหวัดแรกที่มีสะพานข้ามแม่น้ำโขงไปยังประเทศลาวดั่งคำขวัญประจำจังหวัดที่ว่า “วีรกรรมปราบฮ่อ หลวงพ่อพระใส สะพานไทย-ลาว” ⁽¹⁾ หากใครได้มาเที่ยวจังหวัดนี้รับรองว่าจะตกหลุมรักที่นี่แน่นอนค่ะ โดยเฉพาะสายบุญไม่ควรพลาดเพราะเมืองนี้มีวัดวาอารามที่สวยงามหลายแห่งที่ควรมาสักการะบูชา หรือจะเป็นธรรมชาติก็สวยงามไม่แพ้ที่อื่นเลย ไหน ๆ ก็มาถึงเมืองหนองคายที่เป็นชายแดนสุดเขตอีสานกันแล้วลองปักหมุดที่เที่ยวที่กันหน่อยว่ามีสถานที่เที่ยวไหนบ้างให้เราได้เช็กอิน ไปดูกันเลยจ้า

1. วัดโพธิ์ชัย

วัดโพธิ์ชัย ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองหนองคาย เป็นวัดที่ชาวจังหวัดหนองคายให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก เป็นวัดประดิษฐานหลวงพ่อพระใสที่ถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญของเมืองหนองคายเลยค่ะ โดยหลวงพ่อพระใสเป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบปางมารวิชัย นอกจากพระพุทธรูปแล้ววัดโพธิ์ชัยถือได้ว่าเป็นวัดทีมีความสวยงามทางด้านศิลปะภาพวาดอีกด้วย แต่เดิมวัดโพธิ์ชัยเป็นวัดร้างที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาเลย ภายในวัดจะมีประดิษฐานพระธาตุเจดีย์ลาวโบราณ ชาวบ้านนิยมเรียกติดปากกันว่า “วัดผีผิว” ดังนั้นทางผู้เป็นเจ้าเมืองและกรมการเมืองหนองคายจึงได้ปรึกษาและมีมติให้ทำการบูรณะวัดผีผิวแล้วทำการเปลี่ยนชือใหม่เป็น วัดโพธิ์ชัย แล้วได้อัญเชิญพระใสมาประดิษฐานไว้ที่วัดโพธิ์ชัย ตั้งแต่นั้นวัดโพธิ์ชัยจึงกลายเป็นวัดประจำเมืองหนองคายเป็นต้นมา ปัจจุบันได้ยกฐานะเป็น พระอารามหลวง อีกด้วยค่ะ

2. วัดถ้ำศรีมงคล (ถ้ำดินเพียง)

วัดถ้ำศรีมงคลหรือถ้ำดินเพียง ตั้งอยู่ในอำเภอสังคม เป็นวัดที่มีตำนานเกี่ยวกับพญานาค ชาวบ้านเชื่อกันว่าถ้ำแห่งนี้เป็นเส้นทางที่พญานาคใช้เดินทางเพื่อลงไปสู่เมืองบาดาล โดยภายในถ้ำจะมีน้ำชื้นอยู่ตลอดเวลาและมีลักษณะเป็นโพรงลอดผ่านเข้าไปได้ บางช่วงของถ้ำจะลาดต่ำและเป็นแอ่งน้ำ การเข้าชมภายในถ้ำต้องถอดรองเท้า มีระยะทางจากปากถ้ำไปจนถึงทางออกประมาณ 300 เมตร โดยมีทางเข้าและทางออกคนละเส้นทางกัน เมื่อเดินเข้าไปบริเวณปากถ้ำจะมีรูปปั้นพ่อปู่พญานาค พระพุทธรูปปางนาคปรกให้ได้กราบไหว้กันอีกด้วย เมื่อเดินเข้าไปภายในตัวถ้ำเรื่อย ๆ จะเห็นโขดหินที่สวยงาม ทางเดินภายในตัวถ้ำจะแคบเป็นบางช่วงบางตอน ทำให้ต้องย่อตัวหรือตะแคงผ่านซอกหินบ้าง

ถ้ำดินเพียงแห่งนี้มีลักษณะเป็นโพรงกลมที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำและเชื่อกันว่าถ้ำแห่งนี้เคยอยู่ใต้ลำน้ำโขงมาก่อน เป็นถ้ำพญานาค มีด้วยกัน 8 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องจะมีชื่อเรียกต่างกันไป จุดสำคัญของถ้ำอยู่ที่หินหัวช้างซึ่งมีความแคบมาก การที่จะผ่านจุดนี้ไปได้ต้องนอนราบแล้วคลานออกไป สำหรับการเช้าชมถ้ำดินเพียงด้านหน้าถ้ำจะติดข้อห้ามไว้ เช่น ห้ามหญิงมีครรภ์, ประจำเดือน, คนเป็นโรคหัวใจ หรือผู้ที่มีปัญหาข้อเข่าเสื่อม เนื่องจากบางช่วงต้องมีการก้มการนอนราบ เพราะเพดานถ้ำลาดต่ำและที่สำคัญจะต้องมีไกด์นำทางค่ะ

3. วัดผาตากเสื้อ

วัดผาตากเสื้อเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอสังคม เป็นวัดที่มีบรรยากาศร่มรื่น เงียบ สงบ ตัววัดตั้งอยู่บนยอดเขาสูง คุณจะต้องขับรถขึ้นไปตามเส้นทางถนนลาดยางที่สองข้างทางยังคงความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์เอาไว้ได้อย่างสวยงาม ถือว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งเลยค่ะ และวัดผาตากเสื้อไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่ปฎิบัติธรรมเท่านั้นนะคะ แต่ยังเป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมอีกแห่งในอำเภอสังคมอีกด้วย ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ Skywalk ริมหน้าผา กระจกใสรูปครึ่งวงรีที่คุณสามารถเดินออกไปชมความงามของสองฝั่งแม่น้ำโขงที่กั้นระหว่างไทย-ลาวได้แบบ 360 องศากันเลยทีเดียว

โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่นีเป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวจะมาเที่ยวชมทะเลหมอกในตอนเช้ากันมากมาย ซึ่งบรรยากาศตอนเช้าทะเลหมอกจะหนา ๆ หน่อยทำให้เรารู้สึกเหมือนยืนบนหมอกเลยค่ะ แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยเพราะที่นี่จะมีการกำหนดจำนวนคนขึ้นบน Skywalk ด้วย นอกจากช่วงหน้าหนาวแล้วที่นี่ยังสามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ

4. วัดไทย

วัดไทยเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในอำเภอโพนพิสัย เป็นวัดที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขงแล้วยังเป็นจุดชมบั้งไฟพญานาค (ปรากฏการณ์ที่ขึ้นชื่ออีกแห่งในจังหวัดหนองคาย) วัดแห่งนี้มีจุดเด่นที่มีรูปปั้นพญานาคนาคปรก 9 เศียร “นาคชัยยัญ” และรูปปั้นพญานาค 7 เศียร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง เมื่อเดินเข้าไปภายในบริเวณวัดแล้วจะมีถ้ำเมืองบาดาลจำลองให้ได้เที่ยวชม ซึ่งเป็นตำนานที่เล่าต่อ ๆ กันมาถึงเมืองหลวงของพญานาคแห่งโลกบาดาลที่อยู่ใต้แม่น้ำโขง เชื่อกันว่าประตูทางเข้าเมืองบาดาลอยู่ที่หน้าวัดแห่งนี้ ภายในถ้ำจำลองจะแบ่งเป็น 7 ห้อง แต่ละห้องจะบอกเล่าเรื่องราวของเมืองบาดาลที่เป็นสถานที่เก็บสมบัติแก้วแหวนเงินทองของพญานาค ส่วนบริเวณทางเดินจะมีภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังที่มีความวิจิตรตระการตาให้คุณได้ชื่นชมค่ะ

5. พันโขดแสนไคร้

พันโขดแสนไคร้ตั้งอยู่ในอำเภอสังคม เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของจังหวัดหนองคาย ถือได้ว่าเป็น Unseen แหล่งใหม่ก็ว่าได้ พันโขดแสนไคร้เป็นเกาะแก่งที่ตั้งอยู่กลางแม่น้ำโขงที่มีต้นไคร้จำนวนมากเติบโตขึ้นปกคลุมบนโขดหิน ซึ่งรูปร่างของหินมีลักษณะแตกต่างกันออกไปและมีความมันวาวของหินสีนิลดำดูแล้วสะดุดตาเป็นอย่างมาก จนได้รับสมญานามว่าเป็น “แกรนด์แคนยอนแม่น้ำโขงแห่งหนองคาย” แต่ที่นี่ไม่ได้มีแค่แก่งหินรูปร่างต่าง ๆ แต่ยังมีเนินทรายกลางแม่น้ำโขงอีกหลายจุดให้ได้ลงไปเดินเล่น ซึ่งไม่บ่อยนักที่จะมีโอกาสเหยียบหาดทรายกลางแม่น้ำโขงแบบนี้ พันโขดแสนไคร้แห่งนี้กินพื้นที่ในแม่น้ำโขงฝั่งหนองคายรวมประมาณ 5 กิโลเมตร การมาเที่ยวชมที่นี่แนะนำเป็นช่วงปลายฤดูหนาวจนถึงฤดูร้อน เพราะในช่วงนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงจะลด ทำให้สามารถมองเห็นโขดหินได้อย่างชัดเจนและถ่ายรูปออกมาได้อย่างสวยงาม

6. วังบัวแดง

วังหนองบัวแดง ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองหนองคาย เป็นหนองน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่มีเนื้อที่ถึง 2,000 ไร่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพราะที่นี่อุดมไปด้วยพันธุ์ปลาน้ำจืดและนกหลากหลายชนิด นอกจากนี้ยังมีดอกบัวอีกหลายพันธุ์ที่รวมอยู่ที่นี่ มีทั้งบัวแดง บัวขาว เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพธรรมชาติสุด ๆ หากมาเที่ยวที่นี่แนะนำให้มาช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน – มกราคมของทุกปี เพราะดอกบัวที่ชูดอกอยู่เหนือพื้นน้ำจะบานพร้อมกันดูสวยงามมาก มีทั้งสีชมพูอ่อนไล่ไปจนถึงสีแดงจัดจ้านแข่งกับความเจิดจ้าของดวงตะวัน เมื่อคุณนั่งเรือออกไปจะเป็นภาพบรรยากาศที่คุณอยู่กลางทุ่งดอกบัวสีแดงที่ไกลสุดลูกหูลูกตาตัดกับขอบสีฟ้าของท้องฟ้าเป็นอะไรที่สวยงามมาก นอกจากความสวยงามแล้วคุณยังได้สมัผัสดอกบัวแบบใกล้ชิดอีกด้วย ค่าเช่าเรือออกไปชมความงามของดอกบัวคิดราคา 100/ลำ นั่งได้ไม่เกิน 3 คนเพื่อความปลอดภัยค่ะ

7. ภูห้วยอีสัน

ภูห้วยอีสันอยู่ในอำเภอสังคมเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ทิตย์ขึ้นอีกแห่งหนึ่งของหนองคาย ที่เป็นที่นิยมเพราะนี่นี่เป็นจุดชมวิวแบบพาโนรามา เมื่อยามพระอาทิตย์ขึ้นจะเห็นแสงสีทองตัดกับทะเลหมอกสีขาวดูแล้วสวยงามมาก นอกจากนี้เบื้องล่างยังมองเห็นเกาะแก่งกลางแม่น้ำโขงกับบรรยากาศที่สุดจะประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ ซึ่งจุดชมวิวของภูห้วยอีสันนี้จะมีด้วยกัน 2 จุด คือจุดแรกจะเป็นจุดที่มีรถอีแต๋นบริการรับ-ส่ง ซึ่งตรงนี้จะมีลานชมวิวลดหลั่นกันไปอีก 3 จุด ในบริเวณนี้จะมีร้านขายอาหารเช้าแบบเบา ๆ ไว้คอยบริการ ส่วนจุดที่สองคุณองเดินเท้าขึ้นไปห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตรเพื่อไปยังจุดชมวิวสูงสุด จุดนี้สามารถมองเห็นวิวได้กว้างและสูงกว่าจุดแรก จุดนี้จะมี Skywalk แบบสะพานไม้ให้ยืนชมวิว ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาที่นี่ยังคงแนะนำเป็นช่วงฤดูหนาว ในการไปชมวิวที่นี่จะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวพักค้างคืนและไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวขึ้นไป เพราะมีรถอีแต๋นไว้บริการนักท่องเที่ยวอยู่แล้วค่ะ

8. น้ำตกธารทอง

น้ำตกธารทอง ตั้งอยู่ในอำเภอสังคม น้ำตกแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกแห่งในจังหวัดหนองคายโดยมีลักษณะเป็นธารน้ำไหลไปตามลานหินที่ลดหลั่นกันไปประมาณ 30 เมตร มีแอ่งน้ำที่เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ ตัวน้ำตกจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง ที่นี่เป็นน้ำตกขนาดเล็กแต่เหมาะกับมาเล่นน้ำและพักผ่อนหย่อนใจ เพราะบริเวณโดยรอบมีร่มไม้ค่อนข้างเยอะเพราะสภาพป่าบริเวณน้ำตกเป็นป่าดงดิบแล้งผสมป่าเบญจพรรณและเป็นป่ารุขชาติที่มีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น ช่วงที่เหมาะแก่การเที่ยวชมน้ำตกขอแนะนำเป็นเดือนมิถุนายน-ตุลาคม ยิ่งเป็นช่วงเทศกาลหรือวันหยุดจะมีนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนเล่นน้ำกันเป็นจำนวนมากกว่าปกติค่ะ

9. น้ำตกธารทิพย์

น้ำตกธารทิพย์ เป็นน้ำตกอีกแห่งที่ตั้งอยู่ในอำเภอสังคม น้ำตกธารทิพย์แตกต่างจากน้ำตกธารทองนิดหน่อยค่ะ นั่นก็คือน้ำตกธารทิพย์เป็นน้ำตกที่ไหลจากหน้าผาสูงลงมาเป็นสายสีขาวลงสู่แอ่งน้ำด้านล่าง มีด้วยกัน 3 ชั้น แต่ชั้นที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำกันมากจะเป็นชั้นที่ 2 ชั้นนี้ถือว่าเป็นชั้นที่สวยที่สุดของน้ำตกแห่งนี้และเป็นแอ่งน้ำที่เหมาะกับการเล่นน้ำ คุณสามารถมาชมความงามของน้ำตกแห่งนี้ได้ทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือช่วงหน้าฝนเพราะน้ำจะเยอะและสวยงามมาก ๆ น้ำตกธารทิพย์แห่งนี้ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นวนอุทยานน้ำตกธารทิพย์อีกด้วยนะคะ

10. วัดหินหมากเป้ง

วัดหินหมากเป้งตั้งอยู่ในอำเภอศรีเชียงใหม่ “หินหมากเป้ง” เป็นชื่อหินสามก้อนที่ตั้งเรียงกันอยู่ริมแม่น้ำโขงบริเวณหน้าวัดนั่นเองค่ะ โดยหินทั้งสามก้อนมีลักษณะคล้ายลูกตุ้มเครื่องชั่งทองคำในสมัยโบราณโดยคนท้องถิ่นจะเรียกว่า เต็งหรือเป้งยอย ส่วนคำว่า หมาก ภาษาถิ่นหมายถึงอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นลูกหรือผลไม้ จะขึ้นต้นด้วยคำว่าหมาก เช่น หมากพร้าว, หมากมี้, หมากแตง เป็นต้น จึงเป็นที่มาของคำว่าหินหมากเป้ง

โดยนักท่องเที่ยวที่มาวัดหินหมากเป้งส่วนใหญ่จะมากราบไห้วขอพรรูปเหมือนหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี แต่ที่นี่ไม่ได้มีแค่รูปเหมือนหลวงปู่เทสก์เท่านั้นนะคะ แต่ทีนี่ยังมี Skywalk ที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงซึ่งเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอีกแห่ง คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศสุดชิลกับวันสบาย ๆ ที่ Skywalk ของวัดหินหมากเป้ง ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของหนองคายกันเลย วัดหินหมากเป้งเป็นวัดที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ สงบ สะอาด กว้างขวาง บรรยากาศดี สายบุญไม่ควรพลาดเลยนะคะ

และนี่ก็คือ 10 ที่เที่ยวหนองคายที่เรารวบรวมมาแนะนำเพื่อน ๆ ในวันนี้ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หากใครกำลังวางแผนมาเที่ยวจังหวัดหนองคายไม่ควรพลาดที่จะมาเช็คอินกันนะ นอกจากสถานที่แนะนำแล้วจังหวัดหนองคายยังมีอะไรให้เราได้ค้นหากันอีกมากมายถึงแม้จะเป็นแค่จังหวัดเล็ก ๆ แต่ที่นี่ยังแฝงไปด้วยความเป็นถิ่นอีสานที่น่าสนใจ ยิ่งหากใครมีความเชื่อความศัทธาเกี่ยวกับพญานาคขอบอกเลยว่าที่นี่มีตำนานเกี่ยวกับพญานาคให้ได้ศึกษากันเกือบทั้งจังหวัดเลยค่ะ

อย่างไรก็ตามเมืองไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามรอคุณไปเยือนอีกมากมายเลยนะคะ โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่สามารถแบ่งออกเป็น 3 ตอน อันได้แก่ ตอนบน, ตอนกลาง และตอนล่าง โดยจังหวัดหนองคายนั้นถือว่าตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนกลุ่ม 1 ที่นอกจากจังหวัดหนองคายแล้วยังประกอบไปด้วยอีก 4 จังหวัด คือ จังหวัดอุดรธานี, จังหวัดเลย (แนะนำที่เที่ยวในภูเรือ–แนะนำที่เที่ยวเชียงคาน), จังหวัดหนองบัวลําภู และจังหวัดบึงกาฬ

สำหรับจังหวัดอื่น ๆ ทางภาคอีสานที่ทางเราได้เคยรีวิวไปแล้ว ก็มีจังหวัดนครพนม (แนะนำ 10 ที่เที่ยวนครพนม), จังหวัดขอนแก่น (แนะนำ 10 จุดเช็คอินขอนแก่น), จังหวัดอุบลราชธานี (แนะนำ 10 ที่เที่ยวอุบลราชธานี) และจังหวัดนครราชสีมา ที่รับรองว่าคุณไม่ควรพลาดจริง ๆ หากได้มาเยือนภาคอีสานแล้วก็อย่าลืมแวะกันด้วยนะคะ

Reference

1. จังหวัดหนองคาย