รีวิว ซีรีส์จีนยอดบุรุษพลิกคดี – A League of Nobleman

สวัสดีเพื่อน ๆ คอซีรีส์จีนทุกคนค่ะ ห่างหายกันไปนานกับการแนะนำซีรีส์แบบเต็มเรื่องเพราะตั้งแต่ปีใหม่มาผู้เขียนยุ่งมากค่ะ อีกทั้งยังต้องทำอัปเดตซีรีส์เกาหลีปี 2023 และซีรีส์จีนปี 2023 ด้วย เรียกได้ว่ายุ่งจนไม่มีเวลาได้ดูซีรีส์เลยค่ะ แต่เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีซีรีส์มาใหม่ ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ผู้เขียนอยากดูมาก ๆ ซีรีส์ที่ว่าก็คือ “ยอดบุรุษพลิกคดี (A League of Nobleman)” นั่นเองค่ะ

สาเหตุที่ผู้เขียนอยากดูซีรีส์เรื่องนี้เพราะเป็นซีรีส์ผ่านการดัดแปลงมาจากนิยายชื่อดัง “ยอดบุรุษพลิกคดี (The Mystery of Zhang Guo /张公案)” ผ่านการเขียนโดย “ต้าเฟิงกวากั้ว” ในนิยายเป็นการนำเสนอเรื่องการสอบสวน หลายคนอาจจะสงสัยว่าเป็นนิยายวายไหม จากที่ผู้เขียนอ่านผู้เขียนว่าไม่ใช่นิยายวายนะคะเพราะเน้นไปที่การสืบสวนมากกว่า เพียงแต่ว่าตัวละครหญิงมีบทบาทน้อยหลายคนจึงอาจจะคิดว่าเป็นนิยายวายค่ะ แต่ในซีรีส์ก็ชวนจิ้นอยู่นะคะ หากอยากรู้ว่าควรดูซีรีส์เรื่องนี้ดีไหม? วันนี้เราก็เอาจุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้มาฝากกันค่ะ

เรื่องย่อยอดบุรุษพลิกคดี (A League of Nobleman)

ยอดบุรุษพลิกคดี (A League of Nobleman) เป็นซีรีส์ที่บอกเล่าเรื่องราวการสืบสวนสอบสวน โดยจะพูดถึงจางผิง (ซ่งเหว่ยหลง) จางผิงเป็นชายหนุ่มรูปงามเขาได้เกิดและเติบโตในชนบท แต่โชคดีจางผิงมีความจำเป็นเลิศและใฝ่หาความรู้อยู่เสมอ เขาจึงสอบผ่านเป็นบัณฑิตและได้เดินทางเข้ามาในเมืองหลวงเพื่อเตรียมตัวสอบเป็นขุนนาง แน่นอนว่าจางผิงเป็นคนที่มีฐานะยากจนมาก การมาใช้ชีวิตในเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขา เมื่อมาถึงเมืองหลวงเขาได้พักอาศัยร่วมกับเฉินโจว (กั่วเฉิง) ที่เพื่อนที่ดีที่สุดของเขา

พวกเขาทั้งคู่อยู่ด้วยกันมานานและได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่เสมอ เพื่อหาเงินประทังชีวิตทั้งจางผิงและเฉินโจวได้เปิดแผงขายอาหาร ตัวของจางผิงได้ขายก๋วยเตี๋ยวเพราะเป็นเมนูอาหารที่เขาทำได้ดีและอร่อยที่สุด แต่ผู้คนในเมืองหลวงส่วนใหญ่จะดูถูกอาชีพพ่อค้าเพราะเป็นอาชีพชั้นต่ำ ดังนั้นจางผิงจึงถูกเพื่อนบัณฑิตดูถูกสารพัดแต่เขาก็ไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย

นอกจากจางผิงจะเป็นคนที่ใฝ่รู้แล้วเขายังมีความสามารถในการสืบสวนสอบสวนด้วย ไม่ว่าจะเป็นคดีไก่หาย เงินหาย เสื้อผ้าหายเขาก็จะช่วยชาวบ้านสอบสวนจนบางวันเขาไม่ได้ขายก๋วยเตี๋ยวสักชามด้วยซ้ำ แต่วันหนึ่งความสามารถในการสืบสวนของเขาก็เกือบจะทำให้หลันเจวี๋ย/เผยจือ (จิ่งป๋อหรัน) เดือดร้อน หลันเจวี๋ยเป็นรองเสนาบดีกรมพิธีการ ถึงแม้ว่าเขาจะดูเป็นคนที่จิตใจดีแต่จริง ๆ แล้วตัวเขาต้องเก็บซ่อนเรื่องราวไว้ในใจมากมายโดยเฉพาะเรื่องการตายของพ่อตัวเอง

หลันเจวี๋ยเล็งเห็นถึงความสามารถของจางผิงเลยอยากให้เขากลายเป็นผู้ช่วยของตัวเขา แต่นอกจากหลันเจวี๋ยแล้วผลงานของจางผิงยังไปเตะตาหวังโม่เหวิน (หงเหยา) ผู้ช่วยรองเจ้ากรมอาญาที่มีฉายาว่านักสืบเทวดาด้วย ซึ่งตัวหลันเจวี๋ยและหวังโม่เหวินเป็นเพื่อนกันมายาวนานมาก หลังจากนั้นเป็นต้นมาพวกเขาก็ร่วมสืบคดีด้วยกัน แต่วันหนึ่งพวกเขากลับต้องเข้าไปพัวพันกับคดีใหญ่ที่อาจจะทำให้ทั้งราชสำนักเกิดความสั่นสะเทือน ตัวของหวังโม่เหวินก็โดนดีดออกจากคดีนี้ ทั้งหลันเจวี๋ยและจางผิงจะทำอย่างไรต้องไปติดตามกันค่ะ

ข้อมูลทั่วไปของซีรีส์ A League of Nobleman : ยอดบุรุษพลิกคดี

ทำไมต้องดูซีรีส์เรื่องยอดบุรุษพลิกคดี (A League of Nobleman) ?

คำเตือน : มีสปอยล์

1. ซีรีส์ผ่านการดัดแปลงมาจากนิยายชื่อดัง

ยอดบุรุษพลิกคดี (A League of Nobleman) เป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากนิยายในชื่อเรื่องเดียวกันค่ะ โดยมีชื่อย่อยว่า The Mystery of Zhang Guo หรือ 张公案 ผ่านการเขียนโดยนักเขียนมากความสามารถ นามปากกาว่า “ต้าเฟิงกวากั้ว” ค่ะ ซึ่งผลงานนิยายสร้างชื่อของต้าเฟิงกวากั้วก็มีหลายเรื่องมากทั้งเรื่องไข่สารพัดนึก เสด็จอาและนิยายชุดหนี้ดอกท้อ ส่วนใหญ่นิยายของต้าเฟิงกวากั้วเป็นนิยายวายค่ะเลยขายดีเป็นอย่างมากทั้งในและต่างประเทศ

ยอดบุรุษพลิกคดีเป็นนิยายที่ขึ้นเป็นนิยายที่ขายดี (Best Seller) ในหมวดหมู่นิยายสืบสวนสอบสวนค่ะ อีกทั้งเป็นนิยายที่ได้รับความนิยมอย่างสูงหลังจากตีพิมพ์ในปี 2011 ด้วยค่ะ ตัวผู้เขียนเองเป็นคนที่ชอบอ่านนิยายจีนอยู่แล้วค่ะ สำหรับเรื่องยอดบุรุษพลิกคดีผู้เขียนชอบการผูกเรื่องและชอบการสืบสวนมาก ๆ แต่ด้วยตัวละครที่เยอะมากเกินไปทำให้เราจับทางได้ยากสักหน่อย นิยายมีทั้งหมด 5 เล่มค่ะ ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์บุ๊คส์ (Siam Inter Books) สามารถซื้อมาอ่านกันได้เลยค่ะ หากคุณเป็นคนที่ชอบนิยายแนวสอบสวนอยู่แล้วรับรองสนุกค่ะ

ยอดบุรุษพลิกคดี 1- 5 เล่มจบ

2. เป็นการประชันบทบาทกันระหว่างจิ๋งป๋อหรันและซ่งเหว่ยหลง พร้อมนักแสดงชั้นนำอีกมากมาย

ซีรีส์เรื่องยอดบุรุษพลิกคดี (A League of Nobleman) เป็นซีรีส์ที่ปล่อยตัวอย่างออกมานานมากแล้วค่ะแต่ไม่ได้ลงจอสักที ตัวผู้เขียนว้าวตั้งแต่มีการวางตัวนักแสดงเลยค่ะเพราะวางตัวนักแสดงได้ดีมาก อีกทั้งบทบาทที่ล็อกไว้ยังเหมาะสมกับตัวละครด้วย จากตารางของเราจะเห็นได้ว่านักแสดงนำทั้งหมดเป็นผู้ชายล้วนเลย ตามความรู้สึกของผู้เขียนนิยายที่นำมาดัดแปลงเป็นซีรีส์ไม่ใช่นิยายวายค่ะแต่เน้นไปที่การสืบสวนมากกว่า แต่เคมีในซีรีส์มันได้ค่ะเลยทำให้เรามองเป็นซีรีส์วายได้อย่างสบาย ๆ เลย ตอนนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกบทบาทของนักแสดงนำในแต่ละคนกันค่ะ

หลันเจวี๋ย/เพ่ยจือ (จิ่งป๋อหรัน)

หลันเจวี๋ยหรือเพ่ยจือเป็นคุณชายรูปงามและเฉลียวฉลาด เขาดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยรองเจ้ากรมพิธีการและเป็นผู้คุมสอบคัดเลือกขุนนาง ภายนอกหลันเจวี๋ยเป็นขุนนางที่จิตใจดีงามและเข้าถึงได้ง่าย แต่จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนเจ้าแผนการและมีความคิดที่ล้ำลึก เขาไม่ได้เป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่เกิดแต่ถูกสถานการณ์รอบข้างกดดัน เพราะมื่อ 20 ปีก่อนพ่อเขาหลันหลิน ขุนนางระดับสูงถูกฆ่าตายพร้อมข้อหากบฏขายชาติ หลันเจวี๋ยเลยพยายามทุกทางเพื่อสืบหาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน แต่เมื่อยิ่งค้นหาเรื่องก็ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิมซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนไปทั้งสำนัก บทบาทของหลันเจวี๋ยหรือเพ่ยจือผ่านการแสดงโดยนักแสดงหนุ่ม “จิ่งป๋อหรัน” ค่ะ ผู้เขียนเองเป็นแฟนคลับของเขาเลยค่ะ ซึ่งผลงานที่ผ่านมากของเขาคือเรื่องนักจิตวิทยาหญิง (Psychologist) ค่ะ ขอบอกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้จิ่งป๋อหรันสวยและหล่อในคนเดียวกันเลย

จางผิง (ซ่งเหว่ยหลง)

จางผิงเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาดี เขาเกิดและเติบโตในเมืองซีชวน จางผิงมีความสามารถรอบด้านเขาเป็นคนฉลาดและช่างคิด ความสามารถของจางผิงมีมากมาย เขาชอบประดิษฐ์คิดค้น มีความสามารถในด้านคำนวณและทำอาหารเก่ง แต่เนื่องจากเขาเป็นเด็กกำพร้าทำให้เขามีฐานะยากจนต้องหาเงินเลี้ยงตัวเอง จางผิงเลยหาเงินด้วยการขายบะหมี่โดยเขาจะเอาเงินนี้เพื่อเตรียมสอบเป็นขุนนาง จางผิงชอบไขคดีและชอบการสืบสวนมาก ๆ เขานับถือนักสืบเทวดามู่เย่เซิงเป็นอย่างมากและต้องการเจอเขาตัวเป็น ๆ และเขาเชื่อว่ามู่เย่เซิงต้องอยู่ในเมืองหลวงแน่ ความสามารถพิเศษอีกอย่างของจางผิงคือเขามีวิชา “บุปผาในคันฉ่อง จันทราในน้ำ” ที่สามารถย้อนเวลาและอ่านความทรงจำของแต่ละคนได้ แต่หากเขาใช้วิชานี้เขาจะหลับเหมือนตายไปหลายวัน แต่ความชอบในการสืบสวนของจางผิงก็มีข้อเสียเพราะหากเขาไขคดีไม่เสร็จเขาจะไม่ยอมหยุดมันทำให้เขาต้องเขาไปพัวพันกับเรื่องราวมากมาย บทบาทของจางผิงผ่านการแสดงโดย “ซ่งเหว่ยหลง” ค่ะ ผลงานที่สร้างชื่อของเขามีเยอะมากหนึ่งในนั้นคือถักทอรักที่ปลายฝัน (Go Ahead) ค่ะ เรื่องนี้ซ่งเหว่ยหลงหล่อมากค่ะ ขนาดเป็นหนุ่มยากจนยังหล่อเลยค่ะทุกคน ใครเป็นแฟนคลับต้องห้ามพลาดนะคะ

หวังโม่เหวิน (หงเหยา)

หวังโม่เหวินเขาเป็นผู้ช่วยรองเจ้ากรมอาญาและมีความสามารถในการสืบสวนมาก ๆ และได้รับฉายาว่าเป็นนักสืบเทวดาอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง หวังโม่เหวินเป็นเพื่อนสนิทของหลันเจวี๋ยมาอย่างยาวนาน หวังโม่เหวินเจอกับหลันเจวี๋ยครั้งแรกตอนที่หลันเจวี๋ยยังเป็นบัณฑิตอยู่ ต่อมาหลันเจวี๋ยสอบผ่านเป็นขุนนางทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นมากขึ้นและช่วยเหลือกันมาตลอด ผู้เขียนชอบเคมีระหว่างหลันเจวี๋ยและหวังโม่เหวินมาก ๆ สายตาเอยอะไรเอยคือเพื่อนจริงหรือคะ? ผู้เขียนว่าไม่ใช่นะคะ เพราะสายตาที่หวังโม่เหวินมองหลันเจวี๋ยมันเหมือนมองคนรักชัด ๆ ค่ะ เขียนพลางก็เขินพลางค่ะ บทบาทของหวังโม่เหวินผ่านการรับบทโดย “หงเหยา” ผลงานที่หลายคนคุ้นเคยกันดีคือซีรีส์เรื่องรักกันเมื่อวันฟ้าใส (Sunshine of My Life) เรื่องนี้หงเหยาก็หล่อมากทำไมซีรีส์เรื่องนี้เหมือนรวมคนหล่อไว้ขนาดนี้นะคะไม่เข้าใจเลย

กู่ชิงจาง (หวังตั๋ว)

กู่ชิงจางเป็นตัวละครปริศนาที่เราไม่อยากอธิบายเยอะค่ะ กู่ชิงจางเป็นเพื่อนกับหลันเจวี๋ยแต่เป็นสไตล์เพื่อนรักเพื่อนร้ายมากกว่า เพราะตัวกู่ชิงจางเป็นคนที่มีความลับเยอะมากและมีแนวโน้มว่าจะเป็นลาสบอสของเรื่องด้วย บทบาทของกู่ชิงจางผ่านการแสดงโดย “หวังตั๋ว” เราเชื่อเหลือเกินว่าไม่มีใครไม่รู้จักเขา เพราะเขาคือหนุ่มกล้ามแน่นจากภาพยนตร์เรื่อง หยิน หยาง ศึกมหาเวทสะท้านพิภพ : สู่ฝันอมตะ (The Yinyang Master Dream Of Eternity) นั่นเองค่ะ เรื่องนี้นอกจากความหล่อแล้วความสวยก็มีเยอะมาก ใครที่รอชมผลงานหวังตั๋วแนะนำค่ะ

3. ฉากการสืบสวนสอบสวนทำได้ดีมากและน่าติดตาม

ตั้งแต่ได้ดูตอนแรกผู้เขียนประทับใจฉากสอบสวนสืบสวนของยอดบุรุษพลิกคดี (A League of Nobleman) มากเพราะทำได้สมจริง ปกติแล้วผู้เขียนชอบดูการ์ตูนและซีรีส์แนวสืบสวนอยู่แล้วค่ะ อย่างการ์ตูนโคนันผู้เขียนก็ชอบมากดูทุกตอนตั้งแต่เด็กจนโตเลยเกิดความคลั่งไคล้ในการสืบสวนค่ะ ตัวผู้เขียนเองไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการสืบสวนมากนักแต่มองว่าซีรีส์ทำออกมาได้ดีเลยค่ะ โดยเฉพาะการแสดงให้เห็นถึงบทบาทและความสามารถของจางผิงเรียกได้ว่าเป็นการชี้ให้เห็นถึงการสืบสวนจริง ๆ ว่าต้องมีอะไรบ้าง อย่างเช่น จางผิงจะตรวจสอบทุกอย่างเลยทั้งเรื่องกลิ่น คราบ รอยนิ้วและการอ่านสายตาของแต่ละคนเพื่อนำไปสู่ต้นต่อของคดีอย่างแท้จริง

อีกทั้งในเรื่องยังมีการจำลองเหตุการณ์ของคดีเพื่อสืบหา มีการชันสูตรศพ ตรวจพิษและการหาต้นตอการตายของศพด้วย เมื่อพล็อตเรื่องได้วางแผนมาให้จางผิงเป็นคนที่มุ่งมันให้กับการสอบสวน ดังนั้นทุกอย่างจะต้องละเอียดและทำให้คนดูคิดตามได้ ในมุมมองของผู้เขียนถือว่าทางเรื่องทำได้ดีเลยเพราะผู้เขียนได้ดูและคิดตามจริง ๆ อีกส่วนหนึ่งที่ผู้เขียนชอบมากคือการโชว์ความสามารถในการคำนวณและการผลิตคิดค้นเครื่องทุ่นแรงของจางผิง เพราะส่วนที่เขาคิดค้นมาสามารถนำไปใช้งานได้จริง ฉากที่ผู้เขียนฮามาก ๆ คือฉากผ่าไม้ค่ะเพราะนอกจากจางผิงจะคิดที่ผ่าไม้ได้แล้ว เขายังรู้ด้วยว่าไม้อันไหนเอาไปก่อไฟแล้วทำอาหารแบบไหนจะอร่อยที่สุด จางผิงล้ำเลิศจริง ๆ ค่ะ

4. นำเสนอเรื่องราวมิตรภาพระหว่างเพื่อน

เรื่องที่ไม่พูดไม่ได้เลยก็คือทางเรื่องได้นำเสนอมิตรภาพระหว่างเพื่อนแบบเยอะมาก ๆ ทำให้เราได้เห็นว่าเพื่อนจริง ๆ ควรจะเป็นแบบไหน ความสัมพันธ์แรกที่เราอยากนำมาบอกกันคือความสัมพันธ์ของจางผิงและเฉินโจว ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมานานและคอยช่วยเหลือกันทุกเรื่อง ไม่ว่าจางผิงจะเดือดร้อนด้านไหนเฉินโจวก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเขา พร้อมกับบุกน้ำลุยไฟไปพร้อม ๆ กัน เมื่อเพื่อนทุกข์เขาก็ทุกข์เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถวัดได้ด้วยเงินทองจริง ๆ ค่ะสำหรับเฉินโจวและจางผิง

ส่วนอีกความสัมพันธ์หนึ่งคือหลันเจวี๋ยและหวังโม่เหวินค่ะ ทั้งสองเป็นเพื่อนกันมานานตั้งแต่หลันเจวี๋ยยังไม่ได้เป็นขุนนาง เมื่อหลันเจวี๋ยเป็นขุนนางแล้วความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ หลันเจวี๋ยเป็นขุนนางกรมพิธีการ ส่วนหวังโม่เหวินเป็นขุนนางตุลาการ ชีวิตของหลันเจวี๋ยลำบากหวังโม่เหวินก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเขาทุกทาง ส่วนหลันเจวี๋ยก็มีเบื้องหลังมากมายเขาต้องแบกรับข้อหากบฏของพ่อเขาไม่อยากให้หวังโม่เหวินมาเกี่ยวข้องกับเขามากเกินไปเพราะกลัวหวังโม่เหวินจะเดือดร้อน แต่ผู้เขียนขอแทรกนิดนึงค่ะว่าสายตาที่หวังโม่เหวินมองหลันเจวี๋ยไม่ใช่สายตามองเพื่อนแน่นอน แต่จะมองแบบไหนต้องไปดูค่ะ อิอิ

5. ภาพ ฉากและ CG ดีเยี่ยม

นอกจากการสืบสวนที่ยอดเยี่ยมแล้ว ภาพ ฉากและ CG ในเรื่องยอดบุรุษพลิกคดี (A League of Nobleman) ก็ดีมากเหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะฉากการใช้วิชา “บุปผาในคันฉ่อง จันทราในน้ำ” ของจางผิงค่ะ เพราะจางผิงจะต้องย้อนเข้าไปในความทรงจำของใคร ๆ หลาย ๆ คนซึ่งการย้อนความจำจะทำให้เขาได้เจอกับเหตุการณ์มากมาย มันเป็นฉากที่เหมือนภาพฝันซึ่งทางเรื่องทำออกมาดีมาก ภาพสีเสียงโทนของภาพมันดูกลมกลืนไปหมดเลยค่ะ ในจุดนี้เราจะได้เห็นถึงความทุ่มเทของเหล่าผู้กำกับ แต่แน่แหละค่ะทุกคนเพราะนักเขียนบทมี 5 คน ใช้ผู้กำกับมือทองอีก 2 คนผลงานเลยดีขนาดนี้ นักแสดงก็เคมีดีมากเป็นซีรีส์อีกเรื่องที่น่าติดตามเลยค่ะ