หากจะพูดถึงนางเอกอันดับต้น ๆ นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักนางเอกสาว “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” เป็นแน่ใช่มั้ยคะ? ญาญ่านั้นเริ่มเข้าวงการในปี 2551 จากละครซิคคอมที่ชื่อว่า “เพื่อนซี้ล่องหน” จากนั้นก็เลื่อนมาเป็นละครหลังข่าวในปี 2553 จากละครเรื่อง “กุหลาบไร้หนาม” และละครที่ทำให้เธอเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่จับตามองมากยิ่งขึ้นก็คงจะเป็น “ดวงใจอัคนี” ที่แสดงกับคู่จิ้นทั้งในจอนอกจออย่างพระเอกหนุ่ม “แบรรี่” หรือ “ณเดชน์ คูกิมิยะ”
ด้วยฝีมือการแสดงแบบก้าวกระโดดของญาญ่าที่ทำให้เธอสามารถครองใจประชาชนไปทั่วประเทศ ถึงขั้นที่มีฉายาเรียกเธอว่า “เจ้าแม่พรีเซ็นเตอร์” เนื่องจากความ popular ของเธอนั้นไม่สามารถหยุดได้จริง ๆ ไม่ว่าเธอจะเล่นละครเรื่องไหน ก็ดูเหมือนทุก ๆ อย่างจะช่วยส่งเธอให้ดังยิ่งขึ้นและสร้างฐานแฟนคลับมากยิ่งขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ แม้ว่าคุณอาจจะไม่ใช่แฟนคลับตัวยงของเธอ แต่คุณอาจจะเคยได้ยินผลงานของเธอผ่านหูมาแล้วบ้างในช่วงล่าสุด อย่าง “กลิ่นกาสะลอง” ที่รับบทเป็นฝาแฝดนิสัยต่างกัน อีกทั้งยังต้องพูดภาษาท้องถิ่นในเรื่องอีกด้วยนะคะ ซึ่งถือว่าเป็นการพิสูจน์ฝีมือของเธออย่างแท้จริงและสามารถกลบข่าวละครดังเพราะกระแสคู่จิ้นไปได้อย่างสิ้นเชิง อันที่จริงแล้วญาญ่ายังมีผลงานที่น่าสนใจอีกมากมาย ซึ่งหากคุณอยากตามเก็บผลงานด้านการแสดงของเธอแล้วละก็วันนี้เราก็มีละครที่สนุก ๆ รับรองว่าคุณจะต้องหลงรักนางเอกสาวคนนี้เข้าอย่างจัง จะมีเรื่องไหนน่าดูบ้างมาอ่านไปพร้อมกันเลยค่ะ
1. ดวงใจอัคนี

ประเภท | โรแมนติก ดราม่า |
นักแสดงนำ | ณเดชน์ คูกิมิยะ และ อุรัสยา เสปอร์บันด์ |
จำนวนตอน | 10 ตอน |
ปีที่ฉาย | 2553 |
อำนวยการผลิตโดย | โนพลอบเล็ม จำกัด (แหม่ม ธิติมา สังขพิทักษ์) |
ดวงใจอัคนี เป็นหนึ่งในละครชุด “4 หัวใจแห่งขุนเขา” ที่ทำละครแบ่งออกเป็นเรื่องย่อย ๆ ซึ่งในเรื่องนี้ ญาญ่า ก็ได้แสดงคู่กับ ณเดชน์ เป็นเรื่องแรกอีกด้วยนะคะ เริ่มเรื่องด้วยอัคนี (รับบทโดย ณเดชน์) และอัจจิมา (รับบทโดย ญาญ่า) ทั้งคู่นั้นไม่ถูกกันมาก ๆ และยังเป็นคู่แข่งกันมาตลอดตั้งแต่สมัยเด็ก อีกทั้งยังเป็นมีเรื่องในอดีตระหว่างพ่อแม่ที่ทำให้ทั้งสองครอบครัวไม่ลงลอยกันอีกด้วย ซึ่งทั้งอัคนีและอัจจิมาต่างก็ต้องดูแลกิจการของครอบครัวที่เป็นฟาร์มในอาณาเขตใกล้ ๆ กัน ทำให้ทั้งคู่จะต้องเจอหน้าและปะทะคารมใส่กันบ่อย ๆ แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ทั้งคู่เข้าใจผิดว่าพวกเขามีอะไรที่ลึกซึ้งต่อกัน เหตุการณ์ไม่คาดฝันครั้งนี้จะทำพวกเขาเปลี่ยนความเกลียดชังให้เกิดเป็นความรักกันได้หรือไม่ และทั้งคู่จะปรับความเข้าใจผิดนี้ไปได้หรือเปล่า รวมถึงความบาดหมางระหว่างครอบครัวจะสามารถยุติได้หรือไม่ ต้องไปตามลุ้นกันเองในละคร “ดวงใจอัคนี” นะคะ
2. เกมร้ายเกมรัก

ประเภท | โรแมนติก ดราม่า |
นักแสดงนำ | ณเดชน์ คูกิมิยะ และ อุรัสยา เสปอร์บันด์ |
จำนวนตอน | 21 ตอน |
ปีที่ฉาย | 2554 |
อำนวยการผลิตโดย | ละครไท จำกัด (อำไพพร จิตต์ไม่งง ผู้กำกับ) |
สำหรับละครเรื่อง “เกมร้ายเกมรัก” นั้นเป็นอีกหนึ่งละครที่นางเอกสาวญาญ่าได้แสดงคู่กับพระเอกหนุ่มแบรี่อีกครั้งในปี 2554 ซึ่งบทบาทในครั้งนี้ก็เป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างดราม่า เริ่มเรื่องจากนางเอกของเราที่ชื่อว่า “ฟ้าลดา” (รับบทโดย ญาญ่า) หญิงสาวที่สูญเสียความทรงจำจากเหตุการณ์บางอย่าง และเมื่อเธอฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวอยู่บนเกาะแห่งหนึ่งที่มีชายหนุ่มนามว่า “สายชล” (รับบทโดย ณเดชน์) เป็นคนที่ค่อยดูแลเธอทุกอย่างเพราะว่าเธอจำอะไรไม่ได้เลย สายชลจึงตั้งชื่อให้เธอใหม่ว่า “นางฟ้า” และเมื่อเวลาผ่านไปร่วมปีก็ทำให้ทั้งคู่ต่างเริ่มตกหลุมรักกันจนตกลงยอมเป็นของกันและกันในที่สุด เรื่องราวเหมือนจะจบลงอย่างสวยงาม แต่ในความจริงมันเป็นการเริ่มต้นเท่านั้น เพราะมีบางสิ่งที่ทำให้ทั้งคู่ต้องจากกัน ตัวนางฟ้าเองก็ได้ความทรงจำเก่าคืนกลับมาเป็นฟ้าลดาคนเดิม และสายชลเองก็ได้พลิกชะตาชีวิตกลายเป็นนักธรุกิจหนุ่มที่ร่ำรวยของสายการบินแห่งหนึ่ง เมื่อทั้งคู่กลับมาเจอกันอีกครั้งในเวอร์ชันใหม่ที่ไม่ใช่ชาวเกาะ ทำให้สายชลโกรธแค้นฟ้าลดามาก ๆ เพราะเขาที่ยังคงจำเรื่องราวทุกอย่างได้ดีและคิดว่าฟ้าลดาไม่เหลือเยื่อใยให้กับเขาอีกแล้ว ส่วนฟ้าลดาผู้ที่สูญเสียความทรงจำระหว่างที่อยู่บนเกาะไป ก็ได้แต่ตั้งคำถามที่เกิดความสับสนในใจทุกครั้งที่เจอหน้าสายชล จนทำให้ทั้งคู่เข้าใจผิดกัน และเกิดเป็นความบาดหมางที่ไม่ลงลอยกันสักเท่าไหร่ เรื่องราวที่สุดแสนจะกลับตาลปัตรเหล่านี้จะสามารถแก้ไขให้กลับมาได้เหมือนเดิมหรือไม่ มาเอาใจช่วยพวกเขาไปด้วยกันในละคร “เกมร้ายเกมรัก” ได้เลยค่ะ
3. ธรณีนี่นี้ใครครอง

ประเภท | โรแมนติก ดราม่า |
นักแสดงนำ | ณเดชน์ คูกิมิยะ และ อุรัสยา เสปอร์บันด์ |
จำนวนตอน | 17 ตอน |
ปีที่ฉาย | 2555 |
อำนวยการผลิตโดย | โนพลอบเล็ม จำกัด (แหม่ม ธิติมา สังขพิทักษ์) |
“ธรณีนี่นี้ใครครอง” เป็นละครสุดคลาสสิกที่เวอร์ชันเก่าเป็นของหนุ่มแอนดริวและสาวป๊อก เล่นไว้ได้อย่างน่ารักน่าชังและกลายเป็นละครในดวงใจใครไปหลายคน สำหรับในเวอร์ชันนี้ก็ได้คู่จิ้นในตำนานอย่างณเดชน์และญาญ่ามาถ่ายทอดบทบาทของตัวละครที่จะสามารถทำได้ดีหรือไม่ต้องมาดูกันเอาเองนะคะ เริ่มต้นเรื่องราวของ “อาทิจ” (รับบทโดย ณเดชน์) ชายหนุ่มผู้ที่ต้องมาดูแลไร่ของคุณ “ย่าแดง” ตามคำสั่งของพ่อ เค้าได้พยายามพัฒนาที่ดินที่ว่างเปล่าให้กลายเป็นไร่ที่มีคุณค่าโดยมีย่าแดงเป็นผู้สนับสนุน ซึ่งที่ไร่แห่งนี้ก็ยังมีเด็กสาวที่ชื่อว่า “ดรุณี” (รับบทโดย ญาญ่า) ซึ่งเธอเด็กในอุปการะของย่าแดงและอาศัยอยู่กับย่าแดงตลอดเวลา การมาของอาทิจทำให้ดรุณีรู้สึกไม่พอใจและไม่ชอบขี้หน้าเขามาก ๆ เพราะเธอก็กลัวว่าอาทิจจะแย่งความรักจากย่าแดงที่มีให้เธอไปจนหมด จนทำให้ทั้งคู่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอดเวลาที่เจอหน้ากัน แต่แล้วเมื่อย่าแดงเสียชีวิตลง ทำให้ดรุณีต้องมาเป็นเด็กในการอุปการะของอาทิต่อ ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่างทำให้ทั้งคู่เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น แต่ด้วยวัยที่ต่างกันและสถานะของทั้งคู่นั้นก็เป็นเด็กในความดูแลกับผู้ปกครอง จะทำให้พวกเขาลงเอยกันได้หรือไม่ต้องมาติดตามชมในละคร “ธรณีนี่นี้ใครครอง” เลยค่ะ
4. หนึ่งในทรวง

ประเภท | โรแมนติก |
นักแสดงนำ | จิรายุ ตั้งศรีสุข และ อุรัสยา เสปอร์บันด์ |
จำนวนตอน | 17 ตอน |
ปีที่ฉาย | 2555 |
อำนวยการผลิตโดย | โนพลอบเล็ม จำกัด (ป้าแจ๋ว ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์ ผู้กำกับ) |
สำหรับ “หนึ่งในทรวง” นั้นเป็นละครเรื่องแรกที่ญาญ่าได้เล่นคู่กับเจมส์จิ ซึ่งหนึ่งในทรวงจะเป็นละครย้อนยุคหน่อย ๆ แต่ก็ให้บรรยากาศที่ดูแล้วสบายตาและผ่อนคลายมาก ๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคลายเครียดมากค่ะ โดยเรื่องราวนั้นเริ่มต้นเมื่อคุณ “หนึ่ง” หรือ อนวัช (รับบทโดย เจมส์จิ) เป็นหนุ่มหล่อร่ำรวยที่พึ่งกลับมาจากเมืองนอก เขามีนิสัยชอบเอาชนะ ไม่ชอบให้คนขัดใจ หรือมาอวดเก่งใส่ และด้วยคุณสมบัติด้านฐานะและหน้าตาทำให้เขาได้กลายเป็นที่หมายปองของสาว ๆ ทั่วทั้งพระนคร แต่คุณหนึ่งกลับโดนเด็กสาวหน้าตาดีที่มีท่าทีไม่ชอบเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นปฏิเสธที่จะเต้นรำด้วยในงานเลี้ยง จนทำให้คุณหนึ่งไม่พอใจและต้องการรู้จักว่าเธอเป็นใครถึงกล้ามาปฏิเสธเขาและแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าไม่ต้องการเจอหน้าเขา ซึ่งหญิงสาวคนนั้นก็คือ “ปุ้ม” หรือ หทัยรัตน์ (รับบทโดย ญาญ่า) เพราะเธอมีความทรงจำในวัยเด็กที่ทำให้เธอไม่ชอบคุณหนึ่งเอามาก ๆ และพยายามจะหลีกเลี่ยงไม่เจอหน้าคุณหนึ่ง จนทำให้คุณหนึ่งยิ่งอยากเอาชนะเธอมากขึ้น จึงได้เกิดเป็นความรักโดยที่ทั้งคู่ต่างไม่รู้ตัว ซึ่งในเรื่องทั้งคู่ต่างก็เป็นคนที่ปากแข็งและไม่ยอมใครเหมือนกัน จึงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้พวกเขายอมรับความจริงที่ว่าพวกเขามีใจให้กัน แล้วท้ายที่สุดแล้วใครจะเป็นคนบอกความในใจก่อน เราต้องไปดูกันเองในละครเรื่อง “หนึ่งในทรวง” นะคะ
5. รอยฝันตะวันเดือด

ประเภท | โรแมนติก / แอ็คชั่น / ดราม่า |
นักแสดงนำ | ณเดชน์ คูกิมิยะ, อุรัสยา เสปอร์บันด์, พิชญะ นิธิไพศาลกุล, มาริโอ้ เมาเร่อ และณฐพร เตมีรักษ์ |
จำนวนตอน | 12 ตอน |
ปีที่ฉาย | 2557 |
อำนวยการผลิตโดย | เมคเกอร์ วาย กรุ๊ป (จ๋า ยศสินี ณ นคร) |
หลังศึกล้างแค้นระหว่างตระกูล โอนิสึกะ และ มิซาว่า จบลง ริว (ณเดชน์ คูกิมิยะ) โซเรียวลำดับที่ 20 ของตระกูลโอนิสึกะก็ได้รับการยอมรับจากคนในตระกูล แต่เขากลับโดน มายูมิ (อุรัสยา เสปอร์บันด์) หญิงสาวที่ทางผู้ใหญ่เลือกให้เป็นคู่ครองปฎิเสธเนื่องจากริวไม่มีทีท่าสนใจเธอเลยแม้แต่น้อย ริวที่ไม่เคยโดนผู้หญิงปฎิเสธจะยอมเสียหน้าไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อเขารู้ว่า ยูจิ (พิชญะ นิธิไพศาลกุล ) ลูกชายตำรวจใหญ่กำลังหมายปองเธออยู่ แต่มายูมิไม่มีทางแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักเธอแน่นอนและท้าให้ริวทำให้เธอรู้สึกรักให้ได้ก่อน การออกเดทของทั้งคู่จึงเริ่มเต้นขึ้น แต่ไม่นานคู่ควงเก่าของริวปรากฏตัวขึ้นและทำให้มายูมิรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากจึงกันไปออกเดทกับยูจิแทน ริวทนไม่ได้จึงบังคับให้มายูมิอยู่ที่บ้านของเขาและไม่ปล่อยให้ออกไปไหนอีกเลย ความรักของทั้งคู่ไม่ได้โรยด้วยกลีบซากุระเมื่อปัญหาระหว่างตระกูลโอนิซึกะและมาซาว่ากลับลุกเป็นไฟขึ้นมาอีกรอบ ร้อนถึง ทาเคชิ (มาริโอ้ เมาเร่อ) และ แพรวดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) ต้องเข้ามาช่วยเหลือ
6. คลื่นชีวิต

ประเภท | โรแมนติก ดราม่า |
นักแสดงนำ | ปริญ สุภารัตน์ และ อุรัสยา เสปอร์บันด์ |
จำนวนตอน | 15 ตอน |
ปีที่ฉาย | 2560 |
อำนวยการผลิตโดย | ละครไท จำกัด (อำไพพร จิตต์ไม่งง ผู้กำกับ) |
“คลื่นชีวิต” เป็นละครอีกเรื่องที่นางเอกสาวญาญ่าได้โคจรกลับมาประกบคู่กับพระเอกหนุ่มอย่าง “หมาก ปริญ“ อีกครั้ง โดยเรื่องนี้เป็นผลงานที่ทำให้ใคร ๆ ต่างชื่นชมในความสามารถด้านการแสดงของเธอที่พัฒนามากขึ้นจนเห็นได้ชัด เรื่องราวนั้นเริ่มต้นขึ้นจากดาราสาวแสนสวย “จีราวัจน์” (รับบทโดย ญาญ่า) เธอเป็นคนที่ตั้งใจขยันทำงานมาก แต่เมื่อแม่ของเธอก็ได้แต่งงานใหม่กับผู้ชายฐานะร่ำรวยที่มีอิทธิพล ซึ่งดูเหมือนจะไม่ใช่คนดีสักเท่าไหร่ เพราะพ่อเลี้ยงของเธอนั้นต้องการที่จะเชยชมตัวของเธอด้วยเช่นกัน จึงได้วางแผนมอมยาเธอเพื่อหวังจะขื่นใจ แต่เธอก็สามารถหนีมาได้ด้วยสติและร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ เธอพยายามขับรถหนีแต่ก็ต้องเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิด เพราะว่าเธอได้ขับรถชนผู้หญิงคนหนึ่งตายโดยที่ไม่ตั้งใจ หญิงสาวผู้โชคร้ายคนนั้นคือคู่หมั้นของทนายหนุ่มที่ชื่อว่า “สาธิต” (รับบทโดย หมาก ปริญ) สาธิตที่โกรธแค้นจีราวัจน์อย่างมาก เขาตั้งใจจะแก้แค้นเธอและเอาผิดกับเธอให้ได้ แต่สุดท้ายเขาก็พบว่าแท้จริงแล้วเธอก็เป็นผู้หญิงที่โดนกระทำด้วยเช่นกัน จนทำให้เขารู้สึกเห็นใจเธอและตกหลุมรักจากความดีของเธอ แต่ด้วยความรู้สึกผิดในใจที่มีต่อคู่หมั้นที่ตายไปแล้วทำให้เขารู้สึกสับสนและพยายามที่จะหยุดรักเธอให้ได้ ซึ่งเขาจะทำอย่างไรต่อความรักที่ไม่ได้ตั้งใจในครั้งนี้ต้องมาเอาใจช่วยพวกเขาได้ในละคร “คลื่นชีวิต” เลยค่ะ
7. เล่ห์ลับสลับร่าง

ประเภท | โรแมนติก คอมเมดี้ |
นักแสดงนำ | ณเดชน์ คูกิมิยะ และ อุรัสยา เสปอร์บันด์ |
จำนวนตอน | 10 ตอน |
ปีที่ฉาย | 2560 |
อำนวยการผลิตโดย | โนพลอบเล็ม จำกัด (แหม่ม ธิติมา สังขพิทักษ์) |
ห่างหายกันไปหลายปีในที่สุดคู่จิ้นสุดฟินก็กลับมาอีกครั้งในละครที่ชื่อว่า “เล่ห์ลับสลับร่าง” เป็นละครอีกหนึ่งเรื่องที่นางเอกสาวญาญ่าได้ทิ้งบทบาทของหญิงสาวผู้อ่อนหวานไปเสียจนหมดและเหลือเพียงแต่นิสัยดิบ ๆ ของผู้ชายเข้ามาแทน นั่นก็เพราะว่าละครเรื่องนี้เป็นการแสดงที่ต้องสลับร่างกับพระเอกของเรานั่นเองค่ะ เรื่องราวเริ่มต้นจาก “รามิน” (รับบทโดย ณเดชน์) ชายหนุ่มหน้าตาดีที่เป็นตำรวจจากหน่วยพิเศษ เขาเป็นคาสโนว่าตัวพ่อที่มีผู้หญิงมาห้อมล้อมอย่างมากมาย อยู่มาวันหนึ่งเขาได้รับมอบหมายหน้าที่ให้มาดูแลความปลอดภัยของซูเปอร์สตาร์สาวที่ชื่อว่า “เภตรา” (รับบทโดย ญาญ่า) หญิงสาวผู้ที่หยิ่งผยองและคิดว่าตัวเองเลิศเลอกว่าใคร ๆ แต่แล้วก็มีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้พวกเขาต้องประสบอุบัติพร้อมกัน และเมื่อตื่นขึ้นมากลับพบว่าพวกเขาทั้งสองคนได้สลับกัน เรื่องราวสุดอลเวงจึงได้เกิดขึ้นทั้งเขาและเธอต่างก็ต้องทำให้ชีวิตและหน้าที่การงานของอีกฝ่ายผ่านไปได้อย่างราบรื่น ในขณะเดียวกันนั้นก็ต้องหาทางออกสำหรับปัญหาของเรื่องนี้ไปด้วย จนทำให้ทั้งคู่เกิดมีความรักและความเห็นใจซึ่งกันและกัน แล้วเรื่องราวจะจบลงอย่างไร ทั้งคู่จะต้องใช้ชีวิตในร่างของอีกคนไปจนตายหรือไม่ ต้องมาเอาใจช่วยพวกเขาไปด้วยกันใน “เล่ห์ลับสลับร่าง” เลยค่ะ
8. ลิขิตรัก The Crown Princess

ประเภท | โรแมนติก ดราม่า |
นักแสดงนำ | ณเดชน์ คูกิมิยะ และ อุรัสยา เสปอร์บันด์ |
จำนวนตอน | 12 ตอน |
ปีที่ฉาย | 2561 |
อำนวยการผลิตโดย | ทอง เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (แอน ทองประสม) |
ยังคงตามติดมาเรื่อย ๆ กับละครคู่จิ้น NY ในเรื่อง “ลิขิตรัก The Crown Princess” ที่ครั้งนี้ณเดชน์และญาญ่าได้รับบทบาทที่ท้าทายขึ้น โดยในเรื่องนั้นจะเป็นความรักระหว่างของเจ้าหญิง “อลิซ” (รับบทโดย ญาญ่า) และนายทหาร “ดวิน” (รับบทโดย ณเดชน์) ที่ดูเหมือนจะเป็นความรักต่างชนชั้นกันสุด ๆ แต่เรื่องราวไม่ได้มีเพียงความต่างกันของสถานะเท่านั้น เพราะยังมีการแย่งชิงตำแหน่งองค์รัชทายาทระหว่างสายเลือดอีกด้วย จนทำให้เจ้าหญิงได้รับอันตรายจากการถูกลอบทำร้ายและต้องหลบหนีมาอยู่ที่ประเทศไทย ซึ่งก็ทำให้เธอได้เจอกับนายทหารนาวิกโยธินฝีมือดีที่ชื่อว่าดวิน จากความใกล้ชิดของทั้งคู่และการที่ต้องเผชิญจากเรื่องราวที่เสี่ยงอันตรายจากการตามสืบความจริงที่ว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังการลอบทำร้ายทั้งหมด ทำให้ก่อตัวเกิดเป็นความรักระหว่างกัน และเรื่องราวของทั้งคู่จะจบลงอย่างไร มาตามดูกันได้ในละครเรื่อง “ลิขิตรัก The Crown Princess” ขอบอกว่าเรื่องนี้ญาญ่าเล่นได้สง่างามสมเป็นเจ้าหญิงมาก ๆ ค่ะ
9. กลิ่นกาสะลอง

ประเภท | พีเรียด ดราม่า ลึกลับ |
นักแสดงนำ | เจมส์ อัศรัสกร และ อุรัสยา เสปอร์บันด์ |
จำนวนตอน | 15 ตอน |
ปีที่ฉาย | 2562 |
อำนวยการผลิตโดย | ฟีลกู๊ด เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (แหม่ม ธิติมา สังขพิทักษ์) |
หนึ่งในงานแสดงละครของสาวญาญ่าที่ไม่พูดถึงไม่ได้จากการโชว์ฝีมือด้านการแสดงของเธอในเรื่อง “กลิ่นกาสะลอง” ที่ขอบอกว่าบทที่เธอได้รับมานั้นยากมาก ๆ เพราะเธอจะต้องแสดงให้ได้ถึง 4 คาแรคเตอร์ (ที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว) ในเรื่องเดียวและยังต้องมีบทพูดที่เป็นภาษาเหนืออีกด้วย โดยเรื่องราวนั้นค่อนข้างซับซ้อน เนื่องจากเป็นการแสดงในบทฝาแฝดที่มีพาสอดีต ปัจจุบัน และอนาคต อีกทั้งยังต้องเล่นเป็นผีอีกด้วย ซึ่งโดยส่วนใหญ่ละครไทยมักจะแต่งหน้าทำผมฝาแฝดให้ต่างกัน แต่ในเรื่องนี้แทบจะไม่มีความต่างกันเลย จึงต้องอาศัยการแสดงจากนักแสดงเป็นตัวถ่ายทอดอารมณ์ให้คนรู้ว่าตัวละครที่เล่นอยู่นี้เป็นใคร และนี่ก็ยังเป็นละครเรื่องแรกที่เธอได้มาคู่กับพระเอกหนุ่มหล่ออย่าง “เจมส์ มาร์” อีกด้วยนะคะ
โดยเรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นจาก “ทินกฤต” (รับบทโดย เจมส์ มาร์) และ “พิมพ์พิศา” (รับบทโดย ญาญ่า) เป็นคู่รักที่กำลังจะแต่งงานและสร้างเรือนหอกันในเร็ว ๆ นี้ แต่ในใจลึก ๆ แล้วทินกฤตกลับรู้สึกว่าพิมพ์พิศาไม่ใช่คนที่เขาตามหา พวกเขาทั้งคู่พยายามหาเรือนหอที่ถูกใจจนไปเจอพื้นที่แปลงหนึ่งที่เชียงใหม่ ทินกฤตรับรู้ได้ทันทีว่านี่คือที่ที่เขาตามหาและรู้สึกผูกพันอย่างบอกไม่ถูก นานวันเข้าพิมพ์พิศาก็รู้สึกว่าทินกฤตมีท่าทีที่เปลี่ยนไปเมื่อเขาได้เจอกับพื้นที่แห่งนี้ จากนั้นก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ทินกฤตหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยและไม่มีใครสามารถติดต่อเขาได้ เนื่องจากเป็นฝีมือของวิญญาณที่ชื่อว่า “กาสะลอง” (รับบทโดย ญาญ่า) ที่เป็นฝาแฝดของพิมพ์พิศาหรือซ้องปีบในอตีดและยังเป็นคนรักของทินกฤตในอดีตอีกด้วย ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเจตนาของผีกาสะลองที่โกรธแค้นทินกฤตและพิมพ์พิศาเป็นอย่างมากนั้นคืออะไร ใครกันแน่ที่ฝ่ายโดนกระทำและโดนหักหลัง หรือเรื่องทั้งหมดจะเป็นเพียงความเข้าใจผิดจากผีกาสะลอง คุณจะต้องไปตามหาความจริงเหล่านี้ด้วยตัวเอง เพราะเรื่องราวจะค่อย ๆ เฉลยมากเรื่อย ๆ ในพาสของอดีตค่ะ ขอบอกว่าเรื่องนี้สนุกมาก ๆ ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งค่ะ
10. ลายกินรี (เตรียมลงจอ 2564)

ประเภท | พีเรียด ลึกลับ สืบสวนสอบสวน |
นักแสดงนำ | ณเดชน์ คูกิมิยะ และ อุรัสยา เสปอร์บันด์ |
จำนวนตอน | ยังไม่ระบุ |
ปีที่ฉาย | 2564 |
อำนวยการผลิตโดย | แอค-อาร์ต เจเนเรชั่น จำกัด (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง – อ๊อฟ) |
“ลายกินรี” เป็นละครที่จะออกอากาศในปี 2564 ซึ่งยังคงเป็นการแสดงคู่กับหนุ่มแบรี่อีกเช่นเคย โดยเรื่องราวจะเป็นแนวพีเรียดย้อนยุคไปในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ (สมัยเดียวกับบุพเพสันนิวาสที่เบลล่าและโป๊ปเป็นนักแสดงนำ) โดยในละครนั้นจะมีเนื้อหาที่อิงประวัติศาสตร์ จึงทำให้มีทั้งชื่อคนที่มีตัวตนจริง ๆ และที่สร้างขึ้นเพื่อความสนุก ซึ่งเนื้อเรื่องนั้นจะเป็นแนวสืบสวนสอบสวนของผู้หญิงที่ชื่อว่า “แม่หญิงพุดซ้อน” (รับบทโดย ญาญ่า) ซึ่งเป็นหมอผู้หญิงที่มีความฉลาดเฉลียวและหาญกล้าเกินกว่าแม่หญิงในสมัยนั้น เธอไม่ได้รับความยอมรับจากพวกผู้ชายมากสักเท่าไหร่ตามค่านิยมของคนในสมัยโบราณ เนื่องพวกเขามองว่าอาชีพหมอนั้นไม่คู่ควรกับผู้หญิง แต่เธอก็ได้พิสูจน์ความสามารถที่เธอมีได้ด้วยการไขคดีฆาตกรรมจนสำเร็จ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก “หลวงอินทร์” (รับบทโดย ณเดชน์) ซึ่งในเรื่องนั้นจะมีรายละเอียดของการสืบหาความจริงในสมัยก่อนอยู่มากมายที่เราคาดไม่ถึง และกว่าแม่หญิงพุดซ้อนและหลวงอินทร์จะเจอฆาตกรตัวจริงก็เล่นซะเหนื่อยใช่ย่อย หากคุณอยากรู้ว่าเรื่องราวจะสนุกมากแค่ไหน ต้องรอติดตามชมความเข้มข้นของละครได้ใน “ลายกินรี” ที่จะออกอากาศเร็ว ๆ นี้นะคะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับผลงานละครของสาวญาญ่าที่เราได้แนะนำไปแล้วในวันนี้ ซึ่งต้องขอบอกเลยนะคะว่ายากมากสำหรับการเลือกละครมารีวิว เพราะจริง ๆ แล้วละครทุกเรื่องก็มีความสนุกครบรสที่ต่างสไตล์กันออกไป แต่สำหรับใครยังรู้สึกไม่จุใจ คุณสามารถตามเก็บผลงานอย่างอื่นของสาวญาญ่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการเต้น, ร้องเพลง, ภาพยนตร์, มิวสิกวีดีโอ หรือเทปวิดีโองานคอนเสิร์ต ก็มีให้คุณได้เลือกเสพได้อย่างมากมาย เพราะเธอคือนักแสดงหญิงที่มากความสามารถและมีฝีมือที่ยอดเยี่ยมนั่นเองค่ะ