“น้ำมันเครื่อง” หรือชื่อเต็ม ๆ ของมันก็คือ “น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ (Motor Oil หรือ Engine Oil)” ถือเป็นสารที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานของเครื่องยนต์ ซึ่งมันมีหน้าที่ช่วยในการหล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายในเครื่องยนต์ โดยมันจะแทรกตัวเข้าคั่นอยู่ระหว่างพื้นผิวของชิ้นส่วนทุก ๆ ชิ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวของทั้งสองฝั่งสัมผัสกันโดยตรง และในขณะเดียวกันน้ำมันเครื่องก็ช่วยระบายความร้อนที่มีอยู่ภายในด้วย นอกจากนั้นน้ำมันเครื่องยังช่วยลดการสึกหรอการกัดกร่อน ป้องกันการเกิดสนิม ละลายเขม่าต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในเครื่องยนต์ และอื่น ๆ คุณเห็นแล้วใช่ไหมล่ะครับ ว่าหน้าที่แต่ละอย่างของ น้ำมันเครื่อง นั้น มันมีความสำคัญขนาดไหน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราถึงต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องกันอยู่เป็นประจำ ตามระยะทางที่กำหนด เพราะถ้าหากขาดน้ำมันเครื่องไป แน่นอนครับ รถที่คุณรักมีปัญหาใหญ่ตามมาแน่ ๆ
โดยในปัจจุบัน “รถยนต์” มีอยู่หลายประเภท อาทิเช่น รถอีโค่คาร์, รถกระบะ, รถตู้อเนกประสงค์, รถอเนกประสงค์ PPV, รถตู้โดยสาร, รถบรรทุก และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งแน่นอนครับ ในแต่ละประเภทใช้เครื่องยนต์ที่ไม่เหมือนกัน มีกำลังที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นน้ำมันเครื่องรถยนต์จึงจำเป็นจะต้องมีหลายเกรด หลายประเภท เช่นเดียวกับน้ำมันครื่องของ “จักรยานยนต์” ที่ต้องมีความหนืดที่เหมาะสมกันกับเครื่องยนต์ จะเอาน้ำมันเครื่องของรถมอไซค์ฯ 125cc, 150cc หรือรถออโต้ฯ ไปใส่ในรถมอไซค์ 1000cc ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้มันจึงเกิดคำถามขึ้นมาว่าแล้วรถยนต์ของเรา มันเหมาะกับน้ำมันเครื่องแบบไหน ? แล้วใช้แบบไหนถึงจะดีที่สุด ? ในวันนี้ เรามีคำแนะนำดี ๆ มาฝากกันครับ และเรายังได้คัดสรรน้ำมันเครื่องเกรดต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยม หลายคนเลือกใช้ ตั้งแต่ราคาเบา ๆ ไปจนถึงเกรดคุณภาพสูง มารีวิวให้ด้วยครับ
ประเภทของ “น้ำมันเครื่อง” มีกี่ประเภท ?
ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าน้ำมันเครื่องมีกี่ประเภท ซึ่งถ้าเราแบ่งในทางพาณิชย์ตามผู้ค้า จะแบ่งน้ำมันเครื่องได้ออกเป็น 3 ประเภท โดยทุก ๆ ประเภทจะมีส่วนผสมหลักอยู่ 2 อย่าง ที่เหมือนกันก็คือ น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน (Base Oil) ซึ่งได้จากน้ำมันดิบใต้ดิน หรือได้จากน้ำมันแร่ และอีกอย่างหนึ่งคือ สารเพิ่มคุณสมบัติ หรือสารเติมแต่ง (Additive) ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีส่วนผสมในส่วนนี้ที่ต่างกัน และเนื่องจากน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานที่ได้จากธรรมชาติยังมีจุดด้อยอยู่ จึงได้มีการนำเข้าสู่กระบวนการ สังเคราะห์ทางเคมีเพื่อกำจัดจุดด้อยต่าง ๆ ที่มีอยู่ออกไป เกิดเป็น น้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์ โดย น้ำมันเครื่อง ทั้ง 3 ประเภท จะต่างกันที่ส่วนผสมที่ใช้ ทำให้โครงสร้างโมเลกุลในน้ำมันแตกต่างกัน มีการจับตัวกันของอะตอมต่างกัน ส่งผลให้มีความหนืดที่ไม่เท่ากัน และมีระยะการใช้งานที่แตกต่างกันไปด้วย ดังนี้
1. น้ำมันเครื่องธรรมดา (Mineral oil)
ผลิตโดยใช้น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานเป็นน้ำมันดิบ ผสมกับสารเติมแต่งโดยตรง ไม่มีผ่านกระบวนการใด ๆ ทางเคมีเลย ยังมีจุดด้อยอยู่ ส่งผลให้น้ำมันเครื่องธรรมดาเป็นน้ำมันที่มีคุณภาพน้อยที่สุด และมีราคาถูกที่สุดด้วย โดยมันสามารถใช้งานได้ในระยะทาง ประมาณ 3,000-5,000 กิโลเมตร เท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันแทบจะไม่มีอยู่แล้วหรือถ้ามีเราก็ไม่แนะนำหากรถของคุณเป็นรถรุ่นใหม่
2. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (Fully Synthetic)
ผลิตโดยใช้น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานเป็นน้ำมันสังเคราะห์ ผสมกับสารเติมแต่งโดยตรงเช่นกัน แต่จะต่างกันตรงที่มีการใช้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการสังเคราะห์ทางเคมีแล้ว ซึ่งมีการกำจัดจุดด้อยต่าง ๆ ออกไป และเพิ่มเติมคุณสมบัติที่จำเป็นเข้ามา ทำให้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์มีคุณภาพมากที่สุด และแน่นอนราคาสูงที่สุดด้วยครับ โดยจะสามารถใช้งานได้ประมาณ 7,000-10,000 กิโลเมตร เลยทีเดียว
3. น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic)
ส่วนในแบบนี้ก็ตามชื่อเลยครับ ผลิตโดยใช้ทั้ง 3 ส่วนมาผสมกันคือ น้ำมันดิบ ผสมกับน้ำมันสังเคราะห์ และนำไปผสมกับสารเติมแต่งอีกหนึ่งส่วน ทำให้คุณภาพมันอยู่กึ่งกลาง ระหว่าง 2 ประเภทแรก และราคาก็จะถูกลงมาด้วย โดยน้ำมันประเภทนี้สามารถใช้งานได้ประมาณ 5,000-7,000 กิโลเมตร
3 ข้อควรรู้ในการเลือกซื้อ น้ำมันเครื่อง มาใช้งาน
1. เครื่องยนต์ ดีเซล หรือ เบนซิน
อย่างที่บอก น้ำมันเครื่อง มีหลายแบบ หลายแระเภทครับ แน่นอนว่า เครื่องยนต์ดีเซล ก็จะต้องใช้ น้ำมันเครื่องยนต์ดีเซล เท่านั้น ส่วนเครื่องยนต์เบนซิน ก็ต้องใช้ น้ำมันเครื่องยนต์เบนซิน อาจจะมีน้ำมันเครื่องบางรุ่นที่สามารถใช้ร่วมกันได้ แต่ด้วยความที่เครื่องยนต์ทั้ง 2 ทำงานต่างกันแบบชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น การจุดระเบิด เขม่าภายใน รอบการทำงาน และอื่น ๆ ฉะนั้นเพื่อป้องกันการสลับ ใส่ผิดใส่ถูก แนะนำให้ใช้แบบที่มันบอกไว้ชัด ๆ ไปเลยดีกว่าครับ
2. ประเภทของน้ำมันเครื่อง
ก่อนอื่นเลย สิ่งที่คุณจำเป็นจะต้องเลือก ก็คือ ประเภทของน้ำมันเครื่อง นั่นเอง อย่างที่เราได้พูดไปในหัวข้อของ ประเภทของ “น้ำมันเครื่อง” คุณจะเห็นถึงความแตกต่าง ๆ ของน้ำมันแต่ละประเภท ขึ้นอยู่กับคุณเองว่าต้องการแบบไหน ซึ่งในปัจจุบันก็จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ และน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์
3. คุณภาพของน้ำมันเครื่อง
คุณภาพน้ำมันเครื่อง ได้รับการรับรองจาก สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน หรือ API (American Petroleum Institute) ใช้ระบุประเภทและสมรรถนะ ในการทำงาน ปกป้องชื้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ เพื่อเป็นมาตรฐานสำหรับน้ำมันเครื่องแบบสากล หากเป็น น้ำมันเครื่องยนต์เบนซิน จะขึ้นต้นด้วยตัว “S” มาจาก Spark Ignition ส่วน น้ำมันเครื่องยนต์ดีเซล จะขึ้นต้นด้วยตัว “C” มาจาก Compression Ignition ส่วนตัวอักษรที่ต่อท้ายคือ ตัวบ่งบอกถึงระดับคุณภาพของน้ำมันเครื่อง จะใช้ตัวอักษรไล่ไปเรื่อย ๆ จาก A, B, C,…. เหมือนกันทั้งเครืองยนต์เบนซินและดีเซล ซึ่งออกมาเรื่อย ๆ เพื่อรองรับเครื่องยนต์ใหม่ ๆ
-
- “API SP” คือ มาตรฐาน คุณภาพสูงสุด ของน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์เบนซิน
- “API CK-4” คือ มาตรฐาน คุณภาพสูงสุด ของน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ดีเซล
สำหรับวิธีการเลือกใช้แบบง่าย ๆ ว่ารถของคุณเหมาะกับมตราฐานแบบไหนคือ สามารถเปรียบเทียบได้จากปีผลิตรถยนต์ของคุณ อย่างที่บอกไปครับ มาตราฐานออกมาเพื่อรองรับเครื่องยนต์ใหม่ ๆ ดังนั้นหากรถยนต์ของคุณผลิตปี 2015 ให้ใช้ API SN ขึ้นไป หรือถ้าหากรถยนต์ของคุณผลิตปี 2008 สามารถเลือกใช้ได้ตั้งแต่ API SM นั่งเองครับ สามารถไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก API (American Petroleum Institute)
4. ค่ามาตรฐาน SAE
ในน้ำมันเครื่องแต่ละตัวก็จะมีการระบุคุณสมบัติของน้ำมันตัวนั้น ๆ เอาไว้ โดย สมาคมวิศวกรรมยานยนต์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ SAE (The Society of Automotive Engineer) ซึ่งจะระบุตัวเลข 2 ฝั่ง และมีตัวอักษร W อยู่ตรงกลาง อาทิเช่น 0W-30, 0W-40, 5W-30, 5W-40, 10W-30 และ 10W-40 เป็นต้น ซึ่งข้อความเหล่านี้ก็คือ ค่าความหนืด และคุณสมบัติของน้ำมันเครื่องนั้น ๆ นั่นเอง สามารถแยกได้ดังนี้
-
- 0W-30 : น้ำมัน หากอยู่ในที่เย็น มันจะจับตัวกันเป็นไข ดังนั้นตัวเลขได้หน้านี้ก็คือ ค่าที่บ่งบอกว่าน้ำมันเครื่องตัวนี้ สามารถยังคงความข้นใสได้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนถึงช่วงอุณหภูมิไหน หากมีอุณหภูมิเกินน้ำมันก็จะกลายสภาพเป็นไข ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- 0W สามารถคงความข้นใสได้ จนถึงระดับต่ำกว่า -30°C
- 5W สามารถคงความข้นใสได้ จนถึง -30°C
- 10W สามารถคงความข้นใสได้ จนถึง -20°C
- 15W สามารถคงความข้นใสได้จนถึง -10°C
- 20W สามารถคงความข้นใสได้จนถึง 0°C
- 0W-30 : ส่วนตัวเลขด้านหลังนั้น เป็นค่าที่ระบุถึงค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องตัวนั้น ๆ ซึ่งค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องจะช่วยในการหล่อลื่น และปกป้องเครื่องยนต์ของคุณโดยการเข้าไปเคลือบชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์โดยจะมีค่าตั้งแต่ 50, 40, 30, 20 และ 10 ยิ่งค่ามากความหนืดก็จะมีมาก ซึ่งโดยทั่วไปที่นิยมใช้กันจะมีความหนืดอยู่ที่ 30-40 ครับ
- 0W-30 : น้ำมัน หากอยู่ในที่เย็น มันจะจับตัวกันเป็นไข ดังนั้นตัวเลขได้หน้านี้ก็คือ ค่าที่บ่งบอกว่าน้ำมันเครื่องตัวนี้ สามารถยังคงความข้นใสได้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนถึงช่วงอุณหภูมิไหน หากมีอุณหภูมิเกินน้ำมันก็จะกลายสภาพเป็นไข ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
น้ำมันเครื่อง สำหรับ “เครื่องยนต์เบนซิน”
รีวิว PTT Performa Semi Synthetic น้ำมันเครื่อง เบนซิน กึ่งสังเคราะห์ 10W-40

ราคา 480 บาท*
PTT Performa Semi Synthetic เป็นน้ำมันเครื่องราคาประหยัด ประเภทกึ่งสังเคราะห์ เหมาะสำหรับรถเครื่องยนต์เบนซินที่รุ่นรองรับแก๊สโซฮอล์สูงถึง E85 นอกจากนั้นยังสามารถใช้กับรถที่ใช้ก๊าซ CNG, NGV และ LPG ได้อีกด้วย โดยน้ำมันตัวนี้มีคุณสมบัติหลากหลายทั้ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการหล่อลื่นได้ดีเยี่ยม ช่วยเพิ่มอัตราการเร่ง ลดการสึกหรอของชิ้นส่วนต่าง ๆ สามารถทนต่อการทำลายของความร้อน ช่วยให้เครื่องยนต์สะอาดมากยิ่งขึ้น ลดการเกิดคราบเขม่าต่าง ๆ อีกทั้งยังสามารถช่วยให้เครื่องยนต์ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย หากใครกำลังมองหาน้ำมันเครื่องดี ๆ ราคาประหยัด ๆ ตัวนี้เลยครับ
สำหรับ | เครื่องยนต์เบนซิน |
---|---|
ประเภทน้ำมัน | กึ่งสังเคราะห์ |
มาตรฐาน (API) | API SN |
ค่าความหนืด (SAE) | 10W-40 |
ปริมาณ | 4 ลิตร |
รีวิว PTT Performa Super Synthetic น้ำมันสังเคราะห์แท้ 0W-30 และ 0W-40

ราคา 850 บาท*
PTT Performa Super Synthetic เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ ถูกออกแบบมาสำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินทุกรุ่น และยังสามารถใช้กับเครื่องยนต์ที่ใช้ก๊าซ CNG, NGV และ LPG อีกด้วย สามารถเข้ามาช่วยปกป้องเครื่องยนต์แบบฉีดน้ำมันโดยตรง (T-GDI) ปัญหาการชิงจุดระเบิดที่รอบเครื่องต่ำ ช่วยหล่อลื่นเครื่องยนต์ได้อย่างยอดเยี่ยม ใช้เทคโนโลยี High Film Strength (HFS) ช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ ป้องกันเขม่าสะสมทำให้เครื่องสะอาด มีอัตราเร่งดี และยังสามารถเพิ่มอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงได้อีกด้วย ถือเป็นน้ำมันเครื่องคุณภาพสูง ที่มาในราคาสุดคุ้มค่ามาก ๆ ครับ
สำหรับ | เครื่องยนต์เบนซิน |
---|---|
ประเภทน้ำมัน | สังเคราะห์แท้ |
มาตรฐาน (API) | API SN |
ค่าความหนืด (SAE) | 0W-30/ 0W-40 |
ปริมาณ | 4 ลิตร |
รีวิว SHELL Helix HX7 น้ำมันเครื่องรถยนต์ กึ่งสังเคราะห์ เบนซิน 10W-30

ราคา 990 บาท*
SHELL Helix HX7 น้ำมันเครื่องรถยนต์จาก SHELL อีกหนึ่งตัว สำหรับตัวนี้เป็น น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ที่สามารถเข้ามาช่วยปกป้องเครื่องยนต์ของคุณ จากคราบสกปรก คราบเขม่าต่าง ๆ ได้อย่างยาวนาน ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ ช่วยลดแรงเสียดทานได้อย่างยอดเยี่ยม ป้องกันการสึกหรอของชิ้นส่วนต่าง ๆ สามารถเพิ่มอายุการใช้งานให้กับเครื่องยนต์ของคุณ โดยน้ำมันตัวนี้เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซิล รวมไปถึงเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงผสม เบนซิน และเอทานอล หากใครกำลังมองหาน้ำมันเครื่องราคาคุ้ม ๆ คุณภาพสูง ๆ ต้องตัวนี้เลยครับ
สำหรับ | เครื่องยนต์เบนซิน |
---|---|
ประเภทน้ำมัน | กึ่งสังเคราะห์ |
มาตรฐาน (API) | API SN |
ค่าความหนืด (SAE) | 10W-30 |
ปริมาณ | 4 ลิตร |
รีวิว SHELL Helix HX8 น้ำมันเครื่องรถยนต์ สังเคราะห์แท้ 100% เบนซิน 5W-40

ราคา 1,250 บาท*
SHELL Helix HX8 ตัวนี้เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% เกรดพรีเมี่ยม ที่ช่วยให้กำลังเต็มสมรรถนะ ในการทำความสะอาดเครื่องยนต์ รวมไปถึงการปกป้องเครื่องยนต์ ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ ป้องกันการสึกหรอได้ดี ถึงแม้จะมีการใช้งานอย่างหนัก ช่วยลดแรงเสียดทานได้เป็นอย่างดีทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น สำหรับน้ำมันเครื่อง SHELL Helix HX8 สามารถใช้ได้กับเครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันผสมเบนซินกับเอทานอล
สำหรับ | เครื่องยนต์เบนซิน |
---|---|
ประเภทน้ำมัน | สังเคราะห์แท้ |
มาตรฐาน (API) | API SN |
ค่าความหนืด (SAE) | 5W-40 |
ปริมาณ | 4 ลิตร |
รีวิว CALTEX Havoline ProDS ECO 5 น้ำมันเครื่อง สังเคราะห์แท้ 5W-30

ราคา 1,800 บาท*
CALTEX Havoline ProDS ECO 5 เป็นน้ำมันเครื่องยนต์เบนซินเกรดรวม สังเคราะห์แท้ 100% ระดับพรีเมี่ยม ออกแบบมาให้ใช้สำหรับอีโค่คาร์หรือรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่วไป และรถบรรทุกขนาดเล็ก ที่ต้องการน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดต่ำ ช่วยเพิ่มสมรรถนะสูงสุดในการปกป้องชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ ช่วยรักษาเครื่องยนต์ด้วยการสร้างชั้นฟิล์มเคลือบพื้นผิวของชิ้นส่วนต่าง ๆ เอาไว้ ลดการสึกหรอ ช่วยป้องกันการเกิดคราบเขม่าภายใน อีกทั้งยังช่วยลดแรงเสียดทานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย มันจึงช่วยให้รถของคุณประหยัดเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น Havoline ProDS ECO 5 น้ำมันเครื่องคุณภาพสูง ที่พร้อมจะช่วยถนอม และปกป้องเครื่องยนต์ของคุณ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับ | เครื่องยนต์เบนซิน |
---|---|
ประเภทน้ำมัน | สังเคราะห์แท้ |
มาตรฐาน (API) | API SN+ |
ค่าความหนืด (SAE) | 5W-30 |
ปริมาณ | 4 ลิตร |
รีวิว Mobil 1 น้ำมันเครื่องรถยนต์เบนซิน สังเคราะห์แท้ 0W-40

ราคา 1,900 บาท*
Mobil 1 น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ สูตรก้าวหน้า สำหรับเครื่องรถยนต์เบนซิน จากแบรนด์ชั้นนำของโลก โดยน้ำมันเครื่องตัวนี้ได้รับการพัฒนาร่วมกับผู้ผลิตเจ้า มีการรับการรับรองมาจากผู้ผลิตทั้ง MB-Approval, Nissan Genuine Performances และ VW ทำให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น ช่วยส่งมอบสมรรถนะที่ทรงพลัง การดูแลและปกป้องเครื่องยนต์ของคุณด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมทั้งปกป้องอย่างรวดเร็ว ช่วยลดการสึกหรอ ช่วยลดคราบสะสมในเครื่อง และสามารถลดแรงเสียดทานได้ดี ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น ถือเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ประสิทธิภาพสูง การันตีคุณภาพจาก การได้รับเลือกเป็นน้ำมันเครื่องที่เติมจากโรงงานของแบรนด์รถยนต์หลากหลายรุ่น
สำหรับ | เครื่องยนต์เบนซิน |
---|---|
ประเภทน้ำมัน | สังเคราะห์แท้ |
มาตรฐาน (API) | API SN |
ค่าความหนืด (SAE) | 0W-40 |
ปริมาณ | 4 ลิตร |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
น้ำมันเครื่อง สำหรับ “เครื่องยนต์ดีเซล”
รีวิว PTT Dynamic Commonrail น้ำมันเครื่องดีเซล กึ่งสังเคราะห์ 10W-30

ราคา 590 บาท*
PTT Dynamic Commonrail น้ำมันเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นยอดนิยม ที่ทั้งดีทั้งประหยัด เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ที่ออกแบบมาสำหรับใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลที่มีสมรรถนะสูง ๆ มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษมากมาย สามารถช่วยทำให้เครื่องยนต์สะอาดมากยิ่งขั้น ลดการเกิดเขม่า ป้องกันการเกิดโคลนภายในเครื่องยนต์ สามารถลดแรงเสียดทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มอัตราการเร่ง เพิ่มอัตราการประหยัดน้ำมัน ป้องกันการสึกหรอ และสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานยาวนานมากยิ่งขึ้น เหมาะมากสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลระบบ Common Rail ทุกชนิด ไม่ว่าจะรถยนต์ส่วนตัวหรือรถยนต์พาณิชย์ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานไม่ว่าจะหนักมากแค่ไหน
สำหรับ | เครื่องยนต์ดีเซล |
---|---|
ประเภทน้ำมัน | กึ่งสังเคราะห์ |
มาตรฐาน (API) | API CF-4/SL |
ค่าความหนืด (SAE) | 10W-30 |
ปริมาณ | 6 ลิตร |
รีวิว Valvoline MAXLIFE DIESEL น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% ดีเซล 10W-40

ราคา 980 บาท*
Valvoline MAXLIFE DIESEL น้ำมันเครื่องสังเคราะห์คุณภาพสูง ได้รับการออกแบบมาเพื่อเครื่องยนต์ดีเซลโดยเฉพาะ โดยมีการผลิตจากน้ำมันพื้นฐานคุณภาพสูง ผสมกับสารเพิ่มคุณภาพ Multi-life™ Additives ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Valvoline ช่วยเพิ่มการปกป้องเครื่องยนต์สูงสุด มาพร้อมคุณสมบัติมากมายทั้ง ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง สามารถป้องกันการสึกหรอได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยลดคราบเขม่าได้ดีเยี่ยมอีกด้วย เหมาะสำหรับใช้ในเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล และเครื่องยนต์ดีเซลทุกชนิด ทุกรุ่น ทุกค่าย ทั้งขับ 2 ขับ 4 รถตู้ หรือรถเก๋งเครื่องยนต์ดีเซล ก็ใช้งานได้
สำหรับ | เครื่องยนต์ดีเซล |
---|---|
ประเภทน้ำมัน | สังเคราะห์แท้ |
มาตรฐาน (API) | API CI-4 PLUS |
ค่าความหนืด (SAE) | 10W-40 |
ปริมาณ | 6 ลิตร |
รีวิว SHELL Helix HX8 น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% สำหรับเครื่องยนต์ ดีเซล 5W-30

ราคา 1,450 บาท*
SHELL Helix HX8 ดีเซล สำหรับตัวนี้ก็เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% เกรดพรีเมี่ยม สำหรับรถกระบะ รถตู้ ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลสมรรถนะสูง น้ำเครื่องรุ่นนี้สามารถช่วยเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ มีการหล่อลื่นที่ดีช่วยลดแรงเสียดทาน ทำให้ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น และลดการสึกหรอได้ดีอีกด้วย เป็นการเพิ่มอายุการใช้งานให้กับเครื่องยนต์ ถึงแม้จะมีการใช้งานอย่างหนักก็ตาม สำหรับ SHELL Helix HX8 ถือเป็นน้ำมันเครื่องประสิทธิภาพสูง สามารถดูแล ปกป้องเครื่องยนต์ของคุณได้อย่างยอดเยี่ยม
สำหรับ | เครื่องยนต์ดีเซล |
---|---|
ประเภทน้ำมัน | สังเคราะห์แท้ |
มาตรฐาน (API) | API CF |
ค่าความหนืด (SAE) | 5W-30 |
ปริมาณ | 6 ลิตร |
รีวิว Shell Helix Ultra น้ำมันเครื่อง สังเคราะห์แท้ 100% ดีเซล 0W-40

ราคา 2,250 บาท*
Shell Helix Ultra น้ำมันเครื่องยนต์ดีเซล สังเคราะห์แท้ 100% ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษช่วยให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ มีการใช้เทคโนโลยี เชลล์ เพียวพลัส ช่วยทำให้น้ำมันเครื่องตัวนี้ สามารถทำความสะอาดภายในเครื่องยนต์ตลอดเวลา และช่วยให้มีการปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีขึ้นกว่าเดิม ป้องกันการเกิดคราบต่าง ๆ เพิ่มอายุการใช้งานเครื่องยนต์ โดยการปกป้องพื้นผิวของชิ้นส่วนต่าง ๆ ลดแรงเสียดทานในเครื่องยนต์ ทำให้ลดการสึกหรอลง และช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้นด้วย Shell Helix Ultra น้ำมันเครื่องคุณภาพสูง ที่ออกแบบมาเพื่อรถกระบะ รถปิคอัพ รถครอบครัว และรถเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ที่มีสมรรถนะสูง ๆ
สำหรับ | เครื่องยนต์ดีเซล |
---|---|
ประเภทน้ำมัน | สังเคราะห์แท้ |
มาตรฐาน (API) | API CF |
ค่าความหนืด (SAE) | 0W-40 |
ปริมาณ | 6 ลิตร |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ น้ำมันเครื่อง รถยนต์ ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2020 | ||||
---|---|---|---|---|
รูปภาพ | ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ข้อมูลเพิ่มเติม | |
PTT Performa Semi Synthetic น้ำมันเครื่อง เบนซิน กึ่งสังเคราะห์ 10W-40 |
| |||
PTT Dynamic Commonrail น้ำมันเครื่องดีเซล กึ่งสังเคราะห์ 10W-30 |
| |||
PTT Performa Super Synthetic น้ำมันสังเคราะห์แท้ 0W-30 และ 0W-40 |
| |||
Valvoline MAXLIFE DIESEL น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% ดีเซล 10W-40 |
| |||
SHELL Helix HX7 น้ำมันเครื่องรถยนต์ กึ่งสังเคราะห์ เบนซิน 10W-30 |
| |||
SHELL Helix HX8 น้ำมันเครื่องรถยนต์ สังเคราะห์แท้ 100% เบนซิน 5W-40 |
| |||
SHELL Helix HX8 น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% สำหรับเครื่องยนต์ ดีเซล 5W-30 |
| |||
CALTEX Havoline ProDS ECO 5 น้ำมันเครื่อง สังเคราะห์แท้ 5W-30 |
| |||
Mobil 1 น้ำมันเครื่องรถยนต์เบนซิน สังเคราะห์แท้ 0W-40 |
| |||
Shell Helix Ultra น้ำมันเครื่อง สังเคราะห์แท้ 100% ดีเซล 0W-40 |
|
บทส่งท้าย
การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะทาง เป็นเรื่องที่คุณไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด มันอาจจะเป็นเรื่องที่จุกจิก และทำให้คุณต้องเสียเงินอยู่บ่อย ๆ แต่มันจะช่วยปกป้องเครื่องยนต์ของรถคุณได้เป็นอย่างดี ลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ หลีกเลี่ยง ปัญหาอื่น ๆ ที่จะตามมา ยืดอายุการใช้งาน ช่วยให้เครื่องยนต์แน่นขึ้น ทำงานได้ดีขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้นและข้อดีอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ถ้าหากคุณมองข้ามไม่มีการเปลี่ยนถ่ายเลย น้ำมันเครื่องก็จะค่อย ๆ หมดสภาพไป จากที่เคยใสก็จะดำปิ๊ดปี๋ จากที่เคยหนืดก็จะเหลว จากที่เคยช่วยหล่อลื่น เมื่อหมดสภาพมันก็แทบจะไม่ช่วยอะไรเลย และถ้าหากปล่อยไว้นานกว่านี้ เครื่องยนต์ของคุณก็จะไม่มีอะไรปกป้องและจะสึกหรอไปเรื่อย ๆ ตามการใช้งานครับ
สุดท้ายนี้เราอยากแนะนำว่า หาเวลาสักนิดนำรถไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเถอะครับ ถ้าเอาแบบสะดวก ๆ ก็นำรถเข้าศูนย์บริการได้เลย ซึ่งแน่นอนราคาก็จะสูง แต่ถ้าหากอยากประหยัดก็สามารถหาซื้อด้วยตนเองจากนั้นนำไปให้ร้านทั่วไปเปลี่ยนให้ก็ได้ครับ แต่ข้อสำคัญคือ ต้องเลือกซื้อ ให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์ของรถคุณด้วยนะครับ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด