โลกของเรามีพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่รอบตัว ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่แห่งหนใด คุณก็จะต้องพบเจอกับมัน แม้แต่ในคลื่นต่าง ๆ ก็มี ไม่ว่าจะเป็น คลื่นไมโครเวฟ, คลื่นวิทยุ, คลื่นอินฟราเรด หรือคลื่น UV ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วคลื่นเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่เราเห็นไม่ได้ด้วยตาเปล่า แต่มันก็จะมีคลื่นตัวหนึ่งหรือแสงชนิดหนึ่ง ที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้ครับ ซึ่งช่วงความยาวของคลื่นจะอยู่ที่ 380 นาโนเมตร (แสงสีฟ้า) ถึง 700 นาโนเมตร (แสงสีแดง) และตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วคลื่นที่มีความถี่ยาว ๆ จะยิ่งส่งพลังงานได้น้อย แต่สำหรับ ‘แสงสีฟ้า’ ที่มีความถี่สั้น หรือเรียกได้ว่ายาวกว่าคลื่น UV เพียงเล็กน้อย และเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า UV มีผลกระทบต่อสายตาของเรา
ดังนั้นนี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญหลายคนจึงเตือนให้หลีกเลี่ยงการมองแสงสีฟ้าในระยะเวลานาน อย่างไรก็ดีการที่จะหลีกเลี่ยงสิ่งเรานี้ได้ เราก็จะต้องมีตัวช่วยอย่างแว่นกรองแสง หรือหากจะให้สะดวกกว่าก็ต้องเป็น ‘ฟิล์มถนอมสายตา ฟิล์มตัดแสงสีฟ้า’ ที่จะคอยกรองไม่ให้แสงสีฟ้าเข้ามากระทบเข้ากับตาของเราได้โดยตรงนั่นเอง อุปกรณ์ตัวนี้จะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดจอประสาทเสื่อมและความเมื่อยล้าของตาจากการเล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นาน ๆ ได้ครับ
อะไรบ้างที่ก่อให้เกิดแสงสีฟ้า ?
แสงสีฟ้าก็เหมือนกับแสงอื่น ๆ ทั่วไปที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ดังนั้นพระอาทิตย์ก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งที่ผลิตแสงสีฟ้าออกมาเช่นกัน อีกทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีการใช้เทคโนโลยีอย่าง LED ก็ล้วนแล้วแต่จะผลิตแสงสีฟ้าออกมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, โน๊ตบุ๊ค, แท็บเล็ต, ทีวี 4K หรือ ทีวี 8K
แสงสีฟ้าส่งผลกระทบอะไรต่อดวงตาของเราบ้าง ? (1-6)
- อาจทำให้จอประสาทเสื่อมได้ หากแสงสีฟ้ากระทบเข้ากับดวงตาของเราบ่อยครั้ง
- อาการปวดตา ไม่ว่าจะเป็น อาการเจ็บ, อาการระคายเคือง, อาการตาล้า, อาการปวดหัว หรือกล้ามเหนื่อยเมื่อยล้าจากการหรี่ตา
- มีผลต่อการนอนหลับ เนื่องจากร่างกายของเราจะเข้าใจว่าเรากำลังอยู่ในช่วงกลางวัน ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วคุณอาจกำลังเล่นมือถือในช่วงกลางคืน ซึ่งตรงนี้จะทำให้ร่างกายไม่ผลิตสารเมลาโทนินออกมา ทำให้เรานอนไม่หลับ ยิ่งถ้าหากปล่อยไว้แบบนี้นานเข้า อาจจะส่งผลเสียอย่างอื่นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น มะเร็งที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน หรือ การเปลี่ยนแปลงเมตาบอลิซึม โดยเฉพาะน้ำตาลในเลือด
ซึ่งในวันนี้เราก็มีรีวิว ฟิล์มถนอมสายตา ฟิล์มตัดแสงสีฟ้า ยอดนิยมจากแบรนด์ดัง ๆ มากมายมาให้คุณได้เลือกพิจารณา บอกเลยครับว่าแต่ละแบรนด์นั้นก็มีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีที่ต่างกัน ซึ่งจะมีแบรนด์ไหนที่น่าสนใจบ้าง เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลยครับ
1. HI-SHIELD (ไฮชิลด์)
HI-SHIELD คือฟิล์มที่มีชื่อเสียงและหลายคนเลือกใช้กันค่อนข้างมาก เนื่องจากฟิล์มของทางแบรนด์จะเป็นกระจกเกรดพรีเมียมหรือที่เรียกกันว่า กอริลลา กลาส (Gorilla Glass) จากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยฟิล์มทุกตัวผ่านกระบวนการผลิตมาอย่างพิถีพิถันมีการทดสอบแรงกระแทก ทั้งการปล่อยจากที่สูงกว่า 3 เมตรหรือการใช้ลูกตุ้มขนาด 64 กรัม ซึ่งผลปรากฏที่ออกมาพบว่ามันไม่สามารถสร้างความเสียหายใด ๆ ให้แก่ฟิล์ม นอกจากนี้มันยังผ่านการเคลือบ Oleophobic และ Real Nano Electroplate ทำให้มันไม่เกิดรอยนิ้วมือและรอยขีดข่วน
2. Hoco (โฮโค่)
Hoco เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีการนำเอาเทคโนโลยีอย่าง Oleophobic และ Hydrophobic มาเคลือบให้กับฟิล์ม ซึ่งมันทำให้ฟิล์มกันได้ทั้งน้ำและความมันของมือ เมื่อเกิดการสัมผัสรอยนิ้วมือจะหายไปอย่างรวดเร็วโดยที่เราไม่ต้องเช็ด ในขณะเดียวกันด้วยความหนาในระดับ 9H ก็ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือมันป้องกันแสงสีฟ้าและช่วยถนอมสายตาให้กับเราได้ตลอดการใช้งานมือถือ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจว่าทำไม Hoco เป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่หลายคนเลือกใช้กัน
3. Zeelot (ซีลอต)
หากใครที่ประสบประสบปัญหาที่ติดฟิล์มแล้วทำให้การสัมผัสแย่ลง ต้องหันมาลองใช้ Zeelot เลยครับ เพราะมันติดแนบสนิทกับหน้าจอ แต่การในเรื่องของรอยขีดข่วน, คราบนิ้วมือ หรือรอยแตกร้าวนั้นเกิดขึ้นได้ยากมากกับฟิล์มของทาง Zeelot เพราะฟิล์มทำมาจากกระจกนิรภัยอย่างดี จะบอกว่าเป็นกระจกเกรดพรีเมียมก็คงไม่ผิด เมื่อติดลงไปแล้วภาพยังคงความคมชัดและใสในระดับ Crystal Clear ส่วนการติดตั้งก็ง่ายและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
4. SND To Vision (เอสเอ็นดี ทู วิชั่น)
SND To Vision ขึ้นชื่อในเรื่องความบาง เพราะฟิล์มทุกตัวของทางแบรนด์จะไม่หนา ทำให้คุณสามารถสัมผัสได้ง่าย ส่วนความทนทานก็ไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน เพราะมีตัวฟิล์มจะมีการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Tempered Glass ซึ่งจะลดปัญหาการแตกร้าว ส่วนความแข็งของฟิล์มจะอยู่ในระดับ 9H ซึ่งเป็นระดับที่มาตรฐาน ป้องกันไม่ให้เกิดรอยแตกได้ดีมาก ในขณะที่การติดตั้งก็ง่ายและไม่เป็นฟองอากาศให้รบกวนใจ
5. Venderguard (เวนเดอร์การ์ด)
Vanderguard โดดเด่นในเรื่องของการถนอมสายตา ทำให้ดวงตาของเราไม่ได้รับผลกระทบจากแสงสีฟ้า อีกทั้งวัสดุที่นำมาใช้ผลิตฟิล์มก็ล้วนแล้วแต่มีคุณภาพและนำเข้าจากต่างประเทศ รวมไปถึงกระบวนการผลิตของทางแบรนด์ก็ใส่ใจในทุกรายละเอียด ที่จะมีการอบและใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย นอกจากนี้เนื้อฟิล์มก็ยืดหยุ่นแข็งแรงมาก ๆ และไม่เกิดรอยนิ้วแน่นอนเมื่อมีการสัมผัส
6. Baseus
Baseus เป็นแบรนด์ที่มาจากประเทศฮ่องกง โดยข้อดีของฟิล์มจากแบรนด์นี้จะมีอยู่หลากหลายอย่าง ทั้งในเรื่องของการถนอมสายตาที่จะมีการใช้เทคโนโลยีที่ชื่อว่า ‘Anti-blue-ray’ ซึ่งสามารถกันแสงสีฟ้าไม่ให้หลุดรอดออกมากระทบต่อดูดวงตาของ ส่วนคุณสมบัติความทนทานของฟิล์มก็ดีมาก ทนต่อแรงกระแทกได้ดีเยี่ยมและยังไม่เกิดรอยนิ้วมือ เมื่อติดตั้งลงไปแล้วมันก็ยังคงความชัดในระดับ HD รวมไปถึงการสัมผัสก็ยังคงไหลลื่น เพราะความบางของฟิล์มจะอยู่ในระดับกระดาษ A4 เลยครับ
7. Focus (โฟกัส)
หากพูดถึงฟิล์มแล้ว แน่นอนว่าหลายคนคงจะต้องนึกถึง Focus มาเป็นอันดับต้น ๆ แน่นอน เพราะแบรนด์นี้ตีตลาดในประเทศไทยเราได้ดีมาก ไม่ใช่เพราะเพียงแค่ราคาของมันไม่แพงเท่านั้น แต่บอกได้เลยว่าคุณภาพของฟิล์มไม่แพ้ใครในวงการของฟิล์ม ไม่ว่าจะเป็นความบางของฟิล์มที่ทำให้มองเห็นภาพได้อย่างคมชัดแบบ HD และ การทัชหรือสัมผัสที่ไหลลื่น อีกทั้งรอยขีดข่วนก็หายห่วงไปได้เลย เพราะความแข็งของฟิล์มทั้งหมดในแบรนด์อยู่ระดับ 9H Hardness เลยทีเดียว
![]() | ฟิล์มไฮโดรเจล โฟกัส ถนอมสายตา iPhone | |
![]() | Focus ฟิล์มกระจก เต็มจอ ถนอมสายตา ตัดแสงฟ้า | |
![]() | Focus ฟิล์มกระจกไอแพด แบบถนอมสายตา ตัดแสงสีฟ้า iPad | |
![]() | ฟิล์มกระจกเต็มจอ ถนอมสายตา Focus iPhone | |
![]() | Focus ฟิล์มกระดาษไอแพด ถนอมสายตา Paperlike สำหรับวาดเขียน |
8. Commy (คอมมี่)
Commy ถือว่าเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากเหมือนกัน เนื่องจากทางแบรนด์ได้นำเอาเทคโนโลยีอันทันสมัยมาใช้กับฟิล์ม ยกตัวอย่างเช่น 9H+ Tempered ที่ใช้กระบวนการผลิตด้วยการอบทำให้มันมีความแข็งแรงที่ดีกว่าฟิล์มทั่วไปกว่า 2 เท่า หรือจะเป็น Hydrophobic ที่มีประสิทธิภาพในเรื่องของการป้องกันน้ำและการเกิดหยกน้ำบนฟิล์ม ส่วนคุณสมบัติพื้นฐานอย่างการสัมผัสที่ลื่นและรอยนิ้วมือก็ดีเช่นเดียวกัน
![]() | COMMY ฟิล์มไฮโดรเจล สำหรับ iPhone | |
![]() | COMMY ฟิล์มไฮโดรเจล สำหรับ Samsung Galaxy Note ทุกรุ่น | |
![]() | COMMY ฟิล์มไฮโดรเจล Samsung S Series | |
![]() | COMMY ฟิล์มไฮโดรเจล Xiaomi | |
![]() | COMMY ฟิล์มไฮโดรเจล สำหรับ iPhone 4 - 8 Plus |
9. JDO vision (เจดู วิชั่น)
JDO vision จะมีการผลิตฟิล์มที่ป้องกันแสงสีฟ้าหรือเป็นฟิล์มที่ Anti-Blue Light ได้ ซึ่งเป็นการถนอมสายตาของเราไม่ให้เกิดสายตาเสื่อมในอนาคต อีกทั้งตัวฟิล์มยังมีประสิทธิภาพที่กันกระแทกและกันรอยได้อย่างดีเยี่ยม ที่สำคัญคือขั้นตอนการติดตั้งง่ายเหมือนปอกกล้วย คุณสามารถซื้อไปติดตั้งเองโดยที่ไม่ต้องมีใครช่วย ทั้งนี้เมื่อติดตั้งไปแล้วมันจะเรียบสนิทและไม่เกิดฟองอากาศ
10. Leeplus (ลีพลัส)
ฟิล์มของทาง Leeplus จะผลิตมาจากวัสดุคุณภาพ เพราะทางแบรนด์มีการคัดสรรในทุกชิ้น เรียกว่าวัสดุทุกอย่างเป็นเกรดพรีเมียมทั้งสิ้น ซึ่งแน่นอนเมื่อวัสดุดีแล้วคุณสมบัติของฟิล์มก็ย่อมจะดีตาม ทั้งในเรื่องความคมชัดและความสว่างที่ปกติเหมือนกับไม่ได้ติดฟิล์ม ในขณะที่หน้าจอก็สัมผัสได้ดีเหมือนกัน อีกทั้งฟิล์มยับผ่านมาตรฐานจาก มอก. และมีประกันคุณภาพให้กว่า 1 ปี
![]() | ฟิล์มไฮโดรเจลไอโฟน iPhone 7 ถึง iPhone12 | |
![]() | ฟิล์มไฮโดรเจล vivo ทุกรุ่น | |
![]() | ฟิล์มไฮโดรเจล Hydrogel Samsung Note20 |
11. Nillkin (นิลคิน)
วัสดุที่ใช้ในการผลิตของ Nillkin ล้วนแล้วแต่มีคุณภาพทั้งหมดครับ เพราะวัสดุในหลายตัวมีการนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น ที่บอกได้เลยว่ามีคุณสมบัติในการทนทานแข็งแรงที่ค่อนข้างสูง ส่วนความบางของฟิล์มที่อยู่ในระดับ 0.2 – 0.3 มม. เป็นส่วนใหญ่ ก็ทำให้การสัมผัสหรือการทัชเสมือนกับไม่ได้ติดฟิล์ม นอกจากนี้เทคโนโลยีของฟิล์มก็มีประสิทธิภาพในการป้องกันลายนิ้วมือ, น้ำมัน, รอยขีดข่วน รวมไปถึงแรงกระแทกจากการตกจากที่สูง
เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับ 11 แบรนด์ “ฟิล์มถนอมสายตา ฟิล์มกรองแสงสีฟ้า” ที่เราได้แนะนำกันไปในวันนี้ หวังว่าจะมีสักแบรนด์ที่ถูกใจคุณไม่มากก็น้อย แต่ทั้งนี้นอกเหนือจากการป้องกันตัวเองด้วย ฟิล์มถนอมสายตา แล้วก็อย่าลืมที่พักสายตาจากหน้าจอ LED ทั้งหลายในระหว่างวันด้วยนะครับ ไม่ว่าจะเป็น จอสมาร์ทโฟน จอคอวพิวเตอร์ หรือทีวีเองก็ตาม เนื่องจากที่ดวงตาของคุณได้รับแสงสีฟ้าเป็นเวลานาน ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับดวงตา แนะนำว่าควรพักสายตาทุก 20-30 นาที โดยให้คุณมองออกไปยังข้างนอกในระยะไกลที่สุด อย่างน้อย 20 วินาที/ครั้ง
และอย่าลืมหาอาหารเสริมบำรุงสายตามารับประทานควบคู่กันไปด้วย เน้นตัวที่มี ลูทีน (Lutein), ซีแซนทีน (Zeaxanthin), แอนโธไซยานินจากผลไม้บิลเบอร์รี่ เพราะว่าสารเหล่านี้จะช่วยลดอาการตาแห้ง รวมถึงอาการอื่น ๆ จากความล้าของดวงตาได้ และอาจช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมที่เกี่ยวข้องกับอายุ (AMD) ได้ด้วยครับ เหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้สายตาผ่านหน้าจอดิจิตอลเป็นอย่างมาก
References :
- Research progress about the effect and prevention of blue light on eyes
- Changes in blink rate and ocular symptoms during different reading tasks
- Reducing Short-Wavelength Blue Light in Dry Eye Patients with Unstable Tear Film Improves Performance on Tests of Visual Acuity
- Blink rate, incomplete blinks and computer vision syndrome
- Exposure to Room Light before Bedtime Suppresses Melatonin Onset and Shortens Melatonin Duration in Humans
- Light, melatonin and the sleep-wake cycle.