หากเพื่อน ๆ กำลังมองหาไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปดี ๆ สักตัว เพื่อที่จะช่วยซัพพอร์ตการทำงานหรือการถ่ายคอนเทนต์วิดีโอต่าง ๆ เพื่อให้งานออกมามีคุณภาพ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะเลือกรุ่นไหนดี หรือควรพิจารณาจากอะไรบ้างในการเลือกซื้อ เพราะไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปเป็นสินค้าที่ราคาค่อนข้างสูง หากซื้อมาแล้วไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ก็จะทำให้เราเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้นผู้เขียนจึงได้รวบรวมข้อมูลไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปที่มีคุณภาพเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจมาให้ครับ

ปัจจุบันนี้การถ่ายภาพหรือวิดีโอเพื่อทำคอนเทนต์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการถ่าย Vlog, Tiktok, หรือ Youtube กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าเพียงแค่มี กล้องถ่ายรูป หรือ กล้องมือถือ ตัวเดียวก็สามารถถ่ายวิดีโอออกมาได้เลย ซึ่งเพื่อน ๆ ทราบไหมครับว่าการถ่ายวิดีโอในแต่ละครั้งเพื่อให้ได้ภาพและวิดีโอที่ดีไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหากมือของเราจะต้องคอยถือกล้องถ่ายวิดีโอ ขาก็ต้องเดิน ตาก็ต้องคอยมองสิ่งรอบ ๆ ตัวตลอด มือที่ถือกล้องก็จะมีการสั่นไปมาตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย การที่จะถ่ายวิดีโอให้ออกมาสมูทได้จึงไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยการฝึกฝนและความชำนาญในการเรียนรู้มุมกล้องและการควบคุมกล้อง ถึงแม้กล้องในปัจจุบันจะมีการพัฒนาฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้สามารถกันสั่นได้ดีขึ้น แต่หากใช้งานร่วมกับ อุปกรณ์เสริม สำหรับกล้องถ่ายรูปต่าง ๆ โดยเฉพาะ “ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป” ก็จะเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้การถ่ายวิดีโอนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและถ่ายทอดทุกการเคลื่อนไหวออกมาได้อย่างมืออาชีพครับ
ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป รุ่นไหน/ยี่ห้อไหนดี?
- ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สำหรับสายท่องเที่ยว: ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป DJI รุ่น RS3 Mini
- ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป มีไฟ LED ปรับความสว่างได้ ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน : ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป ZHIYUN รุ่น Crane M2S Standard
- ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปรุ่นเริ่มต้น ปรับใช้งานได้หลากหลาย แบตอึด: ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป MOZA รุ่น Mini-P MAX
- ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป พร้อมไมโครโฟนและไฟ LED ในตัว: ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป ZHIYUN รุ่น Weebill 3
- ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูประดับมืออาชีพ รองรับทุกการทำงาน : ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป DJI รุ่น RS3 Pro
ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป คืออะไร?
ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปหรือที่ช่างภาพมักจะรู้จักกันในชื่อ “กิมบอล” เป็นอุปกรณ์เสริมที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับกล้อง DSLR, กล้องมิลเลอร์เลส, กล้อง Go Pro หรือกล้องโทรศัพท์มือถือ เพื่อช่วยควบคุมและสนับสนุนการถ่ายภาพหรือถ่ายวิดีโอให้ออกมาเป็นธรรมชาติ มีความลื่นไหล และช่วยลดการสั่นไหวเมื่อกล้องมีการขยับตำแหน่งทำให้ภาพหรือวิดีโอไม่เกิดการสั่นระหว่างที่เคลื่อนที่

โดยอุปกรณ์ไม้กันสั่นจะมีลักษณะเป็นด้ามจับหรือขาตั้งขนาดเล็กสำหรับใช้ติดกล้อง มีปุ่มควบคุมตรงบริเวณด้ามจับใช้สำหรับสั่งการทำงานของกล้อง ซึ่งจะมีฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ ทำให้เราสามารถตั้งค่าการเคลื่อนไหวของกล้องได้ ไม่ว่าจะเป็นการ หมุน การแพน การจับตำแหน่งการเคลื่อนไหวต่าง ๆ
ซึ่งด้ามจับจะมีมอเตอร์คอยทำหน้าที่ปรับตำแหน่งของกล้อง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมทิศทางการเคลื่อนไหวของกล้องได้อย่างอิสระ วิดีโอจึงมีความนิ่งและมีความนุ่มนวล ทำให้สามารถสร้างสรรค์งานให้ออกมาได้อย่างมืออาชีพ ผลงานที่ออกมาจึงมีความน่าสนใจและสามารถดึงดูดสายตาผู้ชมได้
ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป DJI รุ่น RS3 Mini

ราคา 10,590 บาท*
ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปจากแบรนด์ชื่อดัง DJI รุ่น RS3 Mini เป็นไม้กันสั่นขนาดเล็กมีน้ำหนักเบาเพียง 795 g. โดยไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานกลุ่มคนที่ต้องการไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปที่มีขนาดเล็ก พกพาง่าย มีน้ำหนักเบา สามารถรองรับน้ำหนักได้สูงถึง 2 kg. มีแกนมอเตอร์แบบ 3 แกน เหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกับกล้องมิลเลอร์เลส และกล้องที่มีขนาดใหญ่ได้เนื่องจากฐานสำหรับวางกล้องสามารถปรับขนาดได้ และสามารถพับเก็บได้ทำให้ใช้งานได้สะดวก มีแบตเตอรี่ในตัวสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 10 ชม. นอกจากนี้ยังมีหน้าจอสีแบบทัชสกรีนขนาด 1.4 นิ้ว มาให้ ทำให้สามารถเข้าถึงเมนูและเปลี่ยนโหมดการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญยังใช้งานง่ายอีกด้วยครับ
จุดเด่นของการใช้งานไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปรุ่นนี้จะอยู่ที่ความสามารถในการถ่ายวิดีโอแนวตั้งเพียงปรับตรงฐานของไม้กันสั่นเพื่อปรับตำแหน่ง ก็จะทำให้เราถ่ายวิดีโอจากกล้องถ่ายรูปเป็นแนวตั้งได้โดยที่เราไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เพิ่ม และเรายังสามารถโหลดแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า DJI Ronin ซึ่งภายในตัวแอปพลิเคชันเราสามารถตั้งค่าและควบคุมการทำงานของไม้กันสั่นระยะไกลผ่านโทรศัพท์มือถือได้ ถึงแม้ DJI รุ่น RS3 Mini จะมีบางฟีเจอร์อย่าง DJI รุ่น RS 3 Pro เช่น การติดอุปกรณ์เสริมอย่าง DJI Follow Focus ได้ แต่โดยรวมตัวไม้กันสั่นรุ่นนี้ก็ทำออกมาได้ดีเรียกได้ว่าคุ้มเกินราคามาก ๆ เหมาะสำหรับสายท่องเที่ยว ไม่ต้องการกล้องที่มีขนาดใหญ่มาก และควบคุมการทำงานได้ง่ายครับ
จุดเด่น
- มีหน้าควบคุมการทำงาน จอสีทัชสกรีน 1.4 นิ้ว
- มีระบบล็อกแบบใหม่ ปรับให้กล้องถ่ายแนวตั้งได้
- ควบคุมกล้องแบบไร้สายผ่านบลูทูธ 5.1 ได้
- น้ำหนักเบา พกพาได้สะดวก
- ปรับใช้งานผ่านแอปพลิเคชันได้
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีระบบออโตล็อก หากจะเปิดใช้งานกิมบอลแต่ละแกนต้องใช้มือปลดล็อกเอง
- แบตเตอรี่แบบบิวท์อิน ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้
มอเตอร์ | 3 แกน |
---|---|
น้ำหนัก | 795 g. |
รองรับน้ำหนักกล้อง | 2,000 g. |
ระยะเวลาการใช้งาน | 10 ชม. |
การชาร์จ | ชาร์จแบตเตอรี่ / 2450 mAh |
ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป ZHIYUN รุ่น Crane M2S Standard

ราคา 10,500 บาท*
ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปจากแบรนด์อุปกรณ์เสริมสำหรับกล้องถ่ายรูประดับโลก ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย น่าใช้งาน น้ำหนักเบา มาพร้อมระบบล็อกแกน 3 แกน ช่วยทำให้สามารถถ่ายภาพได้อย่างสมูทและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยการเชื่อมต่อและการควบคุมกล้องผ่านทางสาย USB-C มีหน้าจอเมนูแบบทัชสกรีนขนาด 0.66 นิ้ว สามารถบอกระดับแบตเตอรี่ได้ ใช้งานง่าย ด้านข้างจะมีปุ่มควบคุมกำลังไฟสามารถช่วยปรับแสงหรือความสว่างของไฟ LED ได้ หมดปัญหาเรื่องถ่ายวิดีโอในที่แสงน้อย และปรับความสว่างได้สูงสุดถึง 5 ระดับ และมีโหมด Portrait ช่วยในการถ่ายภาพบุคคลได้
ZHIYUN รุ่น Crane M2S เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานที่ง่าย ไม่ต้องการการใช้งานที่ซับซ้อน ไม่เน้นปรับแต่งหรือตั้งค่าที่วุ่นวาย หรือไม่ได้เน้นการติดตั้งอุปกรณ์เสริม และยังรองรับการใช้งานที่หลากหลายซึ่งมีโหมดการใช้งานถึง 7 โหมดเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น Youtuber การถ่าย Vlog หรือการถ่ายวิดีโอที่มีการเคลื่อนไหวแบบรวดเร็วก็สามารถทำได้ดี และการถ่ายในแนวตั้งหรือโหมด Portrait ก็สามารถทำได้ ซึ่งหากเทียบกับไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปที่มีราคาใกล้เคียงกันอย่าง DJI รุ่น RS3 Mini ทั้งดีไซน์และรูปแบบการใช้งานไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก ซึ่งการควบคุมการใช้งาน ZHIYUN รุ่น Crane M2S อาจจะใช้งานสะดวกกว่า แต่ทั้งสองรุ่นก็เป็นไม้กันสั่นที่สามารถใช้งานได้แต่ฝึกเริ่มต้นใช้งานไปจนถึงการใช้งานแบบมืออาชีพได้ครับ
จุดเด่น
- มีหน้าควบคุมการทำงาน จอทัชสกรีน 0.66 นิ้ว
- มีไฟช่วยปรับแสงสว่าง
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C
- รองรับการชาร์จไว
- มีแอปพลิเคชันรองรับการใช้งาน
ข้อควรพิจารณา
- มอเตอร์มีความอึดและความแข็งแรงน้อยกว่ารุ่นอื่น ๆ อาจจะไม่เหมาะสำหรับกล้องที่มีน้ำหนักมาก
- หากใช้ติดต่อกันในสภาพอากาศร้อน เครื่องอาจจะเกิดความร้อน จำเป็นต้องพักงานการใช้งานเป็นระยะ ๆ
มอเตอร์ | 3 แกน |
---|---|
น้ำหนัก | 549 g. |
รองรับน้ำหนักกล้อง | 1,500 g. |
ระยะเวลาการใช้งาน | 10 ชม. |
การชาร์จ | ชาร์จแบตเตอรี่ / 4,000 mAh |
ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป Hohem รุ่น iSteady Multi

ราคา 4,499 บาท*
ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปรุ่นเริ่มต้น ราคาดี ขนาดเล็ก พกพาสะดวก โดย Hohem รุ่น iSteady Multi เป็นไม้กันสั่นที่สามารถใช้งานได้ทั้งกล้องแอ็กชันขนาดเล็กอย่างกล้องโกโปร กล้องดิจิทัล และกล้องจากโทรศัพท์มือมือ ไม้กันสั่นสามารถติดติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้ มีการทำงานของมอเตอร์แกน 3 แกน สามารถควบคุมการทำงานของไม้กันสั่นผ่านแอปพลิเคชันในมือถือได้ ความพิเศษของไม้กันสั่นรุ่นนี้หากใครที่ใช้งานกล้องของ Sony RX100 ที่จะมีสายเชื่อมต่อไม้กันสั่นกับกล้องได้โดยตรง ทำให้สามารถสั่งกดถ่ายรูป อัดวิดีโอ หรือซูมเข้า-ออก จากไม่ได้โดยตรง หรือหากใช้งานกับกล้องโทรศัพท์มือถือก็สามารถใช้โหมดถ่ายรูปต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชันได้ ในส่วนของการใช้งานกับกล้องโกโปรก็สามารถใช้งานง่ายมาก ๆ ซึ่งเราสามารถควบคุมการทำงานผ่านจอยสติ๊กที่ไม้กันสั่นได้เลย และมี Sport Mode ที่สามารถถ่ายการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วได้ โดยมอเตอร์จะตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมาก ๆ
สำหรับใครที่มีงบจำกัด แต่อยากได้ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปเพื่อใช้งานกับกล้องขนาดเล็ก สเปกฟังก์ชันการใช้งานครบ สามารถปรับการใช้งานได้หลากหลาย Hohem รุ่น iSteady Multi ก็เป็นอีกรุ่นที่ควรค่าแก่การนำมาใช้งานครับ แต่ข้อจำกัดของรุ่นนี้คือ ไม่สามารถใช้งานกับกล้องที่มีน้ำหนักเกิน 400 g. ได้ หากใครที่จำเป็นต้องใช้งานร่วมกับกล้องที่มีขนาดใหญ่ก็จะไม่สามารถใช้งานร่วมกับไม้กันสั่นรุ่นนี้ได้ครับ
จุดเด่น
- มีขนาดเล็ก ใช้งานง่าย พกพาสะดวก
- สามารถใช้งานกับกล้องรุ่นเล็กและกล้องมือถือได้
- มี Sport Mode สามารถตรวจจับภาพการเคลื่อนไหวเร็ว ๆ ได้
- ควบคุมการทำงานร่วมกับกล้อง Sony RX100 ได้
- มีแอปพลิเคชันรองรับการใช้งาน
ข้อควรพิจารณา
- ไม่สามารถใช้งานร่วมกับกล้องโปรที่มีขนาดใหญ่ได้
มอเตอร์ | 3 แกน |
---|---|
น้ำหนัก | 530 g. |
รองรับน้ำหนักกล้อง | 400 g. |
ระยะเวลาการใช้งาน | 8 ชม |
การชาร์จ | ชาร์จแบตเตอรี่ / 3,600 mAh |
ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป MOZA รุ่น Mini-P MAX

ราคา 5,590 บาท*
MOZA รุ่น Mini-P Max เป็นรุ่นอัพเกรดจากรุ่น Mini-P โดยมีดีไซน์ที่ทันสมัยขึ้น มีความแข็งแรงขึ้น จับถือได้ง่ายกว่าเดิม พร้อมระบบล็อกแกน 3 แกน สามารถใช้งานได้ทั้งกล้องแอ็กชันขนาดเล็ก กล้องถ่ายรูปทั่วไป และกล้องมือถือ น้ำหนักของไม้กันสั่น 706 g. สามารถรองรับน้ำหนักของกล้องได้ไม่เกิน 1 kg. มีแบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุดถึง 20 ชม. พอร์ตชาร์จแบบ Type-C สามารถพกพาไปใช้งานข้างนอกได้สะดวก
ในด้านของระบบกันสั่นของรุ่นนี้สามารถใช้งานได้ดี ถึงแม้จะวิ่งหรือเคลื่อนไหวเร็ว ๆ วิดีโอที่ถ่ายออกมาก็ยังมีความนิ่ง ภาพไม่สั่นโครงเครงไปมา มีความลื่นไหลเป็นธรรมชาติ สามารถใช้แอปพลิเคชันในการตั้งค่าต่าง ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือหรือปรับมาใช้เป็นรีโมตควบคุมการทำงานของไม้กันสั่นได้ โดยรวมของไม้กันสั่นรุ่นนี้เป็นรุ่นเริ่มต้น เหมาะสำหรับใช้งานทั่ว ๆ ไป ที่สำคัญราคาเป็นมิตรแถมการใช้งานยังให้มาครบครันไม่แพ้แบรนด์อื่น ๆ หากเทียบกับ Hohem รุ่น iSteady Multi ที่มีราคาใกล้เตียงกัน ไม้กันสั่น MOZA รุ่น Mini-P Max สามารถรองรับการใช้งานของขนาดกล้องได้มากกว่า และรุ่น iSteady Multi จะเน้นใช้งานร่วมกับกล้องที่มีขนาดเล็ก กล้องแอ็กชัน หรือโกโปร ไม่เน้นใช้งานกับกล้องที่มีขนาดใหญ่มากครับ
จุดเด่น
- มีแอปพลิเคชันรองรับการใช้งาน
- สามารถใช้งานได้ทั้งกล้องขนาดเล็ก ขนาดกลาง และใช้งานร่วมกับกล้องมือถือได้
- ใช้แอปพลิเคชันในมือถือเป็นรีโมตควบคุมการทำงานของไม้กันสั่นได้
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับใช้งานกับกล้องขนาดใหญ่
มอเตอร์ | 3 แกน |
---|---|
น้ำหนัก | 706 g. |
รองรับน้ำหนักกล้อง | 1,000 g. |
ระยะเวลาการใช้งาน | 20 ชม. |
การชาร์จ | ชาร์จแบตเตอรี่ / 2,000 mAh |
ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป FeiyuTech รุ่น Gimbal Scorp-mini

ราคา 7,580 บาท*
จุดเด่น
- สามารถปรับอุปกรณ์เสริมให้ใช้งานร่วมกับกล้องขนาดเล็กและมือถือได้
- มีหน้าจอ OLED ระบบสัมผัส สำหรับใช้ควบคุมการทำงาน
- เมนูการควบคุมไม่ซับซ้อน ใช้งานง่าย
ข้อควรพิจารณา
- ดีไซน์ค่อนข้างธรรมดา หากเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ที่มีราคาใกล้เคียงกัน
- ไม่เหมาะสำหรับกล้องที่มีขนาดใหญ่มาก
มอเตอร์ | 3 แกน |
---|---|
น้ำหนัก | 787 g. |
รองรับน้ำหนักกล้อง | 1,200 g. |
ระยะเวลาการใช้งาน | 13 ชม. |
การชาร์จ | ชาร์จแบตเตอรี่ / 2,500 mAh |
ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป ZHIYUN รุ่น Crane M3

ราคา 14,900 บาท*
ไม้กันสั่นขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ที่สเปกจัดเต็ม โดยไม้กันสั่นรุ่นนี้เหมาะสำหรับการทำงานของสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ การทำวิดีโอตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงการใช้งานแบบจริงจังระดับมืออาชีพ เป็นไม้กันสั่นที่ใช้งานง่าย สามารถปรับบาลานซ์ของกล้องได้เร็ว มีการทำงานของแกนมอเตอร์แบบ 3 แกน และที่สำคัญ ไม้กันสั่นรุ่นนี้ยังมีไฟ LED ที่ให้สว่างและปรับแสงต่าง ๆ ได้ในตัว ทำให้การถ่ายทำวิดีโอคอนเทนต์ได้สะดวก นอกจากนี้ยังรับน้ำหนักกล้องได้สูงสุดถึง 1 kg. ไม่ว่าจะเป็นกล้องแอ็กชัน กล้องมิลเลอร์เลส หรือกล้องโทรศัพท์มือถือก็สามารถใช้งานได้
การปรับตั้งค่าไม้กันสั่นต่าง ๆ สามารถตั้งค่าเมนูคำสั่งการใช้งานต่าง ๆ ผ่าน หน้าจอสี OLED แบบทัชสกรีนตรงไม้กันสั่นได้ ซึ่งการใช้งานคำสั่งต่าง ๆ ได้ค่อนข้างง่าย รวมถึงปุ่มจอยสติ๊กและปุ่มควบคุมก็ออกแบบมาให้กดด้วยมือเดียวได้สะดวก และหากใครที่ต้องการใช้งานกับอุปกรณ์เสริมอย่างไมโครโฟนหรือ Accessory ต่าง ๆ ที่ใช้ทำงานแบบจริงจังมากขึ้น และไม้กันสั่นกล้องมีพอร์ตเชื่อมต่อต่าง ๆ ที่สามารถรองรับอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ได้ครับ หากใครที่กำลังมองหาไม้กันสั่นที่ดีไซน์สวย คุณภาพระดับแบบมืออาชีพ ราคาไม่สูงจนเกินไป ZHIYUN รุ่น Crane M3 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ ครับ
จุดเด่น
- มีหน้าควบคุมการทำงาน จอสี OLED ทัชสกรีน 1.22 นิ้ว
- มีไฟ LED ช่วยปรับแสงสว่าง
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และรองรับการชาร์จผ่าน Powerbank
- รองรับการชาร์จไว
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกับกล้องที่มีขนาดใหญ่
มอเตอร์ | 3 แกน |
---|---|
น้ำหนัก | 700 g. |
รองรับน้ำหนักกล้อง | 1,000 g. |
ระยะเวลาการใช้งาน | 6 - 8 ชม. |
การชาร์จ | ชาร์จแบตเตอรี่ / 1150 mAh |
ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป ZHIYUN รุ่น Weebill 3

ราคา 15,813 บาท*
ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปสำหรับสายทำงานแบบมืออาชีพ ระบบการทำงานแกนมอเตอร์แบบ 3 แกน สามารถกันสั่นได้ดี มีความเสถียร ผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน โดยน้ำหนักเพียง 1240 g. สามารถรองรับน้ำหนักกล้องได้สูงสุดถึง 3 kg. ใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 21 ชั่วโมง มีไฟ LED ให้แสงสว่างและปรับความสว่างได้ และจุดเด่นที่สำคัญของไม้กันสั่นรุ่นนี้คือ มีไมโครโฟนคุณภาพดีสามารถตัดเสียงรบกวนได้ เก็บเสียงได้ชัด ซึ่งฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยให้ไม่จำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เยอะ เมื่อต้องไปออกกองถ่ายวิดีโอหรือต้องพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ก็พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา
ดีไซน์ของกล้องมีขนาดเล็ก สามารถจับได้ถนัดมือ มีการออกแบบที่พักข้อมือตรงบริเวณฐานของไม้กันสั่นมือถือให้พอดีดีกับข้อมือ ซึ่งจะช่วยทุ่นแรงและลดภาระของข้อมือที่ต้องรับน้ำหนักของกล้องและไม้กันสั่นได้ สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เพื่อให้ใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีหน้าจอ OLED แบบทัชสกรีนและปุ่มลัดต่าง ๆ ที่ดีไซน์ออกมาให้สามารถควบคุมการทำงานของกล้องได้ง่าย ไม่ยุ่งยากครับ ซึ่งในรุ่น Weebill 3 จะเหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เน้นใช้กับกล้องที่มีขนาดใหญ่ งานที่มีความจริงจัง เน้นความเป็นมืออาชีพ และสำหรับคนที่ต้องใช้งานแบบไม่ชอบพกอุปกรณ์เสริมเยอะ รุ่นนี้ก็เหมาะมาก ๆ ครับ แต่หากไม่ได้เน้นกล้องที่มีขนาดมาก เน้นพกพาสะดวกไม้กันสั่นของ ZHIYUN รุ่น Crane M3 หรือ ZHIYUN รุ่น Crane M2S ก็ค่อนข้างถือใช้งานได้สะดวกกว่าครับ
จุดเด่น
- มีหน้าควบคุมการทำงาน จอ OLED 0.96 นิ้ว
- มีแท่นรองข้อมือ ทำให้ถือง่ายขึ้น
- มีไฟ LED ให้ความสว่าง
- มีไมโครโฟนในตัว มีระบบการตัดเสียงรบกวน
- สามารถใช้เป็น Power Bank ให้กล้องได้
- สามารถสั่งการทำงานผ่านแอปพลิเคชันได้
คุณสมบัติสินค้า
- ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานกับกล้องขนาดเล็ก
- หากใช้ไปนานอาจจะปวดเมื่อยข้อมือ เพราะค่อนข้างมีน้ำหนักเมื่อต้องใช้งานร่วมกับกกล้องที่มีขนาดใหญ่
มอเตอร์ | 3 แกน |
---|---|
น้ำหนัก | 1,240 g. |
รองรับน้ำหนักกล้อง | 3,000 g. |
ระยะเวลาการใช้งาน | 21 ชม. |
การชาร์จ | ชาร์จแบตเตอรี่ / 2,600 mAh |
ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป DJI รุ่น RS3 Pro

ราคา 29,500 บาท*
ไม้กันสั่นกล้องมือถือระดับมืออาชีพที่มาพร้อมแกนการทำงานของมอเตอร์ 3 แกน สามารถกันสั่นได้ดี วิดีโอมีความสมูท ลื่นไหล นุ่มนวลอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับใช้งานกับการถ่ายวิดีโอที่จริงจังหรืองานถ่ายภาพยนตร์ มีระบบออโตล็อกที่จะล้อกตัวแกนทั้ง 3 แกนแบบอัตโนมัติ ทำให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายในการทำงาน หากจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายกองหรือย้ายสถานที่ระหว่างถ่ายวิดีโอตัวออโตล็อกก็จะช่วยทำให้การทำงานสะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับการสั่งงานผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ มีหน้าจอ OLED ทัชสกรีนที่สามารถสั่งการทำงานได้ง่ายและทำงานได้อย่างรวดเร็ว หรือสั่งการทำงานต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชันได้
ดีไซน์และการรับน้ำหนักของไม้กันสั่นรุ่นนี้เรียกได้ว่าสามารถใช้งานได้กับกล้องทุกแบบเลยครับ เพราะมีงานประกอบเป็น Carbonfiber น้ำหนักเบาเพียง 1.5 kg. สามารถรับน้ำหนักกล้องได้มากถึง 4.5 kg. และสามารถใส่ Handle สำหรับช่วยทุ่นแรงรับน้ำหนักในการถ่ายวิดีโอเมื่อจำเป็นต้องใช้งานติดต่อกันเป็นระยะเวลานานทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นอีกด้วยครับ หากเทียบกับไม้กันสั่น ZHIYUN รุ่น Weebill 3 ในรุ่น RS3 Pro จะราคาค่อนข้างสูงกว่ามาก แต่หากเพื่อน ๆ ต้องใช้ทำงานที่มีความเป็นมืออาชีพ จำเป็นต้องใช้ทำงานอยู่เป็นประจำ และงบไม่ใช่ปัญหา การเลือกซื้อ รุ่น RS3 Pro ก็นับว่าคุ้มค่าไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาการใช้งานแน่นอนครับ
จุดเด่น
- มีหน้าควบคุมการทำงาน จอสี OLED ทัชสกรีน 1.8 นิ้ว
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C
- เชื่อมต่อบลูทูธ 5.0 ได้
- สามารถสั่งการทำงานผ่านแอปพลิเคชันได้
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
- หากใช้ไปนานอาจจะปวดเมื่อยข้อมือ เพราะค่อนข้างมีน้ำหนักเมื่อต้องใช้งานร่วมกับกกล้องที่มีขนาดใหญ่
มอเตอร์ | 3 แกน |
---|---|
น้ำหนัก | 1,500 g. |
รองรับน้ำหนักกล้อง | 4,500 g |
ระยะเวลาการใช้งาน | 12 ชม. |
การชาร์จ | ชาร์จแบตเตอรี่ / 1,950 mAh |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ 8 ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
การเลือกไม้กันสั่นที่ดีมีคุณภาพเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เพราะหากเราต้องใช้งานร่วมกับกล้องที่มีราคาแพง แล้วเกิดใช้งานกับไม่กันสั่นกล้องที่ไม่ได้คุณภาพ ถ้ากล้องเกิดตกหล่นเสียหายคงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ การเลือกไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปที่มีคุณภาพหรือแบรนด์ที่ได้รับความน่าเชื่อถือก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เกิดความสบายใจและความมั่นใจในการใช้งานครับ และที่สำคัญถึงแม้เราจะมีกล้องถ่ายรูปที่มีฟีเจอร์การใช้งานที่ดีหรือไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปที่มีคุณภาพขนาดไหน แต่หากเราไม่ศึกษาและฝึกการใช้งานเป็นประจำก็จะทำให้เราไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นเพื่อน ๆ ก็อย่าลืมที่จะหมั่นศึกษาและฝึกฝนเทคนิคการใช้งานไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปกันด้วยนะครับ
วิธีการเลือกไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป
การตัดสินใจเลือกไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปมาใช้งานให้เหมาะสมจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้งานออกมามีคุณภาพสามารถช่วยประหยัดเวลา และช่วยสนับสนุนการถ่ายวิดีโอให้ง่ายขึ้น แต่เพื่อน ๆ อาจจะยังไม่ทราบว่าการเลือกไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปเบื้องต้นเราจำเป็นต้องดูอะไรก่อนบ้าง เพราะสินค้ามีราคาที่ค่อนข้างสูง กล้องที่นำมาใช้งานก็ค่อนข้างมีราคา หากซื้อรุ่นที่ไม่ตรงกับวิธีใช้งาน ก็จะเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา ดังนี้ผู้เขียนจึงรวบรวมวิธีที่จะช่วยให้สามารถตัดสินใจเลือกซื้อไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปมาฝากกันครับ
1. ควรเลือกไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปให้เหมาะกับการใช้งาน
ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปหรือกิมบอล แต่ละรุ่นมีการออกแบบการใช้งานและคุณสมบัติต่างกัน เพื่อช่วยตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายของผู้ใช้งาน แต่ไม้กันสั่นสำหรับกล้องถ่ายรูป เป็นอุปกรณ์ที่มีราคาค่อนข้างสูง หากเพื่อน ๆ จำเป็นต้องใช้กล้องถ่ายรูปสำหรับทำงานเพื่อถ่ายภาพหรือวิดีโอ การเลือกซื้อไม้กันสั่นที่มีคุณภาพก็เป็นสิ่งที่จะช่วยให้การทำงานของเพื่อน ๆ สามารถทำได้อย่างสะดวก รวดเร็วมาก และช่วยประหยัดเวลาในการทำงานมากยิ่งขึ้น สามารถถ่ายทำวิดีโอได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งความจำเป็นในการเลือกไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปมาใช้งานหากไม่ได้เน้นมุมกล้องมาก เป็นการถ่ายวิดีโอที่เป็นไลฟ์สไตล์หรือ Vlog ที่การถ่ายค่อนข้างฟรี อาจจะเลือกเป็นไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปที่มีแกน 2 แกน หรือขนาดเล็ก ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่ว ๆ ไปและทำให้การถ่ายวิดีโอสบายขึ้น หรือหากทำงานแบบมืออาชีพการเลือกใช้ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปที่มีขนาดใหญ่ สามารถรองรับน้ำหนักและขนาดของกล้องแบบโปรได้ มีการทำงานของมอร์เตอร์แบบ 3 แกน ก็จะช่วยให้งานออกมามีคุณภาพครับ
2. ควรพิจารณาแกนมอเตอร์ของไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูป
จำนวนแกนของไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปมีผลต่อประสิทธิภาพและคุณภาพของวิดีโอเป็นอย่างมาก เพราะไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปบางรุ่น มีแกนการทำงานเพียง 1 แกน ทำให้การควบคุมตำแหน่งและทิศทางการเคลื่อนไหวของกล้องเคลื่อนที่ได้เพียงไปด้านหน้าและด้านหลัง หรือแบบ 2 แกน ที่ไม่สามารถปรับทิศทางการแพนตำแหน่งกล้องได้ แต่จะมีราคาค่อนข้างที่ย่อมเยากว่าและน้ำหนักเบากว่าแบบ 3 แกน และจะเห็นได้จากไม้กันสั่นที่ใช้สำหรับกล้องมือถือเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปจะมี 3 แกน ทำให้สามารถควบคุมตำแหน่งและทิศทางของคลองได้สมูทมากยิ่งขึ้น โดยจะแบ่งเป็นหลัก ๆ 3 มุม คือ มุม Roll การหมุนวนกล้องเป็นวงกลม, มุม Pitch หรือ Tilt เป็นการปรับขึ้น – ลง และสุดท้ายมุม Yaw เป็นการหมุนซ้าย – ขวา ซึ่งแบบ 3 แกน จะค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งานได้มากกว่า ทำให้วิดีโอมีความน่าสนใจและปรับมุมมองได้หลากหลาย

3. ควรพิจารณาขนาดและน้ำหนัก
ไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปมีตั้งแต่ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ โดยแต่ละขนาดก็จะมีการใช้งานร่วมกับกล้องถ่ายรูปที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่น มีทั้งแบบที่ใช้ร่วมกับกล้องมือถือ กล้องขนาดเล็ก หรือกล้องโปรขนาดใหญ่ ขึ้นอยู่กับการดีไซน์ให้ออกมาตามประเภทการใช้งาน ซึ่งจำเป็นต้องพิจารณาในเรื่องของการรองรับการใช้งาน และในเรื่องของขนาดและน้ำหนักของกล้อง เพราะเมื่อเลือกรุ่นของไม้กันสั่นที่ไม่รองรับกับกล้องก็จะทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เช่น หากซื้อไม้กันสั่นกล้องที่มีขนาดเล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเบา สามารถหยิบพกพาออกไปใช้งานด้านนอกได้อย่างสะดวก ก็จะรองรับน้ำหนักได้น้อย แต่หากนำไปใช้ร่วมกับกล้องที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักเยอะ ก็จะทำให้ไม่สามารถใช้งานไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือหากซื้อไม้กันสั่นกล้องที่มีขนาดใหญ่และหนักเกินไป ก็จะส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยร่างกาย ซึ่งจากที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกแต่จะกลายเป็นอุปสรรคต่อผู้ใช้งานแทนครับ

4. ควรตรวจสอบแบตเตอรี่และระยะเวลาการใช้งาน
การใช้งานแบตเตอรี่อาจจะไม่จำเป็นต้องพิจารณามาก เพราะไม้กันสั่นสำหรับกล้องถ่ายรูป โดยส่วนใหญ่จะถูกออกแบบเพื่อให้ตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ต้องนำไปใช้งานด้านนอก ต้องคอยจับตำแหน่งภาพและวิดีโอที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ทำให้จำเป็นต้องดูปริมาณความจุแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานติดต่อกันได้นาน แต่ก่อนจะเลือกซื้อมาใช้งาน ข้อมูลการใช้พลังงานแบตเตอรี่ก็เป็นสิ่งที่เราควรทราบไม่ว่าจะเป็น ความจุแบตเตอรี่ การใช้พลังงาน ระยะเวลาการใช้งาน หรือรูปแบบของการใช้แบตเตอรี่ ซึ่งการที่เรารู้ข้อจำกัดและระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ก็จะทำให้เราสามารถวางแผน พร้อมกับกำหนดระยะเวลาการทำงานได้ ช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น
5. การเลือกไม้กันสั่นจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ
การเลือกซื้อไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปมาใช้งานจำเป็นต้องเลือกสินค้าที่เมื่อซื้อมาใช้แล้วสามารถใช้งานได้จริง เนื่องจากไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปมีราคาที่ค่อนข้างสูง หากซื้อมาแล้วไม่สามารถกันสั่นได้ ก็เท่ากับว่าเราเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ การเลือกจากแบรนด์สินค้าที่น่าเชื่อถือและได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานจริง ก็จะทำให้เราสามารถเลือกไม้กันสั่นกล้องที่นำไปช่วยงานของเราให้มีคุณภาพได้ครับ ซึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยม เช่น DJI ที่เป็นแบรนด์ผลิตกล้อง Action Camera โดยจะมีจุดเด่นที่มีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน หรือ แบรนด์ ZHIYUN ที่ผลิตอุปกรณ์เสริมสำหรับกล้องถ่ายรูป ซึ่งทั้งสองแบรนด์เป็นแบรนด์ระดับโลกที่ได้รับการยอมรับเรื่องคุณภาพจากผู้ใช้งานจริงทั่วโลก นอกจากนี้แบรนด์ MOZA, FeiyuTech, หรือ Hohem ก็ได้พัฒนาไม้กันสั่นกล้องถ่ายรูปรุ่นต่าง ๆ ออกมาในราคาที่ย่อมเยา และเพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์รองรับผู้ใช้งานในกลุ่มต่าง ๆ มากขึ้น