ทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่การจัดระเบียบเวลาชีวิตของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน สำหรับใครที่มีชีวิตเร่งรีบในช่วงเช้า คุณก็จำเป็นต้องตื่นแต่เช้า เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการจารจรที่ติดขัด แน่นอนว่าไม่มีใครชอบตื่นเช้าหากคุณยังนอนไม่เต็มอิ่ม เพราะมันจะส่งผลให้คุณรู้สึกง่วงนอน อ่อนเพลีย และไร้เรี่ยวแรงที่จะทำงาน ดังนั้น “กาแฟ” จึงเป็นตัวช่วยสำหรับหนุ่มสาวชาวกรุงอย่างพวกเรา เพราะมันจะทำให้คุณกระปรี้กระเปร่าได้ทั้งวัน อีกทั้งช่วยกระตุ้นให้คุณหายง่วงนอนได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้คุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมธุรกิจร้านกาแฟจึงเป็นขึ้นเกิดใหม่ได้เรื่อย ๆ เพราะว่ากาแฟเป็นเครื่องดื่มยอมนิยมของคนทุกเพศ ทุกวัย ยังไงล่ะคะ
เครื่องชงกาแฟสด แบบไหนเหมาะกับคุณ
- เครื่องชงกาแฟแบบเอสเปรสโซ่กึ่งอัตโนมัติ มีคุณภาพสูงเหมาะสำหรับร้านค้าและคนที่มีความเชี่ยวชาญในการชงกาแฟ: Breville เครื่องชงกาแฟคุณภาพสูง รุ่น BES870 ขนาด XL
- เครื่องชงกาแฟแบบเอสเปรสโซ่ราคาถูก ช่วยประหยัดเวลาในการชง และชงกาแฟได้เข้มข้น: Donlim เครื่องชงกาแฟ รุ่น KF-6001
- เครื่องชงกาแฟเอสเพรซโซ ชงได้ทั้งกาแฟผงและกาแฟแคปซูล: De'Longhi เครื่องชงกาแฟเอสเพรซโซ่ Dedica รุ่น EC685.M
- เครื่องชงกาแฟสำหรับร้านเล็ก ๆ ราคาไม่แพง แต่คุณภาพของเครื่องชงดี: Lelit เครื่องชงกาแฟ รุ่น PL042QE
- เครื่องชงกาแฟแบบดริปราคาถูก มีฟังก์ชันครบ เหมาะสำหรับการชงภายในบ้าน: JIALEMEI เครื่องชงกาแฟ Edoolffe
กาแฟ คืออะไร?
กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ทำจากเมล็ดกาแฟคั่วซึ่งได้จากต้นกาแฟ จากนั้นก็นำมาบดด้วยเครื่องบดกาแฟให้ละเอียด ซึ่งระดับความละเอียดนั้นก็จะขึ้นกับความชอบของแต่ละคน เครื่องดื่มที่ทำจากกาแฟสามารถดื่มได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น แต่โดยทั่วไปแล้วมักนิยมดื่มร้อน ๆ เมนูเครื่องดื่มกาแฟบางเมนู ก็จะใส่นมหรือครีมลงไปด้วย บางครั้งก็จะใช้เครื่องตีฟองนมให้เกิดเป็นฟองนุ่ม ๆ และโปะไว้ด้านบนของกาแฟ ทำให้คุณยิ่งเพลิดเพลินไปกับเมนูที่คุณโปรดปราน โดยปกติแล้วกาแฟหนึ่งถ้วยหรือแก้วนั่นจะมีคาเฟอีนประมาณ 80-140 มิลลิกรัม แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครชอบความเข้มของกาแฟแบบไหนด้วยเช่นกัน

เนื่องจากกาแฟเป็นเครื่องดื่มที่นิยมไปทั่วโลก จึงมีผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปมาให้เลือกบริโภคอย่างมากมาย อาทิเช่น กาแฟซอง กาแฟกระป๋อง กาแฟดริป กาแฟดีแคฟ หรือกาแฟแคปซูล เพราะเป็นกาแฟที่หาดื่มได้ง่าย ใช้เวลาในกาชงไม่นาน อีกทั้งมีรสชาติและสูตรที่ตายตัว เป็นกาแฟที่เน้นความสะดวกสบาย จึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาว่างในการชงดื่มเอง เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่ากาแฟรสชาติดี ๆ และถูกปากคอกาแฟนั้น ต้องใช้ความพิถีพิถันและขั้นตอนในการชง เพื่อให้ได้ความอร่อยที่ลงตัว สำหรับใครที่เป็นคอกาแฟหรือหลงรักในการดื่มกาแฟแบบแฟนพันธุ์แท้แล้วละก็ คุณอาจจะไม่ชอบหรือไม่ถูกคอกับกาแฟสำเร็จรูปสักเท่าไหร่ นี่จึงเป็นเหตุผลที่หลาย ๆ คน เลือกที่จะซื้อกาแฟแก้วแพง ๆ จากร้านขายกาแฟ หรือก็เลือกที่ลงทุนซื้อ “เครื่องชงกาแฟสด” ด้วยตนเองไปเลย
กาแฟช่วยให้ตื่นตัวได้อย่างไร ?
คาเฟอีน (Caffeine) เป็นสารที่ช่วยทำให้เรากระปรี้กระเปร่าในระหว่างวันได้ดี อีกทั้งยังช่วยลดอาการง่วงนอน ลดอาการเหนื่อยล้าจากการอดนอนได้ดี สารคาเฟอีนนั้นไปจะไปกระตุ้นเส้นประสาท ทำให้ตื่นตัว จดจ่อ และมีสมาธิกับสิ่งที่ทำได้ดี ซึ่งเป็นทราบกันดีอยู่แล้วว่าสารคาเฟอีนสามารถพบได้ในกาแฟ ซึ่งจะมีมากหรือน้อยก็ขึ้นกับสายพันธุ์ของกาแฟด้วย รวมถึงปริมารที่ดื่ม การคั่ว การบด และการชง โดยพันธ์ุโรบัสต้า (Robusta) จะมีสารคาเฟอีนมากกว่าพันธุ์อาราบิก้า (Arabica) ยิ่งถ้าดื่มกาแฟควบคู่กับน้ำตาลในปริมาณที่มาก ก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพกระตุ้นให้เราตื่นตัวได้ดียิ่งขึ้นตลอดทั้งวัน เพราะสมองจะทำงานได้ดีกว่าการรับคาเฟอีนหรือน้ำตาลกลูโคสเพียงอย่างเดียว
จากข้างต้นก็ได้พิสูจน์แล้วว่าการดื่มกาแฟเป็นสิ่งที่ดีและเป็นตัวช่วยชั้นเยี่ยมของคุณ แต่การดื่มกาแฟที่ดีจริง ๆ คือการดื่มกาแฟคั่วบดด้วยตัวเองแทนการดื่มกาแฟสำเร็จรูป เพราะกาแฟสำเร็จรูปเป็นกาแฟที่ผ่านการคั่วบดแล้วจากนั้นนำไปสกัดเป็นน้ำกาแฟ แล้วจึงนำไปแปรรูปให้เป็นผงอีกทีหนึ่ง นั่นก็หมายความว่าคุณอาจจะไม่ได้รับรสชาติและกลิ่นกาแฟที่แท้จริง คุณจะเสียอรรถรสของความสด ความหอมกรุ่นแบบดั้งเดิมไป ทั้งนี้ทั้งนั้นบางยี่ห้อก็ยังนำกาแฟไปผสมครีมและนมหรือที่เราเรียกกันว่า 3IN1 ซึ่งอาจจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของคุณเมื่อคุณบริโภคเป็นระยะเวลานาน มันคงจะดีกว่าถ้าหากคุณสามารถปรุงกาแฟด้วยตัวเอง ให้เป็นกาแฟที่เหมาะกับตัวคุณและไลฟ์สไตล์ของคุณ 🙂

ประเภทของเครื่องชงกาแฟ
ก่อนที่คุณจะมองหาเครื่องชงกาแฟซักเครื่อง คำถามแรกที่คุณต้องถามตัวเองคือเครื่องชงกาแฟแบบไหนที่เหมาะกับคุณที่สุด คุณอาจจะต้องการเครื่องชงกาแฟแบบครบวงจรเหมือนกับร้านกาแฟ หรือเครื่องชงกาแฟแบบง่าย อย่างเช่นเครื่องชงกาแฟแบบใช้ตัวกรอง เครื่องชงกาแฟที่สามารถบดเมล็ดกาแฟได้เองไปในตัว เครื่องชงกาแฟแคปซูล หรือคุณต้องการความเรียบง่ายโดยใช้เครื่องทำกาแฟแบบอัตโนมัติ ทุกอย่างล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันดังนี้ ซึ่งเราจะบอกให้คุณทราบ (จริง ๆ แล้วเครื่องชงกาแฟนั้นมีหลายประเภท แต่ที่เรานำเสนอในวันนี้ จะเป็นแบบที่นิยมใช้กันนะคะ)
1. เครื่องชงกาแฟแบบเอสเปรสโซ่ (Espresso Machine)
หากคุณต้องการสร้างสรรค์เมนูที่เข้าถึงรสชาติของกาแฟอย่าง เอสเพรสโซ่ Espresso หรือคาปูชิโน Cappuccino เครื่องชงกาแฟชนิดนี้จะสามารถตอบโจทย์คุณได้ดีที่สุด หลักการทำงานของเครื่องนี้ก็คือจะใช้ความดันจากไอน้ำ กลั่นให้ออกเป็นน้ำกาแฟ โดยที่ใช้น้ำน้อยที่สุด ดังนั้นรสชาติจึงออกดีเข้มข้นถึงใจ แต่มีข้อเสียคือคุณจะต้องเรียนรู้ที่จะบดกาแฟด้วยตัวเอง และเพื่อความสมบูรณ์แบบในการชงกาแฟคุณควรทำความสะอาดเครื่องบดกาแฟทุกครั้งที่เริ่มทำกาแฟถ้วยใหม่อีกด้วย แต่โดยรวมแล้วเครื่องชงกาแฟชนิดนี้จะทำให้คุณได้ความหลากหลายของกาแฟอย่างแน่นอนค่ะ

- จุดเด่น : ให้รสชาติของกาแฟได้ดีที่สุด มีความนุ่มนวลของกาแฟ
- จุดที่ควรพิจารณา : ใช้เวลาในการทำกาแฟค่อนข้างนาน และต้องบดกาแฟด้วยตัวเอง
อันที่จริงแล้ว “เครื่องชงกาแฟแบบมอคคาพอต (Mocca Pot)” ก็เป็นชนิดที่มีหลักการทำงานคล้ายแบบเอสเปรสโซ่ แยกออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนล่างนั้นสำหรับใส่น้ำและส่วนบนสำหรับผงกาแฟ อีกทั้งน้ำกาแฟที่ได้นั้นมีคุณภาพความเข้มช้นใกล้เคียงเครื่องชงกาแฟแบบเอสเปรสโซ่
2. เครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติ (Bean-To-Cup Machine)
เครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติ เป็นเครื่องชงกาแฟที่นิยมใช้ตาม องค์กร ออฟฟิศ หรือสำนักงานต่าง ๆ มีราคาที่สูง แต่แลกมาด้วยคุณภาพที่สูงด้วยเช่นกัน เพราะเครื่องชงกาแฟชนิดนี้จะช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมันมีเครื่องบดเมล็ดกาแฟในตัว เพียงแค่คุณใส่เมล็ดกาแฟลงไปในเครื่อง เครื่องก็จะทำการบดให้เองอัตโนมัติ และด้วยแรงดันบาร์ที่มีมาตราฐานขั้นสูงของเครื่อง จะช่วยให้คุณสกัดน้ำกาแฟที่เข้มข้นรสชาติดี จากนั้นเครื่องก็จะแยกกากของกาแฟออก วิธีนี้จะทำให้คุณทำความสะอาดตัวเครื่องได้ง่ายขึ้น

- จุดเด่น : ใช้งานง่าย, ได้กาแฟรสชาติดี
- จุดที่ควรพิจารณา : ราคาค่อนข้างสูง และต้องทำความสะอาดเครื่องทุกครั้งที่ใช้งาน
3. เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล (Capsule Machine)
เป็นเครื่องชงกาแฟอีกประเภทที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ เพราะด้วยการใช้งานที่ง่ายดาย อีกทั้งยังมีโหมดการทำงานที่หลากหลาย สามารถทำเมนูเครืองดื่มได้สารพัดเมนู เหตุผลที่เครื่องนี้ใช้งานง่ายนั่น เพราะว่ามันต้องใช้งานร่วมกับแคปซูลกาแฟที่มีการปรับปรุงรสชาติมาแล้วในตัว อีกทั้งแคปซูลกาแฟนั้นยังใช้กาแฟคั่วบดอย่างดี และเก็บในฝาที่ซีลปิดอย่างมิดชิด ทำให้เหมือนได้ดื่มกาแฟคั่วสดใหม่ทุกครั้ง จึงให้รสชาติกลมกล่อมถูกปากใครหลาย ๆ คน

- จุดเด่น : ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและสม่ำเสมอ ,วิธีการทำงานไม่ยุ่งยากซับซ้อน
- จุดที่ควรพิจารณา : แคปซูลกาแฟส่วนใหญ่มักมีราคาแพง
4. เครื่องชงกาแฟสดแบบหยดหรือแบบดริป (Drip Coffee Maker)
เครื่องชงกาแฟสดแบบใช้ตัวกรอง หรือที่หลาย ๆ คน คุ้นหูกันในชื่อที่เรียกว่า “เครื่องชงกาแฟแบบดริป “ หลักการใช้งานของเครื่องนั้นไม่มีความยุ่งยากใด ๆ เพียงแค่ใช้ความร้อนจากน้ำเดือดไปที่ด้านบน ให้หยดน้ำร้อนนั้นหยดลงผ่านตัวกรองที่ภายในมีกาแฟบดอยู่ น้ำกาแฟที่ได้ผ่านจากหยดจากผงกาแฟนั้น หยดลงโถแก้ว ซึ่งรสชาติอาจจะไม่ค่อยเข้มข้นมาก เพราะเป็นน้ำที่หยดผ่านกาแฟเฉย ๆ

- ข้อดี : ราคาถูก, ทำกาแฟได้รวดเร็ว ใช้เวลาไม่นาน (ส่งผลให้กาแฟไม่เข้ม), ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก
- ข้อควรพิจารณา : กาแฟรสชาติอาจจะไม่เข้มข้นเท่าที่ควร เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่เน้นรสชาติและกลิ่นของกาแฟ
อันที่จริงแล้ว “เครื่องชงกาแฟแบบนีโอโพลิแทนดริปพอต (Neopolitan Drip Pot)” ก็เป็นชนิดที่มีหลักการทำงานคล้ายแบบดริป แต่จะต่างตรงที่จะไม่มีพวยกา ถ้วยที่ใช้กรองจะอยู่ใต้อยู่ภายในตะกร้าของโถอีกที หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง
5. เครื่องชงกาแฟแบบเพอร์โคเลเตอร์ (Percolator)
หลักการชงคล้ายวิธีหม้อต้มกาน้ำร้อน ที่เน้นใช้งานง่าย แต่จะมีระบบควบคุมอุณหภูมิความร้อนของน้ำที่แม่นยำ โดยอาศัยการทำงาน เมื่อน้ำเดือดเต็มที่ หยดน้ำจะไหลไปยังท่อปั้ม และสิ้นสุดที่ตะกร้าซึ่งมีผงกาแฟคั่วบดใส่อยู่ จึงได้มาเป็นน้ำกาแฟ สามารถเห็นได้ทั่วไป

เครื่องชงกาแฟสดทุกประเภทที่เราได้แนะนำไปข้างต้นมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของคุณว่าเหมาะกับแบบไหน เพื่อให้ได้เครื่องชงกาแฟสดที่ตอบโจทย์ความต้องการและคุ้มค่าในการลงทุนซื้อเป็นหลัก ตอนนี้คุณอาจจะได้ข้อมูลของเครื่องทำกาแฟบ้างแล้ว แต่ถ้าคุณยังเลือกไม่ได้ว่าจะซื้อยี่ห้อไหน หรือแบบไหน เราก็มีสินค้ามาแนะนำคุณ พร้อมบอกถึงคุณสมบัติต่าง ๆ ของแต่ละเครื่อง
JIALEMEI เครื่องชงกาแฟ Edoolffe

ราคา 1,390 บาท*
จุดเด่นของสินค้า
- ด้วยราคาและคุณภาพ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่กำลังหัดทำกาแฟ
ข้อควรพิจารณา
- เหมาะสำหรับใช้งานในครัวเรือนมากกว่าเชิงพาณิชย์
- ตัวเครื่องมีแรงดันเพียง 5 บาร์ จึงอาจจะทำให้ได้รสชาติของกาแฟไม่เข้มข้นเท่าที่ควร
- มีตัวเครื่องจะมีขนาดแทงค์น้ำถึง 1 ลิตร แต่ไม่ได้เป็นแบบโร่งใส่ ทำให้ต้องคอยตรวจเช็คระดับเองอยู่เสมอ
เครื่องชงกาแฟ | แบบเอสเปรสโซ่ |
---|---|
กำลังไฟ | ไม่ระบุ |
แรงดันน้ำ | 5 บาร์ |
ขนาดโถใส่น้ำ | 1 ลิตร |
ขนาดเครื่องชง | 36 x 26 x 13 cm |
ตีฟองนม |
Electrolux เครื่องชงกาแฟแบบดริป รุ่น E4CM1-20SS

ราคา 1,490 บาท*
มาถึงเครื่องชงกาแฟแบบดริปจากแบรนด์ Electrolux ที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง เพราะไม่ได้เป็นเครื่องดริปกาแฟทั่วไป แต่มาพร้อมกับฟังก์ชันอโรม่า (Aroma) ช่วยที่เพิ่มความหอมให้กาแฟของคุณน่าดื่มมากยิ่งขึ้น ตัวเหยือกทำจากแก้วนิรภัยที่ทนทานสามารถจุได้ถึง 12 แก้วเล็ก ตัววาล์วถูกออกแบบมาให้ป้องกันน้ำหยดในกรณีที่ยกเหยือกออกระหว่างการทำงาน เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานด้วยระบบตัดไฟอัตโนมัติหากเปิดเครื่องนานเกิน 40 นาที ที่ถาดอุ่นมีการป้องกันเหยือกละลายติดกัน มาในดีไซน์ภายนอกเป็นพลาสติกผสมสเตนเลสที่ดูหรูหราน่าใช้งานและแข็งแรงมาก ๆ
จุดเด่นของสินค้า
- เหยือกค่อนข้างใหญ่และมีความทนทาน สามารถรองรับน้ำกาแฟได้กว่า 12 แก้ว
- มีระบบ อโรม่า (Aroma) ทำให้กาแฟหอมขึ้นมาหลายเท่าตัว
- มาพร้อมกับระบบตัดไฟ ช่วยป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร หากมีการเปิดเครื่องนานกว่า 40 นาที
ข้อควรพิจารณา
- สินค้าไม่มีตัวกรอง ดังนั้นอาจจะต้องหาตัวกรองมาใช้งานเพื่อกรองกากกาแฟ
ขนาด | 28 x 17.1 x 34.4 ซม. |
---|---|
กำลังไฟ | 915 - 1080 วัตต์ |
ประเภทของโถ | แก้วนิรภัย |
ตั้งโปรแกรมการทำงานได้ |
SKG เครื่องชงกาแฟสด รุ่น SK-1205

ราคา 1,889 บาท*
จุดเด่นของสินค้า
- ใช้กำไฟเพียง 850 วัตต์
- สามารถชงทั้งได้แบบกาแฟผง และ Coffee Pod
ข้อควรพิจารณา
- หากเปิดปุ่มสตรีมฟองนมทิ้งไว้ จะไม่สามารถชงกาแฟได้ ระบบการจ่ายน้ำเป็นแบบ Manau ไม่สามารถตัดหยุดน้ำเองอัติโนมัติ
- สำหรับหารใช้งานครั้งแรก ต้องรอให้หม้อต้มน้ำทำงานเต็มที่ก่อน จึงจะใช้งานได้ตามปกติ
- สำหรับหารใช้งานครั้งแรก ก้านชงกาแฟอาจจะแน่นไปจนทำให้ใส่ได้ยาก แต่เมื่อใช้ไปเรื่อย ๆ จะใส่ได้ง่ายขึ้น
- ตัวเครื่องไม่ได้รองรับกาแฟทุกชนิด อาทิเช่น กาแฟขี้ชะมด เพราะมีปริมาณไขมันเยอะ อาจจะทำให้เครื่องอุดตันง่าย
- เน้นจากเครื่องขนาดเล็ก จึงทำให้บล็อกใส่กาแฟเล็กไปด้วย จึงทำให้ความเข้มข้นของกาแฟลดลง หากใครที่ชอบความเข้มข้นเยอะควรพิจารณารุ่นอื่นดูค่ะ
เครื่องชงกาแฟ | แบบเอสเปรสโซ่ |
---|---|
กำลังไฟ | 850 วัตต์ |
ขนาดโถใส่น้ำ | 1.6 ลิตร |
แรงดันน้ำ | 15 บาร์ |
ขนาด | 28 x 22.5 x 29 cm |
ตีฟองนม |
Duchess เครื่องชงกาแฟสด รุ่น CM3000B + เครื่องบดกาแฟ รุ่น CG9100S

ราคา 1,890 บาท*
คำแนะนำสำหรับมือใหม่
- กรณีที่ใช้แล้วรู้สึกไม่เข้มข้นเท่าที่ควร จะต้องใส่กาแฟให้พูนถ้วยกรอง แล้วกดให้แน่น ๆ ให้ผงกาแฟเสมอขีด Max
จุดเด่นของสินค้า
- ชงได้ต่อเนื่อง 3-4 แก้ว และสามารถชงได้ประมาณ 30-40 แก้วต่อวัน
- รุ่น CM3000 นี้ขนาดเล็กกระทัดรัด จะเป็นแบบหม้อต้ม เหมาะสำหรับใช้ที่บ้าน แต่ถ้าหากต้องการใช้ในการค้าเชิงพาณิชย์ แนะนำเป็นรุ่น CM5000 ที่มีโหมดระบายแรงดันเองอัตโนมัติหลังชงเสร็จ ทำให้เหมาะต่อการชงแบบต่อเนื่อง หรือชงครั้งละหลาย ๆ แก้ว
ข้อควรพิจารณา
- ต้องไล่แรงดันค้างหลังชงทุกครั้ง ไม่ได้มีฟังก์ชันระบายแรงดันเองอัตโนมัติ
- เป็นรุ่นที่ไม่สามารถตัดน้ำอัตโนมัติ หากต้องการกำหนดปริมาณน้ำต่อแก้วจะต้องใช้มือปิดเปิดเอง
- เพราะเป็นเครื่องชงแบบเอสเปรสโซ่ จึงไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ประสบการณ์ในการชง อีกทั้งยังต้องมีระเบียบวินัยในการดูแลรักษาและทำความสะอาด
เครื่องชงกาแฟ | แบบเอสเปรสโซ่ |
---|---|
กำลังไฟ | 1050 วัตต์ |
ขนาดโถใส่น้ำ | 1.25 ลิตร |
แรงดันน้ำ | 15 บาร์ |
ขนาดเครื่องชง | 19 x 27 x 29 cm |
ตีฟองนม |
เครื่องชงกาแฟ แบบหน้าจอสัมผัส

ราคา 1,850 บาท*
จุดเด่นของสินค้า
- ออกแบบให้ชงได้ 2 แก้ว โดยเป็นโหมดฟังก์ชันคู่ ทำงานแยกกันได้ดี
- ควบคุมอุณหภูมิได้ดี เมื่ออุณหภูมิสูงเกินไป เครื่องจะหยุดทำงานอัติโนมัติ
- แรงดัน 20 บาร์ จะทำให้คุณประหยัดเวลาในการชง และทำให้ได้รสชาติกาแฟที่เข้มข้นถึงใจ
- เมื่อออกแบบให้มีแรงดันที่สูง จึงมีระบบควบคุมแรงดัน หากพบว่าแรงดันสูงเกินไปเครื่องจะลดแรงดันลงเองอัติโนมัติ
เครื่องชงกาแฟ | แบบเอสเปรสโซ่ |
---|---|
กำลังไฟ | ไม่ระบุ |
ขนาดโถใส่น้ำ | 1.6 ลิตร |
แรงดันน้ำ | 20 บาร์ |
ขนาด | 29.2 x 27 x 23 cm |
ตีฟองนม |
Donlim เครื่องชงกาแฟ รุ่น KF-6001

ราคา 2,890 บาท*
จุดเด่นของสินค้า
- ฟิลเตอร์หรือถ้วยกรองขนาด 2 SHOT ทำให้ได้กาแฟที่เข้มข้น เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรสชาติกาแฟเข้ม ๆ
- แรงดัน 20 บาร์ จะช่วยให้คุณประหยัดเวลา และทำให้คุณได้กาแฟเข้มข้นกว่าแบบปกติ (15 บาร์) อีกทั้งยังช่วยให้และให้ฟองฟองครีม่าจะออกมาหนานุ่ม เหมาะสำหรับในช่วงเวลาที่ต้องรีบเร่ง
ข้อควรพิจารณา
- หัวสตรีมฟองนม สามารถปรับหมุนได้ 180 องศา ในขณะที่บางรุ่นสามารถปรับได้ถึง 360 องศา
- แม้ว่าจะชงได้ประมาณ 40 แก้วต่อชั่งโมง แต่การทำติดต่อหลาย ๆ แก้วเครื่องอาจจะร้อนนิดหน่อย เหมาะใช้งานภายในบ้าน หรือร้านเน้นขายกาแฟขนาดเล็กเท่านั้น
เครื่องชงกาแฟ | แบบเอสเปรสโซ่ |
---|---|
ขนาดโถใส่น้ำ | 1.5 ลิตร |
กำลังไฟ | 850 วัตต์ |
แรงดันน้ำ | 20 บาร์ |
ขนาดเครื่องชง | 30 x 25 x 18 cm |
ตีฟองนม |
Duchess เครื่องชงกาแฟสด รุ่น CM5000B + เครื่องบดกาแฟ CG9200B + อุปกรณ์ชงกาแฟต่าง ๆ

ราคา 3,240 บาท*
จากที่รีวิวรุ่น CM3000B ไปแล้ว รอบนี้มาเอาใจคนที่ต้องการใช้ในการค้าเชิงพาณิชย์กันบ้าง ด้วยรุ่น CM5000B ที่มีฟังก์ชันระบายแรงดันอัตโนมัติหลังชงเสร็จ ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาทำเอง แถมระบบทำความร้อนก็ต่างกัน เพราะรุ่นนี้แบบ Thermoblock ทำความร้อนรอบทุกทิศทางทำให้หม้อต้มร้อนเร็ว จึงเหมาะต่อการชงแบบต่อเนื่อง 5-7 แก้ว หรือชงครั้งละหลาย ๆ แก้ว แถมยังเป็นรุ่นที่สามารถตัดน้ำอัตโนมัติ ปล.เครื่องนี้ไม่มีเครื่องบดเมล็ดกาแฟในตัวต้องซื้อแยกเช่นเดียวกับรุ่น CM3000B นะคะ
จุดเด่นของสินค้า
- ทำความร้อนรอบทิศทางแบบ Thermoblock ที่เน้นให้น้ำร้อนเร็ว
- มีฟังก์ชันระบายแรงดันเองอัตโนมัติทำให้ชงแบบต่อเนื่องได้ ไม่ต้องไล่แรงดันที่ค้างหลังชงเองทุกครั้งเหมือน CM3000B
- ชุดนี้จะมีทั้ง เครื่องบดกาแฟ CG9200B ที่ไม่เกิดความร้อนเกินไปหรือมีกลิ่นเหม็นไหม้ + เมล็ดกาแฟกาแฟพันธุ์อาราบิก้าและโรบัสต้าถุงละ 200 กรัม + ก้านชง + ฟิลเตอร์แบบ 1 ช็อต และ 2 ช็อต + ช้อนตักกาแฟ หากใครที่ต้องการเครื่องชงกาแฟที่ครบชุดโดยที่ไม่ต้องหาซื้อแยกทีละอัน เราแนะชุดนี้จะเหมาะมากค่ะ
ข้อควรพิจารณา
- ใช้ติดต่อกันกันเป็นเวลานาน ๆ ได้ไม่ค่อยดีเท่าที่เคลมไว กรณีชงเกิน 8 แก้ว ขึ้นไป เครื่องมีปัญหาร้อนนิดหน่อย ต้องพักเครื่อง จึงเหมาะสำหรับร้านขนาดเล็ก หรือใช้ในครัวเรือน
เครื่องชงกาแฟ | แบบเอสเปรสโซ่กึ่งอัตโนมัติ |
---|---|
กำลังไฟ | 1050 วัตต์ |
ขนาดโถใส่น้ำ | 1.5 ลิตร |
แรงดันน้ำ | 15 บาร์ |
ขนาด | 16 x 20 x 28 cm |
ตีฟองนม/ตัดน้ำอัตโนมัติ |
BUONO เครื่องชงกาแฟ Coffee Drip มีเครื่องบดในตัว รุ่น BUO-260617 เครื่องชงกาแฟแบบหยด

ราคา 3,690 บาท*
จุดเด่นของสินค้า
- เป็นระบบ 2in1 มีทั้งระบบการบดและระบบการชง
- สามารถชงได้ครั้งละ 0.6 ลิตร หรือประมาณ 4 ถ้วยต่อครั้ง ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะ
- มีระบบอุ่นกาแฟทำให้แกแฟที่ดริปมีความอุ่นพร้อมดื่มอยู่ตลอดเวลา
ขนาด | 22.5 x 30 x 33 ซม. |
---|---|
กำลังไฟ | 900 วัตต์ |
ประเภทของโถ | แก้ว |
ตั้งโปรแกรมการทำงานได้ |
De'Longhi เครื่องชงกาแฟเอสเพรซโซ่ Dedica รุ่น EC685.M

ราคา 11,500 บาท*
จุดเด่นของสินค้า
- มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน ชงได้ทั้งแบบกาแฟผงและกาแฟแคปซูล
- ขนาดเล็กกะทัดรัด ไม่เปลืองพื้นที่ ดีไซน์สวย ดูทันสมัยเหมาะทุกสไตล์ของบ้าน
- มีระบบทำความร้อนที่รวดเร็วด้วยนวัตกรรมเทอร์โมบลอค และปรับอุณหภูมิด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
เครื่องชงกาแฟ | แบบเอสเปรสโซ่ |
---|---|
กำลังไฟ | 1300 วัตต์ |
ขนาดโถใส่น้ำ | 1.1 ลิตร |
แรงดัน | 15 บาร์ |
ขนาด | 14.9 x 33.0 x 30.3 cm |
ตีฟองนม |
Lelit เครื่องชงกาแฟ รุ่น PL042QE

ราคา 24,399 บาท*
จุดเด่นของสินค้า
- ความจุแทงค์น้ำขนาดใหญ่มากถึง 2.7 ลิตร
- มีครื่องชงที่มีบดในตัว จะทำให้ประหยัดเวลา ประหยัดเงิน และใช้ได้สะดวกรวดเร็วกว่า
- ถาดรองน้ำมีขนาดใหญ่ ทำให้สะดวกในการใช้งานและง่ายต่อการดูแลรักษาทำความสะอาด
- สามารถทำอุณหภูมิในการชงกาแฟอยู่ที่ประมาณ 95 องศา และอุณหภูมิสำหรับสตรีมฟองนมอยู่ที่ 127 องศา ที่มาพร้อมระบบป้องกันความปลอดภัยอย่างดี
ข้อควรพิจารณา
- เหมาะสำหรับครัวเรือน และร้านกาแฟขนาดเล็ก ไม่เหมาะสำหรับร้านกาแฟที่เน้นชงต่อเนื่องหลาย ๆ แก้ว เพราะว่ารองรับการชงได้ประมาณ 40-50 แก้วต่อวัน
เครื่องชงกาแฟ | แบบเอสเปรสโซ่กึ่งอัตโนมัติ |
---|---|
กำลังไฟ | 1000 วัตต์ |
ขนาดโถใส่น้ำ | 2.7 ลิตร |
แรงดัน | 15 บาร์ |
ขนาด | 31 x 25.5 x 36.8 cm |
บดกาแฟ/ตีฟองนม |
Breville เครื่องชงกาแฟคุณภาพสูง รุ่น BES870 ขนาด XL

ราคา 29,500 บาท*
จุดเด่นของสินค้า
- สามารถชงได้ต่อเนื่อง 60 ช๊อต/ชั่วโมง
- มีระบบกรองน้ำ ป้องกันการการเกิดตะกรันจากการตกผลึก
- ล้างเครื่องชงเองอัติโนมัติ อีกทั้งมีไฟเตือนให้ทำความสะอาด
- มีการใช้แรงดันด้วยระบบ Prefusion ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความเข้มของกาแฟถึงขีดสุด
- คุณสามารถดูมาตรวัดความดันของเครื่องชงกาแฟขณะสกัดกาแฟได้ เพื่อควบคุมการช๊อตและความปลอดภัย
- การควบคุมอุณหภูมิแบบดิจิตอล (PID) ให้น้ำที่อุณหภูมิที่ถูกต้องแม่นยำเพื่อให้มั่นใจได้ถึงการสกัดเอสเพรสโซที่ดีที่สุด
- เครื่องของ Breville จะบอกคุณเมื่อต้องการทำความสะอาดอย่างละเอียด โดยจะมีคู่มือการบำรุงดูแลรักษาให้คุณได้ศึกษา
ข้อควรพิจารณา
- เหมาะสำหรับร้านขายกาแฟมากกว่านำมาใช้ในครัวเรือน
- เป็นเครื่องทำกาแฟเอสเปรสโซ่ที่ยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับผู้เชี่ยวชาญและผู้ใช้งานประจำวัน (ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่)
เครื่องชงกาแฟ | แบบเอสเปรสโซ่กึ่งอัตโนมัติ |
---|---|
กำลังไฟ | 1700 วัตต์ |
ขนาดโถใส่น้ำ | 2.7 ลิตร |
แรงดันน้ำ | 15 บาร์ |
ขนาด | 38 x 32 x 30 cm |
บดกาแฟ/ตีฟองนม/ตัดน้ำอัตโนมัติ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ เครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดีที่สุด ของปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
Duchess เครื่องชงกาแฟสด รุ่น CM3000B + เครื่องบดกาแฟ รุ่น CG9100S |
| |||
| ||||
| ||||
Duchess เครื่องชงกาแฟสด รุ่น CM5000B + เครื่องบดกาแฟ CG9200B + อุปกรณ์ชงกาแฟต่าง ๆ |
| |||
BUONO เครื่องชงกาแฟ Coffee Drip มีเครื่องบดในตัว รุ่น BUO-260617 เครื่องชงกาแฟแบบหยด |
| |||
| ||||
| ||||
|
เมื่อคุณสามารถเลือกซื้อเครื่องทำกาแฟได้แล้ว อีก 1 เรื่องที่คุณต้องคำนึงนั่นก็คือความสะอาดของตัวเครื่องนั่นเอง วันนี้เราก็มีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถยืดเวลาการใช้เครื่องทำกาแฟให้ได้นานยิ่งขึ้น นั่นก็คือวิธีการทำความสะอาดเครื่องทำกาแฟนั่นเอง
วิธีทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟ
1. หัวกรุ๊ป (Group Head)
หัวกรุ๊ปเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเครื่องชงกาแฟ หากคุณไม่ดูแลรักษาความสะอาดให้ดีก็จะทำให้หัวกรุ๊ปอุดตันได้ ดังนั้นคุณควรตรวจสอบหัวกรุ๊ปเป็นประจำ ว่ามีคราบหรือเศษกาแฟติดอยู่หรือไม่? เพราะนอกจากทำให้หัวกรุ๊ปอุดตันแล้ว ยังทำให้รสชาติของกาแฟที่ออกมารสชาติผิดเพี้ยนอีกด้วยนะคะ
วิธีทำความสะอาดหัวกรุ๊ปก็ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด เพียงแค่คุณใช้กดน้ำร้อนและปล่อยให้น้ำออกจากหัวกรุ๊ป จากนั้นเมื่อเศษสิ่งสกปรกโดนความร้อนก็จะทำให้ง่ายต่อการขัด ให้คุณนำแปรงมาขัดเบา ๆ ภายในหัวกรุ๊ปทุกซอกทุกมุมให้สะอาดอย่างหมดจด และคุณควรทำความสะอาดหัวกรุ๊ปแบบนี้หลังใช้งานเครื่องชงกาแฟเสร็จทุกครั้ง โปรดจำไว้ว่ายิ่งคุณหมั่นทำความสะอาดหัวกรุ๊ป ก็ยิ่งเป็นการยืดอายุเครื่องชงกาแฟ และเป็นการช่วยทำให้รสชาติของกาแฟที่ชงออกมามีรสชาติไม่ผิดเพี้ยน
2. ท่อระบายแรงดัน
ระบบท่อระบายแรงดันสำหรับเครื่องชงกาแฟนั้น ก็เป็นอีกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องล้างทำความสะอาดทุก ๆ วัน เพราะมันมักจะมีสิ่งสกปรกตกค้างหรือคราบไขมันที่ติดอยู่ในท่อระบายแรงดัน ซึ่งนั่นจะส่งผลให้กาแฟมีรสชาติไม่แม่นยำ เพราะกลิ่นของกาแฟเก่าเข้ามาเจอปนนั่นเองค่ะ
วิธีทำความสะอาดเพียงแค่เปลี่ยนก้านชงกาแฟ (Portafilter) มาเปลี่ยนให้เป็นตะแกรงแบบ Back Flush จากนั้นใส่ก้านชงกาแฟในหัวกรุ๊ป ใส่น้ำยาสำหรับ Back Flush ลงไปด้วยนะคะ จากนั้นกดปุ่มทำงานทิ้งไว้ 5-10 วินาที และพักทิ้งไว้ 1 นาที ให้ทำซ้ำแบบเดิมประมาณ 4-5 ครั้ง วิธีนี้จะเป็นการระบายสิ่งสกปรกตกค้างหรือคราบไขมันออกจากท่อระบาย การทำเช่นนี้เป็นประจำหลังใช้งานเสร็จ จะเป็นการอายุการใช้งานของเครื่องได้ดีอีกวิธีนะคะ
3. ก้านสตรีมนม
สำหรับเครื่องชงกาแฟรุ่นไหนที่มีโหมดตีฟองนม คุณก็ต้องล้างทำความสะอาดก้านสตรีมนมเช่นกัน แม้ว่าบางครั้งคุณอาจจะไม่ค่อยใช้งาน ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะละเลยไม่ทำความสะอาดมันนะคะ
วิธีทำความสะอาดก้านสตรีมนมก็เพียงแค่แช่ในน้ำร้อน 2-3 นาที ใช้ผ้าเช็ดให้คราบต่าง ๆ ออกให้หมด จากนั้นนำเหยือกนมมาใส่น้ำอุณหภูมิปกติใน 1/3 ของเหยือกนม และนำก้านสตรีมนมใส่ลงไป เปิดท่อสตรีมประมาณ 5 วินาที จากนั้นนำทุกอย่างออกมาเช็ดทำความสะอาดให้เรียบร้อย เป็นอันเสร็จค่ะ
4. ด้ามชงกาแฟ Basket
ด้ามชงกาแฟเป็นตัวที่ใช้ในการใส่กาแฟสำหรับคั่วบดในเครื่องทำกาแฟ เพื่อป้องกันไม่ให้มีกลิ่นของกาแฟเก่าหลงเหลือติดที่ด้ามชงกาแฟ คุณจะต้องทำความสะอาดด้วยเช่นกัน โดยการใช้น้ำยาล้างจานเช็ดทำความสะอาด จากนั้นนำไปแช่ในน้ำร้อนประมาณ 5 นาที ใช้ผ้าสะอาดมาเช็คให้แห้งก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ
5. ล้างถาดกรองน้ำ
เป็นอุปกรณ์ที่ต้องทำความสะอาดสม่ำเสมอ เพราะมักจะเป็นอุปกรณ์ที่สกปรกง่ายที่สุด และมีขั้นตอนการทำความสะอาดกลับง่ายที่สุดเช่นกัน เพียงแค่ถอดถาดกรองน้ำออก ใช้น้ำยาล้างจานในการล้างทำความสะอาด นำผ้ามาใช้แห้งก็เพียงพอแล้วค่ะ
เพียง 5 ขั้นตอนนี้คุณก็สามารถยืดเวลาการใช้งานเครื่องทำกาแฟของคุณได้อย่างง่ายดายและไม่ยุ่งยาก สุดท้ายนี้การเลือกซื้อเครื่องทำกาแฟก็ควรเลือกซื้อตามสไตล์ที่คุณต้องการ หากคุณต้องการซื้อ เพื่อนำไปเปิดร้านกาแฟก็คควรจะซื้อเครื่องทำกาแฟขนาดใหญ่ หากต้องการเน้นใช้ในครัวเรือนก็ควรซื้อเครื่องทำกาแฟขนาดเล็ก นอกจากจะไม่เปลืองพื้นที่แล้วก็สามารถประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้อีกเยอะเลยทีเดียว สำหรับวันนี้เราหวังว่าสิ่งที่เรานำเสนอไปจะถูกใจคอกาแฟนะคะ บทความหน้าจะมาแนะนำอะไรกันอีกต้องติดตามค่ะ