การตื่นนอนในตอนเช้าเป็นอะไรที่น่าเบื่อหน่ายและอาจทำให้หลายคนรู้สึกเพลีย เพราะพักผ่อนได้ไม่ค่อยเพียงพอ ซึ่งความรู้สึกนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่ทำงานกันแบบหามรุ่งหามค่ำ ซึ่งการที่จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายความตึงเครียดและเพิ่มความกระชุ่มกระชวยให้กับเรา ก็อาจจะต้องมีตัวช่วยเข้ามาเสริม ทั้งนี้หลายคนเลือกที่จะจิบหรือดื่มเครื่องดื่มยอดนิยมอย่าง ชา ร้อน ๆ หนึ่งแก้ว ที่จะช่วยทำให้เรารู้สึกตื่นตัวและบำรุงการทำงานของสมอง อีกทั้งยังมีอีกอย่างหนึ่งนั่นคือกาแฟที่ถูกปากใครหลายคน จนต้องตื่นขึ้นมาดื่มในทุกเช้า ยิ่งถ้าหากได้ทานรวมกับขนมหวานอร่อย ๆ อย่าง วัฟเฟิล, โดนัท หรือ แพนเค้ก แล้วละก็ ถือว่าเป็นมื้ออาหารที่อยู่ท้องและเพิ่มพลังงานให้กับเราร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี
เมื่อพูดถึงกาแฟแล้วก็ต้องบอกว่า กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่มีหลากหลายชนิดและหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น กาแฟสำเร็จรูป อย่าง กาแฟซองสำเร็จรูป, กาแฟแคปซูลซีล , กาแฟดริปแบบซอง หรือ กาแฟกระป๋อง ซึ่งสามารถชงดื่มได้ทันทีหรืออาจจะต้องใช้เครื่องชงเฉพาะอย่างเครื่องชงกาแฟแคปซูล แต่ในขณะเดียวกันบางคนอาจจะไม่ชอบรสชาติของกาแฟสำเร็จรูป แต่ชอบรสชาติของกาแฟสด เนื่องจากเราจะได้ความหอมและความสดจากเมล็ดกาแฟบดใหม่ ๆ ที่จะมีความกลมกล่อมและรสชาติเข้มข้นถึงใจ


แต่การที่จะทำกาแฟสดภายในบ้านนั้นเราก็จะต้องมีอุปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่งนั่นคือ เครื่องบดเมล็ดกาแฟ ที่จะมีให้เลือกอยู่ 2 อย่าง ไม่ว่าจะเป็น เครื่องบดกาแฟมือหมุน หรือที่สะดวกสบายและใช้งานกันในหลายบ้าน อย่าง ‘เครื่องบดเมล็ดกาแฟฟ้า’ ที่จะบดกาแฟได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องออกแรง หลังจากบดเสร็จเรียบร้อยก็เติมน้ำร้อนหรือเข้าเครื่องชงกาแฟสดพร้อมดื่มรับประทานได้ทันที ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องเร่งรีบหรือเร่งทำเวลาในช่วงเช้าเพื่อจะไปเรียนหรือทำงานให้ทันเวลา
ข้อดีของเครื่องบดเมล็ดกาแฟไฟฟ้า
![]() |
|
จานบดของเครื่องบดเมล็ดกาแฟ มีกี่ประเภท ?
1. Blade Coffee Grinders
เครื่องบดกาแฟประเภทนี้จะมาพร้อมกับใบมีดเดี่ยว โดยประสิทธิภาพที่ดีของมันคือการบดกาแฟได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็อาจมีข้อเสียเล็กน้อยตรงที่มันจะบดกาแฟได้ไม่สม่ำเสมอหากเปรียบเทียบกับเครื่องบดประเภทอื่น
- ข้อดี : ราคาถูก ใช้งานสะดวก และทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เริ่มเข้าสู่วงการกาแฟ
- ข้อเสีย : บดกาแฟไม่สม่ำเสมอสักเท่าไหร่นัก ซึ่งอาจมีผลต่อรสชาติของกาแฟเอสเปรสโซ ที่ต้องการการบดอย่างละเอียดและสม่ำเสมอกัน
2. Burr Coffee Grinders
Burr Coffee Grinders มาพร้อมกับจานบด 2 ชิ้น โดยใบมีดตัวหนึ่งจะทำหน้าที่บด และใบมีดอีกตัวจะอยู่นิ่ง ๆ เพื่อทำให้เมล็ดกาแฟบดได้อย่างสม่ำเสมอกัน ดังนั้นมันจึงเป็นอีกหนึ่งช้อยส์ที่หลายคนเลือกซื้อกันครับ
- ข้อดี : บดกาแฟได้อย่างสม่ำเสมอและควบคุมการบดกาแฟได้เป็นอย่างดี
- ข้อเสีย : เครื่องมีน้ำหนักมากและขนาดค่อนข้างจะใหญ่ ไม่เหมาะกับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่
3. Flat Burr Coffee Grinders
เป็นอีกหนึ่งประเภทที่มีจานบด 2 ชิ้น โดยทั้งสองชิ้นจะประกบเข้าด้วยกันและมีหน้าที่ในการบดไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งกาแฟที่ออกมาจะมีความเข้มข้นสูงมาก ใครที่ชื่นชอบกาแฟรสเข้มน่าจะถูกใจกัน
- ข้อดี : บดกาแฟได้ละเอียด สม่ำเสม และรสชาติของกาแฟมีความเข้มข้น
- ข้อเสีย : ความร้อนบนตัวเครื่องอาจทำให้รสชาติของกาแฟเปลี่ยนไป
เครื่องบดกาแฟไฟฟ้า Gion - เครื่องบดกาแฟ

ราคา 129 บาท*
Gion จะเป็นจานบดแบบ Blade Coffee Grinders ที่จะบดเมล็ดกาแฟได้รวดเร็ว ในขณะเดียวกันด้วยความที่เครื่องมีขนาดกระทัดรัด ก็ทำให้คุณสามารถพกพาไปใช้งานได้ทุกที่ อีกทั้งใบมีดซึ่งเป็นสแตนเลสก็บดได้ดีและแข็งแรงทนทาน
สี | เงิน |
---|---|
บรรจุเมล็ดกาแฟ | 100 กรัม |
ขนาด | 10 x 16 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | ไม่ระบุ |
การรับประกัน | ไม่มีการรับประกัน |
Worldtech เครื่องบดกาแฟไฟฟ้าแบบพกพา รุ่น WT-CG-M150A

ราคา 328 บาท*
จุดเด่น
- บดได้อย่างรวดเร็ว และละเอียด
- มีความทนทานและแข็งแรง
สี | ดำ / ขาว |
---|---|
บรรจุเมล็ดกาแฟ | 50 กรัม |
ขนาด | 10 x 11 x 19 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 0.66 กิโลกรัม |
การรับประกัน | 1 ปี |
เครื่องบดเมล็ดกาแฟ SOKANY

ราคา 449 บาท*
เครื่องบดเมล็ดกาแฟของ Sokany มีมอเตอร์คุณภาพดี ดังนั้นปัญหาเรื่องความร้อนของตัวเครื่องถือว่าหายห่วง ไม่ทำให้กาแฟของคุณเปลี่ยนรสอย่างแน่นอน ส่วนตัวจานบดก็จะเป็นแบบ 2 หัว บดเมล็ดได้ละเอียดสุด ๆ กาแฟที่ออกมาจะมีความเข้มข้น นอกจากนี้เครื่องยังใช้งานง่ายและทำความสะอาดได้สะดวก
สี | เงิน |
---|---|
บรรจุเมล็ดกาแฟ | ไม่ระบุ |
ขนาด | 9 x 20 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | ไม่ระบุ |
การรับประกัน | มีการรับประกันจากผู้ขาย |
เครื่องบดเมล็ดกาแฟ Coffee grinder JD128

ราคา 1,879 บาท*
R&Y จะสกัดและบดเมล็ดออกมาได้ง่าย ๆ เพียงแค่กดปุ่มเดียว เครื่องก็จะทำงานเองแบบอัตโนมัติ ทั้งนี้ตัวถังสำหรับบรรจุเมล็ดกาแฟก็มีขนาดใหญ่ถึง 1,200 มิลลิลิตร รวมไปถึงความน่าสนใจอีกอย่างคือคุณสามารถใส่ทำน้ำร้อน ด้วยการใส่ไปในช่องใส่น้ำ หลังจากนั้นเมื่อคุณกดเลือกฟังก์ชันความละเอียดของเมล็ดและจำนวนถ้วยกาแฟที่ต้องการ มันก็จะบดกาแฟและทำร้อนออกมาให้คุณได้พอดี เปรียบเสมือนการบดและการชงไปในตัว ถือเป็นเครื่องบดกาแฟตัวหนึ่งที่น่าสนใจมาก
สี | เงิน |
---|---|
บรรจุเมล็ดกาแฟ | 1,200 กรัม |
ขนาด | 30 x 19 x 27 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 4.5 กิโลกรัม |
การรับประกัน | 1 สัปดาห์ |
LOCK&LOCK เครื่องบดกาแฟ รุ่น EJC531

ราคา 2,398 บาท*
จุดเด่น
- ฟังก์ชันการอุ่น
- จอแสดงผลแบบดิจิตอล
- ประหยัดไฟเพราะโหมด Sleep หากไม่มีการกดป่มุใดๆ ในเวลา 60 วินาที
สี | ดำ |
---|---|
บรรจุเมล็ดกาแฟ | 0.6 ลิตร |
ขนาด | 29 x 17.6 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | ไม่ระบุ |
การรับประกัน | ไม่มีการรับประกัน |
SHANBEN เครื่องบดเมล็ดกาแฟ

ราคา 2,501 บาท*
จุดเด่น
- ฟิวส์สำรองเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน (ฟิวส์อะไหล่ 2 ตัว)
- ปรับระดับความละเอียดในการบดได้ 8 ระดับ
สี | ดำ |
---|---|
บรรจุเมล็ดกาแฟ | 250 กรัม |
ขนาด | 20 x 12 x 37 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 3.6 กิโลกรัม |
การรับประกัน | 1 ปี |
De'Longhi เครื่องบดเมล็ดกาแฟรุ่น KG89

ราคา 3,600 บาท*
จุดเด่น
- มีที่เก็บสายไฟในตัว
- ระบบความปลอดภัยสองชั้นจะตัดการทำงานของใบจานบดเมื่อกาแฟบดหรือโถเก็บเมล็ดกาแฟถูกนำออก
- ใช้ระบบเฟืองในการบดเมล็ดกาแฟจึงไม่เกิดความร้อนทำให้กาแฟเสียรสชาติ
สี | เงิน - ดำ |
---|---|
บรรจุเมล็ดกาแฟ | 120 กรัม |
ขนาด | ไม่ระบุ |
น้ำหนัก | 0.8 กิโลกรัม |
การรับประกัน | 1 ปี |
BODUM เครื่องบดเมล็ดกาแฟไฟฟ้า PS

ราคา 7,000 บาท*
BODUM จะใช้วัสดุอย่างสแตนเลสและพลาสติกคุณภาพดีมาใช้ในการผลิตเครื่อง ซึ่งบอกได้เลยว่ามันจะมีความทนทานและอายุการใช้งานยาวนานมาก ๆ ส่วนเรื่องของฟังก์ชันก็ไม่เป็นสองรองใคร เพราะคุณสามารถควบคุมเวลาการบด รวมไปถึงความละเอียดของเมล็ดกาแฟได้ตามต้องการ ทำให้คุณได้กาแฟที่มีรสชาติถูกปากของตัวเอง นอกจากนี้การดีไซน์ของเครื่องก็สวย ดูโมเดิร์น เพิ่มความหรูหราให้กับห้องครัวของคุณได้ด้วยในตัว
สี | เงิน |
---|---|
บรรจุเมล็ดกาแฟ | ไม่ระบุ |
ขนาด | 15.6 x 27.5 x 12 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 1.6 กิโลกรัม |
การรับประกัน | ไม่ระบุ |
เครื่องบดเมล็ดกาแฟ DUCHESS รุ่น CG600B

ราคา 11,990 บาท*
Duchess รุ่น CG600B มาพร้อมกับความจุสำหรับใส่กาแฟกว่า 1,200 กรัม ซึ่งถือว่าเป็นความจุที่ค่อนข้างใหญ่ บดเมล็ดกาแฟได้จำนวนมาก ส่วนจานบดหรือหัวบดขนาด 64 มิลลิเมตร ก็บดเมล็ดได้ละเอียดและสม่ำเสมอ รวมไปถึงมอเตอร์ของมันก็มีประสิทธิภาพสูง เพราะสามารถบดเมล็ดได้อย่างต่อเนื่องและรวดเร็วมาก โดยภายใน 1 ชั่วโมง จะบดเมล็ดกาแฟได้เยอะสูงสุดถึง 9 กิโลกรัม
สี | ดำ |
---|---|
บรรจุเมล็ดกาแฟ | 1,200 กรัม |
ขนาด | 56 x 21 x 30 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 14.8 กิโลกรัม |
การรับประกัน | 1 ปี |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว เครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี บดได้ละเอียด รวดเร็ว ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
วิธีการเลือกเครื่องบดเมล็ดกาแฟไฟฟ้า
1. ความจุของที่ใส่เมล็ดกาแฟ
ความจุของที่ใส่เมล็ดกาแฟในแต่ละเครื่องจะแตกต่างกันออกไป โดยวิธีการเลือกก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณการดื่มกาแฟของแต่ละคนหรือของแต่ละบ้าน หากคุณดื่มกาแฟเพียงคนเดียว การเลือกเครื่องที่สามารถใส่เมล็ดกาแฟก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใหญ่อะไรมากมาย แต่สำหรับคนที่อยู่เป็นครอบครัวใหญ่ซึ่งมีคนดื่มกาแฟหลายคน คุณก็อาจจะต้องชั่งน้ำหนักและคำนวณให้ดีว่าเครื่องที่จะซื้อสามารถบดเมล็ดกาแฟในแต่ละครั้ง เพียงพอต่อความต้องของเราหรือไม่
2. บดเมล็ดกาแฟได้ละเอียดและสม่ำเสมอ
ส่วนใหญ่แล้วเครื่องบดเมล็ดกาแฟไฟฟ้าจะมีฟังก์ชันที่สามารถปรับหรือเลือกระดับความละเอียดของเมล็ดกาแฟที่บดได้ ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่เราจะต้องเช็กว่าเครื่องที่เราจะซื้อสามารถปรับได้กี่ระดับ เนื่องจากความละเอียดมีผลต่อรสชาติของกาแฟมาก ๆ ในขณะเดียวกันเครื่องก็จะต้องสามารถบดได้ละเอียดแบบสม่ำเสมอด้วย เพื่อที่จะให้เราได้ดื่มกาแฟรสชาติที่พอดีและตรงกับความชอบของเราได้ในทุกวัน
3. อุณหภูมิของเครื่อง (มอเตอร์ต้องมีประสิทธิภาพ)
อีกหนึ่งอย่างที่มีผลต่อรสชาติของกาแฟคือความร้อนในระหว่างที่เครื่องกำลังทำงาน เนื่องจากความร้อนของเครื่องอาจทำให้กาแฟโดนเบิร์นจนเสียรสชาติ ดังนั้นการเลือกเครื่องบดเมล็ดกาแฟคุณภาพ คุณจะต้องดูที่รายละเอียดของมอเตอร์ด้วยว่ามันมีประสิทธิภาพแค่ไหน มีฟังก์ชันในการเลือกปรับระดับความเร็วหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้ป้องกันไม่ให้เครื่องร้อนจนเกินไปนั่นเองครับ
4. ขนาดของเครื่อง
หลายคนอาจจะมองข้ามเรื่องนี้ไป แต่จริง ๆ แล้วมันก็เป็นรายละเอียดยิบย่อยที่สำคัญมากเหมือนกันครับ ซึ่งก่อนที่จะซื้อนั้นผมแนะนำให้คุณจัดเตรียมหรือเลือกพื้นที่บนเคาน์เตอร์ครัวให้เรียบร้อยก่อน ถ้าให้ดีก็อาจจะวัดขนาดพื้นที่ส่วนนั้นไปด้วย หลังจากนั้นก็ให้คุณนำขนาดไปเปรียบเทียบกับเครื่องบดเมล็ดกาแฟที่เราจะซื้อว่าสามารถนำไปวางได้พอดีหรือไม่ เพราะถ้าหากพื้นที่แคบจนเกินไปมันอาจจะตกจนได้รับความเสียหาย ในขณะเดียวกันอาจอุปกรณ์อื่นพังไปด้วย ซึ่งสาเหตุนี้ละครับที่อยากให้ทุกคนเช็กขนาดของเครื่องให้ดี
5. ใช้งานง่ายและทำความสะอาดได้สะดวก
แม้ว่าเครื่องบดเมล็ดกาแฟจะมีฟังก์เยอะแค่ไหน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเครื่องก็จะต้องใช้งานง่าย เพราะจุดประสงค์หลักในการใช้เครื่องบดไฟฟ้า ก็เพราะความสะดวกสบายที่เราจะไม่ต้องออกแรงหรือเสียเวลานานในการบด นอกจากนี้เครื่องจะต้องทำความสะอาดได้ง่าย เพื่อที่จะได้ไม่เสียเวลาในการทำกิจกรรมอื่น ๆ ยิ่งโดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางไปทำงานต่อในช่วงเช้า
6. เสียงระหว่างทำงาน
หากเป็นไปได้แนะนำให้เลือกเครื่องบดเมล็ดกาแฟที่ทำงานไม่ดังจนเกินไป ยิ่งบ้านไหนที่อยู่กันหลายคนหรืออยู่ภายในหอพักและคอนโด ยิ่งจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เพราะเครื่องบดที่ทำงานเสียงดังอาจจะรบกวนการพักผ่อนของคนอื่นได้
7. วัสดุที่ใช้ผลิตเครื่อง
วัสดุที่นิยมใช้ในการผลิตเครื่องจะมีหลัก ๆ อยู่ 2 ประเภท คือ
- เซรามิก มีความทนทานสูง ทำให้เครื่องสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน แต่ในขณะเดียวกันราคาของมันก็อาจจะสูงกว่าสแตนเลสและเมื่อเครื่องมีปัญหา มันอาจจะซ่อมหรือแก้ไขได้ยากกว่าสแตนเลส
- สแตนเลส ราคาถูกและมีประสิทธิภาพที่ดี แต่ถ้าเปรียบเทียบในเรื่องความแข็งแรง เซรามิกจะมีความทนทานมากกว่า
8. การดีไซน์ของเครื่อง
ถึงแม้ว่าจุดประสงค์หลักของการใช้เครื่องจะใช้สำหรับการบดเมล็ดกาแฟ เพื่อที่จะนำไปชงเป็นเครื่องดื่ม แต่การเลือกเครื่องที่ดีไซน์ออกมาได้สวยงาม จะทำให้ครัวของเราดูดีขึ้นไปตามด้วย ถ้าหากใครชื่นชอบในการแมตช์อุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากับบ้าน ก็อาจจะต้องพิจารณาจากความสวยงามของเครื่องด้วยครับ
วิธีการทำความเครื่องบดเมล็ดกาแฟไฟฟ้า
- ถอดปลั๊กไฟออกให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องทำงานหรือไฟฟ้ารั่วจนเกิดอันตราย
- แยกส่วนประกอบของเครื่องที่ถอดได้ออกมาล้าง โดยคุณจะนำไปล้างในเครื่องล้างจาน หรือจะทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่ก็ได้
- ทำความสะอาดตัวเครื่องทั้งภายนอกและภายในด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำหมาด ๆ
- นำผ้าแห้งอีกหนึ่งผืนมาเช็ดความชื้นบนตัวเครื่องออก
- นำส่วนประกอบที่นำไปล้างก่อนหน้านี้มาประกอบเข้าเหมือนเดิม
- เช็กให้เรียบร้อยว่าอุปกรณ์ครบถ้วน หลังจากนั้นก็ใช้งานได้ทันที