กุ้งแห้งเป็นอาหารทะเลตากแห้งชนิดหนึ่ง ที่นำมาทำให้แห้ง เพื่อให้สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานขึ้น เช่นเดียวกับ ไข่เค็ม, กุนเชียง, หมูแดดเดียว, กล้วยตาก หรือผลไม้อบแห้งต่าง ๆ ที่นำมาแปรรูปผ่านกระบวนการถนอมอาหาร จากเดิมอาจจะเก็บได้เพียง 2 – 3 วัน เมื่อผ่านการถนอมอาหารแล้วอาจเก็บไว้ได้นานเป็นเดือนหรือเป็นปีเลยค่ะ โดยกุ้งแห้งนั้นถือเป็นอาหารที่ต้องมีติดครัวกันแทบทุกบ้าน เพราะนอกจากมีรสชาติที่อร่อยแล้วยังสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ซึ่งเมนูที่นิยมใส่กุ้งแห้ง เช่น ส้มตำ, เมนูยำ, น้ำพริก, ต้มยำ, น้ำปลาหวาน เรียกได้ว่าสามารถใส่ได้ในสารพัดเมนูเลยค่ะ
แม้ว่ากุ้งแห้งจะเป็นเมนูถนอมอาหารที่ทำได้ไม่ยาก แต่การจะทำกุ้งแห้งให้ออกมาอร่อยพอดี ไม่เค็มเกินไปและไม่จืดเกินไป ทั้งยังต้องมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์โดยที่ไม่มีกลิ่นเหม็นหืนมาทำให้เสียอรรถรส นอกจากนี้จะต้องเป็นกุ้งแห้งที่สามารถเก็บได้นานอีกด้วย ซึ่งจากที่กล่าวมานั้นจำเป็นต้องอาศัยผู้ที่มีประสบการณ์และชำนาญนานพอสมควรในการทำกุ้งแห้งให้อร่อยได้
ดังนั้นการซื้อกุ้งแห้งจากร้านค้าที่เชื่อถือได้ จึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับครัวยุคใหม่ ที่เน้นประหยัดเวลาและสะดวกสบายมากกว่า ซึ่งในวันนี้เราก็มีร้านกุ้งแห้งดัง ๆ มารีวิวเพื่อน ๆ กันอีกเช่นเคยค่ะ แต่จะมีเจ้าไหนน่าสนใจบ้าง? ต้องมาตามอ่านกันต่อในรีวิวของวันนี้เลยค่ะ
กุ้งแห้งมีกี่ชนิด ชนิดไหนอร่อยถูกใจคุณที่สุด
1. กุ้งเนื้อหรือกุ้งแก้ว
กุ้งเนื้อหรือที่คนเรียกติดปากกันว่ากุ้งแก้ว เป็นการนำกุ้งมาตากแห้งแล้วกระเทาะเปลือกจนเหลือแต่เนื้อ โดยจะนิยมใช้กุ้งขนาดใหญ่ เช่น กุ้งแชบ๊วย กุ้งกุลา เป็นต้น กุ้งประเภทนี้จะมีลักษณะแวววาว สวยงาม มีราคาสูงที่สุดในบรรดากุ้งแห้ง โดยกุ้งแก้วที่ดี เนื้อจะต้องมีความเหนียวนุ่ม เนื้อไม่เปื่อยยุ่ย กุ้งแก้วนั้นสามารถนำมาประกอบอาหารได้แทบทุกชนิด สามารถใช้แทนกุ้งสดก็ได้ค่ะ
2. กุ้งบาง
บางครั้งอาจเรียกว่า กุ้งแบน หรือกุ้งเปลือก เป็นกุ้งแห้งที่สามารถรับประทานได้ทั้งเปลือก ไม่มีหัว สีจะเข้มเป็นสีส้มสด มีลักษณะแบน จึงมักนิยมนำมาใส่ในส้มตำ, ผัดไทย, และยำต่าง ๆ
3. กุ้งเล็ก
กุ้งเล็ก คือกุ้งแก้วที่มีขนาดเล็ก จะนำมากระเทาะเปลือกออกบางส่วนด้วยการใส่ในผ้าขาวบาง แล้วนำไปตีบนพื้นที่สะอาด เนื้อจากกุ้งชนิดนี้มีขนาดที่เล็ก จึงไม่สามารถปอกเปลือกให้หมดเหมือนกุ้งแก้วได้ จึงมีราคาถูกกว่ากุ้งแก้ว นิยมนำไปโรยหน้าข้าวต้ม หรือใช้สำหรับทำน้ำพริกค่ะ
4. กุ้งเสียบ
กุ้งเสียบ จะมีกรรมวิธีการทำให้แห้งต่างจากกุ้งแห้งทั่วไป โดยส่วนใหญ่จะนำมาเสียบไม้แล้วนำไปย่างรมควันบนไฟอ่อน ๆ ให้ตัวกุ้งค่อย ๆ แห้ง การรมควันจึงทำให้กุ้งเสียบมีกลิ่นที่หอม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นกุ้งที่ทานทั้งเปลือก ไม่มีหัว รสชาติดี กรอบ อร่อย ตัวใหญ่ กุ้งที่นิยมนำมาใช้ทำกุ้งเสียบก็จะมีกุ้งนาง, กุ้งแตะ หรือกุ้งแต้ โดยกุ้งชนิดนี้เหมาะสำหรับทานเป็นกับแกล้ม และใช้ทำน้ำพริกกุ้งเสียบค่ะ
5. กุ้งฝอย
กุ้งฝอย คือกุ้งแห้งที่สามารถรับประทานได้ทั้งตัว จะใช้กุ้งขนาดเล็กจิ๋ว อย่างกุ้งเคย กุ้งฝอยน้ำจืด หรือกุ้งทราย โดยกุ้งชนิดนี้จะเป็นตัวที่มีราคาถูกที่สุด นิยมนำมาใส่ในไข่เจียว, น้ำปลาหวาน, เมนูยำ เพื่อเพิ่มรสชาติและสีสันให้กับอาหาร หรือนำไปชุบแป้งทอดกรอบเป็นแผ่น ๆ ก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ แต่เนื่องจากเป็นกุ้งที่ตัวเล็กมาก บวกกับกินได้ทั้งตัว ดังนั้นอาจจะมีหนวดกุ้งหรือสิ่งแปลกปลอมมากกว่ากุ้งชนิดอื่น ๆ นั่นเอง
กุ้งฝอยจืด จากทะเลชุมพร ไม่ใส่สี ไม่ใสสารกันเสีย ตราเจียฟาร์ม
ราคา 50 บาท*
| ชนิดของกุ้ง | กุ้งฝอย |
|---|---|
| ระดับความเค็ม | ไม่เค็ม |
| ปริมาณ | 100 กรัม |
กุ้งแห้งตัวเล็ก สำหรับทำน้ำพริก ตราท้องทะเล
ราคา 210 บาท*
| ชนิดของกุ้ง | กุ้งเล็ก |
|---|---|
| ระดับความเค็ม | เค็มน้อย |
| ปริมาณ | 500 กรัม |
กุ้งแห้งเนื้อล้วน ขนาดกลาง ไม่ติดเปลือก ตราเพชรรัตน์
ราคา 220 บาท*
| ชนิดของกุ้ง | กุ้งแก้ว |
|---|---|
| ระดับความเค็ม | เค็มน้อย |
| ปริมาณ | 200 / 500 กรัม |
กุ้งแห้ง ไซส์กลาง ไม่ใส่สี ได้รับมาตรฐาน GMP ตรา St.Ocean
ราคา 265 บาท*
| ชนิดของกุ้ง | กุ้งเล็ก |
|---|---|
| ระดับความเค็ม | เค็มน้อย |
| ปริมาณ | 500 กรัม |
กุ้งแห้ง ใช้กุ้งเนื้ออบอย่างดี เนื้อแน่น สดใหม่
ราคา 275 บาท*
| ชนิดของกุ้ง | กุ้งเล็ก |
|---|---|
| ระดับความเค็ม | เค็มปานกลาง |
| ปริมาณ | 500 กรัม |
กุ้งแห้งเนื้อ คละไซส์ ผลิตใหม่วันต่อวัน ส่งตรงจากนครศรีธรรมราช
ราคา 290 บาท*
| ชนิดของกุ้ง | กุ้งเล็ก |
|---|---|
| ระดับความเค็ม | เค็มปานกลาง |
| ปริมาณ | 500 กรัม |
กุ้งแห้งไซส์ใหญ่ ของฝากจังหวัดสตูล ตราปลาแห้งคนเล
ราคา 309 บาท*
| ชนิดของกุ้ง | กุ้งแก้ว |
|---|---|
| ระดับความเค็ม | เค็มปานกลาง |
| ปริมาณ | 500 กรัม |
กุ้งแห้ง ไซส์กลาง ใช้กุ้งเนื้อล้วน แกะเปลือกอย่างดี ตรา MENA
ราคา 315 บาท*
| ชนิดของกุ้ง | กุ้งแก้ว |
|---|---|
| ระดับความเค็ม | ไม่เค็ม |
| ปริมาณ | 250 / 500 กรัม |
กุ้งแห้ง ไซส์ใหญ่ ใช้กุ้งแชบ๊วยคุณภาพดี กระเทาะเปลือก ตราพิมพ์ทะล
ราคา 350 บาท*
| ชนิดของกุ้ง | กุ้งแก้ว |
|---|---|
| ระดับความเค็ม | เค็มน้อย |
| ปริมาณ | 300 กรัม |
กุ้งแห้ง ไซส์จัมโบ้ ใช้กุ้งแชบ๊วย ไม่เค็ม เนื้อล้วนไม่มีเปลือก ตราป้าแก้ว
ราคา 559 บาท*
| ชนิดของกุ้ง | กุ้งแก้ว (กุ้งแชบ๊วย) |
|---|---|
| ระดับความเค็ม | เค็มน้อย |
| ปริมาณ | 500 กรัม |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
อ่านบทความกันจบแล้วเพื่อย ๆ มียี่ห้อกุ้งแห้งในใจกันรึยังเอ่ย? หากใครที่ยังเลือกไม่ได้ เราขอแนะนำ “กุ้งแห้ง ไซส์กลาง ใช้กุ้งเนื้อล้วน แกะเปลือกอย่างดี ตรา MENA” เพราะใช้กุ้งที่สด สะอาด แกะเปลือกอย่างดี และมีรีวิวจากผู้ทานจริงจำนวนมาก บรรจุมาในถุงซีลสุญญากาศอย่างดี แนะนำเลยค่ะ ส่วนใครที่กำลังจะซื้อหรือซื้อกุ้งแห้งกันมาแล้ว วันนี้เรามีทริคการเก็บรักษากุ้งแห้งมาฝากกันด้วยค่ะ
 | กุ้งแห้ง ไซส์กลาง ใช้กุ้งเนื้อล้วน แกะเปลือกอย่างดี ตรา MENA |   |
วิธีเลือกซื้อกุ้งแห้งที่ดีที่สุด
1. เลือกชนิดของกุ้งให้เหมาะกับเมนูอาหาร
อย่างที่บอกไปค่ะว่ากุ้งที่นำมาทำเป็นกุ้งแห้งนั้นมีหลายชนิด แต่ละชนิดก็นำมาประกอบอาหารได้ต่างกัน หากคุณจะทำเมนูผัดไทย การใช้กุ้งบางหรือกุ้งฝอยก็จะทำให้อาหารออกมาอร่อย หรือถ้าคุณจะทำน้ำพริก การเลือกใช้กุ้งเสียบก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ
2. เลือกกุ้งที่มีเนื้อแห้งสนิท ไม่มีความชื้น
เพราะความชื้นในตัวกุ้งอาจส่งผลให้กุ้งเน่าเสียได้เร็วขึ้น และอาจทำให้เกิดเชื้อราได้ ดังนั้นกุ้งแห้งที่ดีควรตากให้แห้งสนิท แต่จะอนุโลมสำหรับกุ้งแก้ว ที่อาจจะทำให้แห้งเพียงแค่ 80% เพราะกุ้งแก้วยังต้องการความฉ่ำในตัวเนื้อถึงจะอร่อย ส่วนกุ้งชนิดอื่น ๆ หากซื้อมาแล้วไม่มั่นใจว่าแห้งสนิทหรือไม่ สามารถนำไปตากแดดเพิ่มได้ หรือใครที่กลัวเรื่องฝุ่นหรือสารเคมี ให้นำกุ้งแห้งไปล้างอีกรอบ แล้วนำมาตากจนแห้งใหม่ได้ค่ะ
3. ระดับความเค็ม
กุ้งแห้งมักมีรสเค็มในตัวอยู่แล้ว เนื่องจากขั้นตอนการผลิตจำเป็นต้องนำไปแช่ในน้ำเกลือเพื่อถนอมอาหาร หากใครที่ไม่ชอบรสเค็มสามารถเลือกซื้อแบบเค็มน้อยได้ค่ะ แต่อาจต้องแลกมากับระยะเวลาการเก็บรักษาที่อาจจะน้อยลงกว่าปกติ หรือใครที่ได้กุ้งแบบเค็มมาแล้วไม่ชอบ สามารถนำไปล้างก่อนนำมาปรุงอาหาร ก็จะช่วยลดความเค็มได้ในระดับหนึ่งค่ะ
4. บรรจุภัณฑ์
อาหารตากแห้งสิ่งสำคัญเลยคือบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ค่ะ ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน อย่างถุงซีล หรือหากเป็นไปได้ให้เลือกใช้ถุงสุญญากาศจะดีที่สุด เพราะจะช่วยไม่ให้ตัวกุ้งสัมผัสกับอาการและความชื้น ทำให้เก็บรักษาได้นานยิ่งขึ้นค่ะ
วิธีทำกุ้งแห้ง กินเอง
โดยวิธีการทำกุ้งแห้งนั้นก็สุดง่ายเพียงแค่นำกุ้งมาล้างให้สะอาดประมาณ 5 – 7 น้ำ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องล้างหลายน้ำมาก ๆ เพราะหากล้างไม่สะอาดจะทำให้กุ้งเน่าก่อนที่จะแห้งได้ค่ะ จากนั้นนำเกลือเม็ด 1 กิโลกรัมมาคลุกเค้ากับกุ้ง 13 กิโลกรัม แล้วเติมน้ำสะอาดลงไปให้พอท่วมกุ้ง แช่ไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นนำกุ้งขึ้นมานึ่งให้สุกประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนึ่งเรียบร้อยแล้วให้นำไปตากแดดประมาณ 2 – 3 แดด หรือเช็คจนกว่าเนื้อกุ้งจะแห้งสนิทดี จากนั้นก็นำเก็บเข้าภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดได้เลยค่ะ แต่หากใครที่ต้องการกุ้งแบบกระเทาะเปลือก หลังจากตากแดดเสร็จแล้ว ให้นำมาใส่ในถุงผ้าขาวบาง แล้วนำไปตีบนพื้นสะอาด เปลือกกุ้งก็จะหลุดออกมาง่ายมากค่ะ หลายคนอาจจะคิดว่ากุ้ง 13 กิโลมันเยอะเกินไป แต่อยากจะบอกว่าเมื่อนำมาทำเป็นกุ้งแห้ง น้ำหนักจะเหลือกแค่ 1.5 กิโลกรัมเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กุ้งแห้งมีราคาที่แพงนั่นเองค่ะ
ประโยชน์ของกุ้งแห้ง
ประโยชน์ของกุ้งแห้ง นอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยแล้ว ยังสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง แถมยังเก็บไว้ได้เป็นเวลานานโดยไม่เน่าเสีย และยังสามารถใช้เป็นอาหารเสริมแคลเซียมเพื่อป้องกันภาวะกระดูกพรุนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้ที่แพ้นมวัว การทานกุ้งแห้งก็จะช่วยเพิ่มแคลเซียมให้ร่างกายได้ค่ะ นอกจากนี้ไอโอดีนในกุ้งแห้งยังสามารถป้องกันโรคคอพอกและช่วยเสริมสร้างการทำงานของต่อมไทรอยด์ได้อีกด้วยค่ะ (1-4)
ทริคเล็ก ๆ สำหรับการเก็บกุ้งแห้งไว้ได้นาน
จริง ๆ แล้วกุ้งแห้งถือเป็นอาหารที่ผ่านการถนอมอาหารมาแล้ว การเก็บรักษาก็ค่อนข้างนานในระดับหนึ่งแล้วค่ะ แต่ใครที่อยากเก็บไว้นานกว่านั้น แนะนำให้นำไปอบหรือตากแดดซ้ำจนตัวกุ้งแห้งสนิท จากนั้นนำมาเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด หรือหากมีภาชนะเก็บอาหารแห้งก็ยิ่งดีเลยค่ะ ควรเลือกแบบที่ที่ฝาปิดสุญญากาศ กันอากาศเข้าออก จากนั้นนำเข้าช่องฟรีซหรือตู้แช่แข็ง วิธีนี้จะทำให้สามารถยืดอายุการเก็บกุ้งแห้งได้นานเป็นปี ๆ เลยค่ะ
References :
