ช่วงเวลานี้ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่คงได้ครอบครองไอโฟนรุ่นใหม่กันไปแล้วนั่นคือ “iPhone 12” ซึ่งก็ต้องบอกว่ามือถือไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ไม่ได้มีการแถมหูฟังและสายชาร์จมาด้วยในกล่อง ดังนั้นหลังจากได้มือถือมาแล้วเราก็อาจจะต้องซื้อ อุปกรณ์เสริม iPhone เพื่อที่จะได้นำมาเป็นตัวช่วยทำให้ไอโฟนของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ลำโพงไร้สาย หรือ หูฟังบลูทูธ เพื่อใช้ในการฟังเพลง รวมไปถึงสิ่งสำคัญอย่าง ฟิล์มกันรอย iPhone และ “สายชาร์จไอโฟน“
อย่างไรก็ดีตามท้องตลาดไม่ว่าจะเป็นร้านอุปกรณ์ไอทีหรือแหล่งช็อปปิ้งตามอินเตอร์เน็ตก็มีสินค้าให้เราเลือกค่อนข้างเยอะ ซึ่งหากเราไม่มีข้อมูลพื้นฐานหรือวิธีการเลือกในเบื้องต้น มันก็อาจจะทำให้เราเลือกสายชาร์ไอโฟนที่ไม่มีคุณภาพมาได้ ดังนั้นวันนี้ผมจึงได้รวบรวมข้อมูลเพื่อไกด์ไลน์วิธีการเลือกสายชาร์จ รวมไปถึงสินค้าคุณภาพมาให้ทุกคนได้ไปซื้อกันครับ
วิธีการเลือกสายชาร์จไอโฟน (iPhone)
1. เลือกที่ผ่านมาตรฐาน MFI
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกสายชาร์จไอโฟนคือการซื้อสายชาร์จจากบริษัท Apple หรือสินค้าที่ผ่านมาตรฐาน MFI หรือที่เรียกชื่อเต็มว่า Made for iPhone, iPod หรือ iPad ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ผ่านการตรวจสอบจาก Apple มาแล้วเรียบร้อย แต่ถ้าหากคุณเลือกสายทั่วไปที่ไม่มีการตรวจสอบหรือผ่านมาตรฐาน นอกจากที่มันจะไม่สามารถชาร์จได้แล้ว มันยังเป็นอันตรายต่อการใช้งานอีกด้วย หากใช้ไปนาน ๆ เข้าเครื่องอาจจะพังหรือเกิดการระเบิดได้เลยทีเดียว
2. กำลังไฟ
กำลังไฟของสายชาร์จมีผลเกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพในการชาร์จเป็นอย่างมากครับ ยิ่งสายชาร์จให้พลังงานมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งทำให้แบตเตอรี่ในมือถือของเราเต็มเร็วมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งปกติแล้วสายชาร์จทั่วไปที่มีขนาด 12W จะให้พลังงานไฟอยู่ที่ 5V/2.4A ส่วนขนาด 18W จะให้พลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 5V/1A และ 5V/2A ซึ่งกำลังไฟที่ว่ามานี้เป็นกำลังไฟที่ใช้งานได้ แต่ถ้าคุณเป็นคนใจร้อนก็สามารถเลือกสายชาร์จที่ให้กำลังไฟมากกว่านี้ได้ครับ ทั้งนี้มันอยู่ที่ความต้องการของคุณ
3. ความยาวสายชาร์จ
หลายคนอาจเกิดปัญหาสายชาร์จที่สั้นเกินไปซึ่งทำให้เราค่อนข้างลำบากในการชาร์จ เนื่องจากในบางครั้งเต้าไฟต่ำไปหรืออาจจะสูงเกินไป ซึ่งถ้าหากสายชาร์จของเราสั้นมันก็อาจทำให้ไม่สามารถชาร์จได้ ดังนั้นวิธีการแก้ไขง่าย ๆ คือการเลือกสายชาร์จที่มีความยาวตั้งแต่ 0.5 เมตรขึ้นไปครับ
4. ความทนทาน
วัสดุที่ใช้ในการผลิตสายชาร์จไอโฟนควรที่จะมีความแข็งแรงครับ เนื่องจากถ้าหากสายชาร์จเกิดการขาดง่ายหรือชำรุดง่าย นอกจากที่เราจะไม่สามารถชาร์จได้แล้ว คุณอาจเกิดอันตรายจากไฟที่อาจดูดได้ ดังนั้นก่อนซื้อสายชาร์จควรจะตรวจสอบรายละเอียดตรงนี้ให้ดีก่อนครับ
5. ประกันสินค้า
เพื่อความมั่นใจในการใช้งาน ผมแนะนำว่าอย่างน้องสินค้าที่คุณซื้อควรจะมีประกันสินค้าครับ เพราะถ้าหากในระหว่างการใช้งานหรืออยู่ในระยะประกันสินค้า เราจะได้เคลมหรือเปลี่ยนถ้าหากสายชาร์จเกิดความชำรุดขึ้นมาครับ
ROCK สายฟาสต์ชาร์จสำหรับ iPhone Lightning 1 เมตร รุ่น RCB0733

ราคา 199 บาท*
5-20V/5A | กำลังไฟ |
---|---|
ความยาวสาย | 1 เมตร |
ผ่านมาตรฐาน MIF | ✔ |
ประกันสินค้า | 1 ปี |
ROCK สายชาร์จ 3 in 1 Type-C/lightning/Micro สายชาร์จหัวแม่เหล็ก รุ่น RCO0737

ราคา 288 บาท*
กำลังไฟ | 5V/3A(Max) |
---|---|
ความยาวสาย | 1 เมตร |
ผ่านมาตรฐาน MIF | ✔ |
ประกันสินค้า | 1 ปี |
สายชาร์จ Lightning ฟ้า Remax FULLSPEED 2M

ราคา 299 บาท*
กำลังไฟ | ไม่ระบุ |
---|---|
ความยาวสาย | 2 เมตร |
ผ่านมาตรฐาน MIF | ✔ |
ประกันสินค้า | ไม่ระบุ |
ANKER สายชาร์จ PowerLine II with lightning (3ft/90cm)

ราคา 569 บาท*
กำลังไฟ | 2.4A |
---|---|
ความยาวสาย | 0.90 เมตร |
ผ่านมาตรฐาน MIF | ✔ |
ประกันสินค้า | 2 ปี |
ROCK ชุดหัวชาร์จ Type-C ฟาสต์ชาร์จ PD T12 pro และสายชาร์จ MFi รุ่น HPM6-PD3.0

ราคา 594 บาท*
กำลังไฟ | 5V/3A, 9V/2A, 12V/1.5A |
---|---|
ความยาวสาย | ไม่ระบุ |
ผ่านมาตรฐาน MIF | ✔ |
ประกันสินค้า | 1 ปี |
สายชาร์จ INFO THINK Lightning Star Wars

ราคา 1,590 บาท*
กำลังไฟ | 5V/2.4A |
---|---|
ความยาวสาย | 1 เมตร |
ผ่านมาตรฐาน MIF | ✔ |
ประกันสินค้า | 6 เดือน |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว สายชาร์จไอโฟน (Lightning หัวแบน) ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
ROCK สายฟาสต์ชาร์จสำหรับ iPhone Lightning 1 เมตร รุ่น RCB0733 |
| |||
ROCK สายชาร์จ 3 in 1 Type-C/lightning/Micro สายชาร์จหัวแม่เหล็ก รุ่น RCO0737 |
| |||
| ||||
| ||||
ROCK ชุดหัวชาร์จ Type-C ฟาสต์ชาร์จ PD T12 pro และสายชาร์จ MFi รุ่น HPM6-PD3.0 |
| |||
|
การดูแลสายชาร์จไอโฟนให้ใช้ได้นาน
1. ดึงปลั๊กให้ถูกต้อง
อาจมีหลายคนที่ค่อนข้างรีบ เนื่องจากมีกิจกรรมที่ต้องทำเยอะมากในแต่ละวัน ซึ่งคนส่วนใหญ่จะดึงสายออกมาจากปลั๊กด้วยการกระชาก แต่ทราบหรือไม่ว่ายิ่งคุณทำแบบนี้มากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งทำให้สายชาร์จยิ่งพังเร็วมากขึ้นเท่านั้น โดยวิธีการดึงออกที่ต้องถูกนั่นคือการดึงอะแดปเตอร์อย่างเบามือ
2. ม้วนเก็บให้เรียบร้อย
การเก็บสายชาร์จที่ถูกต้องนั่นคือการม้วนเก็บแบบวงกลม เพราะสายชาร์จได้ถูกดีไซน์ออกมาในลักษณะนั้น คุณจะสังเกตได้เลยว่าเมื่อเราทำการซื้อมือถือที่แถมสายชาร์จหรือการซื้อสายชาร์จมา ทางผู้ผลิตจะม้วนเก็บอยู่ในกล่อง ซึ่งนั่นละครับคือการเก็บสายชาร์จที่ถูกต้อง ไม่ควรพับทบซ้อนกันไป
3. ไม่ควรไปดัดหรือทำให้โค้งงอ
สิ่งที่ทำลายสายชาร์จโดยตรงคือการไปดัดสายชาร์จหรือทำให้มันโค้งงอไม่เป็นรูปทรง เพราะมันอาจทำให้ลวดด้านในเกิดความเสียหาย อีกทั้งตัวหุ้มสายอาจเกิดการฉีกขาดได้ ดังนั้นคุณควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมนี้ไปครับ เพราะถึงแม้สายชาร์จจะมีความยืดหยุ่นสูง แต่ถ้าเราไปดัดมันบ่อย ๆ สายก็อาจได้รับความเสียหายได้ครับ
4. ทำความสะอาด
ทราบหรือไม่ว่าความชื้นจากน้ำและเชื้อราสิ่งสกปรกนั้นมีผลต่อสายชาร์จของเรา โดยเฉพาะในบริเวณต่อกับมือถือต้องยิ่งให้ความสำคัญเป็นอย่างมากครับ โดยวิธีการง่าย ๆ ก็เพียงแค่การนำเอาผ้าไฟเบอร์มาเช็ดตรงบริเวณที่มีคราบสกปรกออกเท่านั้นก็เรียบร้อยแล้วครับ
เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับสินค้าที่เราแนะนำกันไป หากใครที่สนใจบทความอื่น ๆ เกี่ยว iPhone ไม่ว่าจะเป็นการดูแลรักษาหรือการขายเครื่องเก่า เราก็มีทั้งบทความรีวิวมาแนะนำกันด้วยนะครับอย่าง เคสแบตสำรอง iPhone, วิธีเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน iphone, ข้อแนะนำก่อนขาย iPhone เครื่องเก่า, หัวชาร์จแบตฯ มือถือ, วิธีชาร์จแบตเตอรี่มือถือที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันแบตเสื่อม, วิธีการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุด, วิธีทำความสะอาดโทรศัพท์ และ รีวิว หูฟังบลูทูธ Apple Airpods Pro