แฟชั่นการทำสีผมนั้นได้รับความนิยมมากทั้งในและต่างประเทศ เพราะการทำสีผมสามารถเปลี่ยนลุคของเราให้ดูแตกต่างจากเดิมได้อย่างไม่น่าเชื่อ หลายคนจึงมักจะเปลี่ยนสีผมบ่อยอาจจะเดือนละครั้ง ไปจนถึงการเปลี่ยนสีผม 3 ครั้งต่อหนึ่งเดือนเลยทีเดียว ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โฟมเปลี่ยนสีผม ครีมเปลี่ยนสีผมแบบถาวร แว๊กซ์และทรีตเมนต์เปลี่ยนสีผม และแน่นอนว่าหากคุณต้องการสีผมที่ชัดแจ๋ว คุณคงต้องทำการกัดหรือฟอกสีผมก่อนที่ย้อมผมด้วย โปรดทราบว่าการที่เราทำสีผมอาจจะทำให้เราผมเสียโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นหลังจากทำสีผมแล้วควรบำรุงผมด้วยทรีตเมนต์และเซรั่มบำรุงผมเยอะ ๆ นะคะสาว ๆ
หลังจากใช้เวลาและเงินทั้งหมดไปกับซาลอน คุณคงไม่อยากเห็นสีผมของคุณหายไปเพียงเพราะคุณใช้แชมพูที่ไม่เหมาะสมและแชมพูนั้นก็อาจจะส่วนผสมที่สามารถขจัดสีผมออกมาได้ การใช้แชมพูที่ปลอดภัยเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการรักษาสีผม ดังนั้นคุณควรเลือก “แชมพูที่เหมาะสำหรับผมที่ทำสี” ซึ่งการเลือกแชมพูนี้นั้นเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้ผมของคุณดูสดชื่น มีชีวิตชีวาและมีสุขภาพดี หลายคนอาจจะลองผิดลองถูกมาหลายครั้งในการเลือกแชมพูที่เหมาะกับเส้นผมที่ผ่านการทำสีสวย ๆ มาแต่ก็ผิดพลาดทุกครั้ง ก่อนอื่นเราขอบอกคุณเลยว่าแชมพูสำหรับขจัดรังแคนั้นทำให้ผมซีดเร็วมากที่สุด เพราะมันมีส่วนผสมของตัวยาที่ขจัดรังแค ทำให้มันพยายามจะขับสารพิษออกจากเส้นผมและทำให้สีผมจะซีดจางไปในที่สุด หากคุณกำลังพยายามหาไอเท็มที่สำคัญเพื่อช่วยรักษาสีผมให้อยู่กับคุณยาวนานที่สุด เราก็มีคำแนะนำและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมมาฝากกันในวันนี้ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยค่ะ
ทำไมสีผมถึงจางได้อย่างรวดเร็ว?
ทุกครั้งที่คุณอาบน้ำและสระผม ผมของคุณจะค่อย ๆ ซีดจางออกไปทีละน้อย เพราะแชมพูที่คุณเลือกอาจจะทำให้เส้นผมเริ่มละลายและเริ่มลื่นหลุดจากเส้นใยผมที่ผ่านการทำสี สำหรับสีที่จางหายไปเร็วที่สุดก็จะเป็นผมโทนสีแดงและสีเทา บางครั้งคุณอาจจะตกใจเพราะมันสามารถจางได้เร็วมาก ไม่ถึง 3 สัปดาห์สีผมก็ซีดลงได้อย่างเห็นได้ชัด ยิ่งหากคุณได้ทำสีผมที่ต้องผ่านการฟอกหรือกัดสีผมแล้วล่ะก็ คุณจะพบว่าผมของคุณจะเริ่มกลายเป็นสีเหลืองและอาจจะต้องย้อมใหม่ซ้ำ ๆ อยู่ตลอด
ซัลเฟต (sulfates) คืออะไร? (1,2,3)
ซัลเฟตเป็นสารเคมีที่ใช้เป็นสารทำความสะอาด เรามักจะพบสารตัวนี้ได้ทั่วไปในน้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ ตามผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน เช่น ผงซักฟอก สบู่หรือแชมพู โดยซัลเฟตอยู่ในกลุ่มของน้ำยาทำความสะอาดที่เรียกว่าสารลดแรงตึงผิวแบบประจุลบ ใช้สำหรับขจัดคราบมันและขจัดสิ่งสกปรกออกไป ในแชมพูมีสารซัลเฟต 2 ประเภทหลัก ๆ ที่ใช้กันได้แก่ “sodium lauryl sulfate” และ “sodium laureth sulfate” วัตถุประสงค์ของซัลเฟตเหล่านี้ คือการสร้างเอฟเฟกต์ฟองโฟมนุ่ม ๆ เพื่อกำจัดน้ำมันและสิ่งสกปรกออกจากเส้นผมของคุณ หากแชมพูที่คุณใช้เกิดฟองได้ง่าย นั่นหมายความว่ามันจะมีซัลเฟตสผมอยู่
ซัลเฟตกับแชมพูนั้นถือว่าเป็นของคู่กัน ถึงกระนั้นการใช้ซัลเฟตในแชมพูยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ไม่น้อย บางคนเชื่อว่าซัลเฟตสามารถทำลายสุขภาพเส้นผมของคุณได้โดยตรง การได้รับซัลเฟตในปริมาณมากอาจทำให้เกิดความเสี่ยงได้ ซัลเฟตเคยถูกมองว่าเป็นสารก่อมะเร็ง แต่โชคดีที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อื่น ๆ มาโต้แย้งความคิดเหล่านี้ได้ค่ะ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าแชมพูที่มีส่วนผสมของซัลเฟตนั้นปลอดภัยหรือเหมาะสมสำหรับทุกคน มันจะอาจเป็นอันตรายต่อเส้นผมบางประเภทและอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังในบางคนได้ ทางที่ดีคุณควรจะทดสอบอาการแพ้และและหากรู้ตัวว่าควรหลีกเลี่ยงค่ะ
ทำไมถึงควรหลีกเลี่ยงแชมพูที่มีซัลเฟต
ในขณะที่ซัลเฟตมีประสิทธิภาพในการขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันออกจากเส้นผมของคุณ แต่ปัญหาคือส่วนผสมเหล่านี้อาจรุนแรงเกินไปสำหรับบางคนเพราะคุณอาจตอบสนองต่อซัลเฟตได้ดีหากคุณมีผิวหรือผมบอบบาง ดังนั้นหากคุณมีผิวที่บอบบางมากแชมพูที่มีซัลเฟตจะทำให้ผิวของคุณเกิดการระคายเคือง
American Academy of Dermatology (AAD) (4) กล่าวว่าสำหรับผู้ที่เป็น Rosacea หรือโรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย พบว่าซัลเฟตอาจทำให้ระคายเคืองผิวได้ ไม่ว่าจะเป็นบนหนังศีรษะ ใบหน้า ไหล่ และหลังของคุณ คุณจะต้องหลีกเลี่ยงแชมพูที่มีซัลเฟต, น้ำหอม, แอลกอฮอล์, กรดอัลฟ่าไฮดรอกซี, กรดไกลโคลิกและกรดแลคติก AAD ยังบอกด้วยว่าคุณควรหลีกเลี่ยงซัลเฟตถ้าคุณเป็นโรคกลากเกลื้อน ผิวหนังอักเสบหรือผิวบอบบาง เพราะผลกระทบที่เกิดจากฟองแชมพูซัลเฟตอาจทำให้ระคายเคืองต่อสภาพผิว เช่น ทำให้ผิวแสบแดง, เกิดผื่นที่ผิวหนัง, ผิวบวม (อักเสบ), เกิดอาการคันและมีอาการโรคลมพิษ
** คุณอาจต้องการหลีกเลี่ยงซัลเฟต ถ้าคุณมีผมแห้งเสียจากการทำสีผมเพราะเส้นผมเหล่านี้บอบบางมากและซัลเฟตยังอาจลอกสีออกจากผมของคุณ แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ลองเลือกแชมพูที่มีค่าซัลเฟตสำหรับผมที่ผ่านการทำสีเพื่อความปลอดภัย เพราะแชมพูเหล่านี้จะช่วยคืนความความชุ่มชื้นจากเส้นผมที่อาจหายไปจากการทำสีได้ คุณสามารถลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้ด้วยการมองหาแชมพูซัลเฟตที่มีส่วนผสม เช่น สารลดแรงตึงผิว, amphoteric หรือสารลดแรงตึงผิวที่ไม่มีประจุ แต่อย่าลืมใช้ครีมนวดผมด้วยนะคะเพราะการสระผมนั้นสามารถช่วยขจัดความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกได้ก็จริงแต่มันสามารถกำจัดน้ำมันตามธรรมชาติของผมได้อีกด้วย ดังนั้นคุณควรใช้ครีมนวดผมด้วยเสมอ ยกเว้นว่าคุณมีผลิตภัณฑ์แชมพูแบบ 2-in-1 ที่มีสารครีมนวดอยู่แล้ว
ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมแต่ละประเภททำงานอย่างไร ?
การเปลี่ยนสีผมเป็นวิธีที่สนุกในการเพิ่มสีสันให้กับภาพลักษณ์ของคุณหรือเพิ่มสีสันให้ผมของคุณดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่คุณเคยสงสัยไหมว่าผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมแต่ละชนิดทำงานอย่างไร? เพื่อให้เข้าใจวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังการทำสีผมและวิธีการทำงานของสีผมแบบกึ่งถาวรและถาวร เราจะนำข้อมูลมาอธิบายกันในวันนี้ค่ะ
1. สีผมแบบกึ่งถาวร
ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมกึ่งถาวรมักจะคงทนอยู่เป็นเวลาหลายสัปดาห์ขึ้นอยู่กับว่าคุณสระผมบ่อยแค่ไหน มันประกอบด้วยโมเลกุลสีที่เคลือบด้านนอกของผม เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเพิ่มหรือฟื้นฟูสีผมตามธรรมชาติของคุณ แต่มันก็มักจะจางหายไปพร้อมกับแชมพูที่เราใช้สระผม สีผมแบบกึ่งถาวรก็คือผลิตภัณฑ์โฟมเปลี่ยนสีผมนั่นเองค่ะ
2. การฟอกและกัดสีผม
การกัดและฟอกสีผมเป็นการลบเม็ดสีออกจากผมของคุณผ่านการเกิดออกซิเดชัน สีที่คุณได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณทิ้งให้ผลิตภัณฑ์ทำงานไว้นานแค่ไหน โดยปกติสารฟอกจะเป็นสารฟอกขาวหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่ใช้บนเส้นผมของคุณ สำหรับการฟอกสีผมเมื่อทิ้งระยะเวลาไว้นานเกินไปจะทำให้ผมของคุณมีสีเหลือง เพราะเคราตินและโปรตีนในเส้นผมของคุณมีสีเหลืองอ่อนตามธรรมชาติ (5) หากคุณต้องการย้อมผมสีบลอนด์ สีเทา สีโทนพาสเทล คุณจะต้องผ่านกระบวนการนี้ก่อน เพราะถ้าไม่ฟอกก่อนสีผมที่คุณต้องการจะย้อมมันจะไม่มีทางติดสีที่ต้องการเด็ดขาดค่ะ
3. สีผมแบบถาวร
สีผมแบบถาวรมักจะมีตัวออกซิไดเซอร์และแอมโมเนียเพื่อผสมกับสารทำสี ด้วยสูตรนี้โมเลกุลสีจะแทรกซึมลึกถึงแกนผมเพื่อเปลี่ยนเมลานินในเส้นผมของคุณ ผลิตภัณฑ์นี้จะได้สีที่คงทนมากที่สุดแต่ก็สามารถทำลายเส้นผมของคุณได้มากที่สุดเช่นกัน หากอยากทำการเปลี่ยนสีผมแบบถาวรอย่าลืมปรึกษาร้านทำผมก่อนนะคะ
วิธีการเลือกแชมพูที่ดีที่สุดสำหรับผมทำสี
1. เลือกแชมพูที่ปราศจากซัลเฟต
แชมพูที่ปราศจากซัลเฟตและพาราเบนเป็นเทรนด์ที่ทันสมัยในขณะนี้และนั่นคือสิ่งที่คุณต้องการ เนื่องจากซัลเฟตนั้นรุนแรงมาก สามารถทำให้ผมสีซีดและทำให้ผมขาดหลุดร่วงได้ ในการซื้อผลิตภัณฑ์ให้จับตาดูคำว่า“ ปราศจากซัลเฟต” และหลีกเลี่ยงส่วนผสม เช่น โซเดียมลอเรลซัลเฟตและน้ำมันซัลโฟเนต อย่างไรก็ตามคำแนะนำในการซื้อแชมพูที่ปราศจากซัลเฟตจะแตกต่างกันตามสีผมด้วย หากคุณผ่านการย้อมผมสีบลอนด์จะต้องใช้แชมพูโทนสีม่วง หากเป็นในกรณีดังกล่าวคุณจำเป็นจะต้องใช้แชมพูที่มีซัลเฟตเพื่อเปิดเส้นผมและเพื่อให้เม็ดสีซึมลงไปในเส้นผม มิฉะนั้นคุณจะไม่ได้รับโทนสีที่คุณต้องการ แต่หากเป็นสีธรรมดาทั่วไปให้หลีกเลี่ยงซัลเฟตจะเป็นผลดีที่สุด
2. มองหาสารป้องกัน UV
รังสียูวีเป็นปัจจัยสำคัญในการทำลายเส้นผมและทำให้เกิดการออกซิเดชั่นของสี ดวงอาทิตย์จะทำการฟอกผมของคุณให้ซีดจางด้วยรังสี UV ดังนั้นแชมพู ครีมนวดผม ทรีตเมนต์หรือเซรั่มที่คุณใช้ ควรจะมีตัวกรอง UVA และ UVB หรือตัวป้องกันความร้อนเพื่อให้สีผมอยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น
3. งบประมาณ
แชมพูทั้งหมดไม่ได้ถูกสร้างขึ้นอย่างเท่าเทียมกันซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อสีผมถึงมีอยู่ตั้งแต่แรก การได้ทำสีหรือทำไฮไลต์นั้นมีราคาแพงและเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องการลงทุนของคุณ คุณสามารถซื้อแชมพูที่ดีได้ แต่ต้องจ่ายเพิ่มอีกนิดหากคุณต้องการให้มันครอบคลุมทุกปัญหาในสภาพผมของคุณ
รีวิว L'OREAL PARIS เอลแซฟ คัลเลอร์ โพรเท็ค โพรเท็คทิ่ง แชมพู

ราคา 139 บาท*
ปริมาณ | 330 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | ไม่ระบุ |
ปราศจากซัลเฟต | ✔ |
รีวิว โลแลน พิกเซล ดีท็อกซ์ซิฟายเออร์ คาล์มมิ่ง แชมพู

ราคา 145 บาท*
ปริมาณ | 500 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | Abyssinian Oil |
ปราศจากซัลเฟต | ✘ |
รีวิว เลิฟ บิวตี้ แอนด์ แพลนเน็ต แชมพู ออร์แกนิค

ราคา 190 บาท*
ปริมาณ | 200 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | Murumuru Butter และกุหลาบจากบัลแกเรีย |
ปราศจากซัลเฟต | ✔ |
รีวิว เทรซาเม่ TRESemmé Shampoo Colour Radiance & Repair For Bleached Hair

ราคา 279 บาท*
ปริมาณ | 250 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | ไม่ระบุ |
ปราศจากซัลเฟต | ✔ |
รีวิว โอจีเอ็กซ์ ออร์คิด ออย แชมพู OGX Orchid Oil Shampoo

ราคา 329 บาท*
ปริมาณ | 385 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | สารสกัดจากกล้วยไม้และน้ำมันเมล็ดองุ่น |
ปราศจากซัลเฟต | ✔ |
รีวิว Pantene Hair Fall Control Shampoo

ราคา 335 บาท*
ปริมาณ | 680 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | โปรวิตามินและLiquid Crystal Shampoo System |
ปราศจากซัลเฟต | ✘ |
รีวิว L'Oréal Paris Everpure Moisture Conditoner

ราคา 479 บาท*
ปริมาณ | 250 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | Botanical Oil และโรสแมรี่ |
ปราศจากซัลเฟต | ✔ |
รีวิว Revlon Blonde Sublime shampoo

ราคา 800 บาท*
ปริมาณ | 1250 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | hydra capture system และโปรตีน |
ปราศจากซัลเฟต | ✔ |
รีวิว Joico Color Endure Shampoo and Conditioner

ราคา 820 บาท*
ปริมาณ | 300 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | กรดอะมิโนและเคราติน |
ปราศจากซัลเฟต | ✔ |
รีวิว SHISEIDO SUBLIMIC Luminoforce Shampoo

ราคา 1,265 บาท*
ปริมาณ | 500 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | สารสกัดจากกุหลาบ |
ปราศจากซัลเฟต | ✔ |
รีวิว แชมพูสำหรับผมทำสี PAUL MITCHELL Color Protect Daily Shampoo

ราคา 1,760 บาท*
ปริมาณ | 1,000 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | โจโจ้บา เฮนน่า คาโมมายล์และโรสแมรี่ |
ปราศจากซัลเฟต | ✔ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว แชมพูสำหรับผมทำสี ยี่ห้อไหนดีสุด ปี 2021 | ||||
---|---|---|---|---|
รูปภาพ | ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ข้อมูลเพิ่มเติม | |
| ||||
| ||||
| ||||
เทรซาเม่ TRESemmé Shampoo Colour Radiance & Repair For Bleached Hair |
| |||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
เคล็ดลับในการดูแลรักษาผมที่ผ่านการทำสี
ไม่ว่าคุณจะไปที่ร้านเสริมสวยหรือทำสีผมเองที่บ้านคุณจะต้องทุ่มเทให้กับมัน ถ้าคุณต้องการให้สีของคุณอยู่ได้นาน กระบวนการทางเคมีทั้งหมดมีผลต่อสุขภาพของเส้นผม เพราะมันจะลดความยืดหยุ่นและเพิ่มโอกาสในการทำให้ผมแห้งและแตกปลาย ดังนั้นหากคุณพบว่าสัปดาห์หลังจากทำสีผมแล้วผมของคุณหยาบกระด้าง คุณจะต้องเรียนรู้วิธีการต่อสู้กับความเสียหายด้วยการเลือกแชมพูที่เหมาะกับสภาพเส้นผมของคุณ ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับง่าย ๆ 5 ข้อที่จะช่วยให้สีผมของคุณคงอยู่ยาวนาน
- หลีกเลี่ยงความร้อน คุณควรหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนในการจัดแต่งทรงผมให้มากที่สุด แต่ถ้าคุณต้องเป่าผมให้แห้งให้ใช้ลมเย็นในการเป่า หากจำเป็นต้องม้วนหรือหนีบผมให้ใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อนก่อน
- หลีกเลี่ยงแสงแดด เพื่อให้สุขภาพผมโดยรวมดีขึ้น คุณควรหลีกเลี่ยงแสงแดดที่จ้ามากเกินไปและควรอยู่ให้ห่างจากน้ำที่มีคลอรีนเพราะคลอรีนนี้สามารถกัดสีผมทำให้สีผมจางเร็วได้
- หลังจากย้อมผม หลังจากการย้อมผมให้รอ 48-72 ชั่วโมงก่อนทำการสระผมตามปกติ เพราะจะทำให้ผมบ่มสีได้นานมากยิ่งขึ้น
- ห้ามสระผมกับน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน เมื่อสระผมห้ามให้อุณหภูมิน้ำอยู่ในระดับสูงเพราะน้ำร้อนจะทำการเปิดเกล็ดผมของคุณ และน้ำร้อนก็จะชำระล้างสีผมของคุณออกไปด้วย
- สระผมให้น้อยลง การสระผมบ่อย ๆ สามารถทำให้สีผมซีดจางอย่างรวดเร็ว ให้คุณมองหา Dry Shampoo เพื่อใช้จัดการกับความมันแทนการสระผมเป็นประจำทุกวัน
References