แฟชั่นการทำสีผมนั้นได้รับความนิยมมากทั้งในและต่างประเทศ เพราะการทำสีผมสามารถเปลี่ยนลุคของเราให้ดูแตกต่างจากเดิมได้อย่างไม่น่าเชื่อ หลายคนจึงมักจะเปลี่ยนสีผมบ่อยอาจจะเดือนละครั้ง ไปจนถึงการเปลี่ยนสีผม 3 ครั้งต่อหนึ่งเดือนเลยทีเดียว ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โฟมเปลี่ยนสีผม ครีมเปลี่ยนสีผมแบบถาวร สเปรย์เปลี่ยนสีผมและทรีตเมนต์เปลี่ยนสีผม และแน่นอนว่าหากคุณต้องการสีผมที่ชัดแจ๋ว คุณคงต้องทำการกัดหรือฟอกสีผมก่อนที่ย้อมผมด้วย โปรดทราบว่าการที่เราทำสีผมอาจจะทำให้เราผมเสียโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นหลังจากทำสีผมแล้วควรบำรุงผมด้วยทรีตเมนต์และเซรั่มบำรุงผมเยอะ ๆ นะคะสาว ๆ
หลังจากใช้เวลาและเงินทั้งหมดไปกับซาลอน คุณคงไม่อยากเห็นสีผมของคุณหายไปเพียงเพราะคุณใช้แชมพูที่ไม่เหมาะสมและแชมพูนั้นก็อาจจะส่วนผสมที่สามารถขจัดสีผมออกมาได้ การใช้แชมพูที่ปลอดภัยเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการรักษาสีผม ดังนั้นคุณควรเลือก “แชมพูที่เหมาะสำหรับผมที่ทำสี” ซึ่งการเลือกแชมพูนี้เป็นกุญแจสำคัญในการทำให้ผมของคุณดูสดชื่น มีชีวิตชีวาและมีสุขภาพดี
หลายคนอาจจะลองผิดลองถูกมาหลายครั้งในการเลือกแชมพูที่เหมาะกับเส้นผมที่ผ่านการทำสีสวย ๆ มาแต่ก็ผิดพลาดทุกครั้ง ก่อนอื่นเราขอบอกคุณเลยว่าแชมพูสำหรับขจัดรังแคนั้นทำให้ผมซีดเร็วมากที่สุด เพราะมันมีส่วนผสมของตัวยาที่ขจัดรังแค ทำให้มันพยายามจะขับสารพิษออกจากเส้นผมและทำให้สีผมจะซีดจางไปในที่สุด หากคุณกำลังพยายามหาไอเทมที่สำคัญเพื่อช่วยรักษาสีผมให้อยู่กับคุณยาวนานที่สุด เราก็มีคำแนะนำและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมมาฝากกันในวันนี้ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยค่ะ
แชมพูสำหรับผมทำสี สูตรไหนดี เหมาะสำหรับเส้นผมมากที่สุด?
- ดูแลเส้นผมทุกครั้งหลังสระ กลิ่นหอมพร้อมขจัดสารเคมีตกค้าง: Lolane Pixxel Detoxifier Hair & Scalp Calming Shampoo แชมพู
- ทำความสะอาดและบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก ช่วยปกป้องเส้นผมจากแสงยูวีที่เป็นอันตราย: L'oreal Paris Elseve Color Protect Protecting Shampoo แชมพู
- แชมพูสูตรโปรวิตามิน ช่วยฟื้นฟูผมแห้งเสียที่มาจากการดัดผมและทำสีผม: Pantene Colour & Perm Care Pro-V Shampoo สูตรดูแลผมทำสี
- ช่วยกลบเม็ดสีเหลืองบนเส้นผมได้เป็นอย่างดี ผมนุ่มสลวยและดูสุขภาพดีทุกครั้งที่ใช้: TRESemmé Shampoo Colour Radiance & Repair For Bleached Hair แชมพูสำหรับผมกัดสี/ทำสีอ่อน
- แชมพูสูตรพรีเมียม ใช้เทคโนโลยีพิเศษ เพื่อบำรุงผมจากภายในสู่ภายนอก: Shiseido Sublimic Luminoforce Shampoo แชมพูสำหรับผมทำสี
- ใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ เหมาะสำหรับเส้นผมที่ผ่านการทำสีทุกชนิด: Paul Mitchell Color Protect Daily Shampoo แชมพูสำหรับผมทำสี
ทำไมสีผมถึงจางได้อย่างรวดเร็ว?
ทุกครั้งที่คุณอาบน้ำและสระผม ผมของคุณจะค่อย ๆ ซีดจางออกไปทีละน้อย เพราะแชมพูที่คุณเลือกอาจจะทำให้สีผมเริ่มละลายและเริ่มลื่นหลุดจากเส้นใยผมที่ผ่านการทำสี สำหรับสีผมที่จางหายไปเร็วที่สุดก็จะเป็นผมโทนสีแดงและสีเทา บางครั้งคุณอาจจะตกใจเพราะมันสามารถจางได้เร็วมาก ไม่ถึง 3 สัปดาห์สีผมก็ซีดลงได้อย่างเห็นได้ชัด ยิ่งหากคุณได้ทำสีผมที่ต้องผ่านการฟอกหรือกัดสีผมแล้วล่ะก็ คุณจะพบว่าผมของคุณจะเริ่มกลายเป็นสีเหลืองและอาจจะต้องย้อมใหม่ซ้ำ ๆ อยู่ตลอดเวลา

วิธีการเลือกแชมพูที่ดีที่สุดสำหรับผมทำสี
1. เลือกแชมพูที่ปราศจากซัลเฟต
แชมพูที่ปราศจากซัลเฟตและพาราเบนเป็นเทรนด์ที่ทันสมัยในขณะนี้และนั่นคือสิ่งที่คุณต้องการ เนื่องจากซัลเฟตนั้นรุนแรงมาก สามารถทำให้ผมสีซีดและทำให้ผมขาดหลุดร่วงได้ ในการซื้อผลิตภัณฑ์ให้จับตาดูคำว่า“ ปราศจากซัลเฟต” และหลีกเลี่ยงส่วนผสม เช่น โซเดียมลอเรลซัลเฟตและน้ำมันซัลโฟเนต อย่างไรก็ตามคำแนะนำในการซื้อแชมพูที่ปราศจากซัลเฟตจะแตกต่างกันตามสีผมด้วย หากคุณผ่านการย้อมผมสีบลอนด์จะต้องใช้แชมพูโทนสีม่วง หากเป็นในกรณีดังกล่าวคุณจำเป็นจะต้องใช้แชมพูที่มีซัลเฟตเพื่อเปิดเส้นผมและเพื่อให้เม็ดสีซึมลงไปในเส้นผม มิฉะนั้นคุณจะไม่ได้รับโทนสีที่คุณต้องการ แต่หากเป็นสีธรรมดาทั่วไปให้หลีกเลี่ยงซัลเฟตจะเป็นผลดีที่สุด
2. มองหาสารป้องกัน UV
รังสียูวีเป็นปัจจัยสำคัญในการทำลายเส้นผมและทำให้เกิดการออกซิเดชั่นของสี ดวงอาทิตย์จะทำการฟอกผมของคุณให้ซีดจางด้วยรังสี UV ดังนั้นแชมพู ครีมนวดผม ทรีตเมนต์หรือเซรั่มที่คุณใช้ ควรจะมีตัวกรอง UVA และ UVB หรือตัวป้องกันความร้อนเพื่อให้สีผมอยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น
3. งบประมาณ
แชมพูทั้งหมดไม่ได้ถูกสร้างขึ้นอย่างเท่าเทียมกันซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อสีผมถึงมีอยู่ตั้งแต่แรก การได้ทำสีหรือทำไฮไลต์นั้นมีราคาแพงและเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องการลงทุนของคุณ คุณสามารถซื้อแชมพูที่ดีได้ แต่ต้องจ่ายเพิ่มอีกนิดหากคุณต้องการให้มันครอบคลุมทุกปัญหาในสภาพผมของคุณ
L'oreal Paris Elseve Color Protect Protecting Shampoo แชมพู

ราคา 99 บาท*
ข้อดี
- ช่วยรักษาสีผมและช่วยป้องกันเส้นผมจากรังสียูวีที่เป็นอันตราย
- กลิ่นของแชมพูหอมละมุนและติดผมยาวนานมาก
- ช่วยปกป้องสีผมและปราศจากซัลเฟตที่เป็นอันตราย
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหารังแค
ปริมาณ | 450 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | เซราไมด์ |
ปราศจากซัลเฟต | ✔ |
Lolane Pixxel Detoxifier Hair & Scalp Calming Shampoo แชมพู

ราคา 127 บาท*
ข้อดี
- ขจัดกลิ่นอับและกลิ่นเคมีหลังจากการทำสีผมได้ดี
- ผมนุ่ม สลวยและเงางามแม้ผ่านการทำสีมา
- กลิ่นของแชมพูมีกลิ่นหอมและติดผมยาวนานมาก
ข้อควรพิจารณา
- ในแชมพูมีส่วนผสมของซัลเฟต
ปริมาณ | 500 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | Abyssinian Oil |
ปราศจากซัลเฟต | ✘ |
Lesasha Heat Shield Color Radiance Shampoo แชมพู

ราคา 230 บาท*
Lesasha Heat Shield Color Radiance Shampoo เป็นแชมพูที่จะช่วยปกป้องผมทำสีได้อย่างมีประสิทธิภาพ แบรนด์เลอซาช่าเป็นแบรนด์ที่ออกแบบมาเพื่อดูแลเส้นผมอยู่แล้วค่ะ อีกทั้งยังได้รับการขนานนามว่าเป็นแบรนด์ดูแลเส้นผมที่ดีที่สุดด้วย ตัวแชมพูมีส่วนผสมของกรดอะมิโนและน้ำมันธรรมชาติ 7 ชนิดที่จะช่วยรักษาสีผม ให้ความชุ่มชื้นละควบคุมความชี้ฟู อีกทั้งแชมพูยังช่วยป้องกันรังสียูวีพร้อมด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงเส้นผมของคุณและปกป้องจากผลเสียหายจากการใช้ความร้อน
ข้อดี
- อ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะมาก
- เพิ่มความเงางามให้กับเส้นผมได้อย่างต่อเนื่องและยาวนาน
- ช่วยให้ผมนุ่มลื่นและดูมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่เป็นรังแค
ปริมาณ | 250 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | กรดอะมิโนและน้ำมันธรรมชาติ 7 ชนิด |
ปราศจากสารซัลเฟต | ✔ |
NIGAO Deluxe Color Maintain แชมพู

ราคา 258 บาท*
NIGAO Deluxe Color Maintain เป็นแชมพูที่มีส่วนผสมของโปรตีน 3 ชนิดที่จะช่วยส่งมอบความชุ่มชื้นและเติมเต็มผมแห้งเสีย แชมพูนี้จะทำให้สีผมของคุณสดใสได้ยาวนานแม้สระผมทุกวัน ด้วยสูตรที่ไม่มีซัลเฟตหรือ SLES ทำให้แชมพูนี้ทำความสะอาดอย่างอ่อนโยนและช่วยรักษาเส้นผม ช่วยล็อกเม็ดสีช่วยทำให้ผมปลอดภัยจากการซีดจาง มันเต็มไปด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติและไม่ได้ทดสอบกับสัตว์ หากคุณเป็นคนรักธรรมชาติและรักสีผมตัวนี้เหมาะกับคุณค่ะ
ข้อดี
- รักษาสภาพสีผมได้อย่างยาวนานหลายวัน
- ป้องกันเส้นผมจากรังสี UV ที่เป็นอันตรายได้เป็นอย่างดี
- ช่วยให้ผมนุ่มลื่นและดูสุขภาพดีทุกครั้งที่ใช้
ข้อควรพิจารณา
- ต้องใช้ร่วมกับครีมนวดผมเพื่อให้ล็อกสีผมได้นานขึ้น
ปริมาณ | 300 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | โปรตีนบำรุงเส้นผม 3 ชนิด |
ปราศจากสารซัลเฟต | ✔ |
TRESemmé Shampoo Colour Radiance & Repair For Bleached Hair แชมพูสำหรับผมกัดสี/ทำสีอ่อน

ราคา 299 บาท*
ข้อดี
- ช่วยขจัดเม็ดสีเหลืองบนเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- บำรุงและฟื้นฟูผมเสียได้อย่างล้ำลึกถึงแกนผม
- หลังจากสระผมเสร็จแล้ว ผมจะนุ่มลื่นยาวนาน
- ต้องใช้งานร่วมกับครีมนวดผมเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ปริมาณ | 250 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันดอกทานตะวันและโปรตีนจากถั่วเหลือง |
ปราศจากซัลเฟต | ✔ |
Pantene Colour & Perm Care Pro-V Shampoo สูตรดูแลผมทำสี

ราคา 299 บาท*
ข้อดี
- ช่วยฟื้นฟูปัญหาเส้นผมแห้งกร้านหลังจากการทำสีผมได้เป็นอย่างดี
- แชมพูมีกลิ่นหอมและมีความบางเบา กลิ่นติดผมยาวนาน
- สร้างเกราะให้กับชั้นผม ผมจะดูแข็งแรงขึ้นทุกครั้งที่ใช้
ข้อควรพิจารณา
- ในแชมพูมีส่วนผสมของซัลเฟต
ปริมาณ | 680 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | โปรวิตามิน และ Liquid Crystal Shampoo System |
ปราศจากซัลเฟต | ✘ |
Schwarzkopf Bonacure Color Freeze Silver Shampoo แชมพู

ราคา 405 บาท*
Schwarzkopf Bonacure Color Freeze เป็นแชมพูสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ ตัวแชมพูนี้จะทำความสะอาดผมอย่างทั่วถึงและสะอาดหมดจด แชมพูยังมีฟิลเตอร์ UV ที่ช่วยปกป้องเส้นผมจากรังสีที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์ ตัวแชมพูจะช่วยคงสีผมไว้ได้อย่างยาวนาน นอกจากนี้ยังให้ความเงางามแก่เส้นผมทำให้สีผมดูน่าสนใจยิ่งขึ้น ตัวแชมพูจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและมลภาวะออกจากเส้นผมในการสระผมเพียงครั้งเดียว ใครที่กำลังมองหาแชมพูสำหรับผมทำสีอยู่ แนะนำให้ลองใช้แชมพูนี้ค่ะ
ข้อดี
- ขจัดความเป็นสีเหลืองของเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- บำรุงผมอย่างล้ำลึกและมีกลิ่นหอมมาก
- ช่วยปกปิดเกล็ดผมได้อย่างรวดเร็วและทำให้ผมมีน้ำหนัก
ข้อควรพิจารณา
- ต้องใช้ร่วมกับครีมนวดผมเพื่อให้ผมนุ่มลื่นยิ่งขึ้น
ปริมาณ | 250 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันละหุ่ง กรดซาลิไซลิกและสารสกัดจากไซเลน |
ปราศจากสารซัลเฟต | ✔ |
LOREAL Serie Expert Resveratrol Vitamino Color Shampoo แชมพู

ราคา 817 บาท*
L'Oreal เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมากในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางทั่วโลก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและแชมพูลอรีอัลนี้ก็ไม่ต่างกันค่ะ แชมพูสูตรนี้เป็นสูตรปกป้องสีผมและเป็นหนึ่งในแชมพูที่ดีที่สุดสำหรับผมทำสีด้วยค่ะ ตัวแชมพูมีเนื้อบางเบามันจะช่วยปกป้องไฮไลท์และรักษาสภาพสีผมไว้เหมือนเดิมเหมือนวันแรกที่ออกจากซาลอน แชมพูสำหรับผมทำสีจะช่วยสร้างชั้นป้องกันน้ำเพื่อปกป้องผมที่ผ่านการย้อม ช่วยบำรุงและทำความสะอาดผมอย่างอ่อนโยน เมื่อใช้งานแล้วเส้นผมของคุณจะเปล่งประกายเป็นเงางามอย่างแน่นอนค่ะ
ข้อดี
- ช่วยทำความสะอาดเส้นผมได้อย่างล้ำลึก
- บำรุงเส้นผมได้อย่างต่อเนื่อง คงสภาพสีผมได้อย่างยาวนาน
- กลิ่นหอมติดกับเส้นผมยาวนานหลายวัน
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหารังแคหรือผิวแพ้ง่าย
ปริมาณ | 500 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | เรสเวอราทรอลและโพลีฟีนอล |
ปราศจากซัลเฟต | ✔ |
Shiseido Sublimic Luminoforce Shampoo แชมพูสำหรับผมทำสี

ราคา 1,240 บาท*
ข้อดี
- ทำความสะอาดได้อย่างหมดจด ฟื้นบำรุงปัญหาผมเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยเติมเต็มไขมันให้กับเส้นผมเพื่อช่วยให้ผมแข็งแรง
- หลังจากใช้งานแล้วผมจะนุ่มสวยและเป็นเงางาม
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
ปริมาณ | 500 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | สารสกัดจากกุหลาบ |
ปราศจากซัลเฟต | ✔ |
Paul Mitchell Color Protect Daily Shampoo แชมพูสำหรับผมทำสี

ราคา 1,505 บาท*
ข้อดี
- สามารถขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์หลังจากการทำสีผมได้อย่างหมดจด
- ล็อกสีผมให้ติดทนนานและให้ความเปล่งประกายทุกครั้ง
- ช่วยลดปัญหาผมแตกปลายและปัญหาผมแห้งเสียได้ดีมาก
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
ปริมาณ | 1,000 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันโจโจ้บา คาโมมายล์และโรสแมรี่ |
ปราศจากซัลเฟต | ✔ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว แชมพูสำหรับผมทำสี ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
TRESemmé Shampoo Colour Radiance & Repair For Bleached Hair แชมพูสำหรับผมกัดสี/ทำสีอ่อน |
| |||
| ||||
| ||||
LOREAL Serie Expert Resveratrol Vitamino Color Shampoo แชมพู |
| |||
| ||||
|
ซัลเฟต (sulfates) คืออะไร? (1,2,3)
ซัลเฟตเป็นสารเคมีที่ใช้เป็นสารทำความสะอาด เรามักจะพบสารตัวนี้ได้ทั่วไปในน้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ ตามผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน เช่น ผงซักฟอก สบู่หรือแชมพู ซัลเฟตอยู่ในกลุ่มของน้ำยาทำความสะอาดที่เรียกว่าสารลดแรงตึงผิวแบบประจุลบ ใช้สำหรับขจัดคราบมันและขจัดสิ่งสกปรกออกไป ในแชมพูมีสารซัลเฟต 2 ประเภทหลัก ๆ ที่ใช้กันได้แก่ “sodium lauryl sulfate” และ “sodium laureth sulfate” วัตถุประสงค์ของซัลเฟตเหล่านี้ คือการสร้างเอฟเฟกต์ฟองโฟมนุ่ม ๆ เพื่อกำจัดน้ำมันและสิ่งสกปรกออกจากเส้นผมของคุณ หากแชมพูที่คุณใช้เกิดฟองได้ง่าย นั่นหมายความว่ามันจะมีซัลเฟตผสมอยู่
ซัลเฟตกับแชมพูนั้นถือว่าเป็นของคู่กัน ถึงกระนั้นการใช้ซัลเฟตในแชมพูยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ไม่น้อย บางคนเชื่อว่าซัลเฟตสามารถทำลายสุขภาพเส้นผมของคุณได้โดยตรงแต่บางคนก็บอกว่ามันปลอดภัย แต่ต้องจำไว้นะคะว่าการได้รับซัลเฟตในปริมาณมากอาจทำให้เกิดความเสี่ยงได้ ซัลเฟตเคยถูกมองว่าเป็นสารก่อมะเร็ง แต่โชคดีที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อื่น ๆ มาโต้แย้งความคิดเหล่านี้ได้ค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแชมพูที่มีส่วนผสมของซัลเฟตนั้นปลอดภัยหรือเหมาะสมสำหรับทุกคน มันอาจจะเป็นอันตรายต่อเส้นผมบางประเภทและอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังในบางคนได้ ทางที่ดีคุณควรจะทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้งานทุกครั้ง
ทำไมถึงควรหลีกเลี่ยงแชมพูที่มีซัลเฟต ?
ซัลเฟตมีประสิทธิภาพในการขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันออกจากเส้นผมของคุณ แต่ปัญหาคือส่วนผสมเหล่านี้อาจรุนแรงเกินไปสำหรับบางคนเพราะคุณอาจตอบสนองต่อซัลเฟตได้ดีหากคุณมีผิวหรือเส้นผมบอบบาง ดังนั้นหากคุณมีผิวที่บอบบางมากแชมพูที่มีซัลเฟตจะทำให้ผิวของคุณเกิดการระคายเคือง
American Academy of Dermatology (AAD) (4) กล่าวว่าสำหรับผู้ที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบหรือโรซาเชีย สารจากซัลเฟตอาจทำให้ระคายเคืองผิวได้ ไม่ว่าจะเป็นบนหนังศีรษะ ใบหน้า ไหล่และหลังของคุณ ดังนั้นคุณจะต้องหลีกเลี่ยงแชมพูที่มีซัลเฟต, น้ำหอม, แอลกอฮอล์, กรดอัลฟ่าไฮดรอกซี, กรดไกลโคลิกและกรดแลคติก อีกทั้ง AAD ยังบอกด้วยว่าคุณควรหลีกเลี่ยงซัลเฟตถ้าคุณเป็นโรคกลากเกลื้อน ผิวหนังอักเสบหรือผิวบอบบาง เพราะผลกระทบที่เกิดจากฟองแชมพูซัลเฟตอาจทำให้ระคายเคืองต่อสภาพผิว เช่น ทำให้ผิวแสบแดง, เกิดผื่นที่ผิวหนัง, ผิวบวม (อักเสบ), เกิดอาการคันและมีอาการโรคลมพิษ

** นอกจากนี้คุณอาจต้องการหลีกเลี่ยงซัลเฟต ถ้าคุณมีผมแห้งเสียจากการทำสีผมเพราะเส้นผมเหล่านี้บอบบางมากและซัลเฟตยังอาจลอกสีออกจากเส้นผมของคุณด้วย แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ลองเลือกแชมพูที่มีค่าซัลเฟตสำหรับผมที่ผ่านการทำสีเพื่อความปลอดภัย เพราะแชมพูเหล่านี้จะช่วยคืนความชุ่มชื้นจากเส้นผมที่อาจหายไปจากการทำสีได้ คุณสามารถลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้ด้วยการมองหาแชมพูซัลเฟตที่มีส่วนผสม เช่น สารลดแรงตึงผิว, amphoteric หรือสารลดแรงตึงผิวที่ไม่มีประจุ แต่อย่าลืมใช้ครีมนวดผมด้วยนะคะเพราะการสระผมนั้นสามารถช่วยขจัดความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกได้ก็จริงแต่มันสามารถกำจัดน้ำมันตามธรรมชาติของผมได้อีกด้วย ดังนั้นคุณควรใช้ครีมนวดผมด้วยเสมอ ยกเว้นว่าคุณมีผลิตภัณฑ์แชมพูแบบ 2-in-1 ที่มีสารครีมนวดอยู่แล้ว
ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมแต่ละประเภททำงานอย่างไร ?
การเปลี่ยนสีผมเป็นวิธีที่สนุกในการเพิ่มสีสันให้กับภาพลักษณ์ของคุณหรือเพิ่มสีสันให้ผมของคุณดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่คุณเคยสงสัยไหมว่าผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมแต่ละชนิดทำงานอย่างไร? เพื่อให้เข้าใจวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังการทำสีผมและวิธีการทำงานของสีผมแบบกึ่งถาวรและถาวร เราจะนำข้อมูลมาอธิบายกันในวันนี้ค่ะ
1. สีผมแบบกึ่งถาวร
ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมกึ่งถาวรมักจะคงทนอยู่เป็นเวลาหลายสัปดาห์ขึ้นอยู่กับว่าคุณสระผมบ่อยแค่ไหน มันประกอบด้วยโมเลกุลสีที่เคลือบด้านนอกของผม เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเพิ่มหรือฟื้นฟูสีผมตามธรรมชาติของคุณ แต่มันก็มักจะจางหายไปพร้อมกับแชมพูที่เราใช้สระผม สีผมแบบกึ่งถาวรก็คือผลิตภัณฑ์โฟมเปลี่ยนสีผมนั่นเองค่ะ
2. การฟอกและกัดสีผม

การกัดและฟอกสีผมเป็นการลบเม็ดสีออกจากผมของคุณผ่านการเกิดออกซิเดชัน สีที่คุณได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณทิ้งให้ผลิตภัณฑ์ทำงานไว้นานแค่ไหน โดยปกติสารฟอกจะเป็นสารฟอกขาวหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่ใช้บนเส้นผมของคุณ สำหรับการฟอกสีผมเมื่อทิ้งระยะเวลาไว้นานเกินไปจะทำให้ผมของคุณมีสีเหลือง เพราะเคราตินและโปรตีนในเส้นผมของคุณมีสีเหลืองอ่อนตามธรรมชาติ (5) หากคุณต้องการย้อมผมสีบลอนด์ สีเทา สีโทนพาสเทล คุณจะต้องผ่านกระบวนการนี้ก่อน เพราะถ้าไม่ฟอกก่อนสีผมที่คุณต้องการจะย้อมมันจะไม่มีทางติดสีที่ต้องการเด็ดขาดค่ะ
3. สีผมแบบถาวร
สีผมแบบถาวรมักจะมีตัวออกซิไดเซอร์และแอมโมเนียเพื่อผสมกับสารทำสี ด้วยสูตรนี้โมเลกุลสีจะแทรกซึมลึกถึงแกนผมเพื่อเปลี่ยนเมลานินในเส้นผมของคุณ ผลิตภัณฑ์นี้จะได้สีที่คงทนมากที่สุดแต่ก็สามารถทำลายเส้นผมของคุณได้มากที่สุดเช่นกัน หากอยากทำการเปลี่ยนสีผมแบบถาวรอย่าลืมปรึกษาร้านทำผมก่อนนะคะ
เคล็ดลับในการดูแลรักษาผมที่ผ่านการทำสี
ไม่ว่าคุณจะไปที่ร้านเสริมสวยหรือทำสีผมเองที่บ้านคุณจะต้องทุ่มเทให้กับมัน ถ้าคุณต้องการให้สีของคุณอยู่ได้นาน กระบวนการทางเคมีทั้งหมดมีผลต่อสุขภาพของเส้นผม เพราะมันจะลดความยืดหยุ่นและเพิ่มโอกาสในการทำให้ผมแห้งและแตกปลาย ดังนั้นหากคุณพบว่าสัปดาห์หลังจากทำสีผมแล้วผมของคุณหยาบกระด้าง คุณจะต้องเรียนรู้วิธีการต่อสู้กับความเสียหายด้วยการเลือกแชมพูที่เหมาะกับสภาพเส้นผมของคุณ ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับง่าย ๆ 5 ข้อที่จะช่วยให้สีผมของคุณคงอยู่ยาวนาน
- หลีกเลี่ยงความร้อน คุณควรหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนในการจัดแต่งทรงผมให้มากที่สุด แต่ถ้าคุณต้องเป่าผมให้แห้งให้ใช้ลมเย็นในการเป่า หากจำเป็นต้องม้วนหรือหนีบผมให้ใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อนก่อน
- หลีกเลี่ยงแสงแดด เพื่อให้สุขภาพผมโดยรวมดีขึ้น คุณควรหลีกเลี่ยงแสงแดดที่จ้ามากเกินไปและควรอยู่ให้ห่างจากน้ำที่มีคลอรีนเพราะคลอรีนนี้สามารถกัดสีผมทำให้สีผมจางเร็วได้
- หลังจากย้อมผม หลังจากการย้อมผมให้รอ 48-72 ชั่วโมงก่อนทำการสระผมตามปกติ เพราะจะทำให้ผมบ่มสีได้นานมากยิ่งขึ้น
- ห้ามสระผมกับน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน เมื่อสระผมห้ามให้อุณหภูมิน้ำอยู่ในระดับสูงเพราะน้ำร้อนจะทำการเปิดเกล็ดผมของคุณ และน้ำร้อนก็จะชำระล้างสีผมของคุณออกไปด้วย
- สระผมให้น้อยลง การสระผมบ่อย ๆ สามารถทำให้สีผมซีดจางอย่างรวดเร็ว ให้คุณมองหา Dry Shampoo เพื่อใช้จัดการกับความมันแทนการสระผมเป็นประจำทุกวัน
References