กีฬาถือเป็นกิจกรรมชนิดหนึ่งที่สร้างทั้งความสนุกและการสุขภาพดี ๆ กลับไปในทุกครั้ง เพราะการเล่นกีฬาจะช่วยในเรื่องของการเผาพลาญ ป้องกันไม่ให้เกิดโรคอ้วน ในขณะเดียวกันมันยังทำให้กล้ามเนื้อเกิดความแข็งแรง ซึ่งเมื่อพูดถึงกีฬาสากลที่นิยมเล่นกันทั่วโลก หลายคนก็คงนึกถึง แบดมินตัน, ปิงปอง, ฟุตบอล, กอล์ฟ หรือเทนนิส ที่จะมีคอร์ทให้เล่นในทุกจังหวัด
โดยเทนนิสเป็นกีฬาที่หลายคนคงจะทราบกันดีว่าอุปกรณ์สำคัญที่จะต้องมีติดตัวในการมาเล่นคือ ‘ไม้เทนนิส’ เพื่อใช้ในการตีบอลและทำแต้มในจังหวะต่าง ๆ อย่างไรก็ดียังคงมีอีกสิ่งหนึ่งซึ่งหลายคนมองข้ามและมองว่ามันไม่มีต่อผลการแข่งขันเท่าไหร่นักนั่นคือ ‘รองเท้าเทนนิส’ แต่แท้จริงแล้วมันเป็นความคิดที่ผิดแบบมหันต์เลยครับ เพราะรองเท้าเทนนิสถือเป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่ง ซึ่งสามารถทำให้เราแพ้หรือชนะได้

เนื่องจากรองเท้าเทนนิสจะทำหน้าที่ในการเพิ่มความเบาสบายและการซัพพอร์ตเท้า เมื่อใส่ไปแล้วจะสัมผัสได้ทันทีว่าในทุกก้าวที่เราวิ่งออกไปจะมีความเสถียร โดยในจังหวะที่ต้องมีการเบรกหรือหยุดเพื่อสร้างจังหวะในการตี รองเท้านี่ละครับที่จะบาลานซ์ตัวของเราให้มั่นคง และพร้อมที่จะตีวินเนอร์หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ‘ตีทำแต้ม’ นั่นเอง ดังนั้นไม่ว่าไม้ของคุณจะดีระดับจังหวะสักแค่ไหน แต่ถ้ารองเท้าเทนนิสไม่คุณภาพ ฟอร์มการเล่นที่กำลังจะดีอาจกลายเป็นแย่ได้ทันที ในขณะเดียวกันถ้าหากใส่รองเท้าคุณภาพสูง แน่นอนว่าความคล่องตัวและการเข้าถึงบอลก็จะดีขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าไหร่เลยทีเดียว
รองเท้าเทนนิส ยี่ห้อไหนดี
- รองเท้าเทนนิสที่ดีที่สุด ใส่สบายและเพิ่มความสเถียรในการวิ่ง : รองเท้าเทนนิส NIKE ZOOM VAPOR CAGE 4 RAFA 2021
- รองเท้าเทนนิสสำหรับมือใหม่ : Adidas รองเท้าเทนนิสผู้ชาย GameCourt
- รองเท้าเทนนิสราคาถูก : Asics รองเท้าเทนนิสผู้ชาย Court Slide
- รองเท้าเทนนิสสำหรับสไตล์เกมรับ : Asics รองเท้าเทนนิสผู้ชาย Gel-Resolution 8 / Asics รองเท้าเทนนิสผู้ชาย Court FF Novak L.E.
- รองเท้าเทนนิสสำหรับสไตล์เกมรุก : รองเท้าเทนนิส NIKE ZOOM VAPOR CAGE 4 RAFA 2021
รองเท้าวิ่ง vs รองเท้าเทนนิส
ถึงแม้ว่ากีฬาทั้งสองประเภทจะมีการวิ่งและการเคลื่อนตัวที่เยอะเหมือนกัน แต่คุณสมบัติและการซัพพอร์ตของทั้งสองกีฬานั้นแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นรองเท้าทั้งสองประเภทนี้ไม่สามารถที่จะนำมาสลับกันใช้ได้ครับ เพราะคุณอาจได้รับอาการบาดเจ็บหนักแบบไม่คาดคิดเลยก็ว่าได้

1. การดีไซน์
‘รองเท้าวิ่ง’ จะเน้นการซัพพอร์ตสำหรับการวิ่งไปด้านหน้าเท่านั้น ดังนั้นการซัพพอร์ตของมันจะเน้นแค่ตรงบริเวณส้นเท้าหรือจุดที่เกิดการกระแทกสูง ๆ เมื่อวิ่งไปด้านหน้า ในขณะ ‘รองเท้าเทนนิส’ ซึ่งเป็นกีฬาที่จะต้องเคลื่อนตัวทั้งด้านหน้าและด้านหลังบริเวณท้ายเส้นของสนาม ดังนั้นพื้นรองเท้าของมันจะต้องซัพพอร์ตตั้งแต่ปลายนิ้วเท้าจนถึงส้นเท้า พูดง่าย ๆ คือจะต้องซัพพอร์ตเท้าได้ทั้งหมดทุกส่วน เพื่อเพิ่มความเสถียรในการวิ่ง
2. ความนุ่ม
‘รองเท้าวิ่ง’ มีความนุ่มที่มากกว่า ‘รองเท้าเทนนิส’ เนื่องจากการวิ่งจะต้องมีการเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่เทนนิสจะมีช่วงเวลาระหว่างแต้มประมาณ 10 – 20 วินาที เพื่อให้นักกีฬาเตรียมตัวเสิร์ฟในแต้มต่อไป ซึ่งแน่นอนว่ารองเท้าวิ่งจะต้องมีความนิ่มและการซัพพอร์ตที่ย่อมดีกว่ารองเท้าเทนนิส
3. พื้นรองเท้า
หากเปรียบเทียบในเรื่องของพื้นรองเท้าแล้ว รองเท้าเทนนิสจะมีความแข็งแรงและทนทานกว่าครับ โดยการเบรกตัวหรือการเสียดสีของพื้นรองเท้าจะมากกว่า เนื่องจากนักกีฬาจะต้องเคลื่อนตัวจากซ้ายไปขวา/จากขวาไปซ้าย หรือ จากหลังขึ้นหน้า/จากหน้าลงหลังอยู่ตลอดเวลา
วิธีการเลือกรองเท้าเทนนิสผู้ชาย
1. ประเภทของคอร์ทที่คุณเล่น
คอร์ทสนามเทนนิสที่หลายคนเห็นกันโดยทั่วไปจะเป็น Hard Court หรือสนามคอนกรีต แต่ถ้าถามว่าจริง ๆ แล้วคอร์ทเทนนิสมีคอร์ททั้งหมดกี่ประเภท มันจะมีอยู่ทั้งหมด 3 ประเภทครับ ไม่ว่าจะเป็น คอร์ทดิน, คอร์ทหญ้า และคอร์ทคอนกรีต (ส่วนใหญ่แล้วในประเทศไทยแทบจะเป็น Hard Court ทั้งหมด) ซึ่งในแต่ละคอร์ทก็จะมีพื้นผิวที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นรองเท้าเทนนิสที่เราจะซื้อควรจะต้องมีเทคโนโลยีหรือพื้นรองเท้าอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งสามารถซัพพอร์ตการเล่นของเราให้ดียิ่งขึ้นได้
พื้นรองเท้าสนามคอนกรีต
พื้นรองเท้าจะต้องมีความทนทานแข็งแรงเป็นพิเศษ เพราะพื้นสนามที่เป็นคอนกรีตจะมีความหยาบและเกิดการเสียดสีค่อนข้างมาก ถ้าหากรองเท้าของเราไม่มีประสิทธิภาพมากพอ บอกได้เลยครับว่ารองเท้าของคุณอาจจะพังและขาดจนไม่เหลือซาก มิหน้ำซ้ำยังอาจเจ็บตัวเป็นของแถมกลับไปด้วย ทั้งนี้พื้นรองเท้าส่วนใหญ่ที่นิยมใช้ในการไปเล่น Hard Court จะมีลายหรือแพทเทิร์นลักษณะคล้ายกับก้างปลาเพื่อพิ่มความยึดเกาะ รวมไปถึงการซับแรงกระแทกที่เกิดการเบรกหรือถ่ายน้ำหนักลงไปในแต่ละก้าว
พื้นรองเท้าสนามดิน
แพทเทิร์นของพื้นรองเท้าหรือดอกยางที่นิยมนำไปเล่นบนคอร์ทดินหรือศัพท์ทางเทนนิสจะเรียกกันว่า ‘Clay Court’ จะมีลักษณะ ‘ก้างปลา’ แบบเต็มใบ เนื่องจากแพทเทิร์นในรูปทรงนี้จะป้องกันไม่ให้ดินเข้าไปในพื้นรองเท้ามากจนเกินไป เพราะนักกีฬาหลายคนจะรู้ดีว่ายิ่งดินเข้าไปในซอกพื้นรองเท้ามากเท่าไหร่ นั่นหมายความว่ามันจะลื่นและการเคลื่อนตัวจะลำบากมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นแพทเทิร์นอย่างก้างปลาจะเป็นช้อยส์ที่น่าสนใจที่สุด
พื้นรองเท้าสนามหญ้า
รองเท้าเทนนิสที่จะใช้ในการเล่นบนสนามหญ้าควรจะต้องมีความนุ่มเป็นพิเศษ เพื่อใช้สำหรับการซัพพอร์ตเท้าและข้อต่อของเรา เพราะสนามประเภทนี้จะขึ้นชื่อเลยว่าวิถีบอลจะเร็วมาก ทำให้การวิ่งหรือการเคลื่อนจะบ่อยกว่าคอร์ทอื่น ๆ นอกจากนี้พื้นรองเท้าที่ใช้ควรจะต้องมีปุ่มเล็ก ๆ เพื่อช่วยเพิ่มในการยึดเกาะบนพื้นหญ้า เนื่องจากพื้นสนามจะมีความลื่น ชนิดที่นักกีฬาเทนนิสระดับโลกหลายคนได้รับความบาดเจ็บการเล่นบนพื้นหญ้ามานักต่อนักแล้ว

2. ลักษณะของเท้า
หากสังเกตให้ดีจะรู้ว่าเท้าของแต่ละคนมีรูปทรงที่แตกต่างกันออกไป บางคนหน้าเท้าแคบ ในขณะที่บางคนอาจจะมีหน้าเท้าอาจจะกว้าง ดังนั้นการเลือกรองเท้าเทนนิสให้เหมาะกับลักษณะของเท้าจะช่วยทำให้การซัพพอร์ตดีขึ้น และเมื่อใส่เข้าไปแล้วจะไม่รู้สึกอึดอัด ทั้งนี้ถ้าจะให้ดีคุณควรจะวัดความยาวของเท้าด้วย ซึ่งวิธีการวัดที่ดีที่สุดจะมีขั้นตอน ดังนี้
- ขั้นตอนที่ 1 : หาพื้นที่มีความเรียบ จากนั้นตั้งกระดาษลงไปบนพื้น
- ขั้นตอนที่ 2 : ใส่ถุงเท้าเทนนิสที่คุณใส่อยู่เป็นประจำ เมื่อใส่เสร็จแล้วให้นำเท้าไปทาบลงบนกระดาษ
- ขั้นตอนที่ 3 : กดเท้าลงไปเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เท้ามั่นคงและไม่เคลื่อนตัว จากนั้นค่อย ๆ วาดเส้นไปตามรูปทรงของเท้า
- ขั้นตอนที่ 4 : เมื่อวาดเสร็จแล้วให้คุณนำไม้บรรทัดมาวัด ซึ่งคุณจะได้ขนาดทั้งความยาวและความกว้าง เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับรองเท้าที่จะซื้อนั่นเองครับ
3. สไตล์การเล่น
เทนนิสเป็นกีฬาที่แต่ละคนจะมีสไตล์การเล่นที่ไม่เหมือนกันครับ อย่างเช่น ผมจะเป็นคนที่เน้นในเรื่องของความเหนียวเข้าสู้ เพื่อปล่อยให้คู่ต่อสู้ทำพลาดเอง และจะหาจังหวะการยิงในช่วงสำคัญเท่านั้น ดังนั้นรองเท้าของ ‘สาย Defense’ หรือสายเหนียวจะต้องมีน้ำหนักที่เบา เพื่อให้การวิ่งเข้าหาบอลในแต่ละจังหวะมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ส่วน ‘สาย Agreesive’ ที่พยายามจะปิดแต้มหรือเน้นตีหนัก ผมแนะนำว่ารองเท้าของคุณควรจะต้องมีน้ำหนักและความสเถียรในระดับหนึ่ง และที่สำคัญคือร้องเท้าจะต้องมีการซัพพอร์ตข้อเท้าได้ดี เพราะการเข้าหาบอลหรือตีบอลในแต่ละครั้งจะต้องใช้ข้อเท้าค่อนข้างเยอะ
รองเท้าเทนนิสแบบมีน้ำหนัก | รองเท้าเทนนิสน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ | ||
น้ำหนัก | มากกว่า 400 กรัม | 350 – 400 กรัม | น้อยกว่า 350 กรัม |
ความเสถียร | 🎾🎾🎾 | 🎾🎾 | 🎾 |
ความทนทาน | 🎾🎾🎾 | 🎾🎾 | 🎾🎾 |
ความเร็ว | 🎾 | 🎾🎾 | 🎾🎾🎾 |
การซับแรงกระแทก | 🎾🎾🎾 | 🎾🎾 | 🎾🎾 |
Mizuno รองเท้าเทนนิสผู้ชาย Wave Intense Tour 5 AC

ราคา 1,422 บาท*
Mizuno อาจจะไม่ได้ดังเท่ากับ Asics หรือ Nike ในวงการรองเท้าเทนนิส แต่ถ้าพูดถึงคุณภาพและคุณสมบัติของรองเท้าก็บอกได้เลยว่ารุ่น Wave Intense Tour 5 AC ของแบรนด์นี้ทำออกมาได้ค่อนข้างมีมาตรฐาน และเมื่อใช้แล้วมันช่วยเสริมให้การเล่นของเราดีขึ้นจริง ๆ ครับ
อย่างแรกที่รู้สึกเลยคือการวิ่งของเราจะเสถียรยิ่งขึ้น แม้ว่าจะวิ่งสไลด์เท้าเพื่อเก็บบอล แต่การทรงตัวและการวิ่งก็ยังคงเสถียร พร้อมที่จะวิ่งไปตีบอลได้ในจังหวะต่อไป ซึ่งการทรงตัวในการเล่นเทนนิสถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ทั้งนี้พื้นรองเท้าชั้นกลางจะมีความหนาเป็นพิเศษ
ดังนั้นในทุกจังหวะที่มีการเหยียบจะรู้สึกถึงความนุ่ม เนื่องจากพื้นรองเท้าจะคอยทำหน้าที่ในการดูดซับแรงกระแทก เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าของเราได้รับอาการบาดเจ็บในระหว่างการเล่น โดยคุณสมบัติในระดับนี้ก็ถือว่าดี สามารถใส่ได้ทั้งการซ้อมหรือจะไปแข่งขันระดับมืออาชีพก็ได้ครับ
ข้อดี
- ดูดซับแรงกระแทกได้ดีมาก พื้นรองเท้ามีความนิ่ม
- เมื่อใส่แล้วจะรู้สึกว่าการวิ่งสเถียรยิ่งขึ้น
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่หน้าเท้ากว้าง เพราะหัวรองเท้าค่อนข้างจะแคบ
ขนาด | 7.5 - 11 (US) |
---|---|
น้ำหนัก | ไม่ระบุ |
สี | ดำ |
เหมาะสำหรับ | ผู้เล่นเริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพ |
Asics รองเท้าเทนนิสผู้ชาย Court Slide

ราคา 1,980 บาท*
Asics รุ่น Court Slide จะมาในฟังก์ชันและราคาที่ไม่ได้แตกต่างออกไปจาก ‘Adidas รุ่น GameCourt’ สักเท่าไหร่นัก เพราะตัวรองเท้าจะเน้นไปในเรื่องของความเบาสบายในการเล่นมากกว่าที่จะเน้นไปเรื่องของ Performance ในการเล่น
โดยรองเท้า Court Slide จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะใส่ในการฝึกซ้อมหรือการเล่นทั่วไป ไม่ได้เน้นความจริงจังเหมือนกับในแมตช์การแข่งขันระดับมืออาชีพ ทั้งนี้จุดเด่นในเรื่องของความสบายจะมาจากตัวพื้นรองเท้าซึ่งเป็นโฟมอย่าง EVA เมื่อเหยียบลงไปแล้วจะรู้สึกยืดหยุ่น แต่ถ้าหากพูดถึงเรื่องความทนทานระหว่าง ‘Court Slide’ กับ Adidas รุ่น ‘Game Court’ ก็คงต้องบอกว่า Court Slide จะดีกว่าเล็กน้อย เพราะพื้นจะมีการเสริม DURATEX™ ซึ่งทนต่อแรงเสียดสีมากกว่า
ข้อดี
- ด้วยโฟมที่เป็น EVA ทำให้มันเกิดความยืดหยุ่น
- DURATEX™ เป็นเทคโนโลยีที่ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทาน แม้ว่าจะวิ่งสไลด์หรือเสียดสี
ข้อควรพิจารณา
- การซัพพอร์ตไม่ดีเท่ากับรองเท้ารุ่นท็อป ๆ หรือราคาแพง
ขนาด | 6 - 10.5 (US) |
---|---|
น้ำหนัก | 312 กรัม |
สี | กรมฟ้า |
เหมาะสำหรับ | ผู้เล่นเริ่มต้น |
Adidas รองเท้าเทนนิสผู้ชาย GameCourt

ราคา 2,070 บาท*
Adidas รุ่น GameCourt จะตอบโจทย์สำหรับมือใหม่หรือคนที่อยากจะลองเล่นเทนนิส เพราะด้วยราคาที่ถูกมากหากเปรียบเทียบกับรุ่นท็อปตัวอื่น ๆ ในตารางที่ผมแนะนำ แต่ก็ต้องยอมรับว่าความเบาสบายในการใส่ก็ถือว่าค่อนข้างดี เนื่องจากอัปเปอร์ของรองเท้าจะเป็นผ้าตาข่ายที่มีน้ำหนักเบา ไม่ว่าคุณจะเล่นในช่วงเช้าหรือบ่ายที่ร้อนมากระอุแค่ไหน รองเท้าก็ยังคงช่วยให้เท้าของเราไม่เหนียวไปด้วยเหงื่อและคงความแห้งเอาไว้
ส่วนอีกอย่างหนึ่งที่ค่อนข้างจะโดดเด่นมากคือพื้นรองเท้าซึ่งบอกได้เลยว่านุ่มมาก เนื่องจากมันจะมี Cloudfoam หรือโฟมพิเศษของทาง Adidas ซึ่งออกแบบมาให้มีรูปทรงที่เข้ากับเท้าได้ฟิตแบบพอดี แต่อย่างไรก็ดีรองเท้ารุ่น GamCourt อาจไม่เหมาะสำหรับคนที่เล่นเซ็ตหรือเล่นอย่างจริงจังสักเท่าไหร่ครับ เพราะความทนทานของพื้นรองเท้าอาจไม่แข็งแรงเท่ากับรุ่น ‘Court FF’ หรือ ‘VAPOR CAGE 4 RAFA 2021’ และความแข็งแรงก็ไม่มากพอสำหรับการเล่นในแมตช์ระยะยาวหรือแมตช์ที่เป็นมืออาชีพ
ข้อดี
- ใส่ได้สบายมาก เพราะอัปเปอร์ระบายอากาศได้ดีและพื้นรองเท้าค่อนข้างนิ่ม
- รองเท้าฟิตเข้ากับรูปเท้าได้เป็นอย่างดี
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับการเล่นจริงจังหรือเล่นเป็นอาชีพ เพราะการซัพพอร์ตเท้าอาจไม่เพียงพอ
ขนาด | 6 - 12 (US) |
---|---|
น้ำหนัก | ประมาณ 379 กรัม |
สี | ดำขาว / กรมขาว / ดำล้วน / ขาวดำ |
เหมาะสำหรับ | ผู้เล่นเริ่มต้น |
รองเท้าเทนนิส Wilson Rush Pro 3.5 Paris Edition 2021

ราคา 3,290 บาท*
Wilson Rush Pro 3.5 ได้ปล่อยออกมาในช่วง Roland Garros หรือ French Open ซึ่งเป็นรายการคอร์ทดินระดับ Grand Slam ดังนั้นแน่นอนว่ารองเท้ารุ่นนี้มีการออกแบบรองเท้าเพื่อให้สามารถเล่นบนคอร์ทดินได้ แต่หลายคนอาจจะตั้งคำถามใช่ไหมครับว่า “แล้วรองเท้าจะเล่นบนคอร์ทคอนกรีต หรือ ‘Hard Court’ ทั่วไปได้หรือเปล่า” ซึ่งคำตอบคือ “ได้ครับ”
เพราะเหตุผลก็คือพื้นรองเท้าชั้นนอกของมันจะเป็นยางที่ชื่อว่า ‘Duralast’ ที่แพทเทิร์นของมันจะเป็นลายก้างปลา ช่วยให้การยึดเกาะและความทนทานเพียงพอที่จะเล่นได้บนคอร์ทคอนกรีต ส่วนการรองรับแรงกระแทกถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ดีเท่ากับรุ่น ‘Court FF’ แต่ก็ถือว่าไม่ได้แย่เลยครับ เพราะมันจะมี R-DST+ หรือโฟม EVA ที่นุ่มเป็นพิเศษอยู่บริเวณพื้นรองเท้า ส่วนการระบายอากาศก็จะดีไปไม่แพ้กว่ารุ่นราคาแพงภายในบทความครับ
ข้อดี
- สามารถนำไปเล่นทั้งคอร์ทดินและฮาร์ดคอร์ท
- แพทเทิร์นของพื้นรองเท้าที่เป็นก้างปลา ทำใ้ห้มันยึดเกาะพื้นได้ดี
- โฟม EVA ช่วยให้ระบายอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขนาด | 7 - 11.5 (US) |
---|---|
น้ำหนัก | ประมาณ 340 กรัม |
สี | ดำ-ส้ม |
เหมาะสำหรับ | ผู้เล่นเริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพ |
Asics รองเท้าเทนนิสผู้ชาย Gel-Resolution 8

ราคา 3,705 บาท*
อีกหนึ่งรุ่นที่เอาใจนักเทนนิสสายเกมรับคือ Asics รุ่น Gel-Resolution 8 เนื่องจากรุ่นนี้ได้แรงบัลดาลใจมาจากการเคลื่อนตัวของ Gael Monfils ซึ่งเป็นนักกีฬาเทนนิสที่ทุกคนบนโลกนี้ยอมรับว่าการเคลื่อนตัวหรือ Movement ของเขาถือว่าดีมาเป็นอันดับท็อปของโลก
ดังนั้นถ้าหากมองเจาะลึกไปถึงองค์ประกอบของรองเท้าจะเห็นได้เลยว่าทุกอย่างล้วนแล้วแต่จะซัพพอร์ตในการวิ่งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีของทาง Asics ที่เรียกว่า ‘Dynawrap’ ซึ่งจะทำให้รองเท้าฟิตเข้ากับรูปเท้าได้แบบพอดี เมื่อใส่แล้วจะรู้สึกเลยครับว่ามันไม่แน่นและไม่หลวมจนเกินไป สามารถวิ่งได้แบบไม่ต้องกลัวหลุดและที่สำคัญคือการใช้ PU เป็นอัปเปอร์ก็ช่วยในเรื่องความยืดหยุ่น ซึ่งเข้าไปเสริมทัพกับ Dynawrap ช่วยให้วิ่งได้เร็วไม่มีคำว่าสะดุด
นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอีกอย่างคือความเบาสบาย เพราะมันเป็นรุ่นที่มี Gel คอยซัพพอร์ตบริเวณด้านล่างของรองเท้า ในขณะเดียวกันรูปทรงของรองเท้าเองก็ตอบโจทย์มาก ๆ สำหรับคนที่มีหน้าเท้ากว้าง เมื่อใส่รองเท้าแล้วจะไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างไร แต่อาจจะต้องใช้เวลาทำความคุ้นชินประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เพื่อสร้างความคุ้นชินในการใส่ครับ หลังจากนั้นบอกได้เลยว่าชิลและพร้อมเล่นแมตช์หนัก ๆ ได้ทันที
ข้อดี
- ช่วยทำให้การเคลื่อนไหวเร็วมากขึ้น
- ใช้สำหรับคนที่เล่นเกมบุกได้ เพราะการซัพพอร์ตเท้าค่อนข้างดี
- กระชับฟิตเข้ากับเท้า ทำให้ไม่รู้สึกกังวลว่ารองเท้าจะหลุดในระหว่างเล่น
ข้อควรพิจารณา
- น้ำหนักค่อนข้างเยอะ
- ระบายอากาศได้ดี
ขนาด | 6 - 13 (US) |
---|---|
น้ำหนัก | 420 กรัม |
สี | เขียว / กรม / ดำเขียว |
เหมาะสำหรับ | ผู้เล่นเริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพ |
Asics รองเท้าเทนนิสผู้ชาย Court FF Novak L.E.

ราคา 4,550 บาท*
Asic รุ่น Court FF เป็นรุ่นที่ Novak Djokovic หรือนักเทนนิสมือ 1 ของโลกใช้ในช่วงปี 2019 ซึ่งถ้าหากใครได้ติดตามจะทราบดีว่าโนวัคมีสไตล์การเล่นผสมผสานทั้งเกมรับและเกมบุก แต่ความโดดเด่นของเขาคือการเคลื่อนตัวที่ค่อนข้างเร็ว ดังนั้นทาง Asic จึงพยายามให้รุ่นนี้มีการช่วยเสริมในเรื่องของแรงกระแทกและความเสถียรในการวิ่งที่ดียิ่งขึ้น
อย่างเทคโนโลยีเด่น ๆ เลยคือ ระบบ Mono-Sock และพื้นชั้นกลางอย่าง Flytefoam เพื่อลดแรงกระแทกในระหว่างการวิ่งหรือการเบรก ทำให้รู้สึกใส่ได้สบายและพร้อมที่จะวิ่งไปตำแหน่งต่าง ๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ผู้เล่นสาย Defense อย่างเรา ๆ เคลื่อนตัวเข้าหาบอลและวิ่งเก็บบอลง่ายกว่าเดิม
นอกจากนี้ยังมีอีกอย่างหนึ่งที่ผมค่อนข้างจะประทับใจคืออัปเปอร์ของรองเท้าจะมีการผสมผสานระหว่าง TPU และผ้าตาข่าย ซึ่งนอกจากจะทนทานแล้วยังระบายอากาศได้ดีมาก หากใครที่ขี้ร้อนหรือมีเหงื่อออกค่อนข้างเยอะบริเวณเท้า ผมบอกได้เลยครับว่ารุ่นนี้ช่วยระบายความร้อนและเหงื่อของเราออกไปเยอะ
ข้อดี
- เหมาะสำหรับคนที่เล่นเกมผสานผสานระหว่างเกมรุกและรับ เพราะรองเท้าช่วยทั้งความเสถียรในการวิ่งและการซัพพอร์ตที่ดี
- ระบายอากาศได้ดีมาก หากเปรียบเทียบกับรองเท้าเทนนิสทั่วไป
ข้อควรพิจารณา
- เชือกรองเท้าค่อนข้างบาง ต้องผูกให้ดีเพื่อให้รองเท้าฟิตกับเท้าได้อย่างพอดี
ขนาด | 7 - 13 (US) |
---|---|
น้ำหนัก | ประมาณ 419 กรัม |
สี | แดง-ขาว / ขาว-แดง |
เหมาะสำหรับ | ผู้เล่นเริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพ |
รองเท้าเทนนิส NIKE ZOOM VAPOR CAGE 4 RAFA 2021

ราคา 4,560 บาท*
ทางด้าน Asics อาจจะมีนักเทนนิสระดับโลกอย่าง Novak Djokovic ที่ใช้งาน ส่วนทางด้าน Nike เองก็ไม่น้อยหน้า เพราะรุ่น ‘VAPOR CAGE 4’ เป็นหนึ่งในรุ่นที่ Rafael Nadal เลือกใช้ในการแข่งขันตาม Tournament ต่าง ๆ ในปี 2021
โดยจุดเด่นของรองเท้าจะอยู่ที่พื้นรองเท้าซึ่งช่วยให้เราเบรกหรือหยุดตีบอลได้อย่างมั่นคง ดังนั้นความเสถียรในการยืนหรือการเบรกจะมากยิ่งขึ้น สามารถสร้างจังหวะในการยิงบอลได้ง่ายกว่าเดิม
นอกจากนี้การซัพพอร์ตก็ถือว่าทำออกมาได้ไม่แย่ครับ ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการวิ่งและการตีบอล หากใครเน้นการเล่นแบบผสมผสานคือเน้นทั้งความเหนียวและการยิงในจังหวะสำคัญ ผมคิดว่ารองเท้านี้ตอบโจทย์ได้มาก ๆ รวมไปถึงความนุ่มที่ช่วยทำให้เรารู้สึกสบายและเล่นได้ยาวนานยิ่งขึ้น
ข้อดี
- สร้างความเสถียรในการวิ่งและเบรกได้มีประสิทธิภาพ
- เหมาะสำหรับคนที่เล่นสไตล์ผสานผสานระหว่างเกมรุกและรับ
- ความนุ่มของรองเท้าทำให้เล่นได้นานยิ่งขึ้น
ข้อควรพิจารณา
- รองเท้าค่อนข้างหนักครับ ดังนั้นอาจต้องใช้เวลาในการทำคุ้นชิน
ขนาด | 7 - 12 (US) |
---|---|
น้ำหนัก | ประมาณ 438 กรัม |
สี | ขาว-ดำ / เขียวเลมอน |
เหมาะสำหรับ | ผู้เล่นเริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
วิธีการทำความสะอาดรองเท้าเทนนิส
อุปกรณ์ทำความสะอาด
- น้ำยาซักผ้า
- สบู่เหลว
- น้ำยาล้างจาน
- ผ้าขี้ริ้ว หรือ ผ้าสำหรับทำความสะอาด
- ซิงก์หรือกะละมัง
- ฟองน้ำ
- แปรงสีฟัน
- แปรงขัดรองเท้า
- น้ำอุ่น
ขั้นตอนการทำความสะอาด
- ขั้นตอนที่ 1 : ให้คุณถอดเชือกรองเท้า จากนั้นนำไปแช่ภายในน้ำที่ผสมกับสบู่เหลวหรือน้ำยาซักผ้า เพื่อให้เชือกได้ดูดซับน้ำยาเข้าไปในการฆ่าเชื้อโรคและทำความสะอาด
- ขั้นตอนที่ 2 : นำแปรงขัดรองเท้าขนนุ่มมาถูบริเวณพื้นรองเท้าหรืออัปเปอร์ ทั้งนี้ถ้าหากรองเท้าของคุณโดนโคลนหรือเปียก ควรจะต้องปล่อยให้แห้งก่อนที่จะนำมาขัดครับ
- ขั้นตอนที่ 3 : ส่วนใหญ่แล้วพื้นรองเท้าจะมีแพทเทิร์นที่เป็นซอกต่าง ๆ ซึ่งตรงนี้จะทำให้เศษดินหรือสิ่งสกปรกอาจเข้าไปได้ ดังนั้นถ้าหากมีแนะนำให้คุณใช้แปรงสีฟันมาขัดจนเศษดินออกไปทั้งหมด
- ขั้นตอนที่ 4 : ให้คุณนำน้ำอุ่นมาผสมกับน้ำยาซักผ้า แล้วให้นำเอาแปรงสีฟัน, แปรงขัด, ฟองน้ำ หรือผ้าสะอาดไปจุ่มแล้วนำมาเช็ดผิวของรองเท้าเทนนิสอย่างเบามือ
- ขั้นตอนที่ 5 : นำผ้าแห้งมาซับความชื้นและน้ำออกจากรองเท้าให้มากที่สุด หลังจากนั้นนำไปตากไว้ในบริเวณที่อากาศไหลเวียนได้ดี แต่ไม่ควรตากไว้กลางแจ้งหรือแดดค่อนข้างแรง