เชื่อว่าในหลายบ้านจะต้องมีการเตรียมข้าวกล่องไปรับประทานในช่วงพักเที่ยง เนื่องจากการสั่งซื้ออาหารผ่านแอปพลิเคชันหรือตามร้านค้าต่าง ๆ มีราคาที่ค่อนข้างแพง ดังนั้นการเตรียมข้าวกล่องจากที่บ้านไปรับประทานในโรงเรียนหรือออฟฟิศจึงเป็นตัวเลือกที่ดีมากในการประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับเรา ซึ่งในบทความนี้ผมมีวิธีการเตรียมอาหารกลางวันอย่างไรให้ประหยัดเงินในกระเป๋าตังค์ของเราครับ
1. การเลือกซื้อวัตถุดิบ
ก่อนที่จะเดินเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือตลาดเราจะต้องเขียนลิสต์ก่อนครับว่าต้องใช้วัตถุดิบอะไรบ้าง ถ้าเลือกที่จะเข้าห้างโดยปกติแล้วช่วงเวลาก่อนห้างปิดจะมีการเซลของราคาที่ลดแบบครึ่งต่อครึ่ง สำหรับคนที่อยากประหยัดมาก ๆ ถือเป็นช่วงเวลาทองเลยครับ อีกอย่างหนึ่งที่ประหยัดไม่แพ้กันคือการตุนอาหารครับ เช่น ห้างสรรพสินค้าอย่าง Makro ที่ถ้าซื้อมาก ๆ จะได้ในราคาถูกกว่าซื้อเป็นชิ้น ยิ่งเราวางแผนการซื้อวัตถุดิบมากเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายก็จะมากขึ้นกว่าเดิมตามไปด้วยเช่นกันครับ
2. วางแผนล่วงหน้าว่าจะทำเมนูอะไรแต่ละวัน
สิ่งที่ควรทำมาก ๆ เลยคือการเตรียมวัตถุดิบเอาไว้ให้เรียบร้อย ยิ่งเตรียมไว้ได้แบบทั้งอาทิตย์จะยิ่งดีมาก เพราะเราจะสามารถกะปริมาณอาหารให้พอดีได้ในแต่ละวัน ถ้าให้ดีผมแนะนำให้ซื้อกล่องเก็บอาหารแล้วใส่วัตถุดิบที่มีลงไปในกล่อง ข้อดีของการใส่วัตถุดิบลงไปในกล่องแล้วแบ่งแยกให้เห็นอย่างชัดเจนจะช่วยให้เราปรับเปลี่ยนเมนูอาหารได้ด้วย อย่างเช่นถ้าแฮมหมดในวันต่อไปเราอาจจะปรับไปทำแซนวิชไก่แทน ซึ่งการปรับตรงนี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไม่มากก็น้อย
3. การแช่อาหารช่วยให้ประหยัดเงินได้
เราทราบกันดีอยู่แล้วครับว่าการแช่วัตถุดิบไว้ในตู้เย็นหรือตู้แช่แข็งจะช่วยยืดระยะเวลาให้ของกินอยู่นานขึ้นได้ อย่างเช่นพวกผักและผลไม้ถ้าหากอยู่ในตู้เย็นมันก็จะเก็บได้นานเป็นอาทิตย์เลยครับ ซึ่งในบางครั้งเราเตรียมพวกผลไม้ไปรับประทานช่วงกลางวัน แต่บังเอิญว่ารับประทานไม่หมดหรือไม่ได้หยิบขึ้นมากิน เราก็สามารถนำมาแช่เพื่อเตรียมไว้กินในวันต่อไปได้ครับ
4. ทำขนมของว่างด้วยตัวเอง หรือจะปลูกผักสวนครัวก็ได้
ผักในตลาดทุกวันนี้ถือว่าแพงมากเลยละครับ บางครั้งการปลูกพืชผักสวนครัวไว้ในบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าให้เราได้ไม่มากก็น้อย ส่วนอาหารว่างพวกขนมก็สามารถซื้อผลไม้หลากหลายชนิดมาทำเป็นขนมได้ อย่างเช่นถ้ามี ส้ม, องุ่น และฝรั่ง ก็สามารถหยิบอย่างละเล็กละน้อยใส่กล่องไปรับประทานเป็นอาหารว่างได้ นอกจากจะไม่เบื่อแล้วยังมีราคาถูกกว่าการซื้อขนมถุงหรือช็อกโกแลตราคาแพง
5. ใส่วัตถุดิบที่หลากหลาย
การใส่วัตถุดิบที่หลากหลายลงไปในเมนูเดียวจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยครับ อย่างเช่นถ้าหากเราทำสลัด การใส่แตงกวาหรือผักกาดหอมใส่เข้าไปนอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังช่วยให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายลดลงอีกด้วย หรือถ้าเป็นแซนวิชบางครั้งการใส่เพียงแค่เนื้ออย่างเดียวก็อาจจะแพงจนเกินไป แต่ถ้าหากใส่ผักแซมเข้าไปด้วยก็จะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายได้ ดังนั้นการทำเมนูอาหารที่ใส่วัตถุดิบหลากหลายจะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้เยอะเลยละครับ
