เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ผู้ประกอบการหลายแห่งได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือธุรกิจท่องเที่ยว อาทิเช่น โรงแรม, ร้านค้า, ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่ต้องปิดตัวลงชั่วคราวในช่วงล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ทำให้ผู้ประกอบการรวมถึงลูกจ้างต่างก็ขาดทุนและขาดรายได้ในช่วงที่ผ่านมา
เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ รัฐบาลจึงต้องออกมาสนับสนุนในส่วนนี้โดยจัดตั้งโครงการที่ชื่อว่า “เราเที่ยวด้วยกัน” ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือ ฟื้นฟู และกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศให้กลับมาดีเหมือนเดิม
โครงการเราเที่ยวด้วยกัน คืออะไร
เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการโรมแรม ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ โดยจะให้ผู้ประกอบการมาลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการ และจะให้ประชาชนมาลงทะเบียนรับสิทธิในโครงการเพื่อใช้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่รัฐจัดตั้งขึ้น
ระยะเวลาใช้สิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
ระยะเวลาในการใช้สิทธิของโครงการคือ 4 เดือน ซึ่งจะอยู่ในช่วงวันที่ 1 กรกฎาคม – 31 ตุลาคม พ.ศ. 2563
Update 14 ธันวาคม 2563 : ขยายเวลาในการสิทธิถึงวันที่ 30 เมษายน 2564

เงื่อนไขของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
- ต้องเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย และต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน
- ต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียนเข้ารับสิทธิ์ของโครงการ
- เริ่มลงทะเบียน 15 กรกฎาคม 2563
- ไม่จำกัดจำนวนผู้ลงทะเบียน
- ** ประชาชนที่รับสิทธิ์จะต้องเข้าพักหรือไปท่องเที่ยวสถานที่ที่ไม่ใช่ในจังหวัดตามทะเทียนบ้านของตนเอง **
- สามารถจองโรงแรมผ่านช่องทาง Online Travel Agency (OTA) ได้แก่ Agoda, Traveloka หรือจะเข้าเว็บไซต์หลักของโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการได้เลยค่ะ (ถ้าโรงแรมนั้น ๆ มีเว็บไซต์) รวมถึงช่องทางติดต่ออื่นๆที่โรงแรมมี เช่น Line , Facebook, เบอร์โทรศัพท์ หรือเข้าที่ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com โดยไปที่ค้นหากิจการโรงแรม

3 สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่คุณจะได้รับ
1. ส่วนลดสำหรับค่าที่พักโรงแรม (วิธีจองที่พักโรงแรม และ วิธีใช้สิทธิส่วนลดค่าที่พักโรงแรม)
- Update 14 ธันวาคม 2563 : กำหนดไม่เกิน 6,000,000 สิทธิ
- รัฐบาลจะช่วยค่าที่พักโรงแรม 40% ของราคาเดิมแบบต่อห้องต่อคืน โดยค่าที่พักจะต้อง ไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน
- Update 14 ธันวาคม 2563 : รัฐบาลได้เพิ่มสิทธิ์การเข้าพักเป็น คนละไม่เกิน 15 ห้อง หรือให้ได้ไม่เกิน 15 คืน (ต่อ 1 สิทธิ์)
- หากคุณจะไปแค่วันเดียวแต่จะสิทธิเผื่อเพื่อนร่วมทริปก็สามารถเปิดห้องได้ไม่เกิน 15 ห้อง/คืน
- หากคุณอยากไปเที่ยวหลายวันโดยจะใช้สิทธิสำหรับตัวเองเท่านั้นก็สามารถอยู่ได้ไม่เกิน 15 คืนนั่นเองค่ะ
- สามารถจองกี่ครั้งก็ได้ แต่ใช้สิทธิส่วนลดห้องพักได้ไม่เกิน 15 ห้อง
- เมื่อทำการจองที่พักแล้วไม่สามารถยกเลิกการจองหรือทำการเปลี่ยนแปลงได้อีก ดังนั้นคุณจะต้องเช็กตารางวันหยุดของตัวเองให้ดี ๆ ด้วยนะคะ คุณสามารถตรวจสอบ “วันหยุด ของธนาคาร ปี 2563 (ครึ่งปีหลัง)” ได้จากบทความของเรา

2. ส่วนลดสำหรับค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว (วิธีรับคูปอง อาหาร/ท่องเที่ยว และ วิธีใช้คูปอง)
- Update รัฐบาลได้เพิ่มสิทธิ์จำนวนเงินคูปองค่าอาหาร 600 บาท/ห้อง/คืน ไปเป็น → จำนวนเงิน 900 บาท/ห้อง/คืนใน สำหรับวันจันทร์-วันพฤหัสบดี และวันศุกร์-อาทิตย์ ยังคง 600 บาท/ห้อง/คืน เหมือนเดิม เริ่มใช้วันที่ 1 กันยายน 2563 เป็นต้นไป
- โดยคุณจะได้รับคูปองนี้แบบรายวัน นั่นคือจะได้รับวันละ 1 ครั้ง หลังเวลา 17.00 น. ผ่าน แอปเป๋าตัง ของวันที่ check-in และคูปองจะหมดอายุในเวลา 23.59 น. ของเวลาที่ check-out สูงสุดไม่เกิน 5 คืน
- โดยคูปองตัวนี้จะใช้ได้เฉพาะกับร้านอาหารหรือสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น โดยมีเงื่อนไขให้ประชาชนชำระเอง 60% และรัฐจะช่วย 40% ผ่านแอปถุงเงิน ผ่านการตัดเงินจากคูปอง นั่นหมายความว่าคุณไม่สามารถเข้าไปร้านใดร้านหนึ่งแล้วใช้คูปองทีเดียว 600 บาทได้ แต่คุณจะต้องกระจายไปใช้คูปองหลาย ๆ ร้าน เพื่อที่จะใช้ให้หมด 600 บาท (หากใช้เงินไม่ครบ ระบบจะยึดเงินส่วนที่เหลือคืนนะคะ)
3. ส่วนลดสำหรับค่าโดยสารโดยเครื่องบิน (วิธีลงทะเบียนรับสิทธิคืนเงินค่าตั๋วเครื่องบิน)
- กำหนดไม่เกิน 2,000,000 สิทธิ
- รัฐจะช่วยออกค่าเครื่อง 40% ของราคาตั๋วเครื่องบิน โดยมีเงื่อนไขว่าจะช่วยตั๋วเครื่องบิน ไม่เกิน 1,000 บาท/ที่นั่ง ไปเป็น → (Update) ไม่เกิน 2,000 บาท/ที่นั่ง เริ่มใช้วันที่ 1 กันยายน 2563 เป็นต้นไป
- Update 14 ธันวาคม 2563 : รัฐบาลได้เพิ่มสิทธิ์ช่วยเงินค่าตั๋วเครื่องบินจากเดิม 2,000 บาท/ที่นั่ง → 3,000 บาท/ที่นั่ง สิทธิ์นี้จะได้รับการปรับเพิ่มเฉพาะจังหวัดหลัก ๆ ดังนี้ ภาคใต้ได้แก่ ภูเก็ต, กระบี่, พังงา, สงขลา และ สุราษฎร์ธานี ส่วนภาคเหนือจะเป็น เชียงใหม่และเชียงราย ค่ะ โดยมีการร่วมจ่าย Co -payment เท่าเดิม (เริ่ม 8 ธันวาคม 2564)
- เป็นการสำรองจ่ายไปก่อน โดยคุณจะได้รับเงินในส่วนนี้ เมื่อมีการตรวจสอบแล้วว่ามีการเดินทางจริงและได้เข้าพักแล้วจริง ๆ
- คุณจะได้ Redeem ค่าเครื่องเพียงห้องพักละ 2 ที่นั่ง ที่จำนวนที่เข้าพักกับโรงแรมจริง ๆ โดยจะมีเงื่อนไขไม่เกิน 10 ที่นั่ง


การลางานสำหรับใช้สิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกัน
Update 14 ธันวาคม 2563
เงื่อนไขการลาสำหรับผู้ที่เป็นลูกจ้าง, พนักงานฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือข้าราชการ ที่ใช้ใช้สิทธิ์ในเราเที่ยวด้วยกัน จะต้องแสดงเอกสารประกอบการลา ได้แก่
- หลักฐานที่ว่าคุณได้ลงทะเบียนในโครงการเราเที่ยวด้วยกันจริง
- หลักฐานการ check-in และ check-out ของโรงแรมที่คุณไปพักและเข้าร่วมกับโครงการ
วิธีลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกัน
ขั้นตอนที่ 1 ไปที่ ไปที่เว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com จากนั้นอ่านเงื่อนไขทั้งหมดของโครงการแล้วกดยอมรับเงื่อนไข เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์ในขั้นต่อไป


ขั้นตอนที่ 2 คุณจะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวบางส่วนสำหรับใช้ในการรับสิทธิ์ของโครงการ จากนั้นรอรับรหัส OTP จากเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลล์ที่กรอกไป และนำรหัส OTP นั้นไปกรอกในเว็บอีกครั้ง เพื่อเป็นการยืนยันตัวตน


ขั้นตอนที่ 3 รอแจ้งผลการลงทะเบียนรับสิทธิ์ของโครงการผ่าน SMS โดยทางระบบจะส่งมาตามเบอร์โทรศัพท์ที่คุณลงทะเบียนไว้ในตอนแรก ใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 3 วัน หลังการยืนยันการลงทะเบียน

ขั้นตอนที่ 4 อย่าลืมโหลดแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง Paotang” และยืนยันตัวตน (การยันยืนตัวตนสำหรับผู้ที่ไม่เคยมี G-Wallet) เพื่อใช้สำหรับรับคูปอง “ส่วนลดสำหรับค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว” วันละ 600 บาท


หมายเหตุ: ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตังสำหรับ IOS และ แอปพลิเคชันเป๋าตังสำหรับ Android
อ้างอิงขั้นตอนการลงทะเบียนจาก เพจ Facebook : Krungthai Care
วิธีจอง โรงแรม ห้องพัก เพื่อรับส่วนลด 40% – เราเที่ยวด้วยกัน
- การจองที่พักโรงแรมนั้นจะต้องเป็นสถานที่ที่ไม่ใช่ในจังหวัดตามทะเทียนบ้านของตนเอง
- จองที่พักโรงแรมผ่านช่องทาง Online Travel Agency (OTA) ที่ร่วมรายการ อาทิเช่น Agoda, Traveloka
- หรือจองที่พักโรงแรมผ่านเว็บไซต์หลักของโรงแรม, จองผ่านการโทรศัพท์ผ่านโรงแรม, จองผ่านช่องทางติดต่ออื่น ๆ ที่โรงแรมมี เช่น Line , Facebook
- โดยแจ้งความประสงค์ ขอใช้สิทธิร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
- กรณีจองผ่าน Online Travel Agency (OTA) โดยที่ต้องจ่ายเงินบนระบบของ OTA นั้น ๆ คุณจะได้รับแจ้งเตือนชำระเงินผ่าน App เป๋าตัง โปรดตรวจสอบข้อมูลรายการและดำเนินการชำระเงินให้ละเอียด ว่ามีการหัก 40% ของราคาเดิมต่อห้องต่อคืน โดยค่าที่พักจะต้องไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน หรือไม่
- สำหรับการจองผ่านโรงแรมโดยตรง โรงแรมจะเป็นผู้บันทึกข้อมูลเข้าระบบเอง จากนั้นคุณได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง โปรดตรวจสอบข้อมูล การเข้าพัก ส่วนลด รายะเอียดต่าง ๆ ให้รอบครอบ และกดชำระเงินทันที ซึ่งคุณสามารถเลือกวิธีการชำระเงินในแบบต่าง ๆ ได้ในแอปพลิเคชันเป๋าตัง
- เมื่อคุณดำเนินการชำระเงินเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นแบบจองเองผ่าน OTA หรือผ่านโรงแรม ระบบจะส่งคูปองสำหรับ Check In ที่โรงแรมมายังแอปพลิเคชันเป๋าตัง เมื่อวันเดินทางไปถึงที่พัก ให้คุณมายังหน้านี้เพื่อกด Check In ยืนยันการเข้าพัก และเพื่อจะได้รับคูปอง 600 บาท สำหรับอาหาร/ท่องเที่ยว
- เมื่อชำระเงินแล้วจะไม่สามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการจองได้อีก
วิธีใช้สิทธิส่วนลดค่าที่พักโรงแรม
- เมื่อทำการ Check In กับทางโรงแรมเรียบร้อยแล้ว เปิดแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง จากนั้นกด ตามรูป เพื่อแสดงคูปองที่พักที่จองไว้
- คุณจะต้องกดปุ่ม Check In เพื่อรับคูปองท่องเที่ยว ในในแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง โดย “เช็คอินเพื่อรับคูปองอาหาร/ท่องเที่ยว” ตามรูป
- จากนั้นยื่น QR Code ในมือถือของคุณให้ทางโรงแรมทำการสแกน QR Code (QR Code มีการจับเวลาใช้งาน 3 นาที หากเกินเวลาที่กำหนด ระบบจะสร้าง QR Code ใหม่ให้)
- ระบบจะขึ้นว่าเช็คอินสำเร็จ จากนั้นให้คุณกด “เสร็จสิ้น” ตามรูป
- จากนั้นคุณสามารถกดรับคูปองอาหาร/ท่องเที่ยวได้ทันที (600 บาท) เพื่อใช้จ่ายเป็น E-Voucher
วิธีใช้คูปองอาหาร/ท่องเที่ยว
- คุณจะต้องทำการ Check In กับทางโรงแรมให้เรียบร้อยก่อน ถึงจะได้รับคูปองในส่วนนี้ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง
- เมื่อคุณต้องการจะใช้คูปอง ให้กด “ใช้คูปองอาหาร/ท่องเที่ยว” ตามรูป
- กดปุ่มแสกน QR เพื่อใช้คูปอง และทำการสแกน QR Code จากทางร้านอาหารหรือสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมรายการ
- ระบบจะแสดงยอดเงินที่จะหักออกโดยจะช่วยจ่าย 40% และอีก 60% นั้นคุณจะต้องเป็นคนจ่าย โดยคุณสามารถเลือกจ่ายเงินส่วนที่เหลือได้ด้วย G-Wallet หรือ บัตรเครดิต/เดบิตที่ผูกไว้กับแอป จากนั้นกด ยืนยันการชำระเงิน และใส่รหัส PIN 6 หลัก เมื่อทำรายการสำเร็จแล้ว ระบบจะแสดง Slip ให้คุณดูอีกครั้งและทำการบันทึก




วิธีลงทะเบียน รับสิทธิคืนเงินค่าตั๋วเครื่องบิน 40% ในการเดินทาง – เราเที่ยวด้วยกัน
โดยเงื่อนไขสำหรับประชาชนที่ต้องการรับเงินค่าตั๋วเครื่องบิน 40% คืน (Refund) นั้นเราจะมาทำความอีกครั้งอย่างละเอียดกันก่อน เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกันนะคะ เพราะบางอย่างก็มีข้อกำหนดที่ต้องลงรายละเอียดปลีกย่อยอีกที
- คุณจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิในการจองที่พักโรงแรม และต้องเดินทางไปพักที่โรงแรมจริง ๆ ผ่านการ Check In ของทางโรงแรม
- คุณได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินโดยตรงกับสายการบินนั้น ๆ ด้วยตัวเอง ไม่ได้จองตั๋วผ่านตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบินใด ๆ ทั้งสิ้น โดยจะต้องเป็นการจองตั๋วเครื่องบินตั้งแต่ วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป และต้องมีการโดยสารไปยังสถานที่จองโรงแรมจังหวัดนั้น ๆ จริง ๆ
- สำหรับเส้นทางการบินนั้น บางจังหวัดก็ไม่มีสนามบินให้ลง แต่ไม่ต้องห่วงไปค่ะ เพราะคุณสามารถลงสนามบินในจังหวัดที่ใกล้เคียงกับจังหวัดที่คุณได้ทำการจองโรงแรมไว้ได้ (โดยต้องอยู่ในภาคเดียวกันกับโรงแรมที่พัก) คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดชื่อจัวหวัดใกล้เคียงได้จากเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com
- การจองตั๋วเครื่องบินใน 1 ครั้ง รัฐบาลจะให้สิทธิ์ช่วยออกค่าโดยสารไม่เกิน 2 ที่ ต่อ 1 ห้องพักที่จองไว้ โดยห้องพักที่จองไว้นั้นจะต้องได้รับสิทธิ์จากโครงการเราเที่ยวด้วยกันเท่านั้น
นั่นหมายความว่า หากคุณไปจองโรงแรมไว้ 2 ห้อง 2 คืน คุณก็จะมีสิทธิ์ได้รับเงินคืนสำหรับค่าตั๋วเครื่องบินไม่เกิน 4 ที่นั่ง ซึ่งถ้าหากคุณไปกันเพียงแค่ 2 คน และจองไว้ 2 ห้อง 2 คืน คุณก็จะเสียสิทธิ์ได้รับเงินค่าตั๋วเครื่องบินคืนไป 4 ที่นั่ง หรือหากคุณเดินทางไปคนเดียวสำหรับการพัก 1 ห้อง 1 คืน รัฐก็จะช่วยออกค่าตั๋วเครื่องบินเพียง 1 ที่นั่งเท่านั้นค่ะ - คุณจะต้อง Check In ขึ้นเครื่อง และ Check In กับโรงแรมที่จองไว้ โดยมีระยะเวลาห่างกันได้ไม่เกิน 5 วัน โดยรัฐจะตรวจสอบการ Check In ต่าง ๆ ผ่านสายการบินและโรงแรมเท่านั้น
นั่นหมายความว่า หากคุณจำเป็นต้องลงเครื่องที่จังหวัดอื่นที่ใกล้เคียงกับจังหวัดที่จองโรงแรม (เนื่องจากจังหวัดนั้นไม่มีสนามบิน) คุณสามารถเข้า Check In เข้าโรงแรมได้อย่างช้าที่สุดไม่เกิน 5 วัน ตั้งแต่คุณเริ่มเดินทางขึ้นเครื่องบินค่ะ - หากคุณต้องการใช้สิทธิ์ขอเงินคืนสำหรับตั๋วขากลับด้วย คุณจะต้อง Check In ขึ้นเครื่องหลังจาก Check Out ออกจากทางโรงแรมที่จอง อย่างช้าที่สุดไม่เกิน 5 วัน
- เมื่อ Check Out ออกจากโรงแรมแล้ว คุณจะต้องลงทะเบียนรับสิทธิตั๋วเครื่องบินที่ เว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com (วิธีลงทะเบียนรับสิทธิตั๋วเครื่อง)
- สำหรับการขอคืนเงินค่าตั๋วเครื่องบิน 40% นั้น จะมีสิทธิ์จำนวนจำกัด ดังนั้นการให้สิทธิ์จะดำเนินไปตามลำดับก่อนหลังที่ลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ตามระบบ จนกว่าจะจำนวนสิทธิ์จะหมด หรือจนกว่าจะสิ้นสุดโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
- การขอรับเงินคืนสำหรับการเดินทางโดยเครื่องบิน จะลงทะเบียนขอรับสิทธิได้ เมื่อ Check Out จากทางโรงแรมแล้วเท่านั้น
วิธีลงทะเบียนรับสิทธิตั๋วเครื่อง
- เป็นผู้ที่ได้รับการยืนยันในการรับสิทธิสำหรับโรงแรมที่พัก จากโครงการเราเที่ยวด้วยกันแล้ว
- เดินทางขึ้นเครื่องบิน ไปยังสถานที่ที่จองโรมแรมไว้
- มีการ Check In และ Check Out ที่โรงแรมตามจริง เพื่อยืนยันการเข้าพัก
- ไปที่เว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com และกด “ลงทะเบียนรับสิทธิตั๋วเครื่องบิน”
- Log-in เข้าสู่ระบบ
- กรอกแบบฟอร์มจองสิทธิรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน โดยคุณจะต้องกรอกข้อมูลบางอย่าง อาทิเช่น ชื่อ-นามสกุล แบบภาษาอังกฤษที่ใช้ในการจองตั๋ว (จะต้องตรงกับบัตรประชาชนด้วย)
- กดยืนยันการส่งแบบฟอร์ม และเว็บไซต์จะแสดงสถานะเป็นคำขอจองสิทธิสมบูรณ์
- รอรับเงินได้ใน G-Wallet จากแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
ลงทะเบียน โครงการเราเที่ยวด้วยกัน วันไหน?
ประชาชนทั่วไปลงทะเบียนวันไหน?
สำหรับประชาชนที่จะรับสิทธิ์ในโครงการนี้สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. (Update 14 ธันวาคม 2563) เปลี่ยนเวลาใหม่เป็น 06.00-24.00 น. เริ่ม 16 ธันวาคม 2563 ค่ะ ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง สำหรับเข้าไปกรอกข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ก่อนล่วงหน้าได้ค่ะ แล้วไปลงทะเบียนรับสิทธิ์ที่เว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com อีกครั้ง
สรุปวันที่สำหรับการใช้สิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
- เริ่มลงทะเบียนของรับสิทธิ 15 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป
- เปิดให้จองโรงแรมเวลา 06.00-24.00 น. เริ่ม 16 ธันวาคม 2563
- วิธีขอรับเงินค่าตั๋วเครื่องบิน เริ่มลงทะเบียนวันที่ 1 ส.ค. 2563 เป็นต้นไป ถึงวันสิ้นสุดโครงการ
- วันสิ้นสุดโครงการ 30 เมษายน 2564
วิธีเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน สำหรับผู้ประกอบการ
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการทราบเงื่อนไขต่าง ๆ ในการขอเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่รัฐบาลจะจัดขึ้นมาว่ามีอะไรบ้าง และต้องเตรียมอะไรในการลงทะเบียน คุณสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มได้ที่ “วิธีเข้าร่วมเราเที่ยวด้วยกัน สำหรับโรงแรม ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว”
หมายเหตุ Update 14 ธันวาคม 2563 :
- ได้มีการเพิ่มประเภทที่พักหรือโรงแรม ที่ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบการโรงแรม ให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้ แต่จะต้องเป็นที่พักที่มีหมายเลขประจำตัวของผู้เสียภาษี หรือที่เรียกว่า Tax ID และจะต้องมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT% ด้วยค่ะ
- ธุรกิจหรือบริการที่อยู่ในเครือที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวสามารถรับคูปองระบบออนไลน์ (E-Voucher) ได้ อาทิเช่น ธุรกิจ ขนส่ง, รถเช่า, เรือเช่า, สปา, นวดสุขภาพ ซึ่งจะต้องเป็นการจดทะเบียนนิติบุคคลที่มีการเก็บการบริการและได้รับใบอนุญาตในการประกอบกิจการถูกต้องจากภาครัฐ