คะแนนความพึงพอใจโดยรวม 9.3 เต็ม 10

(ดูเกณฑ์การให้คะแนนได้ที่นี่)

ดีไซน์ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ใส่สบายหู เสียงสมูธนุ่มนวล ตัดเสียงรบกวนได้ค่อนข้างดี มาพร้อมแอปพลิเคชัน ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันค้นหาตำแหน่งของตัวหูฟัง แบตอึด ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน เสียงเบสอาจไม่หนักมากนัก ใช้งานได้ไกลถึง 10 เมตร แต่จะไม่ค่อยเสถียร สายชาร์จค่อนข้างสั้น

Baseus Bowie WM02

เดี๋ยวนี้ หูฟัง ถือว่ากลายเป็นอีกหนึ่งอวัยวะสำคัญที่หลายคนแทบจะขาดไม่ได้เลยค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยให้เราเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงได้ทุกเวลาโดยที่ไม่รบกวนคนรอบข้างแล้ว ยังเป็นอุปกรณ์แห่งการปลีกวิเวกอีกด้วย เพราะแค่สวมหูฟังก็แทบจะไม่มีใครกล้าเข้ามาขัดจังหวะของเราแล้วค่ะ แต่หูฟังทั่ว ๆ ไปที่มีสายระโยงระยางอาจจะทำให้คุณต้องสู้ชีวิตมากไปสักหน่อยเพราะจะทำอะไรมันก็ไม่สะดวกและติดขัดไปซะหมด ดังนั้นหูฟังแบบ TWS หรือหูฟังบลูทูธไร้สายจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ฮิตสุด ๆ ในพ.ศ. นี้ค่ะ

หลังจากหูฟังแบบ TWS ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ หลาย ๆ แบรนด์ก็เริ่มหันมาตีตลาดหูฟังไร้สายเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Lenovo, AUKEY, SAMSUNG, SoundPEATS MAC, SONY หรือ Airpods ซึ่งยี่ห้อเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นแบรนด์ใหญ่ที่หลายคนรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เป็นแบรนด์ที่มีความเชื่อถือทั้งในคุณภาพและในเรื่องของราคา

แต่ในบทความนี้เราอยากจะชวนเพื่อน ๆ มาที่ความรู้จักกับอีกหนึ่งแบรนด์แก็ดเจ็ตมือถือคุณภาพดีอย่าง Baseus ซึ่งเราได้รีวิวหูฟัง TWS รุ่น WM01 ไปแล้วก่อนหน้านี้ บทความนี้เราเลยมาอัพเดตกันสักหน่อยว่าหูฟัง TWS รุ่นที่ 2 ของ Baseus ที่เพิ่งเปิดตัวไปในปี 2022 มาดูกันว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง

ข้อมูลจำเพาะของ Baseus Bowie WM02

Baseus Bowie WM02 ชื่อรุ่น Baseus Bowie WM02 วัสดุ ABS น้ำหนัก 3.8 กรัมต่อข้าง (ไม่รวมเคส) ขนาด หูฟัง : 24.3 มม. เคสชาร์จ: 44 x 30.5 มม. ไมโครโฟน ✔ กันน้ำ ✖ ความจุแบตเตอรี่ หูฟัง: 40mAh/0.148 Wh เคสชาร์จ: 300 mAh/1.11 Wh การเชื่อมต่อ Bluetooth V5.3 พอร์ตชาร์จ USB Type C ระยะการเชื่อมต่อ 10 เมตร การรับประกัน 1 ปี

Baseus Bowie WM02

อุปกรณ์ภายในกล่องหูฟัง Baseus Bowie WM02

มาดูกันดีกว่าว่าทางแบรนด์ให้อะไรเรามาบ้าง สำหรับหูฟังรุ่นนี้จะมีให้เลือกทั้งหมด 4 สีได้แก่สีเบจ, ดำ, ฟ้า และสีม่วง ทุกสีจะมาในธีมพาสเทลด้าน ๆ น่ารัก ๆ เหมือนเดิมค่ะ สำหรับสีม่วงที่เราเลือกจะมีสีม่วงเข้มกว่ารุ่นก่อนหน้าที่เราหยิบมารีวิวเล็กน้อย แต่ถึงจะเข้มกว่าก็ยังคุมโทนพาสเทลน่ารักน่าใช้ค่ะ ขนาดเคสและหูฟังจะเล็กกว่าพอประมาณ พกพาได้ง่าย ฝาเคสจะเป็นอะคริลิคใสมองเห็นตัวหูฟังด้านในอย่างชัดเจนค่ะ ค่อนข้างน่ารักน่าใช้เลย โดนอุปกรณ์ภายในกล่องจะมีดังนี้

• หูฟัง 1 คู่
• เคสชาร์จ 1 ชิ้น
• สายชาร์จแบบ USB Type C
• ซิลิโคนหูฟัง 2 คู่ 2 ขนาด
• คู่มือการใช้งาน (13 ภาษา ไม่มีภาษาไทย)
• ใบประกันสินค้า
• สติกเกอร์ตกแต่ง 4 ชิ้น

การเชื่อมต่อที่ง่ายดายของหูฟัง Baseus Bowie WM02

Baseus Bowie WM02 รองรับอุปกรณ์แทบจะทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น iOS, Android หรือ Desktop ในส่วนของการเชื่อมต่อก็ทำได้ง่ายดายไม่ต่างจากอุปกรณ์ทั่ว ๆ ไปค่ะ เพียงแค่ดึงหูฟังทั้ง 2 ข้างออกจากเคส จากนั้นเปิดการเชื่อมต่อ Bluetooth บนอุปกรณ์ที่ต้องการ เลือก Baseus Bowie WM02 จากนั้นอุปกรณ์จะเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติเลยค่ะ บางอุปกรณ์อาจจะต้องมีการกดยินยอมให้หูฟังเข้าถึงรายชื่อผู้ติดต่อและประวัติการโทรเพื่อให้สามารถใช้ฟังก์ชันได้อย่างเต็มที่มากที่สุดค่ะ ครั้งต่อไปตัวหูฟังจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์โดยอัตโนมัติเมื่อดึงออกจากเคส และจะตัดการเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติเมื่อเก็บหูฟังลงในตัวเคสอีกครั้งค่ะ

แอปพลิเคชัน-ฟังก์ชันสุดเจ๋ง ของหูฟัง Baseus Bowie WM02

แอปฯ Baseus ดาวน์โหลด ผ่าน App Store / ผ่าน Google Play

เดี๋ยวนี้สินค้า IT แทบจะทุกรุ่นที่ปล่อยภายในปี 2022 จะมาพร้อมกับแอปพลิเคชันที่สามารถควบคุมและช่วยให้เราสามารถใช้งานผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ได้ง่ายขึ้น

สำหรับ Baseus Bowie WM02 จะมาพร้อมฟังก์ชันตรวจสอบระดับแบตเตอรี่ของหูฟังแต่ละข้าง สามารถปรับแต่งคำสั่งต่าง ๆ ของตัวหูฟังเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณได้ มาพร้อมฟังก์ชัน Low Latency Mode ที่จะช่วยลดการดีเลย์ของภาพและเสียงที่ความละเอียด 0.06 วินาทีเมื่อเปิดใช้งาน ทำให้คุณอิ่มเอมกับเกมหรือหนังเรื่องโปรดได้มากขึ้น ซึ่งการดีเลย์ของภาพและเสียงถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ ๆ ที่หูฟังแบบ TWS แทบจะทุกรุ่นต้องเจอโดยเฉพาะการเล่นเกม ซึ่งทาง Baseus ก็สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างเยี่ยมยอดเลยค่ะ แต่ต้องขอบอกก่อนว่าโหมดนี้ค่อนข้างที่จะใช้แบตเตอรี่เยอะพอสมควร รวมไปถึงเราจะเห็นความแตกต่างไม่มากนักเพราะปกติภาพและเสียงมักจะตรงกันอยู่แล้ว

นอกจากนี้ยังมี EQ mode ที่สามารถปรับแต่งเสียงได้มากถึง 12 โหมดตามความชอบ และที่เจ๋งก็คือภายในตัวแอปฯ มาพร้อม Custom mode ที่สามารถปรับแต่ง Equalizer ได้ตามชอบ เหมาะสำหรับคนที่ชอบการฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจสุด ๆ ค่ะ สามารถบันทึกและกดใช้งานได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชันค่ะ

อีกหนึ่งฟังก์ชันสุดเจ๋งที่จะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้คือ ระบบติดตามตำแหน่ง ที่จะช่วยให้เราสามารถค้นหาตำแหน่งของหูฟังได้อย่างง่ายดายในกรณี่ที่หูฟังสูญหาย ส่วนการทำงานนั้นไม่ต่างจาก Airtag เลยค่ะ บนหน้าจอจะโชว์ตำแหน่งของหูฟังแบบละเอียดลึกถึงบ้านเลขที่ สามารถลิ้งก์กับแอปพลิเคชันแผนที่บนมือถือของคุณได้

นอกจากนี้คุณยังสามารถกดเพื่อให้ตัวหูฟังแต่ละข้างส่งเสียงเรียกเพื่อช่วยให้หาได้ง่ายขึ้น ซึ่งเสียงที่ส่งออกมาค่อนข้างที่จะดังพอประมาณเลยค่ะ ส่วนตัวแล้วเราคิดว่าฟังก์ชันนี้มีประโยชน์และตอบโจทย์คนที่ชอบทำหูฟังหายแบบเรามาก ๆ

ขนาดและความสบาย ของหูฟัง Baseus Bowie WM02

หูฟังรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อคนที่มีขนาดรูหูค่อนข้างเล็กเป็นพิเศษ ตัวหูฟังมีขนาด 24.3 มิลลิเมตรและมีน้ำหนักเพียง 3.8 กรัม ตัวหูฟังจะเป็นแบบสุญญากาศและตัดเสียงภายนอกได้ค่อนข้างดีเลยค่ะ สามารถเปลี่ยนจุกซิลิโคนได้ถึง 3 ขนาดให้เข้ากับหูของคุณมากที่สุด หูฟังสวมใส่สบาย ใส่ได้นานโดยไม่รู้สึกเจ็บหูมากนัก ขนาดของหูฟังฟิตพอดีหู ไม่ขยับหรือหลุดระหว่างการใช้งาน ใส่แล้วไม่รู้สึกอึดอัดหรือเวียนหัวมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับ Baseus Encok WM01 ที่ขณะสวมใส่จะได้ยินเสียงคลื่นสัญญาณเบา ๆ เมื่อยังไม่เปิดเล่นเพลงหรือเปิดใช้งาน

การควบคุมและคุณภาพเสียง ของหูฟัง Baseus Bowie WM02

สำหรับการควบคุมก็ง่ายดายไม่ต่างจากหูฟัง TWS ยี่ห้ออื่น ๆ เลยค่ะ สำหรับส่วนทัชสกรีนของหูฟังรุ่นนี้จะอยู่ที่บริเวณด้านล่างวงแหวน indicator การสัมผัสสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล อาจจะมีติดขัดบ้างเล็กน้อยในช่วงแรกของการใช้งาน เนื่องจากตัวหูฟังมีขนาดค่อนข้างเล็กทำให้เล็งตำแหน่งยากเล็กน้อยค่ะ แต่หากใช้งานไปเรื่อย ๆ จนเริ่มคุ้นเคยก็จะสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น ส่วนการควบคุมก็ตามนี้เลยจ้า

• แตะ 2 ครั้งด้านซ้ายหรือขวาเพื่อเล่นหรือหยุดเสียง
• แตะค้าง 1 ครั้งด้านซ้ายเพื่อเล่นเพลงก่อนหน้า
• แตะค้าง 1 ครั้งด้านขวาเพื่อเล่นเพลงถัดไป
• แตะ 3 ครั้งด้านซ้ายหรือขวาเพื่อเรียกใช้ระบบสั่งงานด้วยเสียง

สำหรับคุณภาพเสียงค่อนข้างที่จะดีค่ะ เสียงออกมานุ่ม ทุ้ม เบสแน่นกำลังดี ไม่แหลมจนทำให้ปวดหู เมื่อเปรียบเทียบกับ Baseus Encok WM01 ส่วนตัวแล้วเรารู้สึกว่าหูฟังรุ่นนี้มีเสียงนุ่มกว่าและฟังได้นานกว่า ชอบมากกว่าหูฟังรุ่นแรกค่ะ การควบคุมต่าง ๆ สามารถทำได้ดีและค่อนข้างรวดเร็ว เสียงไม่ดีเลย์ ไม่ขาด ไม่ช้า ถือว่าค่อนข้างใช้งานได้ดีและถูกใจค่ะ

* ไม่สามารถใช้คำสั่งเล่นเพลงก่อนหน้า, เล่นเพลงถัดไป หรือเปิดใช้ระบบสั่งงานด้วยเสียงได้เมื่อเชื่อมต่อกับ Desktop
** สามารถปรับเปลี่ยนคำสั่งด้วยตัวเองได้ภายในแอปพลิเคชัน

ส่วนการโทรสนทนาก็สามารถทำได้ดีเช่นเดียวกันค่ะ สามารถควบคุมได้ดังนี้

• แตะ 3 ครั้งด้านซ้ายหรือขวาเพื่อรับสาย/วางสาย
• แตะค้างด้านซ้ายหรือขวาเพื่อปฏิเสธการรับสาย

คุณภาพเสียงออกมาค่อนข้างดีเลยค่ะ ปลายสายได้ยินเสียงชัดเจน อาจจะไม่ได้ดังเท่าการโทรแบบแนบหูทั่วไปแต่ก็สามารถพูดคุยกันได้อย่างชัดเจนไหลลื่น ขณะที่การวีดีโอคอลสามารถทำได้ดี ภาพและเสียงไม่ดีเลย์ ไม่แลค เสียงไม่ขาดหรือกระตุกค่ะ ส่วนการควบคุมต่าง ๆ เช่นการรับหรือวางสายสามารถใช้งานได้ง่าย เพียงแต่บางครั้งอาจจะสัมผัสไม่ติดบ้างในกรณีที่แบตเตอรี่ต่ำ

* ไม่สามารถใช้คำสั่งนี้ได้เมื่อเชื่อมต่อกับ Desktop
** ไม่สามารถปรับเปลี่ยนคำสั่งได้

แบตเตอรี่และการชาร์จ ของหูฟัง Baseus Bowie WM02

ทางแบรนด์เคลมมาว่าตัวหูฟังสามารถใช้งานได้นานถึง 5 ชั่วโมงที่ระดับเสียง 70% รวมไปถึงตัวเคสยังมีความจุมากถึง 300 mAh ที่สามารถชาร์จหูฟังแบบเต็ม 100% ได้มากถึง 7.5 ครั้ง ถือว่าปริมาณแบตเตอรี่ค่อนข้างเยอะและใช้งานได้อย่างยาวนานค่ะ โดยหูฟังรุ่นนี้สามารถใช้งานได้นานถึง 25 ชั่วโมง แบตเตอรี่ค่อนข้างอึด ใช้งานได้ยาว ๆ ทั้งวันเลยค่ะ ส่วนการชาร์จนี่ก็รวดเร็วทันใจสุด ๆ เพราะชาร์จหูฟังเพียง 10 นาทีก็สามารถใช้ต่อได้อีก 2 ชั่วโมงเลยค่ะ ตัวเคสชาร์จใช้เวลาเพียง 40 – 60 นาทีก็แบตเตอรี่เต็ม 100% แล้วค่ะ สามารถใช้ชาร์จหูฟังได้อีกหลายครั้ง ส่วนตัวหูฟังจะใช้เวลาชาร์จอยู่ที่ 1 – 1.30 ชั่วโมงจากระดับแบตเตอรี่ 0% ถือว่าค่อนข้างเร็วนะคะเพราะชาร์จแค่ครั้งเดียวก็สามารถใช้งานได้หนึ่งวันเต็ม ๆ เลย

ข้อดีและข้อที่ควรพิจารณา ของหูฟัง Baseus Bowie WM02

Baseus Bowie WM02

คะแนนความพึงพอใจโดยรวม 9.3 เต็ม 10

ข้อดี

• ขนาดเล็ก กระชับ พอดีหู ใส่ได้นาน
• แบตอึด ใช้งานได้ทั้งวัน
• เสียงที่ออกมาสมูธ นุ่มนวล เสียงเบสกำลังดี ไม่แหลมจนแสบแก้วหู
• สามารถเชื่อมต่อได้กับทุกอุปกรณ์ที่รองรับ Bluetooth การเชื่อมต่อสามารถทำได้ง่ายดาย
• ตัดเสียงรบกวนได้ค่อนข้างดี
• มาพร้อมแอปพลิเคชัน ใช้งานง่ายขึ้น
• สามารถตั้งค่าต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง
• สามารถค้นหาตำแหน่งของตัวหูฟังได้อย่างง่ายดายในกรณีที่สูญหาย
• มีฟังชั่น EQ สามารถปรับเปลี่ยนโหมดและตั้งค่าได้ด้วยตัวเอง

ข้อควรพิจารณา

• ตอนถอดจะรู้สึกหูอื้อเล็กน้อย
• เสียงเบสไม่หนักมากนัก ไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบฟังเสียงเบสทุ้ม ๆ
• ตัวหูฟังมีขนาดค่อนข้างเล็ก อาจจะสัมผัสได้ไม่ตรงจุด
• ระบบสัมผัสค่อนข้างดี แต่บางครั้งอาจจะรวน ๆ บ้างเล็กน้อยตามราคา
• การค้นหาตำแหน่งหูฟังจะต้องทำภายในระยะเวลา 35 ชั่วโมงหรือก่อนที่แบตเตอรี่ของตัวหูฟังจะหมด
• ใช้งานได้ไกลถึง 10 เมตรแต่เสียงจะขาดและไม่เสถียรมากนัก
• สายชาร์จค่อนข้างสั้น
• ฝาปิดแบบใสจะเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย

ความพึงพอใจต่อหูฟัง Baseus Bowie WM02

หลังจากลองใช้งานมาระยะหนึ่ง ส่วนตัวเราค่อนข้างที่จะพอใจหูฟังรุ่นนี้นะคะ เพราะขนาดที่เล็กลงทำให้สามารถใส่ได้ทั้งวันโดยที่ไม่รู้สึกปวดหูหรือเวียนหัวมากนัก ตัวหูฟังมีน้ำหนักเบาและกระชับพอดีกับขนาดของหู ใส่แล้วไม่รู้สึกแน่นจนเกินไปเลยค่ะ ในส่วนของการควบคุมก็ใช้งานง่ายแค่ปลายนี้สัมผัส ไม่ซับซ้อน การสัมผัสทำได้ดีและไม่รวนมากนัก ขณะที่คุณภาพเสียงต่าง ๆ ก็มีคุณภาพไม่ต่างจากหูฟังไร้สายแบรนด์ใหญ่ ๆ เลยค่ะ เสียงจะนุ่ม ๆ ละมุน ๆ เหมาะสำหรับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเรา ขณะที่แบตเตอรี่นี่ถือว่าเป็นจุดเด่นของแบรนด์นี้เลยค่ะ เพราะแบตอึดสุด ๆ สามารถใช้งานได้นานหลายวัน และอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เราประทับใจสุด ๆ เลยก็คือแอปพลิเคชัน Baseus ที่ถึงแม้ฟังก์ชันจะไม่เยอะเท่าที่ควรแต่ก็เต็มไปด้วยฟังก์ชันที่มีประโยชน์และช่วยให้สามารถใช้งานหูฟังได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ

Baseus Bowie WM02 VS Baseus Encok WM01 ซื้อรุ่นไหนคุ้ม?

เอาล่ะ มาถึงตรงนี้หลายคนคงจะสงสัยกันแล้วว่าสรุปแล้วหูฟัง Baseus รุ่น WM02 และ WM01 เนี่ยอันไหนใช้งานได้ดีกว่า แล้วควรซื้อรุ่นไหนถึงจะคุ้มค่ามากที่สุด ส่วนตัวแล้วเราคิดว่าหูฟังทั้ง 2 รุ่นมีคุณภาพไม่ต่างกันมากนักค่ะ เพราะหลังจากใช้งานมาประมาณ 1 ปี หูฟังรุ่นที่ 1 ที่เรานำมารีวิวก็ยังสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนรุ่นที่ 2 ก็เปรียบเสมือนเป็นการอัพเกรดตัวหูฟังให้เหมาะกับผู้ใช้มากขึ้น และใส่ระบบติดตามค้นหาเข้าไปเพื่อความสะดวกในกรณีที่หูฟังสูญหาย ซึ่งระบบป้องกันการสูญหายถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์อันดับต้น ๆ ของทางแบรนด์อีกด้วยค่ะ

Baseus Bowie WM02

ดังนั้นเราคิดว่า Baseus Encok WM01 จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟังเพลงแบบเพลิน ๆ หรือคนที่ต้องการสมาธิในการทำงาน ไม่ได้เน้นการใช้งานที่หนักหน่วง หรือใครที่ต้องการฟังเพลงเพื่อฆ่าเวลาก็ค่อนข้างที่จะเหมาะเลยค่ะ (ปล. Encok WM01 มีราคาถูกกว่ารุ่น Bowie WM02)

ส่วน Baseus Bowie WM02 จะเหมาะสำหรับคนที่เน้นการใช้งานแบบค่อนข้างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการดูหนังหรือฟังเพลง เนื่องจากมีระบบที่ช่วยให้ภาพและเสียงตรงกันมากที่สุด รวมไปถึงใครที่ชอบฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจหรือเป็นนักดนตรีจะเหมาะกับหูฟังรุ่นนี้มากกว่าค่ะ

ซื้อเลย – ถ้าหาก

• คุณชอบดูหนังฟังเพลงและเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ : จุดเด่นของ Bluetooth 5.3 และ Low Latency Mode คือการประมวลผลให้ภาพและเสียงตรงกันมากที่สุด ลดการดีเลย์ของเสียง ซึ่งอาการดีเลย์นี่ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ผู้เล่นเกมทุกท่านไม่อยากพบเจอ เพราะเสียงที่ดีเลย์แม้แต่หนึ่งวินาทีก็อาจทำให้คุณพลาดการขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของของแข่งขันได้เลยทีเดียวค่ะ
  คุณต้องเดินทางบ่อยหรือฟังเพลงทั้งวัน : Baseus Bowie WM02 มาพร้อมกับความจุแบตเตอรี่จำนวนมากทำให้สามารถฟังเพลงได้นานถึง 5 ชั่วโมงที่ระดับเสียง 70% แต่คนส่วนใหญ่จะเปิดเพลงที่ระดับเสียงเพียง 30 – 50% เท่านั้น ดังนั้นคุณสามารถฟังเพลงยสว ๆ 5 – 7 ชั่วโมงได้สบาย ๆ เลยค่ะ
• คุณไม่ชอบชาร์จแบตเตอรี่บ่อย ๆ : เคสหูฟังที่มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ 300 mAh จะช่วยให้คุณสามารถชาร์จหูฟังจาก 0 – 100% ได้มากถึง 7.5 รอบ นั่นหมายถึงการชาร์จแบตเตอรี่แค่ครั้งเดียวก็เพียงพอต่อการใช้งานได้ตลอดทั้งสัปดาห์ นอกจากนี้การชาร์จเคสแต่ละครั้งก็ทำได้ค่อนข้างรวดเร็วเพราะใช้เวลาเพียง 1.30 ชั่วโมงเท่านั้น
• คุณชอบหูฟังที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดและมีสไตล์โมเดิร์น : จุดเด่นของหูฟังรุ่นนี้คือขนาดที่เล็กลงและกระชับมากขึ้น ทำให้คุณสามารถสวมใส่ได้ตลอดทั้งวันโดยที่ไม่รู้สึกเจ็บหู รวมไปถึงตัวหูฟังยังมีการออกแบบสไตล์โมเดิร์นที่ช่วยเพิ่มความเก๋ให้กับทุกชุดที่คุณสวมใส่ค่ะ

Baseus Bowie WM02

อย่าซื้อ – ถ้าหาก

• คุณเน้นฟังเพลงที่มีเบสหนัก : ถึงคุณภาพเสียงโดยรวมของตัวหูฟังรุ่นนี้จะอยู่ในระดับที่ดี แต่ในส่วนของเสียงเบสที่ออกมานั้นค่อนข้างที่จะเบากว่าหูฟังทั่ว ๆ ไปโดยเสียงจะมีความนุ่ม ๆ ทุ้ม ๆ มากกว่า ดังนั้นหูฟังรุ่นนี้จึงไม่เหมาะกับเพลงที่เน้นเสียงเบสมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็สามารถปรับแต่งเสียงได้ใน EQ Mode
• หูของคุณเซ้นซิทิฟมากเป็นพิเศษ : จุกหูแบบซิลิโคนนิ่มจะกระชับและแนบไปกับพื้นผิวภายในรูหูอย่างพอดีทำให้อยู่ในภาวะกึ่งสุญญากาศ ช่วยตัดเสียงรบกสนภายนอกและทำให้เสียงเพลงชัดขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็อาจจะทำให้คุณรู้สึกเจ็บจี๊ดเล็กน้อยหากกระชากหรือดึงหูฟังออกแรงจนเกินไปค่ะ