“หูฟัง” ถือได้ว่า เป็นอุปกรณ์ที่หลาย ๆ คนจะต้องพกติดตัวไว้ตลอด เพราะนอกจากจะให้ความเพลิดเพลิน ในการรับชม หรือรับฟังความบันเทิงต่าง ๆ ได้แล้ว (เช่น ฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกม) มันยังช่วยให้การสนทนาผ่านโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนสะดวกมากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้หูฟังก็ได้มีการผลิตออกมาหลากหลายรูปแบบมาก ตามจุดประสงค์ในการใช้งานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หูฟังแบบธรรมดา ๆ ที่มีสาย หรือ “หูฟังไร้สาย (หูฟังบลูทูธ)” ซึ่งแต่ละตัวก็จะเน้นการใช้งานที่ต่างกัน
แต่อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วนะคะ ว่าการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ นั้น ย่อมจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเสมอ อย่าง หูฟังบลูทูธ เองก็ดูเหมือนจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น สามารถทดแทนการใช้หูฟังแบบธรรมดาได้ เพราะตอนนี้สินค้าหลาย ๆ ตัวก็เริ่มไม่รองรับหูฟังแบบมีสายแล้ว อย่างที่เห็นได้ชัดเลยก็คงหนีไม่พ้น iPhone รุ่นใหม่ ๆ ที่ไม่มีรูแจ็คสำหรับเสียบหูฟังมาให้แล้ว ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ iPhone ก็น่าจะตัดรูสำหรับสายชาร์จออกด้วย เนื่องจากเทคโนโลยีแท่นชาร์จมือถือแบบไร้สายเริ่มมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ประกอบกับ iPhone 12 ก็ไม่แถมอะแดปเตอร์แปลงไฟมาในกล่องแล้ว โดย Apple อ้างเหตุผลทางสิ่งแวดล้อม สิ่งนี้อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนที่ละนิด ๆ เนื่องจากการใช้งานแบบไร้สายนั้น มีความสะดวกสบายกว่ามาก และสามารถใช้งานร่วมกับสินค้าตัวอื่นหรือแบรนด์อื่นได้อย่างไม่มีปัญหา
ซึ่งอันที่จริงแล้วการใช้เทคโนโลยี Bluetooth หรือ Wi-Fi เข้ามาช่วยให้อุปกรณ์ทำงานแบบไร้สายนั้น ไม่ได้มีเพียง หูฟังบลูทูธเท่านั้น แต่มันยังมีทั้ง คีย์บอร์ดไร้สาย, เมาส์ไร้สาย, ลำโพงไร้สาย, ลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก, ปริ้นเตอร์ไร้สาย และกล้องวงจรปิดไร้สาย เป็นต้น ถือเป็นการตอกย้ำให้เราเตรียมตัวก้าวข้ามไปในยุคเทคโนโลยีไร้สายแบบเต็มตัว 🙂
หูฟังบลูทูธแบบไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด
หูฟังประเภทไหน เหมาะกับคุณ ?
แต่ก่อนที่จะเราไปพูดถึง หูฟังไร้สาย กันนั้น เราก็อยากที่จะแยกหูฟังแต่ละประเภทให้ทุกคนได้รู้จักกันก่อนว่าแท้จริงแล้วหูฟังที่คุณใช้อยู่ประจำนั้น เป็นหูฟังแบบใด ? ประเภทไหน ? และมันมีข้อดีข้อ-เสียต่างกันอย่างไร ? โดยหูฟังในปัจจุบันสามารถแบ่งได้หลายประเภทมาก แต่จะมีอยู่ 3 ประเภท หลัก ๆ ที่ได้รับความนิยม ดังนี้
1. Earbuds (หูฟังเอียร์บัด)

หูฟังเอียร์บัด เป็นหนึ่งในชนิดหูฟังที่สามารถพบได้ทั่วไปค่ะ มีราคาถูก ส่วนคุณภาพเสียงก็จะตามราคา ส่วนใหญ่แถมมากับโทรสัพท์มือถือรุ่นเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นมือถือรุ่นปุ่มกด, สมาร์ทโฟน รุ่นไม่เกิน 3,000 บาท หรือสมาร์ทโฟน รุ่นไม่เกิน 5,000 บาท เป็นต้น ซึ่งลักษณะการใช้งานก็จะมีการสอดเข้าไปที่บริเวณรูหู แต่จะอยู่เพียงด้านนอกเท่านั้น ไม่มีส่วนใดเข้าไปในรูหู ทำให้บางคนรู้สึกสบาย ไม่อึดอัด แต่ข้อเสียของหูฟังเอียร์บัดก็คือ มันจะหลุดได้ง่าย และจะไม่สามารถตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้เลย ทำให้ได้คุณภาพเสียงที่ไม่เต็มที่นัก ซึ่งปัจจุบันหูฟังเอียร์บัดก็เริ่มได้รับความนิยมน้อยลง
2. Headphones (หูฟังแบบคาดหัว)

หูฟังแบบคาดหัว (Headphones) สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อย ๆ ได้ ได้แก่ หูฟังแบบแนบหู (On-Ear) และหูฟังแบบครอบหู (Over-Ear) ซึ่งถือเป็นหูฟังที่คนส่วนใหญ่สามารถแยกแระเภทออกได้อย่างแน่นอน ก็เพราะมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ และมีลักษณะการสวมใส่แบบครอบทับหูของเราไปเลยโดยที่ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งที่ยื่นเข้าไปในรูหู ทำให้หูฟังประเภทนี้ถือเป็นหูฟังที่สวมใส่แล้วสบายที่สุด ช่วยให้สามารถสวมใส่ใช้งานได้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากมีการบุโฟมอย่างดี มีน้ำหนักเบา แม้ใส่นานแค่ไหนก็ไม่ทำให้เจ็บหู อีกทั้งก็ยังมีความสามารถตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีอีกด้วย ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับคุณภาพเสียงอย่างเต็มที่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะให้เสียงที่ เป็นธรรมชาติ คมชัด สมจริง ซึ่งจะดีมากน้อยแค่ไหนก็อาจขึ้นอยู่กับวัสดุ คุณภาพตามราคาด้วย แต่ข้อเสียของมันก็คือ ขนาดที่ใหญ่เกินไป อาจจะทำให้คุณรู้สึกไม่สะดวกในพกพาติดตัวไปไหนมาไหน ดังนั้นหากเป็นไปได้ก็ควรเลือกหูฟังรุ่นที่สามารถพับเก็บได้
3. In Ear (หูฟังอินเอียร์)

หูฟังอินเอียร์ เป็นหูฟังที่กำลังได้นิยมมากที่สุดในตอนนี้ ส่วนใหญ่จะแถมมากับสมาร์ทโฟน ตั้งแต่สมาร์ทโฟนรุ่นกลาง ๆ ไปจนถึงสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง ซึ่งลักษณะการใช้งานก็จะมีการสอดเข้าไปในรูหูโดยตรง ส่วนที่เข้าไปในรูหู จะเป็นจุกยาง ทำให้หูฟังอินเอียร์มีจุดเด่นอยู่ที่การป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีที่สุด เมื่อเทียบกับหูฟังชนิดอื่น ๆ และด้วยความที่การสวมใส่เป็นการยัดเข้าไปในรูหูเลย ทำให้เราสามารถได้รับเสียงอย่างเต็มที่ มีคุณภาพของเนื้อเสียงที่ดี มีความแน่น สามารถเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ส่วนเสียงเบสขับออกมาได้หนักแน่น ให้ความรู้สึกนุ่มนวลไปด้วย โดยรวมแล้วถือว่าให้รายละเอียดของเสียงได้ชัดเจนเลยทีเดียว นอกจากนี้มันยังมีขนาดที่เล็กมาก ช่วยทำให้พกพาสะดวก ในด้านการสวมใส่ก็หลุดได้ยากมาก แต่ในขณะเดียวกันสำหรับบางคนที่เมื่อใช้งานเป็นเวลานาน อาจเกิดอาการเจ็บหรือปวดบริเวณหูได้ เนื่องจากมีส่วนที่ยื่นเข้าไปอยู่ในรูหูด้วย ดังนั้นจะต้องเลือกขนาดให้เหมาะสมกับรูหูของแต่ละคนด้วยนะคะ
ประเภทของหูฟังบลูทูธ (Bluetooth)
1. หูฟังบลูทูธสำหรับออกกําลังกาย

ในส่วนของหูฟังบลูทูธนั้นก็ได้มีการพัฒนาแยกย่อยออกมาเป็น หูฟังบลูทูธ สำหรับออกกําลังกาย หรือที่เรียกว่า หูฟังแบบสปอร์ต ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้มันมีคุณสมบัติป้องกันน้ำ ป้องกันเหงื่อได้ดี ทั้งยังน้ำหนักเบา มีความกระชับ แน่นไม่หลุดง่าย ๆ โดยส่วนใหญ่แล้ว หูฟังแบบสปอร์ตทั้งสองข้างจะต้องเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ด้วยสายเคเบิลเส้นเดียว เพื่อให้มันสะดวกต่อการใช้งานขณะออกกำลังกายมากที่สุด
2. หูฟังบลูทูธแบบ Headphone

อย่าวที่กล่าวไปแล้วในข้อหัวก่อนหน้านี้ว่า เป็นหูฟังชนิดที่ครอบปิดหูของเรา เน้นใส่สบาย โดยไม่รู้สึกเจ็บ เป็นหูฟังที่ตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีมาก จนบางครั้งอาจจะส่งผลทำให้เราไม่ปลอดภัย อาทิเช่น เราใส่หูฟังขณะที่ข้ามถนนโดยก้มหน้าก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ จนไม่ได้ยินเสียงแตรรถ เป็นต้น ดังนั้นสำหรับผู้ที่จะใช้หูฟังประเภทนี้ นอกสถานที่ จะต้องมีความระมัดระวังด้วยนะคะ
3. หูฟัง True Wireless

เป็นหูฟังไร้สายอย่างแท้จริง ไม่ต้องมีสายเคเบิ้ลเชื่อมต่อกันเหมือนหูฟังบลูทูธสำหรับออกกําลังกาย อีกทั้งยังมีขนาดเล็กกะทัดรัด เน้นพกพาสะดวก มากกว่าหูฟังบลูทูธแบบครอบหู ถือว่าเป็นหูฟังที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อคนที่ต้องการความสะดวกสบายอย่างแท้จริง ใน่สวนของดีไซน์นั้น สวยเก๋ ดูแปลกตา ล้ำสมัย แต่ยังคงความหรูหรา โดย หูฟังไร้สาย True Wireless จะมีทั้งแบบที่เป็น Earbud และ In-Ear ซึ่งก็อยู่ที่คุณค่ะ ว่าชื่นชอบหูฟังสไตล์ไหนมากกว่ากัน ?
4. หูฟัง Bluetooth แบบ MONO

เป็นหูฟังที่แตกต่างจากหูฟังที่เรารู้จักชนิดอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง ตรงที่ว่ามันเป็นหูฟังที่มีเพียงข้างเดียวเท่านั้น ซึ่งหูฟังโมโนนั้น จะเป็นหูฟังประเภทที่เมาะสำหรับคนที่ต้องการพูดคุยสื่อสารมากกว่าการใช้ในการฟังเพลง หรือดูหนัง เน้นการใช้งานที่สะดวก และเน้นการได้ยินเสียงจากภายนอกควบคู่ไปด้วย
REMAX หูฟังบลูทูธ RB-T9

ราคา 228 บาท*
จุดเด่น
- สามารถเชื่อมต่อมือถือได้พร้อมกันถึง 2 เครื่อง
- มีเทคโนลียี HD Voice ทำให้เสียงออกคมชัดเป็นพิเศษ
- สามารถใช้สนทนาได้ต่อเนื่องนานกว่า 2 - 6 ชั่วโมง
- เชื่อมต่อได้ไกลกว่า 10 เมตร
ข้อควรพิจาราณา
- ไม่สามารถป้องกันน้ำหรือเหงื่อได้ จึงไม่เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย
ประเภทหูฟัง | MONO |
---|---|
การเชื่อมต่อ | Version 4.1 |
การใช้งาน | 2-6 ชม. |
น้ำหนัก | N/a |
กันน้ำ | |
ตัดเสียงรบกวน |
Xiaomi Redmi AirDots S หูฟังไร้สาย Bluetooth TWS 5.0

ราคา 244 บาท*
จุดเด่น
- ราคาถูก
- มีฟังก์ชันสำหรับรับสายเข้าออกด้วนระบบสัมผัส
- น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
- รองรับระบบสั่งด้วยเสียง
- คุณภาพเสียงในระดับ Stereo เสียงที่ออกมาค่อนข้างแน่น
- ชาร์จเร็วและใช้ได้นานถึง 12 ชั่วโมง
ข้อควรพิจารณา
- ไม่สามารถกันน้ำได้ จึงไม่เหมาะกับการใส่ออกกำลังกายแน่นอน
ประเภทหูฟัง | True Wireless (Earbuds) |
---|---|
การเชื่อมต่อ | Bluetooth 5.0 |
การใช้งาน | 4 ชม. |
น้ำหนัก | 4.1 ก. |
กันน้ำ | |
ตัดเสียงรบกวน |
Baseus หูฟังไร้สาย True Wireless รุ่น WM01

ราคา 397 บาท*
หูฟังไร้สายจาก Baseus ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์น้องใหม่จากประเทศจีนที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในไทย มาพร้อมกับขนาดเล็กพกพาสะดวก มีสีให้เลือกหลากหลายและเป็นโทนพาสเทลน่ารัก ๆ ในส่วนของหูฟังก็ถือว่ามีคุณภาพเกินราคาเนื่องจากคุณสามารถใช้หูฟังได้ยาวถึง 8 ชั่วโมงแบบไม่มีพัก อีกทั้งยังใช้เวลาชาร์จเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ถือว่าแบตอึดและชาร์จเร็วมาเมื่อเทียบกับระยะเวลาในการใช้งาน

ในส่วนของคุณภาพก็ถือว่าทำมาได้ดีเพราะเสียงที่ออกมาจากตัวหูฟังมีความคมชัด เบสแน่น คุณภาพเสียงเหมือนต้นฉบับ อีกทั้งรุ่นนี้ยังสามารถลดเสียงรบกวนได้ในระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับการสวมใส่ออกกำลังกาย, ฟังเพลง, ดูหนัง หรืออ่านหนังสือ สามารถเข้าไปอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ "Baseus หูฟังไร้สาย True Wireless รุ่น WM01 คุ้มค่าคุ้มราคาสุด ๆ"
จุดเด่น
- ใช้งานได้ต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง
- ขนาดเล็กกระทัดรัด พกพาและใช้งานสะดวก
- มีระบบการลดเสียงรบกวนรอบข้าง สวมใส่ได้หลากหลายสถานการณ์
ประเภท | In-Ear |
---|---|
Driver Unit | ไม่ระบุ |
Bluetooth | 5.0 |
Codec | SBC |
มาตรฐาน | IPX4 |
Fast Charging | N/a |
การชาร์จต่อครั้ง | ประมาณ 1.30 - 2 ชม. (เคสเป็น Power Bank ในตัว) |
การใช้งาน | 8 ชม. (ไม่รวมเคส) |
Bee หูฟังบลูทูธ รุ่น LC-B41

ราคา 539 บาท*
จุดเด่น
- มีแบตเตอรี่ทนทาน
- มีหูฟังเสริม ไว้สำหรับความสะดวกในการฟังเพลงอย่างเต็มที่
ข้อควรพิจารณา
- ไม่กันน้ำ ไม่สามารถใช้สำหรับออกกำลังกายได้
ประเภทหูฟัง | MONO |
---|---|
การเชื่อมต่อ | Bluetooth 5.0 |
การใช้งาน | 24 ชม. |
น้ำหนัก | 12 ก. |
กันน้ำ | |
ตัดเสียงรบกวน |
Jabees Firefly Pro หูฟังบลูทูธ 5.0

ราคา 990 บาท*
จุดเด่น
- มี Charging Case สำรองแบตเตอรี่
- มีระบบ Quick Charge เพียง 10 นาที
- สามารถกันน้ำและเหงื่อได้ ในมาตรฐาน IPX5
ประเภทหูฟัง | True Wireless (In-Ear) |
---|---|
การเชื่อมต่อ | Bluetooth 5.0 |
การใช้งาน | 6 ชม. |
น้ำหนัก | 4.9 ก. |
กันน้ำ | |
ตัดเสียงรบกวน |
Razer หูฟัง TWS เกมมิ่ง Hammerhead True Wireless X

ราคา 1,990 บาท*
Hammerhead True Wireless X เป็นหูฟัง True Wireless ประสิทธิภาพสูง จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในด้านเกมมิ่งมาอย่างยาวนานอย่าง Razer ที่มาในรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ รูปแบบของหูฟัง Earbuds โดยได้มีการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ช่วยให้สวมใส่ได้อย่างสบาย และยังสามารถกันน้ำด้วย IPX4 ช่วยให้คุณสวมใส่ออกกำลังกายได้สบาย ๆ ในส่วนไดรเวอร์ใช้เป็น Dynamic ขนาด 13 มม. พร้อมมอบเสียงที่สมบูรณ์แบบอยู่เหนือเสียงรบกวนใด ๆ รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย Gaming Mode ที่มี Low Latency หรือมีความหน่วงระดับต่ำมาก ๆ เพียง 60 ms เท่านั้น จึงช่วยให้คุณสามารถเล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องห่วงเรื่องอาการดีเลย์ และคุณยังสามารถปรับเสียงได้ตามต้องการ ด้วยแอปฯ Razer Audio ที่ทำการแมปรูปแบบการสัมผัสแบบใหม่ ปรับแต่ง EQ และรับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องด้วยการอัพเดตเฟิร์มแวร์แบบ Over the Air นอกจากนี้ดีไซน์การออกแบบภายนอกยังมาพร้อมกับความสวยงาม ดูสมกับเป็นเกมมิ่งเกียร์ พร้อมเอฟเฟคแสงไฟ LED ที่ดูโดดเด่น ตอบโจทย์การใช้งานทั้งการเล่นเกม การพูดคุย และการรับฟังความบันเทิงได้อย่างครบถ้วน
จุดเด่น
- ตั้งค่าหูฟังได้ผ่านแอปพลิเคชัน
- กันน้ำได้ในระดับ IPX4
- สามารถนำไปเล่นกับเกมได้ เพราะคุณภาพเสียงค่อนข้างดี
- มีเอฟเฟคแสง LED เพิ่มความสนุกและความบันเทิง
ประเภท | Earbuds |
---|---|
Driver Unit | 13 mm Dynamic Driver |
Bluetooth | Bluetooth 5.2 |
Codec | SBC/ AAC |
มาตรฐาน | IPX4 |
Fast Charging | N/a |
การชาร์จต่อครั้ง | ประมาณ 1.5 ชม. |
การใช้งาน | 7 ชม. (ไม่รวมเคส) |
Aftershokz Openmove หูฟังออกกำลังกายไร้สาย หูฟัง Bone Conduction เสียงดี ใส่สบาย

ราคา 2,590 บาท*
Aftershokz Openmove หูฟังออกกำลังกาย Bone Conduction ระดับไฮเอนด์จาก Aftershokz แบรนด์ชั้นนำที่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีนี้เป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งจะใช้การได้ยินเสียง ผ่านแรงสั่นสะเทือนที่กระดูกแก้ม คุณจึงไม่ต้องใส่หูฟังเข้าไปในหูตรง ๆ ช่วยตัดปัญหาอาการเจ็บหูเวลาใส่หูฟังนาน ๆ และหูฟังมันจะไม่หลุด ขณะออกกำลังกายอีกต่อไป โดยรุ่นนี้มาในดีไซน์แบบที่คาดผม ทำจากไทเทเนียมที่ทนทาน และเบามาก เพียง 29 ก. เท่านั้น มันจึงสวมใส่สบายสุด ๆ พร้อมให้คุณใส่ได้อย่างมั่นใจ ด้วยมาตรฐาน IP55 ที่สามารถป้องกันเหงื่อ กันละอองน้ำได้สบาย ๆ
ขับเสียงด้วยไดร์เวอร์ PremiumPitch 2.0 มอบรายละเอียดเสียงที่สูงขึ้น แต่มีแรงสั่นสะเทือนน้อยลง ช่วยให้สวมใส่สบาย มือใหม่ไม่ต้องปรับตัว พร้อมกับมีโหมด EQ ให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ โหมด Standard โหมด Human Voice และโหมด Earplug (ใช้ร่วมกับจุกอุดหู) ซึ่งเสียงโดยรวมจะโดดเด่นในย่านเสียงกลาง เน้นฟังสบาย ๆ ฟังได้ทุกแนว โดยมีเสียงร้องที่ชัดเจน แยกตำแหน่งเครื่องดนตรีได้ดี พร้อมเบสลงลึกกำลังดี แต่เสียงแหลม และเวทีเสียงอาจจะไม่ได้กว้างมากครับ ส่วนการเชื่อมต่อจะใช้บลูทูธ 5.1 ที่รวดเร็ว และเสถียร โดยใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์ 2 เครื่องพร้อม ๆ กันได้ ทำให้การสลับอุปกรณ์ทำได้ง่ายดายสุด ๆ
ข้อดี
|
ข้อควรพิจารณา
|
ประเภทหูฟัง | Open Ear (Bone Conduction) |
---|---|
การเชื่อมต่อ | Bluetooth 5.1 |
ไดร์เวอร์หูฟัง | PremiumPitch™ 2.0 |
ไมโครโฟน | 2 ตัว |
ตัดเสียงรบกวน | |
มาตรฐานกันน้ำ | IP55 |
อายุการใช้งาน | 6 ชม. |
พอร์ตชาร์จ | USB-C |
HUAWEI FreeBuds Pro หูฟัง TWS ลำโพงระบบ Active Noise Cancelation

ราคา 3,699 บาท*
HUAWEI FreeBuds Pro หูฟัง TWS ตัวท๊อปที่สุดของหัวเว่ย ณ ปัจจุบัน โดดเด่นด้วยหูฟังดีไซน์สุดพรีเมี่ยมแบบ In-Ear ที่เป็นไปตามหลักสรีรศาสตร์ ช่วยให้หูใช้ใส่ติดกับหูได้นานขึ้น โดยที่ไม่รู้สึกล้า แถมยังเกาะกับหูได้ดีอีกด้วย มีจุกยางให้เลือก 3 ขนาด ส่วนดีไซน์ของตัวก้านมีความเป็นเหลี่ยม ตัวเคสชาร์จรูปทรงโค้งมนสไตล์แบบเรียบหรู ขนาดกะทัดรัด พร้อมรองรับการชาร์จไร้สาย ภายในทำงานด้วยชิปเซ็ตคุณภาพสูงที่มีบลูทูธ 5.2 มีเสาส่งสัญญาณ Dual Channel ช่วยให้การซิงโครไนซ์เสียงและวิดีโอทำได้อย่างยอดเยี่ยม มีความเสถียรสูง และมีระยะการเชื่อมต่อที่ไกลขึ้นกว่าเดิมมาก
ส่วนไดรเวอร์เสียงเป็นแบบ Dynamic Driver ขนาด 11 มม. ซึ่งมอบเสียงที่น่าประทับใจมาก มีรายละเอียดของเสียงที่ครบถ้วน ชัดเจน ช่วยให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับความสมบูรณ์แบบของเสียงเพลง มีไมโครโฟน 3 ตัว เพื่อการรับเสียงที่ดีเยี่ยม โดยไมค์ 2 ตัว หันออกไปด้านนอก และอีกตัวหันเข้าด้านใน ทำให้ระบบตัดเสียงรบกวนมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีระบบตัดเสียงรบกวนให้เลือก 4 แบบ จะเป็นระดับสูง กลาง และต่ำ ส่วนแบบที่ 4 คือการเลือกใช้ระดับการตัดเสียงรบกวนอัตโนมัตินั่นเอง และยังมีโหมด Awareness เพื่อดึงเสียงจากภายนอกเข้ามาในหูฟังได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ อีกมากมาย ให้คุณได้ใช้งาน ในส่วนของแบตเตอรี่ รุ่นนี้ก็โดดเด่นมาก ๆ ครับ สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวันอย่างแน่นอน
จุดเด่น
- ดีไซน์ตามสรีรศาสตร์ ทำให้ไม่รู้สึกปวดหู
- การส่งสัญญาณเป็นแบบ Dual Channel ทำให้เสียงมีความเสถียร
- มีโหมดสำหรับ Awareness สามารถเลือกเพื่อให้ได้ยินเสียงรอบข้าง
- ไดรเวอร์แบบ Dynamic Driver ทำให้เสียงออกมาชัดและมีคุณภาพ
ประเภท | In-Ear |
---|---|
Driver Unit | ⌀11 mm Dynamic Driver |
Bluetooth | 5.2 |
Codec | AAC/ SBC |
มาตรฐาน | IPX4 (หูฟัง) |
Fast Charging | N/a |
การชาร์จต่อครั้ง | ประมาณ 40 นาที (ชาร์จด้วยเคส) |
การใช้งาน | 8 ชม. (ไม่รวมเคส) |
หูฟังไร้สาย รุ่นยอดนิยม Sony WF-1000XM3

ราคา 3,790 บาท*
Sony WF-1000XM3 เป็นหูฟัง True Wireless (In Ear) ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของคุณภาพระบบเสียง รุ่นนี้เด่นในเรื่องของการตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ดีมาก ๆ ซึ่งใช้เทคโนโลยีการป้องกันเสียงรบกวนที่ล้ำหน้าที่สุด (โดยการวิจัยของ Sony Corporation ซึ่งทำการวัดโดยใช้มาตรฐาน JEITA) ด้วยโปรเซสเซอร์ QN1e ซึ่งสามารถป้องกันเสียงรบกวนที่มีความละเอียดสูง และได้เสริมด้วยเซนเซอร์เสียงรบกวนแบบคู่ ช่วยมอบเสียงที่มีคุณภาพและมีความผิดเพี้ยนน้อย จึงทำให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงจริง ๆ อย่างเต็มที่เต็มอารมณ์ แต่ก็ยังคงในเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากมีการปรับระดับการลดเสียงรบกวนอัตโนมัติ โดยการใช้แอป Sony Headphones Connect ที่วิเคราะห์จากอิริยาบถของคุณ และรับรู้เสียงรอบ ๆ ตัวคุณนั่นเอง นอกจากนี้คุณยังสามารถฟังเสียงภายนอกได้ง่าย ๆ โดยที่ไม่ต้องถอดหูฟัง เพียงการแตะเรียกว่าโหมด Quick Attention Mode สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุด 8 ชม. (ปิด NC) หรือสูงสุด 6 ชม. (เปิด NC) และใช้เวลาชาร์จน้อยกว่า 2-3.5 ชม. หากรวมกับแบตสำรองของเคสก็ใช้งานได้นานสูงสุด 32 ชม. มีพอร์ตชาร์ตเป็น USB Type-C การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 และ NFC มีระยะเชื่อมต่อสัญญาณอยู่ที่ 10 เมตร
จุดเด่น
- มีโหมด Quick Attention Mode ที่ไม่จำเป็นต้องถอดหูฟัง แต่สามารถได้ยินเสียงรอบข้าง
- ฟังได้อย่างต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมง
- ระยะเชื่อมต่อหูฟังไกลกว่า 10 เมตร
- ตัดเสียงรอบข้างได้ดีมาก
ประเภทหูฟัง | True Wireless (In Ear) |
---|---|
การเชื่อมต่อ | Bluetooth 5.0 / NFC |
การใช้งาน | ต่อเนื่องสูงสุด 6 ชม. (เปิด NC) และ 8 ชม. (ปิด NC) |
น้ำหนัก | 17 ก. |
กันน้ำ | |
ตัดเสียงรบกวน |
HUAWEI True Wireless หูฟังไร้สาย ตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ รุ่น Freebuds 3

ราคา 3,999 บาท*
HUAWEI รุ่น Freebuds 3 เป็น True Wireless หูฟังไร้สาย มาในแบบ Ear Buds พร้อมกับดีไซน์แบบ Dolphin Bionic เป็นอีกนวัตกรรมการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ที่ช่วยให้คุณสวมใสได้อย่างสบายไม่รู้สึกล้าหากสวมใสเป็นเวลานาน ๆ รูปลักษณ์ดูโดดเด่น สไตล์เรียบหรู ดูมีระดับด้วยเคสชาร์จทรงกลมที่ไม่เหมือนใคร โดยรุ่นนี้มาพร้อม ชิปเซ็ต Kirin A1 และบลูทูธ 5.1 SoC ที่ผ่านการรับรองตัวแรกของโลก ส่งสัญญาณแบบ Dual Channel ช่วยให้การซิงโครไนซ์เสียงและวิดีโอทำได้อย่างยอดเยี่ยม มีความเสถียรสูง สำหรับรุ่นนี้สามารถมอบพลังเสียงที่จะทำให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม ไร้เสียงรบกวนด้วยระบบ Active Noise Cancellation การตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ มีไมโครโฟนในตัว และ Bone Sensor ตัวรับเสียงและการสั่นไหว ให้เสียงที่ชัดเจน สำหรับการควบคุมมาพร้อมปุ่มแบบสัมผัสให้คุณใช้งานได้อย่างง่ายดาย ส่วนแบตเตอรีในตัว สามารถใช้งานได้ 4 ชั่วโมง รวมกับเคสชาร์จสามารถใช้ได้สูงสุด 20 ชั่วโมง นอกจากนั้นตัวเคสชาร์จยังรองรับการชาร์จแบบไร้สายอีกด้วย ถือเป็นหูฟังประสิทธิภาพสูง ที่เพรียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมาย
จุดเด่น
- Bone Sensor ทำให้เสียงชัดเจน
- ระบบ Active Noise Cancellation ตัดเสียงรบกวนด้านข้างได้ทั้งหมด
- เคสชาร์จรองรับการชาร์จแบบไร้สาย
- สวมใส่สบาย ไม่รู้สึกเจ็บหู
- ชิบและระบบบลูทูธค่อนข้างดี เสียงค่อนข้างเสถียร
ประเภท | Earbuds |
---|---|
Driver Unit | 14.2 mm Dynamic Driver |
Bluetooth | 5.1 SoC |
Codec | AAC/ SBC |
มาตรฐาน | IPX5 |
Fast Charging | N/a |
การชาร์จต่อครั้ง | ประมาณ 1 ชม. |
การใช้งาน | 4 ชม. (ไม่รวมเคส) |
Apple Airpods Pro หูฟัง True Wireless

ราคา 6,990 บาท*
Apple Airpods pro เป็นหูฟังไร้สายจากแบรนด์ Apple โดย AirPods Pro แต่ละข้างจะมีขนาดอยู่ที่ 30.9 x 21.8 x24.0 มม.มีน้ำหนักเพียง 5.4 กรัม และตัวนี้จะมีเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ สามารถเลือกปรับขนาดให้พอดี โดยมีให้เลือกถึง 3 ขนาด จึงช่วยทำให้กระชับแนบสนิทได้ดียิ่งขึ้น ไม่หลุดง่าย ๆ เหมือนหูฟังทั่วไป สามารถทนเหงื่อและน้ำ ในระดับมาตรฐานที่ IPX4 มีอีกทั้งยังมีระบบเปิดและเชื่อมต่ออัตโนมัติ สำหรับที่ใครใช้ไอโฟนอยู่แล้ว ก็สามารถตั้งค่ากับอุปกรณ์ Apple ทั้งหมดของคุณได้เลยค่ะ ออกแบบมาให้ตัดเสียงรบกวนได้ดี มีโหมดสำหรับฟังเสียงจากภายนอกได้ ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 4.5 ชม. สำหรับแบตสำรองจากเคสสามารถใช้ต่อไปได้อีก 24 ชม. มีระบบ Quick Charge โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาที ก็จะใช้งานได้อีกนานถึง 1 ชม. สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วในเคสชาร์จ สาวกไอโฟนไม่ควรพลาด เราได้ทำการรีวิวสินค้าตัวนี้ในฉบับเต็ม คุณสามารถดูได้ที่ รีวิว หูฟังบลูทูธ Apple Airpods Pro
จุดเด่น
- มีระบบ Quick Charge ทำให้ชาร์จและพร้อมใช้งานได้ภายใน 5 นาที
- กันน้ำได้ในระดับ IPX4
- ใช้งานได้ต่อเนื่องกว่า 4.5 ชั่วโมง
- หากใช้คู่กับ iPhone สามารถควบคุมและตั้งค่าผ่านสมาร์ทโฟนได้ทั้งหมด
ประเภทหูฟัง | True Wireless |
---|---|
การเชื่อมต่อ | Bluetooth 5.0 |
การใช้งาน | 4.5 ชม. ไม่รวมเคส |
น้ำหนัก | 10.8 ก. |
กันน้ำ | |
ตัดเสียงรบกวน |
Sony หูฟังไร้สายแบบครอบหู หูฟังตัดเสียงรบกวน WH-1000XM4

ราคา 10,089 บาท*
หูฟังรุ่นยอดนิยมจาก Sony ครับ สำหรับ Sony WH-1000XM4 เป็นการพัฒนาต่อมากจาก WH-1000XM3 ซึ่งยังคงมาในดีไซน์ใกล้เคียงกับรุ่นก่อน เป็นหูฟังครอบหู (Over-Ear) เหมาะสำหรับคนที่ชอบใส่ระยะเวลานาน เพราะผลิตจากคอมโพสิตและบุด้วยโฟมยูริเทน ใส่แล้วไม่เจ็บหู มาพร้อมคุณเสียงในระดับสุดยอด รองรับเสียงทุ้มหนักได้ดีใช้ Driver ขนาด 40 มม. อีกทั้งยังลดเสียงรบกวนได้ดีด้วยโปรเซสเซอร์ Noise Cancelling แบบอัตโนมัติ มีไมค์ในตัว พร้อมอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานสามารถฟังเพลงไร้สายได้ต่อเนื่องนาน 30 ชม. สามารถใช้ Quick Charge โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาที ทำให้มันสามารถใช้งานต่อได้ถึง 5 ชม. มี AI ที่ชาญฉลาดควบคุมเสียงรอบข้างได้เองตามกิจกรรมอิริยาบถของคุณ ใช้ระบบสัมผัสในการควบคุมหูฟังไม่ว่าจะเป็น รับสาย, โทรออก, เปลี่ยนเพลง, ปรับระดับเสียง อีกทั้งยังมีระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant, Amazon Alexa4 และ Siri5 เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 และ NFC
จุดเด่น
- ตัดเสียงรบกวนรอบข้างอัตโนมัติด้วยระบบ Noise Cancelling
- ฟังเพลงได้ต่อเนื่องกว่า 30 ชั่วโมง
- ใข้เวลาในการชาร์จเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น
- สั่งการผ่านเสียงได้ด้วยระบบ Siri, Google หรือ Amazon
ประเภทหูฟัง | Over Ear Headphone |
---|---|
การเชื่อมต่อ | Bluetooth 5.0 |
การใช้งาน | ต่อเนื่องสูงสุด 30 ชม. (เปิด NC) และ 100 ชม. (ปิด NC) |
น้ำหนัก | 251 ก. |
กันน้ำหรือเหงื่อ | |
ตัดเสียงรบกวน |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ หูฟังบลูทูธ (Bluetooth) รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
Aftershokz Openmove หูฟังออกกำลังกายไร้สาย หูฟัง Bone Conduction เสียงดี ใส่สบาย |
| |||
HUAWEI FreeBuds Pro หูฟัง TWS ลำโพงระบบ Active Noise Cancelation |
| |||
| ||||
HUAWEI True Wireless หูฟังไร้สาย ตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ รุ่น Freebuds 3 |
| |||
| ||||
|
หูฟังมีสาย VS หูฟังไร้สาย
หูฟัง In Ear (หูฟังอินเอียร์) จะมีทั้งหูฟังแบบมีสาย และหูฟังแบบไร้สาย (หูฟัง bluetooth) เนื่องจากหูฟังที่มีสายนั้นทุกคนน่ารู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะขอหยิบ “หูฟังไร้สาย” หรือที่หลายคนมักจะเรียกว่า “หูฟังบลูทูธ” มาพูดกันถึงกันสักหน่อย แต่ก่อนอื่นมาทำความรู้จักเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของหูฟังมีสายและหูฟังไร้สาย กันก่อนค่ะ
1. หูฟังที่มีสาย

สำหรับหูฟังที่มีสายนั้นไม่ได้หมายว่ามันเป็นหูฟังที่ล้าสมัยเสมอไป เพราะหูฟังที่มีสายมักจะให้เสียงที่ดีกว่ามากอย่างเช่น หูฟังเน้นเบสที่แม้จะมีราคาไม่สูงมากแต่สามารถให้คุณภาพเสียงที่ดีได้ เนื่องจากคุณภาพของเสียงจะไม่มีการถูกรบกวน เพราะมีสายเคเบิลเป็นตัวกลางในการส่งสัญญาณ ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่ต้องการเน้นฟังเพลงแบบจริง ๆ จัง ๆ แต่ข้อเสียของหูฟังประเภทนี้คือ สายไฟที่เป็นข้อดีก็มักจะพันกันจนยุ่งเหยิง ยากที่จะแกะออกเมื่อถึงเวลาที่จะใช้งาน และยิ่งถ้าหากเป็นคนที่ไม่ค่อยรักษาของมันก็จะทำให้หูฟังเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น
2. หูฟังไร้สาย (หูฟังบลูทูธ)
ในปัจจุบันต้องยอมรับว่า Bluetooth ได้เข้ามามีบทบาทในอุปกรณ์ต่าง ๆ มากขึ้น และหนึ่งในนั้นก็คือ “หูฟังบลูทูธ” ค่ะ สำหรับจุดเด่นของหูฟังไร้สาย หรือหูฟังบลูทูธ ที่จะไม่หยิบมาพูดถึงไม่ได้เลยก็คือ เป็นหูฟังที่เหมาะกับการพกพา เหมาะกับการเดินทาง หรือการออกกำลังกายที่ต้องมีการขยับตัวเยอะ ๆ ในด้านของคุณภาพเสียงของหูฟังบลูทูธนั้น ก็ถือว่าเป็นที่ยอมรับในหมู่คนรักการฟังเพลง ซึ่งแม้จะมีการรบกวนอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ จนถึงขั้นฟังเพลงไม่ได้ โดยมีคุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยมของไดรฟ์เวอร์แบบไดนามิกที่ให้คุณภาพสัญญาณเสียงคมชัดเป็นธรรมชาติ สำหรับสิ่งที่ต้องพิจารณาอีกอย่างในการเลือกซื้อหูฟังไร้สายหรือหูฟังบลูทูธก็คือ แบตเตอรี่ เพราะมันเป็นสิ่งที่สำคัญ หากแบตฯ หมดคุณก็ไม่สามารถใช้งานได้
การเลือกซื้อ หูฟังบลูทูธ ที่ดีที่สุด
1. เวอร์ชั่นของ Bluetooth
อย่างที่บอกค่ะ หูฟังบลูทูธไม่มีสายสัญญาณ ดังนั้นการส่งสัญญาณจะต้องเพิ่งพา Bluetooth ซึ่งการที่จะใช้งานได้อย่างราบรื่นหรือไม่นั้น? มันก็ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อของ Bluetooth แต่ละเวอร์ชั่นด้วย โดยในปัจจุบันสัญญาณ Bluetooth มีเวอร์ชัน 5.0 ซึ่งส่วนใหญ่หูฟังที่วางขายตามท้องตลาดก็จะเป็น Bluetooth 4.2 ขึ้นไป หากใครที่กำลังเลือกซื้อหูฟัง Bluetooth ก็อย่าลืมดูในเรื่องของเวอร์ชั่น Bluetooth ที่รองรับด้วยนะคะ ยิ่งมีเวอร์ชั่นที่สูง ก็ยิ่งการันตีได้ว่าการใช้งานหูฟัง Bluetooth ของคุณจะมีประสิทธิภาพ ไม่มีสะดุดอย่างแน่นอน
2. ระยะสัญญาณ Bluetooth ของหูฟัง
ระยะสัญญาณของ Bluetooth นั้นก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม หากคุณจะต้องเดินไปหยิบน้ำที่ห้องครัวระหว่างดูซีรีส์ โดยที่คุณไม่ต้องการหยุดหรือข้ามเนื้อหาส่วนใดไป แต่เมื่อกลับมาหูฟังกลับขาดการติดต่อ เนื่องจากระยะสัญญาณของ Bluetooth ไปไม่ถึง คงเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดไม่ใช่น้อยที่จะต้องมานั่งเชื่อมต่อใหม่
3. คุณภาพของเสียง
คุณภาพของเสียง มักจะมาพร้อมกับราคาที่สูง ยิ่งคุณภาพดีเท่าไหร่ ราคาก็ยิ่งสูง ดังนั้นต้องถามตัวเองก่อนว่าคุณต้องการคุณภาพของเสียงระดับไหน ? ถ้าแบบระดับที่ดีมาก คุณก็ต้องยอมจ่ายในราคาสูง แต่หากคุณไม่ได้เน้นคุณภาพของเสียงมากหนักก็พิจารณาหูฟังในราคากลาง ๆ ก็ได้ค่ะ
4. อายุการใช้งานแบตเตอรี่
อายุของแบตเตอรี่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วยนะคะ บางคนในแต่ละวันแทบจะไม่ค่อยใช้งานก็เลยไม่ค่อยสนใจในเรื่องของอายุแบตเท่าไหร่นัก แต่สำหรับบางคนที่จำเป็นต้องใช้งานบ่อย ๆ การรตรวจสอบควาจุของแบตเตอรี่ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เพราะหูฟังบลูทูธไม่มีสาย ฉะนั้นถ้าหากแบตเตอรี่หมดขึ้นมาคุณก็จะไม่สามารถใช้งานได้จนกว่าจะชาร์จ โดยส่วนใหญ่แล้ว หลาย ๆ คนมักจะเลือกที่ความจุเยอะ ๆ ไว้ก่อน แต่อย่าลืมคำนึงถึงตอนชาร์จแบตฯ ด้วยนะคะ ยิ่งความจุเยอะ ก็ยิ่งต้องใช้เวลาชาร์จนานขึ้น
5. ระบบกำจัดเสียงรบกวน
การใช้หูฟังสำหรับเน้นรับฟังความบันเทิงนั้น เรื่องการตัดเสียงรบกวนภายนอกก็เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม คุณควรตรวจสอบเทคโนโลยีของแต่ละรุ่นว่า มันสามารถกำจัดเสียงรบกวนภายนอกได้มากน้อยเพียงใด ? เพื่ออรรถรส ในการฟังเพลงของคุณ
บทสรุป หูไร้สาย หรือหูฟังบลูทูธ
หากคุณกำลังเบื่อ และเหนื่อยหน่ายกับการต้องมานั้งแกะสายหูฟังที่ชอบพันกันอย่างยุ่งเหยิง หลังจากที่ได้อ่านบทความของเราไปแล้ว คุณคงจะมีตัวเลือกเป็น หูฟังไร้สาย หรือหูฟังบลูทูธ ขึ้นมาในใจบ้างแล้วใช่ไหมคะ ? เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความนี้ของเราน่าจะช่วยคุณเลือกหูฟังไร้สายที่ตอบโจทย์กับความต้องการของคุณไม่มากก็น้อย หากคุณรักการฟังเพลงก็เลือกหูฟังที่เน้นในเรื่องของคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม หากคุณชอบการฟังเพลงด้วย และรักการออกกำลังกายด้วยก็เลือกหูฟังออกกำลังกายที่สามารถกันน้ำกันเหงื่อได้ ดังที่เราได้แนะนำในสินค้าด้านบน ทั้งหมดนี้เป็นหูฟังไร้สายหรือหูฟังบลูทูธที่เราได้คัดสรรมาอย่างดีเพื่อคุณโดยเฉพาะ