สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ชาว bestreview.asia หากใครที่ได้เคยติดตามบทความท่องเที่ยวของเรามาบ้าง เพื่อน ๆ จะรู้ว่าภาคใต้ของเรานั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเยอะมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น เกาะหลีเป๊ะ, เกาะภูเก็ต, เกาะสมุย, เกาะกระดาน หรือ เกาะสิมิลัน ก็ล้วนแล้วแต่หมู่เกาะยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ซึ่งมีจุดเด่นคือน้ำทะเลสีฟ้าใส หาดทรายขาวนวลละเอียด วิวสวย ๆ กลางทะเลในยามที่นั่งดูประอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่สุดแสนจะโรแมนติก รวมถึงยังเป็นแหล่งดำน้ำสำหรับชมปะการังสวย ๆ อีกด้วย
แต่ในวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับสถานที่เที่ยวทะเลอีกหนึ่งแห่งที่สวยงามไม่แพ้กันเลยค่ะ อีกทั้งยังเป็นสถานที่เงียบสงบมีความแปลกใหม่มาก ๆ หากใครที่เบื่อการท่องเที่ยวทะเล แบบแนวถ่ายรูปบนชายหาดหรือดำน้ำดูปะการังธรรมดา ๆ กันแล้ว ครั้งนี้ราจะมาแนะนำการท่องเที่ยวแบบกึ่งๆ สาย Advenger กันบ้างค่ะ เพื่อเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้เพื่อน ๆ อย่าง “การปีนเขาบนหาดไร่เลย์ที่ จ.กระบี่” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจังหวัดของภาคใต้ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติเยอะมาก ๆ ค่ะ ทั้งสระมรกต, เกาะห้อง, หมู่เกาะพีพี, เกาะลันตา, อ่าวนาง รวมถึงหาดไร่เลย์ที่เราจะพาไปเปิดโลกกันในวันนี้ด้วยค่ะ
หาดไร่เลย์ ที่เที่ยวยอดนิยม จ.กระบี่

สำหรับหาดไร่เลย์นั้นหลายๆคนคงคิดว่าเป็น “เกาะ” แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่นะคะ เพราะหาดไร่เลย์ตั้งอยู่บนผืนแผ่นดินแต่มีภูเขาขนาดใหญ่ล้อมรอบทุกทิศทาง ทำให้การเดินทางไปหาดไร่เลย์นั้นสามารถเดินทางไปได้ทางเดียวโดยใช้ “เรือ” เท่านั้นค่ะ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้หาดไร่เลย์ยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติไม่ให้ถูกทำลายไปได้อย่างสวยงาม ดังนั้นเมื่อพื้นที่โดนล้อมรอบไปภูเขาซึ่งมีลักษณะเป็นผาหินปูนมากมาย จุดเด่นของหาดไร่เลย์จึงเป็นกิจกรรมการปีนผาปีนเขาเป็นหลัก และยังเหมาะสำหรับการชม “พระอาทิตย์ตกริมหาด” อีกด้วย
การเดินทางไปหาดไร่เลย์
สำหรับการเดินทางไปหาดไร่เลย์นั้นเพื่อน ๆ จะต้องไปขึ้นท่าเรือที่ “อ่าวนาง” หรือ “อ่าวน้ำเมา” (วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวอ่าวน้ำเมา) ซึ่งครั้งนี้เราจะไปขึ้นท่าเรือกันที่อ่าวน้ำเมากันค่ะ โดยเรือที่จะไปหาดไร่เลย์จะออกทุกชั่วโมงและมีรอบเรือตั้งแต่ 07.30 น. – 18.00 น. ค่าตั๋วเรือเที่ยวละ 100 บาทต่อคน เพื่อนๆสามารถนั่งชิวๆเพื่อรอเรือรอบถัดไปได้เพราะบริเวณใกล้ ๆ ท่าเรือจะมีร้านกาแฟเล็ก ๆ ให้นั่งพักดื่มกาแฟและมีมุมสวย ๆ ให้เราถ่ายรูปเก็บบรรยากาศก่อนขึ้นเรือกันค่ะ

สำหรับเรือโดยสารที่เราใช้เดินทางไปหาดไร่เลย์นั้นจะเป็นเรือหางยาวของชาวบ้านในชุมชนอ่าวน้ำเมา ซึ่งแต่ละลำจะนั่งได้ประมาณ 10-15 คน ทั้งนี้ก็แล้วแต่ขนาดของเรือด้วยค่ะ โดยการเดินทางจากอ่าวน้ำเมาใช่เวลาเพียง 15 -20 นาที อึดใจเดียวก็ถึงหาดไร่เลย์แล้วค่ะ ถือว่าค่อนข้างเร็วมาก ๆ ค่ะ

เมื่อมาถึงหาดไร่เลย์แล้ว หาดที่เรือจอดเข้าเทียบท่าจะเป็นฝั่งตะวันออกของหาดไร่เลย์ ซึ่งเป็นฝั่งเดียวกันกับเส้นทาง ในจุดหมายแรกที่เราจะไปกันในครั้งนี้ค่ะ นั้นก็คือ “ลากูนลับ” หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “Princess Lagoon” นั้นเอง
เมื่อเรือจอดเทียบท่าเราจะเจอทุ่นลอยน้ำเป็นทางเดินที่ยาวมาก ๆ ให้เราเดินขึ้นไปบนหาด สาเหตุที่ทุ่นมีความยาวขนาดนี้เพราะในช่วงเย็นของที่นี้น้ำทะเลจะลงและทำให้เรือไม่สามารถจอดใกล้หาดได้นั้นเองค่ะ
โปรแกรมเที่ยวบนหาดไร่เลย์มีอะไรบ้าง
เมื่อขึ้นถึงบนหาดแล้ว จุดหมายของเราจะอยู่ทางขวามือ ให้เราเดินไปตามทางยาว ๆ เลียบชายหาดไปได้เลยค่ะ ระหว่างทางก็จะมีร้านค้า โรงแรม รีสอร์ทต่าง ๆ ตลอดทาง เมื่อเดินมาเรื่อย ๆ เราจะเจอป้ายแผนที่ทั้งหมดของหาดไร่เลย์ ซึ่งเราสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากจุดนี้ได้ค่ะ หรือเพื่อน ๆ จะถ่ายรูปแผนที่เก็บไว้เพื่อความสะดวกก็ได้นะคะ


เดินตามทางต่อไปเรื่อย ๆ เราจะเจอทางเข้าลากูนลับของเราที่อยู่ไม่ไกลแล้วค่ะ จากนั้นเราจะเจอศาลานั่งพักเหนื่อยเล็ก ๆ หลังหนึ่งตรงปากทางเข้าลากูนและจุดชมวิวของหาดไร่เลย์ ซึ่งจะมีป้ายบอกทางอยู่ว่าทางเข้าอยู่ฝั่งซ้ายมือของเรา ใช่ค่ะทุกคน!! ทางเข้าที่ดูเหมือนจะไม่ใช่ทางเข้าเลยสักนิด เพราะมันเป็นผาสูงที่ในทำมุม 90 องศากับพื้นถนน โดยมีเชือกเส้นใหญ่ผูกนำทางไว้เท่านั้น!!! นาทีนี้คือช่วงวัดใจกันเลยค่ะ OMG!!!

จากรูปก็พอจะเดาออกกันแล้วใช่มั้ยคะว่าในในทริปนี้สิ่งที่ทุกคนควรจะต้องเตรียมพร้อมก่อนมา ที่สำคัญเลยก็คือ “รองเท้าผ้าใบ” “ขวดน้ำดื่ม” และ “ร่างกายที่แข็งแรง” ค่ะ เพราะบอกตรงนี้เลยว่า มันเหนื่อยมาก!! เส้นทางที่ค่อนข้างสูงชันและลื่นมาก ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ฝนเพิ่งตก เพื่อน ๆ ควรลงทุนหารองเท้าดี ๆ ที่ช่วย Support ป้องกันการลื่นไว้ด้วยจะดีมากเลยค่ะ และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ที่เราต้องมีนั้นคือ “กำลังใจ” ค่ะ เพราะนี่เป็นเพียงด่านแรกเท่านั้นยังมีจุดวัดใจอีกหลายจุดรอเราอยู่ข้างบน หากพร้อมกันแล้วก็ไปกันเลยค่ะ!!
ต้องขอบอกก่อนว่าการเดินทางครั้งนี้ ไม่มีเจ้าหน้าที่นำทางให้นะคะ ทุกคนจะต้องใช้ทักษะและความสามารถของตัวเองล้วน ๆ ลักษณะของก้อนหินจะเป็นขั้นบันไดมีซอกหินที่เราสามารถจับและใช้แรงดึงจากแขนและขาขึ้นไปแต่ละขั้นได้ หากจุดไหนมีความชันมากก็จะมีเชือกผูกไว้ช่วยให้ปีนง่ายขึ้นตลอดทางค่ะ

จากจุดทางเข้าแรก ระยะทางปีนขึ้นมาประมาณ 100 เมตร เมื่อมาถึงทางแยกด้านบน จะมีป้ายบอกทางไปลากูนและจุดชมวิวตรงนี้นะคะ

สำหรับทางไปลากูนลับของเรานั้นต้องเดินทางต่อไปทางขวามืออีก 145 เมตร ส่วนทางไปจุดชมวิวจะไปทางซ้ายอีก 100 เมตรค่ะ เดี๋ยวขากลับเราจะพาทุกคนไปดูจุดชมวิวกันนะคะ ส่วนตอนนี้เราต้องรีบไปลากูนก่อนที่น้ำทะเลจะลงค่ะเพื่อน ๆ การเดินทางมาลากูนแนะนำให้มาช่วงเช้าหรือบ่ายนะคะ เพราะหากมาในช่วงเย็น น้ำในลากูนจะแห้งหมดมองไม่เห็นความสวยงามของสีน้ำมรกตและจะเสียเที่ยวด้วยค่ะ

เมื่อเราเดินเข้ามาได้สักระยะหนึ่งจะเจอต้นไม้ใหญ่ ให้เราได้ถ่ายรูปเก็บมุมสวย ๆ ได้อีกหนึ่งจุดค่ะ หลังจากเจอต้นไม้ใหญ่แล้ว ด้านหน้าคือ จุดวัดใจด่านต่อไปของเราค่ะ พร้อมเจอกันรึยังคะ?!


จุดนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดวัดใจของใครหลาย ๆ คน ที่ผ่านทางเข้าแรกมาแล้วเจอจุดนี้ ก็หันหลังกลับไม่กล้าไปต่อ เพราะต่อจากนี้ไปเราต้องปีนลงกันแล้วค่ะ ลักษณะเส้นทางจะเป็นหน้าผาแนวตรง 90 องศาเช่นเคย มีเชือก 2 เส้นให้ค่อย ๆ ไต่ลง ซึ่งจุดนี้ค่อนข้างชันมากเลยทีเดียวค่ะ สิ่งที่ยากของจุดนี้คือเราไม่สามารถมองเห็นแนวหินด้านล่างได้เลยจนกว่าเราจะปีนลงไปได้ระดับหนึ่งก่อน แล้วหินที่เราจะต้องเหยียบเพื่อค่อย ๆ ไต่ลงไปนั้นจึงจะมองเห็นค่ะ
เอาละคะยังไม่จบเพียงแค่ตรงนี้ เพราะหลังจากผ่านจุดนี้มาได้ ยังมีจุดต่อไปรอเราอยู่ แน่นอนค่ะว่าระดับความยากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่อีกนิดเดียวเราจะถึงจุดหมายกันแล้ว เห็นไมคะ Princess Lagoon รอเราอยู่ข้างล่างไม่ไกลแล้ว ใกล้ถึงแล้วไปต่อค่ะเพื่อนๆ!!
ด่านสุดท้ายของจุดนี้คือเราต้องรอดรูเล็กๆลงไปอีกหนึ่งจุด ซึ่งรูที่เห็นั้นมีขนาดเท่ากับ 1 คนรอดไปได้ ไม่เหมาะกับคนที่กลัวความแคบหรือคนที่มีรูปร่างใหญ่นะคะ เพราะอาจจะผ่านจุดนี้ไปไม่ได้ และยังเป็นเพียงเส้นทางเดียวในการไปถึงลากูนด้านล่างด้วยค่ะ

จากจุดนี้ปีนลงไปอีกไม่ไกลแล้วค่ะเพื่อน ๆ ขอบอกว่าหนทางปีนไม่มีจุดไหนยากแล้วค่ะ และแล้วเราก็มาถึง……..สิ่งที่เราตั้งใจจะมาให้เจอ เอาละคะเตรียมชุด เตรียมกล้อง เตรียมท่าโพส ให้พร้อมนะคะ เพราะมันสวยมากกกกกก!!!!!! คุ้มค่ากับความเหนื่อยแน่นอนค่ะ





ขอบอกเลยว่าน้ำใสมาก สีของน้ำออกเป็นสีเขียวมรกต หากเรามาในช่วงที่แดดกำลังดี น้ำจะเป็นสีเขียวสวยกว่านี้อีกค่ะ ซึ่งน้ำในลากูนนี้สามารถลงเล่นน้ำได้นะคะ แต่ระวังหินบาดเท้าด้วยเพราะหินค่อนข้างคมแนะนำให้เตรียมรองเท้าเดินในน้ำมาด้วยก็ดีค่ะ และหากเพื่อน ๆ สงสัยว่าลากูนแห่งนี้เกิดขึ้นจากอะไรทำไมจึงสวยขนาดนี้ เราก็ไปหาข้อมูลมาฝากเพื่อน ๆ แล้วค่ะ เนื่องจากลากูนลับแห่งนี้เกิดจากการยุบตัวลงของภูเขาหินปูนจึงทำให้มีน้ำทะเลไหลผ่านเข้ามาเกิดเป็นแอ่งน้ำมรกตที่สวยงาม และมีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียว เพราะฉะนั้นเราจะต้องกลับทางเดิมที่เรามานะคะ
เมื่อชื่นชมความสวยงามลากูนกันจนจุกใจกันแล้ว จุดต่อไปเราจะพาไปชมจุดชมวิวบนหาดไร่เลย์กันค่ะ

เพื่อน ๆ ยังจำจุดชมวิวขึ้นไปจากป้ายบอกทาง 100 เมตรได้ใช่มั้ยคะ? จุดที่เห็นในภาพนี้แหละค่ะที่จะมองเห็นทรรศนิยภาพของหาดได้อย่างสวยงามเกินคำบรรยาย อย่าลืมเก็บภาพสวยๆเป็นที่ระลึกกันด้วยนะคะทุกคน จุดนี้ยังถือว่าขึ้นมาไม่ยากมาก แต่หากจะขึ้นสูงกว่านี้ ต้องมีทักษะในการปีนผาและความแข็งแรงของร่างกายค่อนสูงค่ะ จบจากตรงนี้เราจะเดินทางกลับโดยใช้เส้นทางเดิม แต่ที่เราจะไปชมต่อก็คือ “ถ้ำพระนาง” กันค่ะ

เมื่อลงมาจากเขาเดินต่อไปตามเส้นทางเมื่อสุดทางเราจะเจอหาดค่ะ ซึ่งซ้ายมือจะเป็นถ้ำพระนาง และสุสานหอย


ตรงจุดนี้หามุมสวยๆ ถ่ายรูปได้เลยค่ะ และหากใครที่พักที่นี้ก็สามารถรอชมพระอาทิตย์ตกตอนเย็นกันได้ค่ะ จะสวยมากๆ
![]() | ไร่เลย์ ภูตะวัน รีสอร์ท Railay Phutawan Resort | |
![]() | วิลล่ามาคาค แอนด์ วิลล่าแลงเกอร์ Villa Macaque and Villa Languor | |
![]() | อวตาร ไรเลย์ รีสอร์ต Avatar Railay Resort | |
![]() | ไร่เลย์ เบย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา Railay Bay Resort & Spa (SHA Plus) |

อันที่จริงแล้วบนหาดไร่เลย์ยังมีอีกหลายจุดที่เรายังพาชมไม่หมด หากใครได้มาสามารถเดินชมหาดได้ทั้ง 2 ฝั่งได้นะคะ ซึ่งยังมีที่พัก รีสอร์ท 5 ดาวไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกมากมายเลยค่ะ สำหรับ One Day Trip ที่หาดไร่เลย์ในวันนี้ เราต้องขอจบการีวิวไว้แค่นี้นะคะ ไว้มีโอกาสจะมารีวิวที่อื่น ๆให้ทุกคนได้ชมกันอีกนะคะ
