หากพูดถึงสงขลาก็เชื่อว่าหลาย ๆ คุณอาจจะนึกถึงหาดใหญ่เป็นลำดับแรก บ้างก็อาจจะยังงง ๆ ว่าจริง ๆ แล้ว จังหวัดสงขลาหรือจังหวัดหาดใหญ่กันแน่ (อิอิ) ซึ่งก็ต้องบอกเลยค่ะว่าหาดใหญ่เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดสงขลาเท่านั้นค่ะไม่ใช่จังหวัดเด้อทุกคน ซึ่งหากว่าใครมีโอกาสได้มาเที่ยวสงขลาก็เป็นอันต้องแวะเวียนไปซื้อของกินและของฝากที่ตลาดกิมหยง จากนั้นก็ต้องแวะถ่ายรูปกับนางเงือกแสนสวยที่หาดสมิหลาสักเล็กน้อย และไหน ๆ ก็เข้ามายังตัวเมืองสงขลาทั้งทีก็ต้องแวะไปสักการะกรมหลวงชุมพร จบจากการขอพรแล้วก็ต้องแวะมาท่านของอร่อย ๆ ที่ย่านเมืองเก่าสงขลาก่อนจะรีบเซย์กูดบายบึ่งรถกลับไปยังหาดใหญ่ทันที ซึ่งจริง ๆ แล้วในตัวเมืองสงขลาก็มีทั้งที่เที่ยว, ที่กิน และที่พักอีกมากมายให้คุณได้เปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวใหม่ ๆ อยู่นะคะ

พอพูดถึงที่เที่ยวในตัวเมืองสงขลาจริง ๆ ก็มีอยู่หลากหลายที่เลยแหละทั้งสวนสาธารณะเมืองสงขลา, เขาตังกวน, หัวนายแรง, ประติมากรรมพญานาคพ่นน้ำ, ถนนคนเดิน, ตลาดนัดวันอาทิตย์ และอีกที่ไม่ควรพลาดนั่นก็คือเกาะยอนั่นเองค่ะ เกาะยอถือเป็นเกาะขนาดเล็กที่มีสวยงามและยังเต็มไปด้วยจุดเช็กอินสุดคูลหลายแห่งด้วยกันค่ะ

แต่ทีเด็ดของเกาะยอที่ใครไปใครมาจะต้องหาโอกาสแวะไปให้ได้นั่นก็คือร้านอาหารค่ะเพราะเกาะยอมีร้านอาหารอยู่มากมาย (โดยเฉพาะอาหารทะเลสด ๆ) หลายแห่งโดยแต่ละที่ก็จัดเสิร์ฟเมนูอาหารใต้จานเด็ด รสชาติจัดจ้าน แถมวัตถุดิบหลักของแต่ละร้านก็สดเพราะส่งตรงมาจากทะเลเกาะยอนั่นแหละ เอาเป็นว่าอย่ามัวรีรอเรามาดูกันเลยค่ะว่าร้านอาหารที่เกาะยอที่ถือว่าเด็ดและต้องลองให้ได้จะมีร้านอะไรกันบ้าง แล้วแต่ละร้านนั้นมีของดีของเด็ดอะไรวันนี้เราก็ได้รวบรวมมาให้คุณแล้วค่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าจะมีร้านอาหารไหนบ้างบนเกาะยอ

1. ร้านศิรดา

ร้านศิรดาเป็นร้านอาหารที่เปิดบริการมานานมาก ๆ ซึ่งนี่ก็คงพอจะการันตีได้นะคะว่าอร่อยหรือไม่อร่อย เพราะมิฉะนั้นแล้วคงไม่เปิดมานานขนาดนี้แน่นอน อิอิ ที่ตั้งของร้านตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่และหน้าร้านก็มีป้ายชัดเจนไม่มีหลงทางแน่นอน แถมทางร้านยังมีที่จอดรถที่สะดวกสุด ๆ อีกด้วยค่ะ

ภายในร้านจะมีทั้งที่นั่งแบบอินดอร์และเอาท์ดอร์ให้คุณได้เลือก แต่ถ้าหากเป็นไปได้แนะนำให้เลือกที่นั่งด้านนอกค่ะเพราะลมพัดเย็นสบาย บรรยากาศก็เลิศ วิวสวยทั้งตอนเย็นและตอนค่ำ ส่วนอาหารก็อร่อยโดยเฉพาะอย่างอาหารทะเลคือสดมากขอบอก เนื้อหวาน หอมอร่อย ซึ่งเมนูแนะนำที่คุณต้องลองให้ได้ก็คือเมนูยำไข่แมงดาตัวโต ๆ ไข่เต็มจาน ปลาหมึกนึ่งมะนาวที่มาพร้อมไข่เน้น ๆ แกงส้มปลายอดมะพร้าวที่เจ้มจ้นโดนใจ และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้ก็ต้องห่อหมกมะพร้าวอ่อนนะจ๊ะ นอกจากนี้แล้วก็ยังมีอีกหลากหลายเมนูให้คุณได้ลิ้มลอง แต่เอาเป็นว่าไม่ขอพูดเยอะดีกว่าเรื่องอย่างนี้ต้องไปเองแล้วกันเนอะ อิอิ

2. ร้านน้ำเคียงดิน

ขอเปลี่ยนบรรยากาศจากการทานอาหารริมทะเลมาเป็นการทานอาหารพร้อมกับวิวมุมสูงกันที่ร้านน้ำเคียงดินกันบ้างดีกว่า โดยร้านน้ำเคียงดินตั้งอยู่บนเนินเขาที่ไม่สูงมากแต่ก็สูงพอที่จะให้คุณได้มองเห็นวิวของทะเลสาบสงขลาและสะพานติณสูลานนท์ได้แบบพาโนรามา โดยช่วงเวลาที่แนะนำคือช่วงเย็นไปจนถึงช่วงกลางคืนค่ะเพราะว่าในช่วงนี้อากาศจะไม่ร้อนมาก จะก็แค่มีลมเย็น ๆ พัดผ่าน และที่สำคัญคือแสงไฟจากรถลาบนถนนและจากสะพานติณทางฝั่งข้ามไปยังสิงหนครนั้นสวยงามจริง ๆ ค่ะ

ส่วนในเรื่องของอาหารที่นี่ก็จัดว่าเด็ดไม่แพ้ที่อื่นเลยแหละ เมนูที่คุณจะต้องลองให้ได้ก็คือยำน้ำเคียงดิน, ปลาทรายทอดกระเทียม, ใบเหลียงผัดไข่, ยำถั่วพู สำหรับใครที่เดินทางไปกับรถยนต์ส่วนตัวก็ไม่ต้องกังวลค่ะเพราะทางร้านมีที่จอดรถที่ค่อนข้างกว้างขวาง เอาเป็นว่าใครอยากจะอิ่มทั้งอาหารและอิ่มทั้งบรรยากาศแบบ top view ก็ขอเชิญทางนี้เลยจ้า

3. ร้านลุงจิ้วซีฟูดส์ เกาะยอ

ไม่ใกล้ไม่ไกลจากร้านน้ำเคียงดินมากนักก็จะเป็นร้านอาหารขนาดเล็กที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสวรรค์ของคนที่รักอาหารทะเลเลยก็ว่าได้ค่ะซึ่งนั่นก็คือร้านลุงจิ้วซีฟูดส์นั่งนเอง ร้านอาหารลุกจิ้วตั้งอยู่ติดทะเล บรรยากาศดี ให้บริการที่เป็นกันเองสุด ๆ ทางร้านจะเสิร์ฟอาหารที่ทำจากอาหารทะเลสด ๆ รสชาติกลมกล่อมและถือว่าเป็นรสชาติที่จัดจ้านมาก ๆ เพราะไม่ว่าจะเปรี้ยว หวาน เค็ม หรือเผ็ดก็มาครบสมกับเป็นร้านอาหารปักษ์ใต้ที่แท้ทรู ซึ่งใครที่สามารถทานรสจัดได้ก็ต้องจัดเลยค่ะ

แน่นอนว่าเมนูเด็ดของที่นี่ก็ไม่ใช่อะไรอื่นไกลนอกจากเมนูอาหารทะเลอย่างกุ้งราดซอสมะขามอันนี้บอกเลยว่าเด็ดสุด เนื้อกุ้งเด้งสู้ฟันราดซอสมะขามหอม ๆ มาแบบจุก ๆ รสชาติเปรี้ยวหวานทานเพลินเลยทีเดียวค่ะ ต่อมาก็จะเป็นแกงส้มปลากะพงซึ่งนี่ก็ถึงรสชาติแกงส้มของแท้ อร่อยเด็ด รสชาติจัดกำลังดี และอีกอย่างที่ต้องสั่งก็คือเมนูปูนึ่งค่ะเพราะปูสด ๆ เมื่อนำมานึ่งก็ให้เนื้อที่หวานหอมอร่อยสุด ๆ ไม่ได้โม้นะขอบอก…

4. ร้านมหัศจรรย์เกาะยอ

มาต่อกันที่อีกหนึ่งร้านค่ะที่เรียกได้ว่าเด็ดไม่เป็นสองรองใครเลยแม้แต่น้อยนั่นก็คือร้านที่มีชื่อเก๋ ๆ ว่าร้านมหัศจรรย์นั่นเองค่ะ แต่ก่อนที่จะไปพูดถึงรสชาติอาหารของทางร้านนั้นก็ต้องขอบอกก่อนเลยว่าร้านอาหารแห่งนี้ยังเป็นร้านที่ตอบโจทย์คนที่ชอบถ่ายรูปมาก ๆ เพราะนอกจากตัวร้านจะตั้งอยู่ติดกับทะเลแล้วก็ยังมีส่วนที่ยื่นออกไปในทะเลแล้วนั้น บรรยากาศในร้านเองก็สวยงามสุด ๆ แถมยังมีมุมต่าง ๆ ให้ถ่ายรูปเยอะแยะมากมาย พอถึงในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ทางร้านก็จะมีการตกแต่งประดับประดาด้วยไฟและพร๊อพต่าง ๆ เพื่อให้ได้บรรยากาศที่แปลกใหม่มากขึ้นค่ะ

ในส่วนของอาหารก็จะเป็นอาหารใต้จากวิตถุดิบสดใหม่จากทะเล รสชาติก็จะค่อนข้างจัดจ้านถือว่าอร่อยเลยแหละเพราะเป็นรสชาติเดียวกับที่คนใต้ชื่นชอบนั่นเองค่ะ ส่วนเมนูเด็ดของทางร้านที่บอกต่อกันปากต่อปากว่าต้องลองให้ได้ก็อาทิเช่น แกงส้มปลากะพงยอดมะพร้าว, ยำมหัศจรรย์, แกงส้มไข่ปลาริวกิว, กุ้งราดซอสมะขาม และที่ขาดไม่ได้อีกอย่างนั่นก็คือยำสาหร่ายผมนางซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในอาหารขึ้นชื่อของเกาะยอเลยนะคะ ฉะนั้นแล้วมาถึงถิ่นจะไม่สั่งไปลองสักจานก็ไม่ได้เลยเชียว

5. ป้าแอ๋วหอยทอด ผัดไทย

นอกจากอาหารทะเลของที่นี่จะเป็นที่เลื่องลือแล้วนั้น เกาะยอก็ยังมีร้านขายผัดไทยและหอยทอดที่ใครไปใครมาก็ต้องแวะมาลองกันให้ได้เพราะไม่งั้นจะถือว่าผิดอย่างมหันต์! (หยอกๆ) ร้านผัดไทยที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ก็คือผัดไทยป๋าแอ๋วที่นอกจากราคาจะน่าคบหาแล้วนั้น ป้าแอ๋วก็ยังใจดีให้ผัดไทยมาในปริมาณที่เยอะจุก ๆ ไปซื้อกี่ครั้งต่อกี่ครั้งคือกินไม่เคยหมดเลยสักครั้ง ไม่ใช่ไม่อร่อยนะคะทุกคนแต่คือมันเยอะเกินไปสำหรับผู้หญิงตัวน้อย ๆ แบบเรา (เหรอ!!) นอกจากร้านป๋าแอ๋วจะมีผัดไทยแล้วนั้นทางร้านก็ยังมีหอยทอด ผัดซีอิ๊ว ราดหน้า ข้าวผัด ข้าวคลุกกะปิ และสุกี้ด้วยเด้อ

ซึ่งถ้าหากใครจะแวะไปทานก็แนะนำให้ทานที่ร้านเลยค่ะเพราะนอกจากจะได้ทานผัดไทยร้อน ๆ หอมฉุยแล้วนั้นก็ยังได้บรรยากาศด้วยนะคะ เพราะร้านของป้าจะมีโต๊ะเล็ก ๆ ให้ได้นั่งทานกันใต้ต้นไม้ที่แสนจะร่มรื่นและเงียบสงบ อ่อ…ร้านของป้าของหมดไวมากหากจะอยากทานให้ครบทุกอย่างควรแวะไปให้เร็วนิดนึงนะคะ

6. ร้านส้มตำป้าเอียดเกาะยอ

ฮัลโหล ๆ ใครที่ชอบทานส้มตำร้านป้าเอียดอยากบอกว่าตอนนี้ร้านย้ายไปอยู่ที่ใหม่แล้วนะคะแต่ที่ใหม่ก็ไม่ไกลจากที่เดิมมากขับเลยจากที่เก่าไปสักเล็กน้อย ร้านจะอยู่ที่สามแยกโรงเรียนวัดท้ายยอนะจ๊ะ ส่วนพิกัดที่เราใส่ไปนี้จะเป็นพิกัดร้านใหม่น๊าไปตามกันได้เลยจ้า ร้านส้มตำป้าเอียดก็แน่นอนว่าเป็นร้านขายอาหารอีสานอยู่แล้วนะคะ รสชาติก็ไม่ต้องบรรยายเยอะเพราะแซ่บนัวได้ใจ แถมราคาก็ไม่แพงเลยค่ะท่านผู้ชม!! ดังนั้นคุณจึงสามารถจัดเต็มได้ทุกเมนูในราคาที่สบายกระเป๋าสุด ๆ

เมนูแนะนำของทางร้านก็จะเป็นส้มตำ ต้มแซ่บ คอหมูย่าง และอีกมากมาย อยากจะบอกว่าช่วงเที่ยงคนจะค่อนข้างเยอะนะคะอาจต้องรอนานหน่อย แต่ถ้าใครไม่ชอบรอก็สามารถไปทานก่อนหรือหลังเที่ยงได้ค่ะ อ่อเกือบลืมไปเลย ร้านใหม่ที่ย้ายไปนั้นมีที่จอดรถค่อนข้างกว้างขวางเลยแหละ คราวนี้ใครที่เคยแอบบ่นว่าหาที่จอดยากก็ต้องบอกเลยว่า…ไม่ใช่แล้วนะจ๊ะ!

7. ร้านโจอิจิ ซูชิ เกาะยอ

อาหารไทยก็มีแล้ว อาหารอีสานก็มีแล้วเช่นกัน ดังนั้นต่อมาก็ต้องอาหารญี่ปุ่นเลยจ้าแม่ ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้มีชื่อว่าโจอิชิ ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามและและเป็นส่วนตัวไม่วุ่นวายมากเกินไป ถือเป็นร้านเล็ก ๆ ที่เหมาะสำหรับเติมพลังกายและพลังใจมาก ๆ เลยค่ะ แต่เดิมร้านจะมีเพียงเรือนไม้และโต๊ะไม่กี่โต๊ะเท่านั้น แต่พักหลังมานี่ร้านดังใหญ่เลยค่ะเลยทำให้ต้องขยายที่นั่งให้เพิ่มมากขึ้น แต่ก็ไม่ว่าจะวันนั้น วันนี้ หรือวันไหนโจอิชิก็ยังรักษามาตรฐานความอร่อยได้แบบเดิมเป๊ะ

อาหารทุกอย่างพี่เจ้าของร้านใส่ใจสุด ๆ แถมยังเลือกวัตถุดิบคุณภาพอย่างดีเลยด้วย จริง ๆ แล้วร้านนี้ไม่ใช่จะมีเพียงอาหารญี่ปุ่นอย่างซูชิอย่างเดียวเท่านั้นนะคะแต่ยังมีของหวาน เครื่องดื่ม และเมนูท่านเล่นอื่น ๆ อีกเพียบเลยด้วย และล่าสุดทางร้านก็มีเมนูใหม่สุดพิเศษมานำเสนอนั่นก็คือเมนูแก้มปลาฮามาจิที่คุณสามารถเลือกได้ว่าต้องกินแบบย่าง ทอด หรือต้มซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งเมนูน้องใหม่ที่จะต้องไปลองทานให้ได้เลยนะคะทุกคน

8. ร้าน Sunset Café

ร้าน Sunset Café เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ใกล้ ๆ กับร้านลุงจิ้วเลยค่ะ ร้านอาหารจะเป็นร้านที่ไม่เล็กไม่ใหญ่มากแต่บรรยากาศดี พร้อมกับมีลานโล่ง ๆ ให้สามารถออกไปถ่ายรูปกันด้วยนะ ตัวร้านเปิดโล่งค่ะทำให้ไม่ร้อนสามารถนั่งเล่นชิว ๆ ได้สบายเลยแหละ ส่วนอาหารของที่นี่ก็จะมีทั้งอาหารไทยจากวัตถุดิบสด ๆ จากทะเล อาหารอิตาเลียน และอื่น ๆ อีกมากมาย ทีเด็ดของทางร้านเลยก็คือพิซซ่าแบบโฮมเมดเครื่องแน่นจัดเต็มและสเต๊กอย่างดีที่คัดสรรมาจากเนื้อคุณภาพเยี่ยมซึ่งทั้งหมดก็มาในราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้

อีกหนึ่งทีเด็ดของที่นี่ที่ดูท่าจะถูกอกถูกใจคอเบียร์มากเป็นพิเศษก็คือทางร้านจะมีเบียร์เย็น ๆ ให้ได้เลือกดื่มกันเพียบเลยค่ะ สำหรับใครที่เบื่อ ๆ กับอาหารแบบเดิม ๆ อยากจะลองอาหารสไตล์ฝรั่งบ้างอะไรบ้างก็ต้องจัดสักมื้อ อ่อ! เกือบลืมอีกละอยากบอกว่าถ้าอยากได้บรรยากาศที่สวยและโรแมนติกแนะนำว่าต้องไปช่วงเย็นหรือช่วงพระอาทิตย์ตกก็จะสวยมาก ๆ สมกับชื่อร้านว่า Sunset นั่นเองค่ะ

9. ร้านใบบุญ

ร้านต่อมาก็จะเป็นร้านอาหารเล็ก ๆ ตั้งอยู่แถวย่านชุมชน โดยตัวร้านจะตั้งอยู่ก่อนถึงวัดเขาบ่อแต่ถ้าหากใครที่เข้ามาทางพิพิธภัณฑ์ทักษิณคดีก็ขับเลยวัดมาอีกนิดก็ถึงแล้วค่ะ อยากบอกว่าร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านที่ควรค่าแก่การไปลองสักครั้งเพราะเมนูของทางร้านนั้นค่อนข้างที่จะหลากหลายค่ะทั้งอาหารอีสาน อาหารตามสั่ง และที่เลิศกว่าใครนั่นก็คืออาหารพื้นบ้านที่จัดเต็มทั้งรสชาติที่จัดจ้านโดนใจในราคาที่ไม่แรง

เมนูเด็ดของที่ร้านก็มีทั้งเมนูหมึกไข่ต้มหวาน, ผัดเผ็ดปลามิหลังหรือปลาดุกทะเล, ต้มส้มปลากระบอก แล้วนอกจากนี้ก็ยังมีเนื้อสัตว์หายากให้ลองด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหมูป่า, กบ และอื่น ๆ หน้าร้านจะอยู่ติดกับถนนรอบเกาะทำให้มีที่จอดรถที่ค่อนข้างจำกัด แต่ถึงอย่างไรก็แนะนำให้ลองค่ะเพราะอาหารอร่อย บรรยากาศดี ถ่ายรูปสวย และบริการเป็นกันเองดีมาก ๆ เลยค่ะ

10. ร้านชายเขาซีฟู้ด

และสำหรับร้านอาหารร้านสุดท้ายในวันนี้ก็เป็นร้านที่อาจจะดูใหม่สำหรับหลาย ๆ คนแต่ในเรื่องของรสชาติและบรรยากาศก็ดีงามไม่แพ้ร้านอื่น ๆ เลยแม้แต่น้อย เริ่มจากทำเลของตัวร้านกันก่อนนะคะโดยร้านชายเขานั้นจะต้ังออกห่างจากย่านชุมชนสักเล็กน้อยทำให้บรรยากาศค่อนข้างที่จะเงียบสงบ ไม่มีผู้คนพลุกพล่านมากเกินไป แถมบรรยากาศก็สวยงามสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้แบบสุดลูกหูลูกตาแบบไม่มีอะไรกั้นเลยทีเดียว แล้วยิ่งตอนพระอาทิตย์กำลังตกดินนะอืม…บรรยากาศนี่คือโรแมนติกสุด ๆ เลยค่ะ

ทางร้านจะจัดเสิร์ฟอาหารใต้ที่มาจากอาหารทะเลเป็นหลักนะคะ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลาก็มากันครบเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารทั่ว ๆ ไปด้วยเช่นกัน เรื่องของราคาถือว่ากำลังดีค่ะคุ้มค่าสมเหตุสมผล โดยร้านแห่งนี้นอกจากจะเป็นร้านอาหารแล้วนั้นก็ยังเปิดบริการเป็นโฮมเสตย์และเปิดให้เช่าเป็นพื้นที่สำหรับตกปลาด้วยนะคะ เรียกได้ครบวงจรจริง ๆ เลยทีเดียว

และทั้งหมดนี้ก็คือ 10 ร้านอาหารในเกาะยอที่เราได้คัดสรรมาให้กับทุกคนค่ะ โดยจะเห็นได้ว่าร้านที่เราเลือกมานั้นมีทั้งอาหารไทย อาหารทะเล อาหารอีสาน และอาหารฝรั่งรวมไปถึงทำเลที่ตั้งของแต่ละร้านก็แตกต่างกันไปด้วยนะคะซึ่งในส่วนนี้ก็หวังว่าน่าจะตอบโจทย์ความต้องการของเพื่อน ๆ ได้ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว สำหรับใครที่เดินทางมาเที่ยวเกาะยอทั้งทีหากว่าพอจะมีเวลาก็ลองพักที่นี่ดูสักคืนนะคะเพราะบรรยากาศในตอนเช้า กลางวัน และช่วงเย็นของเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ช่างสวยงามและก็ยังให้ความรู้สึกดีที่แตกต่างกันค่ะ

นอกจากวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเกินจะบรรยายแล้วนั้นเกาะยอก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายให้คุณได้เยี่ยมชมกันด้วยนะคะ ทั้งคาเฟ่วิวทะเล คาเฟ่วิวสวยจากมุมสูง วัดวาอารามให้คุณได้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะยอเคารพนับถือ ชมพระอาทิตย์ตกแบบพาโนลามาที่จุดชมวิว และเกาะยอแห่งนี้ก็ยังเป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการปั่นจักรยานอีกด้วยนะคะ เอาเป็นว่าถ้าหากมีโอกาสได้มาเยี่ยมเยือนจังหวัดสงขลาก็อย่าลืมหาโอกาสมาเที่ยวเกาะยอให้ได้เลยนะคะทุกคน

ทำความรู้จัก “เกาะยอ” 

ก่อนที่เราจะไปเริ่มรีวิวกันนั้นเราก็มาทำความรู้จักกับเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้กันก่อนดีกว่านะคะ เกาะยอเป็นเกาะขนาดเล็กที่มีพื้นที่ประมาณ 15 ตร.กม.ตั้งอยู่กลางทะเลสาบสงขลา มีสะพานติณสูลานนท์เชื่อมทั้ง 2 เข้ากับแผ่นดินใหญ่ ภายในเกาะก็จะมีถนนหลักซึ่งเป็นถนนที่วนรอบ ๆ เกาะทั้ง 9 หมู่บ้าน ซึ่งถนนเส้นนี้จะให้คุณได้ชมความสวยงามของธรรมชาติสองข้างทางและยังได้ชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเกาะยอด้วยค่ะ

ชาวบ้านบางใหญ่จะประกอบอาชีพทำสวนผลไม้ผสมผสาน ซึ่งผลไม้ที่ขึ้นชื่อของที่นี่เลยก็คือจำปาดะ, ละมุดหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ‘ลูกสวา’, ส้มโอ, ขนุน, ลางสาด, กระท้อน และอีกมากมายเลยค่ะ ในขณะที่บางส่วนที่อาศัยติดกับทะเลนั้นจะประกอบอาชีพประมงจับสัตว์น้ำและเลี้ยงปลากะพง ส่วนสาว ๆ ในละแวกนี้ก็มักจะทำมันกุ้งปักษ์ใต้แต่ช่วงไหนที่แดดดีหน่อยและมีกุ้งตัวเล็ก ๆ อยู่เยอะก็จะทำกะปิขายนั่นเองค่ะ

นอกจากนี้เกาะยอก็ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการทอผ้าอีกด้วยนะทุกคน ผ้าทอเกาะยอเป็นผ้าพื้นเมืองที่มีมาเนิ่นนาน เอกลักษณ์ของผ้าทอเกาะยอคือ ลายจะค่อนข้างถี่และเป็นลายที่เล็กมาก ๆ ทำให้ต้องใช้ทั้งฝีมือ ประสบการณ์ และความประณีตสูง โดยลายที่เป็นเอกลักษณ์ของผ้าทอเกาะยอเลยก็คือ ลายราชวัตรนั่นเองค่ะ

หลังจากที่คุณได้มีโอกาสท่องเที่ยวรอบ ๆ เกาะยอแล้วอยากที่จะซื้อของฝงของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านก็จอดแวะซื้ออาหารแห้ง ผลไม้ หรือผ้าเกาะยอได้ที่ตลาดเกาะยอได้เลยนะคะ ส่วนใครที่ติดอกติดใจอยากจะพักที่นี่สักคืนก็สามารถพักที่เกาะยอแห่งนี้ได้เลยค่ะเพราะที่นี่ก็มีทั้งโรงแรม รีสอร์ท และโฮมสเตย์กลางน้ำให้ได้เลือกพักกันหลายแห่งเลยค่ะ แต่ที่พักแนะนำให้จองล่วงหน้านะคะทุกคนโดยเฉพาะใครที่มีแพลนจะไปพักวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์เพราะเป็นช่วงที่เกาะยอคึกคักสุด ๆ นั่นเองค่ะ