ช่วงนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี ที่ผู้คนเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวกันค่ะ เนื่องจาก สถานการณ์โควิด 19 เริ่มลดลงไปบ้างแล้ว และมีหลาย ๆ จัดหวัดที่เริ่มนำร่อง การท่องเที่ยวแบบ New Normal ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวยุคใหม่ที่เน้น การเว้นระยะห่าง และการดูแลตัวเองอย่างใกล้ชิด เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถท่องเที่ยวไปได้ทั่วไทยแล้วล่ะค่ะ
ไหนใครมีจังหวัดในใจกันแล้วบ้างคะ? ว่าอยากไปที่ไหนกัน จะเป็นทะเลที่ จังหวัดกระบี่/จังหวดภูเก็ต หรือจะขึ้นดอยที่ จังหวัดเชียงใหม่ บอกเลยว่าไม่ว่าที่ไหนคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศระหว่างทางที่ดีแน่นอน แต่หากพูดถึงจังหวัดที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานของไทย นอกจากจังหวัด อยุธยา, นครปฐม, บุรีรัมย์ หรือ จังหวัดราชบุรี แล้ว ‘อ่างทอง’ ยังเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีผู้คนอยู่อาศัยมานานนับพันปี เรียกได้ว่าตั้งแต่ก่อนยุคประวัติศาสตร์เสียด้วยซ้ำค่ะ
ในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปชมความงดงามตระการตาของวัดและแหล่งโบราณสถานต่าง ๆ ในจังหวัดอ่างทองกัน บอกเลยว่าถึงจะเป็นเมืองรอง แต่ “สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดอ่างทอง” นั้น สวยงามไม่เป็นรองใครแน่นอนค่ะ
ทำความรู้จัก “จังหวัดอ่างทอง” (1,2)
“..พระสมเด็จเกษไชโย หลวงพ่อโตองค์ใหญ่ วีรไทยใจกล้า ตุ๊กตาชาววัง
โด่งดังจักสาน ถิ่นฐานทำกลอง เมืองสองพระนอน..”
เปิดตัวกันด้วยคำขวัญของจังหวัดอ่างทองค่ะ จากคำขวัญจะเห็นได้ว่าที่นี่โด่งดังทั้งในเรื่องของพระพุทธรูป, ประวัติศาสตร์, งานฝีมือ รวมไปถึงวัดวาอารามต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีจุดเด่นหลายด้านมาก ๆ ลักษณะภูมิประเทศนั้นจะเป็นที่ราบลุ่ม รูปร่างคล้ายอ่าง ไม่มีภูเขา ดินส่วนใหญ่จะเป็นดินเหนียวปนทราย เหมาะแก่การนำมาปั้นเป็นตุ๊กตาต่าง ๆ รวมไปถึงการปลูกข้าว ทำไร่ ทำนา ก็เช่นกันค่ะ
จังหวัดอ่างทองอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครเพียง 110 กิโลเมตรเท่านั้น เรียกได้ว่าสามารถขับรถมาเที่ยวได้อย่างชิล ๆ ในวันหยุดค่ะ จังหวัดอ่างทองนั้นจะมีทั้งสิ้น 7 อำเภอ โดยทิศเหนือจะติดกับจังหวัดสิงห์บุรีและจังหวัดลพบุรี ทิศใต้และทิศตะวันออกติดกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่วนทิศตะวันตกติดกับจังหวัดสุพรรณบุรีนั่นเองค่ะ ส่วนใครที่แพลนจะมาเที่ยวที่นี่ก็อย่าลืมเช็คสภาพอากาศให้ดีนะคะ เพราะจังหวัดอ่างทองในช่วงเดือน พฤษภาคม-กันยายน จะมีฝนตกชุกตลอดในช่วงนี้ค่ะ
1. วัดม่วง

แผนที่ | กดเพื่อไปยังหน้า Google Maps |
ที่ตั้ง | ตำบลหัวตะพาน อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน |
ค่าธรรมเนียม | ไม่มีค่าธรรมเนียม |
วัดม่วง ตั้งอยู่ที่ตำบลหัวตะพาน อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยเมื่อก่อนนั้นวัดม่วงเป็นวัดที่ร้างมานานตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายเลยค่ะ จนกระทั้งปี พ.ศ. 2526 ท่านพระครูวิบูลอาจารคุณ (หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ) ได้ธุดงค์มาถึงวัดร้างแห่งนี้และเห็นว่าเหมาะแก่การนั่งปฏิบัติธรรม จึงได้เริ่มนั่งสมาธิและได้นิมิตเห็นหลวงปู่ขาวและหลวงปู่แดงมาบอกว่าให้ช่วยบูรณะวัดขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่นั้นมาหลวงพ่อเกษมก็เริ่มมีการบูรณะและสร้างอารามต่าง ๆ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
วัดม่วงเป็นวัดที่มีอารามสวยงาม ตระการตา จุดเด่นของวัดนี้คือเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่มีพระนามว่า “พระพุทธมหานมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ” ที่ได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีความสูงถึง 93 เมตร และใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 16 ปีเลยทีเดียว (1)
2. วัดสี่ร้อย

แผนที่ | กดเพื่อไปยังหน้า Google Maps |
ที่ตั้ง | ตำบลสี่ร้อย อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน |
ค่าธรรมเนียม | ไม่มีค่าธรรมเนียม |
วัดสี่ร้อยเป็นวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน้อย อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2314 หรือประมาณ 250 ปีที่แล้ว (1) เรียกได้ว่าเป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งที่ชาวอ่างทองนิยมมากราบไหว้และบูชากันมากมาย ส่วนเหตุที่ได้ชื่อว่าวัดสี่ร้อยนั้น เพราะตัววัดตั้งอยู่ในตำบลสี่ร้อยนั่นเองค่ะ
โดยวัดสี่ร้อยนั้นได้มีตำนานเล่าขานกันว่าในอดีตกษัตริย์พม่าได้ยกทัพมาตีตะนาวศรีและมะริดของไทย ทางกรมการเมืองวิเศษชัยชาญเลยได้ส่งทหารจำนวน 400 นายเข้าสกัดกองทัพของพม่า ณ หาดหว้าขาว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะกองทัพของพม่าได้เพราะเรามีกองกำลังที่น้อยกว่า จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ชาวบ้านจึงร่วมกันสร้างวัดและเจดีย์ขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่คนรุ่นหลัง และได้ตั้งชื่อว่า “วัดสี่ร้อย” เพื่อรำลึกถึงดวงวิญญาณของนักรบผู้กล้าหาญทั้ง 400 นายนั่นเองค่ะ
นอกจากนี้ที่วัดสี่ร้อยยังมีจุดเด่นคือมีพระพุทธรูปหลวงพ่อโต ปางป่าเลไลย์ ที่สวยงาม ตระการตาด้วยความสูงถึง 21 เมตร เรียกได้ว่าใครที่มาเที่ยวอ่างทอง ไม่ควรพลาดที่จะแวะเข้ามาสักการะบูชาเลยค่ะ (1)
3. ศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ

แผนที่ | กดเพื่อไปยังหน้า Google Maps |
ที่ตั้ง | ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน (09:00 – 16:00 น.) |
ค่าธรรมเนียม | ไม่มีค่าธรรมเนียม |
ตุ๊กตาชาววัง เป็นตุ๊กตาที่ปั้นมาจากดินเหนียว โดยจะปั้นเลียนแบบวิถีชีวิตของคนไทยในสมัยโบราณ ไม่ว่าจะเป็นการละเล่น, ขนมไทย, วัฒนธรรมไทย หรือประเพณีของไทยต่าง ๆ ซึ่งตุ๊กตาชาววังนั้นมีต้นกำเนิดมาจากตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก โดยเริ่มมาจากในสมัยก่อนชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนี้จะประกอบอาชีพเผาอิฐและทำก้านธูป จนมีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีฝนตกหนักยาวต่อกันหลายเดือนและมีน้ำท่วมบ่อยครั้ง ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถเผาอิฐหรือตากธูปได้ จึงทำให้ขาดรายได้และช่องทางทำมาหากินไปจนหมด
จนในปี พ.ศ. 2519 สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เข้าเยี่ยมประชาชนและได้เล็งเห็นความทุกข์ร้อนของราษฎร จึงได้มีพระราชดำริให้ชาวบ้านมองหาลู่ทางการทำอาชีพเสริมอื่น ๆ โดยมองเห็นว่าพื้นที่ในแถบนี้มีดินเหนียวเยอะ หากนำมาปั้นตุ๊กตาที่สะท้อนเอกลักลักษณ์ความเป็นไทยก็น่าจะเป็นเรื่องดี หลังจากนั้นก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ส่งอาจารย์จุลทัศน์ พยาฆรานนท์ และอาจารย์เสริมศรี บุนนาค จากวิทยาลัยเพาะช่าง มาสอนปั้นตุ๊กตาชาววังให้กับชาวบ้านจำนวน 150 คน และได้มีการจัดตั้งศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จมาจนถึงปัจจุบัน
โดยศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จแห่งนี้ถือเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ทรงคุณค่ามาก ๆ เลยค่ะ หากใครที่อยากเรียนการปั้นตุ๊กตา หรืออยากมาชมความสวยงามของงานปั้นก็สามารถแวะมาชมได้ ซึ่งศูนย์จะตั้งอยู่ที่ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทองนั่นเองค่ะ
4. ตลาดศาลเจ้าโรงทอง

แผนที่ | กดเพื่อไปยังหน้า Google Maps |
ที่ตั้ง | ซอยวัดนางใน ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน (08:00 – 18:00 น.) |
ค่าธรรมเนียม | ไม่มีค่าธรรมเนียม |
ตลาดศาลเจ้าโรงทองเป็นตลาดเก่าแก่ที่มีมานานกว่า 100 ปี ตั้งแต่สมัยที่อยุธยาเป็นราชธานี ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่อำเภอวิเศษชัยชาญ จุดเด่นของตลาดศาลเจ้าโรงทองคือจะมีร้านค้าขายของมากมาย รูปทรงอาคารบ้านเรือนมีความเก่าแก่ที่เป็นเอกลักษณ์ แต่เดิมตลาดแห่งนี้มีชื่อว่าตลาดบ้านไผ่จำศีล จนเมื่อปี พ.ศ. 2420 ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นชื่อที่ใช้ในปัจจุบัน
นอกจากความสวยงามจะอยู่ที่การก่อสร้างแบบโบราณแล้ว ผู้คนที่นี่ยังดำเนินวิถีชีวิตแบบในอดีต อาหารที่ขายก็มักจะเป็นอาหารโบราณ รวมไปถึงร้านขายยาโบราณก็มีให้เห็นเช่นกันค่ะ ชาวบ้านส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ใครที่มีโอกาสมาเดินตลาดแห่งนี้อยากจะแนะนำขนมไทยที่หาทานได้ยาก เช่น ขนมดอกลำดวน, ขนมโสมนัส และขนมดอกดิน ซึ่งล้วนเป็นขนมพื้นบ้านของเมืองวิเศษชัยชาญโดยเฉพาะ ต้องลองค่ะ
5. บ้านหุ่นเหล็ก

แผนที่ | กดเพื่อไปยังหน้า Google Maps |
ที่ตั้ง | ทางหลวงหมายเลข 32 ตำบลตลาดกรวด อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน (09:00 – 17:00 น.) |
ค่าธรรมเนียม | ผู้ใหญ่ 60 บาท / เด็ก 30 บาท |
บ้านหุ่นเหล็ก แน่นอนว่าสถานที่แห่งนี้ต้องเป็นที่จัดแสดงหุ่นเหล็กนั่นเองค่ะ บอกเลยว่าใครที่เป็นสาวกเหล่าบรรดาซุปเปอร์ฮีโร่ต่าง ๆ ไม่ควรพลาดที่นี่เลยค่ะ เพราะทางพิพิธภัณฑ์ได้รวบรวมเศษเหล็กเหลือใช้ นำมาหลอมและสร้างเป็นหุ่นยนต์ต่าง ๆ ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นหุ่นไอรอนแมน, หุ่นกัปตันอเมริกา, หุ่นแบทแมน หรือหุ่นขวัญใจเด็ก ๆ อย่างหุ่นบับเบิ้ลบี เป็นต้น ไม่เพียงแต่หุ่นนานาชาติเท่านั้นนะคะ เพราะที่นี่ยังมีบ้านเรือนไทย ที่ภายในก็จะมีการจัดแสดงหุ่นแบบไทย ๆ เอาไว้ด้วย เช่น พระพุทธรูป, พระพิฆเนศ หรือหุ่นสัตว์ต่าง ๆ เรียกได้ว่ามีครบทั้งไทยและเทศ นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่ไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น ใครที่ชอบงานอาร์ตประเภทนี้ คุณจะพลาดบ้านหุ่นเหล็กไม่ได้เลยค่ะ
6. วัดขุนอินทประมูล

แผนที่ | กดเพื่อไปยังหน้า Google Maps |
ที่ตั้ง | ตำบลอินทประมูล อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน (06:00 – 18:00 น.) |
ค่าธรรมเนียม | ไม่มีค่าธรรมเนียม |
วัดขุนอินทประมูล เป็นวัดที่เก่าแก่มาก ๆ อีกแห่งของจังหวัดอ่างทอง โดยวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลอินทประมูล อำเภอโพธิ์ทอง ซึ่งเป็นวัดราษฎร์ ในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่บอกว่าเป็นวัดที่เก่าแก่นั่นก็เพราะคาดว่าตัววัดถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยเลยล่ะค่ะ จุดเด่นของวัดนี้คือเป็นที่ประดิษฐานของพระนอน หรือ “พระศรีเมืองทอง” ที่ถือว่าใหญ่และยาวเป็นอันดับสองของประเทศไทย รองมาจากพระนอนวัดบางพลีใหญ่ จังหวัดสมุทรปราการ โดยความยาวของพระศรีเมืองทองนั้นยาวถึง 50 เมตรเลยทีเดียวค่ะ (1)
หากใครที่อยากจะเดินทางไปชมความงามของพระนอน รวมไปถึงอารยธรรมและความเก่าแก่ของโบราณสถาน การเดินทางไม่ยากค่ะ เพียงแค่ขับไปตามถนนเส้นอ่างทอง – โพธิ์ทอง ประมาณ 7 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวาไปประมาณ 2 กิโลเมตร ตัววัดจะอยู่ทางขวามือ หรือเพียงสังเกตุพระนอนขนาดใหญ่ สวยงามตระการตา รับรองว่าไม่หลงแน่นอนค่ะ
7. พระตำหนักคำหยาด

แผนที่ | กดเพื่อไปยังหน้า Google Maps |
ที่ตั้ง | ตำบลคำหยาด อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน |
ค่าธรรมเนียม | ไม่มีค่าธรรมเนียม |
พระตำหนักคำหยาด ตั้งอยู่ที่ตำบลคำหยาด อำเภอโพธิ์ทอง ซึ่งต้องบอกก่อนว่าที่นี่ ปัจจุบันเป็นเพียงโบราณสถานที่ตั้งให้คนรุ่นหลังได้ชมกันค่ะ โดยพระตำหนักคำหยาดนั้นตั้งอยู่ในเขตวัดร้างที่ชื่อว่าวัดโพธิ์ทอง แต่เดิมพระตำหนักนี้เป็นของสมเด็จพระเจ้าอุทุมพร หรือที่ใครหลาย ๆ คนรู้จักกันในนาม ‘ขุนหลวงหาวัด’ กษัตนิย์องค์ที่ 32 แห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง ในสมัยกรุงศรีอยุธยา
ตัวพระตำหนักนั้นสร้างด้วยการก่ออิฐถือปูน คือจะใช้ปูนมาหมักกับน้ำอ้อยแล้วนำมายึดกับอิฐเพื่อเพิ่มความแข็งแรง มีขนาดกว้าง 10 เมตร ยาง 20 เมตร (1) สภาพในปัจจุบันก็จะเหลือเพียงผนังสี่ด้าน ที่เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา ใครที่อยากศึกษาประวัติศาสตร์ หรืออยากมาเห็นพระตำหนักของจริงว่าเป็นอย่างไร บอกเลยว่าห้ามพลาดที่พระตำหนักคำหยาดค่ะ
8. หมู่บ้านทำกลองเอกราช

แผนที่ | กดเพื่อไปยังหน้า Google Maps |
ที่ตั้ง | หมู่ที่ 6 ตำบลเอกราช อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน |
ค่าธรรมเนียม | ไม่มีค่าธรรมเนียม |
ถ้าใครสังเกตในคำขวัญของจังหวัดอ่างทอง จะมีท่อนหนึ่งที่บอกว่า “..ถิ่นฐานทำกลอง..” นั่นก็เพราะที่นี่เป็นจังหวัดที่ผลิตกลองที่มีชื่อเสียงและคุณภาพดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะในตำบลเอกราช หรือหมู่บ้านทำกลองเอกราช อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทองนี่เองค่ะ
โดยชาวบ้านที่นี่นั้นจะนิยมทำกลองกันเป็นอาชีพเสริมหลังจากผ่านพ้นฤดูกาลเก็บเกี่ยว ตัวกลองจะทำมาจากไม้ฉำฉาซึ่งเป็นไม้เนื้ออ่อนทำให้แกะหรือขึ้นรูปได้ง่าย หน้ากลองก็จะทำจากหนังวัวที่นำมาขึงจนตึง มีตั้งแต่กลองขนาดเล็กไปจนขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น กลองทัด, กลองสั้น, กลองยาว หรือกลองรำวงต่าง ๆ จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือเป็นที่ตั้งของกลองที่ได้ชื่อว่ายาวที่สุดในประเทศไทย โดยมีความยาวถึง 7.6 เมตร เลยทีเดียวค่ะ (1)
9. วัดไชโยวรวิหาร

แผนที่ | กดเพื่อไปยังหน้า Google Maps |
ที่ตั้ง | ทางหลวงหมายเลข 309 ตำบลไชโย อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน (07:00 – 17:00 น.) |
ค่าธรรมเนียม | ไม่มีค่าธรรมเนียม |
วัดไชโยวรวิหารเป็นพระอารามหลวง ที่ตั้งอยู่ที่ หมู่ 3 ตำบลไชโย อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง โดยวัดนี้เป็นที่ตั้งของ “พระมหาพุทธพิมพ์” หรือ “หลวงพ่อโต” พระพุทธรูปปางสมาธิ ที่คนอ่างทองเคารพนับถือกันมานาน โดยชาวบ้านที่นี่จะมีความเชื่อว่าใครที่ทำบาปกรรมเอาไว้มากจะไม่สามารถเข้ามากราบไหว้หลวงพ่อโตได้ เพราะหากเข้ามาก็จะรู้สึกเหมือนองค์พระพุทธรูปกำลังล้มทับใส่นั่นเองค่ะ ซึ่งหลวงพ่อโตนั้นถือเป็นพระใหญ่ที่มีขนาดหน้าตักกว้าง 16.10 เมตร และมีความสูงถึง 22.65 เมตรกันเลยทีเดียว (1)
นอกจากนี้ใครที่ทำบุญไหว้พระ และเยี่ยมชมวัดกันอิ่มใจแล้ว ก็สามารถมาอิ่มท้องกันต่อได้ที่ตลาดต้องชม ซึ่งจะตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดไชโยวรวิหารเลยค่ะ ตลาดที่นี่มีครบทั้งของกิน ของใช้ และของฝาก เรียกได้ว่าอร่ยกันแทบทุกร้าน ใครที่มีโอกาสได้แวะมาที่วัดไชโยวรวิหาร นอกจากจะอิ่มบุญแล้วยังอิ่มท้องด้วยค่ะ
10. วัดท่าอิฐ

แผนที่ | กดเพื่อไปยังหน้า Google Maps |
ที่ตั้ง | ตำบลบางพลับ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน |
ค่าธรรมเนียม | ไม่มีค่าธรรมเนียม |
วัดท่าอิฐ ตั้งอยู่ที่ตำบลบางพลับ อำเภอโพธิ์ทอง ซึ่งเมื่อก่อนที่นี่ไม่ได้เป็นวัดค่ะ แต่เป็นสถานที่สำหรับปั้นและเผาอิฐเพื่อนำไปสร้างวัดขุนอินทประมูล ต่อมาที่นี่ได้สร้างเป็นวัดเมื่อปีพ.ศ. 2304 เลยตั้งชื่อว่า “วัดท่าอิฐ” เพราะถือเป็นสถานที่สำหรับขนอิฐนั่นเองค่ะ
โดยภายในวัดแห่งนี้จะมีพระประธานในวิหารซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อขาว” เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยุธยา สิ่งที่ทำให้วัดท่าอิฐโดดเด่นกว่าวัดแห่งอื่นนั้นก็คือมี “พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง” สีทองอร่าม สวยงามตระการตา เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม ตามรูปแบบศิลปะลังกา – อยุธยา ผสมผสานกับรัตนโกสินทร์ ใครที่อยากจะมาชมความงามของพระธาตุเจดีย์แห่งนี้ให้ขับรถออกจากตัวเมืองอ่างทอง เลี้ยวขวาไปตามป้ายสุพรรณบุรี โดยจะอยู่ก่อนถึงวัดขุนอินทประมูลนั่นเองค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดอ่างทองทั้ง 10 แห่งที่เราได้มานำเสนอกันในวันนี้ บอกเลยว่าสวยงามและน่าตามรอยไปซะทุกแห่งจริง ๆ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าที่เที่ยวของจังหวัดนี้มักเป็นวัดและโบราณสถานเป็นส่วนใหญ่ นั่นก็เพราะอ่างทองเป็นจังหวัดที่เก่าแก่และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งหนึ่งของประเทศไทย ใครที่ชอบการท่องเที่ยวเมืองเก่า ตามรอยโบราณสถาน โบราณวัตถุ หรือเยี่ยมชมพระพุทธรูปต่าง ๆ บอกเลยว่าจังหวัดอ่างทองตอบโจทย์มาก ๆ ค่ะ
References :