สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคนค่ะพบกันอีกแล้วกับช่วงแนะนำและรีวิวซีรีส์ เชื่อว่าพอขึ้นเดือนมีนาคมเพื่อน ๆ หลายคนจะต้องเริ่มเกาะติด Netflix กันแล้วแน่นอนค่ะ เพราะวันที่ 10 มีนาคมนี้ “The Glory ภาค 2” จะออกอากาศนั่นเองค่ะ และแน่นอนว่าผู้เขียนก็ปั่นอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้รีวิวค่ะ โดยวิธีที่ผู้เขียนใช้ดูซีรีส์คือเปิดความเร็ว 1.25x เลยสามารถดูซีรีส์จบได้อย่างรวดเร็วค่ะ หลังจากแผนการแก้แค้นของมุนดงอึนเริ่มต้นในภาคแรก ในภาคที่ 2 นี้ก็ถือเป็นบทสรุปของซีรีส์กันแล้วค่ะ ขอบอกเลยว่าหลบสปอยล์ยากมาก ผู้เขียนเองก็ไม่รู้จะรีวิวอย่างไรให้ไม่ดูสปอยล์จนเกินไป หากผู้เขียนสปอยล์ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
โดยในบทความนี้ผู้เขียนจะไม่เขียนเรื่องย่อนะคะ หากใครไม่เคยอ่านต้องไปดูที่รีวิว The Glory ก่อนค่ะเพราะถือเป็นพาร์ทแรกของเรื่องค่ะ แน่นอนว่าซีรีส์เรื่องนี้ดูพาร์ทสองก่อนไม่ได้ค่ะเพราะอันที่จริง The Glory มี 16 ตอนค่ะแต่แบ่งออกอากาศเป็น 2 ช่วงนั่นเอง ตอนนี้หากพร้อมแล้วก็ไปดูกันค่ะว่าในภาคที่ 2 ซีรีส์มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้างค่ะ

ข้อมูลทั่วไปของซีรีส์เกาหลี The Glory 2
แนวซีรีส์ | ดราม่า – ระทึกขวัญ |
สร้างโดย | Hwa&Dam Pictures |
เขียนบท | คิมอึนซุก |
กำกับการแสดงโดย | อันกิลโฮ |
ช่องทางออกอากาศ | Netflix |
จำนวนตอน | ซีซันที่สอง 8 ตอน ตอนละ 60 นาที |
นักแสดงนำ | ซงฮเยคโย (มุนอึนดง) อีโดยอน (จูยอจอง) อิมจียอน (พัคยอนจิน) ยอมฮเยรัน (คังฮยอนนัม) พัคซองฮุน (จอนแจจุน) จองซองอิล (ฮาโดยอง) |
นักแสดงสมทบ | คิมกอนอู (ซนมยองโอ) ชาจูยอง (ชเวฮเยจอง) คิมฮีออรา (อีซาร่า) ยุนจินซอง (จองมีฮี) จองจีซู (มุนดงอึน /ตอนวัยรุ่น) ชินเยอึน (พัคยอนจิน /ตอนวัยรุ่น) คิมจองยอง (พัคซองอิม) โอจียุล (ฮาเยซล) |
ทำไมถึงต้องดูซีรีส์เรื่อง The Glory 2 ?
*ระวังสปอยล์ เตือนแล้วนะ !!!
1. ชวนติดตามบทสรุปของการแก้แค้นของ “มุนดงอึน”
The Glory เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่น่าติดตามมาก ๆ ค่ะ ตอนที่ผู้เขียนรู้ว่ามีพาร์ท 2 ผู้เขียนแทบจะกรี๊ดออกมาเพราะไม่อยากรอนั่นเองค่ะ แต่แน่นอนว่าพาร์ท 2 มาเร็วไม่ต้องรอนานเลยค่ะ เราจะมาพูดถึงพาร์ทแรกกันก่อน ในพาร์ทแรกของ The Glory จะพาเราไปติดตามชีวิตจอง “มุนดงอึน” ที่หาทางแก้แค้นกลุ่มเพื่อนที่เคยรังแกเธอ ในตอนนั้นพวกเขาได้ทำร้ายร่างกายและจิตใจของเธอ ทำให้เธอจำฝังใจมาตลอดเวลาหลายปี ในตอนท้ายของพาร์ทแรกเราจะได้เห็นแผนการของมุนดงอึนมากขึ้น เธอเริ่มวางหมากและเดินหมากตามแนวทางของเธอเอง ถึงแม้ว่ามันจะมีอุปสรรคไปบ้างแต่การแก้แค้นของเธอก็เหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดีค่ะ แน่นอนว่าพาร์ทแรกได้ทิ้งหลาย ๆ ปมไว้ให้เราแก้แต่ปมนั่นแหละค่ะที่เป็นเรื่องน่าสนใจของเรื่อง

เมื่อมาถึง The Glory พาร์ทสองซีรีส์จะเพิ่มความตึงเครียดมากขึ้น ในภาคแรกเราจะเห็นในมุมของมุนดงอึนเท่านั้นว่าเธอวางแผนอะไรไว้บ้าง แต่ในพาร์ทที่สองเราจะเริ่มได้เห็นการโต้กลับของคนเหล่านั้นแล้วค่ะ
ผู้เขียนชอบการดำเนินเรื่องค่ะมันไม่เอื่อยเลยเพราะมันน่าลุ้นไปหมดทุกตอน การผูกเรื่องก็ดีมากมีการวกกลับไปกลับมาเล็กน้อยก่อนที่จะผูกมันขึ้นมาเป็นปมเดียวกัน ผู้เขียนพูดได้เลยว่าแต่ละตอนห้ามพลาดสายตาเลยเพราะมันมีหลายอย่างที่เราอาจจะมองข้ามรายละเอียดเหล่านั้นไปได้ ใครที่อยากดูการวางหมากแก้แค้นสุดมันต้องห้ามพลาดเลยค่ะ
2. ฝีมือการแสดงของนักแสดงยังคงเชือดเฉือนกันได้ดี
ฝีมือการแสดงของนักแสดงในเรื่อง The Glory คือไม่แผ่วเลยค่ะ ทุกคนยังคงมาตรฐานการแสดงเอาไว้ นอกจากซงฮเยคโยที่แสดงบทบาทของ “มุนดงอึน” ได้ดีแล้ว ผู้เขียนชอบการแสดงของ “อิมจียอน” ที่แสดงเป็น “พัคยอนจิน” มาก ๆ เพราะเธอแสดงดีจนผู้เขียนรู้สึกเกลียดเลยทีเดียว การแสดงสีหน้า แววตาและท่าทางของพัคยอนจินในเรื่องคือดีมากค่ะ เราจะได้เห็นแววตาแข็งกร้าว แววตาสิ้นหวัง แววตาโกรธแค้นและแววตาขลาดกลัวในตัวของพัคยอนจิน ซึ่งในจุดนี้ผู้เขียนจับผิดจุดบอดของตัวละครไม่ได้เลยค่ะ ดังนั้นเราจะรู้เลยว่าคุณอิมจียอนได้ทุ่มเทให้กับซีรีส์เรื่องนี้มาก เมื่อต้องมาประกบและเชือดเฉือนบทบาทกับซงฮเยคโยแทบจะกินกันไม่ลงเลยต้องจับตาดูแบบไม่กะพริบตาค่ะเพราะเดี๋ยวจะพลาด

ส่วนอีกตัวละครที่ผู้เขียนประทับใจมากในพาร์ทนี้คือบทของหมอ “จูยอจอง” ที่แสดงโดย “อีโดยอน” ค่ะ ในพาร์ทนี้จูยอจองมีบทบาทมากขึ้นกว่าเดิมมากค่ะ สมกับคำพูดที่ว่า “ผมจะเป็นเพชฌฆาตให้กับคุณเอง” ผู้เขียนชอบแววตาของจูยอจองที่อีโดยอนแสดงออกมามากค่ะ เพราะเขาเป็นเหมือนทุกอย่างให้กับมุนดงอึนแล้ว ถึงแม้ว่าซีรีส์จะไม่ได้เน้นความหวานเท่าไหร่แต่เราได้เห็นความโรแมนติกจากแววตาและคำพูดของเขาค่ะ มันทำให้ผู้เขียนสัมผัสได้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดีจริง ๆ และควรค่าแก่การได้รับความรักค่ะ
3. จับตาดูความสัมพันธ์ของกลุ่มเพื่อนของ “พัคยอนจิน”
หลังจากที่ได้ดูพาร์ทแรกเราจะเห็นเลยว่ากลุ่มเพื่อนของพัคยอนจินไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่สวยหรูเลยเป็นความสัมพันธ์ที่รวมคนเลวนิสัยแย่เอาไว้ด้วยกัน ดังนั้นแต่ละคนจึงพยายามแสวงหาผลประโยชน์ของกันและกัน หากมีคนไหนล้มพวกเขาจะไม่ช่วยและซ้ำเติมกันทันที หากใครคนหนึ่งก้าวพลาดสิ่งที่พวกเขาทำคือพยายามทุกอย่างเพื่อไม่ให้ตัวเองเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นค่ะ
ในกลุ่มเพื่อนกลุ่มนั้นมีเพียงพัคยอนจิน จอนแจจุนและอีซาร่าที่มีฐานะดี ส่วนซนมยองโอและชเวฮเยจองเป็นกลุ่มคนชนชั้นล่างที่มักจะโดนเอาเปรียบอยู่เสมอ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองได้เพราะผลประโยชน์ที่ได้จากคนรวยคือความหอมหวาน อีกทั้งสันดานของพวกเขาคือเห็นแก่ได้ด้วย เป็นกลุ่มเพื่อนที่สุดยอดมากจริง ๆ ค่ะ

ความแตกหักที่เกิดของกลุ่มเพื่อนเกิดขึ้นจากพาร์ทหนึ่งเพราะซนมยองโอหายไปค่ะ ซึ่งก่อนที่เขาจะหายไปเขาได้ทิ้งปริศนาไว้หลายอย่างเลย แต่ปมนั้นก็เกี่ยวกับนักเรียน “ยุนโซฮี” เหยื่อคนแรกที่มาก่อนมุนดงอึนนั่นเองค่ะ
ในพาร์ทที่สองเราจะรู้ว่าซนมยองโอหายไปไหนกันแน่และจะได้รู้จุดจบของเพื่อนแต่ละคนด้วยค่ะ ขอบอกเลยว่ามันมาก ๆ เริ่มต้นแบบไหนก็จบแบบนั้น อีกทั้งเรายังได้รู้ความจริงที่น่าตกใจของยุนโซฮีและเหยื่อคนอื่น ๆ ด้วยค่ะ
4. ความสัมพันธ์ของ “มุนดงอึน” และ “จูยอจอง” จะจบลงแบบไหน?
ความสัมพันธ์ของ “มุนดงอึน” และ “จูยอจอง” เป็นความสัมพันธ์ที่ชวนลุ้นมากที่สุดค่ะเพราะผู้เขียนอยากรู้เหมือนกันว่าจะจบแบบไหน แต่ตอนแรกผู้เขียนก็เดาไว้คร่าว ๆ แล้วเป็นการเดาที่เกือบถูกค่ะ ในพาร์ทแรกเราจะเห็นเลยว่ามุนดงอึนไม่ใช่ไม่เคยคิดในเรื่องความรักแต่เธอไม่กล้าที่จะคิดมากกว่าค่ะ เพราะบาดแผลที่เธอเคยได้รับและแผลเป็นที่ร่างกายทำให้เธอไม่กล้าที่จะเปิดใจ แน่นอนว่าจูยอจองเป็นคนแรกที่ช่วยเธอและตามจีบเธออย่างบ้าคลั่งและเขาก็ยอมเป็นทุกอย่างให้เธอด้วย อันที่จริงถ้าในโลกความเป็นจริงไม่มีใครที่ยอมทำอะไรให้เราฟรี ๆ อย่างแน่นอน

แต่จูยอจองข้ามขั้นนั้นไปเลยเพราะว่าจูยอจองยอมทำทุกอย่างจริง ๆ และไม่ได้หวังอะไรด้วย สิ่งที่หวังอย่างเดียวคือต้องการได้รักมุนดงอึนและได้ใช้ชีวิตกับเธอเท่านั้น ปมของจูยอจองก็เป็นปมที่น่าสนใจค่ะ
ผู้เขียนรู้สึกว่ามุนดงอึนก็เป็นที่พึ่งอย่างเดียวของเขาเหมือนกัน ผู้เขียนชอบการคลายปมความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่ะ ขอบอกเลยว่ามีฉากเลิฟซีนด้วยไม่ได้สปอยล์นะคะทุกคนแค่บอกให้ทราบค่ะ อิอิ