สวัสดีค่ะทุกคนมาพบกับช่วงแนะนำนักแสดงกันอีกแล้วนะคะ สำหรับวันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักนักแสดงสาวสวยที่หลายคนคงเห็นทุกวันผ่านทีวีเพราะเธอคนนี้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาหลายตัวมาก สาวคนนี้ที่เราจะพูดถึงคือ “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” นั่นเองค่ะ ก่อนที่เราจะไปดูผลงานของเธอ เราไปดูประวัติคร่าว ๆ ของเธอกันก่อนดีกว่าค่ะ
พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ หรือใบเฟิร์น เธอเป็นนักแสดงและนางแบบชาวไทย เป็นที่รู้จักกันดีในบทบาทของเธอในฐานะ “น้ำ” ในภาพยนตร์เรื่อง “สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า…รัก” ในปี 2553 ร่วมกับหนุ่มหล่ออย่างมาริโอ้ เมาเร่อ ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้เธอโด่งดังไปทั่วประเทศและต่างประเทศเลยทีเดียว สาวใบเฟิร์นสำเร็จการศึกษาในคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการแสดงและการกำกับการแสดง จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒในปี 2558 ใบเฟิร์นนั้นได้เป็นนักแสดงตั้งแต่อายุยังน้อย โดยในช่วงแรกเธอได้เซ็นสัญญากับช่อง 7 ตั้งแต่ปี 2553 ถึง 2559 แต่หลังจากนั้นเธอก็ได้เป็นนักแสดงอิสระ โดยส่วนใหญ่เราจะได้เห็นผลงานของเธอในช่อง GMM 25 และ ONE HD 31 ด้วยบทบาทของเธอในละครเรื่อง “หลงไฟ” ของช่อง GMM 25 ทำให้เธอได้รับรางวัลนาฏราชสาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยม และในการคว้ารางวัลที่ 2 ในฐานะนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในปี 2020 รางวัลนาฏราชในเรื่อง “ใบไม้ที่ปลิดปลิว” หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “The Fallen Leaf” ซึ่งในเรื่องเธอได้สวมบทบาทเป็นสาวประเภทสองได้อย่างยอดเยี่ยมโดยได้รับกระแสตอบรับจากผู้ชมอย่างล้นหลาม จากในบทบาทนี้ทำให้ใบเฟิร์นได้กวาดพรีเซ็นเตอร์โฆษณาไปหลายตัวเลยทีเดียวค่ะ หากตอนนี้ทุกคนพร้อมแล้วเราไปดูผลงานของสาวใบเฟิร์นกันดีกว่าค่ะว่ามีเรื่องอะไรบ้างเพราะสาวใบเฟิร์นนั้นแสดงทั้งละครและภาพยนตร์ได้อย่างดีเยี่ยม
ผลงานด้านภาพยนตร์ของใบเฟิร์น พิมพ์ชนก
1. อ้าย..คนหล่อลวง

แนวภาพยนตร์ | โรแมนติก คอมเมดี้ |
นักแสดงร่วม | ณเดชน์ คูกิมิยะ, แหม่ม คัทลียา, แบงค์ ธิติและเผือก พงศธร |
เวลาของภาพยนตร์ | 128 นาที |
ปีที่ฉาย | 2563 |
อำนวยการผลิตโดย | จิระ มะลิกุล และวรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ |
หลายคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยภาพยนตร์เรื่องนี้มากเพราะเป็นการเจอกันครั้งแรกของหนุ่มณเดชน์และสาวใบเฟิร์น โดยเรื่องอ้ายคนหล่อลวงนี้จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 3 ธันวาคม 2563 โดยกระแสเรื่องนี้ก็มาแรงมาก เพราะหนุ่มแบมแบม GOT7 ได้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เองเลยทีเดียว โดยเมื่อเพลงออกมาหลายคนก็ชื่นชอบและตั้งหน้ารอคอยทันที โดยเรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวของอินา (ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก) เธอถูกแฟนเก่าของเธอที่ชื่อว่า เพชร (แบงค์ ธิติ) หลอกเอาเงินไปหลายสตางค์ เธอนั้นต้องการแก้แค้นและเอาเงินคืนมาให้ได้ ต่อมาเธอได้เจอกับทาวเวอร์ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) เป็นนักต้มตุ๋นที่คิดจะมาหลอกเธอเหมือนกันแต่เธอได้รู้ตัวเสียก่อน เธอเลยจ้างให้ทาวเวอร์ไปเอาเงินคืนมา โดยทาวเวอร์ได้ตั้งทีมขึ้นซึ่งในนั้นก็มีโจร (เผือก พงศธร) และครูนุช (แหม่ม คัทลียา) ครูสอนภาษาจีนที่กำลังต้องการเงินอยู่พอดี โดยเป้าหมายของแก็งค์นี้คือไปตกเงินจากเพชรมูลค่า 3 ล้าน ซึ่งตอนนี้เพชรกำลังเกาะสาวใหญ่ไฮโซอยู่ แนะนำให้ไปดูค่ะจากหลายรีวิวคนที่ดูแล้วต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่าใบเฟิร์นน่ารักมากและแสดงได้ดีสุด สำหรับใครที่ชอบความฮาคุณจะได้รับมันแน่ ๆ ขอบอกว่า GDH599 จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน
2. Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน

แนวภาพยนตร์ | โรแมนติก คอมเมดี้ |
นักแสดงร่วม | นาย ณภัทรและเจสัน ยัง |
เวลาของภาพยนตร์ | 119 นาที |
ปีที่ฉาย | 2562 |
อำนวยการผลิตโดย | จิระ มะลิกุล และวรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ |
Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน ได้บอกเล่าเรื่องราวของใครหลายคนที่ติดอยู่ในสถานะเฟรนด์โซนหรือเป็นได้แค่เพื่อนทั้ง ๆ ที่แอบรักมานาน เรื่องนี้ใบเฟิร์น พิมพ์ชนกของเราก็สวยมากและได้ถ่ายทำในหลากหลายสถานที่อีกด้วย อีกทั้งตัวหนังก็ยังโด่งดังในประเทศอาเซียน เพราะนำเพลง “คิดมาก” ของปาล์มมี่มาถ่ายทอดเป็นหลายภาษาในอาเซียนอีกด้วย เรื่องราวนี้เล่าถึงเรื่องราวของปาล์ม (นาย ณภัทร) ที่ติดอยู่ในเฟรนด์โซนกับ กิ๊ง (ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก) เพื่อนสนิทของเขาเป็นเวลาถึง 10 ปีแล้ว เขารักและชอบเธอมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายและพยายามสารภาพรักกับเธอในตอนนั้น แต่เธอก็ปฏิเสธเขาโดยบอกว่าการเป็นเพื่อนก็เพียงพอแล้ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้น เมื่อใดก็ตามที่ปาล์มเลิกกับแฟนสาวนับไม่ถ้วนจะเป็นสาเหตุมาจากกิ๊ง ส่วนสำหรับกิ๊งเมื่อใดก็ตามที่เธอทะเลาะกับแฟนไม่สำคัญว่าเธอจะอยู่ประเทศใด ในเวลาไหนเธอจะโทรหาปาล์มให้มาหาและปาล์มจะใช้สิทธิประโยชน์ของเขาในฐานะพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเพื่อบินไปหาเธอทันทีที่เธอโทรหาเขา เรื่องนี้จะลงเอยอย่างไรต้องไปดูค่ะรับรองว่าคนที่เคยตกอยู่ในสถานะเฟรนด์โซนต้องมีเสียน้ำตาอย่างแน่นอน อีกทั้งในเรื่องนี้สาวใบเฟิร์นก็ได้เข้าชิงรางวัลสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมด้วยค่ะ
3. 2538 อัลเทอร์มาจีบ

แนวภาพยนตร์ | โรแมนติก คอมเมดี้ |
นักแสดงร่วม | เนตั้น แดนอรุณ, แวน ชนินทร, อิง อชิตะและแหม่ม วิชชุดา |
เวลาของภาพยนตร์ | 111 นาที |
ปีที่ฉาย | 2558 |
อำนวยการผลิตโดย | โมโนพิคเจอร์ |
2538 อัลเทอร์มาจีบ เป็นเรื่องราวที่จะพาเรานำไปสู่อดีต เริ่มจากยุคปัจจุบันที่ก้อง (เนตั้น แดนอรุณ) เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่ติดโซเชียลมาก เขามองว่าความรักก็เป็นเรื่องง่าย แค่กดปุ่มนิดเดียวก็ได้เป็นแฟนกันแล้ว ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนที่กว่าจะรักกันได้ต้องใช้เวลาขนาดไหน ต่อมาเขาไปเจอเพจเจอร์เก่า ๆ ของพ่อและมีข้อความส่งมาให้โทรกลับแต่โทรศัพท์ที่เขาใช้แบตหมด เขาจึงไปที่ตู้โทรศัพท์เพื่อโทรหาเบอร์ที่ส่งมา ต่อมาเขาก็ต้องใจเพราะพบว่าตัวเองอยู่ในปี 2538 ปีที่ยังฟังเพลงผ่านเทปและฮิตวงดนตรีอัลเทอร์เนทีฟอยู่ ต่อมาเขาจะได้พบกับพ่อของเขาเองหรือ ตั้ม (แวน ชนินทร) และแม่หรือ แหม่ม (โฟน ชลกาญจน์) ที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเพราะเขาได้เจอกับ ส้ม (ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก) สาวที่เขาแอบชอบแต่มันพีคตรงที่ว่าในปี 2538 นี้ส้มจะเป็นมือที่สามที่จะมาแย่งตั้มไปจากแหม่มและอาจจะทำให้เขาไม่ได้เกิดมา เขาจึงต้องกีดกันส้มให้ห่างจากความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและแม่ของเขา เรื่องนี้สนุกมากค่ะจะพาเราไปย้อนอดีตได้อย่างสมบูรณ์แบบทำให้เราได้กลิ่นอายจากเรื่องราวเก่า ๆ ค่ะ
4. แคท อ่ะ แว้บ! #แบบว่ารักอ่ะ (Cat A Wabb!)

แนวภาพยนตร์ | โรแมนติก คอมเมดี้ |
นักแสดงร่วม | เป้ อารักษ์ , เท่ง เถิดเทิงและโหน่ง ชะชะช่า |
เวลาของภาพยนตร์ | 118 นาที |
ปีที่ฉาย | 2558 |
อำนวยการผลิตโดย | สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐและปัญญา นิรันดร์กุล |
ในภาพยนตร์ แคท อ่ะ แว้บ! #แบบว่ารักอ่ะ สาวใบเฟิร์นไปเปลี่ยนลุคเป็นสาวหน้าม้า ผมหยิกดูน่ารักมากค่ะ ในเรื่องจะเป็นสาวแก่น ๆ นิดนึง เรื่องนี้กำกับโดยเท่ง เถิดเทิงรับประกันความฮาเลยค่ะ เรื่องราวนี้เป็นเรื่องของเมโย (ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก) นักศึกษาที่ได้ไปฝึกงานที่บริษัทเอเจนซี่โฆษณาของโดด (เท่ง เถิดเทิง) ผู้กำกับสุดเฮี้ยบและเฟียต (โหน่ง ชะชะช่า) ตากล้องที่เป็นหุ้นส่วนของบริษัท แต่เพียงชั่วครู่เธอก็ได้ไปตกหลุมรักมอร์ (เป้ อารักษ์) พี่เทรนซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้กำกับแมวให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ได้เพื่อที่เขาจะได้เลื่อนขั้นเป็นผู้กำกับแบบเต็มตัวเสียที แต่เรื่องวุ่น ๆ ก็เกิดขึ้นเมื่อมอร์มอบหมายให้เมโยดูแล “จอนนี่” แมวตัวอ้วนซึ่งถือได้ว่าเป็นพระเอกแมว หลังจากที่ได้อยู่ใกล้กับมอร์ เมโยก็หลงตัวเองว่ามอร์ต้องชอบเธอแน่ ๆ เรื่องราวก็เป็นไปได้ดีแต่เจ้าจอนนี่แมวซนก็ได้หายแว๊บไปทำให้พวกเขาต้องตาหาแมวกันให้วุ่น เรื่องนี้ใบเฟิร์นน่ารักมาก ทาสแมวต้องตามไปดูค่ะ
5. สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า…รัก

แนวภาพยนตร์ | โรแมนติก ดราม่า |
นักแสดงร่วม | มาริโอ้ เมาเร่อ , ตุ๊กกี้ สุดารัตน์, เจี๊ยบ พิจิตราและเอ พัรวัชร์ |
เวลาของภาพยนตร์ | 118 นาที |
ปีที่ฉาย | 2553 |
อำนวยการผลิตโดย | สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐและปัญญา นิรันดร์กุล |
สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า…รักเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ทำให้สาวใบเฟิร์นดังเป็นพลุแตกในบทบาทของน้ำเด็กนักเรียนม.ต้น ในเรื่องเราจะสังเกตว่าเราจะได้เห็นการเจริญเติบโตของใบเฟิร์นด้วย เราจะเห็นในมุมเด็กมัธยมต้นตัวดำใส่เหล็กจัดฟัน ไปจนถึงสาวสวยที่เป็นสาวป๊อปที่สุดในโรงเรียน ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นภาพยนตร์ที่ทำให้สาวใบเฟิร์นกวาดรางวัลไปมากมายไม่ว่าจะเป็น รางวัลท็อปอวอร์ด 2010 ในสาขาดาราหญิงยอดเยี่ยมสาขาภาพยนตร์ และรางวัลเฉลิมไทยอวอร์ด ครั้งที่ 8 (โดย pantip.com) สาขานักแสดงหญิงในบทนำจากภาพยนตร์ไทยแห่งปี ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นที่ชื่นชอบของคนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในจีนก็ได้พาไปรีเมคเรียบร้อยแล้วค่ะ โดยเรื่องจะบอกเล่าเรื่องราวของ น้ำ (ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก) เป็นเด็กสาวอายุ 14 ปี เธอเป็นคนธรรมดา ๆ ที่คิดว่าตัวเองไม่สวยเลย เธอได้แอบหลงรักผู้ชายคนนึงที่ดังที่สุดในโรงเรียนชื่อว่า “พี่โชน” (มาริโอ้ เมาเร่อ) เขาหล่อ สมบูรณ์แบบและใจกว้างและนั่นคือสิ่งที่ทำให้สาว ๆ คลั่งไคล้เขา น้ำทำทุกอย่างที่ทำได้โดยหวังว่าโชนจะมองมาทางเธอทั้งเรียนให้เก่ง ขัดผิว แต่งตัวเป็นดรัมเมเยอร์ของโรงเรียน แต่เธอจะกล้าสารภาพรักกับโชนหรือไม่ต้องไปดูค่ะ ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้ทำให้ใครหลายคนอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อคนที่ตัวเองรักค่ะ
ผลงานด้านละครของใบเฟิร์น พิมพ์ชนก
1. เจ้าหญิงเม็ดทราย

แนวละคร | โรแมนติก ดราม่า คอมเมดี้ |
นักแสดงร่วม | แดน วรเวช, มาร์ช จุฑาวุฒิ และอาร์ม วีรยุทธ |
จำนวนตอน | 14 ตอน |
ปีที่ออกอากาศ | 2562 |
อำนวยการผลิตโดย | จีเอ็มเอ็มทีวี |
กชนิภาหรือกช (ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก) เป็นเด็กสาวกำพร้าที่เดินทางเข้าเมืองใหญ่มาเพื่อศึกษาต่อ ที่มหาลัยฯ เธอนั้นได้ไปตีสนิทกับจิรพัสหรือจี (มาร์ช จุฑาวุฒิ) ทายาทเศรษฐี มิตรภาพของทั้งคู่มีพื้นฐานมาจากผลประโยชน์ร่วมกันโดยจิรพัสจ่ายเงินให้เธอเพื่อทำเรื่องเล็กน้อย เช่น การบ้าน งานในมหาลัยฯ รวมถึงการทำหน้าที่เป็นคนรับใช้ของเขา แต่เรื่องราวก็ซับซ้อนขึ้นเมื่อจิรพัสมีลูกและเนื่องจากจิรพัสไม่สามารถบอกอย่างเป็นทางการหรือประกาศได้ว่านั่นเป็นลูกของตัวเอง เขาจึงเสนอเงินให้กช 2 ล้านบาทรวมทั้งค่าคอนโดและค่าจ้างรายเดือนเพื่อแลกกับความช่วยเหลือในการเลี้ยงลูกของเขา มิฉะนั้นเขาจะส่งเด็กไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า กชนิภายอมรับอย่างไม่เต็มใจเพราะเธอไม่เห็นด้วยกับการส่งเด็กไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เมื่อโตขึ้นเธอก็เริ่มรักโมจิลูกของจิรพัสเหมือนของเธอเอง อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาชะตากรรมของเธอได้เปลี่ยนไปเมื่อเธอได้เข้าไปพัวพันกับคีหรือคิรากร (แดน วรเวช) พี่ชายของจิรพัสส่งผลให้ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เรื่องนี้สาวใบเฟิร์นต้องรับบทเป็นแม่แต่ก็เป็นแม่ที่ยังสาวมาก ใบเฟิร์นแสดงได้ดีมากทั้งในบทนักศึกษาและบทแม่ค่ะ
2. ใบไม้ที่ปลิดปลิว

แนวละคร | โรแมนติก เมโลดราม่า |
นักแสดงร่วม | พุฒิ พุฒิชัย, แซม ยุรนันท์, แตงโม นิดาและอั๋น วิทยา |
จำนวนตอน | 21 ตอน |
ปีที่ออกอากาศ | 2562 |
อำนวยการผลิตโดย | เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ เช้นจ์ 2561 และเก้ง กวาง แก๊งค์ |
ใบไม้ที่ปลิดปลิวเป็นเรื่องที่ทำให้สาวใบเฟิร์นต้องรับบทเป็นสาวประเภทสองครั้งแรก ซึ่งเธอก็ตีบทแตกมากและแสดงได้เหมือนจริง ๆ โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของนิราหรือชนันธวัช (ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก) ชื่อของเธอที่ชื่อว่านิรามาจากคำว่านิรนามซึ่งหมายถึงบุคคลนิรนาม เป็นเรื่องราวของเด็กชายที่ภายในใจเป็นผู้เป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เนื่องจากเป็นหญิงในร่างผู้ชายเธอจึงไม่ได้การยอมรับจากใครเลยนอกจากแม่ของเขาที่รักเขาด้วยใจจริง ชมธวัช (แซม ยุรนันท์) พ่อของเขาเกลียดเขาและทำร้ายแม่ของเขา นิราอยากให้พ่อของเขาเป็นเหมือนอาชัชวี (พุฒิ พุฒิชัย) อาคนเดียวของเขาเพราะนอกจากแม่แล้วชัชวีร์ก็เป็นคนอบอุ่น ดูแลเขาและเข้าใจเขา ต่อมานิราได้ไปอยู่กับแม่ที่ต่างประเทศและได้แปลงเพศเป็นสาวเต็มกาย วันหนึ่งแม่ของเธอก็เสียชีวิตเธอเลยกลับมาที่ไทยเพื่อแก้แค้นพ่อของเธอ เธอจึงใช้ชื่อว่านิรา คงสวัสดิ์ ต่อมาเธอได้เจอกับชัชวีร์อีกครั้งโดยบังเอิญ เนื่องจากความงามของเธอเขาเริ่มตกหลุมรักเธอ แน่นอนเมื่อแปลงเพศไม่มีใครจำเธอได้แม้แต่พ่อของเธอเอง ความรักเริ่มซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อรังรอง (แตงโม นิดา) ป้าของนิราที่ไม่เคยชอบเธอกับแม่เลยพยายามกีดขวางความรักระหว่างเธอกับชัชวีร์โดยไม่รู้ว่านิราคือหลานของตัวเอง เรื่องนี้จะลงเอยอย่างไร? ต้องไปดูค่ะ หลังจากละครเรื่องนี้จบสาวใบเฟิร์น พิมพ์ชนกก็ได้เข้าชิงรางวัลหลากหลายสาขาและได้รับรางวัล Thai Crazy Awards 2020 ในสาขา Best Actress และได้รับรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 11 ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมอีกด้วย
3. ยุทธการปราบนางมาร

แนวละคร | โรแมนติก ดราม่า คอมเมดี้ |
นักแสดงร่วม | เต๋า เศรษฐพงศ์, เข็ม ลภัสรดา, พีท ทองเจือและซัน ประชากร |
จำนวนตอน | 18 ตอน |
ปีที่ออกอากาศ | 2561 |
อำนวยการผลิตโดย | บริษัท เก้ง กวาง แก๊ง จำกัด |
ยุทธการปราบนางมารเป็นละครที่พลิกบทบาทของสาวใบเฟิร์นอีกครั้งเพราะเธอต้องรับบทเป็นคนร้าย ๆ เป็นสาวขี้วีน ขี้เหวี่ยง เอาแต่ใจมากถึงมากที่สุด ซึ่งสาวใบเฟิร์นก็ทำได้ดีมากโดยเรื่องนี้เป็นเรื่องของ รัมภาภัสร์ (ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก) ที่เธอจำเป็นต้องรับตำแหน่งแทนพ่อของเธอ (พีท ทองเจือ) ในตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างของบริษัทผลิตภาพยนตร์ รัมภาภัสร์เป็นชื่อของเธอซึ่งแปลว่านางฟ้า แต่ทุกคนมองเธอเป็นปีศาจเพราะเธอเป็นคนที่เนี๊ยบ จู้จี้จุกจิกไปเสียทุกเรื่อง เธอมีความสามารถพิเศษคือเธอสามารถฆ่าทุกคนได้และทำให้ทุกคนเจ็บแสบไปด้วยคำพูดของเธอ ต่อมาเธอได้เจอกับยุทธการ (เต๋า เศรษฐพงศ์) ซึ่งเป็นคนเจ้าเล่ห์มาก ยุทธการถูกจ้างมาเพื่อเป็นเลขาคนใหม่ของรัมภาภัสร์ ยุทธการต้องปราบรัมภาภัสร์ให้อยู่หมัดเพื่อให้เธอมีคุณสมบัติพอเพื่อที่จะเป็นผู้บริหารด้วยแผนของเขาและในระหว่างแผนนี้เองเขาก็ได้ตกหลุมรักรัมภาภัสร์ เรื่องนี้ได้โกอินเตอร์ไปจีนแผ่นดินใหญ่ด้วยหมายความว่าการแสดงของสาวใบเฟิร์นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
4. หลงไฟ

แนวละคร | โรแมนติก เมโลดราม่า |
นักแสดงร่วม | ทอย ปฐมพงศ์, หลิน มชณต, บอย พิษณุและมาร์ช จุฑาวุฒิ |
จำนวนตอน | 27 ตอน |
ปีที่ออกอากาศ | 2560 |
อำนวยการผลิตโดย | บริษัท เก้ง กวาง แก๊ง จำกัด |
หลงไฟเป็นละครโทรทัศน์ที่ได้รับการดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่องหลงไฟ ประพันธ์โดย คุณกฤษณา อโศกสิน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของก้านแก้ว (ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก) เด็กสาวที่อาศัยอยู่ในสลัม ชีวิตของเธอไม่ได้ดีมากนักแต่เธอทะเยอทะยานเพื่อให้ตัวเองขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุด แต่แน่นอนเธอยังเด็กจะให้มารวยด้วยอาชีพแบบบ้าน ๆ คงไม่ได้ เธอเลยพยายามอัพเกรดตัวเองให้เป็นคนชนชั้นสูงได้ในฐานะหญิงโสเภณี เพื่อนที่ดีที่สุดของก้านแก้วคือชลา (หลิน มชณต) หญิงสาวผู้ไม่ทะเยอทะยานซึ่งทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟเพื่อส่งตัวเองเรียน นอกจากชลาแล้วก้านแก้วยังมีเพื่อนชายอย่างกุญชร (ทอย ปฐมพงศ์) แต่เธอก็รู้ดีว่าชรนั้นไม่ได้คิดกับเธอแค่เพื่อนแต่เธอก็ไม่ได้สนใจเพราะสิ่งที่เธอหวังคือเธอต้องมีแฟนรวย ๆ เพื่อให้ชีวิตของเธอหลุดออกจากโคลนตม ต่อมาเธอได้เข้าไปจีบอาวุธ (บอย พิษณุ) เจ้านายของเธอที่บริษัท แต่เธอตัดสินใจที่จะเลิกรากับเขาเพราะเธอต้องการใช้ชีวิตที่หรูหราและอาวุธไม่สามารถจ่ายสิ่งเหล่านี้ให้เธอได้ ดังนั้นเธอจึงต้องหาผู้ชายคนใหม่ที่สามารถให้ชีวิตที่หรูหรากับเธอได้ ในเรื่องนี้สาวใบเฟิร์นได้รับบทเป็นโสเภณีที่สวยและเซ็กซี่มาก ด้วยการเข้าถึงบทบาททำให้เธอได้รับรางวัลนักแสดงดาวรุ่งหญิงยอดเยี่ยมจากนาฏราช ครั้งที่ 9
5. อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว

แนวละคร | โรแมนติก ดราม่า แฟนตาซี |
นักแสดงร่วม | ทับทิม อัญรินทร์, อ๊อฟ ชนะพล, เต็งหนึ่ง คณิศและดวงดาว จารุจินดา |
จำนวนตอน | 21 ตอน |
ปีที่ออกอากาศ | 2555 |
อำนวยการผลิตโดย | จรูญ ธรรมศิลป์ |
อสูรน้อยในตะเกียงแก้วเป็นเรื่องที่สาวใบเฟิร์นได้ร่วมงานกับช่อง 7 ซึ่งในตอนนั้นใครไม่ได้ดูถือว่าพลาดและหากใครเต้นเพลง “บาลาชูบาชูหรือเพลงเสกรัก…ให้เธอได้รู้ ” ไม่เป็นถือว่าเชยมากเพราะเพลงนี้ดังไปทั่วบ้านทั่วเมืองและสาวฝบเฟิร์นก็ได้ขับร้องเองอีกด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ แนนนี่ (ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก) ที่ถูกลิขิตให้เป็นอสูรน้อย ที่มีพลังในการทำลายโลกเวทมนตร์ เธอกำลังจะถูกฆ่าตั้งแต่ยังเป็นทารก แต่แม่มดธาฮีร่า (ดวงดาว จารุจินดา) พบเธอและสงสารเธอ แม่มดธาฮีร่าจึงตัดสินใจส่งเธอไปยังโลกมนุษย์เพื่อรับการเลี้ยงดูจากแม่บุญธรรมที่ดีเพียงเพื่อที่เธอจะได้ไม่กลายเป็นปีศาจร้าย เธอได้รับการเลี้ยงดูมาพร้อมกับธานี (เต็งหนึ่ง คณิศ) ลูกชายแท้ ๆ ของแม่บุญธรรมและดารกา (ทับทิม อัญรินทร์) น้องสาวบุญธรรมอีกคน เนื่องจากพวกเขาอายุเท่ากันสาวทั้งสองจึงเป็นคู่แข่งกันในทุก ๆ เรื่อง ยิ่งไปกว่านั้นทั้งคู่ยังปิ๊งภวัตร (อ๊อฟ ชนะพล) เพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกันมากอีกด้วย ในเรื่องนี้ทุกคนจะได้เห็นการแสดงแนวแฟนตาซีของสาวใบเฟิร์นซึ่งอยากจะบอกว่าชุดสวยมากเห็นแล้วอยากใส่ค่ะ อิอิ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับผลงานของสาวใบเฟิร์น พิมพ์ชนก เราหวังว่าทุกท่านจะเต็มอิ่มกับผลงานละครและภาพยนตร์ของสาวใบเฟิร์นที่เราได้แนะนำไปนะคะ หากคุณเป็นแฟนคลับตัวยงของสาวใบเฟิร์นก็อย่าลืมติดตามผลงานภาพยนตร์เรื่อง “อ้ายคนหล่อลวง” และภาพยนตร์ “Laser Candy รักนี้ห้ามไม่ได้” ที่ใบเฟิร์นได้ประกบคู่กับหนุ่มมาริโอ้อีกครั้งซึ่งคาดว่าจะลงจอภาพยนตร์ในปีหน้าค่ะ ส่วนในเรื่องละครก็อย่าลืมติดตามเรื่อง “สร้อยสะบันงา” , “46 วันฉันจะพังงานวิวาห์” และ “สิเน่หาส่าหรี” ที่จะลงจอในปีหน้าเช่นเดียวกันค่ะ
Reference