ถ้าพูดถึงผู้ชายสายลุย ต้องมีชื่อ “เวียร์ ศุกลวัฒน์” ขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ แน่นอน เรียกว่าเป็นผู้ชายสายออร์แกนิกที่แท้ทรูเลยค่ะสำหรับคุณคนนี้ เพราะเขาชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งตากแดดตากลม แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหุ่นหล่อล่ำและหน้าใสกิ๊งราวกับเด็กเอ๊าะ ๆ ไม่เหมือนเรา ๆ ที่นั่งในออฟฟิศเฉย ๆ แต่สภาพหน้าประหนึ่งคนทำงานหนักที่อดหลับอดนอนมาหลายคืน
เพื่อน ๆ ทราบไหมคะว่าคุณผู้ชายหุ่นล่ำคนนี้เข้าวงการบันเทิงได้อย่างไร ? นั่นก็เป็นเพราะครั้งหนึ่งพี่เอศุภชัย ผู้จัดการดาราชื่อดังได้บังเอิญเห็นรูปพี่เวียร์เข้าแล้วถูกใจค่ะ พี่เอถึงกับลงทุนเดินทางไปขอนแก่นเพื่อตามหาตัวพี่เวียร์แล้วเจรจาให้พี่เวียร์ลองเข้าวงการบันเทิง หลังจากนั้นพี่เวียร์ก็ปรากฏตัวครั้งแรกในะครเรื่อง “พลิกดินสู่ดาว” ในบท เตวิชญ์ พระเอกหนุ่มรูปงาม หลังจากนั้นคุณพี่เขาก็เล่นละครบ้างหนังบ้างเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันเลย หน้าตาดีไม่พอ พี่เวียร์ของเรายังเสียงดีจนได้ร้องเพลงประกอบละครอีกหลายเพลงเลยค่ะ คนอะไรจะหล่อครบเครื่องขนาดนี้ และจากความสามารถทั้งหมดที่กล่าวมานั้นทำให้มีแฟนคลับติดตามอินสตาแกรม @weir19 ของคุณพี่เขาถึง 4.1 ล้านฟอลโลวเว่อเลยทีเดียว เกริ่นมาขนาดนี้เราก็เลยยกละครสนุก ๆ ของพี่เวียร์มาแนะนำให้เพื่อน ๆ ตามเก็บด้วย จะมีเรื่องไหนบ้างมาดูกันเลยดีกว่า
1. ม่านบังใจ

ประเภท | โรแมนติก / ดราม่า |
อำนวยการผลิตโดย | มุมใหม่ จำกัด |
นักแสดงนำ | ศุกลวัฒน์ คณารศ, มุกดา นรินทร์รักษ์, ยศวรรธน์ ทะวาปี และปภาดา กลิ่นสุมาลย์ |
ปีที่ออกอากาศ | 2563 |
ทัฬห์ (ศุกลวัฒน์ คณารส) กำลังเหยียบคันเร่งจมมิดเพื่อมุ่งหน้าไปให้ทันการแสดงในวันปิดภาคเรียนของลูกสาวทำให้เขาขับรถชน เฟื่อง (อัมรินทร์ สิมะโรจน์) จนอาการสาหัสโดยไม่ได้ตั้งใจ จึงนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลและเฟื่องเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในงานศพของเฟื่องที่ทัฬห์เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายและเป็นเจ้าภาพทุกคืนเขาได้พบกับ สร้อยทอง (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) ภรรยาของเฟื่อง, สร้อยสน (ปภาดา กลิ่นสุมาลย์) และ เฟื่องลดา (มุกดา นรินทร์รักษ์) ในงานเฟื่องลดาพยายามกลั่นแกล้งทัฬห์ตามประสาเด็กเพราะเคียดแค้นที่เขาทำให้พ่อของเธอตาย ต่างกับสร้อยทองที่ให้การต้อนรับเขาเป็นอย่างดีเพราะต้องการจับคู่ทัฬห์กับสร้อยสนลูกสาวของเธอ ด้านทัฬห์ที่ทราบมาว่าสร้อยทองเป็นเพียงแม่เลี้ยงของเฟื่องลดาและกำลังจะขายเธอให้กับเสี่ยคนหนึ่ง ทัฬห์เลยพยายามจะช่วยเหลือเฟื่องลดาอย่างสุดความสามารถตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเฟื่องถึงแม้ว่าเธอจะเกลียดเขาแค่ไหนก็ตาม ทัฬห์เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ ไทว์ (ยศวรรธน์ ทะวาปี) หลานชายที่เป็นนายตำรวจฟังและยุให้ไทว์จีบเฟื่องลดาเพื่อปกป้องเธอ แต่ไทว์กลับเข็ดขยาดกับท่าที่แข็งกระด้างและแววตาเย็นชาของเธอ หลังงานศพสร้อยทองมักจะขอเงินจากทัฬห์อยู่เสมอและเขาก็ให้ด้วยความเต็มใจ แต่สร้อยทองกลับหว่านล้อมเฟื่องลดาจนเธอไม่อยากเรียนต่อและหันไปสมัครเป็นครูพี่เลี้ยงที่โรงเรียนของ ลูกแก้ว (ปารย์ชนก ผ่านสำแดง) ลูกสาวสุดที่รักของทัฬห์และรู้ว่าทั้งสองคนเป็นพ่อลูกกัน ทางด้านเสี่ยก็เร่งรัดจะเอาตัวเฟื่องลดา ทำให้สร้อยทองต้องวางแผนส่งตัวเธอให้เสี่ย ทัฬห์จะช่วยเฟื่องลดาไว้ได้หรือไม่ ต้องไปลุ้นกันต่อในละครค่ะ
2. ยอดรักนักรบ

ประเภท | แอคชั่น/ดราม่า/โรแมนติก |
อำนวยการผลิตโดย | กันตนา มูฟวี่ ทาวน์ (2002) จำกัด |
นักแสดงนำ | ศุกลวัฒน์ คณารศ, วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร, ณทรรศชัย จรัสมาส และศรัณย่า ชุณหศาสตร์ |
ปีที่ออกอากาศ | 2562 |
ยอดรัก (ศุกลวัฒน์ คณารศ) หนุ่มอีสานกำพร้าที่เติบโตขึ้นมาในความดูแลของหลวงพ่อวัดหนองอียอ ยอดรักเติบโตขึ้นมาเป็นนักร้องลูกทุ่งตามรอยพ่อและแม่ของเขาที่เคยเป็นนักร้องอยู่ในวงดนตรีของ ครูสมัย (สุเมธ องอาจ) สิ่งที่ทำให้ยอดรักแตกต่างจากคนอื่นก็คือเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเริ่มร้องเพลง ผู้ฟังจะหลงไหลและเคลิบเคลิ้มไปกับเสียงของเขาราวกับโดนมนต์ขลัง และความฝันของเขาก็ใกล้เป็นจริงเมื่อมีค่ายเพลงติดต่ออัดรายการในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ด้วยเงื่อนไขทำให้เขาต้องยอมตัดสัมพันธ์กับ ส้มจี๊ด (ศรัณย่า ชุณหศาสตร์) ลูกสาวครูสมัย, หักหลัง ซิ่ง (เดี่ยว เสกสรร) และ ชบา (กวินตรา โพธิจักร) ภรรยาใหม่ครูสลาที่พยายามทอดสะพานให้เขา และแอบเดินทางเข้ากรุงเทพเพียงลำพัง ระหว่างทางยอดรักโดนลอบทำร้ายจาก เหิม (ชัยวัฒน์ ทองแสง) จนหมดสติ เหิมพาร่างของยอดรักไปยัดไว้ในเรือหวังให้ยอดรักเป็นแรงงานในทะเลเพื่อแก้แค้น ในขณะเดียวกัน เรือเอกนักรบ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) นำทีมอดีตทหารฝีมือดีของกองทัพเรือบุกจับเรือเถื่อนของ เฮียกวง (ชมวิชัย เมฆสุวรรณ) ในขณะที่กำลังชุลมุนกันอยู่นั้นนักรบโดน ผจญ (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) ยิงจนตกทะเล ในขณะที่ร่างของนักรบกำลังจมหายไปในทะเลอยู่นั้นกลับมีร่างของยอดรักลอยสวนขึ้นมา ด้วยหน้าตาที่คล้ายคลึงกันทำให้ทีมปฏิบัติการนำตัวเขาขึ้นฝั่ง หลังจากลืมตาตื่นพ่อหนุ่มยอดรักเสียงทองก็พบกับ เรือเอกแพทย์หญิงชลดา (วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร) คู่หมั้นของทหารกล้านักรบ เขาจึงต้องรับบททหารกล้าเสียงทองและฝึกฝนอย่างหนักเพื่อทำตัวให้สมบทบาท ในขณะเดียวผจญสืบจนรู้ความจริงของยอดรักและพยายามจะทำลายชื่อเสียงของเขา ยอดรักนักรบจะเอาตัวรอดได้หรือไม่ต้องติดตามชมในละครค่ะ
3. ผู้บ่าวอินดี้ ยาหยีอินเตอร์

ประเภท | โรแมนติก / คอมเมดี้ |
อำนวยการผลิตโดย | พอดีคำ เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (ธงชัย ประสงค์สันติ) |
นักแสดงนำ | ศุกลวัฒน์ คณารศ, เซฟฟานี่ อาวะนิค, ชนกันต์ พูนศิริวงศ์ และธิดาดิน หินอ่อน |
ปีที่ออกอากาศ | 2562 |
ผู้กองทศพล (ศุกลวัฒน์ คณารศ) มือปราบสายอีสาน ปลอมตัวเข้าไปอยู่ในวงหมอลำเพื่อสืบคดีค้ายาโดยได้รับความช่วยเหลือจาก บักเสือ (อติรุจ สิงหอำพล) และ แก้วตา (สุภาพร มะลิซ้อน) เพื่อนรักจาก “โคกอีเกิ้ง” บ้านเกิดเมืองนอนของเขา แต่แผนการเกือบล่มไม่เป็นท่าเมื่อ ชโลธร (เซฟฟานี่ อาวะนิค) เข้ามาขัดจังหวะทำให้ทศพลต้องปราบเธอจนหมดสติและปฏิบัติภารกิจสำคัญไปพร้อม ๆ กัน ชโลธรเป็นไฮโซสาวทายาทธุรกิจพันล้านที่มีนิสัยหยิ่งจองหองและเห็นแก่ตัว เธอพักอาศัยอยู่กับ ธนภพ (ปราบ ยุทธพิชัย) และ ฉายมณี (กชกร นิมากรณ์) เจ้าของสุชาติอินดัสตรีและเป็นเพื่อนสนิทของพ่อแม่เธอที่เสียชีวิตย่างปริศนา โดยมี นลินี (อนิสา นูกราฮา) ลูกสาวของทั้งคู่คอยดูแลทำให้เธอรักและไว้วางใจให้จัดการทุกอย่างแม้กระทั่งการแต่งงานระหว่างเธอกับ หมอภัชชนนท์ (ชนกันต์ พูนศิริวงศ์) ทันตแพทย์หนุ่มแสนดี นอกจากนี้ยังมี ป้านวล (ดีใจ ดีดีดี) แม่นมที่คอยดูแลปกป้องเธอมาตลอด โดยป้านวลยังรู้ว่าความจริงแล้วว่าธนภพ, ฉายมณี และนลินี รู้เบื้องหลังการตายของพ่อแม่ชโลธร หลังจากชโลธรโดนนลินียุยงให้มีปากเสียงกับป้านวลเธอจึงย้ายกลับมาโคกอีเกิ้งด้วยความน้อยใจ และเมื่อวันแต่งงานมาถึงเธอก็ต้องช็อกแทบเป็นลมเมื่อพ่อแม่เลี้ยงที่คอยฟูมฟักมาตลอดเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริง และชุดแต่งงานแสนสวยของเธอต้องตกเป็นของพี่สาวที่ยั่วยวนคู่หมั้นสุดใสซื่อจนตกหลุมพราง ทางด้านทศพลก็กำลังเจอปัญหาใหญ่เมื่อ ผู้ใหญ่ปั้น (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) และ แม่ป่อง (อัญษนา บุรานนท์) ยื่นคำขาดให้ทศพลหรือ “บักพล” ลูกชายเพียงคนเดียวกลับโค้กอีเกิ้งเพื่อสมัครเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้านคนต่อไป เพราะหวังจะรักษาหมู่บ้านอันสงบสุขให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของนายทุนอย่าง พ่อใหญ่คม (มนตรี เจนอักษร) และต้องแต่งงานกับลูกของพ่อใหญ่ งานนี้ทั้งสองคนจึงต้องร่วมมือกันเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์กดดันเหล่านี้
4. พชรมนตรา

ประเภท | ลี้ลับ / แฟนตาซี / โรแมนติก |
อำนวยการผลิตโดย | กันตนา มูฟวี่ ทาวน์ (2002) จำกัด |
นักแสดงนำ | ศุกลวัฒน์ คณารศ, เมลดา สุศรี, ฮาน่า ลีวิส, รพีภัทร เอกพันธ์กุล, บารมิตา สาครจันทร์ และอิงฟ้า เกตุคำ |
ปีที่ออกอากาศ | 2562 |
ย้อนไปเมื่อปี 2540 ริมชายแดนประเทศไทย ดร.อมร (อัมรินทร์ สิมะโรจน์) พา ประพจน์ (ขจรศักดิ์ รัตนนิสัย) ออกตามหา “เพชรพชร” เพชรสีชมพูที่ว่ากันว่าหากใครได้ครอบครองก็จะสุขสมหวังทุกประการ โดยมี วาโพ (คงกะพัน แสงสุริยะ) เป็นพรานป่าคอยนำทาง หลังจากฝ่าฟันอุปสรรคและการเดินทางอย่างทุลักทุเลในที่สุดทั้งหมดก็เจอวิหารเก่าแก่ที่มีรูปปั้นแมวขนาดใหญ่อยู่ภายในวิหาร รูปปั้นแมวดังกล่าวมีลำตัวเป็นแมวแต่กลับมีใบหน้าเป็นผู้หญิง ที่สำคัญยังมีเพชรพชรสีชมพูฝังอยู่ในตาข้างหนึ่งด้วย หลังจากได้เพชรพชรกลับมาแทนที่ประพจน์จะส่งเพชรให้กับทางราชการตามที่สัญญาไว้กับอมร เขากลับสั่งให้ลูกน้องฆ่าปิดปากอมรและวาโพ แต่วาโพรอดไปได้พร้อมลูกสาววัย 3 ขวบของอมร 20 ปีผ่านไป ณดล (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ลูกชายของประพจน์เติบโตขึ้นเป็นนักธุรกิจหนุ่มหล่อ วันหนึ่งเขาได้เดินป่าแถวชายแดนและได้พบกับ เพชร (เมลดา สุศรี) เด็กหนุ่มรูปร่างอ้อนแอ้นแถมหน้าสวยอย่างกับผู้หญิง แต่แล้วเขาก็ต้องอึ้งตาค้างเมื่อเพชรสามารถปีนป่ายได้อย่างคล่องแคล่วแถมยังช่วยชีวิตเขาไว้จากพวกล่าสัตว์ป่าด้วยทักษะการต่อสู้ราวกับมืออาชีพ ณดลจึงชวนเพชรมาเป็นมาเป็นลูกร้องคนสนิทย์ที่กรุงเทพ หลังจากพชรเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาพ่อหรือ วาโพ เขาก็อนุญาติแต่มีข้อแม้ว่าเพชรจะต้องปลอมตัวเป็นผู้ชาย ถึงจะสงสัยแต่เพชรก็ทำตามคำสั่งของพ่อด้วยความกตัญญู
ทางด้านประพจน์ที่ประสบความสำเร็จและร่ำรวยจากอำนาจของเพชรกลับมีสุขภาพอ่อนแอจนต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลาและพบกับฝันร้ายจากอาถรรพ์ของเพชรพชร เขาได้แต่เก็บความน่ากลัวนี้ไว้คนเดียวเพราะไม่อยากให้ลูกชายรับรู้ถึงความชั่วร้ายที่ตนเองเคยก่อไว้ในอดีต สุดท้ายประพจน์ก็ประกาศตามหาตัว “อัญชลี” หรือลูกสาวของอมรเพื่อมอบเงินเป็นจำนวนมากด้วยความหวังว่าจะไถ่โทษให้กับความชั่วที่ตนเองเคยก่อไว้ หลังประกาศไม่นานก็มีหญิงสาวมากหน้าหลายตาอ้างตัวเป็นอัญชลี แต่มีเพียงสามคนเท่านั้นที่รู้ถึงความลับในดีตจริง ๆ นั่นก็คือ มาริสา (บารมิตา สาครจันทร์), จัน (อิงฟ้า เกตุคำ) และ ปัทมา (ฮาน่า ลีวีส) ประพจน์จึงให้ทั้งสามเข้ามาอยู่ในบ้านเพื่อสืบหาอัญชลีตัวจริง ในขณะเดียวกันทั้งบ้านก็ต้องพบเจอกับเหตุการณ์ประหลาดที่หนักขึ้นทุกวัน ๆ ประพจน์จะตามหาตัวอัญชลีเจอและถอนคำสาปได้หรือไม่ แล้วเพชรจะโดนณดลจับได้เมื่อไหร่ เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร ต้องติดตามในละครค่ะ
5. สัมปทานหัวใจ (2561)

ประเภท | ดราม่า / โรแมนติก |
อำนวยการผลิตโดย | มุมใหม่ จำกัด |
นักแสดงนำ | ศุกลวัฒน์ คณารศ, วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร, จิณณะ นวรัตน์ และฮาน่า ลีวิส |
ปีที่ออกอากาศ | 2561 |
รัตนวัลย์ (วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร) แต่งงานกับ ปารเมศ (ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์) มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนคือ มันปู (ชาญคามิน ชยางกูร) หลังจากนั้นไม่กี่ปีรัตนวัลย์ทนความเจ้าชู้ของสามีไม่ไหวจึงตัดสินใจหอบลูกมุ่งหน้ากลับไปบ้านเดิมของ รักษา (สุรศักดิ์ ชัยอรรถ) และ ตรีสุคนธ์ (นัฎฐา ลอยด์) พ่อกับแม่ที่ภูเก็ต พ่อกับแม่ของรัตนวัลย์เป็นเศรษฐีทำธุรกิจหลายอย่าง และหนึ่งในนั้นคือการเป็นหุ้นส่วนสัมปทานรังนกกับบริษัทแห่งหนึ่ง แต่หลังจากพ่อของรัตนวัลย์เสียชีวิตน้องชายของเธอจึงตัดสินใจขายหุ้นรังนกทั้งหมดถึงแม้ว่าปารเมศจะพยายามคัดค้านแค่ไหนก็ตาม หลังจากนั้นไม่นานตรีทิพย์ก็เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต
อยู่มาวันหนึ่ง เอิบ (ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์) จับตัวรัตนวัลย์และมันปูขึ้นเรือไปเกาะถ้ำหวังจะฆ่าข่มขืนตามที่ได้รับคำสั่งมา แต่โชคดีที่ นาบุญ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) เข้าช่วยเหลือได้ทันเวลา แต่นาบุญมีบุคลิกและท่าทางน่ากลัวทำให้รัตนวัลย์ที่กลัวอยู่แล้วเสียขวัญเข้าไปใหญ่ เธอเลยพยายามหนีออกจากเกาะแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ นาบุญเป็นเจ้าของสัมปทานรังนก เคยแต่งงานมาแล้วหนึ่งครั้งแต่ภรรยาทนความติดดินของเขาไม่ไหวเลยทิ้งไป นาบุญประกาศกับคนงานว่ารัตนวัลย์เป็นผู้หญิงของตนเพื่อให้เธอปลอดภัยและให้ช่วยงานบัญชีบนเกาะ โดยไม่ไว้ใจให้ใครมาเธอส่งบนฝั่งนอกจากตัวเขาเอง ในขณะเดียวกัน เรือเอกไผท (จิณณะ นวรัตน์) เพื่อนทหารเรือของนาบุญก็ตามสืบหาคนที่สั่งฆ่ารัตนวัลย์ หลังจากมีเบาะแสแล้วทั้งนาบุญและรัตนวัลย์ก็เริ่มแผนการเผชิญหน้ากับคนร้าย
6.เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน

ประเภท | ดราม่า / โรแมนติก / แอ็กชัน |
อำนวยการผลิตโดย | พอดีคำ เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด (ธงชัย ประสงค์สันติ) |
นักแสดงนำ | ศุกลวัฒน์ คณารศ, ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ, หลุยส์ เฮส และอธิชนัน ศรีเสวก |
ปีที่ออกอากาศ | 2560 |
หลังเสร็จสิ้นภารกิจช่วยเหลือตัวประกัน ร้อยเอกภูริช (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ถูกเรียกตัวให้รับภารกิจสำคัญคือการแกะรอยหาโรงงานผลิตยาบ้าและดูแลความสงบชายแดนไทย-พม่า และที่นั่นทำให้เขาได้เจอกับ วริสา (อธิชนัน ศรีเสวก) แพทย์อาสาที่แอบปลื้มภูริชตั้งแต่แรกเห็นและอิจฉาในความสามารถของ นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) แพทย์หญิงอาสาฝีมือดีที่เป็นเพื่อนร่วมทีม วริสาลอบทำร้ายนภัสชลหลายครั้งแต่ภูริชก็ช่วยเธอไว้ได้ทุกครั้งโดยไม่เคยเอะใจอะไร ส่วนนภัสชลก็มีปากเสียงกับภูริชบ่อยครั้งเช่นกันเพราะเธอชอบเข้าไปก้าวก่ายหน้าที่เขา
วันหนึ่งมีเหตุปะทะเกิดขึ้นและภูริชเพลี่ยงพล้ำถูกยิงอาการสาหัส วริสาอาสาเป็นคนผ่าตัดให้แต่เกือบไม่สำเร็จถ้านภัสชลไม่เข้ามาช่วยไว้ได้ทัน หลังจากนั้นภูริชก็ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่กรุงเทพแต่ได้ทิ้งหัวใจไว้ที่ชายแดนโดยไม่รู้ตัว ทางด้านชายแดนมีการสู้รบเกิดขึ้น นายพลลาแป (วันชัย เผ่าวิบูล) พยายามแย่งรัฐลาซะ แต่ นายพลอาเช (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) และลูกชายมีฐานที่มั่นที่มั่นคงมากทำให้นายพลลาแปสั่งซื้อพิมพ์เขียวระเบิดชนิดร้ายแรงจาก วาริส (เวนซ์ ฟอลโคเนอร์) นายหน้าค้าอาวุธชาวไทยโดยอาศัยความช่วยเหลือจากลูกสาวที่เป็นหมอ ข่าวรู้ถึงนายพลอาเช จึงสั่งให้ทหารลูกน้องไปจับตัวหมอมาเป็นตัวประกัน ทหารจับตัวทั้งวริสาและนภัสชลมา เพราะไม่รู้ว่าใครคือลูกสาวของวาริช ด้านภูริชถูกเรียกตัวกลับมาช่วยตัวประกันทั้งสอง เพราะหนึ่งในนั้นคือลูกสาวของท่านทูต ภูริชจึงปลอมตัวเข้าช่วยเหลือและช่วยนภัสชลหนีออกมาได้พร้อมพิมพ์เขียว ส่วนวริสาหนีไปกับวาริส ทั้งคู่หลบหนีและรอนแรมอยู่ในป่าด้วยกันหลายวันจนเกิดเป็นความผูกพันธ์ แต่หลังจากกลับถึงค่ายภูริสเข้าใจผิดว่านภัสชลมีแฟนแล้วจึงไล่เธอกลับบ้านและกลับเข้าร่วมภารกิจต่อจนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสอาการย่ำแย่ ด้านภัสชลที่รู้หัวใจตัวเองได้แต่ร้องไห้ภาวนาให้ภูริชฟื้นขึ้นมาฟังคำว่ารักจากเธอ สุดท้ายเรื่องราวจะเป็นอย่างไร ภูริชจะฟื้นขึ้นมาหรือไม่ต้องไปหาคำตอบในละครค่ะ
7. คู่ซ่ารสแซ่บ

ประเภท | คอมเมดี้ |
อำนวยการผลิตโดย | มุมใหม่ จำกัด |
นักแสดงนำ | ศุกลวัฒน์ คณารศ, พีชญา วัฒนามนตรี, อาทิตย์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ และณัฐชา นวลแจ่ม |
ปีที่ออกอากาศ | 2560 |
เพราะเหตุอุทกภัยใหญ่ที่เกิดขึ้นทำให้โรงงานปลาร้าแปรรูป “แม่ศรีไทยแลนด์” ได้รับความเสียหายขาดทุนย่อยยับทำให้ เรือนแก้ว (มณีนุช เสมรสุต) ถึงกับเครียดจัดจนล้มป่วย มีแต่ รสริน (พีชญา วัฒนามนตรี) ลูกสาวเพียงคนเดียวคอยทำหน้าที่ประคับประคองจิตใจของแม่รวมถึงกอบกู้สถานการณ์ของโรงงานทั้งที่แทบมองไม่เห็นโอกาส หลังเรือนแก้วออกจากโรงพยาบาลทั้งหมดจึงต้องมานั่งปรึกษาหาทางออกกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป รสรินแนะให้แม่ขอความช่วยเหลือจากญาติฝั่งพ่อที่ร่ำรวยเป็นเศรษฐี แต่เรือนแก้วกลับไม่ยอมเพราะเธอรู้ดีว่าฝั่งสามีเกลียดเธอเข้าไส้และไม่ยอมรับเธอในฐานะสะใภ้ ถึงขั้นให้เธอเปลี่ยนมาใช้นามสกุลเดิมหลังสามีเสียชีวิต เรือนแก้วนึกได้ว่ามีเพื่อนสามีอยู่คนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จจนร่ำรวยและเคยบอกเธอว่าหากมีเรื่องเดือดร้อนเขาพร้อมจะช่วยเหลือ เรือนแก้วจึงลองติดต่อเล่าเรื่องราวทุกอย่างและขอกู้ยืมเงินมาจำนวนหนึ่ง
วันต่อมา ศักดิ์สกุล (ทูน หิรัญทรัพย์) เพื่อนสามีเรือนแก้วรีบเดินทางมาพบพร้อมเช็คเงินสดที่เรือนแก้วขอยืมมาโดยไม่มีสัญญาเงินกู้ใด ๆ สองแม่ลูกจึงเกิดความลังเลที่จะรับ ประกอบกับน้าสาวที่เป็นคนมองโลกในแง่ร้ายอยู่แล้วชี้นำว่าวันหนึ่งศักดิ์สกุลอาจจะครอบครองโรงงานปลาร้าของทั้งคู่ได้ เรือนแก้วจึงรับปฏิเสธความช่วยเหลือครั้งนี้ ศักดิ์สกุลจึงสร้างเงื่อนไขให้รสรินแต่งงานปลอม ๆ กับ กรพงศ์ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ลูกชายคนโตของเขาที่มีนิสัยเจ้าชู้ เอาแต่ใจ ไม่เอาการเอางาน และเขาไม่ต้องการให้กรพงศ์แต่งงานกับ อรอาภา (ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์) ลูกสาวรัฐมนตรี เพราะเขาเห็นว่าคนเดียวที่จะปราบลูกชายของเขาได้ก็คือรสริน หลังจากแม่และป้าพร้อมใจกันชักแม่น้ำทั้งห้าเกลี้ยกล่อมสุดท้ายรสรินก็ยอมรับเงื่อนไขนี้ ศักดิ์สกุลและ พิมพ์เพทาย (ณัฐชา นวลแจ่ม) ลูกสาวคนเล็กจึงเริ่มแผนการทันที ด้านกรพงศ์ที่เพิ่งรู้เรื่องถึงกับร้องเสียงหลงและไม่มีทางยอมรับลูกสาวโรงงานปลาร้าเป็นภรรยาแน่นอน แต่เมื่อโดนพ่อและน้องขู่ว่าจะตัดเงินทุกช่องทางก็ต้องจำใจยอมรับ ในเมื่อทำอะไรไม่ได้แล้วกรพงศ์และอรอาภาจึงแอบเดินทางมาดูหน้าเจ้าสาวที่บ้านเกิดและตกใจสุดขีด เพราะเห็นว่าเจ้าสาวปริศนาของตนไม่ได้มีหน้าตาสะสวยแต่อย่างใด ด้วยความโกรธกรพงศ์และอรอาภาจึงหาทางล่มงานแต่งให้ได้ หลังจากนั้นไม่นานศักดิ์สกุลก็พากรพงศ์กลับไปบ้านของเจ้าสาวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาหนีออกไปเที่ยวในเมืองและพบกับสาวงามคนหนึ่งทำให้เขาตกหลุมรักและอยากจะพาเธอไปอยู่ด้วย
ตลอดระยะเวลาที่ทั้งสองได้ใช้ร่วมกันกรพงศ์มักจะใส่ร้ายเจ้าสาวของตัวเองอยู่เสมอ จนกระทั่งวันแต่งงานมาถึง อรอาภาขนบรรดาเพื่อนนางแบบมาเต็มงานและหวังจะจับตัวเจ้าสาวไปทำให้เสียโฉมเพื่อความอับอาย แต่แล้วทุกคนรวมถึงกรพงศ์ก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อเจ้าสาวอัปลักษณ์ของเขากลับกลายเป็นหญิงสาวที่เขาเคยเจอในเมือง นั่นทำให้เขารู้ทันทีว่าโดนรสรินวางแผนหลอกให้เข้าใจผิดว่าลูกของคนงานคือเจ้าสาวของเขามาตลอด ในขณะที่กรพงศ์กำลังดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่เพราะกำลังจะได้สาวสวยหุ่นดีมีความสามารถมาเป็นภรรยาด้านอรอาภากลับเสียหน้าที่เห็นกรพงศ์กำลังมีความสุขจนปิดไม่มิด รสรินจะดัดนิสัยเจ้าพ่อปลาไหลอย่างไรต้องไปเอาใจช่วยในละครค่ะเพื่อน ๆ
8. เพชรตัดเพชร

ประเภท | แอ็กชัน |
อำนวยการผลิตโดย | พอดีคำ จำกัด (ธงชัย ประสงค์สันติ) |
นักแสดงนำ | ศุกลวัฒน์ คณารศ, มิกค์ ทองระย้า, อุษามณี ไวทยานนท์ และขอขวัญ เรสตอล |
ปีที่ออกอากาศ | 2559 |
ชายหนุ่มสุขุมรักความยุติธรรมอย่าง ชาติ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ต้องมาคอยรับมือกับ ยอด (มิกค์ ทองระย้า) คู่อริหนุ่มที่เต็มไปด้วยไปด้วยไฟทะเยอทะยาน จู่ ๆ ทั้งคู่ก็กลายเป็นคนตายและถูกนำตัวเข้าองค์กร “อีกาพญายม” เพื่อฝึกเป็น “อีกายมทูต” มือสังหารที่มี มาดามหลุยส์ (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) เป็นผู้นำองค์กร ซึ่งองค์กรนี้มีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้มีอำนาจสูงที่สุดในเอเชีย โดยการผลิตยาเสพติดเพื่อทำลายประเทศแล้วสร้างประเทศไทยขึ้นมาใหม่ ชายหนุ่มรักความยุติธรรมอย่างชาติทนไม่ได้จึงหนีออกจากฐานลับและได้พบกับ ไป่หลู (อุษามณี ไวทยานนท์) ลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง นักสืบสาวฝีมือดีจากหน่วย KCAS หล่วยลับของราชการที่ถูก มานพ (กฤษฎา สุภาพพร้อม) หนอนบ่อนไส้ของหน่วยทำลายจนเจ้าหน้าที่เสียชีวิตเกือบหมด รวมทั้งพ่อของไป่หลูด้วย และเธอคิดว่าชาติก็สมคบคิดกับมานพร่วมทำลายหน่วยลับ เธอจึงหนีไปกบดานที่ฮ่องกงกับ ไอ้แสบ (อรรครัฐ ฉั่วศิริสุขสกุล) คู่หูที่รู้เหตุผลที่แท้จริงของชาติ
หลังจากนั้นไม่นานหน่วย KCAS ก็สร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งด้วยการนำของ เชิดศักดิ์ (อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) หัวหน้าหน่วยผู้รอดชีวิต งานนี้ชาติและไป่หลูต้องเป็นทั้งคู่รักและคู่กัดปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วง ด้านชาติที่ได้รับความไว้วางใจจากมาดามหลุยส์ที่ปูทางให้ขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไปและส่งสายลับสาวเซ็กซี่มาตามดูแลในฐานะเมียคนหนึ่ง และนั่นทำให้คู่อริอย่างยอดริษยาและและรู้ว่าชาติมีแผนลับจ้องทำลายองค์กร ยอดจึงวางแผนกำจัดชาติและใช้ชาติเป็นบันไดให้ตนเองก้าวขึ้นเป็นผู้นำองค์กร ชาติจะทำอย่างไรต่อไป ทั้งแผนการทำลายอีกาพญายม, ความรักระหว่างตัวเขาเองกับไป่หลู และยอดที่จ้องจะเอาชีวิตเขาอยู่ทุกวินาที
9. เพื่อนแพง

ประเภท | ดราม่า / ย้อนยุค / โรแมนติก |
อำนวยการผลิตโดย | พอดีคำ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (ธงชัย ประสงค์สันติ) |
นักแสดงนำ | ศุกลวัฒน์ คณารศ, จีรนันท์ มะโนแจ่ม และฝนทิพย์ วัชรตระกูล |
ปีที่ออกอากาศ | 2558 |
เสือเทิด (วินัย ไกรบุตร) ตัดสินใจเดินทางกลับ “บ้านสร้าง” บ้านเกิดเมืองนอนพร้อม ลอ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ระหว่างทางลอได้ช่วยชีวิต แพง ที่กำลังจะจมน้ำตายโดยมี เพื่อน พี่สาวยืนร้องเสียงดังแต่ไม่ยอมช่วย แต่แล้วตำรวจก็ตามหาเสือเทิดจนเจอและยิงจนเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาลอที่เพิ่งรู้ว่าพ่อตัวเองเป็นโจร ก่อนตายเสือเทิดให้ลอสาบานกับพระที่ห้อยคอว่าจะเป็นคนดี ไม่ผิดศีล ลอทำตามอย่างว่าง่าย สิบปีผ่านไป ลอ (ศุกลวัฒน์ คณารส) โตเป็นหนุ่ม ส่วน เพื่อน (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) และ แพง (ฝนทิพย์ วัชรตระกูล) สองพี่น้องโตเป็นสาว แพงรู้สึกติดหนี้บุญคุณลอที่เคยช่วยชีวิตและคอยปลอบใจตนเองเวลาที่โดนพ่อกับพี่ด่าว่าเป็นตัวเสนียดทำให้แม่ตาย เธอต้องคอยเก็บความรู้สึกแอบรักพี่ชายที่แสนดีเอาไว้คนเดียวเพราะลอกับเพื่อนรักใคร่ชอบพอกันถึงขั้นหมั้นหมาย แต่ก่อนจะถึงวันที่ทั้งคู่รอคอย เสือมิ่ง (เวนซ์ ฟอลโคเนอร์) ลูกน้องเก่าของเสือเทิดหนีคดีมาที่บ้านสร้างและต้องการเอาตัวลอไปด้วย เรื่องรู้ถึงหู วีระ (กฤษฎา สุภาพพร้อม) คู่ปรับที่พยายามแย่งเพื่อนจากลอมาตลอด
วีระวางแผนทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิดว่าลอเป็นโจรและขับไล่ออกไปจากหมู่บ้าน ทางด้านเพื่อเจอกับ แรม (อุษณีย์ วัฒฐานะ) ลูกสาวครูแสงที่ถูกส่งไปเรียนที่พระนคร แรมพยายามชักชวนเพื่อนไปพระนครเพราะเธออยากเอาเพื่อนไปขายในซ่อง แต่แพงรู้เข้าก็ไปฟ้องว่าแรมมั่วผู้ชายและจะพาเพื่อนไปขาย แรมเผาบ้านตัวเองและหนีไปพร้อมกับเพื่อนที่โดนทำร้ายจนหมดสติ ส่วนลอที่ออกตามหาวีระโดนทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสแถมเป็นไข้แทรกซ้อน มีแต่แพงที่คอยดูแลปรนนิบัติไม่ห่างกาย โชคดีที่น้าสาวของแพงมีน้ำใจช่วยพาลอไปรักษาที่พระนครจนหายดี ลอตัดสินใจจะช่วยเพื่อนออกจากซ่องแต่ คุณมานพ (กรเศก โคร์นิน) ทนายหนุ่มช่วยไว้ได้ก่อน เพื่อนที่ประทับใจทั้งความหล่อและสุภาพบุรุษจึงตัดสินใจแต่งงานกับคุณมานพ ลอต้องหอบใจช้ำ ๆ กลับบ้านสร้าง ในคืนฝนตกแพงที่คอยดูแลพี่ลอมาตลอดตัดสินใจสารภาพรักออกไป ความใสซื่อบริศุทธิ์และบรรยากาศเป็นใจทำให้ทั้งสองคนได้เสียกัน
ด้านเพื่อนที่โดนแรมตามล้างแค้นและเพิ่งรู้ตัวว่าโดนมานพหลอก เธอจึงยุให้เมียหลวงของชายที่แรมเป็นชู้ยิงแรมจนตายอย่างเลือดเย็น เมื่อไม่มีที่พึ่งเพื่อนจึงเดินทางกลับบ้านสร้าง ในขณะเดียวกันแพงที่ปิดอาการแพ้ท้องไม่มิดโนชาวบ้านรุมประณามและโดนพ่อตบตีเนื่องจากแพงไม่ยอมบอกว่าใครเป็นพ่อของเด็ก เรือง (ภูษณะ บัวงาม) จึงป่าวประกาศว่าเป็นผัวและพร้อมแต่งงานเพื่อช่วยแพง เพื่อนที่กลับมาถึงบ้านไม่เชื่อว่าเรืองเป็นพ่อเด็กทะเลาะกับแพงใหญ่โต ด้วยความโกรธเธอจึงไม่ยอมบอกแพงว่าบันไดบ้านกำลังจะพังทำให้แพงตกบันไดจนอาการสาหัส แต่เธอก็เฝ้ารอพี่ลอกลับมาด้วยลมหายใจรวยริน ลอจะกลับมาหาแพงทันเวลาหรือไม่ เพื่อน ๆ ต้องติดตามชมต่อในละครค่ะ
10. พระจันทร์ลายพยัคฆ์

ประเภท | แอ็กชัน/ดราม่า |
อำนวยการผลิตโดย | พลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (ธงชัย ประสงค์สันติ) |
นักแสดงนำ | ศุกลวัฒน์ คณารศ, อรรคพันธุ์ นะมาตร์, พัชราภา ไชยเชื้อ และจีรนันท์ มะโนแจ่ม |
ปีที่ออกอากาศ | 2553 |
จันทร์ฉาย (พัชราภา ไชยเชื้อ), ปานเดือน (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) และ ทิวา (ประชากร ปิยะสกุลแก้ว) โตมาด้วยกันในครอบครัวตำรวจ จันทร์ฉายและปานเดือนเห็นพ่อของพวกเธอถูกแก๊งค้ายายิงตายต่อหน้าต่อตา แม่ของปานเดือนเลยอุปการะจันทร์ฉายมาดูแลและเลี้ยงเด็กสามคนให้โตมาเหมือนพี่น้องแท้ ๆ โดยจันทร์ฉายเป็นพี่ใหญ่คอยปกป้องดูแลน้อง ๆ หลังเรียนจบทั้งจันทร์ฉายและปานเดือนได้เป็นนายร้อยตำรวจหญิงรุ่นเดียวกัน ทั้งคู่ได้พบกับ อานนท์ (ศุกลวัฒน์ คณาเรศ) นายตำรวจหนุ่มรูปหล่อที่ทำให้ปานเดือนหลงรักตั้งแต่แรกพบ แต่กลับกันจันทร์ฉายดันไม่ชอบขี้หน้าผู้กองหนุ่มเลยแม้แต่น้อย
ระหว่างการฝึกจันทร์ฉายได้แสดงฝีมือจนเป็นที่ยอมรับของเพื่อน ๆ อานนท์จึงเลือกจันทร์ฉายเป็นผู้ช่วยคนใหม่ และนั่นทำให้ปานเดือนไม่พอใจคิดว่าพี่สาวจะแย่งรักแรกของเธอ ปานเดือนจึงร่วมมือกับ ผู้กองชัชวาล (กฤตภาศ ศักดิษฐานนท์) คู่ปรับอานนท์ทำงานตัดหน้าทีมจันทร์ฉายทุกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งจันทร์ฉายได้รับภารกิจให้จับกุม ภูผา (ชาติชาย งามสรรพ์) หัวหน้าแก๊งค์ค้ายารายใหญ่ ในขณะที่แผนกำลังไปได้สวยปานเดือนก็โผล่เข้ามาตัดหน้าจนเกือบถูกภูผาฆ่า จันทร์ฉายเข้าช่วยไว้ได้ทันและยิงภูผาจนตายด้วยความแค้นเพราะภูผาเคยฆ่าพ่อของเธอ การกระทำครั้งนี้ทำให้เธอถูกจับและสิ่งเดียวที่จะช่วยได้คือคำให้การของปานเดือน แต่เธอกลับปรักปรำจันทร์ฉายจนต้องติดคุก
ในขณะนั้นลูกสมุนของภูผาตามล้างแค้นสองสาวไม่เลิก ถึงขั้นทำร้ายแม่ของทั้งคู่จนบาดเจ็บทำให้ปานเดือนยิ่งเกลียดจันทร์ฉายขึ้นไปอีก หลังพ้นโทษจันทร์ฉายตามล้างแค้นคนที่ทำร้ายแม่อย่างเลือดเย็นจนต้องพ้นราชการ ปานเดือนได้ทีประกาศตัดสัมพันธ์กับจันทร์ฉายอย่างไร้เยื่อใย เธอต้องไปอยู่กับ สมชาย (บอล เชิญยิ้ม) เพื่อนที่สนิทกันตอนเธอไปสืบคดี ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนซี้กันในเวลาต่อมา แต่ไม่นาน วายุ (อรรคพันธ์ นะมาตร์) น้องชายต่างแม่ของภูผาก็เข้ารับตำแหน่งแทนพี่ชายและส่งคนไปก่อกวนจันทร์ฉายจนไม่เป็นอันทำมาหากิน อานนท์พยายามยื่นมือเข้าช่วยแต่โดนเธอปฏิเสธกลับมาทุกครั้ง จนกระทั่งจนตรอกจันทร์ฉายต้องบุกเข้าจัดการลูกสมุนจนวายุต้องทึ่งในความสามารถและติดต่อให้เธอมาทำงานร่วมกัน
จันทร์ฉายที่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับงานผิดกฎหมายปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย แต่ในขณะนั้นวายุโดนลอบทำร้ายเธอจึงต้องเข้าช่วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ หลังจากเหตุการณ์นั้นจันทร์ฉายจึงกลายมาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของวายุโดยมีเงื่อนไขคือเธอต้องไม่พัวพันกับยาเสพติด การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ จอมขวัญ (ปวีณา ตันฑ์ศรีสุโรจน์) ภรรยาของภูผา และ เมธี ที่เป็นชู้กันลับ ๆ ไม่พอใจเพราะทั้งคู่อยากกำจัดวายุและยึดครองอำนาจเสียเอง จันทร์ฉายที่อ่านเกมออกจึงพยายามขัดขวางทุกวิถีทาง ทางด้านปานเดือนที่กำจัดจันทร์ฉายไปได้แล้วก็ยังไม่สามารถทำให้อานนท์เปลี่นใจมารักเธอได้ ยิ่งมี ดุจดาว (พิมพ์นิภา จิตตธีรโรจน์) ลูกสาวนักการเมืองใหญ่คอยเป็นเสี้ยนหนามหัวใจ
หลังจากเข้าออกบ้านดุจดาวบ่อยเข้าก็รู้ว่าจันทร์ฉายไปทำงานให้วายุ วิชาญ (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) ที่อ่านเกมปานเดือนออกจึงหว่านล้อมให้เธอร่วมมือกับเขาได้ไม่ยาก ยิ่งมีเมธีกับจอมขวัญเป็นหนอนบ่อนไส้ล้วงความลับในแก๊งค์ของวายุมาบอกยิ่งทำให้จันทร์ฉายและวายุตกอยู่ในอันตรายมากขึ้นทุกที จันทร์ฉายจะเอาตัวรอดจากไฟแค้นที่ไม่มีที่ท่าว่าจะดับลงง่าย ๆ นี้ได้หรือไม่ สุดท้ายแล้วหัวใจอานนท์จะไปอยู่ที่ใคร ต้องชมในละครค่ะ
จบไปแล้วนะคะกับละครสนุก ๆ ที่พี่เวียร์ของเราร่วมแสดง เล่นเรื่องไหนก็หล่อล่ำกระชากใจจริง ๆ โดยเฉพาะเรื่องพระจันทร์ลายพยัคฆ์นี่จำได้ว่าตอนนั้นติดงอมแงมเลยค่ะ เป็นละครที่สนุกมาก ๆ อีกเรื่องหนึ่งเลย แฟน ๆ พี่เวียร์แนะนำให้ตามเก็บให้ครบทุกเรื่องเลยนะคะ ส่วนทางนี้ต้องขอตัวไปนอนก่อนค่ะเพราะดูหนังมาราธอนจนขอบตาคล้ำไปหมดแล้ว ไว้เจอกันใหม่ สวัสดีค่ะ