เราเห็นได้ชัดเจนเลยว่า ตลาดกล้องคอมแพค เป็นส่วนแรกที่ได้รับผลกระทบโดยตรง จากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของกล้องสมาร์ทโฟนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนเหตุผลเราทุกคนก็ทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วครับ ซึ่งถ้าเรานำกล้องทั้ง 2 ประเภทนี้ มาเปรียบเทียบกัน ในด้านของความสะดวกสบาย กล้องสมาร์ทโฟนสามารถชนะแบบใส ๆ เพราะทุก ๆ คนต่างก็มีสมาร์ทโฟนติดตัวอยู่แล้ว ฉะนั้นเมื่อมีกล้องที่มีประสิทธิภาพติดมากับสมาร์ทโฟนด้วย เราจะพกกล้องประเภทอื่น ๆ ไปอีกทำไม ?
จริงอยู่ที่ว่า กล้องสมาร์ทโฟนถือเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้นหลายเท่าตัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า มันจะเป็นกล้องที่ให้คุณภาพของภาพที่ดีที่สุด กล้องสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ จะให้คุณภาพของภาพที่ดีในภาพขนาดเล็กเท่านั้น ส่วนสาเหตุก็เป็นเพราะข้อจำกัดที่มีอยู่ของสมาร์ทโฟนทั้งแบตเตอรี่ เลนส์ และโดยเฉพาะเรื่องขนาดทำให้มันไม่สามารถใช้เซ็นเซอร์ภาพที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่อธิบายว่า ทำไมภาพถ่ายจากกล้องสมาร์ทโฟน จึงมีคุณภาพต่ำกว่าภาพถ่ายที่ได้จากกล้องประเภทอื่น ๆ เช่น กล้องมิลเลอร์เลส, กล้องดีเอสแอลอาร์, กล้องแอคชั่น หรือแม้แต่กล้องคอมแพคราคาประหยัดครับ แต่ในบทความนี้เราจะพูดถึงกล้องคอมแพครุ่นที่ดีที่สุดในท้องตลาดปัจจุบันกัน
กล้องคอมแพค (Compact Camera) ได้รับการพัฒนามาเพื่อต่อสู้กับสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะครับ แน่นอนว่าด้านความสะดวกสบายมันสู่ไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องคุณภาพของภาพที่ถ่ายออกมา กล้องคอมแพคมันจะมีดีกว่ากล้องสมาร์ทโฟนในทุกด้านครับ ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันแม้กล้องคอมแพคจะถูกพัฒนาให้เล็กลง แต่ในด้านประสิทธิภาพในการถ่ายภาพ มันไม่ได้ลดน้อยลงเลย กลับถูกทำให้สูงขึ้นเสียด้วยซ้ำ
เพราะฉะนั้นวันนี้เราขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ กล้องคอมแพค กันให้มากขึ้นครับ หากคุณเป็นคนที่รักการถ่ายภาพจริง เราอยากให้คุณลองเปลี่ยนมาใช้กล้องดี ๆ สักตัวครับ แล้วคุณจะลืมกล้องสมาร์ทโฟนไปเลยครับ

กล้องคอมแพค (Compact Camera) คืออะไร ?
กล้องดิจิตอลคอมแพค (Compact Camera) หรือกล้องเล็งแล้วถ่าย (Point-and-Shoot Camera) เป็นกล้องถ่ายภาพที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีการใช้งานที่เรียบง่ายมากที่สุด ไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ ซึ่งตามชื่อของมันเลย เราสามารถหยิบขึ้นมาเล็ง จากนั้นก็กดชัตเตอร์ได้เลย ตัวกล้องจะทำทุออย่างอัตโนมัติ กล้องคอมแพคส่วนใหญ่ ถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่เล็กกะทัดรัด เพื่อให้สามารถพกพาได้สะดวกที่สุด มันจึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบกล้องเล็ก ๆ พกพาได้ง่ายไม่ต่างไปจากสมาร์ทโฟน รวมไปถึงคนที่ไม่ชอบอะไรซับซ้อน ไม่อยากตั้งค่าแสง ไม่อยากเลือกเลนส์ และไม่อยากทำอะไรที่มันยุ่งยาก ซึ่งมันเป็นกล้องที่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอะไรวุ่นวาย เน้นภาพสวย ใช้ง่าย และพกพาสะดวก ครับ
ปัจจุบันกล้องคอมแพคสามารถแบ่งออกเป็น 2 ระดับง่าย ๆ ครับ ได้แก่ กล้องคอมแพคระดับทั่วไป มีราคาไม่กี่พันบาท และกล้องคอมแพคระดับสูง ก็จะมีราคาหลักหมื่นบาท ซึ่งแน่นอน มันก็จะมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ในบางรุ่นอาจอยู่ในระดับเดียวกันกับ กล้องมิลเลอร์เลส แต่ด้วยความที่มันเน้นขนาดให้เล็ก และการใช้งานที่ง่าย ทำให้มันมีข้อจำกัดในการใช้งานเช่นกันครับ ซึ่งก็คือกล้องคอมแพคจะมีช่วงซูมที่จำกัด และใช้รูรับแสงที่มีขนาดเล็ก นั่นหมายความว่า กล้องคอมแพค ก็จะมีมุมที่ค่อนข้างแคบ และขาดประสิทธิภาพในที่ที่มีแสงน้อยครับ ซึ่งในปัจจุบันก็มีกล้องคอมแพคหลาย ๆ รุ่น มีการพัฒนาในส่วนนี้ สังเกตได้จากตัวกล้อง ที่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ทำให้มันสามารถใช้งานในทุกสภาพแสงได้ดีขึ้น และแน่นอนครับ เรื่องราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกันครับ
นี่ก็คือกล้องคอมแพครุ่นต่าง ๆ ที่เราได้นำมารีวิวในวันนี้ครับ
Canon PowerShot SX740 HS

ราคา 12,590 บาท*
Canon PowerShot SX740 HS เป็นกล้องคอมแพคซูเปอร์ซูม ที่มาพร้อมกับขนาดที่เล็ก กะทัดรัด มีความเพรียวบาง และชูจุดเด่นเรื่องการซูมแบบออปติคอล 40 เท่า กันสั่น 5 แกน ได้ถึง 3 สตอป และความละเอียด 20.3 MP ด้วยประสิทธิภาพของ DIGIC 8 ระบบประมวลผลภาพตัวใหม่จากแบรนด์ Canon ซึ่งใช้อยู่ในกล้องระดับท๊อปหลายรุ่น เป็นชิปที่สามารถทำงานอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณสามารถใช้ถ่ายภาพต่อเนื่องได้อย่างไม่มีสะดุด มาพร้อมเซ็นเซอร์ขนาด 1/2.3 นิ้ว CMOS และใช้เลนส์ ที่มีระยะซูม 40 เท่า เป็นระยะประมาณ 24 - 960 มม. เมื่อเทียบเท่ากับ 35 มม. ช่วยให้คุณสนุกกับการซูมได้อย่างเต็มที่ สามารถถ่ายภาพที่ต้องการได้ง่าย ๆ จุดเด่นอีกอย่างของกล้องตัวนี้ก็คือ มันสามารถรองรับ การบันทึกวีดีโอในระดับ 4K Ultra HD ได้ซึ่งรวมไปถึงยังมี 4K time lapse ด้วย ช่วยมอบโอกาสในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ มากมาย ในส่วนของด้านหลังตัวกล้องก็มาพร้อมหน้าจอทัชสกรีน ขนาด 3 นิ้ว ที่สามารถปรับมุมมองหน้าจอได้ ช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทำให้มันเป็นกล้องที่เหมาะมาก ๆ สำหรับมือใหม่ที่อยากจะเริ่มทำบล็อกเป็นของตัวเอง กล้องราคาประหยัด แต่มีคุณสมบัติครบครัน
เซนเซอร์ | 20.3MP BSI 1/2.3-inch CMOS |
---|---|
เลนส์กล้อง | 24 - 960 มม. (40x), F3.3 ~ F6.9 (เทียบเท่าฟอร์แมตฟิล์ม 35 มม.) |
หน้าจอ | หน้าจอสัมผัส ปรับมุมได้ ขนาด 3.0 นิ้ว |
ถ่ายต่อเนื่อง | 10fps |
วิดีโอ | 4K |
การเชื่อมต่อ | WIFI & Bluetooth |
อายุแบตเตอรี่ | สูงสุด 265 ภาพ (การวัดจาก CIPA) |
น้ำหนัก | 299 ก. |
Sony Compact Camera ZV-1

ราคา 20,990 บาท*
Sony ZV-1 เป็นกล้องคอมแพคตระกูลใหม่ล่าสุดของ Sony มาพร้อมดีไซน์การออกแบบที่เรียบง่ายเป็นอย่างมาก มีขนาดเล็กกะทัดรัด และน้ำหนักเบา ซึ่งทำให้มันเหมาะกับสายวิดีโอบล็อกมาก ๆ สำหรับรุ่นนี้เป็นการผสมผสานกันระหว่างเลนส์ที่สว่างสดใส ระบบออโต้โฟกัสที่ยอดเยี่ยม มาพร้อมกับเซนเซอร์ Stacked CMOS ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 20.1 ล้านพิกเซล ใช้เลนส์ 24-70 มม. f / 1.8-2.8 ที่สว่างสดใส สามารถใช้สร้างฉากหลังเบลอได้ง่าย ๆ ทำให้แบบดูเด่นขึ้น เหมาะสำหรับการถ่าย Portrait และ Wide angle พร้อมระบบติดตามแบบเรียลไทม์ Real Time Tracking และระบบ Eye AF แบบเรียลไทม์ของ ทำให้การโฟกัสทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ด้านหลังมาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว สามารถปรับมุมออกด้านข้างได้ สำหรับจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ การบันทึกวิดีโอบล็อก ซึ่งสามารถรองรับการบันทึกสูงสุดระดับ 4K 30FPS HDR และ Full HD 120FPS พร้อมกับมีกันสั่นในตัวเลนส์ 4K Active Steady Shot ซึ่งสามารถป้องกันการสั่นของภาพดีกว่ารุ่นเก่าถึง 8 เท่า มี Build-in ND ที่สามารถใช้ได้ทั้งในภาพนิ่งและวิดีโอ ช่วยทำให้คุณได้วิดีโอที่มีคุณภาพได้ง่าย ๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมไมโครโฟน 3 แคปซูลพร้อมตัวตัดเสียงลมให้ด้วย ทำให้เก็บได้ดีทั้งภาพและเสียง เหมาะสำหรับสายบล็อกเกอร์อย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ อีกเพียบที่สามารถให้คุณมีภาพสวย ๆ ได้ง่าย ๆ ในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันรองรับทุกอุปกรณ์ หากใครที่อยากเป็นบล็อกเกอร์ Sony ZV-1 ตอบโจทย์
เซนเซอร์ | 20.1MP Exmor RS CMOS 1-inch |
---|---|
เลนส์กล้อง | 24-100 มม., F1.8 ~ F2.8 |
หน้าจอ | หน้าจอสัมผัส ปรับมุมได้ ขนาด 3.0 นิ้ว |
ถ่ายต่อเนื่อง | 24fps |
วิดีโอ | 4K 30p |
การเชื่อมต่อ | WIFI & Bluetooth |
อายุแบตเตอรี่ | สูงสุด 260 ภาพ |
น้ำหนัก | 294 ก. |
Canon PowerShot G7X Mark III

ราคา 22,960 บาท*
Canon G7X Mark III ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่า มันเป็นกล้องที่ยอดเยี่ยม ตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ วิดีโอบล็อกเกอร์ ด้วยข้อดีใหม่ของการถ่ายภาพ 4K พอร์ตไมค์ และการสตรีมมิง แบบสด ที่เข้าร่วมกับฟิลเตอร์ ND ในตัว และหน้าจอ LCD แบบพลิกขึ้นปรับมุมได้ ถือเป็นกล้องคอมแพคที่เหมาะที่สุดแล้วสำหรับการทำวิดีโอบล็อก โดยเด่นด้วยเซ็นเซอร์แบบเรียงซ้อน ขนาด 1 นิ้ว แบบ Stack CMOS พร้อมความละเอียด 20.1 ล้านพิกเซล พร้อมระบบประมวลผล DIGIC 8 รุ่นล่าสุดของค่ายที่ใช้อยู่ในกล้องระดับท๊อปหลาย ๆ รุ่น ส่วนเลนส์ได้รับการยกมาจาก G7 X Mark II รุ่นก่อนหน้า โดยมีช่วง 24-100 มม. บนกล้องฟลูเฟรม ซึ่งอาจทำให้มีระยะที่ค่อนข้างจำกัด แต่รุ่นนี้ทดแทนด้วยรูรับแสงกว้างสุด f / 1.8-2.8 ทำให้มันสามารถนำไปใช้งานในสภาพแสงน้อยได้ดี ด้วยประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมทำให้มันมีอัตราการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุดถึง 20fps และในส่วนวิดีโอสามารถบันทึกสูงสุดระดับ 4K 30p สะดวกสบายด้วยพอร์ตเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม 3.5 มม. ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็ให้มาครบทั้ง WIFI และ Bluetooth หมดกังวลเรื่องการถ่ายโอนข้อมูล สำหรับรุ่นนี้ถือเป็นกล้องที่มีประสิทธิภาพ สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายด้าน อีกทั้งตัวกล้องยังมีขนาดกะทัดรัด และน้ำหนักเบาอีกด้วย จึงหมดปัญหาเรื่องการพกพา
เซนเซอร์ | 20.1MP BSI 1-inch stacked CMOS |
---|---|
เลนส์กล้อง | 24-100 มม., F1.8 ~ F2.8 (เทียบเท่า 35 มม.) |
หน้าจอ | หน้าจอสัมผัส ปรับมุมได้ ขนาด 3.0 นิ้ว |
ถ่ายต่อเนื่อง | 20fps |
วิดีโอ | 4K 30p |
การเชื่อมต่อ | WIFI & Bluetooth |
อายุแบตเตอรี่ | สูงสุด 265 ภาพ (การวัดจาก CIPA) |
น้ำหนัก | 304 ก. |
Panasonic LUMIX Digital Camera DC-TZ220

ราคา 24,691 บาท*
Panasonic Lumix TZ220 เป็นกล้องคอมแพคที่มาพร้อมกับดีไซน์อันเรียบง่ายแต่ดูหรูหรา ได้รับการออกแบบมาเพื่อการพกพาโดยเฉพาะ มอบคุณภาพของภาพที่สมบูรณ์แบบง่าย ๆ ตัวกล้องใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้ว แบบ High Sensitivity MOS ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ทำงานควบคู่กับเลนส์ไลก้าเป็น Leica DC Vario-Elmar ที่ให้การซูมออปติคอลถึง 15 เท่า ช่วยให้สามารถถ่ายภาพได้ทุกรูปแบบ และเลนส์ตัวนี้ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ทำให้คุณสามารถใช้ถ่ายภาพได้ตั้งแต่มุมกว้าง 24 มม. ไปจนถึงการซูม 360 มม. ส่วนในด้านการโฟกัสก็มีระบบ Post Focus มาให้ คุณสามารถถ่ายภาพมาก่อนแล้วค่อยมาเลือกจุดโฟกัสในภายหลังได้ ซึ่งไม่ว่าจะยังไงคุณก็จะไม่พลาดการโฟกัสเลย อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Light Speed AF และ Depth From Defocus ซึ่งสามารถช่วยลดเวลาการโฟกัสลง ด้วยการโฟกัสอัตโนมัติ (AF) ที่รวดเร็ว ทำให้คุณไม่พลาดทุกช๊อตที่สำคัญ และก็ยังรองรับการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุดที่ 10fps ช่วยให้คุณสามารถจับภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วได้โดยภาพยังมีรายละเอียดคมชัด สำหรับด้านหลังกล้องมาพร้อมช่องมองภาพขนาด 0.2 นิ้ว ซึ่งมันจะเปิดโดยอัตโนมัติ เมื่อมีการยกกล้องเข้ามาใกล้ดวงตาของคุณ ช่วยให้มองเห็นทุกรายละเอียดแม้อยู่กลางแจ้ง ถัดลงมาจะเป็นหน้าจอสัมผัส ขนาด 3 นิ้ว ที่ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ส่วนการบันทึกวิดีโอก็สามารถบันทึกวิดีโอได้ในระดับ 4K UHD และมันยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว แบบไฮบริด 5 แกนด้วย ช่วยให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่า ภาพของคุณจะไม่มีการเบลออีกต่อไป สำหรับรุ่นนี้ถือเป็นกล้องที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมซึ่งมาในราคาสุดคุ้มค่า หากคุณอยากได้กล้องที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานและมีราคาคุ้มค่ารุ่นนี้ตอบโจทย์มากครับ
เซนเซอร์ | 20.1MP 1-inch High Sensitivity MOS |
---|---|
เลนส์กล้อง | LEICA DC VARIO-ELMAR Lens 24-360 มม.(ซูมออพติคอล 15 เท่า), F3.3 ~ F6.4 |
หน้าจอ | หน้าจอสัมผัส ขนาด 3.0 นิ้ว |
ถ่ายต่อเนื่อง | 10fps |
วิดีโอ | 4K 30p |
การเชื่อมต่อ | WIFI & Bluetooth |
อายุแบตเตอรี่ | สูงสุด 370 ภาพ |
น้ำหนัก | 340 ก. |
Panasonic Compact Camera Lumix DC-LX100 II

ราคา 27,541 บาท*
Panasonic Lumix DC-LX100 II เป็นกล้องคอมแพคระดับไฮเอน ที่ถูกเน้นมาให้มีคุณสมบัติที่ครบเครื่อง เอาใจคนที่ชอบอะไรแบบง่าย ๆ ไม่ต้องยุ่งยาก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วกล้องคอมแพคที่มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่กว่า 1 นิ้ว จำกัดเฉพาะเลนส์ทางยาวโฟกัสคงที่เท่านั้น แต่สำหรับรุ่นนี้ไม่ใช่ เพราะมันมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Micro Four Thirds ความละเอียด 17 ล้านพิกเซล ซึ่งใหญ่กว่า เซ็นเซอร์ 1 นิ้ว ถึง 1.6 เท่า เป็นเซ็นเซอร์เดียวกันกับที่พบในกล้องมิเรอร์เลสของ Panasonic ไม่มี Low-pass Filter โดยจะทำงานร่วมกับเลนส์ซูม 24-75 มม. สามารถซูมได้ 3.1 เท่า ใช้รูรับแสง 9 กลีบ ในส่วนระบบโฟกัส Contrast Detection โดยมีจุดโฟกัส 49 จุด พร้อมระบบ DFD (Depth From Defocus) ช่วยให้โฟกัสได้อย่างรวดเร็วและมีความแม่นยำมาก มีระยะโฟกัสใกล้สุดที่ 50 ซม. ส่วนในโหมดมาโครสามารถโฟกัสได้ใกล้กว่านี้ ทั้งยังมีระบบป้องกันการสั่นที่ชิ้นเลนส์ POWER O.I.S. ด้วย ช่วยให้การถ่ายภาพของคุณง่ายยิ่งขึ้น ในส่วนด้านหลังตัวกล้องมาพร้อมจอแสดงผลแบบ Touchscreen ขนาด 3 นิ้ว โดยมีความละเอียด 1,240,000 พิกเซล ให้ภาพที่คมชัด สีสันไม่ผิดเพี้ยน และมีช่องมองภาพแบบ EVF ซึ่งความละเอียด 2,760,000 พิกเซล และมีอัตราขยาย 0.7 เท่า ซึ่งช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้ดีในที่ที่มีแสงจ้า ทำให้คุณถ่ายภาพสวย ๆ ได้ง่ายขึ้น ในด้านการบันทึกวิดีโอ กล้องตัวนี้รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุดระดับ 4K 30p/24p และมีไมโครโฟนแบบ Stereo มาให้ด้วย ซึ่งแน่นอนมันตอบโจทย์สายบล็อกเกอร์ได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมาพร้อมฟังก์ชัน และก็มีโหมดสีอีกมากมาย คอยช่วยให้ภาพของคุณออกมาสวยสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
เซนเซอร์ | 17MP CMOS Micro Four Thirds |
---|---|
เลนส์กล้อง | LEICA DC VARIO-SUMMILUX 24-75 มม., F1.7 ~ F2.8 |
หน้าจอ | หน้าจอสัมผัส ขนาด 3.0 นิ้ว |
ถ่ายต่อเนื่อง | 11fps |
วิดีโอ | 4K 30p |
การเชื่อมต่อ | WIFI & Bluetooth |
อายุแบตเตอรี่ | สูงสุด 340 ภาพ (การวัดจาก CIPA) |
น้ำหนัก | 392 ก. |
Ricoh GR III กล้อง Compact

ราคา 32,900 บาท*
สำหรับ Ricoh GR III เป็นกล้องรุ่นล่าสุดจากซีรี่ส์ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับ Ricoh อย่างยาวนานเห็นภายนอกดูเรียบง่ายไม่มีอะไรหวือหวาแบบนี้ แต่ขอบอกเลยว่าภายในนั้นจัดเต็มมาก เราขอเริ่มจากเซ็นเซอร์รับภาพที่ใช้เป็น APS-C ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล ซึ่งมันเป็นเซ็นเซอร์ที่เรามักจะพบในกล้อง Mirrorless ระดับกลาง แน่นอนว่าขนาดมันใหญ่กว่าเซ็นเซอร์ของกล้องคอมแพคทั่ว ๆ ไป มันจึงมอบภาพที่สมบูรณ์แบบกว่า ทำงานจับคู่กับ GR Engine 6 ที่ประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว สามารถสร้างภาพนิ่ง DNG หรือ JPEG ความละเอียดสูงถึง 14 บิต ได้ ส่วนเลนส์ที่ใช้เป็นเลนส์ไพรม์คงที่ GR Lens 18.3 มม. มีรูรับแสงกว้างสุด F2.8 มอบมุมภาพที่กว้างเทียบเท่าระยะ 28 มม. เหมาะกับการทำงานในสภาพแสงที่หลากหลาย โหมดโฟกัส 2 โหมด โหมดปกติ และโหมดมาโคร ช่วยให้โฟกัสได้ใกล้สุด 6 ซม. ในโหมดมาโคร นอกจากนั้นยังมีฟิลเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ 2 ตัวอยู่ภายใน สำหรับการลดความเร็วชัตเตอร์ หรืออนุญาตให้ใช้การตั้งค่ารูรับแสงที่กว้างขึ้น ด้านหลังมีจอสัมผัส ขนาด 3.0 นิ้ว พลิกหน้าจอไม่ได้ สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล GR ยังมาพร้อม ระบบลดการสั่นไหว 3 แกน ซึ่งสามารถเข้ามาลดการสั่นไหวของกล้องช่วยให้คุณภ่ายภาพได้คมชัดยิ่งขึ้น ด้วยความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าลง ซึ่งระบบลดการสั่นไหวได้รับการปรับให้มันเหมาะสมกับเลนส์ตัวนี้แล้ว ทำให้เลนส์มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถช่วยลด Moiré ได้อีกด้วย ส่วนการบันทึกวิดีโอ กล้องตัวนี้รองรับได้สูงสุดที่ FHD 60p เท่านั้น ฉะนั้นสายบล็อกเกอร์อาจไม่เหมาะกับกล้องรุ่นนี้ แต่ถ้าเป็นสายช่างภาพรุ่นนี้จะตอบโจทย์มาก ๆ
เซนเซอร์ | 24.2MP CMOS APS-C |
---|---|
เลนส์กล้อง | 18.3 มม., F2.8 ~ F16 (ประมาณ 28 มม. เทียบเท่า 35 มม.) |
หน้าจอ | หน้าจอสัมผัส ขนาด 3.0 นิ้ว |
ถ่ายต่อเนื่อง | 4fps |
วิดีโอ | FHD 60p |
การเชื่อมต่อ | WIFI & Bluetooth |
อายุแบตเตอรี่ | สูงสุด 200 ภาพ (การวัดจาก CIPA) |
น้ำหนัก | 257 ก. |
Sony Cyber-shot RX100 VII Digital Camera

ราคา 34,990 บาท*
Sony Cyber-shot RX100 VII เป็นกล้องคอมแพคตระกูล CyberShot ซึ่งเป็นซีรีส์เกรดพรีเมียมของ Sony ได้รับความนิยมสูงมาก เนื่องจากมันสามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้ทั่ว ๆ ไปไดเป็นอย่างดี โดย RX100 เป็นกล้องคอมแพคขนาดเล็กกะทัดรัด และมีน้ำหนักที่เบา ช่วยให้การพกพากลายเป็นเรื่องง่าย กล้องตัวนี้มาพร้อมเซนเซอร์ Stacked Exmor RS CMOS ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 20.1 ล้านพิกเซล ทำงานควบคู่กับเลนส์ ZEISS Vario-Sonnar T ช่วงระยะ 24-200 มม. ถือว่ามันซูมได้ไกลมาก ๆ คนที่ชอบถ่ายภาพแนวภาพวิว ภูมิทัศน์ต่าง ๆ ตัวนี้ตอบโจทย์ได้ดีมาก การโฟกัสรุ่นนี้มีจุดโฟกัส Phase Detection Autofocus ถึง 357 จุด และก็ยังมีจุดโฟกัส Contrast Detection Autofocus อีก 425 จุด ทำให้ตัวกล้องมันสามารถจับวัตถุที่เคลื่อนไหวได้รวดเร็วและแม่นยำ ช่วยให้คุณไม่พลาดทุดช็อตที่สำคัญ มีการใช้ Real-Time Eye AF เป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยให้โฟกัสดวงตาได้อย่างรวดเร็ว ในส่วนของด้านหลังตัวกล้องยังคงมาพร้อมช่องมองภาพ ซึ่งได้รับการพัฒนามาจากรุ่นก่อนหน้า ทำให้ในตอนนี้คุณสามารถกดปุ่มช่องมองภาพก็จะเด้งขึ้นมาและกางออกเอง คุณสามารถได้ใช้งานทันที มันช่วยให้คุณใช้ถ่ายในสภาวะที่มีแสงจ้ามาก ๆ ได้อย่างสบาย ถัดลงมาเป็นหน้าจอ LCD ระบบทัชสกรีน รองรับการพลิกปรับมุมมอง เพื่อช่วยให้คุณใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น ในด้านการถ่ายภาพกล้องรุ่นนี้สามารถตอบโจทย์ได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนในด้านการถ่ายวิดีโอ ก็ต้องบอกว่ามันสามารถทำงานได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน รองรับการบันทึกวิดีโอที่ระดับ 4K ที่ 30p ได้ อีกทั้งด้านข้างยังมาพร้อมช่องเสียบไมค์ด้วย มันจึงเป็นกล้องที่เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่เป็นสายบล็อคเกอร์
เซนเซอร์ | 20.1MP Exmor RS CMOS 1.0-type |
---|---|
เลนส์กล้อง | Sonnar T 24-200 มม., F2.8 ~ F4.5 |
หน้าจอ | หน้าจอสัมผัส ปรับมุมได้ ขนาด 3.0 นิ้ว |
ถ่ายต่อเนื่อง | 20fps |
วิดีโอ | 4K 30p |
การเชื่อมต่อ | WIFI & Bluetooth |
อายุแบตเตอรี่ | สูงสุด 240 ภาพ (การวัดจาก CIPA) |
น้ำหนัก | 302 ก. |
กล้องไลก้า : Leica D-LUX 7 Compact Camera

ราคา 43,500 บาท*
Leica D-LUX 7 เป็นกล้องสายคอมแพค ที่มาพร้อมเอกลักษณ์อันโดดเด่น ดีไซน์สุดคลาสสิค สวยงาม ดูเรียบหรูมาก มีขนาดเล็ก กะทัดรัด ช่วยให้คุณพกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น สำหรับกล้องตัวนี้มาพร้อมเซ็นเซอร์ 4/3 นิ้ว Micro Four Thirds MOS ความละเอียด 17 ล้านพิกเซล ซึ่งใหญ่กว่าเซ็นเซอร์ 1 นิ้ว ถึง 1.6 เท่า ช่วยให้คุณได้ภาพที่คมชัด และมีสีสันที่สวยงามกว่า ทำงานคู่กับเลนส์ Leica DC Vario-Summilux ซึ่งมีรูรับแสงอยู่ที่ F1.7 ~ F2.8 ASPH. หรือเทียบเท่าระยะ 24-75 มม. ของฟลูเฟรม 35 มม. ซึ่งให้ภาพมีแสงสว่างอย่างน่าประทับใจ
ทั้งนี้ก็ยังมีแป้นหมุนสำหรับความเร็วชัตเตอร์และการชดเชยแสง พร้อมกับวงแหวนที่เลนส์สำหรับปรับรูรับแสง ช่วยให้คุณสนุกกับการถ่ายภาพมากยิ่งขึ้น และมอบภาพที่สวยงาม สมบูรณ์แบบได้ง่าย ๆ ในด้านการบันทึกวิดีโอกล้องตัวนี้ก็สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี โดยมันสามารถบันทึกภาพวิดีโอในระดับ UHD 4K ได้ และสามารถใช้คุณสมบัติ 4K Photo, Post Focus และ Sequence Composition ได้อีกด้วย
ด้านหลังมาพร้อมกับช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ EVF ซึ่งมีความละเอียด 2.76 ล้านพิกเซล ช่วยให้คุณใช้งานกลางแจ้งได้ง่ายยิ่งขึ้น หน้าจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว ซึ่งรองรับการทัชสกรีน ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และยังถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายกว่าเดิมอีกด้วย แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถพลิกหน้าจอได้สำหรับรุ่นนี้ถือเป็นกล้องประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์การใช้งานทั้งภาพถ่ายและวิดีโอ เน้นใช้งานง่าย พกพาสะดวก และด้วยชื่อเสียงของแบรนด์นี้คุณสามารถมั่นใจในคุณภาพของมันได้ครับ
เซนเซอร์ | 17MP 4/3 นิ้ว Micro Four Thirds MOS |
---|---|
เลนส์กล้อง | Leica DC Vario-Summilux 10.9-34, F1.7 ~ F2.8 ASPH. (24-75 มม. เทียบเท่า 35 มม.) |
หน้าจอ | หน้าจอสัมผัส ขนาด 3.0 นิ้ว |
ถ่ายต่อเนื่อง | 7fps |
วิดีโอ | 4K 30p |
การเชื่อมต่อ | WIFI & Bluetooth |
อายุแบตเตอรี่ | สูงสุด 340 ภาพ (การวัดจาก CIPA) |
น้ำหนัก | 392 ก. |
Fujifilm Compact Camera X100V

ราคา 62,000 บาท*
Fujifilm X100V เป็นกล้องคอมแพคที่มาพร้อมกับดีไซน์การออกแบบที่เรียบง่าย ทรง Rangefinder ซึ่งมีขนาดที่กะทัดรัด ช่วยให้คุณพกติดตัวได้สะดวกขึ้น ใช้เซ็นเซอร์ APS-C ขนาดใหญ่ ความละเอียดถึง 26 ล้านพิกเซล ซึ่งให้ภาพที่คมชัด สวยงาม พร้อมระบบ Focus แบบไฮบริด มีจุดทั้งหมด 425 จุด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การออโต้โฟกัสให้รวดเร็ว และแม่นยำขึ้น ในด้านการประมวลผล กล้องรุ่นนี้มาพร้อมชิพ X-Processor 4 ซึ่งทำงานได้อย่างรวดเร็ว ด้านหลังตัวกล้องมาพร้อมกับช่องมองภาพแบบไฮบริดที่เป็นเอกลักษณ์มาให้ด้วย ทำให้คุณสามารถใช้งานกลางแจ้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในส่วนของเลนส์ที่ใช้จะเป็นเลนส์ทางยาว 23 มม. รูรับแสง f/2 ซึ่งเทียบเท่ากับระยะ 35 มม. ของกล้องฟลูเฟรม ซึ่งหากคุณเคยชินกับกล้องมือถือ มุมภาพนี้อาจจะดูว่าแคบไปสักหน่อยแต่สามารถแก้ไขได้โดยการขยับกล้องเข้าหรือออกแบบจากแบบ ในส่วนของหน้าจอที่ใช้เป็นแบบใหม่ ขนาด 3 นิ้ว รองรับระบบสัมผัส และสามารถปรับเอียงได้ สำหรับการใช้งานรุ่นนี้ตอบโจทย์ทุกด้านทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ซึ่งรุ่นนี้รองรับการบันทึกวิดีโอได้ถึงระดับ 4K ทั้งแบบ DCI 4K และ UHD 4K สำหรับกล้องรุ่นนี้ มันเหมาะสำหรับคนที่รักการเดินทางมาก ๆ และถือเป็นกล้องในระดับไฮเอ็นด์ที่คุ้มค่ากับราคา
เซนเซอร์ | 26.1MP X-Trans CMOS |
---|---|
เลนส์กล้อง | 23 มม., F2.0 ~ F16 (เทียบเท่า 35 มม.) |
หน้าจอ | หน้าจอสัมผัส ปรับมุมได้ ขนาด 3.0 นิ้ว |
ถ่ายต่อเนื่อง | 11fps |
วิดีโอ | 4K |
การเชื่อมต่อ | WIFI & Bluetooth |
อายุแบตเตอรี่ | สูงสุด 350 ภาพ |
น้ำหนัก | 478 ก. |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว กล้องคอมแพค ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
วิธีการเลือกซื้อ กล้องคอมแพค ที่เหมาะกับคุณ !
1. เลือกจากจุดประสงค์ในการใช้งาน
สิ่งแรกที่คุณจะต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนก็คือ จุดประสงค์ในการใช้งานกล้องถ่ายภาพของคุณ เนื่องจากกล้องรุ่นต่าง ๆ มันจะมีความโดดเด่นในด้านนั้น ๆ โดยเฉพาะ อย่างเช่น ถ้าคุณกำลังมองกากล้องคอมแพคไปใช้ในการทำบล็อกไลฟ์สไตล์ของคุณ หรือเอาไปถ่ายวิดีโอบล็อก คุณก็ต้องเลือกกล้องรุ่นที่ขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย ๆ ก่อน จากนั้นดูประสิทธิภาพในการถ่ายวิดีโอ ดูการเชื่อมต่อที่หลากหลาย หน้าจอต้องสามารถปรับได้เพื่อให้การเซลฟี่ง่ายขึ้น เป็นต้น สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ มันจะเอื้อให้คุณใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น แต่ถ้าจุดประสงค์ของคุณต้องการแค่ถ่ายภาพทั่ว ๆ ไป มีเซลฟี่บ้าง มีถ่ายวิวบ้าง หรือถ่ายธรรมชาติ คุณสามารถเลือกกล้องตัวใดก็ได้ครับ แต่ก็ต้องดูปัจจัยในข้ออื่น ๆ ประกอบด้วย
2. เลือกเลนส์ให้เหมาะกับจุดประสงค์การถ่ายภาพของคุณ
เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า กล้องคอมแพคมันไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องศึกษาเลนส์ของกล้องรุ่นที่คุณสนใจ ก่อนครับ เนื่องจากกล้องแต่ละรุ่นใช้เลนส์คนละแบบกันครับ ซึ่งมีขนาดที่ต่างกัน มีอัตราการซูม มุมมองภาพที่ต่างกัน โดยปัจจัยเหล่านี้มันจะสามารถส่งผลต่อภาพถ่ายของคุณโดยตรง ดังนั้นทางที่ดีที่สุด เราขอแนะนำให้คุณเข้าไปยังเว็บไซต์ของกล้องรุ่นที่คุณสนใจ เพื่อลองดูภาพตัวอย่างครับ ซึ่งจะมีอยู่มากมายหลากหลายสไตล์ ตัวอย่างภาพเหล่านี้ มันสามารถช่วยให้คุณเลือกได้ง่ายมากยิ่งขึ้นครับ
3. เลือกจากเซ็นเซอร์รับภาพ
เซ็นเซอร์รับภาพ ถือว่ามีความสำคัญต่อกล้องถ่ายภาพมากครับ หากเปรียบกับ กล้องฟิล์ม ตัวเซ็นเซอร์ คือ ฟิล์ม หากคุณใช้ฟิล์มที่มีคุณภาพสูง ภาพก็จะออกมาสวยงาม เช่นเดียวกันกับเซ็นเซอร์ หากกล้องคุณใช้เซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่ มันก็สามารถรับแสงได้มากกว่าเซ็นเซอร์ขนาดเล็ก ส่งผลให้ภาพของคุณก็จะมีคุณภาพที่ดีขึ้นครับ โดย เซนเซอร์ มีทำหน้าที่รับแสงและแปลงแสงที่รับมาไปเป็นสัญญาณไฟฟ้า เพื่อเก็บเป็นรูปภาพในการ์ดหน่วยความจำ ดังนั้นหากกล้องของคุณมีการใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่มากเท่าไหร่ ภาพถ่ายของคุณก็จะมีคุณภาพของภาพที่ดีขึ้นมากเท่านั้น และขนาดของเซ็นเซอร์ที่นิยมใช้กันอยู่ในกล้องยุคปัจจุบัน มีตั้งแต่ Full Frame 35 มม. (ส่วนใหญ่อยู่ในกล้อง DSLR) ส่วน APS-C และ 4/3 Micro Four Thirds ซึ่งพบได้ทั้งในกล้องกล้องมิลเลอร์เลส, กล้อง DSLR บางรุ่น รวมถึงในกล้องคอมแพคด้วย และเซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้ว มักพบในกล้องคอมแพค ส่วนถ้าหากเล็กกว่านี้ก็จะเป็นเซ็นเซอร์ของสมาร์ทโฟนครับ
***เพิ่มเติม*** คำว่า คุณภาพของภาพที่ดีขึ้น เราไม่ได้หมายความว่า ภาพที่ออกมาจะสวยขึ้น แต่เราหมายถึงคุณภาพจริง ๆ ของภาพครับ ซึ่งเซ็นเซอร์ทุก ๆ ตัว ทุก ๆ ขนาด มันสามารถถ่ายภาพออกมาได้สวยงามทั้งหมดแต่มันจะมีคุณภาพที่ต่างกันครับ
4. ฟังก์ชันการถ่ายวิดีโอ
กล้องถ่ายภาพ มันสามารถตอบโจทย์ในด้านการถ่ายภาพได้เป็นอย่างดีอยู่แล้วครับ แต่ลด้านการถ่ายวิดีโอกล้องถ่ายภาพบางรุ่นก็ไม่ได้เด่นในส่วนนี้ ดังนั้นหากคุณสนใจในด้านการถ่ายวิดีโอ คุณก็ต้องมองหากล้องคอมแพค ที่สามารถถ่ายวิดีโอในระดับสูง ๆ ได้ เพื่อให้มันตอบโจทย์การใช้งานของคุณ ซึ่งเราแนะนำให้คุณเลือกเป็น 4K ไปเลยดีกว่า เพราะถ้ามันสามารถรองรับ 4K ได้ ในระดับอื่น ๆ มันก็ต้องทำงานได้เป็นอย่างดีแน่นอน การใช้งานจริง ๆ การถ่าย 4K มันค่อนข้างที่จะกินทรัพยากรมากทั้งในเรื่องของความจุและแบตเตอรี่ ดังนั้นแค่ Full HD ก็เพียงพอแล้วครับ
5. คุณสมบัติอื่น ๆ
กล้องคอมแพค มันเป็นเหมือนกล้องอเนกประสงค์ครับ ทำให้มันมีอยู่หลายรุ่น หลายราคา บางรุ่นก็มีการเน้นการถ่ายภาพ บางรุ่นเน้นการใช้งานทั่วไปคือ ทำได้ทั้งหมดแต่ไม่มีอะไรโดดเด่น หรือบางรุ่นออกแบบมาเพื่อบล็อคเกอร์โดยเฉพาะ ดังนั้นมันจะโยงที่ข้อแรกครับ จุดประสงค์คุณคืออะไร ? เน้นถ่ายรูปไปเลย หรือจะเน้นวิดีโอไปเลย หากคุณเน้นถ่ายรูป คุณก็ต้องเลือกจากโฟกัสที่กล้องรุ่นนั้น ๆ สามารถทำได้ แต่ถ้าคุณกำลังหากล้องไปใช้ถ่ายวิดีโอบล็อค คุณก็ต้องดูที่องค์ประกอบอื่น ๆ เช่น ช่องต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะไมค์ หน้าจอที่สามารถพลิกได้ ตัวกล้องมีระบบกันสั่น หรือขนาดที่กะทัดรัด สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มันจะทำให้คุณใช้งานกล้องได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นครับ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการพิจารณาเลือกกล้องคอมแพคในเบื่องต้น เพื่อมองหารุ่นที่เหมาะกับคุณครับ ซึ่ง การเลือก กล้องคอมแพค ถ้าจะบอกว่าง่าย มันก็ง่าย แต่ถ้าจะบอกว่ายาก มันก็ยากครับ เพราะทุกรุ่นมันถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายเน้นโหมดอัตโนมัติ ไม่ว่าคุณจะถ่ายยังไงมันก็ออกมาสวยได้เสมอ หากคุณไม่ได้มีจุดประสงค์ที่ชัดเจนเลือกรุ่นไหนก็ได้ครับ แต่ถ้าคุณมีจุดประสงค์ที่ชัดเจน คุณก็ต้องเลือกอย่างพิถีพิถันหน่อยครับ เพราะหากคุณซื้อมาแล้ว มันจะไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้เลย ตรงกันข้ามกับกล้องอื่น ๆ หากคุณไม่ชอบเลนส์นี้ ก็สามารถหาซื้อมาเปลี่ยนได้ ดังนั้นทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับคุณครับ
กล้องคอมแพค vs กล้องสมาร์ทโฟน
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีกล้องมาไกลมาก ๆ ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดกล้องขนาดกะทัดรัด ซึ่งแม้ว่าในตอนแรกสมาร์ทโฟนจะสามารถดึงกลุ่มผู้ใช้กล้องขนาดเล็กดั้งเดิมไปได้เป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้กล้องคอมแพคอยู่เฉยไม่ได้ จึงได้มีการปรับปรุงเซ็นเซอร์ ปรับปรุงความสามารถในการประมวลผลภาพ รวมไปถึงปรับปรุงคุณภาพโดยรวม ทำให้กล้องคอมแพคมันมีประสิทธิภาพที่โดดเด่นขึ้นมา บวกกับความนิยมที่เพิ่มขึ้นของเหล่าบล็อกเกอร์ การถ่ายวิดีโอบล็อก หรือการถ่ายภาพ เชิงท่องเที่ยว ทำให้กล้องคอมแพคขนาดเล็กเหล่านี้ สามารถกลับมาดึงดูดกลุ่มผู้ใช้ดั้งเดิมกลับคืนมาได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ
แน่นอนครับ กล้องสมาร์ทโฟน มันโดดเด่นในเรื่องความสะดวกสบาย และสามารถทำได้ดี ในการถ่ายภาพบุคคล ซึ่งกล้องมือถือส่วนใหญ่มักจะใช้ซอฟต์แวร์คอยช่วยเหลือ คอยปรับภาพให้เราเบื้องต้นก่อน ฉะนั้นภาพที่ได้จากสมาร์ทโฟนจึงดูสวยผิดหูผิดตาครับ หากมองผ่านจอมือถือคุณจะเห็นภาพที่มีความคมชัด แต่เมื่อไหร่ที่คุณถ่ายโอนไฟล์ภาพ ไปยังอุปกรณ์ที่มีจอแสดงผลใหญ่ขึ้น เช่น แท็บเล็ต, แล็ปท็อป, โน๊ตบุ๊คทูอินวัน, คอมพิวเตอร์ หรือ สมาร์ททีวี สิ่งที่คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยก็คือ นอยซ์ของภาพ ครับ ยิ่งขยายภาพ คุณจะยิ่งเห็นชัดขึ้น
อุปกรณ์ทุกอย่างที่มีการผลิตขึ้น แน่นอนครับ มันมีจุดประสงค์หลักอยู่ ฉะนั้นกล้องถ่ายภาพโดยเฉพาะ มันต้องสามารถใช้งานในด้านการถ่ายภาพได้ดีกว่ากล้องมือถืออยู่แล้ว และก็เช่นเดียวกันครับ สมาร์ทโฟนมีการพัฒนาขึ้นเพื่อเน้นการพกพา มันจึงพกพาได้สะดวกกว่า ดังนั้นหากคุณไม่ได้เน้นถ่ายภาพอะไรเลยนอกจากการเซลฟี่ตัวเอง กล้อมสมาร์ทโฟนมันเหมาะกับคุณครับ แต่ถ้าหากคุณอยากใช้ถ่ายภาพอื่น ๆ นอกเหนือจากการเซลฟี่เพียงอย่างเดียว รวมถึงการถ่ายวิดีโอบล็อกด้วย ใช้งานง่าย และก็พกพาสะดวก แน่นอนครับไม่มีกล้องไหนที่จะเหมาะกับคุณ นอกจาก กล้องคอมแพค (Compact Camera) อีกแล้ว