ในปัจจุบันเราทุกคนต่างรู้ดีว่า โลกของเรากำลังอยู่ในยุคดิจิทัลแบบเต็มตัว ซึ่งถือเป็นยุคที่ทุกสิ่งมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดดครับ ทำให้มีเทคโนโลยีหลาย ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสูงขึ้นมาก นี่จึงเป็นสาเหตุให้ ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ ทั้ง CPU, GPU, Ram, SSD, HDD ฯลฯ มีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วตามไปด้วย เพื่อรองรับเทคโนโลยีที่สูงขึ้น ดังนั้นถ้าหากพูดถึงส่วนที่สำคัญที่สุด และส่งผลต่อประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์โดยตรง แน่นอนครับว่า มันก็ต้องเป็นมันสมองของคอมพิวเตอร์ อย่าง หน่วยประมวลผลกลาง หรือ โปรเซสเซอร์ (CPU)
CPU ย่อมาจากคำว่า Central Processing Unit เป็นหน่วยประมวลผลกลางของคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะมีอยู่เพียง 2 ค่าย หลัก ๆ เท่านั้น โดยเป็นค่ายยักษ์ใหญ่ ที่ทำตลาดแข่งกันอย่างดุเดือด คือ Intel และ AMD ครับ ทำให้หลาย ๆ คนมักจะคิดว่าการเลือกซื้อ CPU นั้น สามารถทำได้ง่าย ๆ ซึ่งในความเป็นจริง แม้จะมีอยู่ 2 ค่าย แต่ด้วยความที่ออกมาหลายรุ่น หลายระดับราคา ทำให้การค้นหาโปรเซสเซอร์ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในด้านต่าง ๆ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายครับ
ถ้าหากคุณ กำลังมองหา หน่วยประมวลผลกลาง หรือ โปรเซสเซอร์ (CPU : Central Processing Unit) ที่มีประสิทธิภาพสูง ๆ มาใช้ในการทำงาน หรือเล่นเกมที่มีภาพกราฟฟิกหนัก ๆ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่า ควรเลือก CPU รุ่นไหน? หรือค่ายไหนดี? ดังนั้นเพื่อช่วยแก้ปัญหานี้ ทีมงาน Best Review Asia จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเลือก CPU ที่คุณควรรู้ พร้อมมีคำแนะนำดี ๆ รวมไปถึงเรายังได้คัดเลือก 9 อันดับ CPU รุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง จาก intel และ AMD เพื่อให้คุณสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้เลือก CPU ที่ตรงกับความต้องการของตนเองได้ง่ายยิ่งขึ้นครับ
CPU รุ่นไหนดี เรียงลำดับตามความแรง
- CPU ระดับ Hi end ที่ดีที่สุด มีประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน : Intel Core i9-12900K (ทางเลือก: AMD Ryzen 9 5950X)
- CPU ระดับสูง ที่ดีที่สุด ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่มาในราคาที่จับต้องได้ รองรับการใช้งานได้ทุกด้าน : AMD Ryzen 7 5800X3D (ทางเลือก : Intel Core i7-12700K)
- CPU ระดับกลาง ที่ดีที่สุด ใช้เล่นเกมใหญ่ ๆ ได้สบาย หรือใช้ทำงานหนัก ๆ ก็ลื่นไหล โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้การ์ดจอแยก : Intel Core i5-12600K (ทางเลือก : AMD Ryzen 5 5600G)
- CPU ระดับกลาง ที่คุ้มค่า คุ้มราคาที่สุด มีทั้ง ความเร็ว และความแรง ใช้งานได้อย่างลื่นไหล : Intel Core i5-12400 (ทางเลือก : AMD Ryzen 5 5600X)
- CPU ระดับเริ่มต้น ที่ดีที่สุด มีราคาที่คุ้มค่า จะใช้ทำงานก็ได้ หรือใช้เล่นเกมก็ไม่มีปัญหา : Intel Core i3-12100
หมายเหตุ หลาย ๆ คนอาจจะเกิดความสงสัยว่า ในการจัดอันดับของเรา ทำไม Intel ถึงเหนือกว่า AMD เกือบทุกข้อ ? ซึ่งมันก็เป็นเพราะ Intel เพิ่งมีการเปิดตัว CPU 12th Gen ออกมาในปี 2022 นี้ ในขณะที่ AMD ยังไม่มีการเปิดตัว CPU ซีรี่ส์ใหม่ออกมา ฉะนั้นประสิทธิภาพในด้านต่าง ๆ Intel จึงดูเหนือกว่าเล็กน้อยครับ
CPU คืออะไร ?
เมื่อเราพูดถึง หน่วยประมวลผลกลาง (Central processing unit) ของคอมพิวเตอร์ หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง แต่ก็ไม่ทราบว่า จริง ๆ แล้วมันคืออะไร ? และมีหน้าที่อะไรกันแน่ ? หรือบางคนก็ไม่รู้จักเลย แต่ถ้าเมื่อไหร่เราพูดชื่อย่อว่า CPU แน่นอนครับว่า ทุก ๆ คนจะต้องร้องอ่อทันที

โดย Central Processing Unit ก็คือชื่อเต็ม ๆ ของคำว่า ซีพียู (CPU) ที่เรารู้จักกันนี่แหละครับ ซึ่งเป็นวงจรอิเลคทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่ประมวลผล พร้อมสั่งการทำงาน ไปยังอุปกรณ์ส่วนต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ ตามชุดคำสั่งที่ได้รับเข้ามาจาก ซอฟต์แวร์ หรือโปรแกรมต่าง ๆ นั่นเอง ดังนั้นถ้าเรานำคอมพิวเตอร์มาเทียบกับมนุษย์ เราจะพบว่า ซีพียูของคอมพิวเตอร์ ก็เปรียบเสมือนกับ สมองของคนเรา เลย ที่ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลเชิงตรรกะของคำสั่ง ทุก ๆ คำสั่งที่ได้รับเข้ามา เพื่อสั่งการทำงานไปยังส่วนต่าง ๆ โดยจะมีกระบวนการการทำงานพื้นฐาน ดังต่อไปนี้
- การอ่านชุดคำสั่ง (Fetch)
- การตีความชุดคำสั่ง (Decode)
- การประมวลผลชุดคำสั่ง (Execute)
- การอ่านข้อมูลจากหน่วยความจำ (Memory)
- การเขียนข้อมูล และส่งผลการประมวลผลกลับ (Write back)
สเปกของ CPU ที่สำคัญ มีอะไรบ้าง ที่คุณควรรู้ ?
เมื่อทำความรู้จักกับ CPU กันไปแล้ว ส่วนสำคัญอันดับถัดมาก็คือ สเปกของ CPU ครับ เพราะนี่คือ ปัจจัยหลักที่สามารถส่งผลต่อการใช้งานของคุณโดยตรง โดยมี 4 ปัจจัยที่สำคัญที่คุณจะต้องรู้จัก มีดังนี้
![]() |
1. CPU Clock speedความเร็วสัญญาณนาฬิกาของ CPU ถือเป็นสเปกที่มีความสำคัญครับ ซึ่งบ่งบอกว่าใน 1 วินาที CPU รุ่นนี้ ทำงานได้สูงสุดกี่ครั้ง/วินาที โดยใช้หน่วยเป็น Gigahertz (GHz) ซึ่งมีค่าเท่ากับ 1 พันล้านครั้ง/วินาที ดังนั้นถ้าหากตัวเลขยิ่งสูง ก็จะหมายถึง การทำงานที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เช่น CPU ที่มี Clock speed 3.40GHz จะหมายถึง ทำงานได้สูงสุด 3.4 พันล้านครั้ง/วินาที |
![]() |
2. CPU Coreอย่างที่บอกไปครับว่า CPU เปรียบเสมือนสมองของคนเรา โดยในสมองของมนุษย์ จะมีการทำงานร่วมกันของ สมองซีกซ้าย และซีกขวา เพื่อใช้คิดเรื่องที่แตกต่างกัน ซึ่งตัว CPU เองก็มีการแบ่งสมองเช่นกันครับ เพื่อช่วยกันประมวลผล ช่วยให้มีการทำงานเร็วขึ้น โดยจะเรียกว่า Cores ซึ่งก็เปรียบเป็นจำนวนสมอง ดังนั้นถ้า CPU มีหลาย Cores ก็หมายถึง มีหลายสมองในการช่วยกันคิดและประมวลผล ทำให้มีการทำงานที่เร็วขึ้น |
![]() |
3. CPU Threadsเป็นการจำลอง Core ของ CPU เพิ่มขึ้น เช่น CPU 4 Core จะก็หมายถึง มีสมอง 4 ก้อน ซึ่ง Threads ก็จะจำลอง Core เพิ่มขึ้นมา จากมีสมอง 4 ก้อน เพิ่มเป็น 8 ก้อน โดยการมัลติเธรด ที่ 1 Core จะสามารถจำลองได้ 2 Threads (ซึ่งฝั่ง Intel เรียกว่า Hyper-Threading ส่วน AMD เรียกว่า SMT) |
ถ้า CPU มี 1 Core 1 Thread คำสั่งจะรันไปเรื่อย ๆ ตามลำดับครับ สิ่งนี้เองที่ทำให้คอมฯ ทำงานได้ช้า แต่ถ้าหากมันเป็น CPU 4 Core 8 Thread คำสั่งจะรันไปเรื่อย ๆ ตามลำดับเช่นกันครับ แต่ถ้า CPU พบว่า คำสั่งไหนไม่มีความเกี่ยวเนื่องกัน มันก็จะถูกแยกไปทำงานที่ Thread อื่น ๆ แทนและทำการประมวลผลไปพร้อม ๆ กัน (อธิบายง่าย ๆ ว่า จากที่มีแค่แถวเดียว มันจะมีการตัดแถวมากขึ้นตามจำนวนเธรด) ทำให้มีการประมวลผลเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้การใช้งานโปรแกรมที่มีหลาย ๆ คำสั่ง อาทิเช่น โปรแกรมแปลงสัญญาณ, โปรแกรมแต่งภาพ, โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ และโปรแกรมแบบ Multi-Tasking ทำงานรวดเร็วยิ่งขึ้น
จากทั้งหมดคุณจะเห็นได้ว่า มันทำงานได้ดีกันคนละด้าน เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อ CPU ก็คือ ความต้องการในการใช้งานของคุณเองครับ แต่ในปัจจุบัน CPU รุ่นใหม่ ๆ หลายรุ่น มีการพัฒนาไปไกลมาก ๆ ครับ ส่งผลให้ส่วนใหญ่ มักจะมาพร้อมกับประสิทธิภาพรอบด้านกันหมดแล้ว ทำให้มันสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายครับ
AMD Ryzen 5 5600G ซีพียูเล่นเกม ที่เร็วแรง

ราคา 5,810 บาท*
ขยับมาที่ AMD Ryzen 5 5600G ซึ่งเป็นซีพียูรุ่นอัพเกรดที่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดมาในช่วงที่ตลาดกำลังขาดแคลนกราฟฟิกการ์ด (GPU) อย่างหนัก เนื่องจากกระแสการขุดเหรียญคริปโต ที่มาแรงในช่วงนั้นนั่นเองครับ ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากประสบปัญหา ทาง AMD จึงอัพเกรดซีพียูตัวนี้ออกมา ซึ่งใส่กราฟฟิกในตัว เพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ทำให้รุ่นนี้เป็น APU ที่มาในฐานะแชมป์ใหม่ ที่มีประสิทธิภาพสูงพอที่จะไม่ต้องใช้ GPU แยกเลยครับ โดยถ้าเทียบกับรุ่นพี่ในค่าย Ryzen 7 5700G ที่มีราคาแพงกว่า Ryzen 5 5600G จะสามารถมอบประสิทธิภาพการเล่นเกมผ่านกราฟฟิกในตัวได้ถึง 96% ของรุ่นพี่ ทำให้รุ่นนี้เป็น APU ที่คุ้มค่าที่สุดในตลาดครับ ในด้านการทำงานมาพร้อมแกน 8 คอร์ 16 เธรด ทำงานที่ความเร็วพื้นฐาน 3.9 GHz และบูสต์ได้สูงสุดถึง 4.4 GHz พร้อมกับ L3 Cache ขนาด 16 MB ช่วยมอบการทำงานที่รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับตัวระบายความร้อน Wraith Stealth ที่มีประสิทธิภาพ สามารถระบายความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม
ข้อดี
- ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ มอบภาพที่ลื่นไหล น่าประทับใจ
- กราฟฟิกในตัวที่มีคุณภาพสูง เกือบเท่ารุ่นที่ในค่าย
- ตอบสนองได้ดีเยี่ยม ทั้ง Single-threaded และ Multi-threaded
- มีช่วงการโอเวอร์คล็อกที่ยอดเยี่ยม
- การลดอุญหภูมิทำได้ดีมาก ค่อนข้างเย็นง่าย
- ใช้พลังงานน้อย
- มีความคุ้มค่าสูง เมื่อเทียบอัตราส่วนราคาต่อประสิทธิภาพ
ข้อควรพิจารณา
- รองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อ PCIe 3.0 เท่านั้น
Series | AMD Ryzen 5 5000 G-Series |
---|---|
โปรเซสเซอร์ | 5600G |
ซ็อกเก็ต | AM4 |
กราฟฟิก | Radeon Graphics |
Total Cores | 6 |
Total Threads | 12 |
Clock speed | 3.90 GHz up to 4.40 GHz |
TDP | 65W |
CPU Cooler | Wraith Stealth |
วันวางจำหน่าย | 4 / 13 / 2021 |
AMD Ryzen 5 5600X Desktop Processors

ราคา 6,190 บาท*
ข้อดี
- มีประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ลื่นไหล น่าประทับใจ
- ตอบสนองได้ดีเยี่ยม ทั้ง Single-threaded และ Multi-threaded
- การลดอุญหภูมิทำได้ดีมาก ค่อนข้างเย็นง่าย
- ราคาที่มีความคุ้มค่าสูง
ข้อควรพิจารณา
- เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2020
- ไม่รองรับกราฟฟิกอินทิเกรต (การ์ดจอออนบอร์ด) ต้องใช้การ์ดจอแยก
Series | AMD Ryzen 5 |
---|---|
โปรเซสเซอร์ | 5600X |
ซ็อกเก็ต | AM4 |
กราฟฟิก | |
Total Cores | 6 |
Total Threads | 12 |
Clock speed | 3.70 GHz Up to 4.60 GHz |
TDP | 65W |
CPU Cooler | Wraith Stealth |
วันวางจำหน่าย | 11 / 5 / 2020 |
Intel Core i3-12100 ซีพียูราคาประหยัด ที่มีประสิทธิภาพ

ราคา 6,524 บาท*
มาเริ่มกันที่น้องเล็กสุดในฝั่ง Intel ครับ กับ Core i3-12100 ซีพียูรุ่นเล็ก แต่กลับมีประสิทธิภาพเกินราคา พร้อมทั้งโดดเด่นด้วยราคาที่จับต้องง่าย ซึ่งมีการติดตั้งกราฟฟิกในตัวที่มีคุณสมบัติสูงพอสมควร ทำงานด้วยแกนประมวลผล 4 คอร์ 8 เธรด มาพร้อมกับแคช L3 ขนาด 12 MB ทำให้มันมีความเร็วสูง 3.3 GHz และบูสต์ได้สูงสุด 4.3 GHz ซึ่งถือว่าแรงในระดับนึงเลย ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้อย่างสบาย เช่น ท่องเน็ตฯ, พิมพ์งาน, ดูหนัง หรือแม้แต่เล่นเกม ที่คุณอาจจะต้องทำการปรับกราฟฟิกให้ต่ำลง เพื่อภาพในเกมที่ราบรื่น นอกจากนี้ยังใช้พลังงานแค่ 60W PBP เท่านั้น ครับ แต่ Core i3-12100 จะเป็นชิปที่ถูกล็อคการโอเวอร์คล็อกความถี่ แต่อย่างไรก็ตาม Intel ก็ยังคงรองรับ การโอเวอร์คล็อกหน่วยความจำ บนเมนบอร์ดแทนครับ และเนื่องจากในปัจจุบันทางฝั่ง AMD ยังไม่มีรุ่นที่จะนำมาเทียบเคียงได้ ทำให้ ณ ตอนนี้ Intel Core i3-12100 ถือเป็นซีพียูที่ครองตำแหน่ง ซีพียูเล่นเกม ราคาประหยัด ที่เร็วที่สุดในตลาดครับ
ข้อดี
- ซีพียูเล่นเกม ราคาประหยัด ที่เร็วที่สุดในตลาด
- มีประสิทธิภาพเกินราคา ตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานทั่วไปได้เป็นอย่างดี
- รองรับแรมได้ทั้ง DDR4 (3200) และ DDR5 (4800) รวมไปถึง PCIe 5.0 ด้วย
- มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ทำให้มีการใช้พลังงานต่ำ
- มีความคุ้มค่ากับราคาสูง
ข้อควรพิจารณา
- มีการเปลี่ยน Sockets ใหม่เป็น LGA1700 ทำให้ไม่สามารถนำซีพียูคูลเลอร์รุ่นเก่ามาใช้ได้
- ไม่มี Turbo Boost 3.0
- รองรับการโอเวอร์คล็อกเฉพาะหน่วยความจำเท่านั้น
Series | Intel Core i3 (12th Gen) |
---|---|
โปรเซสเซอร์ | i3-12100 |
ซ็อกเก็ต | LGA 1700 |
กราฟฟิก | UHD Intel 730 |
Total Cores | 4 |
Total Threads | 8 |
Clock speed | 3.30 GHz Up to 4.30 GHz |
TDP | 60W |
CPU Cooler | |
วันวางจำหน่าย | Q1 / 2022 |
Intel Core i5-12400 Processor โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 12

ราคา 6,690 บาท*
ข้อดี
- มีประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม
- รองรับ PCIe 5.0 (16 เลน) และแรม DDR5 (4800) เป็นการเชื่อมต่อใหม่ มีความเร็วสูงขึ้นมาก
- รองรับการโอเวอร์คล็อกหน่วยความจำ
- ราคาที่มีความคุ้มค่าสูง
ข้อควรพิจารณา
- มีการเปลี่ยน Sockets ใหม่เป็น LGA1700 ทำให้ไม่สามารถนำซีพียูคูลเลอร์รุ่นเก่ามาใช้ได้
Series | Intel Core i5 (12th Gen) |
---|---|
โปรเซสเซอร์ | i5-12400 |
ซ็อกเก็ต | LGA 1700 |
กราฟฟิก | UHD Intel 730 |
Total Cores | 6 |
Total Threads | 12 |
Clock speed | 2.50 GHz Up to 4.40 GHz |
TDP | 65W |
CPU Cooler | |
วันวางจำหน่าย | Q1 / 2022 |
Intel Core i5-12600K โปรเซสเซอร์ ประสิทธิภาพสูง ราคาประหยัด

ราคา 11,819 บาท*
มาต่อที่ CPU ระดับกลาง ที่มีประสิทธิภาพเกินราคากันบ้างครับ กับ Intel Core i5-12600K ซีพียูที่ให้ประสิทธิภาพการเล่นเกม และการทำงานที่น่าประทับใจมาก ๆ ในราคาที่จับต้องได้ โดยมาพร้อมกับแกนประมวลผล P-cores ถึง 6 คอร์ ที่ทำงานที่ความเร็ว 3.7-4.9 GHz และแกน E-cores อีก 4 คอร์ ที่ทำงานที่ความเร็ว 2.8-3.6 GHz รวมเป็น 10 คอร์ 16 เธรด และมีการจับคู่กับแคช L3 ขนาด 20MB และแคช L2 ขนาด 9.5MB อีกด้วย ทั้งหมดนี้ช่วยให้การทำงานที่เหนือกว่า Ryzen 5 5600X มากถึง 38% เช่นกัน และยังมีประสิทธิภาพสูงกว่า Ryzen 7 5800X ถึง 7% ควบคู่ไปกับประสิทธิภาพในการทำงานแบบ Single-threaded ที่รวดเร็ว
นอกจากนี้ Intel Core i5-12600K ยังรองรับการเชื่อมต่อมาตรฐานใหม่ได้ทั้ง PCIe 5.0 และ PCIe 4.0 สำหรับใช้เชื่อมต่อ M.2 SSD ที่อยู่ในระดับแนวหน้า ช่วยมอบประสิทธิภาพการทำงาน ที่รวดเร็วกว่ามาตรฐานเก่า ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะ Core i5-12600K ยังรองรับหน่วยความจำแรมได้ทั้ง แบบ DDR4 และ DDR5 อีกด้วย ให้ทุกคนได้เพลิดเพลินไปกับราคาที่ต่ำกว่า แต่กลับได้ประสิทธิภาพการทำงานที่สูง ทั้งหมดนี้ทำให้ Core i5-12600K ถือเป็นหนึ่งในซีพียูที่ครบเครื่องที่สุดครับ เหมาะสำหรับทั้ง การทำงาน และการเล่นเกม เลย
ข้อดี
- ซีพียูที่เหมาะกับทั้ง การทำงาน และการเล่นเกมกราฟฟิกสูง ๆ
- มีประสิทธิภาพโดดเด่นกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน ช่วยให้ใช้งานได้อย่างลื่นไหล
- ประสิทธิภาพการทั้ง Single-threaded และ Multi-threaded ที่ยอดเยี่ยม
- รองรับ PCIe 5.0 (16 เลน) และแรม DDR5 (4800) ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อใหม่ที่มีความเร็วสูงขึ้นมาก
- รองรับการโอเวอร์คล็อกได้สูงมาก ๆ
- มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
- มีความคุ้มค่ากับราคา
ข้อควรพิจารณา
- มีการเปลี่ยน Sockets ใหม่เป็น LGA1700 ทำให้ไม่สามารถนำซีพียูคูลเลอร์รุ่นเก่ามาใช้ได้
- ไม่มีชุดซีพียูคูลเลอร์มาให้
Series | Intel Core i5 (12th Gen) |
---|---|
โปรเซสเซอร์ | i5-12600K |
ซ็อกเก็ต | LGA 1700 |
กราฟฟิก | Intel UHD Graphics 770 |
Total Cores |
|
Total Threads | 16 |
Clock speed | 3.70 GHz Up to 4.90 GHz |
TDP | 125W |
CPU Cooler | |
วันวางจำหน่าย | Q4 / 2021 |
Intel Core i7-12700K Processor ซีพียูคุณภาพสูง ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

ราคา 16,250 บาท*
หากคุณกำลังมองหา ชิปเซ็ตที่มีประสิทธิภาพคุ้มค่า ตอบโจทย์ทั้ง ทำงาน และการเล่นเกม Intel Core i7-12700K คือ รุ่นที่เหมาะสมที่สุด โดยทำงานด้วยแกนประมวลผล P-cores ถึง 8 คอร์ (แกนประสิทธิภาพสูง) และ E-cores อีก 4 คอร์ รวมเป็น 12 คอร์ และมี 20 เธรด มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่ 3.6 GHz และบูสต์ได้สูงสุดถึง 5.0 GHz นอกจากนี้ยังมีการใช้แคช L3 ขนาด 25MB และ L2 ขนาด 12MB ซึ่งหากวัดกันที่การเล่นเกม มันจะมีประสิทธิภาพสูงกว่า Ryzen 7 5800X สูงถึง 12% ครับ แต่ก็ต้องยอมให้ Ryzen 7 5800X3D ที่เพิ่งมีการอัพเกรดใหม่ออกมา เพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะครับ ถึงอย่างนั้น Core i7-12700K ถ้าได้โอเวอร์คล็อก เต็มกำลัง จะมีประสิทธิภาพด้อยกว่าเพียง 3.6% เท่านั้น
แต่สิ่งที่ทำให้ Intel Core i7-12700K นั้นเหนือกว่าก็คือ การทำงานในด้านอื่น ๆ ที่ทำได้ดีกว่ามาก ๆ ครับ อีกทั้งยังรองรับ DDR4-(3200) หรือสูงสุด DDR5 (4800) พร้อมกับ PCIe 5.0 และ PCIe 4.0 สำหรับติดตั้ง M.2 SSD ด้วย ทำให้สามารถรองรับฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ที่มีการเชื่อมต่อที่รวดเร็วที่สุดได้ นอกจากนี้แม้จะใช้กำลังไฟพื้นฐานถึง 125W PBP และสูงสุด 190W MTP ถึงกระนั้นเราพบว่า รุ่นนี้มีการใช้พลังงานที่ต่ำกว่าเจนฯ ก่อนมาก ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาซีพียูที่มีทั้ง ประสิทธิภาพในการทำงาน และการเล่นเกม รุ่นนี้คือคำตอบของคุณครับ
ข้อดี
- ซีพียูที่เหมาะกับทั้ง การทำงานแบบมืออาชีพ และการเล่นเกมกราฟฟิกสูง ๆ
- โปรเซสเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ทั้ง เร็ว และแรง ใช้งานได้อย่างลื่นไหล
- ประสิทธิภาพการทั้ง Single-threaded และ Multi-threaded ที่ยอดเยี่ยม
- รองรับ PCIe 5.0 (16 เลน) และแรม DDR5 (4800) ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อใหม่ที่มีความเร็วสูงขึ้นมาก
- รองรับการโอเวอร์คล็อกได้สูงมาก ๆ
- มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
ข้อควรพิจารณา
- มีการเปลี่ยน Sockets ใหม่เป็น LGA1700 ทำให้ไม่สามารถนำซีพียูคูลเลอร์รุ่นเก่ามาใช้ได้
- ไม่มีชุดซีพียูคูลเลอร์มาให้
- มีราคาสูง
Series | Intel Core i7 (12th Gen) |
---|---|
โปรเซสเซอร์ | i7-12700K |
ซ็อกเก็ต | LGA 1700 |
กราฟฟิก | Intel UHD Graphics 770 |
Total Cores |
|
Total Threads | 20 |
Clock speed | 3.60 GHz Up to 5.00 GHz |
TDP | 125W - 190W |
CPU Cooler | |
วันวางจำหน่าย | Q4 / 2021 |
AMD Ryzen 7 5800X3D Gaming Processor ซิปเซ็ตเล่นเกม ประสิทธิภาพสูง

ราคา 16,900 บาท*
มาต่อกันที่ซีพียูประสิทธิภาพสูง รุ่นอัพเกรดใหม่ จากค่าย AMD กับ Ryzen 7 5800X3D ที่มาพร้อมคุณภาพที่คุ้มค่า เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะครับ ด้วยสถาปัตยกรรม Zen 3 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตระดับ 7 นาโนเมตร พร้อมกับเทคโนโลยี AMD 3D V-Cache ทำให้รุ่นนี้เป็นชิปเซ็ตเดสก์ท็อปพีซีตัวแรกของโลกที่มี SRAM แคช L3 แบบ 3D-stacked ช่วยให้มี L3 Cache ที่สูงถึง 96 MB ส่งผลให้มันมอบประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 15% อย่างน่าเหลือเชื่อ และมันยังมีเอฟเฟกต์ที่ยอดเยี่ยม บวกกับทำงานบนแกนประมวลผล 8 คอร์ 16 เธรด ทำให้รุ่นนี้มีความเร็วประมวลผลที่ 3.4 GHz และบูสต์ความเร็วได้สูงสุดถึง 4.5 GHz เลยทีเดียวครับ ทั้งหมดนี้ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้คือ เป็นชิปเซ้ตที่ใช้พลังงานต่ำมาก ๆ แต่กลับให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมอันน่าทึ่ง โดยรุ่นนี้เอาชนะ Intel Core i9-12900K ในด้านการเล่นเกมได้ พูดง่าย ๆ ว่า Ryzen 7 58000X3D เป็นชิปเล่นเกมที่เร็วแรงที่สุด ในชุดทดสอบของเราครับ
ข้อดี
- ซีพียูที่เหมาะสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ
- มีประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่สูงที่สุด ที่สามารถหาซื้อได้ในปัจจุบัน
- มีเทคโนโลยี AMD 3D V-Cache และมี L3 Cache 96MB ช่วยมอบประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นถึง 15%
- ตอบสนองได้ดีเยี่ยม ทั้ง Single-threaded และ Multi-threaded
- มีการใช้พลังงานที่ค่อนข้างต่ำ
- การลดอุญหภูมิทำได้ดีมาก ค่อนข้างเย็นได้ไว
- มีราคาคุ้มค่า
ข้อควรพิจารณา
- ไม่รองรับการโอเวอร์คล็อก
- ไม่มีชุดซีพียูคูลเลอร์มาให้
- ไม่รองรับกราฟฟิกอินทิเกรต (การ์ดจอออนบอร์ด) ต้องใช้การ์ดจอแยก
Series | AMD Ryzen 7 |
---|---|
โปรเซสเซอร์ | 5800X3D |
ซ็อกเก็ต | AM4 |
กราฟฟิก | |
Total Cores | 8 |
Total Threads | 16 |
Clock speed | 3.40 GHz Up to 4.50 GHz |
TDP | 105W |
CPU Cooler | |
วันวางจำหน่าย | Q1 / 2022 (อัพเกรดจาก Ryzen 7 5800X) |
AMD Ryzen 9 5950X Desktop Processors ซีพียูเดสก์ท็อป ระดับไฮเอนด์

ราคา 19,299 บาท*
ปิดท้ายกันที่โปรเซสเซอร์เดสก์ท็อป ระดับไฮเอนด์ จากค่ายแดง AMD กันบ้างครับ สำหรับ AMD Ryzen 9 5950X เป็นซีพียูที่เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2020 ครับ แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพสูงที่สุดอยู่ ด้วยการทำงานที่ใช้แกนประมวลผลถึง 16 คอร์ 32 เธรด ซึ่งมากที่สุดแล้ว และมีความเร็วสัญญาณนาฬิกาอยู่ที่ 3.40 GHz โดยบูสต์ได้สูงสุดถึง 4.90 GHz เลยทีเดียว ทั้งยังมีการนำประสิทธิภาพระดับ HEDT มาสู่เมนบอร์ดกระแสหลัก แถม 5950X ยังมีราคาที่ค่อนข้างคุ้มค่ามาก ๆ เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์ HEDT ของคู่แข่ง ซึ่งไม่ได้ให้ประสิทธิภาพในระดับเดียวกัน
แน่นอนครับว่า เราไม่ได้แนะนำโปรเซสเซอร์ HEDT รุ่นนี้ให้กับผู้ที่ต้องการนำไปการเล่นเกมเพียงอย่างเดียว เพราะการเล่นเกม จะได้รับประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ก็ต่อเมื่อโปรเซสเซอร์หลักที่มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่สูงกว่า ซึ่งคอร์จำนวนสูง ๆ ไม่จำเป็นครับ ดังนั้น Ryzen 9 5950X จึงมีประสิทธิภาพที่สูงเกินความจำเป็นไปมาก อีกทั้งยังมีราคาที่สูงมาก ๆ ด้วย ซึ่งซีพียูในรุ่น 5000 ซีรีส์ ตัวที่เล็กกว่าของ AMD นั้นคุ้มค่ากว่าสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะครับ แต่ถ้าหากคุณกำลังมองหาชิปเซ็ต และแพลตฟอร์มประสิทธิภาพสูง สามารถทำงานได้อย่างจริงจัง มีความเร็วสูง และรองรับภาระงานหนัก ๆ ได้อย่างลื่นไหล แต่ขณะเดียวกัน มันก็ยังมีความรวดเร็วพอที่จะให้การเล่นเกมที่มีรีเฟรชเรทสูง ๆ ได้ Ryzen9 5950X ก็เหมาะสมกับราคาครับ
ข้อดี
- ซีพียูที่เหมาะสำหรับการทำงานแบบมืออาชีพ
- มีประสิทธิภาพสูงที่สุด ด้วยแกนประมวลผล 16 คอร์ 32 เธรด
- ตอบสนองได้ดีเยี่ยม ทั้ง Single-threaded และ Multi-threaded
- รองรับการโอเวอร์คล็อกได้สูงมาก ๆ
- การลดอุญหภูมิทำได้ดีมาก ค่อนข้างเย็นได้ไว
ข้อควรพิจารณา
- เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2020
- ซีพียูต้องการระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง
- ไม่มีชุดซีพียูคูลเลอร์มาให้
- ไม่รองรับกราฟฟิกอินทิเกรต (การ์ดจอออนบอร์ด) ต้องใช้การ์ดจอแยก
Series | AMD Ryzen 9 |
---|---|
โปรเซสเซอร์ | 5950X |
ซ็อกเก็ต | AM4 |
กราฟฟิก | |
Total Cores | 16 |
Total Threads | 32 |
Clock speed | 3.40 GHz Up to 4.90 GHz |
TDP | 105W |
CPU Cooler | |
วันวางจำหน่าย | 11 / 5 / 2020 |
Intel Core i9-12900K โปรเซสเซอร์ ไฮเอนด์ ประสิทธิภาพสูงในทุกด้าน

ราคา 23,797 บาท*
มาต่อกันที่ซีพียูระดับไฮเอนด์ Intel Core i9-12900K ที่เคยครองตำแหน่งโปรเซสเซอร์สำหรับเล่นเกมที่เร็วที่สุดในโลกมาแล้ว แถมยังมีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งอย่าง AMD Ryzen 9 5950X ทั้งในด้านการเล่นเกม หรือแม้กระทั่งในด้านการสร้างเนื้อหาที่มีมีภาระงานอย่างหนัก โดยมาพร้อมกับ P-cores มากถึง 8 คอร์ ที่รองรับ Hyper-threading และมี E-cores อีก 8 คอร์ ที่รองรับ Single-threaded รวมทั้งหมด i9-12900K มี 16 คอร์ 24 เธรด เลยทีเดียวครับ พร้อมความเร็วพื้นฐาน 3.2GHz ที่บูสต์ได้สูงถึง 5.2GHz ด้วย Turbo Boost Max 3.0 (คุณลักษณะนี้ใช้งานได้กับ P-core เท่านั้น) ในขณะเดียวกัน E-cores มีฐาน 2.4 GHz และบูสต์ได้ถึง 3.9 GHz ผ่านอัลกอริธึม Turbo Boost 2.0 มาตรฐาน นอกจากนี้ชิปเซ็ตยังมาพร้อมกับแคช L3 30MB และ L2 14MB อีกด้วย
ในด้านการสนับสนุกฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ เจ้า i9-12900K ยังรองรับการเชื่อมต่อระดับแนวหน้าได้เกือบทั้งหมด โดยการรองรับแรมที่ DDR4 (3200) หรือ สูงสุด DDR5 (4800) พร้อมด้วย PCIe 5.0 16 เลน และ PCIe 4.0 สำหรับ M.2 SSD ด้วย ช่วยมอบการเชื่อมต่อที่รวดเร็วแบบไร้ที่ติ ในด้านพลังงานใช้พื้นฐาน 125W PBP และสูงสุดถึง 241W MTP สำหรับใครที่คิดจะใช้รุ่นนี้ คุณจะต้องซื้อตัวพัดลมระบายความร้อนซีพียูที่มีความสามารถมากพอสำหรับชิปฯ รุ่นนี้ และคุณจะต้องมีมาเธอร์บอร์ดซีรีส์ 600 ใหม่ด้วย
ข้อดี
- ซีพียูที่เหมาะสำหรับการทำงานแบบมืออาชีพ
- โปรเซสเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำงานได้รวดเร็วที่สุด ที่คุณสามารถหาซื้อได้
- ประสิทธิภาพการทำงานแบบเธรดเดียว (Single-threaded) ระดับชั้นนำ
- ประสิทธิภาพการทำงานแบบมัลติเธรด (Multi-threaded) ที่ยอดเยี่ยม
- รองรับ PCIe 5.0 (16 เลน) และแรม DDR5 (4800) ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อใหม่
- รองรับการโอเวอร์คล็อกได้สูงมาก ๆ
ข้อควรพิจารณา
- มีการเปลี่ยน Sockets ใหม่เป็น LGA1700 ทำให้ไม่สามารถนำซีพียูคูลเลอร์รุ่นเก่ามาใช้ได้
- ไม่มีชุดซีพียูคูลเลอร์มาให้
- มีราคาสูง
Series | Intel Core i9 (เจนเนอเรชั่น 12) |
---|---|
โปรเซสเซอร์ | i9-12900K |
ซ็อกเก็ต | LGA 1700 |
กราฟฟิก | Intel UHD Graphics 770 |
Total Cores |
|
Total Threads | 24 |
Clock speed | 3.20 GHz Up to 5.20 GHz |
TDP | 125 W |
CPU | |
วันวางจำหน่าย | Q4 / 2021 |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว CPU รุ่นไหนดี คุ้มค่าคุ้มราคา ทั้งฝั่ง Intel และ AMD ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
Intel Core i7-12700K Processor ซีพียูคุณภาพสูง ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน |
| |||
AMD Ryzen 7 5800X3D Gaming Processor ซิปเซ็ตเล่นเกม ประสิทธิภาพสูง |
| |||
AMD Ryzen 9 5950X Desktop Processors ซีพียูเดสก์ท็อป ระดับไฮเอนด์ |
| |||
Intel Core i9-12900K โปรเซสเซอร์ ไฮเอนด์ ประสิทธิภาพสูงในทุกด้าน |
|
วิธีการเลือกซื้อ CPU ที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ
1. คุณต้องการใช้งาน CPU ในด้านใดบ้าง ?
อันดับแรกก่อนที่คุณจะไปเลือก CPU เราอยากให้คุณ ลองถามตัวเองก่อนครับว่า คุณต้องการจะนำ CPU ที่คุณกำลังจะซื้อใหม่ไปใช้งานในด้านไหนเป็นหลัก เช่น ใช้งานทั่ว ๆ ไป, ใช้เล่นเกม, ใช้ในการสตรีม, ใช้ตัดต่อวิดีโอ หรือใช้กับโปรแกรม ระดับมืออาชีพ คำตอบของคำถามนี้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ที่คุณสามารถนำไปกำหนดงบประมาณที่เหมาะสมได้ครับ
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการนำ CPU ไปใช้ ดูซีรีส์, ให้เด็ก ๆ เรียนออนไลน์ หรือท่องอินเทอร์เน็ตผ่านเว็บเบราว์เซอร์ เพียงเท่านั้น แค่ CPU ระดับเริ่มต้น ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ ซึ่งทำให้คุณ สามารถกำเงินส่วนต่างไปลงกับฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ได้ เช่น แรม, หน่วยความจำ หรือหน้าจอ เป็นต้น แต่ถ้าหากคุณต้องการนำไปใช้งาน ด้านกราฟฟิก พวกตัดต่อวิดีโอ แต่งภาพ หรือออแบบสามมิติ แน่นอนครับว่า CPU ระดับสูง ๆ ก็จะตอบโจทย์งานของคุณได้เร็วกว่า เพราะมันสามารถประมวลผล หลาย ๆ คำสั่งในเวลาเดียวกันได้
2. งบประมาณ
ในปัจจุบัน CPU มีหลายระดับราคามาก ๆ ครับ มีตั้งแต่ ระดับเริ่มต้น ไปจนถึงระดับไฮเอนด์ครับ ซึ่งทำให้ CPU เป็นปัญหาใหญ่สำหรับทุก ๆ คน เนื่องจากถ้าหากซื้อรุ่นเริ่มต้น ก็กลัวว่ามันจะไม่สามารถทำงานตามที่เราต้องการได้ แต่ถ้าซื้อรุ่นระดับไฮเอนด์ก็กลัวว่ามีประสิทธิภาพสูงเกินไปอีก ทำให้งบมากองอยู่กับ CPU จนหมด ดังนั้นเพื่อให้ง่ายต่อการเลือกซื้อของคุณ เราจะขอแบ่ง CPU ออกเป็น 3 กลุ่ม ดังต่อไปนี้
2.1 CPU สำหรับทำงานทั่วไป
CPU สำหรับทำงานทั่วไป หมายถึง กลุ่มคนที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ แบบพื้นฐานทั่ว ๆ ไป ซึ่งไม่ได้หนักหน่วงมากนัก อย่างเช่น พิมพ์งาน, รับชมความบันเทิงต่าง ๆ หรือเล่นโซเชียลมีเดีย โดย CPU ในกลุ่มนี้ก็จะมีหลายรุ่นมาก ๆ ครับ แต่เราขอแนะนำน้องเล็กที่ใช้งานทั่วไปได้ลื่นไหล มีความคุ้มค่า อย่าง Ryzen 3 และ Core i3 ครับ
2.2 CPU สำหรับการเล่นเกม หรือการทำงานด้านกราฟฟิกทั่วไป
CPU สำหรับคนที่ต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์ ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เน้นการเล่นเกมที่ลื่นไหล โดย CPU ที่จะเหมาะกับกลุ่มนี้มากที่สุด เราขอแนะนำให้ใช้ระดับกลาง ไปจนถึง ระดับสูง ก็เพียงพอแล้ว เพราะยังมีราคาประหยัดอยู่ ช่วยให้มีเงินเหลือไปลงกับฮาร์ดแวร์ส่วนอื่น ๆ ได้ โดยเฉพาะการ์ดจอที่สำคัญมาก ๆ กับการเล่นเกม ดังนั้นเราขอแนะนำ Core i5 หรือ Ryzen 5 ครับ แต่ถ้ามีงบประมาณเหลือ ๆ ก็สามารถกระโดดไป Core i7 หรือ Ryzen 7 ได้
2.3 CPU สำหรับทำงานหนัก (การตัดต่อวิดีโอ, ออกแบบ 3 มิติ หรือกราฟฟิกระดับสูง)
สุดท้ายเป็น CPU สำหรับกลุ่มคนสายตัดต่อวิดีโอ หรือคนที่ทำงานแบบ Multi Tasking ครับ ซึ่งจะต้องเลือก CPU รุ่นที่มีทั้ง Clock speed, Core และ Thread จำนวนเยอะ ๆ เพื่อรองรับการใช้งานที่หนักหน่วง รวมถึงการ Overclock ด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขั้นสุด ซึ่งแน่นอนครับ CPU ที่ตอบโจทย์งานพวกนี้ได้จะต้องอยู่ใน ระดับสูง หรือ ระดับไฮเอนด์ เท่านั้น โดยถ้าเป็นมือใหม่ นำไปตัดต่อวิดีโอ 4K เล็ก ๆ คุณก็เหมาะกับ Core i7 หรือ Ryzen 7 ครับ แต่หากเป็นมืออาชีพ ทำงานโปรเจคใหญ่ ๆ คุณก็ต้องเลือก Core i9 หรือ Ryzen 9 เท่านั้น ครับ
3. ระดับของ CPU
อย่างที่เราทราบกันดีครับว่า ในตลาด CPU จะมีการแบ่งออกเป็น 2 ค่าย ยักษ์ใหญ่ นั่นก็คือ Intel เเละ AMD ซึ่งทั้งสองค่ายจะมีการออกแบบและพัฒนา โดยเเบ่ง CPU ออกเป็น 4 ระดับ และในแต่ละระดับก็จะมีการแยกย่อยลงไปอีก ซึ่งจะระบุมาเป็นรหัสต่อท้ายชื่อของ CPU ดังนี้
Intel Core i3 / AMD Ryzen 3 : เป็น CPU ระดับเริ่มต้น ที่เน้นราคาประหยัด ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่เน้นใช้งานพื้นฐานทั่ว ๆ ไป โดย CPU รหัสที่สูงสุดในระดับนี้สามารถใช้เล่นเกมได้ครับ แต่อาจจะมีอาการกระตุกบ้างเล็กน้อย
Intel Core i5 / AMD Ryzen 5 : เป็น CPU ระดับกลาง ที่คุ้มค่าที่สุด เพราะสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ได้ทุกกลุ่มครับ โดยจะมีประสิทธิภาพในระดับกลาง ๆ ใช้เล่นเกมขนาดใหญ่ก็ได้ หรือจะใช้ทำงานด้านกราฟฟิก ระดับพื้นฐานก็ทำได้อย่างลื่นไหลครับ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากประกอบคอมฯ แรง ๆ สักตัว
Intel Core i7 / AMD Ryzen 7 : เป็น CPU ระดับสูง ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ๆ แต่ยังคงมาในราคาที่ จับต้องได้ง่ายอยู่ครับ โดยมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์ทุกการทำงานได้อย่างสบายครับ ทำให้ CPU ระดับนี้ เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่ต้องการคอมพิวเตอร์สเปกสูง ๆ
Intel Core i9 เเละ AMD Ryzen 9 : เป็น CPU ระดับไฮเอนด์ ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดใน CPU ด้วยจำนวน Core และ Thread ที่สูงมาก ๆ เหมาะสำหรับมืออาชีพที่ต้องการการนำไปใช้กับภาระงานหนัก ๆ ที่คอมพิวเตอร์ทั่วไปมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ
4. เลือกสเปกของ CPU ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
เมื่อเรารู้ความต้องการในการใช้งาน และสามารถจะจัดกลุ่ม เลือกระดับ CPU ที่เหมาะสมกับตัวเองได้แล้ว ต่อมาเราก็จะต้องมาดูที่สเปกของ CPU ในแต่ละรุ่นที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มนั้น ๆ กันครับ โดยในหัวข้อ สเปกของ CPU มีอะไรบ้าง ที่คุณควรรู้ ? เราก็ได้อธิบายไปแล้วว่า สเปกแต่ละตัวคืออะไร ? และส่งผลอย่างไรต่อการใช้งานบ้าง ? ดังนั้นคุณสามารถใช้สเปกเหล่านี้ เพื่อค้นหา CPU รุ่นที่เหมาะกับการใช้งานของคุณได้ง่าย ๆ ดังนี้
- ถ้า CPU มี Clock speed สูง ๆ : จะส่งผลให้คอมพิวเตอร์ สามารถตอบสนองต่อโปรแกรมเดี่ยว ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ฉะนั้นถ้าหากคุณกำลังมองหา CPU สำหรับเล่นเกม คุณต้องเลือกรุ่นที่มี Clock speed สูง ๆ ครับ เพราะการเล่นเกม เป็นการใช้โปรแกรมเดี่ยว ๆ เป็นหลัก
- ถ้า CPU มีจำนวน Cores หลายตัว : จะส่งผลให้คอมพิวเตอร์ สามารถประมวลผลภาระงานหลายอย่าง หรือหลายคำสั่งในเวลาเดียวกันได้อย่างรวดเร็ว ฉะนั้นหากคุณต้องการ CPU เพื่อไปใช้กับภาระงานหนัก ๆ อย่างโปรแกรม ที่ต้องใช้คำสั่งเยอะ ๆ เช่น โปรแกรมด้านกราฟฟิก, การแต่งภาพ, การตัดต่อวิดีโอ หรือการเรนเดอร์วิดีโอ เป็นต้น ครับ
5. การ์ดจอออนบอร์ด (การ์ดจอในตัว CPU)
สำหรับการ์ดจอที่อยู่ในชิปเซ็ต CPU จะเรียกว่า กราฟิกอินทิเกรต (Integrated Graphics) หรือที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่นิยมเรียกกันว่า การ์ดจอออนบอร์ด เป็นการ์ดจออีกประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกออกแบบมาให้ใช้สำหรับการแสดงผล เช่นเดียวกันกับการ์ดจอแบบอื่น ๆ แต่จะต่างกันที่การ์ดจอออนบอร์ดจะถูกยัดมาในตัว CPU เลย ส่งผลให้ CPU ที่มีการ์ดจออนบอร์ดมาให้ สามารถจะแสดงผลและประมวลผลด้านกราฟฟิกได้ โดยที่คุณไม่ต้องซื้อการ์ดจอแยกมาใช้งานใหเปลืองตังเลย ส่วนประสิทธิภาพด้านกราฟฟิกจะขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีของชิปเซ็ตที่ใช้งานครับ เพราะมันจำเป็นที่จะต้องไปยืมทรัพยากรของตัวเครื่องมาใช้
บทส่งท้าย
ก็จบกันไปแล้วครับ สำหรับ หน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU รุ่นยอดนิยม ที่เหมาะสมกับการใช้งานในระดับต่าง ๆ โดยเราเลือกมารีวิวตั้งแต่ รุ่นเริ่มต้น ไปจนถึงรุ่นไฮเอนด์ เลยครับ เพื่อให้ประสิทธิภาพของ CPU มันครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้ให้มากที่สุด ซึ่งเป็นอย่างไรกันบ้างครับ ? หลังจากที่อ่านกันจบแล้ว ข้อมูลเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้หรือยังครับว่า ต้องการเลือกรุ่นไหนไปใช้งานดี ? ซึ่งการที่คุณเลือกซื้อ CPU ได้รุ่นที่ตรงกับการใช้งานของคุณเอง คือ ความคุ้มค่ามากที่สุดครับ