ในยุคสมัยนี้ เราต้องยอมรับเลยครับว่า ในโลกออนไลน์นั้น มีอาชีพเกิดขึ้นมาใหม่มากมาย โดยอาชีพที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคงหนีไม่พ้น “ยูทูปเบอร์และสตรีมเมอร์” ซึ่งในปัจจุบันการจะทำอาชีพเหล่านี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเลย เนื่องจากยูทูปเบอร์หลายคนเริ่มจากสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวเท่านั้น ส่วนมันจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้นคงไม่มีใครตอบคุณได้จนกว่าคุณจะลองลงมือทำด้วยตัวเองครับ
เพราะมันต้องใช้หลาย ๆ ส่วนประกอบเข้าด้วยกัน ทั้ง ความคิดสร้างสรรค์, เนื้อหาสาระ, คอนเทนต์ และยังต้องใช้เวลาเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกด้วย แต่ถ้าหากคุณมีองค์ประกอบต่าง ๆ เหล่านี้ ครบหมดแล้ว แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เราขอแนะนำให้คุณมองไปที่อุปกรณ์ในการทำงานของคุณครับ

ยูทูปเบอร์ และสตรีมเมอร์ ส่วนใหญ่มักมองว่าอุปกรณ์เป็นเรื่องที่ไม่สำคัญเท่ากับ ความคิดสร้างสรรค์ หรือคอนเทนต์ที่จะทำ ซึ่งเราก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ แต่ถ้าหากคุณใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปเต็มที่แล้วมันก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ เราอยากให้คุณลองมองย้อนกลับมาดูสิ่งรอบ ๆ ตัว โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่คุณใช้ในการทำงานครับ
หากพูดถึงสายอาชีพนี้แน่นอนว่า อุปกรณ์บันทึกภาพ หรือวิดีโอ ถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมาก ๆ ดังนั้นถ้าหากคอนเทนต์ของคุณดีมาก แต่วิดีโอของคุณกลับมีคุณภาพต่ำ มันก็จะส่งผลให้วิดีโอของคุณดูไม่สนุก และน่าติดตามอย่างแน่นอน โดยเฉพาะสายสตรีมเมอร์ หรือสายไลฟ์สด เนื่องจากคุณจะไม่สามารถปรับแก้ไขอะไรได้เลย
สำหรับใครที่ทำงานเป็นสตรีมเมอร์หรือไลฟ์สดขายของ คุณอาจจะเคยได้ยิน แคปเจอร์การ์ด (Capture Card) กันมาบ้าง แต่ถ้าคุณยังไม่รู้ว่า มันคืออะไร ? และมีความสำคัญต่อการไลฟ์มากขนาดไหน ? ในวันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับ แคปเจอร์การ์ดมาฝากครับ รวมไปถึงเราได้รวบรวม แคปเจอร์การ์ด หรือ การ์ดจับภาพ รุ่นยอดนิยม มารีวิวให้คุณได้เลือกซื้อไปใช้ด้วย
แคปเจอร์การ์ด (Capture Card) คืออะไร ?
แคปเจอร์การ์ด (Capture card) ถือเป็นอุปกรณ์เสริมอีกหนึ่งชิ้นที่สำคัญมาก ๆ กับการสตรีมมิ่งหรือการไลฟ์สด เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการนำสัญญาณภาพและเสียงจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้องบันทึกภาพ, เครื่องเล่นเกมคอนโซล, สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต หรืออื่น ๆ ส่งไปยังคอมพิวเตอร์ได้ทันที เพื่อบันทึกเป็นไฟล์วิดีโอหรือใช้สำหรับถ่ายถอดสด โดยใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ทั้งซอฟต์แวร์ที่มาพร้อมกับแคปเจอร์การ์ด หรือซอฟต์แวร์ทั่ว ๆ ไป โดยซอฟต์แวร์ยอดนิยมก็มีอยู่หลายตัวมากครับ อาทิเช่น OBS Studio, Wirecast และ XSplit เป็นต้น
ดังนั้นข้อดีของ แคปเจอร์การ์ด (Capture card) ก็คือ คุณสามารถใช้กล้องถ่ายรูปประเภทใดก็ได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นกล้องมิลเลอร์เลส, กล้องแอคชั่น, กล้องคอมแพค, กล้องวิดีโอ หรือกล้องคุณภาพสูงอย่างกล้อง DSLR ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องซื้อมือถือถ่ายรูปสวย ๆ หรือมือถือเรือธงที่มีราคาสูง ๆ อย่าง iPhone เพื่อมาทำการ Live streaming แต่คุณจะสามารถใช้กล้องถ่ายรูปที่มีอยู่แล้วมาใช้แทนได้ ซึ่งแน่นอนครับว่า กล้องที่ถูกออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพโดยเฉพาะ ย่อมมีคุณภาพดีกว่ามือถือที่ถูกออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์ที่หลากหลายอยู่แล้ว โดยเฉพาะในเรื่องของภาพ เสียง และแบตเตอรี่
การ์ดจับภาพ หรือแคปเจอร์การ์ด ใช้งานอย่างไร ?
หลังจากที่รู้จักกับแคปเจอร์การ์ดแบบคร่าว ๆ กันไปแล้วเรามาเข้าใจหลักในการทำงานของ แคปเจอร์การ์ด (Capture Card) กันบ้างดีกว่าครับ ซึ่งเราจะขออธิบายแบบง่าย ๆ โดยแคปเจอร์การ์ดจะมีหน้าที่เป็นสะพาน หรือตัวกลางคอยรับส่งสัญญาณภาพและเสียงระหว่างอุปกรณ์ โดยผ่านสาย HDMI ตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการสตรีมหน้าจอ มือถือเกมมิ่ง สามารถทำตามขึ้นตอนได้ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
1. ให้คุณเริ่มต้นจากใช้หัวแปลง เพื่อแปลงพอร์ต Type-C หรือ Micro USB ของมือถือ ให้เป็น HDMI หรือ Mini HDMI เสียก่อน
2. เมื่อได้หัวแปลงแล้ว ให้ใช้สาย HDMI เชื่อมต่อ มือถือ เข้ากับ แคปเจอร์การ์ด โดยใช้พอร์ต HDMI Input ซึ่งเป็นการรับสัญญาณภาพและเสียง หรือขาเข้า
3. ในส่วนสัญญาณขาออก หากคุณต้องการเชื่อมต่อกับหน้าจอมอนิเตอร์ ให้ใช้สาย HDMI เชื่อมต่อกับ แคปเจอร์การ์ดผ่านพอร์ต HDMI Output แต่ถ้าหากต้องการเชื่อมต่อกับ คอมพิวเตอร์ ให้ใช้สาย USB
Capture Card ภายนอก รุ่นไหนเหมาะกับคุณที่สุด
- แคปเจอร์การ์ด ภายนอก ที่ดีที่สุด มีประสิทธิภาพสูง รองรับความละเอียดสูงสุดถึงระดับ 4K บนรูปแบบ HDR มอบภาพที่คมชัดได้ดั่งใจ: Elgato Game Capture อุปกรณ์จับภาพหน้าจอ ภายนอก รุ่น HD60 S+
- เกมแคปเจอร์ ภายนอก ที่ดีที่สุด ออกแบบมาเพื่อการสตรีมเกมโดยเฉพาะ พร้อมพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน: Razer Ripsaw HD - Capture Card For Streaming 4K
- การ์ดจับภาพ สำหรับกล้อง ที่ดีที่สุด ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับกล้องถ่ายภาพโดยเฉพาะ ให้คุณนำกล้องระดับโปรมาใช้เป็นกล้องเว็ปแคม: Elgato Cam Link 4K Video Capture Device การ์ดจับภาพ สำหรับกล้อง
- แคปเจอร์การ์ด ภายนอก ราคาประหยัดที่คุ้มค่าที่สุด มาพร้อมประสิทธิภาพที่เพียงพอต่อการใช้งาน แต่มีฟังก์ชันครบครัน เหมาะมาก ๆ สำหรับมือใหม่: Avermedia Live Gamer Mini Capture Card รุ่น GC311
- แคปเจอร์การ์ด ภายนอก ราคาประหยัด เหมาะสำหรับใช้งานทั่ว ๆ ไป : Acasis Video Capture Card 1080p 60fps รุ่น AC-VS2829
Capture Card ภายในเครื่อง รุ่นไหนเหมาะกับคุณที่สุด
- แคปเจอร์การ์ด ภายใน ที่ดีที่สุด รองรับการ Live Streaming ได้ในทุก ๆ ด้านอย่างดีเยี่ยม และยังรองรับซอฟต์แวร์สตรีมมิงยอดนิยมได้ทั้งหมดอีกด้วย: Elgato Game Capture อุปกรณ์จับภาพหน้าจอ 4K60 Pro
- เกมแคปเจอร์ ภายใน ที่ดีที่สุด ถูกออกแบบมาเพื่อสตรีมเกมโดยเฉพาะ พร้อมไฟ RBG ที่ตัวการ์ด เสริมความเป็นเกมมิ่งได้เป็นอย่างดี: AVerMedia Live Gamer 4K เกมแคปเจอร์ แคปเจอร์การ์ดภายใน รุ่น GC573
Capture Card มีกี่ประเภท อะไรบ้าง ?
เราทราบกันดีครับว่า กระแสของ การไลฟ์สด หรือ Live streaming เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทำให้ตลาด Capture Card มีการแข่งขันกันสูงมาก มีมากมายหลายรูปแบบให้เลือก ซึ่งมันอาจทำให้มือใหม่หลาย ๆ คนเกิดความงุนงง ไม่รู้จะเลือกอย่างไรดี? ดังนั้นเพื่อให้คุณเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น เราสามารถแบ่งประเภทแคปเจอร์การ์ด ได้ 2 ประเภท หลัก ๆ ตามการใช้งานได้ดังนี้
|
1. VCC External : คือประเภทที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อติดตั้งใช้งานจากภายนอกเท่านั้นครับ ซึ่งลักษณะหน้าตาและการใช้งานก็จะคล้ายคลึงกับฮาร์ดดิสก์แบบพกพาที่เราคุ้นเคยกันนั่นเองครับ ซึ่งเป็นแบบที่เน้นการใช้งานที่ง่าย สะดวกสบาย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสตรีมร่วมกับหลาย ๆ อุปกรณ์ ทั้ง มินิ พีซี, เดสก์ท็อป พีซี, ออลอินวัน พีซี, โน้ตบุ๊ค, แล็ปท๊อป หรือคอนโซลเกม เป็นต้น แต่ข้อเสียก็คือ มีโอกาสเกิดการดีเลย์ค่อนข้างสูงกว่า VCC Internal ครับ ส่วนจะมีการดีเลย์มากหรือน้อยนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของรุ่นที่คุณเลือก แน่นอนว่ายิ่งแพง อาการดีเลย์ก็จะยิ่งลดลง |
![]() |
2. VCC Internal : คือประเภทที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อติดตั้งใช้งานภายในเท่านั้นครับ ซึ่งถ้าให้เปรียบเป็นฮาร์ดดิสก์ มันก็เหมือนกับฮาร์ดดิสก์ภายใน ทั้ง HDD และ SSD นั่นแหละครับ ซึ่งคุณจะต้องไปติดตั้งบนเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์ก่อนถึงจะใช้งานได้ โดยมันจะเชื่อมต่อผ่านพอร์ต PCIe เท่านั้น ทำให้ข้อเสียของแบบนี้คือ ใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนข้อดีก็คือ จะไม่มีอาการดีเลย์เลย เพราะเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์โดยตรง ทำให้สัญญาณถูกรบกวนได้ยาก อีกทั้งในระดับราคาเท่ากันมันยังมีประสิทธิภาพสูงกว่าอีกด้วยครับ |
Acasis Video Capture Card 1080p 60fps รุ่น AC-VS2829

ราคา 1,469 บาท*
Acasis Video Capture Card การ์ดจับภาพราคาสุดประหยัดที่จะช่วยให้คุณสามารถทำการสตรีม หรือบันทึกเกมได้ง่ายขึ้น ด้วยการเชื่อมต่อที่ครบครัน สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย เช่น คอนโซลเกม, เครื่องเล่นดีวีดี, กล้องถ่ายภาพ, กล้องวิดีโอ, กล้องวงจรปิด หรือกล่องรับสัญญาณ เป็นต้น โดยรุ่นนี้สามารถรองรับการจับภาพสูงสุดได้ที่ความละเอียด 1080p เฟรมเรต 60fps ช่วยให้คุณสตรีมวิดีโอด้วยภาพที่คมชัด และลื่นไหล

นอกจากนี้ยังมาพร้อมพอร์ต 3.5 มม. สำหรับเชื่อมต่อไมโครโฟนหรือหูฟัง เพื่อรองรับการบันทึกวิดีโอแบบเรียลไทม์ บรรยายสดลงในสตรีมได้อย่างง่ายดาย ส่วนในด้านการใช้งานก็ง่ายมาก ๆ ครับ คุณสามารถเชื่อมต่อและใช้งานได้ทันที โดยคุณไม่จำเป็นต้องติดตั้งไดรเวอร์ใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังสามารถเข้ากันได้กับทั้ง Mac OS, Windows, Android และ Linux ทำให้คุณสามารถบันทึกภาพ และแชร์สตรีมได้ง่าย ๆ ผ่านคอมพิวเตอร์ของคุณ
ข้อดี
- รองรับความละเอียดการส่งผ่านสูงสุดถึงระดับ 4K
- รองรับการจับภาพทุกประเภท และสามารถใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์
- รองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลายมาก ๆ
- เข้ากันได้กับหลายระบบปฏิบัติการ
- เข้ากันได้กับซอฟต์แวร์หลายตัว อาทิเช่น OBS Studio, RealProducer Plus หรือ Media Encoder เป็นต้น
- ราคาค่อนข้างประหยัด
ข้อควรพิจารณา
- คุณภาพตามราคา สัญญาณอาจจะมีการดีเลย์บ้างเล็กน้อย
ประเภท | VCC External (ภายนอก) |
---|---|
อินเตอร์เฟซ | USB Type-C 3.0 |
Record Quality | 1080p60 (HD) |
Pass-through | 2160p30 (4K) |
อินพุตวิดีโอ | HDMI 2.0 |
เอาต์พุตวิดีโอ | HDMI 2.0 |
ความเข้ากันได้ | Game Console / Mac OS / Windows / Android / Linux |
การรับประกัน | 1 ปี |
ขนาด | 71 × 71 × 21 มม. |
น้ำหนัก | N/a |
Avermedia Live Gamer Mini Capture Card รุ่น GC311

ราคา 2,990 บาท*
Avermedia Live Gamer Mini การ์ดจับภาพราคาประหยัดที่ดีที่สุด จากแบรนด์ชั้นนำอย่าง AVerMedia ที่มีการ์ดจับภาพรุ่นยอดนิยมหลายรุ่น ซึ่งเราต้องบอกเลยครับว่ารุ่นนี้คือ การ์ดจับภาพที่เหมาะสำหรับสตรีมเมอร์มือใหม่ และสตรีมเมอร์ทั่วไปมาก ด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย พร้อมกับประสิทธิภาพที่กำลังดี โดยรุ่นนี้รองรับการบันทึกภาพสูงสุดที่ 1080p ที่ 60fps และรองรับความละเอียดการส่งผ่านสูงสุด 1080p ที่ 60fps เช่นกันครับ ซึ่งถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับสตรีมเมอร์ทั่ว ๆ ไป เนื่องจากคอมพิวเตอร์ที่คนทั่วไปใช้ส่วนใหญ่มักเล่นได้อย่างลื่นไหลที่ความละเอียด 1080p เท่านั้น ดังนั้นไม่มีความจำเป็นต้องแพงเกินไปครับ

รุ่นนี้จะช่วยคุณใช้สตรีมได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด และด้วยสเปกมันต้องการทรัพยากรเครื่องเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลเลยว่า มันจะกินทรัพยากรของเครื่องมากเกินไป จนส่งผลให้เกมกระตุก บอกกับตัวการ์ดที่มีขนาดเล็ก กะทัดรัด ที่นอกจากจะช่วยให้พกพาไปสตรีมที่ไหนก็ได้แล้ว มันยังระบายอากาศได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้รุ่นนี้ยังเข้ากันได้กับทั้ง Windows และ mac OS ตอบโจทย์คนที่หลาย ๆ อุปกรณ์ได้เป็นอย่างดีครับ แถมยังมาพร้อมซอฟต์แวร์ของตัวเองสำหรับการตั้งค่าต่าง ๆ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น หากสตรีมเมอร์คนไหนที่ต้องการสตรีมแบบลื่น ๆ แต่มีงบจำกัด รุ่นนี้เหมาะกับคุณมากครับ
ข้อดี
- รองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลายอุปกรณ์
- ใช้เทคโนโลยี UVC โดยเป็นการกำหนดมาตรฐานของไดรเวอร์เอาไว้แล้ว ช่วยให้ใช้งานได้ทันทีที่เชื่อมต่อ
- มีซอฟต์แวร์ RECentral เป็นของตัวเอง สำหรับใช้สตรีมและบันทึกภาพ พร้อมฟังก์ชันอีกมากมาย
- รองรับการใช้งานกับ Platform Streaming ชื่อดังต่าง ๆ มากมาย
- ขนาดค่อนข้างเล็ก กะทัดรัด และน้ำหนักเบา
- มีราคาค่อนข้างประหยัด
ข้อควรพิจารณา
- ใช้อินเตอร์เฟซ Micro USB 2.0 ซึ่งค่อนข้างที่จะล้าสมัยไปแล้ว
- ไม่มีช่องสำหรับต่อไมค์หรือหูฟังแบบแยก
ประเภท | VCC External (ภายนอก) |
---|---|
อินเตอร์เฟซ | Micro USB 2.0 |
Record Quality | 1080p60 (HD) |
Pass-through | 1080p60 (HD) |
อินพุตวิดีโอ | HDMI |
เอาต์พุตวิดีโอ | HDMI |
ความเข้ากันได้ | Game Console / Windows / macOS / Android / iOS |
การรับประกัน | 1 ปี |
ขนาด | 100 × 57 × 18.8 มม. |
น้ำหนัก | 74.5 ก. |
Razer Ripsaw HD - Capture Card For Streaming 4K

ราคา 5,290 บาท*
Razer Ripsaw HD การ์ดจับภาพสำหรับการสตรีมระดับ 4K จากแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในวงการเกมมิ่งเกียร์ที่เกมเมอร์ทุก ๆ คนต้องรู้จัก สำหรับรุ่นนี้ถือเป็นตัวที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ด้วยดีไซน์การออกแบบที่มาในสไตล์มินิมอล ดูเรียบหรู พรีเมี่ยม ซึ่งอันแน่นด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลัง พร้อมมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลในระหว่างที่คุณกำลังสตรีม ด้วยระบบ Passthrough ซึ่งรองรับภาพที่ความละเอียดสูงสุดถึงระดับ 4K ที่ 60fps และรองรับการบันทึกภาพที่ความละเอียดสูงสุด 1080p ที่ 60fps ช่วยมอบภาพที่คมชัด ลื่นไหล และมีสีสันที่สวยงาม พร้อมให้คุณสนุกไปกับการสตรีมได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ Razer Ripsaw HD ยังมาพร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครัน ทำให้รุ่นนี้สามารถรองรับการเชื่อมต่อได้ทุก ๆ อุปกรณ์ โดยมีทั้งพอร์ต HDMI, พอร์ต USB Type-C และที่พิเศษคือ พอร์ต Aux 3.5 มม. ที่มีทั้ง Mic-in และ Aux-in ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับไมโครโฟน และหูฟังแบบแยก ช่วยให้คุณสามารถที่จะบรรยายสดลงไปในสตรีมได้เลย ในด้านการใช้งานก็ทำได้ง่ายมากครับ โดยรุ่นนี้เป็นแบบ ทำให้คุณสามารถเสียบอุปกรณ์และเริ่มสตรีมได้ทันที โดยไม่ต้องติดตั้งอะไรเพิ่มเติม
ข้อดี
- การ์ดจับภาพความละเอียดระดับ 4K ช่วยลดภาระของคอมพิวเตอร์
- รองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลายอุปกรณ์
- Plug and Play สามารถใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์
- ส่งสัญญาณแบบความหน่วงต่ำพิเศษ ช่วยให้สัญญาณดีขึ้น ช่วยลดการดีเลย์
- รองรับการใช้งานกับ Platform Streaming ชื่อดังต่าง ๆ มากมาย
- มีช่องต่อไมค์และหูฟังแบบแยกในตัว
ข้อควรพิจารณา
- ความละเอียดในการบันทึกภาพสูงสุด 1080p60 (HD)
- ไม่รองรับระบบปฏิบัติการ Mac OS
- ไม่มีซอฟต์แวร์เฉพาะตัวมาให้ การตั้งค่าต้องทำผ่าน Platform Streaming ที่คุณใช้งาน
ประเภท | VCC External (ภายนอก) |
---|---|
อินเตอร์เฟซ | USB Type-C 3.0 |
Record Quality | 1080p60 (HD) |
Pass-through | 2160p60 (4K) |
อินพุตวิดีโอ | HDMI 2.0 |
เอาต์พุตวิดีโอ | HDMI 2.0 |
ความเข้ากันได้ | Game Console / Windows |
การรับประกัน | 1 ปี |
ขนาด | 105 × 85 × 16 มม. |
น้ำหนัก | 149 ก. |
Elgato Cam Link 4K Video Capture Device การ์ดจับภาพ สำหรับกล้อง

ราคา 5,490 บาท*
Elgato Cam Link 4K การ์ดจับภาพที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับกล้องโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นปกติอยู่แล้วครับ ไม่ว่าคุณจะสตรีมเกม หรือไลฟ์สดขายของ แน่นอนก็ต้องอยากจะให้มีหน้าตัวเองอยู่ในจอด้วย จริงอยู่เราอาจจะใช้กล้องเว็บแคมได้ แต่ก็ต้องแลกกับคุณภาพที่ไม่สูงมากนัก ดังนั้นหากต้องการให้หน้าตัวเองดูดีที่สุด คุณก็ต้องใช้ Cam Capture Card หรือการ์ดจับภาพจากกล้องครับ ซึ่งมันจะช่วยให้คุณนำกล้องระดับโปรมาใช้แทนกล้องเว็บแคมได้

ตัวการ์ดได้รับการออกแบบมาให้มีขนาดเล็กกะทัดรัด ไม่ต่างไปจากแฟลชไดรฟ์เลย ทำให้มันพกพาได้ง่าย สามารถรองรับความละเอียดได้สูงสุดถึง 4K ที่ 30fps ช่วยมอบภาพที่คมชัด และราบรื่น ไม่มีสะดุด ตัวการ์ดถูกทำให้เป็น Plug and Play เสียบปุ๊บใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องติดตั้งไดร์เวอร์ให้ยุ่งยาก เพิ่มความสะดวกสบาย ยิ่งหากคุณนำไปใช้งานควบคู่กับเกมแคปเจอร์อย่างรุ่น HD60 S+ มันก็ยิ่งช่วยเสริมให้ไลฟ์ของคุณสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นครับ หากใครที่กำลังมองหาการ์ดจับภาพที่จะนำไปใช้งานกับกล้องเพื่อไลฟ์สดโดยเฉพาะต้องรุ่นนี้เลยครับ
ข้อดี
- เป็นการ์ดจับภาพสำหรับใช้งานร่วมกับกล้องโดยเฉพาะ
- รองรับความละเอียดได้สูงสุดถึงระดับ 4K ช่วยให้คุณไลฟ์สดด้วยภาพที่คมชัด
- Plug and Play สามารถใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์
- สามารถรับชมภาพแบบเรียลไทม์
- รองรับการใช้งานกับ Platform Streaming ชื่อดังต่าง ๆ มากมาย
- ขนาดเล็ก กะทัดรัด ช่วยให้พกพาได้อย่างง่ายดาย
ข้อควรพิจารณา
- มีพอร์ต HDMI เพียง 1 ช่อง ไม่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่น ๆ ได้
- เหมาะสำหรับใช้งานร่วมกับกล้อง
ประเภท | VCC External (ภายนอก) |
---|---|
อินเตอร์เฟซ | USB 3.1 |
Record Quality | N/a |
Pass-through | 2160p30 (4K) |
อินพุตวิดีโอ | HDMI |
เอาต์พุตวิดีโอ | |
ความเข้ากันได้ | Windows / macOS |
การรับประกัน | 1 ปี |
ขนาด | 81 × 31 × 12 มม. |
น้ำหนัก | 20 ก. |
Elgato Game Capture อุปกรณ์จับภาพหน้าจอ ภายนอก รุ่น HD60 S+

ราคา 7,590 บาท*
Elgato HD60 S+ การ์ดจับภาพภายนอกแบบ USB ที่ดีที่สุด ที่สามารถมอบประสิทธิภาพในระดับที่ใกล้เคียงกับการ์ดภายใน สำหรับรุ่นนี้เป็นการต่อยอดความสำเร็จมาจากรุ่น HD60 S ก่อนหน้า ซึ่งได้รับการพัฒนาในทุกด้าน สามารถรองรับการสตรีมที่ความละเอียดแบบ Passthrough ได้สูงสุดถึงระดับ 4Kp60 บนรูปแบบ HDR 10 และรองรับการจับภาพสูงสุดที่ 1080p60 รูปแบบ HDR ช่วยให้สตรีมได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด มอบภาพที่สดใส และมีแสงเงาที่ลึกดูสวยงาม

ตัวการ์ดมาพร้อมพอร์ตที่ครบครัน ช่วยให้มันรองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลายอุปกรณ์ ทั้ง HDMI, USB C และมี Jack 3.5 mm ช่วยให้คุณเชื่อมต่อไมค์เพื่อบรรยายสดลงไปในสตรีมได้ และยังทำงานร่วมกับ MacOS และ Windows ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ขับเคลื่อนเวิร์กโฟลว์ด้วย Instant Gameview เทคโนโลยีที่มีความหน่วงต่ำมากเป็นพิเศษ อีกทั้งมันยังมีโปรแกรมควบคุมที่ใช้งานได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น OBS Studio, Streamlabs OBS, XSplit หรือซอฟแวร์อื่น ๆ นอกจากนี้มันยังมีระบบย้อนเวลา เพื่อกลับไปดูเพื่อบันทึกการเล่นเกมย้อนหลังก็ได้ครับ
ข้อดี
- รองรับความละเอียดการส่งผ่านสูงสุดถึงระดับ 4K บนรูปแบบ HDR
- ตัวการ์มีขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาได้ง่านง่าย ใช้งานได้ทุกที่ตามที่คุณต้องการ
- ตอบโจทย์การจับภาพได้ทุกประเภท ทั้งทำงาน หรือเล่นเกม
- เล่นเกมคอนโซลที่มีความเที่ยงตรงสูงในรูปแบบดั้งเดิม ด้วย HDR10 การส่งผ่านที่ไม่มีความล่าช้า
- มีพอร์ตสำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่น ๆ ทั้ง HDMI, USB C และ Jack 3.5 mm
- ตัวการ์ดสามารถบันทึกวิดีโอโดยตรงไปยังฮาร์ดไดรฟ์ของคุณได้ไม่จำกัด
- รองรับการใช้การบันทึกย้อนหลังเพื่อบันทึกภาพย้อนหลัง
- รองรับการใช้งานกับ Platform Streaming ชื่อดังต่าง ๆ มากมาย
ประเภท | VCC External (ภายนอก) |
---|---|
อินเตอร์เฟซ | USB Type-C 3.0 |
Record Quality | 2160p60 (4K) HDR |
Pass-through | 2160p60 (4K) HDR |
อินพุตวิดีโอ | HDMI 2.0 |
เอาต์พุตวิดีโอ | HDMI 2.0 |
ความเข้ากันได้ | Game Console / Windows / macOS |
การรับประกัน | 2 ปี |
ขนาด | 112 × 75 × 19 มม. |
น้ำหนัก | 115 ก. |
AVerMedia Live Gamer 4K เกมแคปเจอร์ แคปเจอร์การ์ดภายใน รุ่น GC573

ราคา 9,889 บาท*
AverMedia Live Gamer 4K GC573 เกมแคปเจอร์ที่มีประสิทธิภาพโดยรวมดีที่สุด ซึ่งมาพร้อมกับประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมในทุก ๆ แง่มุม โดยสามารถรองรับการบันทึกวิดิโอที่ความละเอียดสูงสุดได้ถึงระดับ 4K 60FPS ในรูปแบบ HDR แต่ถ้าหากว่าลดความละเอียดในการจับภาพของคุณลงเหลือ 1080P คุณจะสามารถจับภาพที่อัตราเฟรมได้สูงสุด 240FPS ซึ่งจะช่วยมอบภาพที่คมชัดทุกรายละเอียด มีสีสันสวยงาม แถมยังมีความลื่นไหล ถือว่าเหมาะมาก ๆ กับเกมเมอร์มืออาชีพ และนักสร้างคอนเทนต์ทุกคนครับ

ข้อดี
- มีประสิทธิภาพยืดหยุ่น ตอบโจทย์การจับภาพทุกประเภท โดยเฉพาะการสตรีมเกม
- มีซอฟต์แวร์ RECentral สำหรับใช้สตรีมและบันทึกภาพ พร้อมฟังก์ชันอีกมากมาย
- รองรับการส่งผ่านสัญญาณเสียงแบบรอบทิศทางทั้ง 7.1 และ 5.1 แชนแนล LPCM
- รองรับอัตราส่วนของภาพที่กว้างยาวพิเศษ
- มีไฟ RBG ที่ตัวการ์ด เพิ่มความสวยงาม
ข้อควรพิจารณา
- สามารถติดตั้งในคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปเท่านั้น
- เมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปของคุณจะต้องมีสล็อต PCIe ว่าง
- ไม่มีแจ็คอินพุต/เอาต์พุตเสียง 3.5 มม.
- ไม่รองรับระบบปฏิบัติการ Mac OS
ประเภท | VCC Internal (ภายใน) |
---|---|
อินเตอร์เฟซ | PCI-Express x4 Gen 2 |
Record Quality | 2160p60 (4K) HDR |
Pass-through | 2160p60 (4K) HDR |
อินพุตวิดีโอ | HDMI 2.0 |
เอาต์พุตวิดีโอ | HDMI 2.0 (แบบส่งสัญญาณผ่าน) |
ความเข้ากันได้ | Game Console / Windows |
การรับประกัน | 2 ปี |
ขนาด | 125 × 151 × 21.5 มม. |
น้ำหนัก | 208 ก. |
Elgato Game Capture อุปกรณ์จับภาพหน้าจอ 4K60 Pro

ราคา 9,990 บาท*
Elgato Capture 4K60 Pro เป็นการ์ดจับภาพวิดีโอหน้าจอแบบภายใน เชื่อมต่อโดยใช้ PCIe ซึ่งช่วยให้การสตรีม หรือการบันทึกหน้าจอทำได้อย่างราบรื่น แบบไม่มีสะดุด และไร้อาการดีเลย์ ซึ่งมีการเข้ารหัสด้วยฮาร์ดแวร์ H.264 ช่วยให้มั่นใจได้ว่า คุณจะไม่พลาดกราฟิกระดับไฮเอนด์ ซึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ การแสดงภาพกราฟิกคุณภาพสูงส่งไปยังสื่อออนไลน์ต่าง ๆ โดยไม่ผิดเพี้ยน ตัวการ์ดจะช่วยให้คุณสามารถสตรีมวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดได้ถึง 4K ที่ 60fps ด้วยอัตราบิตของวิดีโอสูง 60Mbps ช่วยมอบภาพที่คมชัด และลื่นไหล
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อีกมากมาย โดยเฉพาะ Instant Gameview ซึ่งจะเข้ามาช่วยให้คุณสามารถสตรีมบนสื่อต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว สามารถเพิ่มวิดีโอแบบซ้อนทับและวิดีโอเว็บแคมในสตรีมแบบสดได้ง่าย ๆ คุณสามารถเรียกดูภาพได้แบบเรียลไทม์ สามารถบันทึกภาพย้อนหลัง และคุณยังสามารถทำการบรรยายสด ๆ ในขณะที่เล่นได้ ถือเป็นอีกหนึ่งคุณลักษณะที่โดดเด่นเป็นอย่างมากครับ อีกทั้งยังรองรับซอฟต์แวร์สตรีมมิงได้ทั้งหมด นักสตรีมเมอร์คนไหนที่ต้องการภาพความละเอียดสูง ๆ และอัตราเฟรมแบบลื่น ๆ ขอบอกเลยว่ารุ่นนี้เหมาะกับคุณมาก ๆ ครับ
ข้อดี
- มีประสิทธิภาพยืดหยุ่น ตอบโจทย์การจับภาพทุกประเภท โดยเฉพาะการสตรีมเกม
- รองรับความละเอียดการส่งผ่านและการบันทึกสูงสุดถึงระดับ 4K บนรูปแบบ HDR
- รองรับซอฟต์แวร์สตรีมมิงได้ทั้งหมด อาทิเช่น OBS Studio, Streamlabs OBS หรือ XSplit เป็นต้น
- แสดงภาพกราฟิกได้อย่างแม่นยำ
- อัตราบิตสูงสุด 60Mbps ช่วยให้การสตรีมและการบันทึกเวลาแฝงต่ำ
ข้อควรพิจารณา
- สามารถติดตั้งในคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปเท่านั้น
- เมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปของคุณจะต้องมีสล็อต PCIe ว่าง
- ไม่มีแจ็คอินพุต/เอาต์พุตเสียง 3.5 มม.
- ไม่รองรับระบบปฏิบัติการ Mac OS
ประเภท | VCC Internal (ภายใน) |
---|---|
อินเตอร์เฟซ | PCI-Express x4 |
Record Quality | 2160p60 (4K) HDR |
Pass-through | 2160p60 (4K) HDR |
อินพุตวิดีโอ | HDMI 2.0 |
เอาต์พุตวิดีโอ | HDMI 2.0 (แบบส่งสัญญาณผ่าน) |
ความเข้ากันได้ | Game Console / Windows |
การรับประกัน | 2 ปี |
ขนาด | 178 × 121 × 21 มม. |
น้ำหนัก | 270 ก. |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
วิธีเลือก Capture Card ต้องดูปัจจัยอะไรบ้าง ?
1. เลือกประเภทตามการใช้งานของคุณ
อย่างที่เราอธิบายไว้ในหัวข้อ ประเภทของ แคปเจอร์การ์ด ครับว่า แคปเจอร์การ์ด สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท หลัก ๆ ได้แก่ แคปเจอร์การ์ดใช้งานภายนอก (VCC External) และแคปเจอร์การ์ดใช้งานภายใน (VCC Internal) ดังนั้นถ้าหากใครที่ต้องการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ นอกเหนือจากคอมพิวเตอร์และจำเป็นต้องไลฟ์นอกสถานที่เป็นประจำ VCC External ก็จะเหมาะกับคุณที่สุดครับ เพราะมันใช้งานง่าย พกพาสะดวก และรองรับอุปกรณ์ได้หลากหลาย ส่วน VCC Internal ก็จะเหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียวเท่านั้นครับ
2. เลือกความละเอียด และเฟรมเรท ให้เหมาะกับสิ่งที่คุณต้องการสตรีม
นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ในการเลือกซื้อ แคปเจอร์การ์ด (Capture card) ครับ เพราะมันจะบ่งบองถึงคุณภาพของภาพ ซึ่งอันดับแรก คุณต้องเริ่มจากการตรวจสอบอุปกรณ์ของตัวคุณเองก่อนว่า มันสามารถส่งสัญญาณภาพสูงสุดได้ที่ความละเอียดเท่าไหร่ ? และมีเฟรมเรทสูงสุดอยู่ที่เท่าไหร่ ? เพื่อจะได้เลือกแคปเจอร์การ์ดรุ่นที่เหมาะสมมากที่สุด โดยความละเอียด มันจะมีอยู่ 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่
- Record Quality : คือ ความละเอียดสูงสุดที่แคปเจอร์การ์ดสามารถรองรับได้ในการบันทึกภาพ ดังนั้นหากคุณต้องการที่จะบันทึกวิดีโอที่มีความละเอียดสูง ๆ คุณก็ต้องเลือกรุ่นที่มี Record Quality รองรับถึงระดับ 4K ครับ
- Pass-through : คือ ความละเอียดการส่งผ่าน ซึ่งหมายถึง แคปเจอร์การ์ดจะอนุญาตให้สัญญาณภาพส่งผ่านระบบไปได้ โดยที่จะไม่มีการลดคุณภาพของภาพลง ดังนั้นถ้าหากอุปกรณ์ของคุณสามารถให้ภาพที่มีความละเอียด 4K ได้ คุณก็ต้องเลือกแคปเจอร์การ์ดที่ Pass-through รองรับระดับ 4K เพื่อให้ภาพที่ส่งผ่านแคปเจอร์การ์ด ยังคงมีคุณภาพไม่ต่างไปจากเดิมครับ
ในส่วนอัตราเฟรมเรท ในปัจจุบันอัตราเฟรมเรทไม่ควรต่ำกว่า 24fps เพราะ 24fps เป็นค่าเฟรมเรทมาตรฐานของวิดิโอที่มันยังคงมีความเคลื่อนไหวที่ลื่นไหล ทำให้สามารถใช้สตรีมทั่ว ๆ ไป แต่หากคุณต้องการไปสตรีม หรือแคสเกมที่มีกราฟิกสูง ๆ คุณก็ควรเลือกแคปเจอร์การ์ดที่มาพร้อมกับเฟรมเรทสูง ๆ ซึ่งอัตราเฟรมเรทยอดนิยมสำหรับการเคสเกมก็จะอยู่ที่ประมาณ 50-60fps หรือสูงกว่าครับ ซึ่งแน่นอนครับว่า รุ่นไหนที่มีเฟรทเรทสูง ๆ รุ่นนั้นก็จะมีราคาสูงตามไปด้วย
3. อินเทอร์เฟซ หรือวิธีเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณ
อินเทอร์เฟซ (interface) เป็นวิธีที่ แคปเจอร์การ์ด จะทำการเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ของคุณ ซึ่งปัจจุบันประเภทที่นิยมใช้กันมากที่สุดก็คือ USB ครับ โดยมีอยู่หลากหลายแบบ ทั้ง USB Type-C, Micro USB หรืออื่น ๆ เนื่องจากเป็นอินเทอร์เฟซที่ติดตั้งใช้งานได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว โดยจะพบในแคปเจอร์การ์ดภายนอก (VCC External) และอีกประเภทก็คือ PCIe ซึ่งใช้งานยากกว่า โดยจะต้องติดตั้งเข้าไปที่เมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์โดยตรง ซึ่งถูกใช้ในแคปเจอร์การ์ดภายใน (VCC Internal)
4. พอร์ตเชื่อมต่อ HDMI Input และ HDMI Output
พอร์ต หรือ ช่องเสียบสายสัญญาณ ของ แคปเจอร์การ์ด (Capture card) เป็นอีกสิ่งนึงที่สำคัญมาก ๆ ครับ เนื่องจากคุณต้องมั่นใจว่า ช่องเสียบสัญญาณของรุ่นที่คุณเลือกมาสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่คุณต้องการได้ โดยจะมีทั้งขาเข้า (Input) และขาออก (Output) รวมถึงอย่างลืมตรวจดูสเปกอย่างละเอียดว่ารองรับการแสดงผลที่ความละเอียดภาพเท่าไหร่ เช่น HDMI 1.0 จะไม่สามารถรับส่งภาพความละเอียดระดับสูงอย่าง 4K หรือ 8K ได้ และมีเฟรมเรทสูงสุด 60 Hz ส่วน HDMI 2.0 มันได้รับการพัฒนาขึ้น ทำให้สามารถรับส่งภาพความละเอียดระดับสูง ๆ อย่าง 4K ได้ เป็นต้น
Capture Card ใช้งานกับอุปกรณ์ใดได้บ้าง ?
ในปัจจุบันนี้ แคปเจอร์การ์ด (Capture Card) ส่วนใหญ่จะได้รับการพัฒนามาให้สามารถใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows เป็นหลักครับ ส่วนระบบปฏิบัติการ macOS มีบางตัวเท่านั้น ที่ใช้งานได้ ดังนั้นหากคุณใช้งาน Macbook หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ macOS คุณจำเป็นต้องตรวจเช็คเงื่อนไขของรุ่นที่สนใจให้ดีก่อนตัดสินใจ เพื่อตรวจดูว่า มันสามารถใช้ร่วมกับระบบปฏิบัติการ macOS ได้หรือไม่ ? ส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ ในปัจจุบันส่วนใหญ่ก็มักมีพอร์ต HDMI หรือ Mini HDMI มาให้อยู่แล้ว แต่หากไม่มี คุณก็ยังสามารถหาซื้อสายแปลงมาใช้งานได้ครับ ฉะนั้นอุปกรณ์อื่น ๆ ไม่ต้องเป็นกังวล
บทส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ Capture Card หรือ การ์ดจับภาพ อุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่เหล่าสตรีมเมอร์ขาดไม่ได้ ซึ่งคุณก็คงทราบเหตุผลกันไปแล้วว่า แคปเจอร์การ์ดนั้นมีความสำคัญมากขนาดไหนกับการถ่ายทอดสดหรืออัดวิดีโอต่าง ๆ ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งแน่นอนครับว่า หากสตรีมหรือไลฟ์สดของคุณมีภาพที่คมชัด พร้อมด้วยรายละเอียดครบถ้วน สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยให้สตรีมของคุณให้มีจุดเด่นน่าติดตาม และช่วยเสริมความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ
นอกจากนี้มันยังสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานคอมพิวเตอร์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย เนื่องจากการสตรีมหรือการไฟลฟ์สด มันจะกินทรัพยากรของคอมพิวเตอร์มากทำให้เครื่องทำงานอย่างหนัก ฉะนั้นการใช้การ์ดจับภาพเข้ามาช่วย มันก็สามารถทำให้คอมฯ ของคุณไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป ส่งผลให้คอมฯ ทำงานได้ลื่นไหลขึ้น