สมุนไพรไทยเป็นที่เลื่องชื่อลือชาในระดับโลกว่ามีสรรพคุณที่ดีมากมาย สามารถรักษาและบรรเทาอาการได้ต่าง ๆ หลายอย่าง ดังนั้นสมุนไพรจึงเป็นสินค้าชนิดหนึ่งที่ตลาดโลกต้องการเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เมื่อพูดถึงสมุนไพรไทยก็ต้องบอกว่ามันมีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น หอมแดง, กระเทียม, พริก, ตะไคร้, มะนาว หรือที่กำลังเป็นกระแสและติดเทรนต์มากในยุคที่โรคโควิด 19 กำลังระบาดอยู่คือ ฟ้าทะลายโจร, กระชายขาว และ ‘ขิง’ ที่มีคนเป็นจำนวนมากเลือกจะชงดื่มกันเยอะ
ซึ่งสาเหตุที่คนเลือกจะชงขิงดื่มกันเยอะก็เพราะสรรพคุณของขิงนั้นมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ เมื่อเกิดอาการไอ หรือ มีอาการอักเสบ ขิงจะเข้าไปช่วยบรรเทาให้อาการเหล่านี้ดีขึ้นได้ ที่สำคัญเลยคือมันยังช่วยยับยั้งเชื้อไวรัส ไม่ให้เจริญเติบโตหรือก่อตัวขึ้นทางระบบหายใจของเรา (1) เรียกว่าเป็นการดูแลสุขภาพ ทั้งยังเป็นการป้องกันอาการเจ็บไข้หรืออาการป่วยขั้นพื้นฐานให้กับเราได้ แต่อย่างไรก็ดีการที่จะไปหาซื้อขิงในช่วงสถานการณ์แบบนี้ก็เสี่ยงต่อการติดเชื้อมาก ถ้าจะออกไปก็จะต้องเตรียมความพร้อมในการป้องกันด้วยการใส่หน้ากากอนามัยและพกเจลแอลกอฮอล์ หรือ สเปรย์แอลกอฮอล์ ติดตัวไปด้วย นอกจากนี้ยังค่อนข้างเสียเวลาอีกด้วย ดังนั้นตัวเลือกที่ดีที่สุดเลยคือการซื้อ ‘เครื่องดื่มขิงผงสำเร็จรูป’
ซึ่งข้อดีของขิงผงคือเราสามารถเทใส่แก้วแล้วชงด้วยน้ำร้อนกินได้ทันที ไม่ต่างอะไรกับกาแฟซองหรือชาสมุนไพรสำเร็จรูปเลยครับ เพราะไม่ต้องเสียเวลาไปเตรียมล้างหรือหันขิงเพื่อไปต้มให้ยุ่งยาก ยิ่งถ้าหากซื้อแบรนด์ที่ผ่านมาตรฐานและผลิตมาจากขิงแบบ 100% สรรพคุณที่เราจะได้ก็ดีไม่แพ้ไปกว่ากันเลยครับ ดังนั้นใมนช่วงนี้ใครที่สนใจจะดื่มน้ำขิงเพื่อสร้างสุขภาพที่ดีให้กับตนเองอยู่ คุณมาถูกทางแล้วครับ เพราะผมได้เตรียมข้อมูลที่น่าสนใจรวมไปถึงสินค้าดี ๆ มาฝากกันไว้ในบทความนี้แล้ว

ขิงสามารถต่อต้านหรือป้องกันโควิด 19 ได้หรือไม่ ?
ถึงแม้ว่าในทางการแพทย์รวมไปถึงงานวิจัยต่าง ๆ จะพบว่าขิงมีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อไวรัสไม่ให้เจริญเติบโตภายในทางเดินหายใจของมนุษย์ได้ อย่างที่บอกไปในข้างต้นว่า ยังไม่มีผลวิจัยใดที่บอกว่าขิงสามารถต่อต้านหรือป้องกันเชื้อโควิด 19 ได้ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือการใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกต้อง หรือถ้าจะให้ดีควรใส่หน้ากากป้องกันอย่างน้อย 2 ชั้น พร้อมกับล้างมือให้สะอาดและล้างให้บ่อยที่สุด เมื่อมีการหยิบจับหรือสัมผัสสิ่งของร่วมกับผู้อื่น
ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าไม่ควรรับประทานขิงนะครับ เพราะถึงแม้ว่าจะยังไม่มีผลวิจัยมาพิสูจน์ได้ว่าขิงสามารถต่อต้านหรือป้องกันโควิด 19 ได้ แต่ประโยชน์ของขิงนั้นมีอีกมากมายหลายอย่าง อีกทั้งอย่างน้อยขิงก็สามารถช่วยให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราดีขึ้น พร้อมที่จะต่อสู้กับไข้หวัดทั่วไปได้
ก็เหมือนกับการที่เราเลือกทานอาหารเสริมวิตามิน C เลยครับ แม้ว่ามันยังไม่มีรายงานหรือการวิจัยใด ๆ ที่ระบุว่าวิตามิน C สามารถป้องกันโควิด 19 ได้ แต่เราทุกคนทราบดีว่าการทานวิตามิน C จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ซึ่งจะสามารถป้องกันการเป็นหวัดได้ รวมถึงลดอาการโรคหวัดได้ด้วย (11)
ประโยชน์ของขิงต่อสุขภาพร่างกายของเรา
1. มีสารจินเจอรอล ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น
ขิงถือเป็นสมุนไพรที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ในการใช้ในแพทย์ทางเลือกหรือแพทย์แผนโบราณ โดยสรรพคุณของมันนั้นสามารถที่จะช่วยสำหรับคนที่มี อาการคลื่นไส้, มีปัญหาเกี่ยวกับการย่อย หรือไข้หวัดทั่วไป เนื่องจากขิงจะมีสารอย่างหนึ่งที่เรียกว่า ‘จินเจอรอล’ ซึ่งจินเจอรอลนี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายของเราแล้วมันจะมีฤทธิ์ในการต้านอาการอักเสบและมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะทำให้ลดอาการเครียด ทั้งยังช่วยในเรื่องของภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้นอีกด้วย (2)
2. อาจช่วยทำให้คุณสามารถลดน้ำหนักได้
มีผลงานวิจัยหลายชิ้นที่ได้ทำการทดลองแล้วพบว่าการรับประทานขิงผงเข้าไปในปริมาณ 2 กรัม เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ทำให้น้ำหนัก รวมไปถึงอัตราส่วนของเอวและสะโพกของผู้ถูกทดสอบนั้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (3,4)

3. อาจช่วยลดน้ำตาลในเลือดและอาจทำให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
ในปี 2015 เคยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งสรุปผลออกมาว่าการให้ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 จำนวนกว่า 41 คน ได้รับประทานขิงผงในปริมาณ 2 กรัมต่อวัน ซึ่งผลที่ออกมาพบว่าน้ำตาลภายในเลือดของผู้ป่วยนั้นลดไปถึง 12 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นผลวิจัยตรงนี้อาจบอกได้ว่าขิงสามารถที่จะช่วยลดน้ำตาลภายในเลือดได้ (5) นอกจากนี้มันยังทำให้ ApoB/ApoA-I น้อยลงกว่า 28 เปอร์เซ็นต์ และ มาลอนไดแอลดีไฮด์ (malondialdehyde) กว่า 23 เปอร์เซ็นต์ โดยทั้งสองอย่างนี้หากมีในร่างกายมากจนเกินไป มันอาจส่งผลให้เกิดโรคหัวใจได้ครับ (6)
4. อาจลดอาการปวดประจำเดือนได้
มีงานวิจัยอยู่หนึ่งชิ้นที่ได้มีผู้หญิงเข้ามาทดสอบกว่า 150 คน โดยการวิจัยนั้นจะแบ่งผู้หญิงออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่หนึ่งจะได้รับประทาน ‘ยาไอบูโพรเฟน’ (ปริมาณ 400 มิลลิกรัม) ส่วนในกลุ่มที่สองจะได้รับยาประทาน ‘เมเฟนามิค แอซิด’ (ปริมาณ 250 มิลลิกรัม) และกลุ่มที่สามจะได้รับขิงผง (ปริมาณ 250 มิลลิกรัม) ซึ่งผลที่ออกมาพบว่าประสิทธิภาพในการลดอาการปวดนั้นดีไม่ต่างไปกว่าอีกสองกลุ่มที่ได้รับประทานยา NSAIDs (7)
5. ช่วยร่างกายต่อสู้กับการติดเชื้อ
อย่างที่ได้บอกไปในข้อแรกว่าขิงจะมีสาร ‘จินเจอรอล’ ซึ่งสารนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อได้ เนื่องจากมีงานวิจัยที่บอกว่าสารสกัดจากขิงมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียหลายชนิด (8) ในขณะเดียวกันขิงสดอาจมีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจของมนุษย์ได้ (9)
![]() เรนองทีจินเฟรชขิงผงสำเร็จรูปไม่มีน้ำตาลชนิดถุง | ![]() Gingen น้ำขิงจินเจน ขิงผงสำเร็จรูป |
฿304.00* | ฿572.00* |
|
|
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
วิธีการเลือกขิงผงสำเร็จรูป
1. ควรมีส่วนผสมของขิง 100%
ขิงผงที่เราจะซื้อแบบสำเร็จรูปควรที่จะเป็นขิงบริสุทธิ์ 100% เพื่อที่เราจะได้รับสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทั้งเพื่อความมั่นใจด้วยว่าเราจะไม่ได้รับสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
2. ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล
อย่างที่ทราบกันดีว่าหากเรารับประทานน้ำตาลที่มากจนเกินไป มันอาจส่งผลให้เราเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ นอกจากนี้ผมเชื่อว่าคนที่หันมารับประทานขิงส่วนใหญ่แล้วเป็นคนที่รักสุขภาพ หลายคนต้องดื่มเพื่อลดน้ำหนัก ในขณะเดียวกันคนที่มีโรคประจำตัวก็ดื่มน้ำขิงกันเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือผลิตภัณฑ์ไม่ควรจะมีน้ำตาลผสมอยู่ครับ หรือหากคุณเป็นคนติดหวานก็อาจจะเลือกเป็นสูตรที่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ําตาลได้ อาทเช่น น้ำตาลหญ้าหวาน (Stevia), อิริทริทอล (Erythritol) หรือไซลิทอล (Xylitol) เป็นต้นครับ

3. ชงดื่มได้ง่าย
ขิงผงที่เราจะซื้อมาดื่มนั้นควรจะชงได้ง่ายครับ ไม่ควรมีขั้นตอนที่ยุ่งยากในการชงดื่ม โดยขอให้เป็นขิงผงที่ละลายกับน้ำร้อนแล้วสามารถรับประทานได้ในทันที
4. บรรจุภัณฑ์
บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ขิงจะมีอยู่หลากหลายแบบครับ ในบางแบรนด์ก็จะมาแบบซองที่ฉีกแล้วเทใส่แก้วได้ทันที ส่วนบางยี่ห้อจะเป็นแบบถุงซิปล็อกที่ต้องตักแบ่งออกมาใส่แก้ว รวมถึงบางยี่ห้อก็ออกแบบมาให้ชงดื่มครั้งละสองแก้ว โดยการเลือกนั้นอยู่ที่ความสะดวกของคุณ ขอเพียงแค่สามารถปิดได้อย่างแน่นหนา ป้องกันไม่ให้ขิงผงสัมผัสกับลมหรืออากาศ
วิธีการรับประทานและใช้ขิงผงอย่างปลอดภัย (10)
การรับประทาน
- ลดอาการแพ้ท้อง ให้ทานในปริมาณ 500 – 2,500 มล. ทั้งนี้ให้แบ่งการรับประทานออกเป็น 3 – 4 ต่อวัน ในระยะเวลา 3 วันไปจนถึง 3 สัปดาห์
- สำหรับคนที่คลื่นไส้จากการรับประทานยา HIV แนะนำให้รับประทานขิงผงในปริมาณ 1 กรัม ก่อนที่จะรับประทานยาต้าน HIV ประมาณ 30 นาที เป็นเวลา 14 วัน
- ลดอาการปวดประจำเดือน ทานปริมาณ 250 มล. โดยให้แบ่งเป็น 4 ครั้งต่อวัน ทั้งนี้แนะนำให้กินต่อเนื่อง 3 วันนับตั้งแต่วันที่เริ่มมีประจำเดือน
- สำหรับคนที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม การรับประทานจะขึ้นอยู่กับประเภทของขิง เนื่องจากสารสกัดของขิงในแต่ละผลิตภัณฑ์นั้นไม่เหมือนกัน อีกทั้งงานวิจัยก็พบว่าปริมาณที่ควรทานนั้นขึ้นอยู่กับสารสกัดนั้น ๆ ด้วย ดังนั้นหากใครอยากรับประทานเพื่อบรรเทาโรคข้อเข่าเสื่อม แนะนำให้คุยและปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด
การใช้บนผิวหนัง
- สำหรับคนที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม งานวิจัยของทางสถาบันวิทยาศาสตร์ในประเทศไทยแนะนำให้ทาเจลจากสารสกัดไพล/ขิง ในปริมาณ 4 กรัมต่อวัน โดยให้แบ่งใช้จำนวน 4 ครั้ง ทั้งนี้ให้ใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 6 สัปดาห์ จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้
References :
- กินนํ้าขิงต้านโควิด กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
- Anti-Oxidative and Anti-Inflammatory Effects of Ginger in Health and Physical Activity: Review of Current Evidence
- The effects of ginger intake on weight loss and metabolic profiles among overweight and obese subjects: A systematic review and meta-analysis of randomized controlled trials
- Changes of serum adipocytokines and body weight following Zingiber officinale supplementation in obese women: a RCT
- The Effects of Ginger on Fasting Blood Sugar, Hemoglobin A1c, Apolipoprotein B, Apolipoprotein A-I and Malondialdehyde in Type 2 Diabetic Patients
- The Effects of Ginger on Fasting Blood Sugar, Hemoglobin A1c, Apolipoprotein B, Apolipoprotein A-I and Malondialdehyde in Type 2 Diabetic Patients
- Comparison of effects of ginger, mefenamic acid, and ibuprofen on pain in women with primary dysmenorrhea
- Inhibitory effect of Allium sativum and Zingiber officinale extracts on clinically important drug resistant pathogenic bacteria
- Fresh ginger (Zingiber officinale) has anti-viral activity against human respiratory syncytial virus in human respiratory tract cell lines
- Ginger
- Vitamin C