อาหารญี่ปุ่นเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกค่ะ นั่นเป็นเพราะอาหารญี่ปุ่นมีเอกลักษณ์ทั้งในเรื่องของรสชาติ กระบวนการทำรวมไปถึงวัตถุดิบที่ใช้ แน่นอนว่าประเทศไทยของเราก็ได้รับวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นมาเหมือนกันเพราะในตอนนี้การทานโอมากาเสะ ซูชิ ซาซิมิ ฯลฯ กำลังได้รับความนิยมมาก ๆ เลยค่ะ
สำหรับคนที่ทำอาหารเป็นการใช้เครื่องปรุงรสญี่ปุ่นในการทำอาหารก็กำลังมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การใช้ซอสเทอริยากิ, โชยุ, พอนสึ, ซอสยากินิกุ, มิโซะ, มิรินรวมไปถึงวาซาบิ และการนำส่วนผสมเหล่านี้ไปปรับแต่งกับอาหารไทยก็ทำให้มีเมนูฟิวชั่นเกิดขึ้นมากมาย แต่ไม่ว่าจะมีการดัดแปลงไปมากน้อยขนาดไหน เมนูแกงกะหรี่ญี่ปุ่นก็ยังคงเป็นเมนูที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ เพราะมีทั้งความละมุนลิ้น เข้มข้นและอร่อยในตัว
การทำแกงกะหรี่ญี่ปุ่นให้อร่อยนั้น หลักการง่าย ๆ เลยก็คือการใช้ “แกงกะหรี่ญี่ปุ่นสำเร็จรูป” ค่ะ ซึ่งแกงกะหรี่ญี่ปุ่นสำเร็จรูปมีขายอย่างแพร่หลายในไทย เมื่อมีวัตถุดิบนี้แล้วขั้นตอนการทำแกงกะหรี่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้ยากอีกต่อไปค่ะ ตอนนี้เราไปดูกันว่าแกงกะหรี่ญี่ปุ่นสำเร็จรูปจากแบรนด์ไหนน่าสนใจกันบ้าง
แกงกะหรี่ญี่ปุ่นสำเร็จรูป แบบไหนอร่อย เข้มข้นถึงใจ?
- แกงกะหรี่ผักรสชาติดั้งเดิม ปราศจากผงชูรส เหมาะสำหรับคนทานมังสวิรัติ: S&B Curry Sauce with Vegetables Hot แกงกะหรี่
- แกงกะหรี่สำเร็จรูปพร้อมทาน อร่อยได้ในเวลาเพียง 2 นาที: CoCo Ichibanya แกงกะหรี่
- แกงกะหรี่รสเผ็ดร้อน ใช้เครื่องเทศหลากชนิด: House Java Curry Hot แกงกะหรี่
- แกงกะหรี่สีทองรสชาติดั้งเดิม ปรุงได้ง่ายในเวลาไม่นาน: S&B Golden Curry Sauce Mix แกงกะหรี่
- ผสมผสานด้วยเครื่องเทศมากกว่า 40 ชนิด หอมกรุ่นทั่วครัว: Ezaki Glico Curry ZEPPIN Medium Spicy แกงกะหรี่
- มีส่วนผสมของกล้วยและแอปเปิ้ล หวานกลมกล่อม เหมาะสำหรับคนไม่ทานเผ็ด : House Vermont Curry Mild แกงกะหรี่
แกงกะหรี่ญี่ปุ่นคืออะไร มีต้นกำเนิดมาจากไหน?
แกงกะหรี่ญี่ปุ่นเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมากค่ะ โดยมีพื้นฐานมาจากรูซ์ (Roux) ที่เป็นการผสมกันระหว่างแป้ง ไขมันและมีลักษณะข้น ๆ ค่ะ ต้นกำเนิดของแกงกะหรี่มาจากส่วนผสมหลักที่เรียกว่าผงกะหรี่ ในตอนนั้นอินเดียอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ (ยุคอาณานิคมในอินเดีย) ทำให้ชาวอังกฤษได้นำเครื่องเทศที่เรียกว่า “มาซาลา” กลับประเทศมาด้วย โดยทางอังกฤษนำเครื่องเทศมาปรับปรุงและให้ชื่อว่าผงกะหรี่ (Curry) หลังจากนั้นในยุคเมจิ ประมาณช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ผงกะหรี่ก็ได้แพร่หลายในญี่ปุ่นจนเกิดเมนูที่เรียกว่าแกงกะหรี่ญี่ปุ่นขึ้นมา

แกงกะหรี่ของประเทศญี่ปุ่นแตกต่างจากแกงกะหรี่ในประเทศอื่น ๆ มาก เพราะเนื้อสัมผัสของแกงกะหรี่ญี่ปุ่นมีความเข้มข้น มีรสหวานแต่เผ็ดน้อยกว่าแกงกะหรี่แบบอินเดีย ในประเทศญี่ปุ่นพ่อครัวจะปรุงแกงกะหรี่โดยใช้เนื้อสัตว์ ผักและเครื่องเทศเป็นหลัก ซึ่งตัวเครื่องเทศจะมีส่วนผสมของขมิ้น ผักชีและยี่หร่า ส่วนเครื่องปรุงเพิ่มเติมที่มักจะใช้ก็จะเป็นผงหัวหอม นมผงและน้ำผึ้งค่ะ เอกลักษณ์ของแกงกะหรี่ญี่ปุ่นนอกจากความเข้มข้นแล้วก็ยังมีในส่วนของความกลมกล่อมที่เกิดจากการเคี่ยวผักและเนื้อสัตว์ด้วย โดยผักที่นิยมใช้กันคือมันฝรั่ง, หัวหอม, แครอท, กะโบชาและหัวไชเท้าญี่ปุ่น เมื่อได้นำแกงกะหรี่มาราดบนข้าวสวยร้อน ๆ รับรองว่าอร่อยไม่รู้ลืมค่ะ
แกงกะหรี่ญี่ปุ่น VS แกงกะหรี่อินเดีย แตกต่างกันอย่างไร?
ถึงแม้จะมีชื่อที่เรียกว่า “แกงกะหรี่” เหมือนกันแต่แกงกะหรี่ญี่ปุ่นและแกงกะหรี่อินเดียมีความแตกต่างกันมากค่ะ โดยนักชิมอาหารมืออาชีพได้พูดถึงข้อมูลเรื่องนี้ไว้ว่า ปกติแล้วแกงกะหรี่ญี่ปุ่นไม่เผ็ดเท่าแกงกะหรี่อินเดีย เพราะแกงกะหรี่ญี่ปุ่นใช้ผงกะหรี่ที่มีเครื่องเทศน้อยกว่า ในขณะที่แกงกะหรี่อินเดียใช้ส่วนผสมต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ยี่หร่า ปาปริก้า ขมิ้น ฯลฯ
ส่วนผสมที่ใส่ลงในจานแกงกะหรี่ก็แตกต่างกันไป แกงกะหรี่ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมจะใช้ “หมูทงคัตสึ” เพื่อทานกับแกงกะหรี่ ซึ่งหมูทงคัตสึคือหมูทอดชุบเกล็ดขนมปังที่สามารถเข้ากันได้ดีกับน้ำแกงและผักที่อยู่ในแกงกะหรี่ ส่วนแกงกะหรี่อินเดียจะมีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแกงกะหรี่แบบครีม แบบเผ็ดและแกงกะหรี่แบบมังสวิรัติ เนื่องด้วยหลักปฏิบัติทางศาสนาคนอินเดียจึงไม่บริโภคเนื้อวัว ทำให้เนื้อสัตว์ที่ใช้ทานกับแกงกะหรี่อินเดียคือเนื้อแกะและเนื้อไก่ค่ะ

แกงกะหรี่ญี่ปุ่นมักรับประทานกับข้าว โดยในปัจจุบันเมนูข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่นเป็นอาหารจานด่วนที่หาทานได้ง่ายและเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนทำงานที่ต้องการทานอาหารมื้อกลางวันแบบรวดเร็ว อีกทั้งร้านอาหารบางร้านในญี่ปุ่นจะเสิร์ฟแกงกะหรี่ญี่ปุ่นพร้อมกับอุด้งหรือราเมนด้วยค่ะ ส่วนแกงกะหรี่อินเดียมักนิยมรับประทานกับโรตีและขนมปังแผ่นค่ะ
เราจะสรุปความแตกต่างระหว่างแกงกะหรี่ญี่ปุ่นและแกงกะหรี่อินเดียเป็นตารางอีกครั้งเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นค่ะ
ความแตกต่างระหว่างแกงกะหรี่ญี่ปุ่นและแกงกะหรี่อินเดีย
ความแตกต่าง | แกงกะหรี่ญี่ปุ่น | แกงกะหรี่อินเดีย |
เครื่องเทศและส่วนผสมหลัก | ขมิ้น, ผักชี, ผงกระเทียม, ซอสงา, ยี่หร่าและผลไม้รสหวาน | ยี่หร่า, ปาปริก้า, ขมิ้น, พริกป่น, กระวาน, อบเชย, หัวหอม, กระเทียม, ขิง ฯลฯ |
ความเผ็ด | เผ็ดน้อย | เผ็ดและเข้มข้นมาก |
เนื้อสัตว์ที่ใช้ | หมู ไก่และเนื้อวัว | ไก่และเนื้อแกะ |
ผักที่ใช้ | มันฝรั่ง, หัวหอม, แครอท, กะโบชาและหัวไชเท้าญี่ปุ่น | สับปะรด มะเขือเทศหรือมันฝรั่ง |
นิยมทานร่วมกับ | ข้าวสวย (ข้าวญี่ปุ่น) | โรตีหรือขนมปัง |
เคล็ดในการเลือกซื้อแกงกะหรี่ญี่ปุ่นสำเร็จรูป
1. ระดับความเผ็ด

โดยทั่วไปแล้วแกงกะหรี่ญี่ปุ่นมีความเผ็ด 3 ระดับคือเผ็ดน้อย (อามาคุจิ, 甘口), เผ็ดกลาง (ชูคารา, 中辛) และเผ็ดมาก (คาราคุจิ , 辛口) คุณสามารถเลือกซื้อได้ตามรสชาติที่ต้องการค่ะ อย่างไรก็ตาม คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ค่อยสันทัดในเรื่องของความเผ็ด ทำให้อาหารญี่ปุ่นที่มีป้ายกำกับว่า “เผ็ด” หรือแม้แต่ “เผ็ดมาก” แต่จะไม่เผ็ดเหมือนกับอาหารเกาหลีหรืออาหารเผ็ดร้อนแบบอเมริกัน เมื่อดูรายชื่อส่วนผสมของแกงกะหรี่ญี่ปุ่น คุณจะไม่เห็นพริกที่มีความเผ็ดใด ๆ เลย โดยจะไม่มีส่วนผสมของพริกขี้หนู พริกฮาบาเนโรหรือพริกฮาลาเปโน่อย่างแน่นอน ปกติแล้วความเผ็ดร้อนของแกงกะหรี่ญี่ปุ่นมาจากเครื่องเทศและผงกะหรี่ค่ะ ดังนั้นถ้าคุณชอบเครื่องเทศและความเผ็ดที่เข้มข้น คุณอาจต้องใส่พริก น้ำมันพริกหรือซอสเผ็ดลงไปแทน
2. เช็กรายการเครื่องเทศ
|
|
จุดเด่นของแกงกะหรี่คือการใช้เครื่องเทศและสมุนไพร แกงกะหรี่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีเครื่องเทศแบบพื้นฐานนั่นก็คือ ผงกะหรี่ ผงหัวหอมและผงกระเทียม ซึ่ง Golden Curry ของแบรนด์ S&B เป็นแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแบบคลาสสิกที่สุดเพราะนอกจากส่วนผสมหลักแล้วแทบจะไม่มีส่วนผสมอื่น ๆ เพิ่มเติมเลย แต่ถ้าคุณชอบเครื่องเทศและสมุนไพรที่หลากหลายให้ซื้อแกงกะหรี่จาก Glico’s Zeppin Curry เพราะมันมีเครื่องเทศและสมุนไพร 40 ชนิด รวมทั้งผักชี ยี่หร่าและพริกไทยดำเพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้น
3. ส่วนผสมอื่น ๆ ในแกงกะหรี่
- น้ำมันพืชหรือไขมัน แกงกะหรี่ญี่ปุ่นที่มีส่วนผสมของน้ำมันพืชหรือไขมันสัตว์จะทำให้แกงกะหรี่มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นมากกว่า โดยน้ำมันพืชที่นิยมใช้ก็คือน้ำมันเรพซีดหรือน้ำมันดอกทานตะวันค่ะ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์แกงกะหรี่ที่ไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ แต่ใช้รสชาติของน้ำซุปผักที่ให้รสอูมามิเบา ๆ
- ผลไม้และน้ำผึ้ง ไม่ว่าคุณจะเลือกระดับความเผ็ดร้อนแค่ไหนแต่แกงกะหรี่ญี่ปุ่นมักจะมีรสหวานกว่าแกงไทยหรืออินเดียเล็กน้อย หากคุณชอบแกงกะหรี่ที่มีรสหวานมากเป็นพิเศษ ให้เลือกซื้อแกงกะหรี่ที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้งหรือน้ำผลไม้ เช่น กล้วยบดและน้ำแอปเปิ้ล แกงกะหรี่ที่ไม่เผ็ดและมีรสหวานหอมจะเข้ากันได้ดีกับเนื้อสัตว์ทุกชนิด
- ผลิตภัณฑ์จากนม เมื่อเทียบกับอาหารประเภทอื่น ๆ แกงกะหรี่ญี่ปุ่นมีความเข้มข้นมากกว่าเพราะมีส่วนผสมของแป้งสาลี แต่แกงกะหรี่บางยี่ห้อมีผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีสและนมเพื่อให้มีความครีมมี่มากขึ้น ส่วนผสมเหล่านี้สร้างรสชาติและปรับเครื่องเทศให้เป็นกลาง ซึ่งปกติแล้ว แกงกะหรี่ที่ผสมกับส่วนผสมจากนมจะมีความเข้มข้นและไม่เผ็ด
4. รูปแบบของแกงกะหรี่
แกงกะหรี่ญี่ปุ่นมักจะมี 3 รูปแบบค่ะ นั่นก็คือแบบก้อน แบบพริกแกงและแบบผง
- แกงกะหรี่แบบก้อน : แกงกะหรี่แบบก้อนจะมาในรูปแบบบล็อกสี่เหลี่ยมที่ใช้งานได้ง่าย จุดเด่นก็คือมันจะทำให้แกงเข้มข้นขึ้นเนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำมันและแป้งสาลี โดยคุณไม่จำเป็นต้องเติมเครื่องปรุงใด ๆ เพียงเติมก้อนแกงกะหรี่ลงไปในน้ำร้อนและรอละลายเท่านั้น
- แกงกะหรี่แบบพริกแกง : ส่วนแกงกะหรี่แบบพริกแกงนั้นค่อนข้างคล้ายกับแกงกะหรี่แบบก้อนเพราะมีเครื่องเทศ แป้ง ไขมันหรือน้ำมันแต่มีความเหลวมากกว่า ละลายได้ง่ายแต่ไม่เข้มข้นเท่าแกงกะหรี่
- แกงกะหรี่แบบผง : ผงแกงกะหรี่ จะละลายได้ง่ายและมักใช้สำหรับหมักหรือปรุงอาหาร หากใช้แกงกะหรี่แบบผงจะทำให้คุณสามารถปรับรสชาติได้ตามต้องการ อย่างไรก็ตามผงกะหรี่จะปราศจากน้ำมันหรือไขมันทำให้ไม่มีรสชาติเข้มข้นเท่ากับแกงกะหรี่แบบก้อน ดังนั้นคุณอาจต้องเพิ่มส่วนผสมอื่น ๆ เช่น น้ำสต๊อกเนื้อหรือครีมเพื่อให้รสชาติลงตัวมากขึ้น
S&B Curry Sauce with Vegetables Hot แกงกะหรี่

ราคา 45 บาท*
S&B Curry Sauce with Vegetables Hot เป็นแกงกะหรี่สำเร็จรูปรสเผ็ดที่มาพร้อมกับผักและมีรสชาติเข้มข้น จุดเด่นเลยก็คือแกงกะหรี่ไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ นอกจากนี้ยังปราศจากผงชูรสและสารเติมแต่งทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพ หากคุณเป็นคนทานมังสวิรัติและต้องการทานแกงกะหรี่รสจัดจ้าน คุณสามารถเลือกซื้อแกงกะหรี่คอลเลกชันนี้ได้เลย เพราะรสชาติของแกงกะหรี่มาจากธรรมชาติล้วน ๆ และทำด้วยส่วนผสมที่สดใหม่ ใครที่ต้องการทานแกงกะหรี่ผักที่มีรสชาติแบบดั้งเดิมแนะนำให้ลองค่ะ รับรองว่าจะไม่ผิดหวัง
รูปแบบของแกงกะหรี่ | พริกแกง (แช่ในน้ำร้อนแล้วพร้อมทาน) |
---|---|
ปริมาณ/เสิร์ฟ | 210 กรัม/1 เสิร์ฟ |
ส่วนผสมหลัก | น้ำมันปาล์ม, พริกไทยดำ, ยีสต์, กระวาน,ผงกะหรี่และมัสตาร์ด |
ระดับความเผ็ดร้อน | เผ็ดมาก |
S&B Golden Curry Sauce Mix แกงกะหรี่

ราคา 83 บาท*
S&B Golden Curry Sauce Mix เป็นแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมมากที่สุด เพราะทำจากผงกะหรี่และเครื่องเทศตามฉบับญี่ปุ่น มีความเผ็ดอยู่ที่ระดับความปานกลาง ทำให้รสชาติของแกงกะหรี่มีความจัดจ้านแต่ไม่เผ็ดจนเกินไป เข้มข้นและกลมกล่อม อีกทั้งยังง่ายต่อการปรุงอีกด้วย วิธีการทำก็ง่ายมากเลยค่ะเพียงแค่เติมน้ำสต๊อกไก่ ผักและโปรตีนต่าง ๆ ก็สามารถทำให้แกงกะหรี่อร่อยได้แล้ว ใครที่ชอบแกงกะหรี่รสชาติไม่ซับซ้อนและทำได้ง่ายก็สามารถเลือกทานแกงกะหรี่ตัวนี้ได้เลยค่ะ เรื่องคุณภาพไม่ต้องเป็นห่วงเลยเพราะแบรนด์นี้เป็นแบรนด์คุณภาพในญี่ปุ่นค่ะ
รูปแบบของแกงกะหรี่ | แบบก้อน |
---|---|
ปริมาณ/เสิร์ฟ | 92 กรัม/5 เสิร์ฟ |
ส่วนผสมหลัก | แป้งสาลี น้ำตาล ผงกะหรี่และเครื่องเทศ |
ระดับความเผ็ดร้อน | เผ็ดปานกลาง |
House Java Curry Hot แกงกะหรี่

ราคา 99 บาท*
House Java Curry Hot เป็นแกงกะหรี่ที่ปรุงด้วยส่วนผสมหลายอย่าง เช่น หัวหอม ซอสงาและผงกระเทียมเพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและหอมกรุ่น เนื้อสัมผัสของแกงกะหรี่มีสีน้ำตาลแดงเข้มและเนื้อสัมผัสเรียบเนียน ในเรื่องรสชาติทางแบรนด์กำกับไว้ว่าเผ็ดมากซึ่งเผ็ดกว่าแบรนด์อื่นแต่ไม่ได้เผ็ดมากจนเกินไป มีรสชาติเข้มข้น ล้ำลึกและเราจะได้รับรสหวานของผลไม้เมื่อทาน โดยรวมแล้วแกงกะหรี่ก้อนนี้เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างรสชาติของเครื่องเทศและส่วนผสมอื่น ๆ ซึ่งตอบโจทย์คนที่ชอบรสเผ็ดได้ดีมาก
รูปแบบของแกงกะหรี่ | แบบก้อน |
---|---|
ปริมาณ/เสิร์ฟ | 185 กรัม/9 เสิร์ฟ |
ส่วนผสมหลัก | น้ำมันพืช ผงกะหรี่ เครื่องเทศและหัวหอม |
ระดับความเผ็ดร้อน | เผ็ดมาก |
House Kokumaro Curry Medium Hot แกงกะหรี่

ราคา 115 บาท*
House Kokumaro Curry Medium Hot ตอบโจทย์มากถ้าคุณชอบแกงกะหรี่ที่เป็นครีมข้น ๆ ส่วนผสมหลักของแกงกะหรี่ได้แก่ กระเทียม เปลือกส้มเขียวหวานและหัวหอมทำให้รสชาติของแกงกะหรี่มีความเข้มข้นและมีกลิ่นหอมมาก อีกทั้งยังผ่านการเติมนมผงและชีสลงไปซึ่งจะช่วยเพิ่มความเป็นครีมมี่ได้ดี ถึงแม้ว่าแกงกะหรี่มีรสชาติที่เผ็ดปานกลาง แต่หลายคนบอกว่าไม่เผ็ดเลย คนที่ไม่ทานเผ็ดก็สามารถทานได้ค่ะ จุดเด่นที่ทำให้แกงกะหรี่นี้เป็นที่ชื่นชอบเพราะมีรสชาติที่กลมกล่อมและเข้ากันได้กับเนื้อสัตว์รวมไปถึงผักทุกประเภท
รูปแบบของแกงกะหรี่ | แบบก้อน |
---|---|
ปริมาณ/เสิร์ฟ | 140 กรัม/8 เสิร์ฟ |
ส่วนผสมหลัก | แป้งสาลี, พริกแกง, ผงกะหรี่, ผงหัวหอมและชีส |
ระดับความเผ็ดร้อน | เผ็ดปานกลาง |
CoCo Ichibanya แกงกะหรี่

ราคา 135 บาท*
CoCo Ichibanya แกงกะหรี่รสหมูที่อร่อยมากและมีเนื้อหมูอยู่ด้านในด้วย ทำให้เราสามารถทานแกงกะหรี่ได้ง่าย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลา ด้วยเครื่องเทศและสมุนไพรที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ทำให้เราสามารถทานได้ง่ายมาก สิ่งที่คุณต้องทำคืออุ่นบรรจุภัณฑ์ในน้ำเดือดประมาณ 7 นาทีหรืออุ่นในไมโครเวฟประมาณ 2 นาทีก็พร้อมทานได้แล้วค่ะ ไม่จำเป็นต้องปรุงหรือเพิ่มอะไรเลย ซึ่งนอกจากจะมีรสหมูแล้วก็ยังมีรสเนื้อให้เราสามารถเลือกทานกันด้วยค่ะ ใครที่ชอบความสะดวกต้องลองค่ะ
รูปแบบของแกงกะหรี่ | พริกแกง (แช่ในน้ำร้อนแล้วพร้อมทาน) |
---|---|
ปริมาณ/เสิร์ฟ | 220 กรัม/1 เสิร์ฟ |
ส่วนผสมหลัก | น้ำมันปาล์ม, ไขมันหมู, แป้งสาลี, ผงกะหรี่และเกลือ |
ระดับความเผ็ดร้อน | เผ็ดปานกลาง |
House Vermont Curry Mild แกงกะหรี่

ราคา 177 บาท*
สำหรับใครที่ชอบแกงกะหรี่รสชาติหวาน ๆ แนะนำให้ลอง House Vermont Curry Mild ค่ะ เพราะเป็นแกงกะหรี่ที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้ง แอปเปิ้ลและกล้วยเพื่อให้มีรสหวานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการผสมผสานกับชีสเพื่อให้รสชาติที่เข้มข้นและกลมกล่อม รสชาติของแกงกะหรี่เป็นแบบเบา ๆ ไม่เผ็ดค่ะ คนที่ไม่ทานเผ็ดหรือเด็กก็สามารถทานได้ง่าย ขอบอกเลยว่าแกงกะหรี่รสชาติค่อนข้างดีเลยค่ะ หากผ่านการเคี่ยวและปรุงที่พิถีพิถันจะทำให้รสชาติของแกงกะหรี่อร่อยมากยิ่งขึ้นค่ะ อีกทั้งยังเข้ากับเนื้อสัตว์ทุกประเภทด้วย
รูปแบบของแกงกะหรี่ | แบบก้อน |
---|---|
ปริมาณ/เสิร์ฟ | 230 กรัม/12 เสิร์ฟ |
ส่วนผสมหลัก | น้ำมันพืช, น้ำผึ้ง, นมผง, ผงหัวหอม, กล้วย, ชีสและน้ำแอปเปิ้ล |
ระดับความเผ็ดร้อน | เผ็ดน้อย |
House Java Curry Medium Hot แกงกะหรี่

ราคา 199 บาท*
House Java Curry Medium Hot เป็นแกงกะหรี่ก้อนที่มีรสเผ็ดปานกลางที่มีรสชาติดี แกงกะหรี่มีความเข้มข้นสูงมาก เมื่อทานไปแล้วจะไม่ลืมรสชาติอย่างแน่นอน คุณสามารถทำแกงกะหรี่ได้ง่าย ๆ โดยการเพิ่มเนื้อสัตว์และผักที่คุณชื่นชอบได้อย่าง่ายดาย ด้วยรสชาติที่เผ็ดแบบปานกลางสามารถทำให้เราสามารถทานได้ง่ายขึ้น ซึ่งหลายคนก็บอกว่าไม่ได้เผ็ดมากจนเกินไป แต่ความข้นของแกงกะหรี่นั้นถึงใจอย่างแน่นอน ก้อนแกงกะหรี่ละลายได้เร็วค่ะและไม่จับตัวเป็นก้อนเมื่อเราใช้งานค่ะ
รูปแบบของแกงกะหรี่ | แบบก้อน |
---|---|
ปริมาณ/เสิร์ฟ | 185 กรัม/9 เสิร์ฟ |
ส่วนผสมหลัก | น้ำมันพืช ผงกะหรี่ เครื่องเทศและหัวหอม |
ระดับความเผ็ดร้อน | เผ็ดปานกลาง |
Ezaki Glico Curry ZEPPIN Medium Spicy แกงกะหรี่

ราคา 200 บาท*
Ezaki Glico Curry ZEPPIN Medium Spicy เป็นแกงกะหรี่สำเร็จรูปที่ได้รับรางวัลมากมายเมื่อปี พ.ศ. 2021 ที่ผ่านมา รวมถึงรางวัล Japan Food Selection, รางวัล Superior Taste Award จาก International Taste Institute ในกรุงบรัสเซลส์ และรางวัล Food Professional Award ขอบอกเลยว่าแกงกะหรี่มีความพรีเมียมมาก ผ่านการปรุงด้วยเครื่องเทศกว่า 40 ชนิดรวมทั้งกระเทียม ขิง อบเชยและกานพลูเพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นหอมที่ซับซ้อน แกงกะหรี่มีความเผ็ดแบบปานกลางแต่มีความลงตัวมาก คนส่วนใหญ่ชื่นชอบแกงกะหรี่ตัวนี้มากเพราะมีรสอูมามิ เข้มข้นและอร่อยมาก บางคนถึงกับบอกว่าดีกว่าแบรนด์ดังอื่น ๆ ด้วยซ้ำค่ะ
รูปแบบของแกงกะหรี่ | แบบก้อน |
---|---|
ปริมาณ/เสิร์ฟ | 175 กรัม/8 เสิร์ฟ |
ส่วนผสมหลัก | น้ำมันเรพซีด, ผงกะหรี่, พริกไทยดำและงา |
ระดับความเผ็ดร้อน | เผ็ดปานกลาง |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว แกงกะหรี่ญี่ปุ่นสำเร็จรูป ยี่ห้อไหนอร่อยที่สุด ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
7 เคล็ดลับในการทำแกงกะหรี่สไตล์ญี่ปุ่น
- ตัดส่วนผสม (เนื้อสัตว์ และผัก) ให้เป็นรูปทรงเดียวกัน การตัดส่วนผสมให้เป็นรูปทรงเดียวกันจะช่วยให้เราสามารุปรุงอาหารทุกอย่างได้อย่างสม่ำเสมอและสุกเท่า ๆ กัน
- เนื้อสัตว์ : แนะนำให้ใช้เทคนิคการหั่นแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่าโซกิกิริ (そぎ切り) ในการหั่นเนื้อสัตว์เพราะจะช่วยให้เนื้อสัตว์นุ่มและไม่เหนียวเมื่อทานค่ะ
- หัวหอม : แนะนำให้หั่นเป็นชิ้นหนาเพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสที่เข้มข้น
- แครอท : การปรุงแครอทให้สุกและนุ่มต้องใช้เวลา ดังนั้นฉันจึงแนะนำให้ใช้เทคนิคการหั่นผักแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่ารังกิริ (乱切り) ซึ่งเป็นการหั่นผักแบบครึ่ง ๆ แต่มีชิ้นพอดีคำ
- มันฝรั่ง : ในการหั่นมันฝรั่งให้ตัดเป็นขนาด 2 นิ้ว (5 ซม.) ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสำหรับการปรุงอาหาร
- ผัดหัวหอมจนนุ่ม การผัดหัวหอมให้นุ่มและกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนจะช่วยเพิ่มรสชาติให้กับแกงกะหรี่ค่ะ แต่หากคุณมีเวลาเพียงพอ แนะนำให้เคี่ยวหัวหอมจนเป็นคาราเมลโดยใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที
- เติมน้ำซุปหรือน้ำเปล่า เมื่อผัดหัวหอมจนเหลืองอร่ามแล้วให้เติมน้ำหรือน้ำซุปลงไป ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำให้มากเกินไป หลังจากนั้นก็เคี่ยวแล้วปิดฝา การปิดฝาจะช่วยให้ส่วนผสมปล่อยความชื้นออกมาและกลมกล่อมยิ่งขึ้น ขอบอกเลยว่าการเติมน้ำซุปหรือน้ำสต๊อกจะดีกว่าเพราะเข้มข้นกว่า
- ตักฟองออก การตักฟองหรือไขมันออกจากซุปเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการทำอาหารญี่ปุ่น เพราะฟองหรือไขมันจะทำให้น้ำซุปข้นและไม่อร่อยนั่นเองค่ะ แนะนำให้ตักฟองออกจนกว่าซุปจะเป็นน้ำใส
- เติมเครื่องแกง 2 ก้อน หลายคนบอกว่าแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแบบทำเองไม่อร่อยนั่นเป็นเพราะคุณใส่แกงกะหรี่น้อยเกินไปค่ะ แนะนำให้ใส่แกงกะหรี่ประมาณ 2 ก้อนในคราวเดียว ถ้าชอบความเข้มข้นก็สามารถเพิ่มเข้าไปได้ แต่ในระหว่างเคี่ยวแกงกะหรี่ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าก่อนว่าก้อนแกงกะหรี่ละลายหมดแล้ว เพราะคุณคงไม่ต้องการที่จะกัดก้อนแกงกะหรี่ที่ยังไม่ละลายอย่างแน่นอน
- ใช้เวลาในการเคี่ยวแกงกะหรี่ ในการเคี่ยวแกงกะหรี่จะต้องใช้เวลาค่ะ เพราะเราต้องเคี่ยวจนกว่ามันจะข้น อีกทั้งยังต้องระวังด้วยเพราะแกงกะหรี่ที่เริ่มข้นจะไหม้ที่ก้นกระทะได้ง่าย ในการเคี่ยวแนะนำให้เคี่ยวแบบเปิดฝาเป็นเวลา 10 นาทีโดยใช้ความร้อนต่ำค่ะ
- แกงกะหรี่ที่ทำเสร็จแล้วเก็บไว้นานยิ่งอร่อย แกงกะหรี่ญี่ปุ่นที่ปรุงเสร็จแล้วเหมาะสำหรับการแช่แข็ง โดยเมื่อทำแกงกะหรี่เสร็จแล้วสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 2 – 3 วันและเก็บในช่องแช่แข็งได้นานถึง 1 เดือน แต่ต้องระวังนะคะเพราะมันฝรั่งจะเปลี่ยนเนื้อสัมผัสหลังจากการแช่แข็ง ดังนั้นให้เอามันฝรั่งออกก่อนหากคุณวางแผนที่จะแช่แข็งแกงกะหรี่