เมื่อถึงช่วงเวลาบ่ายของวันศุกร์หลายคนคงจะเริ่มแพลนและเตรียมตัวกันแล้วว่าวันหยุดนี้จะทำอะไรบ้างเพื่อใช้วันหยุดสุดสัปดาห์ให้คุ้มค่ามากที่สุด บางคนเลือกที่จะอยู่บ้านปลูกต้นไม้ หรือบางคนเลือกที่จะออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านอย่างตั้งแคมป์หรือไปเที่ยวทะเลดำน้ำชมปะการัง ส่วนบางคนอาจเลือกที่จะมอบวันหยุดที่แสนจะมีค่าเหล่านี้ให้กับครอบครัวและทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ยิ่งบ้านไหนที่ต้องแยกกันไปทำงานคนละทิศคนละทางอย่างเรา บอกเลยว่าเย็นวันศุกร์เป็นอะไรที่พิเศษเสมอค่ะ

แน่นอนว่ามีการรวมตัวเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เมื่อนั้นก็ต้องมีปาร์ตี้หรืองานสังสรรค์เกิดขึ้นแทบจะทุกครั้งเหมือนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ แล้วก็แน่นอนอีกว่าอาหารยอดนิยมสำหรับการเฉลิมฉลองคงจะหนีไม่พ้นเมนู “ชาบู” และ “หมูกระทะ” อาหารบุฟเฟ่ต์ที่หลายคนชื่นชอบเนื่องจากสามารถเลือกวัตถุดิบและรสชาติได้ตามชอบ รวมไปถึงผักและซอสจิ้มเองก็มีหลากหลายสูตรเลือกทาน แต่ที่ขาดไม่ได้ก็คงจะเป็น “น้ำจิ้มสุกี้” น้ำจิ้มยอดฮิตที่จะทานคู่กับอะไรก็อร่อยลงตัว ยิ่งเดี๋ยวนี้มีทั้งหม้อชาบู, กระทะไฟฟ้า, เตาหมูกระทะ หรือแม้แต่กระทะย่างเนยก็มีวางจำหน่ายให้เลือกจนตาลายก็ยิ่งช่วยให้เรายกร้านหมูกระทะมาไว้ที่บ้านได้ง่ายและการทานเมนูบุฟเฟ่ต์เหล่านี้ก็สะดวกมากขึ้นหลายเท่าตัวเลย!
ส่วนผสมหลักของน้ำจิ้มสุกี้
น้ำจิ้มสุกี้มีหลายสูตรให้ได้เลือกทั้งแบบเผ็ดนำ, แบบหวาน และแบบเปรี้ยว อันที่จริงแล้วน้ำจิ้มสุกี้สามารถทานกับอาหารได้หลากหลายชนิดทั้งปิ้ง, ย่าง, ทานกับผักต้ม, ทานแบบสุกี้น้ำ, ทานแบบสุกี้แห้ง หรือจะทำเป็นข้าวผัดน้ำจิ้มสุกี้ก็ตาม เรียกว่าเป็นซอสอเนกประสงค์ที่คิดไม่อะไรไม่ออกก็แค่เหยาะน้ำจิ้มสุกี้ลงไป แค่นี้อาหารของเราก็อร่อยขึ้นมาเป็นกองแล้ว ยิ่งเป็นเมนูแกงจืดหรือต้มต่าง ๆ ก็ยิ่งเหมาะเจาะ!

แต่บางคนก็เลือกที่จะทำน้ำจิ้มสุกี้ทานเอง เพราะส่วนผสมหลัก ๆ ของน้ำจิ้มสุกี้ก็จะมีแค่ซอสพริก, ซอสมะเขือเทศ, ซอสหอยนางรม, ซีอิ๊วขาว, น้ำมันงา, น้ำตาลทราย, พริกแดงตำ และกระเทียมสับ โดยอัตราส่วนก็ตามแต่ละสูตรที่กำหนดกัน ซึ่งมันก็มีขั้นตอนการทำที่ไม่ได้ยุ่งยากมากนัก แต่บางครั้งสูตรที่เผยแพร่ในอินเตอร์เน็ตก็อาจจะบอกเรามาไม่ทั้งหมด แน่นอนมันอาจจะทำให้เราได้น้ำจิ้มสุกี้แบบทำเองที่มีรสชาติปะแล่ม ๆ ไม่คุ้นเคย 😛 ดังนั้นเพื่อไม่ให้คุณต้องเสียเวลาและเสียความรู้สึก หากคุณเป็นคนชอบทานสุกี้ ชาบู หมูกระทะ แต่ยังขาดน้ำจิ้มสุกี้คุณภาพ รีบเลื่อนลงไปดูน้ำจิ้มสุกี้ที่เราหยิบมารีวิวในบทความนี้กันเลยดีกว่า
อ่านเพิ่มเติม วิธีเลือกน้ำจิ้มสุกี้
น้ำจิ้มสุกี้ / น้ำจิ้มหมูกระทะ ยี่ห้อไหนดี ?
- น้ำจิ้มสุกี้แบรนด์ยอดนิยม หอมพริกกระเทียม รสชาติกลมกล่อมลงตัว: พันท้ายนรสิงห์ น้ำจิ้มสุกี้ สูตรกวางตุ้ง
- น้ำจิ้มสุกี้สูตรพริกกะเหรี่ยง เหมาะสำหรับคนชอบความเผ็ดร้อนมากเป็นพิเศษ: พันท้ายนรสิงห์ น้ำจิ้มสุกี้กวางตุ้งสูตรพริกกะเหรี่ยง
- น้ำจิ้มกระทะร้อนสูตรเด็ดจากภูทับเบิก รสชาติจัดจ้านครบเครื่อง: น้ำจิ้มสุกี้ ย่างเกาหลี (สูตรกะทะร้อน) ตรา พริกรวย
- น้ำจิ้มสุกี้สูตรไหหลำ หอมเต้าหู้ยี้และกระเทียมดอง รสชาติไม่จัดจ้านทานได้ทั้งครอบครัว : น้ำจิ้มสุกี้ ศุภวรรณ สูตรไหหลำ
- น้ำจิ้มสุกี้คีโต เข้มข้น หอมพริกและงา สายคีโตทานได้อย่างสบายใจ: น้ำจิ้มสุกี้คีโต กินดี KinD Keto
![]() พันท้ายนรสิงห์ น้ำจิ้มสุกี้ สูตรกวางตุ้ง | ![]() พันท้ายนรสิงห์ น้ำจิ้มสุกี้กวางตุ้งสูตรพริกกะเหรี่ยง | ![]() น้ำจิ้มสุกี้ ย่างเกาหลี (สูตรกะทะร้อน) ตรา พริกรวย | ![]() น้ำจิ้มสุกี้ ศุภวรรณ สูตรไหหลำ | ![]() น้ำจิ้มสุกี้คีโต กินดี KinD Keto |
พันท้ายนรสิงห์ น้ำจิ้มสุกี้ สูตรกวางตุ้ง

ราคา 368 บาท*
ปริมาณ | 830 กรัม x 3 ขวด |
---|---|
สูตร | กวางตุ้ง |
ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร | ถั่วเหลือง, งา และแป้งสาลี |
เครื่องหมายฮาลาล | ✔ |
พันท้ายนรสิงห์ น้ำจิ้มสุกี้กวางตุ้งสูตรพริกกะเหรี่ยง

ราคา 63 บาท*
สำหรับขวดนี้คือน้ำจิ้มสุกี้พันท้ายนรสิงห์ เป็นน้ำจิ้มกวางตุ้งสูตรพริกกะเหรี่ยง ตัวน้ำจิ้มมีความเข้มข้นกำลังดี ไม่เหลวมากจนเกินไปค่ะ ขวดนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ชอบรสชาติจัดจ้านมากเป็นพิเศษ เพราะตัวน้ำจิ้มมีส่วนผสมของพริกกะเหรี่ยงสด ๆ ค่ะ แต่ตัวน้ำจิ้มจะไม่ได้จัดจ้านมากนะคะ มีความหวานเค็มอมเผ็ด ทานเข้าไปแล้วได้ความเผ็ดร้อนมากกว่าน้ำจิ้มสุกี้สูตรทั่วไปเล็กน้อยค่ะ

ปริมาณ | 680 กรัม |
---|---|
สูตร | พริกกะเหรี่ยง |
ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร | มีถั่วเหลือง, แป้งสาลี และงา |
เครื่องหมายฮาลาล | ✓ |
พันท้ายนรสิงห์ น้ำจิ้มสุกี้กวางตุ้ง (ไม่พริก)

ราคา 49 บาท*
สำหรับน้ำจิ้มขวดนี้จะเป็นสูตรกวางตุ้งเหมือนเดิม แต่ที่ต่างคือจะไม่มีส่วนผสมของพริก เหมาะสำหรับคนไม่ทานเผ็ดและเด็ก ๆ ที่ยังทานเผ็ดไม่ได้ค่ะ ตัวน้ำจิ้มจะมีส่วนผสมของเต้าหู้ยี้, กระเทียม และงา ความเข้มข้นกำลังดีได้มาตรฐาน ในส่วนของรสชาติจะมีความเค็มหวานค่อนข้างกลมกล่อมค่ะ ส่วนตัวเราชอบสูตรนี้เพราะสามารถนำมาปรุงรสเพิ่มเติมได้ตามชอบ เพราะตัวน้ำจิ้มมีรสชาติกลาง ๆ ไม่จัดมากเหมือนสูตรอื่น ๆ ค่ะ
ปริมาณ | 215 กรัม |
---|---|
สูตร | ไม่พริก |
ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร | มีถั่วเหลือง, แป้งสาลี และงา |
เครื่องหมายฮาลาล |
น้ำจิ้มสุกี้ ย่างเกาหลี (สูตรกะทะร้อน) ตรา พริกรวย

ราคา 69 บาท*
ปริมาณ | 670 กรัม |
---|---|
สูตร | กะทะร้อน |
ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร | ไม่ระบุ |
เครื่องหมายฮาลาล | เครื่องหมายฮาลาล |
Pure Foods น้ำจิ้มสุกี้กวางตุ้ง

ราคา 39 บาท*
ปริมาณ | 330 กรัม |
---|---|
สูตร | กวางตุ้ง |
ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร | มีถั่วเหลือง, งา และแป้งสาลี |
เครื่องหมายฮาลาล | ✓ |
ตราเด็กสมบูรณ์ น้ำจิ้มสุกี้กวางตุ้ง

ราคา 98 บาท*
ปริมาณ | 800 กรัม |
---|---|
สูตร | กวางตุ้ง |
ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร | มีถั่วเหลือง, งา และแป้งสาลี |
เครื่องหมายฮาลาล | X |
SUNSAUCE (ซันซอส) น้ำจิ้มสุกี้ สูตรพริกกะเหรี่ยง

ราคา 118 บาท*
น้ำจิ้มสุกี้สูตรพริกกะเหรี่ยงตราซันซอสค่ะ สูตรนี้มีส่วนประกอบของพริกกะเหรี่ยงแต่รสชาติไม่ได้จัดจ้านมากนัก ผสมผสานกับซอสสุกี้สูตรเฉพาะของซันซอสที่มีความเหลวเล็กน้อยและอร่อยกลมกล่อม รสชาติเผ็ดอมหวาน ไม่มีการผสมวัตถุกันเสีย ไม่เจือสี ไม่แต่งกลิ่น และปราศจากไขมันทรานส์ บรรจุในขวดแก้วปริมาณ 830 กรัมถือว่าให้มาเยอะและคุ้มค่าสุด ๆ
ปริมาณ | 830 กรัม |
---|---|
สูตร | พริกกะเหรี่ยง |
ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร | ไม่ระบุ |
เครื่องหมายฮาลาล |
น้ำจิ้มสุกี้ Sukishi (ซูกิชิ)

ราคา 50 บาท*
น้ำจิ้มสุกี้จากซูกิชิ ร้านปิ้งย่างชื่อดังที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักอย่างแน่นอนเพราะมีสาขาอยู่ทั่วประเทศ สำหรับน้ำจิ้มสุกี้สูตรนี้จะเป็นสูตรดั้งเดิมของทางร้านที่มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม เนื้อสัมผัสเหลวไปนิดแต่มีความเข้มข้น หอมกลิ่นงาและเครื่องเทศ รสชาติอร่อยเหมือนไปนั่งทานที่ร้าน บรรจุมาในขวดขนาด 150 กรัมพร้อมฝาปิดอย่างดี มีขนาดกระทัดรัดพอดีสำหรับหนึ่งชุด
ปริมาณ | 150 กรัม |
---|---|
สูตร | ดั้งเดิม |
ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร | ไม่ระบุ |
เครื่องหมายฮาลาล |
น้ำจิ้มสุกี้ คุณละออง

ราคา 54 บาท*
คุณละออง น้ำจิ้มสุกี้ที่เหมาะสำหรับสายคีโต สามารถทานกับเมนูชาบูหมูกระทะได้เลยค่ะ วัตถุดิบทั้งหมดมาจากธรรมชาติและถูกต้องตามหลักคีโต ใช้อิริทริทอลและน้ำตาลหญ้าหวานเป็นสารให้ความหวาน สำหรับความเค็มจะมาจากเกลือชมพูหิมาลัย เรื้อน้ำจิ้มค่อนข้างจะมีความเหนียน ไม่มีส่วนผสมของแป้ง, ผงชูรส, สารกันเสีย และของหมักดองต่าง ๆ ที่ขัดกับหลักคีโต บรรจุในขวดพลาสติกฟู้ดเกรดอย่างดี เก็บในตู้เย็นได้มากกว่า 2 เดือน น้ำจิ้มมีรสชาติอร่ยกลมกล่อมจากการใส่ส่วนผสมที่ลงตัวค่ะ
ปริมาณ | 250 มิลลิลิตร |
---|---|
สูตร | คีโต |
ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร | ไม่ระบุ |
เครื่องหมายฮาลาล |
น้ำจิ้มสุกี้ ศุภวรรณ สูตรไหหลำ

ราคา 70 บาท*
ศุภวรรณ น้ำจิ้มสุกี้สูตรไหหลำ สำหรับสูตรนี้จะมีส่วนผสมของเต้าหู้ยี้, กระเทียมดอง, พริกสด, กระเทียมสด และเครื่องปรุงรสต่าง ๆ ค่ะ ทีเด็ดอยู่ที่เต้าหู้ยี้และกระเทียมดองที่มีความหอม กลมกล่อมเข้ากับพริกกระเทียม น้ำจิ้มมีความเข้มข้นและไม่มีส่วนผสมของงา สำหรับรสชาติก็จะหวานนำ ตามด้วยเปรี้ยว เค็ม เผ็ด กลมกล่อม รสชาติไม่เผ็ดมากทานได้ทั้งครอบครัวค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยทำให้น้ำสุกี้มีสีสวยน่าทานอีกด้วย
ปริมาณ | 750 มิลลิลิตร |
---|---|
สูตร | ไหหลำ |
ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร | มีถั่วเหลือง |
เครื่องหมายฮาลาล |
Goodlife น้ำจิ้มสุกี้ สูตรลดเกลือโซเดียม

ราคา 48 บาท*
ปริมาณ | 200 มิลลิลิตร |
---|---|
สูตร | ลดโซเดียมและน้ำตาล |
ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร | มีงา |
เครื่องหมายฮาลาล | X |
น้ำจิ้มสุกี้คีโต กินดี KinD Keto

ราคา 109 บาท*
ปริมาณ | 200 มิลลิลิตร |
---|---|
สูตร | คีโต |
ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร | ไม่ระบุ |
เครื่องหมายฮาลาล |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ทั้งหมดก็คือน้ำจิ้มสุกี้ที่เรานำมารีวิวเพื่อน ๆ ในบทความนี้ค่ะ แต่ละสูตรแต่ละยี่ห้อก็จะมีระดับความเผ็ดและรสชาติแตกต่างกันออกไปซึ่งเพื่อน ๆ สามารถเลือกซื้อได้ตามความชอบ แต่ถ้าในครอบครัวมีเด็กเล็กร่วมรับประทานด้วยเราขอแนะนำให้เลือกซื้อสูตรเผ็ดน้อยหรือสูตรไม่ผสมพริกจะดีกว่า หากเพื่อน ๆ ต้องการความแซ่บความจัดจ้านก็เพียงแค่เติมพริก, กระเทียม และน้ำมะนาวเข้าไปก็ได้รสชาติที่ชอบแล้วค่ะ อีกอย่างการเลือกน้ำจิ้มสูตรเผ็ดน้อยมาเป็นเบสก็จะช่วยให้สามารถปรุงรสชาติเพิ่มเติมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
วิธีเลือกน้ำจิ้มสุกี้
1. รสชาติ
ปกติแล้วน้ำจิ้มสุกี้มีหลายสูตรให้เราได้เลือก มีทั้งสูตรแบบดั้งเดิม(แบบโบราณ), สูตรกวางตุ้ง และสูตรเจ เพื่อตอบโจทย์การรับประทานที่หลากหลาย แต่ “สูตรกวางตุ้ง” นั้นจะได้รับความนิยมในหมู่คนไทยมากที่สุด เพราะมีการผสมผสานระหว่างกระเทียม, พริก, ซอสถั่วเหลือง, น้ำตาลทราย, เกลือ, น้ำมันงา แล้วก็มีการตบท้ายด้วยงาขาว ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวนี้ทำให้มันมีรสชาติที่อร่อยลงตัวถูกปากคนไทยมากที่สุดนั่นเอง
ส่วนน้ำจิ้มสุกี้แบบดั้งเดิมหรือแบบโบราณนั้น จะมีส่วนผสมของเต้าหู้ยี้ในปริมาณมาก เพื่อให้ได้กลิ่นและรสชาติตามแบบฉบับดั้งเดิม ส่วนสูตรเจนั้นจะไร้ส่วนผสมจากสัตว์และของที่มีกลิ่นฉุน จึงอาจจะมีการตัดส่วนผสมอย่างกระเทียมออก
2. ปริมาณน้ำตาล

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ใส่ใจกับเรื่องสุขภาพ ปริมาณน้ำตาลก็เป็นเรื่องที่สำคัญในการเลือกน้ำจิ้มสุกี้ เพราะน้ำจิ้มสุกี้บางยี่ห้อนั้นมีการเพิ่มน้ำตาลเป็นจำนวนมาก เพื่อให้มันอร่อยและตัดกับความเปรี้ยวและเค็ม หากคุณใส่ใจในเรื่องสุขภาพมากควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นสูตรน้ำตาลน้อยหรือสูตรที่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลเพื่อสุขภาพที่ดีของคุณเอง 🙂
3. ความเผ็ด
น้ำจิ้มสุกี้ในแต่ละยี่ห้อนั้นเราสามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ โดยส่วนใหญ่มักจะระบุไว้บนฉลากอย่างชัดเจน หากไม่มีการบ่งบอกระดับของความเผ็ด นั่นหมายความว่าน้ำจิ้มสุกี้นั้นมีรสชาติที่เป็นกลาง ๆ เพื่อให้เหมาะกับผู้บริโภคทุกช่วงอายุ
หากคุณชอบรสชาติที่เผ็ดถึงใจเราขอแนะนำให้คุณเลือกน้ำจิ้มสุกี้แบบเผ็ดมาก แต่หากมีเด็กเล็กรับประทานด้วยอาจจะเลือกแบบเผ็ดน้อยแทน เพราะเด็ก ๆ จะได้ทานได้ด้วย และคุณอาจจะเติมพริกแดงตำไปเสริมลงไปเองก็ได้เช่นกัน
4. อย่าลืมพิจารณาวัตถุดิบเจือปนอาหาร
น้ำจิ้มสุกี้นั้นมีสีที่ค่อนข้างสดใสอยู่แล้ว แต่เราขอแนะนำให้เลือกน้ำจิ้มสุกี้แบบธรรมชาติแท้ ๆ ปราศจากการแต่งสี เพราะการแต่งกลิ่นหรือการยืดอายุผลิตภัณฑ์ด้วยการเพิ่มสารกันเสียลงไป สารเหล่านี้อาจจะส่งผลอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาวได้
5. อย่าลืมเช็คส่วนผสมที่แพ้
การดูส่วนผสมเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องตระหนักในการเลือกซื้ออาหารโดยทั่วไป โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป เพราะเราอาจจะมีอาการการแพ้วัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมในนั้นได้ เช่น ถั่ว, แป้งสาลี หรืองาเป็นต้น ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้ที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวคุณเองควรตรวจสอบอ่านฉลากวัตถุดิบก่อนทำการซื้อ เพื่อป้องกันการเกิดอาการแพ้ภายหลังรับประทาน
สำหรับน้ำจิ้มสุกี้ที่ผ่านการเปิดใช้แล้วนั้น คุณควรจะเก็บไว้ในตู้เย็น เพราะน้ำจิ้มหากโดนความร้อนแล้วอาจจะทำให้เสียรสชาติและคุณภาพได้ ซึ่งในบางยี่ห้อนั้นเป็นน้ำจิ้มสุกี้เป็นแบบออร์แกนิกไร้สารกันบูด จึงจำเป็นที่จะต้องใส่ไว้ในตู้เย็นตลอดเวลาเพื่อถนอมวันหมดอายุและควรที่จะตรวจสอบวันหมดอายุทุกครั้งก่อนที่จะทำการซื้อหรือรับประทาน เพราะน้ำจิ้มหมดอายุอาจจะทำให้ท้องเสียหรือท้องร่วงได้ สุดท้ายนี้ก็ขอให้เพื่อน ๆ มีความสุขกับการทานชาบูหมูกระทะนะคะ 🍲🥢