เทศกาลถือศีลกินเจประจำปี 2566 มาแล้วนะคะทุกคน เพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังจะเริ่มต้นทานอาหารเจหรือทานอาหารเจเป็นประจำทุกปีอยู่แล้วก็คงจะรู้สึกตื่นเต้นและเตรียมตัวสำหรับเทศกาลอิ่มบุญในครั้งนี้ แต่สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังสงสัยว่าอาหารเจคืออะไร แล้วทำไมต้องทานอาหารเจเราก็มีคำตอบมาให้ค่ะ
การทานอาหารเจคือการละเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์และไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต รวมไปถึงการทำร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์แจ่มใจ ไม่เบียดเบียนทั้งตัวเองและผู้อื่น นอกจากนี้การทานอาหารเจยังถือว่าเป็นการดีท็อกซ์ร่างกายที่ดีอีกหนึ่งวิธี เพราะเมื่อคุณงดทานเนื้อสัตว์และหันมาทานผักมากขึ้น ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายก็จะทำงานได้ดีขึ้น เปรียบเสมือนเป็นการพักร่างกายหลังจากที่ทำงานหนักมายาวนานนั่นเอง

อย่างที่ได้บอกไปข้างต้นแล้วว่าการทานเจคือการงานทานเนื้อสัตว์ งดทานในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่เนื่อสัตว์ที่เป็นชิ้น แต่ยังรวมไปถึงส่วนอื่น ๆ อย่างเลือด, เครื่องใน, กระดูก และรวมไปถึงเครื่องปรุงต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมของสัตว์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเครื่องปรุงที่เราใช้กันทั่วไปนั้น จะไม่สามารถใช้ปรุงอาหารเจได้ เนื่องจากมักจะมีผงปรุงรสและผงชูรสเป็นส่วนผสมนั่นเองค่ะ
และนี่ก็เป็นเหตุผลที่อาหารเจจะต้องมีเครื่องปรุงเฉพาะสูตรเท่านั้น โดยคุณสามารถสังเกตเครื่องหมายธงสีเหลืองหรือคำว่า “เจ” ได้ค่ะ เพราะนั่นหมายความว่าเครื่องปรุงหรืออาหารเหล่านั้นผ่านกระบวนการผลิตที่ปลอดภัยและถูกต้องตามหลักอาหารเจนั่นเองค่ะ
ส่วนเพื่อน ๆ ที่ต้องการทำอาหารเจรับประทานเองที่บ้านเราก็ได้รวบรวมเครื่องปรุงและวัตถุดิบสำหรับอาหารเจมาให้เรียบร้อยแล้วในบทความนี้ จะมีอะไรบ้างเราไปดูกันเลยดีกว่า
1. ผงปรุงรสเห็ดหอม
ผงปรุงรสและผงชูรสทั่วไปอาจจะมีส่วนผสมจากเนื้อสัตว์ที่เป็นหนึ่งในข้อห้ามของการทานเจ ดังนั้นคนที่ทานเจจะต้องงดเว้นการทานผงปรุงรสเหล่านี้ และทานอาหารที่ปรุงให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่สำหรับคนที่คุ้นเคยกับการปรุงรสอาหารสามารถเปลี่ยนมาใช้ผงปรุงรสเห็ดหอมแทนได้ค่ะ ซึ่งภายในเห็ดหอมแห้งจะมีส่วนประกอบของเกลือกลูตามเมตที่ให้รสชาติอูมามิเหมือนกับผงชูรสแต่ปลอดภัยกว่าและคลีนกว่า ซึ่งผงปรุงรสเห็ดหอมสามารถทำได้ด้วยตัวเองและหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป
2. น้ำตาล
น้ำตาลเป็นเครื่องปรุงสำคัญที่จะต้องมีติดครัวกันทุกบ้านอยู่แล้ว สำหรับอาหารเจน้ำตาลก็เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่จะช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับอาหาร ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลทราย, น้ำตาลมะพร้าว, น้ำตาลโตนดหรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาลก็สามารถใช้ได้หมด เพราะไม่มีส่วนผสมจากสัตว์อยู่แล้วค่ะ ส่วนคนที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหยักหรือทานคีโตควบคู่ไปด้วยก็สามารถเลือกน้ำตาลหญ้าหวาน, หล่อฮั่งก๊วย หรือน้ำตาลอิริทริทอลแทนน้ำตาลทั่วไปได้
![]() | น้ำตาลอิริทริทอล 100% จาก Fiit Plus+ | |
![]() | Mitrphol (มิตรผล) น้ำตาลอ้อยผสมน้ำตาลมะพร้าว | |
![]() | homwan น้ำตาลหญ้าหวาน |
3. เกลือ
เนื่องจากน้ำปลาผลิตมาจากสัตว์ทะเลอย่างปลากะตักหรือปลาชนิดอื่น ๆ ซึ่งไม่สามารถนำมาปรุงอาหารเจได้ เพื่อเป็นการคงความสมดุลให้กับรสชาติอาหารเกลือจึงเป็นเพื่อถูกเลือก เนื่องจากกระบวนการผลิตเกลือนั้นสะอาด บริสุทธิ์ และไม่มีส่วนประกอบของสิ่งมีชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเหลือจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือเกลือสินเธาว์และเกลือสมุทร สำหรับเกลือสินเธาว์จะผลิตจากแหล่งน้ำบนดินที่บริเวณภาคอีสาน ส่วนเกลือสมุรก็จะพบเจอได้ที่จังหวัดสมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, สมุทรปราการ หรือชลบุรีค่ะ ทั้งเกลือสินเธาว์และเกลือสมุทรต่างก็สามารถนำมาประกอบอาหารเจได้เหมือนกัน
4. ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม
สำหรับซีอิ๊วขาวเห็ดหอมจะถูกนำมาใช้แทนซีอิ๊วขาวทั่วไปที่นิยมใช้กัน เนื่องจากซีอิ๊วขาวเห็ดหอมจะใช้เห็ดหอมแทนส่วนประกอบจากสัตว์ทำให้ถูกหลักการทานอาหารเจและเป็นมิตรกับร่างกายได้มากกว่า ในส่วนของรสชาติก็จะไม่แตกต่างกันมากนักแต่จะมีกลิ่นหอมของเห็ดหอมอ่อน ๆ และรสาติไม่เค็มจัดมาก สามารถใช้ได้กับอาหารเจทุกเมนู ซึ่งซีอิ๊วขาวเห็ดหอมจะสามารถหาได้ที่ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ และบริการออนไลน์
![]() | ต้ากี่ ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม ตรา เด็กอ้วน | |
![]() | ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม ตราเด็กสมบูรณ์ | |
![]() | เด็กสมบูรณ์ ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม สูตรลดโซเดียม 40% |
5. ซีอิ๊วดำ
ซีอิ๊วดำเป็นเครื่องปรุงที่ใช้เพื่อเพิ่มสีสันของอาหารเจ ไม่ว่าจะเป็นข้าวผัด, ข้าวอบ, ผัดหมี่ หรือเมนูซุปต่าง ๆ สำหรับวิธีการผลิตซีอิ๊วดำจะเริ่มมาจากการนำเมล็ดถั่วเหลือมาคัดเอาเมล็ดเสียออกแล้วนำไปล้างน้ำหลาย ๆ ครั้ง แช่ถั่วเหลืองค้างคืนแล้วร่อนเอาเปลือกออก จากนั้นจึงเริ่มต้มถั่วเหลืองจนสุกแล้วพักให้เย็นก่อนนำมาผึ่งให้แห้งหมาด ๆ นำแป้งสาลีมาคลุกเคล้าจนทั่วแล้วพักให้แห้งอีกครั้ง จากนั้นละลายน้ำเกลือแล้วนำถั่วเหลืองคลุกแป้งมาหมักตามแดดทิ้งไว้อย่างน้อย 6 เดือนจนตกตะกอนจึงกรองเอาน้ำมาต้มให้สุกเพื่อฆ่าเชื้ออีกครั้ง ซึ่งแต่ละกระบวนการไม่มีส่วนผสมของสัตว์ซีอิ๊วดำจึงสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงอาหารเจได้ค่ะ
6. ซอสเห็ดหอม
มีตำนานกล่าวว่าครั้งหนึ่งเจ้าแม่กวนอิมเคยพาผู้คนอพยพลงเรือออกทะเลและมีอาหารไม่เพียงพอ จึงได้อธิษฐานแล้วจุ่มไม้เท้าลงในทะเล ปรากฏว่ามีหอยนางรมเกาะติดขึ้นมาทำให้ผู้คนบนเรือรอดจากการอดอาหาร หากยึดตามตำนานหอยนางรมก็จัดเป็นหนึ่งในอาหารเจ แต่ถ้าหากยึดตามวัตถุประสงค์ของการทานเจหอยนางรมที่เป็นสัตว์ทะเลก็ถูกจัดเป็นข้อห้ามด้วยเช่นกัน ข้อนี้จึงยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าสรุปแล้วสามารถทานหอยนางรมได้หรือไม่? แต่เพื่อความชัวร์เราแนะนำให้งดการทานสัตว์ทุกชนิดและเปลี่ยนมาใช้ซอสเห็ดหอมแทนซอสหอยนางรมจะดีกว่าค่ะ นอกจากจะสบายใจแล้วรสชาติของซอสทั้ง 2 ชนิดก็ไม่ต่างกันมากด้วย
7. ซอสถั่วเหลือง
ซอสถั่วเหลืองเป็นเครื่องปรุงอีกหนึ่งชนิดที่ได้รับความนิยมไม่แพ้เครื่องปรุงชนิดอื่น ๆ จริง ๆ แล้วซอสถั่วเหลืองเป็นครื่องปรุงที่อาจจะใช้กันเป็นปกติทั่วไปอยู่แล้ว แต่สำหรับอาหารเจแนะนำให้เลือกซื้อขวดที่มีคำว่าเจจะช่วยให้รู้สึกมั่นใจสบายใจมากกว่าค่ะ ซึ่งคุณอาจจะเลือกเป็นสูตรลดโซเดียมก็ได้ โดยวิธีการทำซอสถั่วเหลืองจะเป็นการนำถั่วเหลืองคุณภาพดีมาล้างทำความสะอาด แช่จนนิ่มแล้วนำไปต้มสุก จากนั้นจึงนำมาคลุกเคล้ากับข้าวสาลีและหมักรวมกับเหลือ เมื่อเวลาผ่านไปโปรตีนของข้าวและถั่วเหลืองจะย่อยสลายและเปลี่ยนเป็นน้ำซอสสีน้ำตาลดำ เมื่อนำมากรองและต้มก็จะกลายเป็นซอสถั่วเหลืองอย่างเราคุ้นเคยในทุกวันนี้ค่ะ
8. เต้าเจี้ยว
นึกถึงอาหารจีนก็ต้องนึกถึงเต้าเจี้ยว สำหรับอาหารเจเต้าเจี้ยวก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากเต้าเจี้ยวเป็นส่วนประกอบในหลาย ๆ เมนู ไม่ว่าจะเป็นอาหารผัด, ทอด, นึ่ง หรือซุปต่าง ๆ นอกจากนี้เต้าเจี้ยวยังเป็นเครื่องปรุงที่ไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์เพราะเต้าเจี้ยวทำมาจากถั่งเหลืองที่ผ่านการนึ่งสุกแล้ว นำมาหมักผสมกับเกลือและน้ำตาลจนกลายเป็นเต้าเจี้ยวที่เราใช้กันค่ะ สำหรับเต้าเจี้ยวจะมีรสชาติเค็ม ๆ หวานปลายลิ้น นอกจากนี้ยังมีโปรตีนที่ใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์และมีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย
9. น้ำมันพืช
แน่นอนว่าน้ำมันพืชเป็นเครื่องปรุงที่ขาดไม่ได้อยู่แล้วไม่ว่าจะทานหรือไม่ทานอาหารเจ สำหรับอาหารเจเราขอแนะนำให้เพื่อน ๆ เลือกใช้น้ำมันพืชที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวในการประกอบอาหาร เนื่องจากน้ำมันชนิดนี้จะไม่ไปสะสมในร่างกาย ไม่ก่อให้เกิดโรคอ้วน และลดระดับคอเลสเตอรอลที่อาจก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งกรดไขมันไม่อิ่มตัวจะสามารถพบได้ในน้ำมันมะกอก, น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันรำข้าว, น้ำมันคาโนลา และน้ำมันจากเมล็ดทานตะวันค่ะ ถึงน้ำมันพืชเหล่านี้จะมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวแต่การทานอาหารผัดทอดบ่อยจนเกินไปก็ยังถือว่ามีความเสี่ยงอยู่ดี ทางที่ดีควรเน้นทานอาหารนึ่งหรือต้มมากกว่านะคะ
![]() | King น้ำมันรำข้าวบริสุทธิ์ ตรา คิง ชนิดโอรีซานอล 8,000 ppm | |
![]() | Naturel น้ำมันคาโนล่า 100% ตรา เนเชอเรล | |
![]() | Morakot น้ำมันพืช น้ำมันปาล์ม ตรา มรกต |
10. น้ำมันงา
น้ำมันงาจัดเป็นเครื่องปรุงรสที่มีชื่อเสียงและค่อนข้างจะมีความสำคัญสำหรับอาหารจีน ในส่วนของอาหารเจน้ำมันงาจะถูกใจเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้กับอาหารและใช้แทนเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเมนูผัดต่าง ๆ ที่มีนสชาติค่อนข้างอ่อน เพียงแค่เติมน้ำมันงาลงไปประมาณ 2 – 3 ช้อนชา แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันกลิ่นของอาหารก็จะหอมชวนรับประทานมากขึ้นโดยที่ไม่ทำให้รู้สึกเลี่ยนเหมือนผัดด้วยน้ำมันพืชทั่วไปค่ะ นอกจากนี้น้ำมันงายังมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวทำให้ดีต่อสุขภาพและกระบวนการผลิตยังถูกต้องตามหลักการของอาหารเจ ปลอดภัยไร้การปนเปื้อนของเนื้อสัตว์ ส่วนใหญ่แล้วน้ำมันงาจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ น้ำมันงาบริสุทธิ์และน้ำมันงาผสม เพื่อน ๆ สามารถเลือกซื้อได้ตามต้องการเพราะไม่ผิดหลักอาหารเจค่ะ
11. พริกแกงเจ
ถึงจะเป็นอาหารเจก็ไม่แปลว่าจะต้องทานเฉพาะเมนูผัดทอดเท่านั้น ทานเจก็สามารถทานอาหารรสจัดได้ เพียงแค่เปลี่ยนจากพริกแกงธรรมดามาเป็นพริกแกงเจก็อร่อยกับเมนูแกงต่าง ๆ ได้แล้ว สำหรับพริกแกงเจจะต่างจากพริกแกงทั่วไปตรงที่จะไม่มีส่วนผสมของกระเทียม, กะปิ, น้ำปลา, ผงปรุงรส, ผงชูรส และวัตถุดิบต้องห้ามค่ะ ยิ่งเดี๋ยวนี้พริกแกงเจมีหลากหลายสูตรให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพริกแกงเผ็ด, พริกแกงเหลือง, พริกแกงเขียวหวาน, พริกแกงมัสมั่น, พริกแกงพะแนง, พริกแกงป่า หรือน้ำพริกเผาเจ ช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถทำอาหารได้หลากหลายและทานอาหารเจได้ง่ายขึ้น
12. น้ำจิ้มเจ
ชาบูหรือสุกี้เป็นวิธีการทานอาหารเจแบบง่าย ๆ แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะพลาดเมื่อทานสุกี้เจก็คือน้ำจิ้มค่ะ บางคนอาจจะนึกไม่ถึงว่าภายในขวดน้ำจิ้มสุกี้ทั่วไปมักจะมีส่วนประกอบของผงปรุงรส, ผงชูรส, ซีอิ๊วขาว รวมไปถึงกระเทียมซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นข้อห้าม ดังนั้นเราแนะนำให้เพื่อน ๆ เลือกซื้อน้ำจิ้มแบบเจจะปลอดภัยกว่าและสามารถทานได้แบบสบายใจ และไม่ได้มีเพียงแค่น้ำจิ้มสุกี้เพราะเดี๋ยวนี้น้ำจิ้มลูกชิ้น, น้ำยำ, น้ำจิ้มสเต๊ะ, น้ำซุปชาบู หรือแม้แต่น้ำจิ้มไก่ก็มีสูตรเจให้เลือกเช่นเดียวกันค่ะ
13. เห็ดหอม
เห็ดหอมมักจะเป็นพืชผักชนิดแรก ๆ ที่ถูกเลือกสำหรับอาหารจีน นอกจากกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัวแล้วเห็ดหอมยังมีวิตามินและสารอาหารมากมายที่ดีต่อสุขภาพ รวมไปถึงเกลือกลูตาเมตที่มีส่วนช่วยให้อาหารมีรสชาติอร่อยกลมกล่อม ซึ่งเกลือกลูตาเมตจะสามารถพบได้ในพืชผักหลายชนิดโดยเฉพาะเห็ดหอมแห้งและสาหร่ายแห้งจะถูกพบและเป็นที่นิยมมากที่สุด เมนูที่เหมาะกับเห็ดหอมทั้งสดและแห้งคือผัดผัก, ต้มจับฉ่าย, ซุป และข้าวอบธัญพืชค่ะ
14. เต้าหู้
เนื้อสัตว์เป็นแหล่งโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งโปรตีนเหล่านี้เป็นแหล่งโปรตีนสมบูรณ์ที่มีทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นครบถ้วน แต่สำหรับคนที่ทานเจจะขาดโปรตีนเหล่านี้เนื่องจากต้องงดทานเนื้อสัตว์ ดังนั้นเต้าหู้ที่มีโปรตีนพอ ๆ กับเนื้อสัตว์จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการเพิ่มโปรตีนให้กับร่างกาย เพียงแค่ทานเมนูเต้าหู้วันละ 1 – 2 มื้อ ก็เพียงพอแล้วค่ะ แต่ถึงเต้าหู้จะมีโปรตีนพอ ๆ กับเนื้อสัตว์แต่ในด้านของวิตามินและแร่ธาตุยังถือว่าน้อยกว่า ดังนั้นจึงควรทานอาหารให้หลากหลายรวมถึงผักและผลไม้เพื่อเสริมแร่ธาตุที่ขาดหายไปค่ะ
15. โปรตีนเกษตร
โปรตีนเกษตรคือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาจากแป้งถั่วเหลืองพร่องไขมัน นำมาผ่านกระบวนการขึ้นรูปเป็นรูปร่างต่าง ๆ และอบแห้งก่อนบรรจุลงบรรจุภัณฑ์ และเนื่องจากโปรตีนเกษตรผลิตจากแป้งถั่วเหลืองทำให้มีปริมาณโปรตีนประมาณ 50% เทกซ์เจอร์แห้งแข็งแต่จะพองตัวหลังแช่น้ำร้อนหรือน้ำเย็น บีบน้ำออกจนหมดก็จะสามารถนำมาประกอบอาหารแทนเนื้อสัตว์ได้ค่ะ สำหรับโปรตีนเกษตรเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนที่เบื่อเต้าหู้และคนที่เพิ่มเริ่มทานอาหารเจใหม่ ๆ ที่อาจจะรู้สึกไม่คุ้นเคยที่จะต้องทานเต้าหู้และผักแทบจะทุกมื้อ มีรูปร่างและขนาดให้เลือกหลากหลาย สามารถนำมาประกอบอาหารได้ทุกเมนู
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับวัตถุดิบและเครื่องปรุงอาหารเจที่เรานำมาแนะนำในบทความนี้ หวังว่าสิ่งที่เรานำมาแนะนำจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่เพิ่มต้นทานอาหารเจนะคะ เมื่อก่อนเครื่องปรุงและวัตถุดิบสำหรับอาหารเจจะหาได้ยากหากไม่ใช่ช่วงเทศกาลกินเจ แต่เดี๋ยวนี้เพื่อน ๆ สามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นช่วงเทศกาลหรือช่วงไหนก็มีสินค้าให้เลือกซื้อได้ตลอด เพียงแค่มีโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตก็มีสินค้าดี ๆ มาส่งถึงบ้านโดยที่ไม่ต้องออกไปซื้อเองให้เหนื่อยและเสี่ยงเลยค่ะ เป็นการช็อปแบบใหม่ที่ทั้งสะดวกและสบายสุด ๆ เลยค่ะ สำหรับเทศกาลกินเจปีนี้เราก็ขอให้เพื่อน ๆ สุขกายสุขใจนะคะ