หลังจากที่ผู้เขียนได้ทดลองใช้ “สมาร์ทวอทช์” มามากมายหลายเรือน จนทำให้มีบทความเปรียบเทียบสมาร์ทวอทช์ออกมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทวอทช์ราคาไม่เกิน 5000 บาท หรือ สมาร์ทแบนด์สายรัดข้อมืออัจฉริยะที่ทำหน้าที่เหมือนสมาร์ทวอทช์ทุกประการ นอกจากนี้ก็ยังมีการรีวิวสมาร์ทวอทช์แต่ละแบรนด์แยกออกมาอีกด้วยอย่างเช่น Apple, Garmin, Samsung, Amazfit, Xiaomi, Huawei, Realme, Suunto หรือ OPPO เป็นต้น แม้ว่าปัจจุบันนี้จะมีสมาร์ทวอทช์หลายรุ่นหลายแบรนด์ที่วางขายจนล้นตลาด แต่ตัวผู้เขียนเองก็เลือกใช้จริง ๆ ไม่กี่แบรนด์เท่านั้น ซึ่งก็ต้องบอกก่อนว่าหากเพื่อน ๆ จะคาดหวังให้สมาร์ทวอทช์ราคาประหยัด (งบไม่เกิน 2,000 บาท) ให้มีประสิทธิภาพเทียบเท่าสมาร์ทวอทช์แบรนด์ใหญ่ ๆ ราคาหลายพันนั้นก็ต้องทำใจไว้หน่อย เพราะในแง่ของต้นทุนการผลิตสมาร์ทวอทช์ราคาพันต้น ๆ ไม่สามารถให้ข้อมูลการวัดที่แม่นยำได้
แต่อย่างไรก็ดีบทความในวันนี้เราจะมาเปรียบเทียบ สมาร์ทวอทช์ (Smart Watch) ในงบ 1,000-2,000 พันบาท ให้ทุก ๆ คนได้เห็นถึงความแตกต่างของแต่ละรุ่นว่ามีจุดเด่น-จุดด้อยอะไรบ้าง ที่จะทำให้คุณสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ไปเป็นแนวทางในการเลือกซื้อสมาร์ทวอทช์ที่เหมาะกับคุณ

สมาร์ทวอทช์ งบไม่เกิน 2000 บาท รุ่นไหนเหมาะกับคุณ ?
- แอปพลิเคชันมีความเสถียร-ใช้ง่าย มี GPS ในตัว: นาฬิกาอัจฉริยะ Amazfit Bip 3 Pro
- รองรับการโทรผ่าน Bluetooth: สมาร์ทวอทช์ Mibro Watch T1
- สายรัดข้อมืออัจฉริยะที่เหมาะกับผู้ใช้ในวงกว้าง คุณสมบัติครอบคลุม: นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Mi Smart Band 7
- หน้าจอสวย สีสันสดใส มีหน้าปัดให้เลือกมากกว่า 4,000 รูปแบบ: สมาร์ทแบนด์ HUAWEI Band 7
- รุ่นพื้นฐานสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้สมาร์ทวอทช์: นาฬิกาอัจฉริยะ Amazfit Bip 3
- แอปพลิเคชันใช้งานง่าย หน้าจอสวยคมชัด: สมาร์ทวอทช์ Amazfit Band 7
- สมาร์ทวอทช์ราคาย่อมเยามี GPS ในตัว: สมาร์ทวอทช์ Redmi Watch 2 Lite
สมาร์ทวอทช์ (Smart watch) คืออะไร ?
นาฬิกาข้อมือ นับเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ ของผู้คนทุกยุคทุกสมัยครับ เนื่องจากสิ่งนี้ สามารถเสริมบุคลิกภาพ และช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดูดีให้กับเราได้ง่าย ๆ ครับ ทำให้เรามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ได้มีการนำนาฬิกาข้อมือ มารวมเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัยต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้ชีวิตในโลกยุคดิจิตอล โดยมีจุดประสงค์ให้มันสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างได้เหมือนสมาร์ทโฟน แต่อยู่บนข้อมือของเราจนเกิดขึ้นมาเป็น สมาร์ทวอทช์ (Smart watch) ที่เปลี่ยนจากนาฬิกาข้อมือธรรมดา ๆ ที่ทำได้แค่บอกเวลา ให้กลายเป็น นาฬิกาอัจฉริยะ ที่ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ให้แก่ผู้คนได้มากยิ่งขึ้น
ข้อดีของ สมาร์ทวอทช์ (Smart watch)
โดย สมาร์ทวอทช์ (Smart Watch) ถือเป็นตัวกลางที่ดีครับ ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่าง คุณ กับสมาร์ทโฟน เพราะในหลาย ๆ ครั้งเวลาที่มีสายเรียกเข้า หรือมีการแจ้งเตือนเข้ามาที่มือถือ เรามักจะไม่ได้ยิน เพราะมือถืออยู่ในกระเป๋า หรือถ้าหากได้ยินแล้วหยิบขึ้นมาดู กลับพบว่า มันไม่ได้สำคัญ แน่นอนครับว่า ครั้งต่อไปเราก็ไม่อยากหยิบขึ้นมาดูอีก ซึ่งหลายครั้งปัญหาเหล่านี้ทำให้เราพลาดโอกาสสำคัญ ๆ ไป ดังนั้นมันจะดีกว่ามั๊ย ? ถ้าการแจ้งเตือนทั้งหมดในมือถือ มาแสดงที่ข้อมือของคุณด้วย
นอกจากนี้ สมาร์ทวอทช์ รุ่นใหม่ ๆ ก็ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีกมากครับ โดยเฉพาะด้านการออกกำลังกาย ที่ช่วยเก็บข้อมูลการออกกำลังกายของเรา การติดตามสุขภาพ เพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น หรือการวัดค่าต่าง ๆ ของร่างกาย ที่ถึงแม้ว่าเซ็นเซอร์ที่ใช้จะไม่ได้แม่นยำเท่ากับเครื่องมือทางการแพทย์ แต่มันก็สามารถจะบอกเราทราบ ถึงความผิดปกติคร่าว ๆ ได้ครับ
นาฬิกาอัจฉริยะ Amazfit Bip 3 Pro

ราคา 1,790 บาท*
แอปพลิเคชันมีความเสถียร-ใช้ง่าย มี GPS ในตัว
สำหรับใครที่กำลังช่างใจระหว่าง Amazfit Bip 3 และ Amazfit Bip 3 Pro ไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดี ? เราขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าทั้งคู่แทบจะเหมือนทุกอย่าง!! สิ่งที่ต่างกันมีอยู่เพียงอย่างเดียวคือรุ่น Pro จะมาพร้อมกับระบบ GPS ซึ่งนั่นหมายความว่าในกรณีที่คุณจะออกไปวิ่งหรือปั่นจักรยานข้างนอก คุณไม่จำเป็นต้องพกสมาร์ทโฟนติดตัวไปด้วยก็สามารถระบุเส้นทางของคุณได้จากดาวเทียมเลยค่ะ

ดังนั้นในรุ่น Pro จึงเหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ชอบทำกิจกรรมนอกบ้าน หากคุณเล่นกีฬาเพียงแต่ในฟิตเนสเราแนะนำให้ซื้อแค่รุ่นธรรมดาที่ไม่มี GPS ก็พอ แต่ถ้าคุณอยากได้สมาร์ทวอทช์ที่ครอบคลุมสวยจบครบในเครื่องเดียว เอาแบบที่ซื้อเผื่อการใช้งานในอนาคตได้ด้วย ก็แนะนำเป็นรุ่น Bip 3 Pro เลยจ้าาา

ทั้งนี้หลาย ๆ คนก็อาจมีการเปรียบเทียบระหว่าง Amazfit Bip 3 Pro และ Redmi Watch 2 Lite เนื่องจากทั้งคู่ก็มี GPS มาให้ แถมของ Redmi นั้นก็ค่อนข้างมีราคาที่ถูกกว่าหลายร้อยบาท แต่จากประสบการณ์โดยตรงของผู้เขียน หากคุณไม่อยากรู้สึกอารมณ์เสียกับการใช้งานแอปฯ ที่ไม่เสถียร ขอแนะนำให้ซื้อของที่ Amazfit ดีกว่าค่ะ เพราะแอปฯ Zepp ค่อนข้างใช้งานง่ายและไม่ค่อยเจอบัคด้วยนะคะ

สรุป
- เริ่มวางจำหน่ายเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2022
- หน้าจอขนาดใหญ่
- เป็นสมาร์ทวอทช์ที่ใช้งานง่าย
- ตัวแอปฯ Zepp มีความเสถียรทั้งระบบ iOS และ Android ใช้งานง่ายมาก
- ดีไซน์ Unisex น้ำหนักเบา ใส่สบาย
หากใครสนใจรุ่นนี้คุณสามารถตามไปอ่านละรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 'รีวิว Amazfit Bip 3 Pro' ในลิ้งก์ที่เราใส่ไว้ได้เลย
วีดีโอรีวิว Amazfit Bip 3 Pro ฟังก์ชันครบ พร้อม GPS ในตัว
หน้าจอ | TFT-LCD 1.69 inch |
---|---|
ความจุแบต | 280mAh |
ออกกำลังกาย | 60 โหมด |
GPS | ![]() |
สมาร์ทวอทช์ Mibro Watch T1

ราคา 1,890 บาท*
รองรับการโทรผ่าน Bluetooth
หลังจากที่ Mibro ประสบความสำเร็จจากสมาร์ทวอทช์ Watch X1 ด้วยยอดขายที่ดีที่สุดไปแล้ว ล่าสุดทางแบรนด์ก็ได้ผลิตสมาร์ทวอทช์ซีรีส์ใหม่ออกมาโดยมีชื่อว่า Mibro Watch T1 ซึ่งได้มีการอัปเกรดคุณสมบัติในหลาย ๆ ด้านเลยค่ะ ทั้งจอแสดงผลที่ใหญ่ขึ้น, เพิ่มฟังก์ชันการคุยโทรศัพท์ผ่านบลูทูธ, เพิ่มประสิทธิภาพด้านสุขภาพ & ฟังก์ชันฟิตเนสให้ดียิ่งขึ้น และการตอบสนอง & การประมวลผลข้อมูลที่เร็วขึ้น
แต่จะสามารถกันน้ำได้เพียง 2ATM เท่านั้น ในส่วนของ GPS นั้นค่อนข้างน่าผิดหวังที่ Mibro ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมเพราะยังเป็นสมาร์ทวอทช์ไม่สามารถระบุตำแหน่งได้จะต้องพกโทรศัพท์ติดตัวไปด้วยเสมอหากต้องการวิ่งหรือปั่นจักรยาน ซึ่งในความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนนั้นคิดว่าสมาร์ทวอทช์ในราคานี้ควรจะมี GPS เป็นคุณสมบัติขั้นพื้นฐานได้แล้วค่ะ

สรุป
- เริ่มวางจำหน่ายเมื่อเดือนธันวาคมปี 2022
- โทรออกและรับสายผ่านบลูทูธมีคุณภาพเสียงดี
- มีฟังก์ชันการทำความสะอาดลำโพงจากของเหลว
- รูปทรงบอดี้ที่เบาและบาง มาพร้อมกับดีไซน์ทรงเหลี่ยมที่ดูสะอาดตาและหรูหราธีมสีดำ
- มีอายุแบตเตอรี่ที่น่าประทับใจ
- กันน้ำได้ 2ATM ในขณะที่สมาร์ทวอทช์อื่น ๆ เริ่มต้นที่ 5ATM
- มีปัญหาในการเชื่อมกับ iPhone (ไม่ค่อยเสถียร)
- ด้วยราคานี้แต่ไม่มีชิป GPS ในตัว
- การออกกำลังกาย 20 โหมด จึงไม่ได้ออกแบบมาสำหรับสายกีฬา
หน้าจอ | Amoled 1.6 inch |
---|---|
ความจุแบต | 350mAh |
ออกกำลังกาย | 20 โหมด |
GPS | ![]() |
นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Mi Smart Band 7

ราคา 1,320 บาท*
สายรัดข้อมืออัจฉริยะที่เหมาะกับผู้ใช้ในวงกว้าง คุณสมบัติครอบคลุม
ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นแฟนคลับตัวยงของแบรนด์ Xiaomi ต้องบอกเลยว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Xiaomi ได้สร้างมาตรฐานให้แก่วงการ Smart Band ไว้สูงมาก เริ่มตั้งแต่ Mi Band 3, 4, 5, 6 และล่าสุดในปี 2022 ก็ได้ออกรุ่นใหม่อย่าง Mi Band 7 มาให้เราได้เชยชมกัน แน่นอนว่า Mi Band 7 เป็น Smart Band ที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดในตอนนี้ เพราะว่าในทุกครั้งที่ออกรุ่นใหม่ ๆ มา นอกจากการปรับปรุงและใส่คุณสมบัติใหม่ ๆ มาให้ ทาง Xiaomi ก็ยังสามารถตั้งราคาให้อยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลได้

โดยปกติจากที่เว็บไซต์ของเราได้ทำการทดสอบการวัดมาหลายแบรนด์มากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, คุณภาพการนอน, นับก้าวเดิน ฯลฯ ก็ต้องบอกเลยว่า Smart Band ที่มีราคาหลักพันต้น ๆ ส่วนมากก็จะมีช่วงที่วัดค่าได้เพี้ยนไปบ้าง แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับแบรนด์ใหญ่ ๆ อย่าง HUAWEI, Amazfit หรือ Xiaomi ได้น้อยมากจนนับครั้งได้ ดังนั้นจุดแข็งที่ทำให้ทั้ง 3 แบรนด์ยักใหญ่มียอดขายดีก็คือความน่าเชื่อถือนั้นเองค่ะ
![]() |
![]() |
![]() |
อย่างไรก็ตามหลาย ๆ คนในที่นี้อาจจะตัดสินใจเลือกไม่ได้ระหว่าง HUAWEI Band 7, Amazfit Band 7 และ Xiaomi Band 7 เนื่องจากทั้ง 3 มีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกันมาก แต่เราขอแนะนำว่า หากคุณต้องการหน้าจอขนาดใหญ่ให้เลือก HUAWEI & Amazfit แต่ถ้าคุณต้องการจอใหญ่ด้วย + อายุแบตนานด้วยก็ต้องเลือก Amazfit
ส่วนใครที่อยากได้ Smart Band ขนาดเล็กกะทัดรัด สวมใส่สบายแม้แต่ในเวลาที่นอนหลับ ทั้งยังมาพร้อมกับฟังก์ชันครบครันก็ต้องมาตำ Xiaomi Band 7 เท่านั้นจ้า ผู้เขียนคิดว่า Xiaomi Band 7 เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผู้ใช้ในวงกว้าง ด้วยราคาที่ไม่แพงจนเกินไป แต่ยังใช้งานง่ายและมีคุณสมบัติมากมาย

สรุป
- เริ่มวางจำหน่ายเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2022
- ขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำเบาเบา ดีไซน์สวยเป็นแบบ Unisex
- ตัวแอปฯ มีความเสถียรทั้งระบบ iOS และ Android
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ค่อนข้างสั้น
- ไม่มี GPS
หากใครสนใจรุ่นนี้คุณสามารถตามไปอ่านละรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 'รีวิว Xiaomi Band 7' ในลิ้งก์ที่เราใส่ไว้ได้เลย
วีดีโอรีวิว Xiaomi Band 7 สายรัดข้อมืออัจฉริยะ
หน้าจอ | Amoled 1.62 inches |
---|---|
ความจุแบต | 180mAh |
ออกกำลังกาย | 120 โหมด |
GPS | ![]() |
สมาร์ทแบนด์ HUAWEI Band 7
ราคา 1,299 บาท*
หน้าจอสวย สีสันสดใส มีหน้าปัดให้เลือกมากกว่า 4,000 รูปแบบ
ต้องบอกตามตรงว่าสิ่งแรกที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจใน HUAWEI Band 7 ก็คือตัวเครื่องที่เบามาก ๆ มาพร้อมกับระบบเซ็นเซอร์ที่บางเฉียบ โดยรวมแล้ว Huawei Band 7 เป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ เพราะว่ามีฟังก์ชันหลากหลาย มาพร้อมกับราคาที่สมเหตุสมผล ใช้วัสดุอย่างดี มีความแข็งแรงทนทาน ทั้งยังมีฟีเจอร์ที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน และความสามารถในการติดตามสุขภาพและฟิตเนสที่ดีมาก

อย่างไรก็ตามคู่แข่งที่สูสีเพียงรายเดียวของ Huawei Band 7 ก็คือ Xiaomi Smart Band 7 ซึ่งมีราคาใกล้เคียงกันมาก และยังมีความสามารถพอ ๆ กัน ดังนั้นคุณต้องตัดสินใจเองว่าคุณชอบแบรนด์ไหนมากกว่ากันค่ะ หากคุณชอบหน้าจอใหญ่ ๆ ก็ต้องเป็น Huawei แต่ถ้าชอบหน้าจอขนาดเล็กก็ต้องยกให้ Xiaomi เลยจ้า แต่หากคุณอยากได้ GPS ด้วย แนะนำให้เพิ่มเงินอีกเล็กน้อยแล้วซื้อ Redmi Watch 2 Lite ก็สามารถออกไปวิ่งได้โดยที่ไม่ต้องพกโทรศัพท์ให้หนักเลยค่ะ

สรุป
- เริ่มวางจำหน่ายเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2022
- หน้าจอสู้แสง (หน้าจอยังสว่างมากแม้ในวันที่มีแดดจัด)
- มีหน้าปัดให้เลือกมากกว่า 4,000 รูปแบบ
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ค่อนข้างสั้น
- ไม่มีการสนับสนุนแอพของบุคคลที่สาม
- แสดงการแจ้งเตือนจากทุกแอปได้ แต่คุณจะสามารถตอบกลับได้ในบางแอปเท่านั้น
- ไม่มี GPS ในตัว
หากใครสนใจรุ่นนี้คุณสามารถตามไปอ่านละรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 'รีวิว huawei band 7' ในลิ้งก์ที่เราใส่ไว้ได้เลย
วีดีโอรีวิว Huawei Band 7 ฟังก์ชันครบ ราคาไม่แพง - ทดลองใช้งานจริง
หน้าจอ | Amoled 1.47 inch |
---|---|
ความจุแบต | 180mAh |
ออกกำลังกาย | 96 โหมด |
GPS | ![]() |
นาฬิกาอัจฉริยะ Amazfit Bip 3

ราคา 1,290 บาท*
รุ่นพื้นฐานสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้สมาร์ทวอทช์
สำหรับสมาร์ทวอทช์จากแบรนด์ Amazfit ในซีรีส์ Bip 3 นี้ เป็นนาฬิการุ่นใหม่ที่มีการปรับปรุงหลาย ๆ อย่างจากสมาร์ทวอทช์ซีรีส์ Bip U (ที่เปิดตัวไปในปี 2020) โดยในซีรีส์ Bip 3 จะประกอบไปด้วย Amazfit Bip 3 และ Amazfit Bip 3 Pro ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวระหว่าง 2 รุ่นคือฟังก์ชัน GPS
เพราะในตัวใน Bip 3 Pro มีการรองรับระบบระบุตำแหน่งด้วยดาวเทียมสูงสุด 4 ระบบ เพื่อให้ได้ตำแหน่งที่แม่นยำมากที่สุด ในขณะที่ Bip 3 จะไม่มี GPS มาให้ แต่อย่างไรก็ตามเราจะเห็นว่าทั้งคู่แทบไม่มีอะไรที่ต่างกันเลย ทั้งดีไซน์, ฟีเจอร์การใช้งาน รวมถึงสเปกที่ให้มา ดังนั้นหากคุณไม่มีความจำเป็นต้องใช้ GPS เราคิดว่า Amazfit Bip 3 จะเป็นตัวเลือกที่ช่วยประหยัดงบประมาณได้มากกว่า เพราะคุณสามารถใช้สมาร์ทโฟนในการระบุตำแหน่งแทน GPS ได้เพียงแต่คุณจะต้องเชื่อมต่อสมาร์ทวอทช์กับโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth อยู่ตลอดเวลาเท่านั้นเองค่ะ

สรุป
- เริ่มวางจำหน่ายเมื่อเดือนมิถุนายน 2022
- หน้าจอขนาดใหญ่ ใช้งานง่าย
- สวมใส่สบาย น้ำหนักเบา
- แอปฯ Zepp มีความเสถียรทั้งระบบ iOS และ Android
- ภายในแอปฯ จะแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายพร้อมรายละเอียดด้านสุขภาพต่าง ๆ มากมาย
- เป็นสมาร์ทวอทช์ที่มีสีสันสดใสน่ารักมาในโทนสีพาสเทล โดยมีให้เลือก ม่วง, ชมพู และดำ
- ไม่มี GPS ในตัว
หน้าจอ | TFT-LCD 1.69 inch |
---|---|
ความจุแบต | 280mAh |
ออกกำลังกาย | 60 โหมด |
GPS | ![]() |
สมาร์ทวอทช์ Redmi Watch 2 Lite

ราคา 1,599 บาท*
สมาร์ทวอทช์ราคาย่อมเยามี GPS ในตัว
Redmi เป็นแบรนด์ย่อยของ Xiaomi ทั้งนี้ในรุ่น 2 Lite ถือว่า Redmi ทำออกมาได้ดีหลายด้านเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์ที่สวยงาม, เฉดสีที่ดึงดูดใจ, อายุแบตเตอรี่ และฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ โดยรวมแล้วถือว่าเหมาะสมกับราคาค่ะ ตัวเรือนมาในขนาดกำลังดี คนที่ข้อมือเล็ก ๆ น่าจะถูกใจรุ่นนี้อย่างแน่นอน ในแง่ของคุณสมบัติการใช้งานก็จะเหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันมากกว่า ดังนั้นใครที่มองหา smart watch ราคาเบา ๆ แต่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายหนักมากนัก รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์ค่ะ
อย่างไรก็ตาม...สมาร์ทวอทช์ในราคานี้ย่อมมีข้อดี-ข้อเสียปะปนกันไป หลายต่อหลายท่านใช้แล้วมีปัญหาเครื่องค้าง, เครื่องดับ, เปิดเครื่องไม่ติด, ชาร์จไม่เข้า และการเชื่อมต่อกับมือถือหลุดบ่อย ๆ ซึ่งจะต้องคอย Restart เครื่องอยู่ตลอดเวลา เมื่อเพื่อน ๆ อ่านดูแล้วเหมือนจะเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ไม่ค่อยเสถียรใช่มั้ยคะ ? แต่ปัญหาเหล่านี้มีสาเหตุมาจาก Widget พยากรณ์อากาศค่ะ ดังนั้นวิธีแก้ไม่ให้เกิดอาการเครื่อง Error ก็คือจะต้องปิดการใช้งาน Widget รายงานพยากรณ์สภาพอากาศประจำวัน

สรุป
- เริ่มวางจำหน่ายเมื่อเดือนธันวาคมปี 2021
- ดีไซน์สวย การใช้งานเหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ทั่วไป
- วัสดุที่ใช้ค่อนข้างดี สายซิลิโคนนิ่มมาก
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ 2-3 วัน ไม่ใช่ 24 วัน อย่างที่โฆษณาไว้
- Widget พยากรณ์อากาศมีปัญหาทำให้เครื่องรวนบ่อย ๆ
หน้าจอ | TFT-LCD 1.55 inches |
---|---|
ความจุแบต | 262mAh |
ออกกำลังกาย | 100+ โหมด |
GPS | ![]() |
สมาร์ทวอทช์ Amazfit Band 7

ราคา 1,390 บาท*
แอปพลิเคชันใช้งานง่าย หน้าจอสวยคมชัด
Oh my god!! ถ้าเห็นแค่รูปทรงภายนอกนี่แทบจะแยกไม่ออกระหว่าง HUAWEI Band 7 และ Amazfit Band 7 เพราะเหมือนกันราวกับฝาแฝดเลยเชียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่ขนาดเท่ากันเด๊ะ ๆ ไหนจะเป็นจอ Amoled เหมือนกันอีก เพราะโดยปกติแล้ว Amazfit รุ่นที่เรารีวิวมาทั้ง Bip 3 Pro และ Bip 3 ทางแบรนด์จะใช้เพียงแค่จอ TFT เท่านั้น หากถามว่าต่างกันไหม ? ก็ต้องต่างกันค่ะ! เพราะจอแบบ Amoled ดีกว่าและมีราคาาสูงกว่า แต่หากคุณเป็นคนไม่ซีเรียสเรื่องความละเอียดสีสันต่าง ๆ นานา ก็แทบจะแยกความต่างระหว่างจอทั้ง 2 ประเภทไม่ออกเลยค่ะ (ฮ่า ๆ)

แต่ถ้าคุณสังเกตดี ๆ จะเห็นว่า HUAWEI Band 7 มีปุ่มกดที่ด้านข้างมาให้ด้วย ทำให้เราสามารถใช้งานสมาร์ทวอทช์ได้สะดวกกว่า ในขณะที่ Amazfit Band 7 ไม่มีปุ่มกดใด ๆ เลย แต่แต่แต่!! Amazfit จะดีกว่าหน่อยก็ตรงที่ความจุแบตเตอรี่ที่มากกว่าค่ะ (HUAWEI 180mAh เท่านั้น) ซึ่งนั่นหมายความว่า Amazfit ไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตบ่อย ๆ และจากที่ผู้เขียนได้ทดลองใช้งานจริง ๆ มาทั้ง 2 รุ่นก็รู้สึกชอบ Amazfit มากกว่าค่ะ

ในส่วนของเรื่องการใช้งานที่ตัวสมาร์ทวอทช์ก็ต้องยกให้ HUAWEI ไปเพราะใช้งานง่ายกว่าจริง ๆ แต่หากถามว่าแอปฯ แบรนด์ไหนทำออกมาได้ดีกว่ากัน ? ก็ต้องยกมงให้แบรนด์ Amazfit หรือแอปฯ Zepp ที่ชนะไปด้วยคะแนนเฉียดฉิว

สรุป
- เริ่มวางจำหน่ายเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2022
- หน้าจอขนาดใหญ่ ภาพสวยคมชัด อ่านค่าง่าย
- เป็นสมาร์ทวอทช์ที่ใช้งานง่าย
- ตัวแอปฯ Zepp มีความเสถียรทั้งระบบ iOS และ Android ใช้งานง่ายมาก
- มีอายุแบตเตอรี่ที่น่าประทับใจ
- ไม่มีชิป GPS ในตัว
ดังนั้นหากคุณสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่าน "รีวิว Amazfit Band 7" ได้ตามลิ้งก์ที่ใส่ไว้ได้เลยค่ะ
วีดีโอรีวิว Amazfit Bip Band 7 ฟังก์ชันครบ
หน้าจอ | Amoled 1.47 inch |
---|---|
ความจุแบต | 232mAh |
ออกกำลังกาย | 120 โหมด |
GPS | ![]() |
สมาร์ทวอทช์ Maimo Smart Watch 2.5D

ราคา 1,349 บาท*
Maimo เป็นแบรนด์ที่อยู่ในเครือ Xiaomi อีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม แม้ว่ารุ่นนี้จะวางขายไปนานแล้วตั้งแต่ปี 2021 แต่ด้วยราคา ดีไซน์ และคุณสมบัติขั้นพื้นฐานต่าง ๆ จึงทำให้ Maimo Smart Watch 2.5D ยังคงสามารถขายออกได้เรื่อย ๆ
โดยส่วนตัวแล้วเราค่อนข้างชอบดีไซน์ของทางแบรนด์ที่มีการเล่นขอบสีทอง แต่อย่างไรก็ตามต้องบอกตามตรงว่ารุ่นนี้ไม่เหมาะสำหรับคนที่ใช้ระบบ IOS เนื่องจากการแจ้งเตือนตามแอปต่าง ๆ จะไม่แสดงผลบนตัวสมาร์ทวอทช์ แต่สำหรับสายโทรเข้าและการใช้งานฟังก์ชั่นอื่น ๆ สามารถทำงานได้ปกติทุกอย่าง ในส่วนของระบบ Android นั้นไม่พบปัญหาใด ๆ ขณะใช้งาน เรียกว่าเป็นแบรนด์ที่ออกมาเอาใจสาย Android โดยเฉพาะเลยค่ะ ในส่วนของสายออกกำลังกายนั้นก็อาจจะไม่เหมาะสำหรับรุ่นนี้เพราะว่ามีโหมดกีฬาหลัก ๆ เพียง 13 โหมดเท่านั้น
ดังนั้น Maimo Smart Watch 2.5D จึงสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สมาร์ทวอทช์ขั้นพื้นฐาน ไม่เน้นออกกำลังกาย เน้นใส่สวย ๆ เท่ ๆ ในชีวิตประจำวันมากกว่าค่ะ

สรุป
- เริ่มวางจำหน่ายเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2021
- ดีไซน์สวย หน้าจอขนาดใหญ่
- มีอายุแบตเตอรี่ที่น่าประทับใจ
- มีปัญหาในการเชื่อมกับ iPhone ไม่เหมาะกับระบบ IOS
- ไม่มีชิป GPS ในตัว
- การออกกำลังกาย 32 โหมด จึงไม่ได้ออกแบบมาสำหรับสายกีฬา
หน้าจอ | TFT-LCD 1.69 inches |
---|---|
ความจุแบต | 300mAh |
ออกกำลังกาย | 13 โหมด |
GPS | ![]() |
สมาร์ทวอทช์ Mibro Watch X1

ราคา 1,599 บาท*
Mibro เป็นอีกแบรนด์ที่ทาง Xiaomi มีการเข้าไปร่วมลงทุนด้วย ซึ่งก็ไม่เชิงว่าเป็นแบรนด์ลูกของ Xiaomi หรอกนะคะ แต่ให้เรียกว่าบริษัทพันธมิตรน่าจะใกล้เคียงมากกว่า อย่างไรก็ตามสมาร์ทวอทช์จากแบรนด์ Mibro เองก็ถือว่าเริ่มมีการเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยปัจจุบันนี้ ปี 2023 ก็ได้มีการผลิตวางจำหน่ายไปแล้วถึง 8 รุ่น ซึ่ง Mibro Watch X1 ถือว่าเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของทางแบรนด์เลยค่ะ
โดยรุ่นนี้จะมีธีมหน้าปัดให้เลือกเยอะมากเพื่อน ๆ สามารถเลือกโหลดแบบฟรี ๆ ได้ ในส่วนของตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา หน้าจอขนาดใหญ่ การออกแบบดีไซน์จะเป็น Unisex ที่ใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง วัสดุของตัวเรือนนาฬิกาดีมากไม่แตกต่างกับสมาร์ทวอทช์แบรนด์ดัง ๆ เลยค่ะ
โดยรวมแล้ว Mibro Watch X1 มีฟังก์ชันพื้นฐานทั้งหมดที่สมาร์ทวอทช์ควรมี แต่ราคานี้ไม่รวม GPS มาให้ด้วยนะคะ ด้านการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ของ Android เชื่อมต่อง่ายกว่า iPhone ส่วนความเสถียรของแอปฯ MibroFit ยังไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ค่ะ (ผู้เขียนรู้สึกว่ายังสู้แอปฯ Zepp หรือ Mifit ไม่ได้) สำหรับเซ็นเซอร์การวัดค่าต่าง ๆ นั้นก็ถือว่ามีความแม่นยำในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ เพราะค่าไม่ได้เพี้ยนจนน่าเกลียดค่ะ

สรุป
- เริ่มวางจำหน่ายเมื่อเดือนมีนาคมปี 2022
- หน้าจอขนาดใหญ่ สีสันสดคมชัด ความสว่างของจอทำให้อ่านค่าง่าย
- ดีไซน์ Unisex น้ำหนักเบา ใส่สบาย
- มีอายุแบตเตอรี่ที่น่าประทับใจ
- มีปัญหาในการเชื่อมกับ iPhone เพราะใช้กับระบบ iOS ไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่
- ด้วยราคานี้แต่ไม่มีชิป GPS ในตัว
- การออกกำลังกาย 38 โหมด จึงไม่ได้ออกแบบมาสำหรับสายกีฬา
หน้าจอ | Amoled HD 1.3 inches |
---|---|
ความจุแบต | 350mAh |
ออกกำลังกาย | 38 โหมด |
GPS | ![]() |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
คลิปรีวิว สมาร์ทแบนด์ราคาไม่เกิน 2,000 บาท Xiaomi Smart Band 7 / Huawei Band 7/ Amazfit Band 7 ซื้อรุ่นไหนดี?
คู่มือการซื้อสมาร์ทวอทช์ : ทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ !
อย่างที่คุณทราบครับว่า สมาร์ทวอทช์ มันก็เปรียบเสมือน สมาร์ทโฟนแบบสวมที่ข้อมือ ซึ่ง สมาร์ทวอทช์ ราคาประหยัด มันก็เป็นเหมือนกับ สมาร์ทโฟนราคาประหยัด แน่นอนครับว่า ฟังก์ชันต่าง ๆ ก็ถูกลดลงมาตามราคา ฉะนั้นค่าที่มันวัดได้อาจจะตรงบ้าง มีคลาดเคลื่อนไปบ้าง เป็นธรรมดาครับ ถ้าหากคุณเน้นข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อวิเคราะห์สุขภาพอย่างจริงจัง สมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดอาจจะไม่เหมาะ แต่ถ้าคุณอยากได้สมาร์ทวอทช์ที่สามารถแจ้งทุกอย่างให้คุณทราบ เมื่อมีสายเรียกเข้า มีข้อความ และอื่น ๆ สมาร์ทวอทช์ราคาประหยัด ก็สามารถแจ้งเตือนให้คุณได้ไม่ต่างจากสมาร์ทวอทช์ที่มีราคาสูง ๆ ครับ
1. ความเข้ากันได้ของระบบปฏิบัติการ
ความเข้ากันได้ของอุปกรณ์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ครับ คุณจะต้องหาสมาร์ทวอทช์ที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของคุณได้ โดยไม่ว่าคุณจะใช้มือถือ Android หรือ iPhone ในข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์คุณจะพบว่าระบบปฏิบัตการใดที่สมาร์ทวอทช์รุ่นที่คุณเลือกใช้งานร่วมกันได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วสมาร์ทวอทช์ทุกยี่ห้อจะออกแบบมาให้รองรับทั้ง Android และ iOS เพียงแต่จะมีบางรุ่นที่แอปฯ อาจทำได้ไม่ดีมากพอเมื่อใช้งานกับ iPhone
ตัวอย่างสมาร์ทวอทช์ที่ใช้งานได้ดีในระบบ Android แต่ในระบบ iOS จะไม่ค่อยเสถียร
2. ดีไซน์การออกแบบของสมาร์ทวอทช์
ทุกคนมีสไตล์ และความชอบเป็นของตนเอง ซึ่งแน่นอนครับว่า คุณจะต้องใส่นาฬิกาอัจฉริยะนี้อยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นคุณสามารถเลือกในแบบที่คุณชื่นชอบได้เลยครับ แต่เราอยากให้นึกถึงขนาดของมันด้วย บางคนอาจมีข้อมือ ที่ค่อนข้างเล็ก แต่ดันไปเลือกหน้าปัดเรือนที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ มันก็อาจจะดูไม่เหมาะ และอาจจะทำให้คุณรู้สึกรำคาญได้ ส่วนสายรัดข้อมือเป็นต้องห่วงครับ เพราะสมาร์ทวอทช์เกือบทุกรุ่น สามารถหาซื้อมาเปลี่ยนได้ ซึ่งก็มีหลากหลายวัสดุให้เลือกใช้กัน
ตัวอย่างสมาร์ทวอทช์ที่มีขนาดเล็กพอดี ๆ หน้าจอไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป
ตัวอย่างสมาร์ทวอทช์ที่เน้นหน้าจอใหญ่ ๆ ใช้งานง่าย
![]() | นาฬิกาอัจฉริยะ Amazfit Bip 3 | |
![]() | สมาร์ทวอทช์ Maimo Smart Watch 2.5D | |
![]() | สมาร์ทวอทช์ Redmi Watch 2 Lite | |
![]() | สมาร์ทวอทช์ Mibro Watch X1 | |
![]() | นาฬิกาอัจฉริยะ Amazfit Bip 3 Pro | |
![]() | สมาร์ทวอทช์ Mibro Watch T1 |
3. คุณสมบัติ หรือฟังก์ชัน
จริงอยู่ที่ว่า สมาร์ทวอทช์ราคาประหยัด มีฟังก์ชันด้านสุขภาพที่ไม่ได้มีความแม่นยำอะไรมากมายนัก เนื่องจากใช้เซ็นเซอร์ที่มีคุณภาพลดลงมาเพื่อให้ราคามันต่ำลง แต่มันก็ใช่ว่าจะบอกอะไรคุณไม่ได้ ฟังก์ชันเหล่านี้ที่ผู้ผลิตใส่มาให้ต่างใช้ได้จริง ดังนั้นถ้าหากคุณสนใจฟังก์ชันไหนเป็นพิเศษก็ลองตรวจสอบดูก่อน เพื่อค้นหาว่ารุ่นไหนที่ทำฟังก์ชันนั้นออกมาได้ดีที่สุด ส่วนฟังก์ชันระบบนาฬิกา การควบคุมอุปกรณ์ การปรับแต่งหน้าจอ การเล่นเพลง และรวมไปถึงแจ้งเตือนต่าง ๆ มันเป็นฟังก์ชันพื้นฐาน ทุก ๆ รุ่นสามารถทำได้หมดครับ

ตัวอย่างสมาร์ทวอทช์ที่มี GPS
4. อายุการใช้งานแบตเตอรี่และการชาร์จ
สมาร์ทวอทช์แต่ละรุ่นก็จะมีอายุแบตเตอรี่ที่แตกต่างกัน บางรุ่นมีฟังก์ชันภายในที่ผู้ผลิตได้ใส่มาให้มากมาย มันก็สามารถใช้งานได้เพียง 2-3 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ส่วนรุ่นที่มีฟังก์ชันน้อยหน่อยก็อาจจะใช้งานได้ยาวนานเป็นอาทิตย์ หากคุณกำลังเลือกซื้อสมาร์ทวอทช์อยู่ก็ตรวจสอบแบตเตอรี่ด้วย เพราะแบตเตอรี่ คือ หัวใจสำคัญ ถ้าหากคุณไม่มีการเช็คความจุของแบตเตอรี่ก่อน คุณอาจจะต้องปวดหัวกับการชาร์จแบตฯ บ่อย ๆ ได้ครับ

ตัวอย่างสมาร์ทวอทช์ที่มีความจุแบตมากกว่า 300 mAh ขึ้นไป
เปรียบเทียบ รีวิว สมาร์ทวอทช์ ราคาไม่เกิน 2,000 บาท ปี 2023
![]() นาฬิกาอัจฉริยะ Amazfit Bip 3 | สมาร์ทแบนด์ HUAWEI Band 7 | ![]() นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Mi Smart Band 7 | ![]() สมาร์ทวอทช์ Maimo Smart Watch 2.5D | ![]() สมาร์ทวอทช์ Amazfit Band 7 | ![]() สมาร์ทวอทช์ Redmi Watch 2 Lite | ![]() สมาร์ทวอทช์ Mibro Watch X1 | ![]() นาฬิกาอัจฉริยะ Amazfit Bip 3 Pro | ![]() สมาร์ทวอทช์ Mibro Watch T1 |
฿1290.00* | ฿1299.00* | ฿1320.00* | ฿1349.00* | ฿1390.00* | ฿1599* | ฿1599* | ฿1790.00* | ฿1890.00* |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า