ประวัติของเต้าหู้เริ่มต้นจากประเทศไหน?

ย้อนไปใน มลฆลอานฮุย เมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว วันหนึ่ง เจ้าชายหลิวอัน พระราชนัดดาของกษัตริย์พระองค์แรกในราชวงศ์ฮั่น กำลังดูแลพระมารดาที่กำลังประชวรหนักอยู่ได้ทรงรับสั่งให้พ่อครัวนำถั่วเหลืองมาบดแล้วต้มเป็นน้ำซุปให้พระมารดาเสวยแทนพระกระยาหาร แต่เนื่องจากน้ำซุปถั่วเหลืองที่ได้นั้นมีรสชาติจืดชืดไปหน่อยพระองค์จึงได้เพิ่มเกลือเข้าไปด้วยเพื่อหวังให้ซุปถั่วเหลืองมีรสชาติขึ้นมา ขณะที่กำลังต้มเคี่ยวน้ำซุปอยู่นั้นปรากฏว่าน้ำถั่วเหลืองเริ่มจับตัวเป็นก้อนขาวและแยกชั้นกลายเป็นก้อนและน้ำอย่างเห็นได้ชัด เมื่อลองจับดูก็สัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่ม พระองค์จึงลองนำเจ้าก้อนนี้ไปให้พระมารดาเสวย ด้านพระมารดาที่ประชวรหนักจนแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงก็รู้สึกสดชื่นขึ้นหลังจากได้เสวยเข้าไปและทรงพอพระทัยเป็นอย่างมาก นับจากนั้นท่านก็ทรงเสวยเจ้าก้อนสีขาวนี้ทุกวันจนอาการประชวรหายดีในที่สุด หลังจากนั้นสูตรการทำก้อนขาวหรือ เต้าหู้ ก็เริ่มแพร่หลายออกไปยังมลฆลใกล้เคียง รวมไปถึงประเทศในกลุ่มเอเชียและแพร่หลายไปทั่วทั้งโลกในที่สุด ^(1,2) จากวันนั้นจนถึงวันนี้การทำเต้าหู้ได้ถูกพัฒนาเรื่อยมา โดยเฉพาะบ้านเกิดเต้าหู้อย่างมลฆลอานฮุยเองก็มีเต้าหู้หลากหลายรูปแบบให้คุณได้ลิ้มลอง แต่หลัก ๆ แล้วเต้าหู้ที่เราเห็นกันจะมีอยู่ 2 แบบ ดังนี้ค่ะ 

เต้าหู้แข็ง

เต้าหู้แข็งเป็นการนำน้ำนมถั่วเหลืองมาผสมกับดีเกลือ (แมกนีเซียมซัลเฟต) แล้ววางทิ้งไว้ เมื่อเวลาผ่านไปแมกนีเซียมจะเข้าไปจับตัวกับถั่วเหลืองและตกตะกอน จากนั้นก็จะนำไปกรองด้วยผ้าขาวบางเอาเฉพาะเนื้อเต้าหู้ไว้และขึ้นรูปให้เป็นก้อนเต้าหู้เหมือนที่เราคุ้นเคยกันค่ะ ^(1,2) สำหรับเต้าหู้แข็งก็จะมีหลายสีและหลายรูปแบบเลยค่ะ แบบอิริจินอลจะเป็นสีขาว ส่วนสีเหลืองจะเป็นการนำขมิ้นมาเคลือบผิวเต้าหู้ไว้ให้เป็นสีเหลือง นอกจากความสวยงามแล้วขมิ้นยังช่วยให้ผิวเต้าหู้แข็งและคงรูปได้ดีกว่าเต้าหู้ขาว ส่วนเต้าหู้พวงจะเป็นการนำเต้าหู้มาทอดจนพองแล้วร้อยเป็นพวงสำหรับทานกับก๋วยจั๊บหรือพะโล้ค่ะ และอีกหนึ่งชนิดที่เราจะเห็นได้บ่อยก็คือเต้าหู้ทอดที่มีผิวด้านนอกกรอบ ๆ และด้านในนุ่มนิ่มอันนี้ก็นับเป็นเต้าหู้แข็งเหมือนกันค่ะ

เต้าหู้อ่อน

เต้าหู้อ่อนจะมีวิธีการทำที่แตกต่างจากเต้าหู้แข็งเล็กน้อยค่ะ สำหรับเต้าหู้อ่อนจะเป็นการนำน้ำนมถั่วเหลืองมาผสมกับยิปซัม (แคลเซียมซัลเฟต) เมื่อตกตะกอนแล้วเนื้อเต้าหู้ที่ได้ก็จะมีความเนียนละเอียดมากกว่าการใช้แมกนีเซียมซัลเฟตเพราะเนื้อเต้าหู้อุ้มน้ำไว้มาก หลังจากนั้นจึงนำมากรองแล้วขึ้นรูปให้เป็นก้อนเหมือนกับการทำเต้าหู้แข็งค่ะ ^(1,2) สำหรับเต้าหู้อ่อนก็จะมีหลากหลายชนิด ส่วนเต้าหู้ไข่ที่เรานิยมนำมาใส่ในแกงจืดก็จะมีวิธีการทำเหมือนกันแต่จะเติมไข่ไก่เข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มความนุ่มและกลิ่นหอมของไข่ค่ะ

สูตรเมนูอาหารจากเต้าหู้

แน่นอนว่าเต้าหู้ไม่ได้มีดีแค่สีขาวนวลหรือเนื้อสัมผัสนุ่ม ๆ เท่านั้น แต่เต้าหู้ก้อนเล็ก ๆ ยังอุดมไปด้วยโปรตีนที่สูงกว่าเนื้อสัตว์บางชนิดถึงสองเท่า แถมยังมีไขมันและคอเลสเตอรอลต่ำ แคลเซียมสูง ^(2,3) นอกจากนี้ยังไม่ต้องกังวลในเรื่องของเชื้อโรคหรือแบคทีเรียต่าง ๆ (ยกเว้นเต้าหู้ไม่สะอาด) และเหตุผลเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้น้องเต้าหู้กลายมาเป็นขวัญใจชชุมชนคนรักกล้ามหรือคนรักสุขภาพเพราะเราแทบจะไม่ต้องไปซื้อเนื้อสัตว์ราคาแพงมาทานในเมื่อเรามีเต้าหู้ที่ราคาถูกและได้คุณประโยชน์เทียบเท่า แต่หลายคนอาจจะยังคิดไม่ออกว่าแล้วฉันจะเอาเต้าหู้ไปทำเมนูอะไรได้บ้างล่ะ ตามเรามาเลยค่ะเพราะเราได้รวบรวมเมนูที่ทั้งอร่อยและทำง่ายมาเสิร์ฟเพื่อน ๆ ถึงที่แล้ว ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีเมนูอะไรบ้าง

1. เต้าหู้นึ่งซีอิ๊ว

เปิดเมนูแรกกันแบบเบา ๆ แต่กลิ่นหอมตลบอบอวล เต้าหู้นึ่งซีอิ๊วเป็นเมนูเต้าหู้ที่ทำง่ายและมีรสชาติอร่อย เริ่มจากเลือกใช้เต้าหู้สีขาวสะอาดที่มีความนิ่มกำลังดี ไม่เละหรือแข็งจนเกินไป นำมาราดด้วยซอสที่ผสมผสานทั้งรสหวานและเค็มอ่อน ๆ อร่อยกลมกล่อม เพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงาและสมุนไพรอย่างขิงและคึ่นฉ่าย หลังจากนึ่งจนเต้าหู้สุกดีแล้วเต้าหู้จะนิ่มและมีความเด้ง นุ่ม เข้ากันได้ดีกับน้ำซอสที่ปรุงมาอย่างเข้มข้นแต่จะกลมกล่อมพอดีเมื่อทานพร้อมกับข้าวสวย คนที่ชอบทานผักหรือสมุนไพรต้องชอบเมนูนี้แน่นอนเพราะทั้งกลิ่นน้ำมันงาและกลิ่นขิงจะหอมตลบอบอวลไปทั้งครัวเลยค่ะ

วัตถุดิบเต้าหู้นึ่งซีอิ๊ว

• เต้าหู้อ่อน
• เห็ดหอมสด
• พริกชี้ฟ้า
• ขิงอ่อน
• คึ่นฉ่าย
• น้ำตาล
• แป้งข้าวโพด
• ซีอิ๊วขาว
• ซอสปรุงรส
• ซอสเห็ดหอม
• น้ำมันงา
• น้ำเปล่า

วิธีทำเต้าหู้นึ่งซีอิ๊ว

ขั้นตอนแรกเราจะนำเต้าหู้ออกจากห่อ เทน้ำออกให้หมดแล้วหั่นเป็นชิ้นเตรียมไว้ อยากได้ชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่ก็เลือกได้ตามความชอบเลยนะคะ จากนั้นพักเต้าหู้ไว้ก่อนแล้วหันมาซอยเห็ดหอมเป็นแผ่น จะใช้เห็ดหอมสดหรือเห็ดหอมแห้งก็ได้ค่ะ ตามด้วยซอยขิงอ่อน, พริกชี้ฟ้า และคึ่นฉ่ายเตรียมไว้ เสร็จแล้วมาเตรียมซอสด้วยการผสมซีอิ๊วขาว, ซอสปรุงรส, ซอสเห็ดหอม, น้ำตาล และน้ำเปล่าลงในภาชนะ คนให้น้ำตาลละลายดีแล้วใส่น้ำมันงาเพิ่มกลิ่นหอมลงไปเล็กน้อย หันมาละลายแป้งข้าวโพดเตรียมไว้อีกนิดหน่อยสำหรับทำให้น้ำซอสเหนียวข้นขึ้น

นำซอสที่ผสมไว้ขึ้นตั้งไฟ คนไปเรื่อย ๆ จนซอสเริ่มเดือดแล้วเราจะใส่แป้งข้าวโพดลงไปเลยค่ะ ระหว่างเทแป้งข้าวโพดต้องคอยคนตลอดด้วยนะคะเดี๋ยวแป้งจะจับตัวเป็นก้อน จากนั้นตนจนแป้งสุกและน้ำซอสมีความข้นขึ้นก็เป็นอันใช้ได้ ปิดเตาแล้วยกลงจากกระทะ หันมาเตรียมหม้อนึ่งให้ร้อน ระหว่างรอเราจะนำเต้าหู้มาจัดใส่จาน โรยหน้าด้วยเห็ดหอมและราดด้วยน้ำซอส วางขิงปิดทับลงไปบาง ๆ หม้อนึ่งร้อนได้ที่แล้วก็นำเต้าหู้ลงนึ่งประมาณ 5 – 7 นาทีหรือจนกว่าจะแน่ใจว่าเต้าหู้สุกได้ที่แล้ว จากนั้นเปิดฝา โรยคึ่นฉ่ายและพริกชี้ฟ้าลงไป ปิดฝาอบอีกนิดก็ยกลงมาจัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ

2. เต้าหู้ทรงเครื่อง

ถัดมาเป็นเมนูเต้าหู้เอาใจเด็ก ๆ ถ้าเด็กบ้านไหนทานผักยากลองทำเมนูนี้ดูค่ะ เต้าหู้ทรงเครื่องเป็นการนำเจ้าหู้ไข่มาทอดจนผิวด้านนอกเหลืองกรอบแล้วราดด้วยซอสที่จัดเต็มทั้งผักและหมูสับสีสันสวยงามน่ารับประทาน ไม่ว่าจะเป็นแครอท, เห็ดหอม หรือข้าวโพดอ่อนต่างก็มีสีสดช่วยดึงดูดใจเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี ส่วนรสชาติของน้ำซอสก็จะมีรสหวานนำและกลมกล่อม ราดลงบนเต้าหู้สุดเด้งดึ่งที่กัดผ่านความกรอบด้านนอกเข้าไปแล้วก็จะเจอกับความเนียนและนุ่มของเต้าหู้ ทั้งอร่อยและน่าทานสุด ๆ ไปเลย นอกจากจะเป็นเมนูโปรดของเด็ก ๆ แล้วยังเป็นเมนูที่ดีต่อผู้สูงอายุด้วยนะคะ

วัตถุดิบเต้าหู้ทรงเครื่อง

• เต้าหู้ไข่
• หมูสับ
• เห็ดหอมสด
• ข้าวโพดอ่อน
• ต้นหอม
• กระเทียม
• แครอท
• แป้งข้าวโพด
• น้ำตาล
• ซอสหอยนางรม
• ซีอิ๊วขาว
• น้ำเปล่า
• น้ำมันพืช

วิธีทำเต้าหู้ทรงเครื่อง

มาเตรียมผักก่อนเลยค่ะ เริ่มจากนำแครอทมาล้างทำความสะอาด ปอกเปลือก และหั่นเต๋าเล็ก ๆ ตามด้วยหั่นเห็ดหอม หั่นข้าวโพดอ่อน และบดกระเทียม ส่วนต้นหอมเราจะซอยไว้สำหรับโรยหน้า เตรียมผักเสร็จแล้วก็หยิบเต้าหู้ขึ้นมาหั่นเอาเปลือกออกแล้วหั่นเต้าหู้เป็นชิ้นขนาดตามชอบเลยค่ะ หยิบกระทะขึ้นตั้งเตา เปิดไฟกลางค่อนแรงแล้วรอจนกระทะร้อนจัดค่อยใส่น้ำมัน แต่ถ้าใครใช้กระทะเทฟล่อนก็ใส่น้ำมันลงไปได้เลยไม่ต้องรอกระทะร้อนนะคะ หลังจากน้ำมันร้อนดีแล้วนำเต้าหู้ลงทอด คอยคนเบา ๆ พลและพลิกกลับด้านไปเรื่อย ๆ จนเต้าหูเปลี่ยนเป็นสีเหลืองกรอบก็ตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมันบนกระดาษอเนกประสงค์ได้เลยค่ะ

ใช้กระทะใบเดิม เทน้ำมันออกให้เหลือติดก้นกระทะนิดหน่อย นำขึ้นตั้งไฟกลาง ๆ แล้วนำกระเทียมลงผัดจนหอม ตามแครอท, เห็ดหอม และข้าวโพดอ่อน ผัดไปเรื่อย ๆ จนผักใกล้สุกเราจะใส่เนื้อหมูตามลงไป ผัดต่ออีกนิดจนเนื้อหมูใกล้สุกแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล, ซอสหอยนางรม และซีอิ๊วขาว คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วชิมรสชาติให้หวานนำและมีรสเค็มตามเบา ๆ และปรุงรสให้เข้มเล็กน้อยค่ะ หลังจากได้รสชาติที่ชอบแล้วเราจะละลายแป้งข้าวโพดแล้วใส่ตามลงไป ผัดต่อจนน้ำซอสมีลักษณะข้นขึ้นก็ปิดเตาแล้วนำมาราดลงบนเต้าหู้ที่เตรียมไว้เลยค่ะ โรยหน้าด้วยต้นหอมอีกนิดเต้าหู้ทรงเครื่องก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว

3. เต้าหู้คั่วพริกเกลือ

เปลี่ยนมาทำเมนูแซ่บ ๆ ที่จะทานเป็นกับข้าวก็ได้ ทานเป็นกับแกล้มก็เด็ด สำหรับคนที่ชอบทานสามชั้นคั่วพริกเกลือเราอยากให้ลองเปลี่ยนมาทานเต้าหู้คั่วพริกเกลือดูค่ะ สำหรับเมนูนี้เราจะนำเต้าหู้มาหั่นเป็นชิ้นแล้วทอดจนเหลืองกรอบทั่วทั้งชิ้น จากนั้นนำมาผัดรวมกับพริกและกระเทียมเพิ่มความมเผ็ดร้อน ปรุงรสชาติให้มีรสชาติเค็มเพิ่มเข้ามาอีกหน่อย ตอนผัดนี่บอกเลยว่าทั้งกลิ่นหอมและเสียงจามลอยไปสามบ้านแปดบ้าน แต่ตอนเสร็จแล้วทั้งหน้าตาและสีสันสวยงามน่ารับประทานมาก ๆ เลยค่ะ ส่วนรสชาติด็จะเค็ม ๆ เผ็ด ๆ หน่อย ว่าแล้วก็อยากได้เครื่องดื่มซู่ซ่ามาดื่มให้ชื่นใจสักสองสามแก้ว

วัตถุดิบเต้าหู้คั่วพริกเกลือ

• เต้าหู้เหลือง
• ผักชี
• กระเทียม
• พริกขี้หนู
• พริกไทยป่น
• เกลือป่น
• ซีอิ๊วขาว
• น้ำมันพืช

วิธีทำเต้าหู้คั่วพริกเกลือ

ก่อนอื่นเราจะนำเต้าหู้มาล้างทำความสะอาดเล็กน้อย ซับน้ำให้แห้งแล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดพอดีคำ การซับน้ำจนแห้งจะช่วยให้น้ำมันไม่กระเด็นโดนตัวตอนทอดและเต้าหู้จะสุกกรอบได้ง่ายขึ้น ด้านในจะไม่ชื้นแฉะค่ะ ขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้เต้าหู้กรอบได้นานเลย (หากเพื่อน ๆ ไม่อยากใช้เต้าหู้เหลืองก็สามารถใช้เต้าหูอ่อนธรรมดาแต่ให้ชุบด้วยแป้งทอดกรอบก่อนเหมือนในรูปก็ได้นะคะ) ยิ่งหั่นเต้าหู้เป็นชิ้นเล็กก็จะยิ่งกรอบทั่วทั้งชิ้น พักเต้าหู้ไว้แล้วหันมาสับกระเทียบให้ละเอียด ตามด้วยพริกขี้หนูและผักชี

ตั้งกระทะ เปิดไฟกลางค่อนแรงจนกระทะร้อนดีแล้วใส่น้ำมันลงไปกะให้พอท่วมเต้าหู้ หลังจากน้ำมันร้อนแล้วเราก็ลดไฟลงเป็นไฟกลางแล้วค่อย ๆ นำเต้าหู้ลงทอด พลิกไปพลิกมาจนเต้าหู้เหลืองกรอบทั่วทุกด้านแล้วก็ตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมันก่อนค่ะ เทน้ำมันในกระทะออกให้เหลือน้ำมันติดก้นกระทะนิดหน่อยแล้วนำกลับมาตั้งเตาอีกครั้ง เปิดไฟกลางค่อนอ่อน กระทะเริ่มร้อนแล้วนำกระเทียมลงผัดจนกระเทียมเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง นำเต้าหู้ใส่กลับลงไปแล้วตามด้วยพริกขี้หนูและผักชี คลุกเคล้าให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันแล้วปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและเกลือป่น คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วชิมรสชาติตามชอบ ถ้าได้รสชาติที่ชอบแล้วปิดเตาและตักใส่จานเสิร์ฟได้เลยค่ะ

4. เต้าหู้ผัดขิง

เปลี่ยนมาทำกับข้าวแบบเจทานกันบ้างค่ะ เต้าหู้ผัดขิงเป็นอีกหนึ่งเมนูอร่อยที่ทำได้ไม่ยากและเต็มไปด้วยโปรตีนจากเต้าหู้และสารพัดประโยชน์จากขิง เราจะใช้เต้าหู้แข็งเพื่อป้องกันไม่ให้เต้าหู้เละระหว่างขั้นตอนการปรุงและทำให้เมนูนี้ดูสวยงามชวนรับประทาน ใช้ขิงอ่อนที่มีกลิ่นหอมและไม่มีเสี้ยนแข็งช่วยให้ทานง่าย ไม่มีรสชาติเผ็ดมากนัก นอกจากนี้ยังใส่เห็ดหูหนูดำเพื่อเพิ่มเท็กซ์เจอร์กรุบ ๆ ตอนเคี้ยวอีกด้วยค่ะ ในส่วนของรสชาติบอกเลยว่าอร่อยเกินคาด เมนูนี้จะมีรสชาติหวานนำ ตามด้วยเค้ม และความอร่อยกลมกล่อม

วัตถุดิบเต้าหู้ผัดขิง

• เต้าหู้แข็ง
• เห็ดหูหนูดำ
• ขิงอ่อน
• คึ่นฉ่าย
• น้ำตาล
• ซีอิ๊วขาว
• ซอสเห็ดหอม
• น้ำมันพืช

วิธีทำเต้าหู้ผัดขิง

เราจะเริ่มจากหั่นเต้าหู้เป็นชิ้นตามต้องการก่อนค่ะ ใครชอบชิ้นใหญ่ ใครชอบชิ้นเล็กก็จัดไปตามต้องการได้เลย หลังจากหั่นเต้าหู้เสร็จแล้วใช้กระดาษเอนกประสงค์กดและซับเต้าหู้สักหน่อยเพื่อให้เต้าหู้คายน้ำออกมาให้มากที่สุด ตอนนำไปใช้งานจะได้ไม่แฉะหรือเละจนเกินไป จากนั้นพักเต้าหู้ไว้ก่อนแล้วหันมาหั่นเห็ดหูหนูและคึ่นฉ่ายเตรียมไว้ ส่วนของเราจะนำมาปอกเปลือกและซอยให้เป็นเส้นขนาดพอดี ๆ

หยิบกระทะขึ้นตั้งเตา เปิดไฟกลางแล้วรอจนกระทะร้อนก่อนจะใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย หลังจากน้ำมันร้อนได้ที่แล้วเราจะนำขิงลงไปผัดก่อนค่ะ ผัดจนขิงสุกและส่งกลิ่นหอมดีแล้วใส่เต้าหู้ตามลงไป ผัด ๆ คลุก ๆ จนเต้าหู้เริ่มสุกแล้วเราจะใส่เห็ดหูหนูตามลงไปแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล, ซีอิ๊วขาว และซอสเห็ดหอมเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วชิมรสชาติตามชอบ เมื่อได้รสชาติที่ต้องหารแล้วปิดท้ายด้วยคึ่นฉ่าย คลุกให้คึ่นฉ่ายพอสลบก็ปิดเตาแล้วตักเสิร์ฟได้เลยค่ะ

5.ผัดกะเพราเต้าหู้ไข่

ตามมาติด ๆ กับเมนูสิ้นคิดอย่างผัดกะเพรา ใครที่ทานผัดกะเพราหมู กะเพราทะเลจนเบื่อแล้วลองมาทำกะเพราเต้าหู้ไข่ทานดูค่ะ แต่จะให้มีแต่เต้าหู้อย่างเดียวก็กลัวว่าเพื่อน ๆ จะเบื่อ สูตรนี้เราเลยใส่หมูสับเพิ่มโปรตีนลงไปอีกนิด เราจะเริ่มจากนำเต้าหู้ไปทอดจนได้สีเหลืองสวย จากนั้นนำมาผัดรวมกับเครื่องกะเพราที่ใส่พริกกระเทียมแบบจัดหนักจัดเต็ม รับรองว่าเผ็ดซี๊ดสะใจแน่นอนค่ะ ส่วนรสชาติก็ปรุงให้เข้มข้นทั้งหวาน เค็ม และเผ็ด เข้ากันได้ดีกับข้าวสวยร้อน ๆ และเต้าหู้แบบกรอบนอกนุ่มใน

วัตถุดิบผัดกะเพราเต้าหู้ไข่

• หมูสับ
• เต้าหู้ไข่
• ใบกะเพรา
• กระเทียม
• พริกจินดาแดง
• น้ำตาล
• น้ำปลา
• ซีอิ๊วดำ
• ซอสหอยนางรม
• น้ำมันพืช

วิธีทำผัดกะเพราเต้าหู้ไข่

ขั้นตอนแรกเราจะต้องล้างทำความสะอาดและเด็ดใบกะเพราเตรียมไว้ก่อนค่ะ พักให้สะเด็ดน้ำแล้วหันมาตำพริกและกระเทียมด้วยครกให้แหลกตามชอบ ส่วนเต้าหู้ไข่เราจะหั่นเป็นแว่นหนาตามชอบแล้วนำไปทอดจนเหลืองกรอบ ก่อนทอดจะต้องรอให้กระทะร้อนได้ที่แล้วค่อยใส่น้ำมันลงไปนะคะ วิธีนี้จะช่วยให้อาหารไม่ติดกระทะและเหลืองกรอบน่ารับประทานโดยไม่จำเป็นต้องคลุกแป้งเลยค่ะ

ใช้กระทะใบเดิมเทน้ำมันออกให้เหลือติดก้นกระทะนิดหน่อยแล้วนำขึ้นตั้งไฟหลาง น้ำมันเริ่มร้อนแล้วนำพริกและกระเทียมลงผัดก่อน หลังจากพริกกระเทียมสุกและส่งกลิ่นหอมเราจะนำหมูลงไปผัดต่อเลยค่ะ ผัดไปเรื่อย ๆ จนหมูเริ่มสุกแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล, ซอสหอยนางรม, น้ำปลา และเติมซีอิ๊วดำเล็กน้อยเพื่อแต่งสีให้สวย ผัดต่อจนหมูสุกได้ที่แล้วชิมรสชาติตามชอบ ได้รสชาติที่ต้องการแล้วนำเต้าหู้ทอดและใบกะเพราลงผัด ค่อย ๆ คลุกเบา ๆ ระวังไม่ให้เต้าหู้แตกนะคะ ผัดแค่ใบกะเพราสลบก็ปิดเตาแล้วตักใส่จานได้เลยค่ะ

6. ถั่วงอกผัดเต้าหู้

ผัดกะเพราอาจจะรสจัดไปหน่อยเรามาทำถั่วงอกผัดเต้าหู้ไว้ทานแกล้มลดเผ็ดกันอีกสักหน่อย เมนูนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทำง่ายและมีรสชาติเบา ๆ จะทานกับข้าวสวยหรือทานกับข้าวต้มก็อร่อยเข้ากัน แถมยังมีรสชาติชาติเบา ๆ เน้นรสหวานเค็มอ่อน ๆ และความกลมกล่อมของซอสเหมาะกับคนป่วยหรือผู้สูงอายุ ยิ่งเต้าหู้เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีก็จะยิ่งช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้นไปอีก

วัตถุดิบถั่วงอกผัดเต้าหู้

• หมูสามชั้น
• เต้าหู้แข็ง
• ถั่วงอก
• ต้นหอม
• กระเทียม
• น้ำตาล
• ซอสปรุงรส
• ซอสหอยนางรม
• น้ำมันพืช

วิธีทำถั่วงอกผัดเต้าหู้

วิธีการทำง่ายมาก ๆ เลยค่ะ เราจะนำเต้าหู้มาหั่นให้เป็นชิ้นเต๋าก่อน จากนั้นนำถั่วงอกไปแช่น้ำและเด็ดเอาปลายรากดำ ๆ ออกให้หมดเพื่อความปลอดภัยและความสวยงามค่ะ จากนั้นหั่นต้นหอมเป็นท่อน ๆ และสับกระเทียมไว้สำหรับผัด ส่วนหมูเราจะนำมาหั่นเป็นชิ้นขนาดตามชอบเลย เสร็จแล้วตั้งเตาเปิดไฟกลางแล้วใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย น้ำมันเริ่มร้อนแล้วเราจะนำกระเทียมลงผัดจนสุกหอม จากนั้นใส่หมูตามลงไปแล้วผัดจนหมูเริ่มสุกแล้วใส่เต้าหู้ตามลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาล, ซอสปรุงรส และซอสหอยนางรม ผัดจนเต้าหู้เริ่มสุกแล้วเร่งไฟให้แรงขึ้นอีกนิด นำถั่วงอกลงผัดจนสุกแล้วชิมรสชาติตามชอบ รสชาติโอเคแล้วปิดเตาและตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลยจ้า

7. หม่าโผโตวฟู

หม่าโผโตวฟูหรือผัดเต้าหู้เสฉวนเป็นเมนูรสเผ็ดร้อนส่งตรงจากประเทศจีน ต้นกำเนิดของเมนูนี้มาจากมลฑลเสฉวนที่ขึ้นชื่อเรื่องความเผ็ดร้อน เจ้าของเดียวกับหม่าล่าที่เราชอบทานกันบ่อย ๆ ซึ่งเมนูหม่าโผวโตวฟูเป็นการนำเต้าหู้มาผัดกับซอสที่มีส่วนผสมของโต้วป้านเจี้ยงที่เป็นเต้าเจี้ยวรสเผ็ดร้อนและมีน้ำมันพริกสีแดงจัดจ้านเป็นเอกลักษณ์ เมนูนี้มีสีแดงจัดจ้านและดูสวยงามชวนรับประทาน ในส่วนของรสชาติจะมีความเผ็ดชาจากทั้งโต้วป้านเจี้ยงและพริกฮวาเจียวที่ใส่เพิ่มเข้าไป ซอสมีรสเค็มนำ ตามด้วยหวาน และความเผ็ดร้อนที่ค่อนข้างจัดจ้านแต่จะอ่อนลงเมื่อทานพร้อมกับเต้าหู้นิ่ม ๆ และข้าวสวยร้อน ๆ เป็นเมนูรสเผ็ดที่ช่วยคลายหนาวได้ดีทีเดียวค่ะ

วัตถุดิบหม่าโผโตวฟู

• หมูสับ
• เต้าหู้นิ่ม
• ต้นหอม
• กระเทียม
• ขิง
• แป้งมัน
• พริกฮวาเจียว (มะแขว่น)
• โต้วป้านเจี้ยง (ซอสพริกเสฉวน)
• น้ำตาล
• น้ำมันงา
• น้ำเปล่า
• น้ำมันพืช

วิธีทำหม่าโผโตวฟู

ก่อนอื่นเราจะต้องนำพริกฮวาเจียวมาคั่วไฟอ่อน ๆ แล้วตำให้ละเอียดก่อนค่ะ พริกฮวาเจียวจะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและรสเผ็ดชาลิ้น ถ้าใครทานเผ็ดไม่เก่งจะไม่ใส่ก็ได้นะคะ ได้ผงพริกมาแล้วเราจะมาหั่นเต้าหู้เป็นชิ้นขนาดตามชอบแล้วนำไปลวกน้ำร้อนเพื่อทำให้ผิวเต้าหู้ตึงไม่เละตอนนำไปปรุงอาหาร ตามด้วยสับขิงและกระเทียมให้ละเอียด ส่วนต้นหอมเราจะซอยไว้สำหรับโรยหน้าตกแต่งค่ะ

ตั้งกระทะเปิดไฟกลางค่อนอ่อนแล้วใส่น้ำมันพืชลงไปพอประมาณ รอจนน้ำมันเริ่มร้อนเราจะนำซฮสพริกเสฉวนลงผัดจนส่งกลิ่นหอมก่อนค่ะ ใส่น้ำมันพริกลงไปด้วยนะคะ ระหว่างการผัดซอสจะมีน้ำมันกระเด็นบ้างดังนั้นระวังอย่าให้โดนเสื้อผ้าหรือผิวหนังส่วนบอบบางนะคะเดี๋ยวจะแสบร้อนเอาได้ หลังจากพริกสุกและเริ่มส่งกลิ่นหอมแล้วเราจะนำพริกฮวาเจียวใส่ตามลงไป ต่อด้วยขิงและกระเทียมสับ ผัดส่วนผสมในกระทะให้สุกหอมก่อนแล้วจึงใส่หมูสับตามลงไปแล้วผัดจนหมูสุก

หมูสุกดีแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลเล็กน้อยเพื่อตัดความเค็มของซอสและใส่น้ำมันงาเพิ่มกลิ่นหอม คนจนน้ำตาลละลายแล้วชิมรสชาติตามชอบ ถ้ารสชาติเป็นที่พอใจแล้วเราจะละลายแป้งมันแล้วใส่ลงในกระทะเพื่อเพิ่มความข้นหนืด ใส่แค่นิดหน่อยก็พอนะคะเพราะเราอยากให้หนืดนิดหน่อย ไม่ข้นเหมือนกับราดหน้า ใส่แป้งมันแล้วรีบคนเร็ว ๆ เพื่อให้แป้งไม่จับเป็นก้อนและกระจายตัวไปทั่วทั้งกระทะ หลังจากแป้งสุกใสแล้วนำเต้าหู้ใส่ลงไป คนเบา ๆ ให้เต้าหู้โดนซอสจนทั่วแล้วตุ๋นทิ้งไว้ประมาณ 5 – 7 นาทีเพื่อให้เต้าหู้สุกทั่วทุกชิ้น จากนั้นปิดเตา ตักใส่จานแล้วโรยหน้าด้วยต้นหอมก่อนเสิร์ฟค่ะ

8. ซุปกิมจิเต้าหู้ไข่

เพิ่มความเผ็ดร้อนกันอีกหนึ่งยกด้วยซุปร้อน ๆ เมนูนี้เราจะพาไปทำเมนูซิกเนเจอร์จากร้านทันบัมอย่างซุปเต้าหู้ที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และซุปเต้าหู้หรือซุปกิมจิก็เป็นเมนูยอดฮิตที่คุณสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในประเทศเกาหลีหรือซีรีส์เกาหลีแทบจะทุกเรื่องเลยค่ะ ความโดดเด่นของเมนูนี้ก็คือรสชาติของน้ำซุปที่ทั้งเปรี้ยว หวาน และเผ็ดในคราเดียวกัน ไหนจะกิมจิกรุบกรอบที่ช่วยเพิ่มทั้งรสสัมผัสและรสชาติ มีเต้าหู้เนื้อนุ่มที่ช่วยให้รสชาติของซุปไม่จัดจ้านมากเกินไปนักเมื่อทานพร้อมกัน เรียกว่าเมนูนี้อัดสารอาหารเอาไว้ครบถ้วน ยิ่งทานร้อน ๆ ตอนอากาศหนาวก็ยิ่งฟิน ไม่สงสัยเลยว่าทำไมคนเกาหลีถึงชอบทานเมนูนี้กันนัก

วัตถุดิบซุปกิมจิเต้าหู้ไข่

• หมูสามชั้น
• เต้าหู้ไข่
• กิมจิ
• ต้นหอม
• โคชูจัง
• งาขาวคั่ว
• น้ำมันงา
• น้ำเปล่า

วิธีทำซุปกิมจิเต้าหู้ไข่

วิธีการทำซุปกิมจิง่ายมาก ๆ เลยค่ะ ขั้นตอนแรกเราจะหั่นหมูให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อน จากนั้นหั่นเต้าหู้เป็นแว่นเตรียมไว้ หันมาซอยต้นหอมอีกหน่อยและแยกส่วนโคนสีขาวกับใบสีเขียวออกจากกันค่ะ เสร็จแล้วตั้งหม้อ เปิดไฟกลาง ใส่น้ำน้ำมันงาลงไปนิดหน่อยแล้วนำหมูลงผัดจนสุกหอม ตามด้วยโคนต้นหอม ผัดจนโคนต้นหอมสุกนิ่มแล้วใส่โคชูจังตามลงไป ผัดอีกหน่อยให้หอมแล้วใส่น้ำเปล่าลงไปพอประมาณก่อน ตามด้วยกิมจิ ใส่น้ำกิมจิลงไปด้วยนะคะ นี่แหละตัวเด็ดเลย คนผสมทุกอย่างให้เข้ากันแล้วชิมรสชาติ ถ้ารสชาติถูกปากแล้วรอจนซุปเดือดแล้วใส่เต้าหู้ไข่ตามลงไปได้เลยค่ะ คนเบา ๆ ให้เต้าหู้โดนน้ำซุปจนทั่วถึงกันปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 3 นาทีก็ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยต้นหอมแล้วจัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ

9. นักเก็ตเต้าหู้

มาทำของทานเล่นเอาใจเด็ก ๆ อีกสักหนึ่งเมนู ถ้าบ้านไหนกำลังประสบปัญหาเด็ก ๆ ทานยาก ไม่ยอมกินผักแนะนำให้จัดนักเก็ตเต้าหู้เลยค่ะ นักเก็ตชิ้นพอดีคำกรอบนอกนุ่มในที่กว่าเด็ก ๆ จะรู้ตัวว่าที่ทานเข้าไปเป็นผักล้วน ๆ ก็หมดชิ้นเสียแล้ว สูตรนี้ทำง่ายและดีต่อสุขภาพสุด ๆ เพราะเราจะไม่ใช้ส่วนผสมจากเนื้อสัตว์เลยแม้แต่น้อย พระเอกของเมนูนี้คือเต้าหู้เนื้อเนียนที่ปรุงรสมาเป็นอย่างดี ผสมกับถั่วลันเตา, แครอท และข้าวโพดสีสันสวยงาม หลังจากนำมาทอดจนเหลืองกรอบนักเก็ตของเราจะมีหน้าตาคล้ายกับนักเก็ตทั่วไปจนแทบจะแยกไม่ออก!! เป็นเมนูง่าย ๆ ที่ทานเล่นได้เพลิน ๆ เลยค่ะ จะจิ้มกับซอสมะเขือเทศหรือน้ำจิ้มไก่ก็อร่อยสุด ๆ

วัตถุดิบนักเก็ตเต้าหู้

• เต้าหู้แข็ง
• แครอท
• ถั่วลันเตา
• ข้าวโพด
• มันฝรั่ง
• แป้งสาลี
• เกลือ
• พริกไทยป่น
• ซีอิ๊วขาว
• น้ำมันพืช

วิธีทำนักเก็ตเต้าหู้

ก่อนอื่นเราจะต้องนำแครอท, ถั่วลันเตา, ข้าวโพด และมีนฝรั่งมาต้มให้สุกก่อนค่ะ สำหรับมันฝรั่งและแครอทเราจะปอกเปลือกและหั่นเต๋าเล็ก ๆ ขนาดเท่าถั่วลันเตาและเมล็ดข้าวโพดจะสุกง่ายละมีขนาดใกล้เคียงกัน ส่วนการต้มแนะนำให้ต้มแยกกันนะคะเพราะผักแต่ละชนิดจะใช้เวลาในการสุกไม่เท่ากันจ้า ส่วนมันฝรั่งจะใส่เยอะหน่อยเพราะเราต้องใช้มันฝรั่งเป็นตัวผสานให้เต้าหู้เกาะติดกัน ผักสุกเรียบร้อยแล้วก็ตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำและคายความร้อน ระหว่างนั้นเราจะนำเต้าหู้มาซับน้ำออกให้หมด แนะนำให้เลือกใช้เต้าหู้กระดานที่ไม่แข็งหรือนิ่มจนเกินไปจะช่วยให้นักเก็ตของเราออกมาอร่อยค่ะ

ซับน้ำเต้าหู้จนแห้งแล้วเราจะนำเต้าหู้มาบิในภาชนะ ใช้มือของเราลงไปขยำจนเนื้อเต้าหู้แตกออกจากกันเลยค่ะ ถ้าระหว่างที่ขยำเต้าหู้มีน้ำออกมาเยอะก็เทออกได้นะคะ พยายามทำให้เต้าหู้แห้งนิดนึง หลังจากเต้าหู้เละดีแล้วเราจะปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเพื่อเพิ่มรสชาติและทำให้สีของเต้าหู้ไม่ขาวจนเกินไป คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วนำมันฝรั่งลงมาคลุกเคล้าต่อเลย ขยำไปเรื่อย ๆ จนเต้าหู้และมันฝรั่งเข้ากันดีแล้วใส่แครอท, ถั่วลันเตา และข้าวโพดตามลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วโรยพริกไทยเพิ่มกลิ่นหอมอีกนิด

หลังจากส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้วเราจะนำมาปั้นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดพอดีคำ พยายามอย่าปั้นให้ชิ้นหนามากนะคะเดี๋ยวตอนทอดจะไม่สุก แนะนำให้บีบตรงกลางให้บุ๋มเล็กน้อยจะช่วยได้ค่ะ หลังจากปั้นจนหมดแล้วเราจะนำไปแช่เย็นในช่องแข็งประมาณ 20 -30 นาทีเพื่อทำให้นักเก็ตเซตตัวได้ดี ระหว่างรอเราจะมาเตรียมแป้งด้วยการผสมแป้งสาลี, เกลือ และพริกไทยเข้าด้วยกัน จากนั้นค่อย ๆ เติมน้ำทีละเล็กน้อยแล้วคนจนแป้งมีลักษณะเหลวเล็กน้อย แต่ไม่เหลวจนเป็นน้ำนะคะ ครบเวลาแล้วเราจะนำนักเก็ตออกมาชุบแป้งบาง ๆ แล้วทอดด้วยไฟกลาง ๆ ในกระทะที่มีน้ำมันท่วม ขณะทอดก็คอยใช้ตะหลิวพลิกชิ้นนักเก็ตไปเรื่อย ๆ เพื่อให้โดนความร้อนทั่วถึงกัน หลังจากนักเก็ตเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองทั่วทั้งชิ้นก็ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมันและจัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ

10. ดังโงะ

ปิดท้ายกันด้วยเมนูขนมสไตล์ญี่ปุ่นอย่างดังโงะ เมนูนี้เป็นเมนูขนมโบราณของญี่ปุ่นที่มีอายุกว่าร้อยปีแล้วค่ะ ดังโงะเป็นแป้งก้อนกลม ๆ เหนียว ๆ นำมาเสียบไม้แล้วย่างหรือต้ม ทานคู่กับถั่วแดงกวน, ซอสน้ำตาล, โชยุ หรือจะคลุกกับผงถั่วเหลืองก็หอมอร่อย เมนูนี้คนญี่ปุ่นจะนิยมทานกันในช่วงฤดูใบไม้ผลิพร้อมจิบชาร้อน ๆ ชิล ๆ ระหว่างชมบรรยากาศที่แสนจะอบอุ่น สำหรับเราแล้วขนมดังโงะและชาเขียวเป็นเมนูที่ทานเมื่อไหร่ก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นที่แผ่ซ่านออกมาปกคลุมจิตใจ เพื่อน ๆ สามารถดูวัตถุดิบและวิธีทำดังโงะได้ที่ เมนูอาหารญี่ปุ่น: ดังโงะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ กับ 10 เมนูเต้าที่เรารวบรวมมาแชร์ในบทความนี้ หวังว่าข้อมูลที่เรานำมาแบ่งปันจะเป็นประโยชน์และช่วยเพิ่มความหลากหลายในการทานอาหารให้เพื่อน ๆ ได้บ้างนะคะ เอาจริง ๆ แล้วเมื่อพูดถึงเต้าหู้เมนูแรก ๆ ที่หลายคนนึกออกก็คงจะเป็นเต้าหู้ผัดถั่วงอกหรือเต้าหู้ทอด แต่หลังจากได้อ่านบทความนี้แล้วคิดว่าหลายคนคงจะมีไอเดีย ๆ ที่จะช่วยให้การทานเต้าหู้มีความหลากหลายมากขึ้น นอกจากเต้าหู้แล้วเรายังมีสูตรเมนูอาหารมาแนะนำเพื่อน ๆ อีกมากมายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเมนูจากไข่ขาว, เมนูจากฟักทอง, เมนูจากผัก, เมนูยำ, เมนูจากเนื้อวัว, เมนูจากปลา, เมนูจากหมู, เมนูจากตีนไก่, เมนูเห็ด, เมนูมันฝรั่ง, เมนูอาหารเหนือ, อาหารอีสาน, อาหารใต้, อาหารสำหรับคนเป็นเบาหวาน หรือจะเป็นแซนด์วิช, น้ำสลัด, สปาเก็ตตี้ไปจนถึงเมนูขนมไทยและขนมหวานจากไข่ก็มีค่ะ มาเข้าครัวทำอาหารด้วยกันบ่อย ๆ นะคะ

References :

1. เต้าหู้ – Wikipedia
2. Tofu – Wikipedia
3. Straight Talk About Soy – Harvard