เพื่อน ๆ เคยสงสัยกันไหมคะว่าทำไมหมูถึงเป็นวัตถุดิบหลักบนโต๊ะอาหารทั้ง ๆ ที่บนโลกใบนี้มีสัตว์อีกตั้งเยอะแยะมากมายให้เราเลือกสรร? ถ้าจะให้อธิบายก็คงต้องย้อนเวลากลับไปสมัยโบราณนู่นเลยค่ะ บรรพบุรุษของเราในสมัยนั้นเริ่มมีการเพิ่มจำนวนประชากรกันมากขึ้น จากที่เคยเข้าป่าล่าสัตว์มาทำอาหารก็ต้องเริ่มหันมาปลูกพืชผักทานกันบ้างแล้วเพราะสัตว์ป่าที่หามาได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ เอาง่าย ๆ คือคนเยอะแต่วัตถุดิบมีน้อยนั่นเอง แต่จะให้มาทานผักทานผลไม้กันทุกวันก็เบื่อและได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน บรรพบุรุษของเราเลยต้องหาสัตว์มาเลี้ยงเพิ่มอีกสักหน่อย ว่ากันว่าสัตว์ 3 ชนิดแรกที่ผ่านการคัดเลือกก็คือ วัว แพะ และหมูค่ะ เพราะสัตว์ทั้ง 3 ชนิดนี้เลี้ยงง่าย ตื่นเช้ามาเอาไปปล่อยในทุ่งหญ้าก็หาอาหารทานเองได้สบาย ๆ ได้ต้องเทคแคร์อะไรมากมาย

สำหรับวัวและแพะส่วนใหญ่จะเลี้ยงเพื่อรีดเอานม และนี่ก็คือจุดกำเนิดของนม, ชีส และเนย ส่วนหมูจะแตกต่างออกมานิดหน่อยเพราะบรรพบุรุษของเราเลี้ยงเพื่อทานเนื้อโดยเฉพาะเลยค่ะ เพราะหมูโตเร็ว เลี้ยงง่าย แปป ๆ ก็โต แปป ๆ ก็ตั้งท้อง ออกลูกครั้งละหลายตัว ดังนั้นการเลี้ยงหมูจึงมีแต่คุ้มกับคุ้มเพราะสามารถนำมาทานได้ทุกส่วนตั้งแต่หัวยันหาง

ซึ่งต่อมาการเลี้ยงสัตว์ก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วแทบจะทุกมุมโลกและเริ่มมีการนำเอาสัตว์ชนิดอื่น ๆ มาเลี้ยงมากขึ้น สำหรับเอเชียประเทศแรกที่มีการเลี้ยงหมูอย่างจริงจังและบริโภคเนื้อหมูมากที่สุดก็คือพี่จีนแผ่นดินใหญ่ค่ะ แล้วก็เป็นชาวจีนเหมือนกันที่เข้ามาทำงานในเมืองไทยและหอบเอาหมูมาเลี้ยงทำให้เราได้รู้จักและลิ้มรสวัตถุดิบอันโอชะ และในเมื่อเรามีวัตถุดิบอันทรงคุณค่าวางอยู่ตรงหน้า เราจึงไม่รอช้ารีบนำเนื้อหมูมาปรุงเป็นอาหารเลิศรสต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นต้ม, ผัด, แกง, ทอด หรือย่าง ส่วนที่เหลือก็นำไปตากแห้ง, รมควัน และแปรรูปเป็นแฮม, เบคอน, ไส้กรอก, แหนม หรือหมูยอเพื่อยืดอายุของเนื้อหมูให้เก็บไว้ทานได้นานขึ้น

สูตรเมนูหมูทอด

ในบทความก่อนหน้าเราได้แนะนำเมนูจากส่วนต่าง ๆ ของหมูไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นส่วนกระดูกหมู, หมูสับ, หมูสามชั้น หรือขาหมู แต่วันนี้เราขอเอาใจคนชอบทานหมูทอดเป็นพิเศษเพราะเราได้รวบรวมวิธีการทำหมูทอดสูตรต่าง ๆ มาฝากเพื่อน ๆ ถึง 10 เมนูจุก ๆ อย่ารอช้ารีบเข้าครัวไปหุงข้าวเหนียวและทำน้ำจิ้มแซ่บ ๆ เตรียมไว้ให้พร้อมแล้วเลื่อนลงไปดูเมนูหมูทอดของเรากันเลย

1. หมูสามชั้นทอดน้ำปลา

เริ่มต้นกันที่เมนูง่าย ๆ แต่รสชาติไม่ธรรมดาอย่างหมูสามชั้นทอดน้ำปลา เมนูนี้ขอบอกเลยว่าต้องถูกใจเพื่อน ๆ แน่นอนค่ะเพราะจะทานกับข้าวหรือทานเป็นกับแกล้มก็เหมาะ หมูสามชั้นกรอบนอกนุ่มใน กัดลงไปก็จะเจอกับความจุ๊ยซี่และกลิ่นหอมน้ำปลาอ่อน ๆ เค็มนิด ๆ กำลังดี ควันยังลอยกรุ่น ๆ ได้ข้าวเหนียวร้อน ๆ และน้ำจิ้มแจ่วแซ่บ ๆ ก็ยิ่งเข้ากั๊นเข้ากัน ยิ่งบ้านไหนมีปาร์ตี้นะขอบอกว่าทำเท่าไหร่ก็ไม่พอทาน แหมพูดแล้วน้ำลายสอรีบจดวิธีทำแล้วเข้าครัวทำหมูทอดน้ำปลากันเลยดีกว่า

วัตถุดิบหมูสามชั้นทอดน้ำปลา

• หมูสามชั้น
• พริกไทยป่น
• แป้งทอดกรอบ
• น้ำปลาแท้
• น้ำเปล่า
• น้ำมันพืช

วิธีทำหมูสามชั้นทอดน้ำปลา

ก่อนอื่นเราจะต้องสำรวจหมูสามชั้นของตัวเองก่อนค่ะว่ามีขนาดเล็กใหญ่แค่ไหน ถ้าเพื่อน ๆ ชอบทานหมูทอดแบบกรอบ ๆ ก็สามารถแบ่งครึ่งหมูสามชั้นให้เป็นชิ้นบางลงแล้วหมักด้วยน้ำปลาทิ้งไว้ ส่วนเพื่อน ๆ ที่ชอบทานหมูทอดกรอบนอกนุ่มในเหมือนเราก็แนะนำให้นำหมูไปต้มก่อนค่ะ ในน้ำต้มเราจะใส่น้ำปลาแท้ลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความหอมและต้องการให้กลิ่นน้ำปลาซึมเข้าไปในเนื้อหมู หลังจากหมูสุกได้ที่แล้วนำออกมาพักให้หายร้อนและสะเด็ดน้ำ

ขั้นตอนนี้จะทำเหมือนกันทั้งแบบบางกรอบและหนานุ่ม นั่นก็คือเราจะผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเปล่าเล็กน้อยและโรยพริกไทยเพิ่มความหอมตามลงไปอีกนิด คนผสมให้แป้งละลาย สำหรับแป้งเราจะใช้ในปริมาณที่ไม่มากนะคะ กะให้พอเคลือบชิ้นเนื้อหมูก็โอเคแล้วค่ะ หลังจากละลายแป้งเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นำหมูลงมาคลุกเคล้าให้แป้งเคลือบเนื้อหมูบาง ๆ จนทั่วแล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที

ครบเวลา 30 นาทีแล้วเราจะหยิบกระทะขึ้นตั้งไฟกลางค่อนแรงจนกระทะร้อนจัด จากนั้นใส่น้ำมันพืชลงไปในปริมาณที่เยอะหน่อย ลดไฟลงเป็นไฟกลางแล้วรอจนน้ำมันเริ่มร้อนถึงจะนำหมูลงทอด ใจเย็น ๆ รอไปเรื่อย ๆ จนเสียงน้ำมันจากที่ดังฉ่า ๆ เริ่มเบาลงแล้วค่อย ๆ พลิกเอาอีกด้านลงทอด วิธีนี้เราเห็นได้เลยว่าหมูจะออกมาสุกและมีสีสวยแตกต่างจากการพลิกไปมาบ่อย ๆ เยอะเลยค่ะ หลังจากหมูสุกทั้ง 2 ด้านแล้วนำออกมาซับน้ำมันด้วยกระดาษเอนกประสงค์แล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำก่อนเสิร์ฟ

2. หมูทอดนมสด

ตามมาติด ๆ กับหมูทอดนมสด เมนูยอดฮิตขวัญใจเด็ก ๆ เมนูนี้จะแตกต่างกับหมูทอดน้ำปลาตรงที่เราจะเลือกใช้เนื้อหมูส่วนสันนอก นำหมาหมักกับนมสดและเครื่องปรุงจนความหอม ความมัน และรสชาติถูกดูดซึมเข้าไปในเนื้อหมู จากนั้นนำไปทอดด้วยไฟอ่อน ๆ จนหมูสุกและสีสวยทั่วทั้งชิ้น หมูที่ได้ก็จะมีความนุ่ม เด้ง รสชาติอร่อยกลมกล่อม สำหรับเมนูนี้เหมาะกับข้าวเหนียวร้อน ๆ และน้ำจิ้มแจ่วที่สุดค่ะ ส่วนเด็ก ๆ ก็จัดแค่หมูกับข้าวเหนียวก็อิ่มท้องมีแรงออกไปวิ่งเล่นเหมือนเดิมแล้ว ไปดูวัตถุดิบและวิธีการทำกันเลย

วัตถุดิบหมูทอดนมสด

• หมูสันนอก
• กระเทียม
• พริกไทยขาวเม็ด
• เบกกิ้งโซดา
• น้ำตาล
• เกลือป่น
• นมจืด
• ซอสปรุงรส
• ซีอิ๊วขาว
• ซีอิ๊วดำหวาน
• น้ำมันพืช

วิธีทำหมูทอดนมสด

ก่อนอื่นเราจะล้างทำความสะอาดเนื้อหมูก่อน จากนั้นนำเนื้อหมูมาหั่นเป็นเส้นหน้าประมาณ 1×1 นิ้วเท่า ๆ กัน แนะนำให้ทั่นเป็นชิ้นเท่า ๆ กันนะคะตอนทอดหมูจะได้สุดพร้อมกันและไม่เสียเวลาด้วยค่ะ ได้หมูเส้นมาแล้วเราจะนำมาหมักด้วยนมจืด ใส่นมลงไปประมาณครึ่งหนึ่งของเนื้อหมูตามด้วยเบกกิ้งโซดาอีกเล็กน้อยแล้วใช้มือนวดขยำจนเนื้อหมูดูดซึมนมเข้าไปจนหมด

พักหมูไว้แล้วหันมาโขลกกระเทียมและพริกไทยจนเนียนละเอียด นำมาผสมกับน้ำตาล, เกลือ, ซอสปรุงรส, ซีอิ๊วขาว และซีอิ๊วดำเล็กน้อย คนให้เข้ากันแล้วนำไปหมักรวมกับเนื้อหมู นวดจนหมูดูดซึมเครื่องปรุงจนแห้งแล้วหมักทิ้งไว้ 2 ชั่วโมงหรือหนึ่งคืนเพื่อความเข้มข้น

ครบเวลาแล้วเราจะนำกระทะขึ้นตั้งเตา เปิดไฟกลางแล้วใส่น้ำมันลงไปกะให้พอท่วมเนื้อหมู หลังจากน้ำมันเริ่มร้อนแล้วปรับเตาลงเป็นไฟกลางค่อนอ่อนแล้วค่อย ๆ แบ่งเนื้อหมูลงทอดทีละน้อย ๆ จากนั้นคอยผัด ๆ คน ๆ ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เนื้อหมูโดนความร้อนทั่วถึงกันทุกด้าน ผัดจนหมูสุกและสีเหลืองสวยเลยค่ะ ขั้นตอนนี้อาจจะใช้เวลาประมาณ 10 – 15 นาที ขึ้นอยู่กับความร้อนและจำนวนเนื้อหมูที่ใส่ลงไป หลังจากหมูสุกและสีสวยดีแล้วเราจะปิดเตาแล้วนำหมูมาพักให้สะเด็ดน้ำมันก่อนจะเสิร์ฟ

3. หมูปลาร้า

เพิ่มเลเวลความแซ่บขึ้นมาอีกนิดด้วยหมูปลาร้าหอม ๆ งานนี้บอกเลยว่ากลิ่นยั่วใจไปสามบ้านแปดบ้านตั้งแต่ขั้นตอนการหมักไปจนถึงการทอด ความลับของสูตรนี้ก็คือน้ำปลาร้าหอม ๆ อย่างดีที่นำมาผสมกับเครื่องปรุงและนวดกับหมูจนเข้าเนื้อ ตอนแรกอาจจะกลิ่นปลาร้าแรงสักหน่อยแต่หลังจากนำไปทอดจนสีเหลืองสวยแล้วความหอมและรสชาติชาติจะถูกดูดซึมเข้าไปอยู่ในเนื้อหมู เมื่อกัดลงไปก็จะได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของปลาร้าอบอวลอยู่ในปากพร้อมกับรสชาติเค็มนิดหวานหน่อย เข้ากันได้ดีกับแจ่วบองแซ่บ ๆ รสชาติเข้มข้นถึงใจ ตบท้ายด้วยข้าวเหนียวร้อน ๆ ที่ช่วยลดเผ็ดได้เป็นอย่างดี

วัตถุดิบหมูปลาร้า

• หมูสันนอก
• เบกกิ้งโซดา
• น้ำตาล
• น้ำปลาร้า
• ซีอิ๊วขาว
• ซอสปรุงรส
• ซอสหอยนางรม
• น้ำมันพืช

วิธีทำหมูปลาร้า

ขั้นตอนแรกเหมือนเดิมเลยค่ะ เราจะนำหมูมาล้างทำความสะอาดและหั่นเป็นเส้น ๆ ขนาดตามชอบเตรียมไว้ก่อนค่ะ จากนั้นเราจะหันมาเตรียมน้ำหมักด้วยการผสมเบกกิ้งโซดานิดหน่อย, น้ำตาล, น้ำปลาร้า, ซีอิ๊วขาว, ซอสปรุงรส และซอสหอยนางรมเข้าด้วยกัน คนให้น้ำตาลละลายและส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้วนำหมูที่หั่นไว้ลงมาหมักเลยค่ะ คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงจนน้ำหมักเข้าเนื้อ

ครบเวลาแล้วทำกระทะขึ้นตั้งเตาเลยจ้า เปิดไฟกลาง ๆ แล้วเทน้ำมันลงไปเยอะหน่อยนะคะ รอจนน้ำมันเริ่มร้อนแล้วทะยอยนำหมูลงทอดทีละน้อย ๆ ขณะทอดก็คอยพลิก ๆ คน ๆ ไปเรื่อย ๆ ให้หมูสุกทั่วถึงกันค่ะ ใช้เวลาไม่นานมากหมูก็จะเริ่มสุกเหลืองขึ้นมาแล้วค่ะ ตรงนี้เพื่อน ๆ ชอบหมูสีเข้มขนาดไหนก็ทอดต่อไปตามชอบเลยค่ะ จากนั้นปิดเตาแล้วตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมันแล้วตักเสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวและแจ่วบองแซ่บ ๆ จ้า

4. หมูกรอบ

พูดถึงเมนูหมูทอดเราจะพลาดหมูกรอบไปได้อย่างไร สำกรับหมูกรอบถือว่าเป็นเมนูง่าย ๆ และเป็นเมนูปราบเซียนไปพร้อม ๆ กันเพราะการทำหมูกรอบนั้นดูเหมือนจะง่ายเพราะแค่นำหมูไปทอดให้สุกกรอบก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่การทอดให้หมูออกมาทั้งกรอบและนุ่มชุ่มฉ่ำไปพร้อม ๆ กันนั้นเป็นเรื่องยากมาก ๆ เพราะต้องมีทั้งเทคนิกและวิธีการนิดนึงค่ะ แต่วันนี้ไม่ต้องลองผิดลองถูกเพราะเราได้นำเคล็ดลับการทอดหมูกรอบให้กรอบกรุบมาฝากเพื่อน ๆ แล้วค่ะ ตามไปดูวิธีการกันได้ที่ เมนูหมูสามชั้น: หมูกรอบ แค่นี้ยังไม่พอเพราะเรายังมีเมนูเด็ดจากหมูกรอบมาแบ่งอีกด้วย

5. ซี่โครงหมูทอด

เปลี่ยนมาแทะซี่โครงหมูทอดอร่อย ๆ กันดีกว่าค่ะ เมนูนี้เหมาะที่จะทานเป็นกับแกล้มสุด ๆ ค่ะ หลายคนอาจจะเคยทานที่ร้านอาหารกันบ้างแล้วแต่วันนี้ลองมาทำทานเองที่บ้านดีกว่า เราจะเริ่มจากเลือกซี่โครงหมูชิ้นที่กระดูกเล็ก ๆ และได้เนื้อเยอะ ๆ หน่อย ยิ่งชิ้นไหนมีกระดูกอ่อนติดมาด้วยนี้รีบคว้าให้ไว จากนั้นนำมาหมักให้ความอร่อยมันซึมเข้าเนื้อแล้วนำมาทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟพร้อมกับซอสพริกนี่เข้ากันสุด ๆ ไปเลยค่ะ ซี่โครงหมูจะมีรสเค็มอ่อน ๆ อร่อยกลมกล่อม กัดเข้าไปนี่เนื้อหมูหลุดล่อนจากกระดูกง่ายจนแทบไม่ต้องใช้แรงเลยค่ะ บอกเลยว่าแทะพลินแน่นอน

วัตถุดิบซี่โครงหมู

• ซี่โครงหมู
• รากผักชี
• กระเทียม
• เบกกิ้งโซดา
• พริกไทยป่น
• เกลือ
• น้ำตาล
• ซีอิ๊วขาว
• ซอสปรุงรส
• น้ำมันพืช

วิธีทำซี่โครงหมูทอด

ขั้นตอนแรกเราจะนำซี่โครงหมูมาหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำก่อน จากนั้นล้างและขยำซี่โครงหมูด้วยเกลือเพื่อขัดเอาคราบสกปรกและกลิ่นคาวหมูออกไป เสร็จแล้วนำหมูมาหมักด้วยเบกกิ้งโซดาเล็กน้อย คลุกเคล้าให้ทั่วแล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีก่อนนำมาล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้งค่ะ พักหมูให้สะเด็ดน้ำแล้วหันมาโขลกกระเทียมและรากผักชีให้แหลกละเอียด นำมาผสมกับพริกไทย, เกลือ, น้ำตาล, ซีอิ๊วขาว และซอสปรุงรส นำหมูมาคลุกเคล้าและหมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีค่ะ

ครบเวลาแล้วนำกระทะขึ้นตั้งเตาเลยจ้า เปิดไฟกลางแล้วใส่น้ำมันลงไปเยอะ ๆ หน่อย รอจนน้ำมันร้อนแล้วนำซี่โครงหมูลงทอด คอยพลิกไปพลิกมาเรื่อย ๆ จนซี่โครงหมูสีเข้มและสุกกรอบตามชอบ ตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมันแล้วตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มตามชอบได้เลยจ้า

6. หมูเปรี้ยวหวาน

เปลี่ยนมาทำกับข้าวสไตล์จีนกันบ้าง หมูเปรี้ยวหวานเป็นเมนูที่ส่งตรงมาจากมลฑลเจ้อเจียง ซึ่งความโดดเด่นของมลฑลนี้ก็คือรสชาติของอาหารที่เน้นรสเปรี้ยวหวาน ทานแล้วรู้สึกสดชื่น ซึ่งเมนูหมูเปรี้ยวหวานก็คือหนึ่งในนั้นค่ะ สำหรับเมนูนี้จะเป็นการนำหมูชุบแป้งทอดกรอบ ๆ มาคลุกเคล้ากับซอสรสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ เสิร์ฟตอนที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ ๆ แป้งด้านนอกจะยังคงกรอบ กัดเข้าไปจะได้รสเปรี้ยวหวานของน้ำซอสก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นก็จะได้สัมผัสนุ่ม ๆ และรสชาติหอมอร่อยของเนื้อหมูที่ถูกซ่อนเอาไว้ด้านในค่ะ เมนูนี้ทานกับข้าวหรือจะทานเล่น ๆ ก็อร่อย แต่ขอย้ำว่าต้องทานตอนร้อน ๆ แป้งกรอบ ๆ นะคะเพราะถ้าทิ้งไว้จนเย็นชืดจะเสียรสชาติได้ค่ะ

วัตถุดิบหมูเปรี้ยวหวาน

• หมูสันนอก
• ไข่ไก่
• กระเทียม
• แป้งสาลี
• แป้งข้าวโพด
• งาขาวคั่ว
• พริกไทยป่น
• น้ำตาล
• เกลือ
• ซอสมะเขือเทศ
• ซีอิ๊วขาว
• น้ำส้มสายชู
• น้ำเปล่า
• น้ำมันพืช

วิธีทำหมูเปรี้ยวหวาน

เราจะเริ่มจากล้างทำความสะอาดหมูก่อนค่ะ จากนั้นใช้สันมีดตีหมูให้ทั่วเพื่อช่วยให้เนื้อหมูอ่อนนุ่มลงแล้วหั่นเป็นเส้นหรือหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เสร็จแล้วนำมาหมักด้วยไข่ไก่, เกลือ, พริกไทยป่น และซีอิ๊วขาว คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ ครบเวลาแล้วเราจะนำแป้งสาลีและแป้งข้าวโพดมาผสมกันแล้วนำหมูลงคลุกแป้งแห้ง ๆ เคาะเอาแป้งส่วนเกินออกแล้วนำหมูลงมอดในน้ำมันร้อน ๆ ทอดไฟกลางไปเรื่อย ๆ จนหมูเริ่มสุกเหลือง จากนั้นตักหมูขึ้นมาพักให้หายร้อนแล้วนำลงทอดใหม่ด้วยไฟแรง วิธีนี้จะช่วยให้หมูกรอบได้นานขึ้นค่ะ

ได้หมูกรอบ ๆ มาแล้วเราจะมาทำซอสเปรี้ยวหวานกันต่อ เริ่มจากผสมซอสมะเขือเทศ, น้ำตาล, เกลือ, ซีอิ๊วขาว และน้ำส้มสายชูเข้าด้วยกัน เติมน้ำเปล่าลงไปเพื่อช่วยไม่ให้ซอสเหนียวข้น พักซอสไว้แล้วหันมาสับกระเทียมให้ละเอียด ใช้กระทะใบเดิมเพิ่มเติมคือเทน้ำมันออกให้เหลือพอเคลือบกระทะแล้วนำขึ้นตั้งไฟกลาง ๆ กระทะและน้ำมันเริ่มร้อนแล้วนำกระเทียมสับลงไปผัดจนหอม ตามด้วยซอสเปรี้ยวหวานที่เตียมไว้ เคี่ยวจนน้ำตาลละลายดีและซอสข้นขึ้น

คราวนี้เราจะละลายแป้งข้าวโพดด้วยน้ำเปล่าแล้วใส่ลงในกระทะเลยค่ะ รีบคนซอสด้วยความเร็วสูงจนแป้งข้าวโพดสุกและซอสเริ่มหนืดขึ้นมา ตอนนี้ให้เพื่อน ๆ ชิมรสชาติเปรี้ยวหวานตามชอบ ถ้าโอเคแล้วนำหมูทอดลงคลุกเคล้ากับซอสให้ทั่วแล้วตักเสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมโรยงาอีกหน่อยเพิ่มกลิ่นหอมและความสวยงาม

7. หมูทงคัตสึ

ถัดมาเป็นหมูทอดยอดฮิตจากแดนอาทิตย์อุทัย หมูทงคัตสึเป็นที่นิยมมาก ๆ ในญี่ปุ่นเพราะนอกจากความอร่อยแล้วยังสามารถนำไปทานกับอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทานกับแกงกะหรี่, ราดซอสเทริยากิ, ทอปบนราเมน หรือนำมาทานคู่กับข้าวเปล่า ๆ ก็อร่อย ซึ่งความโดดเด่นของหมูทงคัตสึก็คือจะเป็นหมูทอดชิ้นบาง ๆ ใหญ่ ๆ ที่คลุกเคล้ากับไข่ไก่, แป้ง และเกล็ดขนมปัง จากนั้นนำไปทอดจนเหลืองกรอบทั่วทั้งแผ่น เมื่อกัดลงไปก็จะเจอกับความกรอบของเกล็ดขนมปังและตามมาด้วยเนื้อหมูนุ่ม ๆ และรสชาติหวานธรรมชาติของเนื้อหมู เพื่อน ๆ สามารถกดดูวิธีการทำหมูทงคัตสึได้ที่ เมนูอาหารญี่ปุ่น: ทงคัตสึดงบุริ ได้เลยจ้า รับรองว่าจะต้องถูกใจแน่นอนเลย

8. หมูแดดเดียว

นำหมูมาหั่นแล้วผึ่งแดดเก็บไว้ทานกันบ้าง หมูแดดเดียวเป็นเมนูหมูที่เราอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ลองทำ ยิ่งช่วงไหนเนื้อหมูมีราคาถูกนี่ต้องรีบไปซื้อมากักตุนไว้อย่างว่องไว ส่วนวัตถุดิบและวิธีการทำหมูแดดเดียวมีน้อยและไม่ยากเลยค่ะ หลังจากหมักหมูและนำไปผึ่งแดดจนผิวแห้งได้ที่แล้วเราจะนำมาทอดจนหมูเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน ๆ ผิวด้านนอกจะกรอบนิด ๆ แต่กัดลงไปจะเจอกับความนุ่มและกลิ่นหอมจากกระเทียมพริกไทยที่นำมาหมักไว้ในขั้นตอนแรก เป็นเมนูง่าย ๆ ที่ทำเก็บไว้ได้ค่อนข้างนาน วันไหนเบื่อ ๆ แค่นำหมูออกมาทอดแล้วทานพร้อมข้าวเหนียวร้อน ๆ ก็อิ่มอร่อยแล้ว

วัตถุดิบหมูแดดเดียว

• สะโพกหมู
• งาขาว
• ผงกระเทียม
• พริกไทยป่น
• เกลือ
• น้ำตาล
• ซอสปรุงรส
• น้ำมันพืช

วิธีทำหมูแดดเดียว

ก่อนอื่นล้างเนื้อหมูให้สะอาดก่อนค่ะ จากนั้นนำหมูมาหั่นตามเส้นลายเนื้อ วิธีนี้จะช่วยให้เนื้อหมูเป็นชิ้นสวยและไม่เหนียว เสร็จแล้วพักเนื้อหมูไว้ก่อนเพราะเราจะมาทำเครรื่องปรุงสำหรับหมักหมูกัน เริ่มจากผสมผงกระเทียม, พริกไทยป่น, เกลือ, ซอสปรุงรส และน้ำตาลนิดหน่อยแล้วคนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย

จากนั้นนำหมูมาคลุกเคล้า นวดจนหมูดูดเครื่องปรุงเข้าไปจนหมดแล้วใส่น้ำมันพืชและงาขาวตามลงไปอีกหน่อย คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้งแล้วนำหมูมาเรียงใส่ถาด นำไปตากแดดจัด ๆ ประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วพลิกกลับอีกด้าน ตากต่ออีก 1 ชั่วโมง ผิวด้านนอกของเนื้อหมูจะแห้งตึงแต่ด้านในยังคงนุ่มอยู่ จากนั้นนำมาเก็บใส่ภาชนะไว้แล้วแบ่งส่วนหนึ่งมาทอดด้วยไฟกลาง ๆ คนไปเรื่อย ๆ จนหมูสุกได้ที่แล้วตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมันก่อนจัดเสิร์ฟกับข้าวเหนียวร้อน ๆ ค่ะ

9. หมูสวรรค์

ตามมาติด ๆ กับเมนูที่ทานแล้วอร่อยเหมือนขึ้นสวรรค์ เมนูหมูสวรรค์เป็นอีกหนึ่งวิธีถนอมอาหารที่จะช่วยให้เราสามารถเก็บเนื้อหมูไว้ทานได้นานขึ้นค่ะ จริง ๆ แล้วหมูสวรรค์สามารถนำวัตถุดิบอื่น ๆ มาทำได้ด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัวหรือปลาก็ทำได้และอร่อยไม่แพ้กันเลยค่ะ ส่วนวิธีการทำก็จะคล้าย ๆ กับหมูแดดเดียวแต่เราจะหั่นเนื้อหมูให้บางและเป็นแผ่นใหญ่หน่อย นำมาหมักด้วยเครื่องปรุงรสให้ความอร่อยซึมเข้าเนื้อแล้วนำไปผึ่งแดดจนเนื้อหมูแห้งขึ้น จากนั้นนำหมูมาทอดจนสุกและส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วทั้งครัว ในส่วนของรสชาติก็จะเน้นหวานนำและมีรสเค็มนิด ๆ เอกลักษณ์ของเมนูนี้คือหอมกลิ่นเมล็ดผักชีและยี่หร่า ส่วนเนื้อหมูจะนุ่ม ไม่เหนียวและไม่แข็งเลยค่ะ

วัตถุดิบหมูสวรรค์

• เนื้อสะโพกหมู
• เมล็ดผักชีคั่วบุบหยาบ
• เมล็ดยี่หร่าคั่วบุบหยาบ
• เกลือ
• น้ำตาล
• ซีอิ๊วขาว
• ซอสปรุงรส
• น้ำปลา
• น้ำมันพืช

วิธีทำหมูสวรรค์

เราจะเริ่มจากนำเนื้อสะโพกหมูมาล้างทำความสะอาดแล้วหั่นตามเส้นลายเนื้อหมูก่อนค่ะ หั่นเป็นแผ่นบาง ๆ หน่อยนะคะ จากนั้นพักหมูไว้แล้วมาทำน้ำหมักกันต่อ เราจะนำน้ำตาล, ซีอิ๊วขาว, ซอสปรุงรส และเกลือมาผสมกัน ใส่น้ำเปล่าเพิ่มลงไปนิดหน่อยแล้วนำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ เคี่ยวจนน้ำตาลละลายดีและน้ำหมักเดือดได้ที่ เพิ่มรสชาติด้วยน้ำปลาประมาณ 1 ช้อน คนให้เข้ากันแล้วนำลงมาพักให้เย็นสนิทเลยค่ะ

น้ำหมักเย็นสนิทดีแล้วเราจะนำมาผสมกับเนื้อหมูที่หั่นไว้และนวดเบา ๆ จนน้ำหมักดูดซึมเข้าเนื้อหมูจนหมด คราวนี้เราจะนำเมล็ดผักชีและเมล็ดยี่หร่าลงผสมแล้วคุกเคล้าให้กระจายทั่วเลยค่ะ หมักหมูทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมงหรือหนึ่งคืนเพื่อให้รสชาติซึมเข้าเนื้อได้ดีขึ้น จากนั้นนำมาผึ่งแดดจัด ๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง อย่าลืมหาผ้าขาวบางมาคลุมเนื้อหมูกันฝุ่นและแมลงด้วยนะคะ ครบ 1 ชั่วโมงแล้วพลิกกลับเอาอีกด้านขึ้นมาผึ่งแดดต่ออีก 1 ชั่วโมง ผิวของหมูก็จะแห้งตึงขึ้นค่ะ

ครบเวลาแล้วเก็บเนื้อหมูใส่ภาชะแล้วนำส่วนหนึ่งมาทอด โดยเคล็ดลับการทอดหมูสวรรค์ให้อร่อยคือการใส่เนื้อหมูลงไปก่อนเปิดเตาหรือตอนที่น้ำมันเริ่มอุ่น จากนั้นทิ้งไว้จนน้ำมันเริ่มร้อนเราจะค่อย ๆ ใช้ตะหลิวแซะไม่ให้เนื้อหมูติดก้นกระทะ ทอดไฟกลางค่อนอ่อนไปเรื่อย ๆ จนหมูมีสีเข้มขึ้นและสุกเลยค่ะ น้ำมันต้องท่วมหมูและไม่ควรคนเนื้อหมูบ่อยเกินไปนะคะเดี๋ยวเครื่องเทศจะหลุดหมด หลังจากหมูสุกดีแล้วตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมันและจัดเสิร์ฟได้เลยจ้า

10. หมูฝอย

ปิดท้ายกันด้วยเมนูแปรรูปอย่างหมูฝอยค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ ชื่นชอบการทานหมูฝอยหอม ๆ กับข้าวเหนียวร้อน ๆ ในตอนเช้าจะต้องถูกใจสูตรที่เรานำมาฝากแน่นอนเพราะสูตรนี้ทำง่ายและใช้เวลาไม่นานด้วยค่ะ เราจะเลือกใช้เนื้อหมูส่วนที่ติดมันน้อยที่สุดอย่างสันในหรือส่วนหัวไหล่ นำมาต้มและฉีกให้เป็นเส้นฝอยเล็ก ๆ คลุกเคล้ากับเครื่องปรุงรสก่อนจะนำไปทอดจนสุกกรอบได้ที่ ในส่วนของรสชาตินั้นขอบอกว่าถูกใจมากเพราะหมูทั้งหอมและมีรสหวานนำเค็มตาม เนื้อหมูกรอบกรุบและหอมกลิ่นหอมแดงเจียว เข้ากันได้ดีกับข้าวเหนียวใหม่ร้อน ๆ

วัตถุดิบหมูฝอย

• หมูส่วนไหล่
• หอมแดง
• เกลือ
• น้ำตาล
• น้ำปลา
• น้ำเปล่า
• น้ำมันพืช

วิธีทำหมูฝอย

เทน้ำเปล่าใส่หม้อ ตามด้วยเกลือเล็กน้อยแล้วนำขึ้นตั้งไฟจนเดือดจัด จากนั้นนำเนื้อหมูที่ล้างทำความสะอาดแล้วลงต้มจนสุกได้ที่ ระหว่างต้มคอยช้อนฟองออกด้วยนะคะ หลังจากหมูสุกได้ที่แล้วเราจะตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำและทิ้งไว้ให้หมูคายความร้อนออกให้หมดก่อน ระหว่างรอก็หันมาปอกเปลือก, ล้างทำความสะอาด และซอยหอมแดงบาง ๆ เตรียมไว้สำหรับทอด หมูหายร้อนแล้วฉีกแบ่งเนื้อหมูออกเป็นเส้นเล็ก ๆ หากเนื้อหมูเป็นก้อนแข็งเกินไปสามารถใช้สากทุบให้เนื้อแตกได้นะคะช่วยให้เราเห็นลายหมูชัดเจนขึ้นค่ะ หลังจากฉีกเนื้อหมูเสร็จเรียบร้อยแล้วเราจะหันมาผสมน้ำตาล, น้ำปลา และเกลือป่นเล็กน้อยลงในภาชนะ คนผสมให้น้ำตาลและน้ำปลาเข้ากันดีแล้วนำหมูเส้นลงคลุกเคล้าให้ทั่ว

หยิบกระทะขึ้นมาตั้งบนเตา เปิดไฟกลางแล้วใส่น้ำมันลงไปเยอะ ๆ หลังจากน้ำมันเริ่มร้อนเราจะนำหอมแดงลงเจียวจนเริ่มเปลี่ยนสี คราวนี้เราจะค่อย ๆ นำหมูเส้นโรยลงในกระทะแล้วคอยคนตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาลไหม้ติดก้นกระทะค่ะ หลังจากคนไปสักพักเพื่อน ๆ จะเห็นว่าหมูเริ่มสุกและมีสีเข้มขึ้น เราจะทอดต่อไปเรื่อย ๆ จนหมูมีสีเข้มตามต้องการได้เลย แต่ระวังไม่ให้เป็นสีน้ำตาลเข้มเกินไปนะคะเดี๋ยวจะไหม้ซะก่อน หมูสีสวยได้ที่แล้วเราจะตักหมูขึ้นมาพักบนถาดที่รองด้วยกระดาษซับน้ำมันแล้วกระจายเนื้อหมูเพื่อไล่ความร้อน หลังจากความร้อนระเหยออกไปจนหมดเนื้อหมูก็จะกรอบขึ้นค่ะ สามารถนำใส่ภาชะเก็บไว้ทานได้เลย

โห เอาจริง ๆ แล้วเมนูจากหมูทอดนี่มีเยอะกว่าที่เราคิดอีกนะคะเนี่ย เมื่อก่อนถ้าจะพูดถึงหมูทอดแล้วหลายคนอาจจะนึกถึงเมนูยอดฮิตอย่างหมูทอดน้ำปลาหรือหมูแดดเดียว แต่ตอนนี้เราคิดว่าหลายคนคงจะมีตัวเลือกในการทำหมูทอดเพิ่มมากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ แต่เมนูที่เรานำมาแนะนำนี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะคะเพราะเมนูหมูทอดยังมีอีกเยอะแยะมากมาย ถ้าจะให้เขียนครบหมดทุกสูตรคงจะต้องใช้เวลาหลายวันเลยค่ะ ดังนั้นเลือกมาแค่ 10 เมนูง่าย ๆ ก่อนเนอะ

นอกจากเมนูหมู ๆ แล้วเรายังมีบทความแนะนำเมนูอาหารอีกมากมายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเมนูจากผัก, เมนูจากไก่, เมนูจากอาหารทะเล, เมนูจากเห็ด, เมนูจากขนมปังแผ่น, เมนูจากวุ้นเส้น หรือถ้าเพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหาเครื่องครัวใหม่ ๆ ก็สามารถกดเข้าไปดูคำแนะนำและข้อมูลดี ๆ ได้เลยจ้า

ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนที่ไม่สะดวกในการทำอาหารทานเองเราก็มีบทความรีวิวอาหารจากร้านสะดวกซื้ออีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นข้าวกล่อง, อาหารคลีน, อาหารทานเล่น, อาหารเช้า, อาหารคีโต, อาหารช่วยขับถ่าย หรือคอลลาเจนก็มีน้าา Best Review Asia รู้ใจคุณเสมอนะจ๊ะ 💛